Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: LTK ที่ พฤษภาคม 04, 2009, 15:19:15
-
บทความนี้เป็นความคิดเห็น และความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ และวุฒิภาวะในการอ่านเป็นอย่างสูงหากท่านผู้อ่านทราบในตัวเองดีว่า ไร้ซึ่งวุฒิภาวะที่จะสามารถความคุมอารมณ์ ที่จะเกิดความไม่พอใจจากการอ่าน กรุณาปิดบทความนี้ เพราะจะส่งผลรบกวนต่อจิตใจท่านได้
สงวนลิขสิทธ์ตามกฏหมาย ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาติ ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด
ต้นปี 2009 ด้วยหน้าที่การงาน ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางค่อนข้างมาก และรถที่ใช้อยู่เดิม เริ่มออกอาการ ของโรคชรา ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของกาลเวลา ถึงแม้จะถูกอกกูกใจ ในสมรรถนะ ความคล่องตัว และประหยัดเชื้อเพลิงของมันมากเท่าไหร่ แต่มันไม่ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดของผมได้อีกแล้ว ถ้ามันยังต้องซ่อมเดือนละครั้ง
อันที่จริงแล้ว เรื่องราคาค่าซ่อมรถไม่ได้เป็นปัญหาของผม เนื่องจากพอมีความรู้งูๆปลาๆทำเองได้บ้าง แต่ปัญหาคือเวลาระหว่างซ่อม ซึ่งหลายครั้งทีเดียว ที่มันทำให้เงินผมหายไปทีละมากๆ เนื่องจากผิดนัดกับลูกค้า จนมาถึงวันหนึ่ง ที่มันไปดับเอากลางทางเสียดื้อๆ เนื่องจาก ไดชาร์จเสีย และก็เป็นวันเดียวกันที่ผมตัดสินใจว่า เราคงต้องซื้อรถคันใหม่เสียที
-
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าต้องซื้อรถคันใหม่ คราวนี้ก็มาเลือกรถ ซึ่งโจทย์ที่ผมได้ไว้สำหรับรถคันใหม่นี้ คือ
1. ซื้อมาแล้วต้องไม่เสียค่าซ่อมไปอีกหลายปี (ป้ายแดง)
2. ประหยัดน้ำมัน
3. ทนทานพอสมควร
4. นั่ง 3 คนได้อย่างสบาย
5. เสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ
6. คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด
จะเห็นได้ว่า โจทย์หกข้อที่ผมตั้งไว้ ไม่มีสมรรถนะ และความสวยงามเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เป็นเรื่องของความคุ้มค่าล้วนๆ เนื่องจากรถคันที่กำลังจะซื้อมานี้ เป็นรถที่นำมาขับเพื่อทำมาหากิน ไม่ได้มีไว้ออกงานโชว์ใคร ไม่ได้ไว้เอาไปโชว์สาวๆที่ชอบผู้ชายจากการเอาอวัยวะบางชิ้นติดกับเบาะนั่งรถราคาแพง ไม่ได้เอาไปแข่งควอเตอร์ไมล์ หรือวันเมคเรซ ไม่ได้เอาไปประกวดในงานโชว์เครื่องเสียง ผมจึงรับได้ไม่ว่ามันจะหน้าตาไม่ค่อยสวย(ขอบ้างนิดๆ) แต่งไม่ค่อยขึ้น ไม่สดใหม่ แต่ขอแค่เงินที่ผมจ่ายลงไปนั้น คุ้มค่ามากที่สุดในตัวเลือกทั้งหมดก็เพียงพอ
-
และหลังจากนั้น รถที่เข้ามาเป็นตัวเลือกให้ผมก็มีหลายคัน ซึ่งเป็นรถป้ายแดงประเภท sub compact ที่นิยมใช้กันในตลาด เช่น city vios tida(latio) และ aveo หลายท่านอาจสงสัยว่า แล้วรถกระบะ มี cab ก็เข้าข่ายนะ แต่คงไม่ใช่สำหรับผม เพราะ
1. ผมไม่มีสิ่งของอะไรต้องบรรทุกบ่อยๆ
2. ความสบายของรถ sub-compact sedan กับ mini truck ขนะขับขี่ต่างกันโดยสิ้นนเชิง
3. นั่ง 3 คนไม่สบาย
-
หลังจากนั้นผมก็ไปลองรถที่เข้าประกวด ผู้เข้ารอบทั้ง 4 คัน ที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน ต่อรองราคากับเซลล์แล้วสรุปได้ว่า
1. Chevrolet aveo รถแฮมเบอเกอร์ สอดใส้กิมจิ อืด และกินน้ำมันมากเกิน ในลักษณะการขับขี่แบบผม อะไหล่ และศูนย์บริการในระยะยาวถือว่าแค่พอรับได้ แต่เรื่องความปลอดภัยจากการชนนั้นสอบตกโดยสิ้นเชิง เพราะผมเดินทางเยอะมากในหนึ่งปี ซึ่งโอกาสเกิดอุบัติเหตุนั้นมีสูงกว่าคนอื่น และรถที่ผมเลือกควรมีความปลอดภัย ที่ทำใผมรอดจากอุบัติเหตุได้ อย่างสมเหตุสมผลกับราคาที่จ่าย โดยไม่ต้องลุ้น
-
2. Nissan Tiida Latio b รุ่นต่ำสุดของ ลาติโอ เครื่องยนต์ประหยัด อัตราเร่งดีพอสมควร เบาะกว้างขวางนั่งสบาย และครอบครัวผมก็ใช้รถนิสสันมาหลายคัน รู้ซึ่งถึงความทนทานของรถยี่ห้อนี้ ตั้งแต่ Sunny B11ทำให้รถคันนี้น่าสนใจมากๆๆ แต่ไม่ซื้อ!?! เพราะ...ผมรับไม่ได้ ที่จะต้องจ่ายเพื่อซื้อรถที่ทุกอย่างดีกว่ารถคันอื่นนิดหน่อย แต่ได้ความอัปลักษณ์มาให้หงุดหงิดใจทุกครั้งที่ล้างรถและมองรถของตัวเอง ถึงแม้ว่าความสวยงามจะไม่ใช่โจทย์หลักของผมก็ตาม แต่มันรับไม่ได้จริงๆ จิงต้องตัดทิ้งไปแม้จะรักนิสสันขนาดไหนก็ตาม
-
3. Toyota vios รถยนต์จากค่ายที่ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเป็นของตัวเองเลย งานดีไซน์แบบครึ่งๆกลาง จะสวยก็ไม่สวย จะขี้เหร่ก็ยังไม่ใช่ เครื่องยนต์เคยทนทานในรุ่นก่อนๆ แต่ทุกวันนี้เริ่มได้ยินเสียงบ่น ศูนย์บริการเยอะมาก อะไหล่หาซื้อได้ทั่วไป ตามร้านขายของชำใกล้ๆบ้าน มีทั้งแท้ เทียบ เทียม ทำเอง มือหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า และทะลึ่งขายดีที่สุดในตลาด ซึ่งใน vios รุ่นล่างๆที่เล็งไว้นั้นคุ้มค่าพอสมควร เมื่อเทียบราคา ออฟชั่น และส่วนลดเงินสด สมรรถนะความปลอดภัยและความสบาย ในระดับที่พอใจ จึงให้ผ่านเข้ารอบมาก่อน
-
4. Honda city มาเป็นเต็งหนึ่ง สด ใหม่ ประหยัด เทคโนโลยีล้ำสมัย ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ อัตราเร่งและความร็วสูงสุดทำได้ดีมาก งานดีไซน์ล้ำเลิศ เป็นรถที่รอคอยมานานแสนนาน เฝ้าติดตามข่าวสาร และคิดว่ารถคันนี้คงต้องมาจอดอยู่ที่โรงรถของผม ตั้งแต่ยังแห็นแค่ภาพกราฟฟิค แต่พอเห็นคันจริงแล้ว โอโหมันสวยมาเลย(เหรอ) หน้าเล็กๆ ตูดบวมๆ ดูแล้วไม่ค่อยสมส่วน แถมด้วยทางผู้ขายไม่ง้อลูกค้าอีกต่างหาก จะซื้อไม่ซื้อก็ไม่เครียด คุณหนูไฮโซซะอย่าง เนอะ แต่มันก็ยังคงเป็นเต็งหนึ่งสำหรับผมอยู่ดี
-
สุดท้าย ตัวเลือกที่เหลือก็เป็นแค่ vios และ city จึงเริ่มต่อรองขอส่วนลดจากเซลล์ และศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด สรุปมาได้ว่า City นั้นเหมือนจะไม่ค่อยอยากขายผมซักเท่าไหร่เพราะหยิ่งซะเหลือเกิน ให้ของแถมกิ๊กๆก๊อกๆมานิดหน่อยรวมๆแล้วไม่กี่พันบาท ซึ่งผมไม่เอาอยู่แล้ว จะเน้นเป็นของแถมที่จำเป็นจริงๆ ที่เหลือเป็นส่วนลดเงินสดทั้งหมด เพราะอย่าลืมว่า โจทย์หลักของรถคันนี้คือความคุ้มค่า
ส่วนvios นั้นราคาตั้งขายถูกกว่า city 2หมื่น แถมประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟิล์ม กันโขมย และส่วนลดเงินสดอีก 3 หมื่นกว่าบาท รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น ประมาณเจ็ดหมื่นว่าบาท(เพื่อนผมเป็นเซลล์) ที่สำคัญ ในรุ่นล่างรถทั้งสองคันนี้ vios ให้ Abs มาแต่ city ไม่มี เนื่องจากไม่คอยอยากขายเท่าไหร่ แล้วทำไมผมต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีก เจ็ดหมื่นบาท เพื่อได้รถที่สวยกว่า(เหรอ) ประหยัดกว่านิดหน่อย แรงกว่านิดหน่อย และไม่มี ABS 555 จะดีเหรอ สู้ผมเก็บเงินจำนวนนี้ไว้เติมน้ำมันได้อีกเกือนๆสองปีเลยนะนั่น
-
และแล้ว ผมก็เลือก Toyota vios ที่ศูนย์บริการปากซอยบ้านผม จองไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็ได้รถ แล้วก็ใช้มันมาจากวันนั้นมาถึงวันนี้เป็นระยะเวลาสามเดือน พอดี เป็นระยะทางตามที่เห็นในรูป
-
ใช่แล้วครับคุณมองไม่ผิดหรอก ผมใช้รถตกแล้วประมาณเดือนละ 4 พันกว่ากิโลเมตร นั่นแหละครับเป็นเหตุที่ผมต้องมองความคุ้มค่า และความทนทาน มาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งรถคันนี้สามารถตอบโจทย์ผมได้ครบกว่าคันอื่นๆ และก็มีคุณงามความดีพอสมควรที่จะมารายงานให้ได้รับทราบกัน
-
Vios รุ่นที่ผมเลือกเป็นรุ่น J/AT ABS เนื่องจาก แพงกว่ารุ่นต่ำสุดหมึ่นเดียว แต่ได้ ABS ซึ่งเงินจำนวนนี้ผมคงไม่มีปัญญาไปซื้อ ABS มาใส่เองเป็นแน่ และยังใจดีให้ล้อกระทะพร้อมฝาครอบ 15 นิ้วมาอีกต่างหาก ส่วนที่ด้อยกว่ารุ่น E คือ ไม่มี กระจกไฟฟ้า ล้อแม็ก และกันขโมยของโตโยต้า ซึ่งต้องจ่ายเพิ่มอีก 4 หมึ่นกว่าบาท
กระจกแบบปรับเองนี่แหละที่ผมชอบกว่าแบบกดปุ่มสวิตซ์ควบคุม เพราะรถคันนี้ผมขับอยู่คนเดียว ปีนึงจะปรับซักที เลยไม่รูจะมีปรับไฟฟ้าไว้ทำไม แถมข้อดีของมันคือ ไม่พังง่ายๆอีกด้วย
-
ที่เก็บสัมภาระด้านหลัง กว้างใหญ่พอสมควรแล้ว ถ้าใหญ่กว่านี้สำหรับผมถือว่าเริ่มไม่สมควร ใส่สัมภาระได้มากอยู่เวลาต้องเดินทางไกล แต่อันนี้ผมเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบอะไรมากมายกับมัน เพราะไม่มีของอะไรที่จะใส่เยอะแยะเวลาเดินทาง และหากผมมีความจำเป็นที่จะต้องบรรทุกของเยอะกว่าปริมาณความจุที่รถคันนี้จะให้ได้ ไม่ต้องลังเลเลยครับ ผมซื้อระกระบะไปแล้ว
-
อีกสิ่งที่สร้างความสบายขณะขับขี่ได้ดีพอควรคือ ที่พักแขน พร้อมกล่องเก็บสัมภาระ ช่วยได้ดีในตอนเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อผ่อนคลายขณะขับขี่ และมันมาให้ตั้งแต่ในรุ่น J !!!
-
เครื่องยนต์ 1NZ-FE ตัวเดียวกับรุ่นก่อนหน้า แต่ใช้คันเร่งไฟฟ้าเพื่อลดต้นทุน และทำให้หงุดหงิดได้พอสมควร ขณะอยากเร่งแซงกระทันหัน แต่ส่วนตัวผมเวลาขับก็ไปเรื่อยๆชิวๆ ไม่ได้รีบร้อนมากกมาย ไม่ต้องการ 0-100 ภายใน 3 วินาที กับรถถูกๆแบบนี้ จึงแก้ปัญหาคันเร่งด้วยการปรับตัวเข้าหามันในวันแรกๆ แล้วมันก็ไม่เคยมีปัญหาอีกเลย
ส่วนเรื่องความประหยัดก็ทำได้ดีพอควร ในทางนอกเมือง อยู่ที่ 15-16 กม/ลิตร ไม่ต้องถามในเมืองเพราะผมแทบจะไม่เคยขับในเมืองเลย และอัตราสิ้นเปลีองก็วัดแค่ไม่กี่ครั้งตอนออกรถมาใหม่ๆ เพราะไม่รู้จะวัดอีกทำไม วัดไปก็ต้องเติมน้ำมันเหมือนเดิม
-
ปาดดดดเลยล่ะกัน
-
ล้อกระทะ 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ ข้อดีถ้าขับไปเบียดฟุตบาทก็เปลี่ยนฝาครอบได้เลยราคาไม่กี่บาท มันก็สวยกว่าแบบไม่มีฝาครอบนิดเดียว แต่ผมวางแผนไว้ว่า เมื่อใช้จนหมดอายุยางแล้วคงเปลี่ยนทั้งล้อเและยาง เป็นล้อแม็กซ์ที่มี เส้นรอบวงเยอะกว่าเดิมนิดหน่อยนั่นแหละครับ
-
ช่วงล่าง ก็ธรรมดางั้นๆ เกาะถนน พอให้รู้ว่านี่คือรถเก๋งบ้านๆ ไม่ใช่รถแข่ง world granprix ไม่ต้องอัดโค้งแคบๆ ที่ 170 กม/ชม แค่รู้จัก แรงบ้างเบาบ้างตามสภาวะถนน แค่นี้ก็ขับขี่ได้บทางหลวงทุกเส้นของประเทศไทยแล้วครับ
ความสูงของรถก็สูงพอสมควร เวลาเจอถนนไม่ดี ก็พอผ่านไปได้ และคงไม่มีการติดเสกิร์ตชุดแต่ง ให้ไปขูดถนนใต้ท้องรถแน่นอน เพราะผมคิดว่าการเสียสตางค์ซื้อเสกิร์ตมาขูดกับถนนเพื่อความความสวยงาม(เหรอ)นั้น เอาเงินเก็บไว้เติมน้ำมัน วิ่งไปทำงานได้อีกนานโข
-
ภายในของรุ่นถูกสุดเป็นสีดำล้วนๆ ซึ่งให้อารมณ์สปอร์ตได้ดีเวลาขับ อันนี้ถือเป็นโชคดีที่ได้มา เพราะพลาสติกรีไซเคิล สีดำ ทำให้มันดูดีกว่า พลาสติกรีไซเคิล สีครีม เป็นไหนๆ
-
เบาะนั่งด้านหลัง นั่งสบายพอควร สำหรับผู้ใหญ่สองคนของบ้านผม เพราะท่านตัวไม่สูง จึงไม่ต้องคิดมากเรื่องความสูงห้องโดยสาร และนานๆจะนั่งสักครั้ง เพียงขอให้แอร์เย็น และนั่งสบายกว่ารถกระบะก็พอแล้ว แต่ส่งที่น่าตำหนิที่สุด คือความแข็งของเบาะที่ทำให้เกิดความเมื่อล้า ขณะเดินทางได้พอสมควร และการจัดตำแน่งของ Ergonomic บริเวณเบาะคนขับ ที่ปรับยังไงก็ไม่สบายเอาเสียเลย ในตอนแรก ทุกวันนี้รู้สึกน้อยลง ไม่ใช่เพราะเบาะนิ่มขึ้น แต่เพราะปวดหลังจนชิน
-
การไม่มีไฟตัดหมอกหน้า-หลังแถมมาให้รุ่นนี้ ถือว่าเป็นข้อดีอย่างยิ่ง เพราะทำให้ไม่ต้องเผลอเปิดวิ่งตอนกลางคืน ไปแยงตาชาวบ้าน ให้เพื่อนร่วมทางท่านอื่นด่าพ่อแม่ ที่บ้าน หรือวิญญาณที่ล่วงลับของบรรพบุรุษ ที่นอนสงบ ให้สะดุ้งสะเทือน จากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของลูกหลาน ซึ่งหากจะติดเพิ่มเซล์ก็แถมให้ แต่ผมเลือกที่จะเอาเป็นอย่างอื่นมากกว่า
-
**สรุป รถคันนี้ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปเพื่อ ซื้อมันมาทำมาหากิน และพอเพียงตามอัตภาพ ไว้คันต่อไปที่ผมจะซื้อในช่วงปลายปีนี้ จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ทางสังคม โจทย์จะเปลี่ยนไปจากนี้แน่นอน โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
สวัสดาคริบ
-
อืมม ความแตกต่างของคำว่า REVIEW และ วิจารณ์ น่าจะพอได้ความรู้สึกจากกระทู้นี้
ชอบครับ เขียนได้ตรง และแรง อย่างน้อย เวลาไปลองรถคันอื่่น จะได้รู้่ว่าเวลานั่งนาน ๆ
จะปวดหลังเหมือนกันไหม?????
ขอบคุณอีกครั้งครับ ::)
-
นึกว่าจะมีแต่ผมที่นั่งเบาะตัวนี้แล้วเมื่อย อย่างน้อยก็มีเพื่อนแฮะ
Vios ภายในดำๆแบบนี้กลับดูสวยขึ้นนะครับ คอนโซลมันจริงๆก็สวยอนาคตดีเหมือนกัน
ผมยังชอบสไตล์การออกแบบด้านข้างของมันอีกด้วย โดยเฉพาะประตูหน้ากับหลัง
แค่ไม่ชอบด้านหน้าเท่านั้นเลย
ถึงผมจะจบที่ Tiida แต่บางอย่างที่ Vios มี ผมก็อยากให้มีในรถผมเหมือนกัน
มันเป็นความแน่นอนของการที่ไม่มีรถใดตอบความต้องการได้ครบทุกอย่างมั้งครับ
-
อ่านสนุกดีครับ
1. เห็นลักษณะการใช้งาน และคอนเซ็ปต์การซื้อรถแล้ว คิดว่า รถคันนี้ ขาดไปอีกอย่างนึงนะครับ
" ระบบแก๊ส LPG " ครับ ดีเลยครับ ท้ายรถกว้างๆ แต่ไม่ได้ใช้เต็มที่ จะได้ใช้
2. ที่ว่า นั่งขับแล้วไม่สบาย ปวดหลัง ช่วยบรรยายอีกนิดครับ
- สูงเท่าไหร่ครับ
- ช่วงแขนเวลาจับ/สาวพวงมาลัย ยืดแขนตึงเกินไปหรือไม่
ถ้าใช่ จะมีอาการปวดหลังช่วงกลางๆ อันนี้ น่าจะเพราะน้ำหนักท่อนแขนที่ยื่นไปข้างหน้า มันถ่วงมากเกินไป
แนะนำให้ปรับเก้าอี้เข้ามาใกล้ หรือปรับพนักพิงให้ตั้งชันขึ้นอีกนิด
ถ้าไม่ใช่ ขอรอฟังอาการปวดหลังบริเวณอื่นครับ ว่า อยู่ช่วงไหน?
-
อ่านสนุกดีครับ
1. เห็นลักษณะการใช้งาน และคอนเซ็ปต์การซื้อรถแล้ว คิดว่า รถคันนี้ ขาดไปอีกอย่างนึงนะครับ
" ระบบแก๊ส LPG " ครับ ดีเลยครับ ท้ายรถกว้างๆ แต่ไม่ได้ใช้เต็มที่ จะได้ใช้
2. ที่ว่า นั่งขับแล้วไม่สบาย ปวดหลัง ช่วยบรรยายอีกนิดครับ
- สูงเท่าไหร่ครับ
- ช่วงแขนเวลาจับ/สาวพวงมาลัย ยืดแขนตึงเกินไปหรือไม่
ถ้าใช่ จะมีอาการปวดหลังช่วงกลางๆ อันนี้ น่าจะเพราะน้ำหนักท่อนแขนที่ยื่นไปข้างหน้า มันถ่วงมากเกินไป
แนะนำให้ปรับเก้าอี้เข้ามาใกล้ หรือปรับพนักพิงให้ตั้งชันขึ้นอีกนิด
ถ้าไม่ใช่ ขอรอฟังอาการปวดหลังบริเวณอื่นครับ ว่า อยู่ช่วงไหน?
สวัสดีครับ คุณ P_wut
ตอบนะครับ
1.เรื่องก๊าซ LPG เท่าที่คำนวณดูแล้ว การลงทุนติดตั้งจะใช้จุดคุ้มทุนนานมาก ในสภาวะท่ราคาน้ำมันยังผันผวนอยู่แบบนี้ และความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่ส่งผลต่อเวลาของผม ชั่งน้ำหนักแล้ว ไม่คุ้มครับ ใช้สัก 5 ปีก็คงขายแล้ว ไม่แน่ถ้า 2-3 ปีหน้า eco car ตอบโจทย์ผมได้ตรงกว่านี้ ก็อาจเปลี่ยนไปใช้แบบนั้นก็เป็นได้ครับ
2.เรื่องเบาะนั่ง ผมสูงเกือบๆ 170 เองครับเป็นคนตัวไม่ใหญ่ จากการสังเกตุดูนะครับ เมื่อผมปรับเบาะเพื่อวางขาได้อย่างสบายขณะขับขี่ ผมจะต้องยืดแขนไปข้างหน้าจนสุดหรือไม่ก็นั่งตัวตรงมากเกินไป จนเมื่อย
และถ้าปรับให้มันพอดีกับแขน ผมก็จะเมื่อยขา เพราะมันต้องชันเข่า มากเกินไปนั่นเอง
ลองปรับมาทุกแบบแล้ว สบายสู้คันอื่นๆไม่ได้เลย รถที่ผมขับแล้วสบายที่สุดเห็นจะเป็น Citroen CX20 น่ะครับ
-
ยินดีด้วยครับ สำหรับรถใหม่
-
ทำรีวิวได้เยี่ยมเลยครับ อ่านแล้วสนุกดี เพลินๆ
ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิวดีๆอย่างนี้
-
User Report จริงๆ อ่านแล้วก็สนุกดี ;D
-
รีวิวสนุกดีครับ
-
ขอบคุณครับ
เหตุผลในการซื้อรถของคุณดีจังครับ ไม่เหมือนบ้านผม >:(
ถูกใจให้ Give ครับ ;D
-
ไมล์ New vios ที่บ้าน กว่าจะวิ่งได้อย่าง จขกท. ก็ปาไปปีครึ่งแล้วครับ :D
เอาไว้จ่ายตลาดครับ
คุ้มค่าครับ ราคานี้
ข้อเสีย
1. โหลมากๆ จอดรถในลานที เลือกไม่ถูกคันเลย
2. นั่งไม่สบายเหมือนกันครับ โดยเฉพาะปีกเบาะซึ่งบีบตัวเข้ามากไป เมื่อยน่อง เบาะตรงที่รองนั่งสั้น
3.เข้าโค้งไม่เคยมั่นใจเลย ถ้าคุณเหยียบเกิน 120
4.เสียงครางของเครื่องยนต์ ขณะกดคันเร่งช่วงรอบต้นๆ รำคาญมาก >:(
-
สวัสดีครับ คุณ P_wut
ตอบนะครับ
1.เรื่องก๊าซ LPG เท่าที่คำนวณดูแล้ว การลงทุนติดตั้งจะใช้จุดคุ้มทุนนานมาก ในสภาวะท่ราคาน้ำมันยังผันผวนอยู่แบบนี้ และความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่ส่งผลต่อเวลาของผม ชั่งน้ำหนักแล้ว ไม่คุ้มครับ ใช้สัก 5 ปีก็คงขายแล้ว ไม่แน่ถ้า 2-3 ปีหน้า eco car ตอบโจทย์ผมได้ตรงกว่านี้ ก็อาจเปลี่ยนไปใช้แบบนั้นก็เป็นได้ครับ
อู้ยยย ขับ 3 เดือน ปาไป 12,000 โล เท่ากับเดือนละ 4,000 โล หรือเฉลี่ยวันละ 133 โล ติด LPG แล้วคุ้มสุดๆ เลยนะครับเนี่ย แค่ 7-8 เดือนก็คุ้มค่าติดตั้งแล้วล่ะครับ
แต่ถ้าไม่ลำบากเรื่องค่าน้ำมัน ก็ไม่เป็นไรครับ ยังไงๆ รถเดิมๆ ก็ย่อมดีกว่ารถดัดแปลงครับ
2.เรื่องเบาะนั่ง ผมสูงเกือบๆ 170 เองครับเป็นคนตัวไม่ใหญ่ จากการสังเกตุดูนะครับ เมื่อผมปรับเบาะเพื่อวางขาได้อย่างสบายขณะขับขี่ ผมจะต้องยืดแขนไปข้างหน้าจนสุดหรือไม่ก็นั่งตัวตรงมากเกินไป จนเมื่อย
และถ้าปรับให้มันพอดีกับแขน ผมก็จะเมื่อยขา เพราะมันต้องชันเข่า มากเกินไปนั่นเอง
ลองปรับมาทุกแบบแล้ว สบายสู้คันอื่นๆไม่ได้เลย รถที่ผมขับแล้วสบายที่สุดเห็นจะเป็น Citroen CX20 น่ะครับ
ปัญหาเหมือน Altis โฉมที่แล้วเลย ถ้าขาพอดี ต้องเหยียดแขนสุด ถ้าปรับให้แขนพอดี ขาจะงอ
รุ่นนี้ ปรับพวงมาลัยยืด-หดไม่ได้ด้วย ไม่เหมือน Altis ใหม่ที่ยืด-หดได้ แก้ไขได้ดีขึ้น
ขอฝากรูปชุดนี้ไว้ครับ ไม่รู้ว่า เคยเห็นมั้ย ถ้าเห็นรูปชุดนี้ซะก่อน ตอนนั้นอาจจะซื้อ Tiida 4 Dr สีขาว พร้อมชุดแต่งแบบนี้หรือเปล่าครับ ???
(รูปทั้งชุดนี้ จากกระทู้รีวิว Tiida ของคุณ J!MMY ในรัชดาครับ)
-
คุณ LTK ชื่อเล่นคุณชื่อ ลิง รึเปล่า จบจากเทพศิรินทร์ ใช่มะ หน้าคุ้นตามากๆ เหมือนเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน
-
ตา LTK ชื่อ เบสต์ ครับ
ขอบอกว่า User Report งวดนี้ กวนส้นเท้า ตามสไตล์เจ้าตัวเค้าจริงๆ
อ่านแล้ว รู้สึกว่า คนโตโยต้า จะโดนกัดเละในหลายๆดอก ฮ่าๆๆๆๆๆ
แต่ ก็พูดอย่างที่เคยพูดไว้ในรีวิว วีออส (ซึ่งตอนนี้ ผมก็จับยกเข้าเว็บ Headlightmag ของเราไปเรียบร้อยแล้ว)
ว่า เบาะนั่งคู่หน้า มันปวดหลังเอามากๆ นั่งไม่สบายเลย รถรุ่นเก่ายังดีซะกว่า
-
แจ่มครับ
-
ตอนอยู่เทพฯ เพื่อนเรียกผมว่าลิงครับ ตามลักษณะนิสัยถาวร บางอย่าง
ถ้าเดาไม่ผิด คุณ tony นี่คงเป็น ไอ้เบิ้ม เพื่อนรักผมแน่นอน
ถ้าใช่ก็ติดต่อมาตามเมลล์กูนะ [email protected]
สบายดีมั๊ยมึง มีอะไรก็มาหากูได้เสมอนะ
คิดถึงสมัยอยู่เทพฯ คิดถึงเพื่อนๆ ..
-
โอ้ได้เจอเพื่อนสนิทกันในนี้ด้วย ยินดีด้วยครับ :o
review ได้ น่าติดตามมากครับ ชอบคอนเซ็บการเลือกรถของพี่มากครับ อยากให้ สิ่งศักสิทธิ์ที่เคารพบูชาที่บ้าน(คุณพ่อ) เข้ามาอ่านบ้าง
ปล. ถามนิดนึงครับ ซื้อมาคันละเท่าไรครับแล้ว ถ้าผ่อนนี้เขาคิดดอกเบี้ยเท่าไรครับ ขอบคุณ๕รับ
-
มีแนวคิดในการซื้อรถที่ตอบโจทย์ตัวเองได้อย่างครบถ้วนทีเดียวครับ น่าชื่นชมจริงๆ ผมชอบแนวความคิดที่เป็นของตัวเองและสร้างสรรค์แบบนี้มากๆครับ
แนวการเขียนก็ได้อารมณ์ดีครับ ชัดเจนสำหรับคนใช้รถมากทีเดียว มีจิก มีกัดพอหอมปากหอมคอ อ่านแล้วสนุกดีครับ.........รอชม คันที่จะตอบโจทย์เรื่องฐานะทางสังคมครับ คงจะมีแนวคิดอีกแบบให้ได้อ่านกัน ;D ;D ;D
-
ขอบคุณครับ ตอบได้สุดยอดจริงๆครับ
-
ขอบคุณ สำหรับ User Report
สำหรับ vios รุ่นใหม่ ก็เป็นอีกคันที่ผมอยากได้อะคับ
แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าเบาะเมื่อย ทำให้ปวดหลัง คงขอบาย
ไปซบอก honda
ผมชอบในรายละเอียดของรุ่น J ตัวนี้นะครับ ให้มาครบ ๆ กันเลย
ประหยัด และคุ้มค่า แต่ทำให้มันไม่เมื่อยได้ปะเนี่ยคับ
หรือผมจะต้องไปรัชดาบ่อย ๆ เหอะ ๆ
-
ในวีออสโฉมนี้
สิ่งที่ผมไม่ชอบในความรู้สึกส่วนตัวเป็นอย่างยิ่ง
ก็คือผิวสัมผัสของเจ้าวัสดุพวงมาลัยเนี่ยแหละครับ
-
วีออสรุ่นนี้ผมว่าไม่ใส่สเกิตแล้วมันดูโล่งๆนิดนึง เซลเค้าก็แถมให้นะครับหรือถ้าไม่เอาก็เอาไปหักเป็นส่วนลดน่าจะได้ วีออสของแถมส่วนลดเพียบครับตอนนี้ ฮอนด้าแน่นอนครับไม่ค่อยง้อลูกค้าของแถมส่วนลดน้อยมาก
-
vios โฉมนี้ผมก็ใช้อยู่ครับ เกือบ2ปีแล้ว
ข้อดีมันเหมือนข้อเสียแหละครับคือเรื่องพวงมาลัย
มันเบาที่ความเร็วต่ำ แต่มันก็เบาทั้งความเร็วสูง
ขับในเมือง เวลาจอด เวลาซอกแซก ง่ายมากๆ
แต่เวลาขับนอกเมืองก็ต้องตั้งสติดีๆ วูบไม่ได้เลย
ถูกใจประโยคที่ว่า ใช้รถไว้ทำมาหากินมากครับ
ดู Self มากๆ