FF = Fron Engine, Front Wheel Drive หมายถึงรถที่วางเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้าตัวรถ แล้วใช้การขับเคลื่อนจากล้อหน้าค่ะ เช่นรถยนต์นั่งที่ขายในบ้านเราเกือบทั้งหมด ข้อดีคือ ประหยัดต้นทุน โครงสร้างง่ายๆ ไม่ซับซ้อน พื้นที่ห้องโดยสารมีมากกว่าแบบอื่นค่ะเพราะไม่ต้องหลบเพลาหลัง และเกิดอาการท้ายปัด (oversteer) ได้ยาก เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ข้อเสียคือ อาการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์มาถึงห้องโดยสารได้ง่าย อัตราเร่งและการถ่ายเทน้ำหนักที่ยังเป็นรองรถขับเคลื่อนล้อหลัง และเกิดอาการดื้อโค้ง (understeer) ได้ง่ายเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เราจึงไม่ได้เห็นซูเปอร์คาร์รุ่นไหนที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า นอกจากนี้ยังเรียกว่า FWD (Front wheel drive) ซึ่งหลายคนยังสับสนคิดว่า FWD คือ Four Wheel Drive
FR = Front Engine, Rear Wheel Drive หมายถึงรถที่วางเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้าตัวรถ แล้วใช้การขับเคลื่อนจากล้อหลัง ซึ่งจะถ่ายทอดแรงบิดและแรงม้าจากเครื่องยนต์ลงสู่ล้อหลังได้มากกว่า ถ่ายเทน้ำหนักได้ดีกว่ารถขับเคลื่อนล้อหน้าแต่มีข้อเสียคือห้องโดยสารจะแคบกว่ารถขับเคลื่อนล้อหน้า เพราะต้องหลบเพลาหลัง และจะเกิดอาการท้ายปัด (oversteer) ได้ง่ายกว่ารถขับเคลื่อนล้อหน้า รถที่เป็น FR ได้แก่รถนั่งระดับหรู รถสปอร์ต ซูเปอร์คาร์ รถ SUV และรถกระบะในบ้านเราค่ะ
MR = Mid Engine, Rear Wheel Drive หมายถึงรถที่วางเครื่องยนต์ไว้กลางตัวรถ ค่อนไปทางด้านหลัง แต่ยังอยู่ตำแหน่งหน้าเพลาของล้อหลัง ข้อดีของรถประเภทนี้คือ ระบบส่งกำลังจะทำงานได้ดีมาก โดยสูญเสียกำลังจากเครื่องยนต์ลงสู่ล้อหลังน้อยมาก ไม่ค่อยมีอาการดื้อโค้งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ถ่ายเทน้ำหนักได้ดี ข้อเสียคือ เกิดอาการท้ายปัดได้ง่ายเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เสียงดังและมีอาการสั่นสะเทือนค่อนข้างมาก พื้นที่ห้องโดยสารแคบ สังเกตว่ารถที่วางเครื่องยนต์กลางลำแทบจะไม่มีรุ่นไหนเป็น 4 ประตูเลย ทั้งนี้ยังนับรวมรถที่วางเครื่องยนต์กลางลำแต่มีการต่อเพลาไปยังล้อหน้าด้วยเป็นขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งพบในซูเปอร์คาร์บางรุ่น รถ MR ได้แก่รถสปอร์ตและซูเปอร์คาร์ทั้งหลาย เช่น Toyota MR2, Ferrari 458, Lamborghini Murcielago, Bugatti Veyron
4WD, AWD = คืออันเดียวกันค่ะ (all wheel drive) หมายถึงรถที่วางเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้า แล้วใช้การขับเคลื่อนจากล้อทั้งสี่ ข้อดีคือถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ลงสู่ระบบขับเคลื่อนได้ดีมาก เพราะมีแรงดึงจากทั้งล้อหน้าและล้อหลัง มีประสิทธิภาพในการวิ่งบนพื้นผิวถนนขรุขระ เกิดอาการท้ายปัดได้ยากเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ข้อเสียคือดื้อโค้งง่าย พท้นที่ห้องโดยสารแคบ เพราะต้องหลบเพลาหลัง และตัวรถมีน้ำหนักมาก นอกจากนี้ยังแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 4WD full time คือรถขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ซึ่งมีในรถยนต์นั่งสมรรถนะสูงและรถสปอร์ตรวมถึงซูเปอร์คาร์บางรุ่น เช่น Nissan GT-R, Mitsubishi Lancer Evolution, Audi RS6 Quattro และแบบ 4WD part time คือขัเคลื่อนสี่ล้อแต่เปลี่ยนโหมดเป็น FR ได้ เช่นรถ SUV และรถกระบะ
ปล. ผิดพลาดยังไงขออภัยค่ะ เพราะเข้าใจมาแบบนี้