พอดีผมกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกน้ำมันเครื่องอยู่ครับ ในตลาดมันมีเยอะจริงๆ
ได้เจอกระทู้เก่าที่คุณ Jae เคยคอมเม้นท์ไว้ เกี่ยวกับเรื่อง HVI
ที่ว่า XHVI (extra high viscosity index) น่าจะดีกว่า VHVI (very high viscosity index)
แล้วก็ไปเจอ handbook ตามลิงค์ จากหน้า11 เรื่อง solubility
http://www.engnetglobal.com/documents/pdfcatalog/NYN001_200412073535_Base%20oil%20handbookENG.pdf
แต่ข้อมูลเหมือนจะสลับกัน ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า
เลยจะรบกวนขอความรู้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ก่อนอื่น มันคือ VI ครับ ไม่ใช่ HVI และ XHVI กับ VHVI ถ้าพูดบนน้ำมันเบอร์เดียวกัน มาตรฐานเดียวกันที่โลกนี้ยอมรับ XHVI จะมี VI มากกว่า VHVI
หนังสือที่อ้างมา เข้าอธิบายใหัฟังถึง Base Oil ครับ ในที่นี้เขาเจาะจงลำดับ XHVI, PAOs, VHVI ว่า VGS และ Aniline point ของ VHVI ที่เขายกมานั้นมีค่าดีกว่า แต่ไม่ได้บอกว่า VI มากกว่านะครับ อย่าเอาไปมั่วกัน
ซึ่งในโลกนี้ ถ้าเราคุณกันเรื่องว่า Base oil ที่ยังไม่ผสมเป้นน้ำมันเครื่อง ก็ถูกต้องแล้วครับว่า Base oil พวก Ester, PAOs, มันเสี่ยงต่อการเป็นกรด และผสมกับน้ำมันชนิดอื่นได้ยากกว่าตามลำดับ เพราะอย่างที่ผมเคยเขียนไปและพูดไปน่าจะเป็นพันครั้งว่า ESTER ไม่สามารถนำมาใช้เปล่า ๆ ได้ มันไม่ทนร้อนชื้น อันนี้ถ้าเคยอ่านที่ผมเขียน จะเห็นประโยคแบบนี้ซ้ำ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆกันหลายกระทู้มาก เขียนจนเริ่มเบื่อเหมือนกันครับ เพราะคิดว่า ใคร ๆ ก็ไปหาอ่านได้ แต่ทำไมยังซื้อใช้ ESTER เยอะ ๆ กันอีก
เอามาดูเรื่องน้ำมันเครื่องที่ใส่กระป๋องแล้วดีกว่า ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า น้ำมันในโลกนี้มันถูกขายตามสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน คนผลิต ก็ต้องคิดว่า ทำอย่างไรจะเหมาะสมกับ อุณหภูมิต่ำสุด และ สูง (อาจจะไม่สุด) เช่น เบอร์ 0W-20 ที่ศูนย์บริการหลายแห่งยัดเยียดให้ลูกค้าใช้ เบอร์นี้ VI จะสูงมาก ส่วนใหญ่เป็นพวก XHVI แต่เป็น Hydrocracked เพราะถูก ทำง่าย ประหยัดน้ำมันเวลาอุณหภูมิตำ น้ำมันเบอร์นี้ และเบอร์ 0W-10 มันใช้ได้ดีใน ALASKA, CANADA, China, EUROPE ครับ เอาแค่ที่ผมว่ามานี่ ก็เกินครึ่งโลกแล้วมั้ง ถามว่าพวกนี้มีอากาศร้อนไหม มีครับ แต่ร้อนไม่เท่าเราหรอก เขาใช้ได้ดีเพราะOil temp มันอยู่แค่ 80-90 เอง ครับ
แต่มาเมืองไทย Oil Temp อย่าง BMW อยู่แถว ๆ 100-120 แทบจะตลอดเวลา ยิ่งรถติดมันก็ยิ่งร้อน HTHS ของน้ำมัน ถ้าได้แค่ 2.6 มันจะไหวไหม ? ผนังสูบมันไม่ใช่ 150 องศาแน่ ๆครับ
....
ชักจะยาวอีกละ
...
เอาเป็นว่า เลือกน้ำมันเครื่อง ให้ดู Base oil, VI, HTHS, ยี่ห้อ, คนขายของแท้, การใช้งานอุณหภูมิ อากาศ, ระยะการถ่าย และที่สำคัญที่สุด ราคาเหมาะสม เช่นน้ำมันเบอร์เดียวกัน ยี่ห้อ M ใส่ สารสังเคราะห์ 6 ชนิด ราคา 2 พัน กับยี่ห้อ C ใส่สารสังเคราะห์ 2 ชนิด ราคา 2พันเหมือนกัน ผมก็ต้องเลือก M แต่ถ้ามียี่ห้อPใส่สารสังเคราะห์ 2 ชนิด แต่ราคาครึ่งนึงของ C ผมก็ไม่เลือก M แล้วไปใช้ P ก็พอ เพราะผมอาจจะไม่ต้องการคุณสมบัติที่เหนือกว่ากันนิดหน่อยของ M ก็ได้ ทุกยี่ห้อก็มีพืื้นฐานทางคุณสมบัติไม่เท่ากันแต่ก็มีแน่ ๆ ล่ะ เช่น ป้องกันตะกอน ลดคราบโคลน ทำความสะอาด ช่วยจุดระเบิด ลดการเกิดฟอง ฯลฯ "สำหรับผม" ผมว่ามันไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับทำได้ดีมากน้อยต่างกันแค่นั้นล่ะ
ยี่ห้อไหนดีไม่ดีกว่าอีกยี่ห้อไหน ผมตอบให้ใครไม่ได้ทั้งนั้นครับ นอกจากตัวผมเอง เพราะผมชั่งน้ำหนักราคาที่จ่ายกับน้ำมันไว้แล้ว คุณเองก็ต้องไปชั่งน้ำหนักราคากับความต้องการของคุณเช่นกันครับ