มาถึงก็ถามปัญหาเลย ... 5555
ก่อนผมจะเล่าประสบการให้ฟัง ผมขอแนะนำเบื้องต้นก่อนเกี่ยวกับปัญหาของรถนะครับ
ปัญหาของรถที่คุณเคยไม่ยิน ได้ฟัง ไอ้อ่าน เขาเล่าว่า บลาๆ นั้นเกิดขึ้นจริง แต่ในเคสนั้นๆไม่ใช่ว่าทุกคนที่ขับมาสด้าจะต้องเจอครับ ...
ปัจจัยหลักนั่นก็คือพฤติกรรมการใช้งานของเจ้าของรถที่แตกต่างกันด้วยดังนั้น ผมจะเล่าจากประสบการที่ผมใช้มาสด้ามาตั้งแต่ปี 2010 จนปัจจุบันไล่ตามรุ่นดังนี้ครับ
ปี 2010 ผมออก มาสด้า 3 (BK ปี 2010 ) ปัญหาตัวรถตลอดที่ใช้ 3 ปีในระยะประกัน ไม่มีปัญหาใดๆเลย เนื่องจากระบบไฟฟ้าน้อยด้วยมั้งครับ และหลังจากนั้นก้ซ่อมบำรุงตามการเสื่อมสภาพของรถทั่วไป
ปี 2010 ผมออก มาสด้า 2 (ออกพร้อมมาสด้า3 ) ตัวนี้ก้เช่นกัน ไม่เคยพบปัญหาอะไรเลย แต่รถคันนี้คุณพ่อผมใช้ ปัจจุบันยังใช้งานอยู่ maintenance โดยการเข้าศูนย์มาตั้งแต่ป้ายแดง ..
ปี 2012 ผมออก BT50 PRO 4 ประตู เกียร์ AT รุ่นนี้ใครๆที่ออกมาบอกท่อ inter แตกกันเยอะ แต่ผมไม่เคยแตก ยังใช้อยู่จนปัจจุบัน ปัญหาที่เจอคือซีลเกียร์รั่ว แต่ศูนย์เปลี่ยนให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ปี 2015 ผมออก มาสด้า2 SKYACTIV-G 1.3 ลิตร (ปัจจุบันยังใช้อยู่ ผมรีวิวไว้ในบอร์ดด้วย) ปัญหาที่เจอ เบาะหนังที่นั่งมันหลุดออกจากโครง แค่นั้นแหละ เข้าศูนย์แก้ปัญหาได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ปี 2019 ผมออก มาสด้า 3 โดยขายตัว BK ไป ปัญหารถที่หลายคนพูดเรื่องปั๊มติกหรืออะไร ผมยังไม่เจอ ตอนนี้รถวิ่งได้ 3 หมื่นกิโลแล้ว
ส่วนประสบการเรื่องศูนย์บริการที่หลายๆคนบอกว่าแย่ แต่ผมใช้มาตลอด 10ปี ไม่เคยเจอว่าแย่ มีแต่ประทับใจเกินกว่าที่คาดหวังเสียด้วยซ้ำ ...
รถมาสด้าเป็นรถที่ถ้าคุณรักการขับเดิมๆ คือมันจบที่สุดแล้ว ทุกคันที่ผมกล่าวมา ผมขับเดิมหมด มี BT50 pro เท่านั้นที่ผมใส่ล้อแม็ค
ปัญหาบางปัญหาที่พูดกัน บางครั้งศูนย์แก้ปัญหาได้ คนที่พูดถึงปัญหาก็ไม่เคยมาโพสแก้ให้หรอกครับว่า ศูนย์แก้ให้หายแล้ว พอคนมาอ่าน ก็จะจดจำพูดกันไปเรื่อยๆ
เพื่อนผม ที่สนิทกันทั้งในที่ทำงานและเพื่อนบ้าน ที่ออกมาสด้าตามคำแนะนำของผม ไม่เคยเจอปัญหาเหมือนที่คุยกันใน net เลย รวมถึง CX5 ดีเซลปี 2018 ที่ผมแนะนำให้อาจารณ์ที่สนิทกันซื้อใช้ยามเกษียณ ทุกวันนี้ก็ยังใช้งานได้ดี เข้าศูนย์ตามระยะ ก็ไม่เคยเจอปัญหาอะไรครับ ... มีแต่โทรมาถามว่าจะออก CX8 ดีเซลใช้อีกเมื่อเดือนก่อนนี้เอง
เป็นแฟน Mazda ใช้รถคล้ายๆกันเลยครับ
ผมเริ่มใช้ Mazda ก็คือเจ้า 3 ตัว BK 2.0 Sedan ไม่เคยเจอปัญหาหนักๆ
เจอแต่ซีลสีเงินที่ไว้กันความร้อนของท่อไอเสีย ใต้ตัวรถขาด ก็เปลี่ยนไป
แล้วคันที่ 2 ก็ Mazda 3 ตัว BM Top HB ก็เจอปัญหาบ้าง
เช่น เอารถไปชนมา รออะไหล่รอซ่อมนานมากๆ ตอนนั้นจำได้
หลังจากไปเอารถไปให้ศูนย์ดูเพื่อสั่งอะไหล่ไว้ก่อน
กว่าจะได้เข้าซ่อมจริงก็ 3-4 เดือนเลย นานโคตรๆ
แล้วก็มีเคลมระบบ Infotainment ดับๆติด
กับเข้าไปอัพ Firmware เรื่องระบบจ่ายน้ำมัน แต่รถก็ยังไม่เคยดับ หรือน๊อคนะครับ
แล้วก็เรื่องเก็บเสียง รุ่นนี้ห่วยแตกมากมาย ยิ่ง 90-100 เสียงยางเสียงพื้นถนนเข้ามาเต็มๆ
แล้วก็คันล่าสุดเป็น CX-5 2.0 SP ใช้มา 3หมื่นแล้วยังไม่เคยดับ ศูนย์เรียกไปเคลมปั๊มติ๊กแล้ว
กับมีปัญหาไฟเครื่องขึ้น แล้วเครื่องสั่นกำลังตก เข้าศูนย์แก้แล้วหาย ไม่ได้เป็นจากปั๊มติ๊กที่เคลมไปแล้ว ตัวรถอะขับดีมาก ถ้าเทียบกับ CRV G4 ที่ใช้อยู่ด้วย เครื่องเสียงสำหรับผมก็พอเพียงมากๆ
เรื่องการเก็บเสียงทาง Mazda พัฒนาไปดีมาก จากแต่ก่อนรถ Mazda เก็บเสียงห่วยมากมาย
แต่ตอนนี้ถ้าถามว่าจะซื้อ Mazda อีกไหมบอกเลยคิดหนักมาก จากเจอเรื่องที่ Mazda ฟ้องผู้บริโภค
กับปัญหาเรื่องศูนย์ไม่ยอมให้ถ่ายน้ำมันเกียร์ โดยอ้างว่า Life time แต่ตัวเกียร์มันไม่ได้ Life timeนะ
ทางเราถ้าอยากใช้รถนานๆ ก็อยากจะถนอมมันให้เยอะที่สุด ยิ่งบ้านเราฝนตกบ่อยมีน้ำท่วมขัง ฝุ่นเยอะ
รถติดหนัก น้ำมันเกียร์ Life time มันจะสู้ได้ยังไง ยี่ห้ออื่นไม่ถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆยังพังเลย
แล้วก็เรื่องปั๊มติ๊กนี้ก็นะ รับรถปีใหม่ๆแล้ว ยังเป็นอีก ไม่คิดจะปรับปรุง ไลน์การผลิตเลยหรือไง
แล้วเครื่องดีเซลนี้ก็ไม่แก้ให้จบ มัวแต่บอกว่าของใหม่ แก้แล้วๆ ทำไมยังมีคนบอกว่าเจอน้ำดันอยู่ล่ะ
พวกรุ่นเก่าๆ เคลมแล้วก็ดันได้อีก การแก้ปัญหาห่วย ทำรถตัวเองมือ2 ราคาตกลงไปอีก
สรุปตอบเจ้าของกระทู้ว่า Mazda ไม่ได้เป็นรถที่จุกจิกอะไรมากมาย อย่างที่พูดๆกันอะครับ
แต่ศูนย์กับการแก้ไขปัญหาของ Mazda ไทย เวลารถมีปัญหา ยังต้องปรับปรุงอีกมากๆๆๆ ถ้าอยากจะขายรถให้ได้มากกว่านี้
ถามจริงๆเถอะ ถ้า CX-5 ทำทนๆถึกๆพอๆกับ Toyota Optionมากมาย ศูนย์ช่วยแก้ไขปัญหาได้ดี
กับ CRV Optionโล้นๆ เอากำไรคนไทยเยอะๆ เพราะถือว่าตัวเองเป็นเจ้าตลาด การขับขี่ก็งันๆ CRV จะยังขายดีเหมือนตอนนี้ไหม