ผมดูที่รอบเอาครับ ไม่เกิน 2500รอบ ยังไงก็ประหยัด
จากประสบการณ์ ที่เจอรถมาหลากรุ่น ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา มันบอกกับผมว่าอย่าไปดูเลย เข็มความเร็วไปดูเข็มวัดรอบเถอะครับถ้าเมื่อใดที่ คุณสามารถเดินทางไกลได้ โดยที่รอบเครื่องยนต์ ต่ำๆ รถคันนั้น นั่นละครับ มีแนวโน้ม ประหยัดน้ำมัน กว่าคู่แข่งแม้จะไม่เสมอไป แต่ส่วนใหญ่ มักจะเป็นเช่นนั้นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูด้วยว่า กี่ ซีซี กระบอกสูบ เท่าไหร่ ไม่มีอะไรตายตัว สำหรับรถแต่ละรุ่นแต่ละคันที่แน่ๆ ไม่ใช่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง แน่ๆครับ ที่จะประหยัดที่สุด ตามที่พวกนักวิชาการ เป่าหูรัฐบาลก่อนๆมาแต่ไหนแต่ไรแบบนั้น
เห็นด้วยกะคุณจิมมี่ ที่เคยใช้ ดูที่วัดรอบ 140-150 ของแคมรี่ใฮบริดที่รอบต่ำๆ ประหยัดกว่า 90-100ที่วัดรอบสูงๆครับยิ่งถนนโล่งทางไกลมีโอกาสที่จัดระเบียบรอบรถยนต์ได้นี่ 17โลลิตรขึ้นไปครับ(วัดจากรอบที่ใฮบริตคำนวนมาให้นะครับเต็มพรึดในเกจ์วัดความประหยัด)รถติดมากๆ ได้แค่ 10-14โลลิตรครับ สังเกตุ เข็มวัดรอบขึ้นๆลงๆ
อ้างจาก: siamesecat ที่ กรกฎาคม 01, 2010, 12:41:15เห็นด้วยกะคุณจิมมี่ ที่เคยใช้ ดูที่วัดรอบ 140-150 ของแคมรี่ใฮบริดที่รอบต่ำๆ ประหยัดกว่า 90-100ที่วัดรอบสูงๆครับยิ่งถนนโล่งทางไกลมีโอกาสที่จัดระเบียบรอบรถยนต์ได้นี่ 17โลลิตรขึ้นไปครับ(วัดจากรอบที่ใฮบริตคำนวนมาให้นะครับเต็มพรึดในเกจ์วัดความประหยัด)รถติดมากๆ ได้แค่ 10-14โลลิตรครับ สังเกตุ เข็มวัดรอบขึ้นๆลงๆเอ่อพี่ครับ Camry Hybrid มีวัดรอบด้วยเหรอครับ?หรือพี่ไปติด Auto Meter เพิ่มมาครับเนี่ย?แหะๆๆเข็มที่ให้มาข้างๆ เข็มความเร็วนั่น ไม่ใช่เข็มวัดรอบนะครับ ดูดีๆ
ผมว่าทีวัดรอบประมาณ 2000 รอบไม่เกินนี้น่าจะประหยัดที่สุดนะคับและก็เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันที่สุดแล้วคับ...อย่าง Civic FD ถ้าขับ 105 Km/h รอบอยู่ที่ประมาณ 2000 รอบทางไกลได้ประมาณ 15 Km/L นะคับผม