ผู้เขียน หัวข้อ: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ  (อ่าน 22904 ครั้ง)

ออฟไลน์ Piengdeph

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 17:52:20 »
ขอปรึกษาพี่ทุกคนชาว HLM หน่อยค่ะ

คืออยากจะปรึกษาเรื่องหลาน (สาว) เรื่องแนวทางการเรียนต่อ มหาลัย

เพราะดิฉันคงจะเป็นผู้แนะนำที่ดีแก่หลานไม่ได้ เพราะว่าดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลยค่ะ

รู้ว่าคำแนะนำนั้นมันอาจเหมาะบ้างไม่เหมาะบ้าง ตายตัวและไม่ตายก็ตามแต่ แต่ก็แนะนำมาได้เลยค่ะ

เดี๋ยวจะให้หลานมาอ่านเอาแล้วก็พูดคุยกันว่าจะเอายังไงดี

เพราะว่าทางบ้านหลานไม่มีใครสามารถให้คำปรึกษาได้เลยค่ะ



ตอนนี้หลานดิฉันกำลังจะจบ ปวช. การท่องเที่ยวซึ่งเทียบเท่า ม.6 (ถูกแม่เลี้ยงบังคับให้เรียนเพราะค่าเทอมถูก)

แต่เพิ่งรู้ใจตัวเองว่าชอบด้านรถยนต์ก็ตอนปี1 (เทียบเท่า ม.4)

อยากจะเรียนต่อทางด้านนี้ แต่ยังไม่โฟกัสว่าชอบด้านไหนของรถ เพราะชอบด้านเครื่องยนต์ก็ชอบ

ชอบด้านเส้นสายตัวรถก็ชอบ ตอนนี้หลานยังลังเลใจอยู่


ถามหลานว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไร ?

หลานตอบว่า อยากทำเกี่ยวกับพวกรถ super cars อยากจะปรับอยากจะแต่งให้มันแรงอยากทำให้มันสวยใครๆก็มอง

หรือไม่ก็เก็บตังเปิดร้านแต่งรถเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็ทำชุดแต่งขายเหมือน chev cruze  :o (แต่ไม่รุ้จะมีทุนหรือไม่)


เข้าเรื่องปัญหาที่อยากจะถามค่ะ

-หลานไม่รุ้ว่าจะต้องเรียนต่ออะไร ถ้าเข้าพวกคณะยากๆหลานคงเรียนไม่ไหว หลานอ่อนเรื่องคำนวณ

(หลานดิฉันได้ไปถามคนนอกหลายๆคนที่รุ้จัก บางคนบอกว่าเรียนอะไรง่ายๆไปก็ได้ แล้วค่อยกลับมาทำสิ่งที่ตัวเองรัก เพราเรียนยากๆไปเดี๋ยวจะไม่จบเอา

บางคนก็บอกว่า เรียนคณะนู้น คณะนี้ไปเลย เดี๋ยวก็เก่งเอง ..................ดิฉันกลัวหลาน หลงแรงโม้ของคนที่ปรึกษามา เลยมาปรึกษาพี่ๆที่นี้อีก1แห่ง)

-หลานไม่รุ้ step of her life จบแล้วทำอะไร ธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นลูกจ้างเขาดี (เช่น 3ปีทำแบบนี้5ปีทำแบบนัั้นต่อ)

ไม่มีใครให้คำปรึกษาเรื่องนี้และไม่มีใครคอยสนับสนุน หลานบอกว่าไม่อยากล้มเหลว และอยากประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้น

(แต่ดูจากนิสัย เขาชอบอยู่คนเดียวแต่ไม่ถึงกับขั้นเก็บตัว แต่ไม่รุ้ว่าจะเหมาะกับธุรกิจส่วนตัวหรือเปล่า ถามเขาว่าความฝันสูงสุดคืออะไร หลานตอบ Slk สักคัน กับบ้านเล็กๆอยู่คนเดียวสักหลัง)



เอ่อ ขอถามแค่นี้ก่อนค่ะ

เพราะจำที่คุยกับหลานมาได้เท่านี้

อาจจะมาเพิ่มเติมได้ค่ะ

ดิฉันไม่มีความรู้ที่แม่นยำพอเกี่ยวกับพวกนี้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ  ;)


ปล.สำหรับผู้ที่ให้คำแนะนำมา รบกวนบอกชื่อสถานศึกษานั้นๆที่ท่านแนะนำ มาด้วยค่ะเผื่อเป็นทางเลือกของที่เรียน

หรือรายละเอียดของสาขาที่ท่านแนะนำมาด้วยค่ะ อาจจะรบกวนมากไปหน่อย แต่ก็ถือซะว่าช่วยเด็กแล้วกันนะคะ  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 11, 2012, 19:20:12 โดย Piengdeph »

ออฟไลน์ imneng

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 214
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 18:07:51 »
งานประเภทพวกแต่งรถที่คุณน้าว่ามา บางครั้งมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์จริงนะคะ แล้วก็ connection รวมถึงเงินทุนด้วยค่ะ ถ้าบอกว่าต้นทุนในการเรียนเป็นปัญหา กิจการพวกนี้ก็ใช้ทุนสูงอยู่นะคะ

แต่ถ้าสนใจจริง ๆ แนะนำว่าให้ไปฝึกงานกับร้านเลยดีกว่ามั้ยคะ แบบว่าพาตัวเองเข้าวงการนี้ไปเลยดีกว่า แล้วก็อาศัยประสบการณ์เอาค่ะ

โดยส่วนตัวแล้ว สมัย ม.ปลาย ก็อยากเรียนอะไรหลายอย่าง แต่ว่าไม่เหมาะกับเรา เพราะไม่เก่งคำนวณ ตัวเองก็จะมีทางเลือกที่ 2 ให้กับตัวเองเสมอค่ะ อย่าไปยึดติดกับทางเลือกแรกเสมอไป เพราะหลาย ๆ ครั้ง ทางเลือกที่ 2 มักจะเหมาะกับเราและไปได้สวยกว่าค่ะ

เลือกที่เหมาะกับเรา+สนใจ ทุกอย่างจะลงตัวเองตามธรรมชาติค่ะ แต่ขอว่าต้องตั้งใจและมุ่งมั่นอดทนอย่างจริงจังค่ะ
Merc Addicted

ออฟไลน์ Action

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,667
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 18:15:49 »
ในเมื่อมีทุนด้านการท่องเที่ยวมาอยู่แล้ว จะมาหักมุมเป็นด้านรถยนต์มันก็ต้องตั้งต้นใหม่หมดเลยนะครับ

เอางี้ เรื่องพวกนี้ผมเคยให้คำปรึกษากับหลานสาวมาแล้วเหมือนกันเรื่องแนวทางการศึกษาต่อ

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจในด้านที่หลานคุณชอบก่อนคือ ยานยนต์ แล้วมันมีสาขาอะไรให้เรียนบ้างล่ะ

1. วิศวกรรมยานยนต์ < อันนี้ถ้าไม่เทพจริง ไม่เก่งจริง เงินไม่ถึงจริง ไม่ต้องหวัง
2. ช่างยนต์ < อันนี้ต้องใจรักและหมั่นศึกษาจริง ๆ เพราะไม่ได้ไม่ตีความว่า จบไปเป็นแค่ช่างกระจอก ๆ เปิดอู่ไปวัน ๆ ถ้าเก่งจริงไม่ต้องห่วงเลย มีแมวมองมาจับตัวแน่นอน จะไปประจำในบริษัทไหนว่ากันอีกที

ปัญหาที่ผมพบเจอมากับตัว และคนใกล้ตัว ก่อนอื่นต้องย้อนไปสมัย ม.ปลาย เมื่อก่อนถูกปลูกฝังมาตลอดว่าต้องจบวิศวะ เพราะพ่อผมก็วิศวโยธา

แต่ผมก็หักมุมไปเรียนรัฐศาสตร์ตามเพื่อน ถามว่าเรียนแล้วทุกวันนี้ได้ใช้ไหม ไม่เลย แล้วเรียนมาทำไม ? ทุกวันนี้ยังถามตนเองอยู่ ทั้ง ๆ ที่ชอบด้านคอมพิวเตอร์มาก ผมเลยตัดสินใจกับชีวิตครั้งใหญ่อีกครั้ง ไปเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในระดับปริญญาตรีมาอีกหนึ่งใบ เรียนด้วยใจรักจริง ใช้เวลา 3 ปีครึ่งจบ หลังจากนั้นก็หาเรื่องต่อโททันที สาขาเดิม ทุกวันนี้ก็ทำงานตรงสาขาวิชาที่เรียนมา...

ที่ผมบอกมานี่คือ เด็กช่วงที่จบ ม.ปลาย ถ้า...เด็กไม่มีธงหรือเป้าหมายในการที่จะเรียนต่อแบบชัดเจนแล้ว มันเสียเวลามากครับ เผลอ ๆ ไปเรียนได้แค่ปีเดียวก็ย้ายสาขา หรือลาออก หรือบางคนหนักหน่อยเรียนได้ 2 ปีเจอรีไทล์ เรื่องพวกนี้มีทุกสถาบัน ฉะนั้น เราต้องนั่งคุยกับเด็กให้มาก ๆ ครับ

ถ้าจะเรียนต่อสายอาชีพเดิม ที่มีเป็นต้นทุนอยู่แล้ว มันจะดีตรงที่เด็กไม่ต้องไปเริ่มนับ 0 ใหม่ ยังพอมีความรู้ที่แคะเอาออกมาใช้ได้บ้าง แต่ต้องทำใจนะครับ เรียนการท่องเที่ยวในระดับมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องค่อยข้างเยอะ ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเรียนแล้วครับ อีกอย่างน่ะ ต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่เรียนจบแล้วได้ใบนำเที่ยว หรือ ไกต์การ์ด อะไรประมาณนี้แหละ ผมก็เรียกไม่ถูก ประเด็นนี้ต้องกลับไปดูอีกทีครับ

แต่ถ้า... จะย้ายสายการเรียนไปด้านที่ตนเองชอบ ตรงนี้ถามว่าเด็กจะเรียนอะไรเกี่ยวกับด้านยานยนต์ ก็ต้องดูอีกน่ะแหละ
 - ถ้าไปวิศวฯ เก่งคำนวณไหม ฟิกสิกส์ได้ไหม คณิตได้ไหม เทพพอไม ความจำดีไหม ไม่ใช่เบลอ ๆ ไปเรียน
 - ถ้าไปช่างยนต์ ทนความลำบากได้ไหม ใจรักจริงป่าว ไม่ใช่เรียนไปได้สักพักถอดใจ ลาออก แบบนี้จะเรียนไปทำไม

หรือ จะไปเรียนคณะยอดฮิตอย่างบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ คนเรียนเยอะ เรียนง่าย จบมาวิจัยฝุ่น

สิ่งเหล่านี้ที่จริงแล้วน่ะ มันต้องเริ่มวางแผนตั้งแต่จบ ม.3 ด้วยซ้ำไป เพราะเราจะได้รู้ต่อไปว่า จะให้ลูกเดินไปทางไหน เดินอย่างไร ไม่ใช่พอเวลาจะหมดอยู่แล้วต้องมานั่งตัดสินใจ ผมบอกหลาน ๆ ญาติ ๆ เสมอ เรียนมหาวิทยาลัยอะไรก็ได้ในระดับปริญญาตรี เรียนไปเถอะ ขอให้จบในสาขาที่ตนชอบและได้ใบปริญญาไว้ก่อน หลังจากนั้น เราค่อยไปต่อโท ในมหาวิทยาลัยที่ดีมีชื่อ

ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงน่ะครับ พอดีผมก็คุยกับหลาน ๆ มาตลอดเรื่องการวางแผนชีวิต เพราะไม่อยากให้เรียนจบมาแล้วเสียเวลาแบบผม ที่ต้องมานั่งเรียน ป.ตรี 2 ใบ ไม่รู้จะเรียนเพื่ออะไรเหมือนกัน สมัยนั้นไหลตามกระแสมากไปหน่อย เสียโอกาสไปเต็ม ๆ 4 ปี :-[
ถึงรถผมจะไม่แรง แต่ก็ยังแซงทุกคันไม่เว้น...
Honda Civic 3dr. '96
Chrysler Neo '98
BMW 320i '01
Honda Civic FD 2.0 '06 > Sold
Mazda BT-50 Pro '12

ออฟไลน์ Action

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,667
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 18:18:45 »
อ่อ อีกอย่าง บางครั้งไม่จำเป็นต้องไปเรียนด้านยานยนต์ก็ได้ แค่ใจรักและหมั่นศึกษา แค่นี้ก็เอาแล้วล่ะครับ

อย่างผม จบรัฐศาสตร์(ตรี) และวิทยาการคอมพิวเตอร์(ตรี+โท) ทุกวันนี้ทำงานตรงสายจริง แต่ก็ยังศึกษาด้านการเกษตรด้วยตนเอง ไม่เห็นต้องไปเรียนเพิ่มเอาใบปริญญาเลย ศึกษาเพิ่มเติมเป็นแบบงานอดิเรกก็ได้ครับ ;D
ถึงรถผมจะไม่แรง แต่ก็ยังแซงทุกคันไม่เว้น...
Honda Civic 3dr. '96
Chrysler Neo '98
BMW 320i '01
Honda Civic FD 2.0 '06 > Sold
Mazda BT-50 Pro '12

ออฟไลน์ night77

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 18:38:26 »
http://www.technologyyanyont.com/

ลองดูที่นี่มั้ยครับ วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์
รายละเอียดน่าสนใจดี

ปล. เอาใจช่วยให้น้องได้ทำตามฝันของตัวเองนะครับ  ;)
2010 - Honda City SV
2015 - Subaru XV STi
2015 - Ford Focus 2.0GDi
2016 - Mercedes Benz CLA200 Urban
2016 - Ford Focus 1.5 EcoBoost
2017 - Volvo S60 T5 Polestar Performance
2017 - Subaru WRX Lineartronic CVT
2018 - Mercedes Benz C220d AMG Dynamic
2020 - BMW 220i Gran Coupe M Sport

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 19:07:30 »
คำถามโลกแตกครับ อิอิ

แต่จากประสบการณ์ที่ผมไปอบรมหลักสูตร NEC ของกระทรวงอุตสาหกรรมมา ผมแนะนำแบบนี้ครับ

ถ้าจะไปสายนั้นจริงๆ ผมแนะนำให้ไปเรียนสายบริหารครับ เพราะมีโอกาสได้ Connection มากกว่า พวกของแต่งครูซใช้ทุนไม่มากหรอกครับ ถ้าเป็นแบบทำโมล  ของอื่นๆ นำเข้าจากจีนก็ได้

ส่วนเรื่องปรับแต่งเครื่องยนต์ ไม่ต้องไปเรียนหรอกครับ ไปเป็นลูกจ้างร้านเขาสักระยะ หรือศึกษาเอง เป็นไวกว่าครับ ของแบบนี้ไม่ได้จากห้องเรียนอยู่แล้วครับ
ความรู้หลายๆอย่าง เราหาเองข้างนอกได้ครับ แต่พวก Connection กับคนอื่น หรือความรู้การจัดการ การตลาด แนวโน้มตลาด คงต้องเรียนในห้อง (เพราะถูกที่สุด)

ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องคะแนนสอบเท่าไรด้วยครับ และยิ่งไม่จำเป็นต้องสอบติดมหาลัยดังๆ ด้วย น่าจะทำให้ไม่ต้องเครียดมากครับ

ป.ล. เรื่องคำนวณ ถ้าอ่อนจริงๆ หาติวเตอร์สอน ตัวต่อตัว ก็ช่วยได้นะครับ  แต่อาจจะช้าหน่อย  ผมก็สอนเด็กคนหนึ่งอยู่ ตั้งแต่เขา ม.2  เกรดเลข ได้1  จน จบ ม.ได้ 3 มา เพราะเขาอ่อนมาก และมีปัญหาสมาธิสั้นด้วย แต่สอนมาทุกวันนี้สองปีกว่า เขาโอเค จนเรียนในห้องร่วมกับเพื่อนๆได้แล้วล่ะครับ  เพราะงั้น  อย่าคิดว่าอ่อนเลขมากๆ จะไม่มีวันเรียนไหวเลยครับ ลองดูสักตั้งครับ ^^

ออฟไลน์ Piengdeph

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 19:17:33 »
คำถามโลกแตกครับ อิอิ

แต่จากประสบการณ์ที่ผมไปอบรมหลักสูตร NEC ของกระทรวงอุตสาหกรรมมา ผมแนะนำแบบนี้ครับ

ถ้าจะไปสายนั้นจริงๆ ผมแนะนำให้ไปเรียนสายบริหารครับ เพราะมีโอกาสได้ Connection มากกว่า พวกของแต่งครูซใช้ทุนไม่มากหรอกครับ ถ้าเป็นแบบทำโมล  ของอื่นๆ นำเข้าจากจีนก็ได้

ส่วนเรื่องปรับแต่งเครื่องยนต์ ไม่ต้องไปเรียนหรอกครับ ไปเป็นลูกจ้างร้านเขาสักระยะ หรือศึกษาเอง เป็นไวกว่าครับ ของแบบนี้ไม่ได้จากห้องเรียนอยู่แล้วครับ
ความรู้หลายๆอย่าง เราหาเองข้างนอกได้ครับ แต่พวก Connection กับคนอื่น หรือความรู้การจัดการ การตลาด แนวโน้มตลาด คงต้องเรียนในห้อง (เพราะถูกที่สุด)

ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องคะแนนสอบเท่าไรด้วยครับ และยิ่งไม่จำเป็นต้องสอบติดมหาลัยดังๆ ด้วย น่าจะทำให้ไม่ต้องเครียดมากครับ

ป.ล. เรื่องคำนวณ ถ้าอ่อนจริงๆ หาติวเตอร์สอน ตัวต่อตัว ก็ช่วยได้นะครับ  แต่อาจจะช้าหน่อย  ผมก็สอนเด็กคนหนึ่งอยู่ ตั้งแต่เขา ม.2  เกรดเลข ได้1  จน จบ ม.ได้ 3 มา เพราะเขาอ่อนมาก และมีปัญหาสมาธิสั้นด้วย แต่สอนมาทุกวันนี้สองปีกว่า เขาโอเค จนเรียนในห้องร่วมกับเพื่อนๆได้แล้วล่ะครับ  เพราะงั้น  อย่าคิดว่าอ่อนเลขมากๆ จะไม่มีวันเรียนไหวเลยครับ ลองดูสักตั้งครับ ^^

สายบริหาร ของสายนี้ มันคือ คณะอะไรหรือคะ  ::) ::)

ออฟไลน์ Action

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,667
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 19:24:30 »
คำถามโลกแตกครับ อิอิ

แต่จากประสบการณ์ที่ผมไปอบรมหลักสูตร NEC ของกระทรวงอุตสาหกรรมมา ผมแนะนำแบบนี้ครับ

ถ้าจะไปสายนั้นจริงๆ ผมแนะนำให้ไปเรียนสายบริหารครับ เพราะมีโอกาสได้ Connection มากกว่า พวกของแต่งครูซใช้ทุนไม่มากหรอกครับ ถ้าเป็นแบบทำโมล  ของอื่นๆ นำเข้าจากจีนก็ได้

ส่วนเรื่องปรับแต่งเครื่องยนต์ ไม่ต้องไปเรียนหรอกครับ ไปเป็นลูกจ้างร้านเขาสักระยะ หรือศึกษาเอง เป็นไวกว่าครับ ของแบบนี้ไม่ได้จากห้องเรียนอยู่แล้วครับ
ความรู้หลายๆอย่าง เราหาเองข้างนอกได้ครับ แต่พวก Connection กับคนอื่น หรือความรู้การจัดการ การตลาด แนวโน้มตลาด คงต้องเรียนในห้อง (เพราะถูกที่สุด)

ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องคะแนนสอบเท่าไรด้วยครับ และยิ่งไม่จำเป็นต้องสอบติดมหาลัยดังๆ ด้วย น่าจะทำให้ไม่ต้องเครียดมากครับ

ป.ล. เรื่องคำนวณ ถ้าอ่อนจริงๆ หาติวเตอร์สอน ตัวต่อตัว ก็ช่วยได้นะครับ  แต่อาจจะช้าหน่อย  ผมก็สอนเด็กคนหนึ่งอยู่ ตั้งแต่เขา ม.2  เกรดเลข ได้1  จน จบ ม.ได้ 3 มา เพราะเขาอ่อนมาก และมีปัญหาสมาธิสั้นด้วย แต่สอนมาทุกวันนี้สองปีกว่า เขาโอเค จนเรียนในห้องร่วมกับเพื่อนๆได้แล้วล่ะครับ  เพราะงั้น  อย่าคิดว่าอ่อนเลขมากๆ จะไม่มีวันเรียนไหวเลยครับ ลองดูสักตั้งครับ ^^

สายบริหาร ของสายนี้ มันคือ คณะอะไรหรือคะ  ::) ::)

ผมคาดเดาว่าคงเป็น สาขาการตลาด สาขาการจัดการ(อินเตอร์) สาขาบริหารธุรกิจ อะไรประมาณนี้ ;)
ถึงรถผมจะไม่แรง แต่ก็ยังแซงทุกคันไม่เว้น...
Honda Civic 3dr. '96
Chrysler Neo '98
BMW 320i '01
Honda Civic FD 2.0 '06 > Sold
Mazda BT-50 Pro '12

ออฟไลน์ Piengdeph

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 19:30:51 »
ค่ะ จากที่คุน 6162002 ตอบมา


ดิฉันเดาได้คร่าวๆ ว่า ให้หลานดิฉันไปเรียนบริหาร การตลาด ฯลฯ อะไรก็ได้ที่ทำให้วิเคราะห์เป็น มองอนาคตออก สำหรับทำธุรกิจ

หรืออีกนัยหนึ่ง คือให้ก้าวขึ้นไปเป็นเจ้านายได้เร็วกว่า เพราะบริหารเป้น

และก็ไปเป็นลูกน้องเขาตามอู่ ศูนย์วิชาชีพ หรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อหาความรุ้ที่ในห้องเรียนให้ไม่ได้



บริหารเป้น+ทำเป็น =..............

ประมาณนี้ใช่ไหมคะ

ออฟไลน์ rakchatb

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 19:40:38 »
ลองลงเรียนวิชาหลักกับวิชาเลือกให้ต่างกัน เช่น คำนวณ กับ ศิลป์ และที่สำคัญเวลาว่างจากเรียนก็ทดลองหาที่ฝึกงานที่ตัวเองคิดว่าชอบก่อน ถ้ายังไม่ใช่แนว ก็หาที่ฝึกงานใหม่ เป็นการยกระดับความคิด และฝึกความอดทนไปในตัวครับ เพราะสายงานด้านยานยนต์ รวมไว้ทั้งศาสตร์การคำนวณ และศิลปการออกแบบ (อันที่จริงมันก็แฝงอยู่ในทุกสายงานครับ) ขอบคุณครับ.

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 12:41:16 »
อาจจะไม่ต้องมีปริญญาสักใบ ถ้าไปในงานได้สวยนะครับ ลองหาที่ฝึกดูก่อนไหม

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 13:13:19 »
เอ จบปวชแล้วต้องต่อปวสรึเปล่าครับ อันนี้ผมไม่ทราบเพราะจบสาย ม.6 มา

เอาเป็นว่าถ้ามีเข็มมุ่งแล้วว่าเป้าหมายเราต้องการอะไรก็ง่ายขึ้นหน่อยล่ะแต่เรื่องการเรียนผมก็ไม่อยากให้ทิ้งนะครับ ไม่ใช่เรียนเพื่อเอาความรู้อย่างเดียวแต่เรียนเพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์และหา Connection กับเพื่อนที่เรียนด้วยกันกับรุ่นพี่รุ่นน้องและที่สำคัญกับอาจารย์ แล้วเวลาว่างกับวันหยุดอย่าปล่อนให้ศูนย์เปล่าไปหางานพิเศษทำซะ ถ้าเกี่ยวกับที่ตนเองชอบได้ยิ่งดีเห็นว่าชอบรถหรูก็ลองไปสมัครดูจะเป็นโชว์รูม อู่ซ่อม ร้านตกแต่ง ส่วนตำแหน่งอะไรก็ค่อยว่ากันเจาะให้ได้ก่อน แต่แนะนำร้านประดับยนต์มากกว่า พวกนี้งานจะชุกตอนวันหยุดเราก็ไปขอทำด้วยได้เท่าไหร่ก็เอาหรือจะเป็นร้าน Wrap ก็ดีนะครับจากนั้นค่อยต่อยอดไปเรื่อย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ imneng

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 214
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 13:37:35 »
ความเห็นส่วนตัวนะคะ

จากประสบการณ์ในการทำงานบริษัทฯเอกชน กับชาวต่างชาติหลากหลาย ทั้งฝรั่งหัวดำ ฝรั่งหัวแดง ฯลฯ

บางครั้งการเรียนการตลาดหรือบริหารโดยตรงมา ก็ไม่เป็นตัวการันตี ความรู้ วิสัยทัศน์ หรือ sense การเป็นผู้นำและผู้บริหารของเราหรอกค่ะ มันก็แค่เป็นพื้นฐานให้เราไปต่อยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราได้รับใบปริญญามาเป็นเครื่องมือต่อรองในการทำงานในอนาคตก็แค่นั้น

อันนี้คงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเจ้าตัวนะคะ ถ้าเรียนได้ก็เรียนไป ถ้าไม่สะดวก ก็หาที่ฝึกงานไปเลยค่ะ
Merc Addicted

promt

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 14:14:23 »
เด็กทุกวันนี้ มีปัญหามากเรื่องสมาธิสั้น และอยู่กับความเพ้อฝันเพราะไปฟังคนโน้นคนนี้เล่า (โม้) มา

ว่าทำแบบนี้ อย่างนี้ แบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องเอาคนมีความรู้ ความสามารถ และเชียวชาญไปทำ

ยังมีเงินเดือน + ค่าตอบแทนอื่นๆ เป็นแสน (บ้าไปแล้ว) ขนาดจบ ป.เอก และมีตำแหน่ง ผศ. ยังมีเงินประจำตำแหน่งแค่ 5600x2 เอง

จากประสบการณ์ที่ผมสอนเด็กนักศึกษา ป.ตรี โท และ เอก
รวมถึงเคยเป็นติวเตอร์ให้กับนักเรียน ม.5 นานาชาติ

มีข้อวิเคราะห์และสรุปสำหรับน้องๆ ม.6 และ ปวส. ได้ดังนี้

1. ไม่เก่ง ไม่ขยัน ไม่ทำอะไรสักอย่าง อยากมีเงินเดือนสูงๆ
=> กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นลูกที่ขอเงินพ่อแม่ได้แต่ละเดือนเยอะ
ขอบอกว่ามากกว่า 12,000 บาท (ซึ่งเยอะมากสำหรับการเรียน ป.ตรี) กลุ่มนี้จะไม่ค่อยเอาอะไรสักอย่าง
โดนสอน โดนงานค้นคว้า โดนอบรมหน่อยจะฟ้องอย่างเดียว ตอนนี้โดนรีไทร์ไปหลายคนแล้ว

2. เก่ง ไม่ขยัน ไม่ทำอะไรสักอย่าง อยากมีเงินเดือนสูง ๆ
=> กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาเกรดกลางๆ สอนแป้บๆ ก็เก็ตหล่ะ
แต่มันติดขี้เกียจไปหน่อย

3. เก่ง ขยัน ไม่ทำอะไรสักอย่าง (เช่นไม่หาความรู้เพิ่มเติมจากที่เรียน)
=> กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่เป็นนักเรียนทุน
กลุ่มนี้จะท่อง อ่าน โอเคได้เกรดเฉลี่ย 3.5 (ระดับมหาวิทยลัย) แต่พอจบ ป.ตรี
กลับพบว่าล้มเหลว ในชีวิต

4. เก่ง ขยัน ชอบหาอะไรทำเมื่อว่างเช่นทำกิจกรรมค่าย เป็นนักบอลของมหาวิทยาลัย
=> กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่เป็นไอดอลเลยครับ สอนแป้บเดียว เข้าใจง่าย ขยัน
ทำงานส่งตรงเวลา กลุ่มนี้จะไม่ค่อยเพ้อฝัน และไม่ติด FB, หรือสื่อทางสังคม

5. ไม่เก่ง ไม่ขยัน แต่ชอบหาอะไรทำ
=> กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นนักศึกษาที่จบ ปวส. มา มีความเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ
แต่คิดช้ามาก ถ้าสอนวิชาการ ให้ไปไกลๆ เลย กลุ่มนี้จะไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
กลุ่มนี้จะชอบไปปฏิบัติ ชอบใช้แรงงาน และอดทนต่องานหนัก ไม่ฟุ้งเฟ้อ
ดังนั้นสาขา (ศาสตร์) ที่เขาชอบเรียนจะเป็นกลุ่มของวิชาเกษตรกรรม เช่น
โค ไก่ สุกร ไม้ดอก ไม้สวน ฯลฯ และพบว่าเขาทำได้ดี
จนไปเป็นเจ้าของฟาร์มไก่ ฟาร์มหมู ส่งขายให้ซีพี สหฟาร์ม(ไม่รับหมู) จนมีฐานะ

ตอนนี้กลุ่มที่เรากำลังเพ่งเล็งคือกลุ่ม 1

หลาน จขกท. น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยป่ะครับ

ปัจจุบันกลุ่มนี้ น่าจะไปเรียนสาขา (ในระดับ ป.ตรี) ที่ใช้แอพลิเคชันเป็นหลัก ไม่เน้นเพียวไซว์
สาขาที่เขาชอบไปเรียนและทำได้ดีคือ
1. สื่อสารดิจิทัล
2. เศรษฐศาสตร์
3. บริหารธุรกิจ (ผมไม่แนะนำ เพราะคนที่เรียนเยอะ+ตกงาน)
4. การท่องเที่ยว
5. รัฐประศาสนศาสตร์

ออฟไลน์ imneng

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 214
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 14:30:48 »
เห็นด้วยกับข้อ 1-5 เลยค่ะ

แต่รวม ๆ ส่วนมาก เด็กยุคใหม่สมัยนี้ อยากทำงานน้อย ๆ มีตำแหน่งสูง ๆ เป็นหัวหน้าฝ่าย เงินเดือนต้องเยอะ ๆ แต่ไม่มีความรับผิดชอบ หนักไม่เอา เบาไม่สู้ และที่แย่ที่สุดคือ เวลามีปัญหาข้าเลี่ยงไว้ก่อน ตอบไม่รู้ไว้ก่อน แล้วก็โยนให้คนอื่นทำ พอคนอื่นทำงานดีกว่าเงินเดือนเยอะกว่าโตเร็วกว่า ก็หมั่นไส้เค้า เข้าสุภาษิตไทยว่า "หมาจิ้งจอก เห็นองุ่นเปรี้ยว" เยอะจนเพลียเลยค่ะ
Merc Addicted

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 19:41:42 »
อ่า ผมเป็นประเภท เก่ง ไม่ขยัน แต่ชอบหาอะไรทำอ่ะ ประมาณว่าถ้าไม่มีเป้าหมายอะไรจะไม่ค่อยอยากทำสักเท่าไหร่ ตอนนี้อายุ 33 เพิ่งจะค้นพบตัวเองได้ไม่กี่ปียังถือว่าอยู่ในช่วงสร้างตัวอยู่เลย ถ้าจะให้เลาประวัติส่วนตัวหล่ะยาวแต่เอาเป็นว่าสามารถเล่าเรื่องตนเองแล้วทำให้คนที่เหลวไหลกลับมาได้ก็แล้วกัน
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ rakchatb

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2012, 23:49:50 »
อยากรู้อะไรให้ทดลองด้วยเองเป็นการณ์ดีน่ะครับ. ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Appenzell Swiss

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 327
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2012, 15:22:49 »
เท่าที่ดู รู้สึกว่าค่อนข้างจะคิดเยอะ คิดกว้างไปครับ ทำให้สับสน..

การตั้งเป้าหมายว่ายากจะรวย อยากจะเป็นนายคน เป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องทำอย่างไรนั้น เพราะเขายังไม่เห็นความยากง่ายของชีวิต ยังขาดประสบการณ์

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากล้มเหลว ทางที่ดีควรใช้ให้เป็นแรงผลักดัน ให้เกิดความตั้งใจจริง

ควรให้เขาได้มีโอกาสได้เห็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพ สภาพแวดล้อมที่ดี จะทำให้เกิดการเรียนรู้มากครับ
การศึกษาในหลักสูตร inter ก็ช่วยได้ระดับนึงครับ ทำความเข้าใจกับสาขาวิชาต่างๆมากๆ

โอกาสจะประสบความสำเร็จนั้นมีอยู่มากมาย แต่เราจะมองเห็น และพร้อมหรือเปล่า
ชีวิตเราต้องก้าวไปข้างหน้าเสมอ ค่อยๆก้าวทีละก้าว ไม่ดีกว่าหรือครับ ดอกไม้ที่รีบเร่งบาน เกรงจะเหี่ยวเฉาไวนะครับ
สภษ.(Proverb)14:15 คนเขลาเชื่อถือวาจาทุกอย่าง แต่คนหยั่งรู้มองดูว่าเขากำลังไปทางไหน

ออฟไลน์ Piengdeph

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2012, 16:29:58 »
ตอบคุณ promt ค่ะ

ถ้าจะตอบว่า หลานดิฉัน เก่ง ขยัน แบบนี้ มันคงไม่เป็นคำตอบที่ถูกต้องนะคะ

ดังนั้นดิฉัน จึงขอท้าวความถึงประวัติของหลานให้ คุน promt และทุกท่านที่ให้คำปรึกษาฟังค่ะ


หลานดิฉันเป็นคนหัวไว ฉลาด ร่าเริง เป็นเด็กกิจกรรม ความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่

แต่พอพ่อแม่ของเธอแยกทางกันในตอนเด็ก

และพอพ่อของเธอมีแฟนใหม่ซึ่งงี่เง่าและนิสัยไม่ดี (ขอใช้คำนี้เพราะมันเป็นความจริง)

ชีวิตและนิสัยของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนเรียนโรงเรียน St. ดาวน์เกรดลงมาเป้นโรงเรียนวัด (ค่าเล่าเรียนในช่วงนี้ เธอเป็นเด็กทุนองการทหารผ่านศึก)

แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนหัวดี จึงสอบได้ที่หนึ่งเสมอๆ แม้จะถูกแม่เลี้ยงกีดกันเรื่องเงินและเรื่องการใช้ชีวิตก็ตาม

เธอสามารถสอบเข้าโรงเรียนมัธยมอันดับ1ของจังหวัดได้ เป็นเด็กกิจกรรมวงโยทวาฑิต (กู้ กยศ. และหาเงินเล็กน้อยๆ เป็นค่าขนมแต่ละวัน และแม่แท้ให้เดือนละ 1 พัน)

แต่ด้วยนิสัยของเธอที่เปลี่ยนไป เริ่มไม่แคร์โลก ไม่สนใจใคร ข้าวเที่ยงกินคนเดียว

(เคยถามเธอตอนนั้นว่า ทำไมถึงไม่คบเพื่อน เธอตอบมาว่าแม่(เลี้ยง)ไม่ให้คบ เพื่อนบางคนมาหาเธอที่บ้านยังได้แค่เกาะประตูรั้ว

ก็เลยไม่มีซะดีกว่า ถ้ามีเดียวเขาจะพาลเกลียดเราเอา) เรื่องการเรียนก็ไม่มีใครให้คำปรึกษาหรือสอนอะไรเกี่ยวกับการเรียนให้เธอได้เลย

เกรดเรียนเธอวิชาอื่นๆได้ประมาณ2.5- 3.8 ตลอด แต่คณิตได้ 1.5 พอจบม.ต้น เธอติดสาย ศิลป์-ภาษา แต่แม่เลี้ยงก็ไม่ให้เธอเรียนอ้างเรื่องค่าเทอม(ทั้งๆที่กยศ จ่าย)

เธอจึงได้มาเรียนสาย ปวช. และเธอก็เริ่มรุ้สึกชอบรถ เวลาเธออยุ่กับดิฉันเธอมักจะชอบชี้ให้ดูรถคันนู้นนี้ตลอดพร้อมอธิบายเกี่ยวกับมัน (กู้ กยศ. ได้ค่าขนมจากแม่แท้เดือนละ 1 พัน)

ดิฉันจึงถามเธอว่าตอนอยุ่กับพ่อพูดแบบนี้บ้างหรือเปล่า เธอบอกว่าเมื่อก่อนเคยพูด แต่พ่อมักจะตอบกลับมาว่า เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน อย่าบ้าให้มาก

เธอเลยไม่คิดจะพูดอีก ส่วนเพื่อนที่โรงเรียนของเธอบางคน ชอบต่อว่าเธอเหมือนที่พ่อเธอพูด เธอก็เลยสูญเสียความมั่นใจตรงนี้หรือเปล่า


สรุปตามความคิดดิฉัน หลานของดิฉันเธอ ไม่น่าจะใช่ ข้อ 1 ตามที่คุน promt บอก

แต่น่าจะเป็น หัวแต่ไม่ถึงกับเก่ง ชอบหาอะไรทำ ขยัน มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ในบางเรื่อง (แต่มีความงี่เง่าของบางคนมาขัดขวาง)


-______-" ดิฉันอาจแพล่มยาวไปหน่อย แต่ก็นิดนึงนะคะเพื่อหลาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2012, 16:33:21 โดย Piengdeph »

ออฟไลน์ Appenzell Swiss

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 327
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 01:56:46 »
ได้อ่านแล้วน่าเห็นใจจังครับ

การที่ถูกคนรอบข้างทัดทานนั้น เป็นเรื่องปกติครับ เกือบทุกคนล้วนเคยเจอ
แม้บางคนใช้คำพูดที่รุนแรง จนทำให้สูญเสียกำลังใจไปบ้าง  แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากความหวังดี
อย่าเก็บมาคิดมาก เป็นกำลังใจให้ครับ

เชื่อว่าความตั้งใจจริง ความใฝ่รู้ และความทะเยอทะยาน รู้จักมีเป้าหมายของเขา จะทำให้เขาประสบความสำเร็จไม่มากก็น้อย
สภษ.(Proverb)14:15 คนเขลาเชื่อถือวาจาทุกอย่าง แต่คนหยั่งรู้มองดูว่าเขากำลังไปทางไหน

ออฟไลน์ boykung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
  • ตอนเด็กๆ โคตรอยากเป็นจีบันเลย
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 08:58:33 »
ขอเพิ่มเติมคุณ Promt เพิ่มอีกกลุ่มนะครับ เพราะผมรู้สึกว่าผมอยู่กลุ่มที่คุณไม่ได้พูดไว้

6. ไม่เก่ง ขยัน และชอบหาอะไรทำ

เรียนไม่เก่งแต่ชาติกำเนิด แต่ชอบทำกิจกรรมทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวกับการเรียน ทำได้หรือไม่ไม่สน ขอให้ได้ลงมือทำไว้ก่อน
กลุ่มนี้ชอบปฏิบัติ แต่ด้านวิชาการก็ฝีนได้ โดยการขยันท่องจำ ท่องอ่านจนทำได้แบบคาบเส้น
กลุ่มพวกนี้มันจะเป็นเด็กสายช่าง แต่ดิ้นรนจนเข้าวิศวะได้ แต่ก็ต้องดิ้นรนเป็นอย่างมากกว่าจะเรียนจบได้
งานที่มักทำหลังจากเรียนจบ ส่วนมากจะได้เป็นหัวหน้าวิศวกรคุมฝ่ายผลิตซะส่วนมาก เพราะปฏิบัติทำได้แน่นอน วิชาการก็พอถูไถ

เพื่อนผมได้ทำงานในสถานประกอบการรถยนต์หลายยี่ห้อในท้องตลาด ทำส่วนpart ก็มากตำแหน่งก็มีหลายคนเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต
ฝ่ายเขียนแบบ ออกแบบpart ตัวรถและอื่นๆเกี่ยวกับรถยนต์ก็เยอะอยู่


Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 09:16:39 »
อ้าว อ่านไปอ่านมาชักมีประวัติคล้ายกันบ้างแฮะ เอาเป็นว่าผมเล่าประสบการณ์จริงของผมเองก่อนนะเผื่อมีช่องทางปรับเอามาใช้ได้ ยาวหน่อยนะครับพิมพ์เพลิน

ตอนเด็กๆฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเลยไม่ค่อยมีของเล่นหรือเสื้อผ้าใหม่ๆใส่ต้องเก็บเงินซื้อเอาเองทำดะหมดทั้งเสริฟก๋วยเตี๋ยว ปะยาง ขายข้าวโพด ขายขนม เก็บเศษเหล็ก เศษตะปูขาย เป็นลูกจ้างร้านขายเสื้อผ้า แล้วตอนม.ปลายเกเรหน่อยเพราะทางบ้านแยกทางกันด้วยพ่อผมไปติดเมียน้อยเลยโดนแม่ไล่ออกจากบ้าน

จากนั้นก็สอบเข้าคณะวิศวะได้ตอนเรียนนี่อิสระมากนอนตอนไหนก็ได้ ไปเที่ยวตอนไหนก็ได้ กินตอนไหนก็ได้ จะคุยกับใครจะบิดมอไซด์เมื่อไหร่ก็ได้เพื่อนฝูงมีเป็นกุรุส เล่นไพ่ เล่นเกม อ่านการ์ตูน เงินที่ทางบ้านส่งให้ใช้เดือนล่ะ 4,000 เป็นค่าหอ 1,200 ที่เหลือ 2,800 ก็เอามาลงพวกนี้หมด (ทำไมเด็กสมัยนี้ได้ตังเยอะจังบางคนเห็นได้หมื่นอัพ)ปิดเทอมก็ไม่ค่อยกลับบ้านทำกิจกรรมอยู่นั่นแหละทั้งค่ายวิชาการ ค่ายอาสาพัฒนา ชมรมพุทธศาสนา คณะกรรมการนักศึกษา สุดท้ายกำลังจะไปไม่รอดตอนปี 4 เพราะติดโปรกำลังจะโดนรีไทร์ต้องได้ 3.6 ถึงจะรอดก็กะจะมาบอกแม่ว่าเรียนไม่ไหวแล้วแต่สิ่งที่พบก็คือแม่ผมเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายโดยที่ผมไม่รู้เลยทางบ้านปิดผมเพราะไม่อยากให้กระทบการเรียนและที่ไม่ไปหาหมอตอนที่เป็นแรกๆเพราะกลัวว่าค่าใช้จ่ายจะเยอะแล้วไม่มีเงินส่งผมเรียนเพราะแม่ทำงานหาเงินคนเดียว

ตอนนั้นเหมือนที่พื้นไม่มีที่ยืนอยู่เหมือนวูบตกเหวลงไป นี่เราทำอะไรอยู่ พ่อก็กลับมาแล้วมาดูแลแม่ แม่ผมก็บอกแต่ว่าตั้งใจเรียนนะเรียนจบแล้วบวชให้แม่ด้วยก็เลยพูดอะไรไม่ออกกลับมาเรียนเหมือนเดิมสุดท้ายรอดได้ 3.8 แต่ก็ไม่จบใน 4 ปีเพราะตกไปวิชานึงเป็นวิชาต่อแต่พอถึงเวลาเรียนวิชานั้นจริงๆแม่ผมกลับเสียไปก่อน ตอนนั้นกลับมาเกเรยิ่งกว่าเดิมคราวนี้มีเรื่องผู้หญิงมาอีกเยอะและมีเรื่องการพนันมาอีกแถวนั้นเค้าเรียกผมว่าเซียนเอาเป็นว่าช่วงนั้นไม่เอาเงินจากทางบ้านแล้วค่าเทอมค่ากินอยู่ผมได้มาจากส่วนนี้จากผู้เล่นพอมีทุนมากขึ้นมีคนรู้จักมากขึ้นก็ผันตัวมาเป็นเจ้ามือซะเองทั้งหวยทั้งบอล สุดท้ายวิชานั้นก็ตกไปต้องมาเรียนปี 6 จากนั้นก็คิดได้ว่าแม่ไม่อยู่แล้วเราก็เรียนเพื่อแม่ได้นี่นาก็เข็นตัวเองเรียนจบมาได้ รับปริญญาพร้อมกับน้องสาวที่เรียนหลังผม 2 ปีซะงั้นได้เกียรตินิยมอันดับ 1 อีกตะหาก เซ็งวุ้ย

พอเรียนจบก็เอาที่ดินที่แม่ผมให้ไว้ไปขายซะงั้นได้เงินมา 3 แสนมาลงทุนเปิดร้านคาราโอเกะ ผลปรากฎว่าเจ๊งกระบ๊งเพราะโดนวัยรุ่นท้องถิ่นเมายามาตีกันที่ร้านผมเองก็โดนลูกหลงไปด้วยที่หลัง 1 แผลเป็นที่ระลึกทนฝืนเปิดได้หน่อยก็ปิดตัวลง 3 แสนหายกระจาย จากนั้นก็มาทำงานกับเพื่อนเป็นโรงงานผลิตซีดีเถื่อนซะงั้น โว้ว ชีวิตหนีไม่ค่อยพ้นแฮะก็ทำได้ปีนึงก็ออกเพราะอยากมีอนาคตมากกว่านี้ มาทำงานโรงงานแถวอโยธยาได้ปีนึงก็ออกเพราะเงินเดือนน้อยสวัสดิการน้อยต้องช่วยทางบ้านส่งน้องอีก 2 คน แล้วมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนหลายๆคนประมวลได้ว่าทำงานโรงงานเกี่ยวกับชิ้นส่วนรถยนต์ดีกว่าเงินดีกว่ามั่นคงกว่าก็เลยจับพลัดจับพลูได้ทำงานชิ้นส่วนรถยนต์จริงๆ พอทำงานได้ซักพักก็อยากหาความมั่นคงให้ตัวเองเพิ่มประกอบกับอยากเป็นนายของตัวเองก็เลยตัดสินใจลงทุนซื้อคอนโดไป 3 ห้องเพื่อเก็งกำไรและปล่อยเช่าแล้วก็ทำการกู้เกินมา 4 แสน เอา 1.5 แสนมาลงทุนหุ้นขาดทุนไป 8,000 แต่กำไรประสบการณ์พักไว้ก่อนปีกแข็งกว่านี้จะกลับมาใหม่ แล้วรวมกับที่เหลือลงทุนซื้อรถมือสองแล้วก็มาเป็นไฟแนนท์ซะเอง 4 แสนที่ได้มาตอนนี้งอกเป็น 5 แสนในเวลา 1 ปีครึ่งเพียงแต่ตอนนี้ชะงักซะแล้วเพราะหลังจากแต่งงานมีลูกเผอิญลูกมีปัญหาเพดานโหว่ต้องผ่าตัดเลยอยากดูแลดูหน่อยเลยให้แฟนลาออกมาเลี้ยงลูกยังไม่ทันครบขวบเลยกะลังมีเพิ่มอีกคนล่ะ ดีใจมาก อ้อยังทำงานประจำอยู่นะครับ เรื่องบวชให้แม่ผมบวชก่อนแต่ง 1 ปีเพราะคิดว่าใจตัวเองพร้อมแล้วประสบความสำเร็จระดับหนึ่งที่จะทำให้แม่ภูมิใจ และที่ดีใจอีกอย่างคือตอนนี้น้องสาวคนรองก็ทำงานข้าราชการไปได้ดีมีลูกแล้วคนนึง น้องอีก 2 คนก็กำลังเรียนเอกอยู่ถึงแม้ส่วนใหญ่จะได้ทุนแต่ค่าใช้จ่ายบางส่วนผมก็ช่วยล่ะน่า

เป้าหมายผมคืออีกไม่เกิน 10 ปีกลับบ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับรถตอนนี้อยู่ในช่วงปรับฐานอยู่

ป.ล.1 ประสบการณ์คือการเรียนรู้ด้วตนเอง ความรู้คือการเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น
ป.ล.2 บางครั้งอุปสรรค คำสบประมาทกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าได้ จงเชื่อมั่นในตัวเอง
ป.ล.3 คนเราไม่เคยมีใครทำผิดพลาดมา สำคัญที่ว่าจะเอาความผิดพลาดนั้นมาเรียนรู้แล้วก้าวต่อไปยังไง
ป.ล.4 ค้นหาตัวเองให้พบแล้วมุ่งไปซะ การเดินทางหมื่นลี้เริ่มต้นที่ก้าวๆเดียว
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 09:22:39 »
เอาแรงขับดันมาอวดครับ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 16:18:44 »
ผมแนะให้ลองเข้าไปหาข้อมูล "โรงเรียนโตโยต้า" ดูนะครับ
ได้เรียนเกี่ยวกับรถยนต์แน่นอน แถมจบมามีงานทำรออยู่แล้ว

ออฟไลน์ imneng

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 214
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2012, 16:33:32 »
หลังจากอ่านประวัติของคุณหลานของคุณน้าเพิ่มเติม

คิดว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่การแนะแนวในการดำเนินชีวิตและความเป็นจริงของโลกให้กับคุณหลานหรือเปล่าเอ่ย? เพราะเด็กบางคนพอเจอเรื่องร้าย ๆ ก็จะปิดตัวเองไปเลย จากคนที่เคยร่าเริงก็เงียบขรึม จากที่เคยมีเหตุผลก็เอาแต่ใจตัวเอง ฯลฯ

ความเห็นส่วนตัวนะคะ คิดว่า จำเป็นที่จะต้องให้น้องเค้ารับรู้โลกที่กว้างขึ้น ไม่ใช่มองเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเองเป็นที่ตั้งเท่านั้น เพราะทุกครอบครัวก็มีปัญหามากน้อยแตกต่างกันไป ใช่ว่าชีวิตเราแย่ แล้วไม่มีคนอื่นที่ย่ำแย่ยิ่งกว่า และที่สำคัญที่สุด ต้องแนะนำให้น้องรู้จักเปิดใจ มีเหตุผล และดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปและความเป็นจริงของโลกให้มากที่สุดค่ะ มั่นใจว่าน่าจะแก้ปัญหาความคิดแบบนี้กับน้องเค้าได้

มีคนมากมายในสังคม ที่พื้นฐานทางบ้านมีปัญหา แต่เขาเหล่านั้นก็มีสติ และทัศนคติที่ดี จนประสบความสำเร็จในชีวิต ตามสมควรของแต่ละคน

อย่างที่เคยบอกไว้ในเม้นท์ก่อน ๆ ว่า เราต้องยอมรับสิ่งที่เกิดกับเรา ณ ตอนนี้ พร้อมทั้งความสามารถและปัจจัยต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนชีวิตของเราให้ได้ค่ะ เลือกในสิ่งที่เหมาะกับเรา แล้วเมื่อตั้งหลักได้ ทุกอย่างมันก็จะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
Merc Addicted

ออฟไลน์ SaiXaiZai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 588
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2012, 12:56:26 »
ผมแนะให้ลองเข้าไปหาข้อมูล "โรงเรียนโตโยต้า" ดูนะครับ
ได้เรียนเกี่ยวกับรถยนต์แน่นอน แถมจบมามีงานทำรออยู่แล้ว

สั้นๆ  แต่ได้ใจความ มากกกกกกกกกกกกก  ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2012, 19:03:39 »
เอาอย่างนี้ครับ คุณเจ้าของกระทู้

1. ผมไม่จบ ปริญญาตรี และไม่อายที่จะบอกแบบนี้กับใครต่อใคร
ผมจบ แค่. ม. 6 กรุงเทพคริสเตียน และแค่นั้น

2. ผมทนระบบการเรียน การสอน การสอบ การศึกษาในบ้านเราไม่ไหว

3. เรียน นิเทศ ม. กรุงเทพ ก็ รีไทร์ ตอน ปี 3

4. เรียนราม ก็ สอบวิชาเขียนข่าว MC420 ตก 4 ครั้งรวด.....

ชีวิตผมตอนนี้....ก็...เจ้าของเว็บ

รายได้..ก็ อย่างที่คุณเห็น แบนเนอร์เต็มทุกตำแหน่งแล้ว ยาวถึง สิ้นปี 2013 (อ่านไม่ผิดครับ สิ้นปี 2013)
มีน้องในทีม ที่ต้องจ่ายเงินเดือน ก็ เยอะอยู่

บางที ผมว่า มันขึ้นอยู่กับเซนส์ ของเขาด้วยครับ

ไว้ขอเวลาก่อน จะมาตอบให้มากกว่านี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 16, 2012, 19:05:58 โดย J!MMY »

ออฟไลน์ WhoIsI

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2012, 19:54:34 »
ถามช่วยเจ้าของกระทู้นิดหนึ่ง
เพื่อนสมาขิกมีใครเปิดอู่รถพอให้น้องเค้าไปลองทำงานบ้างมั้ยครับ อาจเป็นอู่ปกติไม่ต้องถึงกับ super car
เพื่อจะได้ค้นหาตัวเองว่าชอบจริงมั้ย เพราะชีวิตนี้จะสำเร็จได้ไม่ได้ขึ้นกับใบปริญญา ตัวอย่างจากหลายกระทู้ด้านบน
ช่วงหลังนี้มีนักแข่งจากไทยเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ไม่น้อย ค่อยๆหาทางร่วมงานเพื่อเข้าใกล้ super car มากขึ้น

ถ้าชอบด้านนี้จริงประสบการณ์จากการทำงานมีค่ามากกว่าใบปริญญาครับ

promt

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2012, 22:54:22 »
เรียน คุณเจ้าของกระทู้

ขออภัย ผมไม่ได้เข้ามาอ่านและตอบกระทู้มาหลายวัน

ฝากให้คิดนะครับ
อายุ 15 เป็นอายุหัวเลี้ยวหัวต่อ คือไปต่อ หรือหยุด
อายุ 18 เป็นอายุกำหนดอาชีพที่อยากจะเป็น (เป็นหมอ วิศวะ อาจารย์ ครู นักวิจัย เจ้าของกิจการฯ ก็กำหนดที่อายุนี้)

จากที่คุณเล่ามา EQ ของน้องกำลังพัฒนาสู่ความเป็นผู้ใหญ่
ตอนเด็กมีปัญหาเลยทำให้ชะงักไป
ตอนนี้คงเริ่มกลับมาแล้ว
น้องควรไปคุยกับอาจารย์แนะแนว เพื่อรับแนวทางต่อ ปวส. ครับ เผื่อจะต่อมหาวิทยาลัยของรัฐ
อาจารย์แนะแนวบางท่านจะมีมุมมองที่เยอะมากๆ และเพิ่มเติมจากที่พวกเราแนะนำในเวบแห่งนี้

เจ้าของกระทู้ต้องพูดบ่อยๆ ตะล่อมให้น้องเขาพยายาม ขยัน อ่าน อดทนครับ
ชีวิตคน มันวัดกันยาวๆ ให้มองยาวๆ อึดยาวๆ ไว้ก่อน

ส่วนตัวผม อยากให้น้องเรียนสิ่งที่น้องรักมากที่สุด
แต่มองให้สุดทางด้วยนะครับว่าจบแล้วจะเป็นอะไร ไม่ใช่เรียนไปเรื่อย หมดเงินไปเฉยๆ
(อยากให้เรียนก่อน ยังไม่อยากให้มาเผชิญโลกภายนอกเร็วเกินไป)

แต่ถ้าไม่ได้สิ่งที่รัก ก็ค่อยๆ ลดหลั่นเป็นสิ่งรอง ไปเรื่อยๆ ครับ

ตอนนี้ดีครับที่มีทุน กยศ. และทุนการศึกษาอื่นๆ อีก
อีก 2 ปี ถ้าน้องเข้ามหาวิทยาลัยได้ และพยายามเข้าหาอาจารย์ที่กำลังทำงานวิจัย
ช่วยอาจารย์ทำงานวิจัย จะมีเงินค่าตอบแทนซึ่งพอจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้บ้างครับ
ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทุน กยศ. มันพอให้ใช้จ่ายอยู่แล้วครับ แต่ต้องประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ
ถ้าถึงตอนนั้น น้องคงติดลมบน สบายไปแล้วครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: ปรึกษาเรื่องหลานค่ะ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2012, 03:34:49 »
ผมเห็นด้วยเรื่อง โรงเรียน Toyota ที่สุวินทวงศ์ ครับ

นั่นแหละ จุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตน้องเขาได้เลย

เสริชดูได้เลยครับ

แนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ คุณอาจต้องช่วยเหลือหลานเขาสักหน่อย

ควรช่วยครับ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง