สมมติผมบอกว่า หลายตัวผมจับลงแล็บเทสต์ UOA แล้ว น้ำมันเครื่องบ้านๆ หลายยี่ห้อ
ที่กูรูส่วนใหญ่ก็จะพูดว่า มันต้องใส่ VII มาเยอะ แน่ๆ อย่างมากก็ดี+ลื่นแค่ช่วงต้น ฯลฯ
แต่ปรากฏว่า หลายครั้ง... หักปากกาเซียน ไม่ยักกะเสื่อมสภาพหลัง 5 พันโล อย่างที่คิด
//
ปัจจัยองค์ประกอบมันมีเยอะมากกว่าเรื่องระยะทางนะครับ ชม. การทำงานก็ด้วย ลักษณะการขับก็ด้วย
และบางเจ้า การโฆษณาค่าสวยๆ ขึ้นมา ก็ "ปั้น" เพื่อการตลาดด้วยส่วนหนึ่ง
เอาง่ายๆ อยากปั้นค่า VI ในตัวอย่าง UOA? ลองหยดน้ำมันดีเซลลงไปบางๆ สักหยด ก็ขึ้นพรวดแล้ว
ผมไม่อยากให้เรื่อง Tribology เป็นเรื่องเข้าใจยากเกินไป และดูเฉพาะทางจนคนอ่านงงครับ
มันแค่หลักการพื้นๆ เท่านั้นเอง ในฐานะผู้ใช้กับศูนย์บริการ หรือช่าง
ถึงแม้ผมจะไม่สนับสนุน 0W-20 ของบางยี่ห้อ เช่น H......
แต่ก็ไม่ได้แปลว่า 0W-20 จะทำให้เครื่องพัง เครื่องหลวม หรือประหยัดน้ำมันแบบไม่เห็นผลชัดเจนเลย
//
ตรงกันข้าม ผมอยากให้ผู้มีความรู้ออกมา "เล่าเป็นภาษาง่ายๆ" ให้คนอ่านเข้าใจว่า
น้ำมันเครื่อง เลือกเบอร์น้อยก็ได้ แต่ต้องมีหลักอะไรในการเลือกตัวที่มัน "ดีจริงๆ"
และได้สมรรถนะที่เหมาะสมของแต่ละรูปแบบการใช้งานและเปลี่ยนถ่าย
อย่างน้ำมันเบอร์ 20 ค่าความหนืด cSt ไม่ได้แปลว่า ณ 100 องศาเซลเซียสจะต้องเท่านี้เสมอๆ
มันมี Range ของมันอยู่ เป็นมาตรฐานด้วย เพราะฉะนั้นแม้แต่ในน้ำมันเครื่องเบอร์เดียวกัน
ก็ไม่ได้แปลว่าหนืดเท่ากันเสมอไป มันไม่แปลกเลยที่จะมีทั้ง 0W-40 ที่หนืดมาก หรือลื่นมาก เป็นต้น...
ควรจะอธิบายให้เข้าใจกันถ้วนหน้าจริงๆ ครับ
//
จะเล่าให้ฟัง... วันก่อนผมเถียงกับ Insider ท่านหนึ่งที่อ้างว่า ตัวเองรู้ข้อมูลเวลาจดทะเบียน
ถึงขั้นว่าจะต้องมี Additive โน่นนี่หรืออะไร แล้วก็พูดประมาณว่า ของเขานั่นแหละที่ดีที่สุด
ผมก็ เดี๋ยวนะพี่ ที่พี่พูดกับผม นั่นมันแค่ "Base Oil" เอง ตัวที่เหลือล่ะ
ผมอยากให้พี่เอา UOA มานั่งคุยกะผมเลย ว่าใช้งานสภาพจริงเมืองไทยเป็นไง
เพราะบางที "สเป็ก" ที่ฝรั่งเขียน หรือแม้แต่ตำรา API บางยี่ห้อที่ปฏิบัติตามไม่ได้
ก็ไม่ได้แปลว่าน้ำมันเครื่องเขาห่วยนะ เพียงแต่น้ำมันเขา "นอกตำรา" เท่านั้นเอง
พี่เขาก็อึ้งๆ และยังโกรธๆ ผมจนถึงทุกวันนี้ (ตรูอุตส่าห์ทำให้ยากแล้ว ไอ้เด็กนี่)
ถือว่าคุยกันสนุกๆ นะครับ