B-seg ใช้น้ำมัน E20 เสียภาษีที่ 25%
Eco เสียภาษีที่ 17%
ต่างกันอยู่ 8% และรถพวกนี้แจ้งราคาทุน(ที่ใช้คำนวณภาษี)ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว น่าจะแค่ 3-4 แสน ดังนั้นส่วนลดภาษีอยู่ที่ 30000 + - แค่นั้นเอง อย่าไปคาดหวังว่ารถ Eco จะต้องถูกลงไปมากมาย แค่ใส่เทคโนโลยีใหม่ๆที่ทำให้ประหยัดหรือรักษาสภาพแวดล้อมก็น่าจะหมดแล้วกับส่วนลดที่ได้ 30000 บาท
เลิกคิดได้เลยว่า Eco ต้องถูกกว่ามากๆ ให้คิดว่าได้รถที่ประหยัดและรักษาสภาพแวดล้อมในราคาที่ไม่แพงขึ้นกว่าเดิมดีกว่า แม้แต่ทาง BOI เองก็ไม่ได้คาดหวังว่ารถ Eco จะต้องถูก แต่หวังจะได้รถที่ประหยัดและเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมมากกว่า
ตอนแรกเข้าใจแบบนั้น
แต่มีคนบอกผมในนี้ละว่า ( ขอแก้ไข ข้อความที่เข้าใจผิด ตามที่ คุณ H3T แจ้งมา )
B-segment เครื่องไม่เกิน 1800 CC จ่ายภาษี 25% ไม่ว่าจะ E20 หรือ E85
E85 ลดภาษี มีผลแค่เครื่อง 1800 cc ขึ้นไปครับ
ดังนั้น eco car ต้องถูกกว่านั้นสมควรแล้วครับ
แต่ Eco car เฟสสองปีหน้ามันได้ 14 %
ดังนั้น ส่วนต่างปีหน้าคือเพราะ 25 - 14 หรือ 14 นี่ ต่างกัน 11 % ก็หลายหมื่นบาทครับ
ที่ eco car ต้องถูกนั้นไม่ใช่แค่เรื่องภาษี สรพพสามิตอย่างเดียว
ยังมีการ ลดภาษี จาก BOI อีกครับ สามารถดึงชิ้นส่วน CKD จากญี่ปุ่น โดยไม่เสียภาษีได้หลายรายการ
และนอกจากนั้น รัฐ ยังยกเว้น ภาษีเงินได้ของ OEM นั้นๆ ด้วย
ลองศึกษาดูครับ
Eco car EOM มีผลประโยชน์มหาศาล นอกจากแค่ ผลประโยชน์ด้าน ผู้บริโภค ทีไ่ด้ลดภาษี สรรพสามิต
แต่ OEM ก็ได้ลดภาษีเงินได้ด้วยนะครับ พูดง่ายๆ เหมือน OEM ได้กำไร สองต่อ
ถ้าผมเข้าใจถูกต้อง City ไม่ได้สิทธิพิเศษอะไรจากการทำให้รถเติม E85 ได้เลย
ดังนั้น city ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่า
การที่เพิ่ม E85 และ ระบบควบคุมการทรงตัว สามารถ ขายรถในราคา ไม่ต่างจากเดิมได้ ได้ไม่ได้ส่วนรถภาษีใดๆ
ขอขอบคุณ H3T ที่ทำให้ผมเลิก งง กะภาษีครับ