Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: diamond4me ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 16:45:40

หัวข้อ: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: diamond4me ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 16:45:40
กำลังวางแผนจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก

ปกติแล้วมีการติดตามกันไหมครับว่าแบตฯในรถใช้กันมากี่เดือนแล้ว?
แล้วตั้งใจใช้กี่เดือนถึงจะเปลี่ยน?

หรือว่ารอให้สตาร์ทยาก แล้วค่อยเปลี่ยนดีครับ?
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: I'm Ti ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 16:58:02
อาการมันจะค่อยๆ มาครับ แบตลูกเก่าที่ผมใช้งานอายุการใช้งานเฉลี่ย 1.5-2 ปี ครับ เพราะขับทางไกลตลอด

ถ้าแบตเริ่มเก็บไฟไม่อยู่แล้ว มันจะมีอาการบอกก่อนสตาร์ทยากอยู่ครับ

ประมาณว่า เสียงลากยาวจากเดิม แต่สตาร์ทติดปกติ, พวกไฟต่างๆ บท Dashboard หรือ ไฟในรถวูบ จังหวะสตาร์ทครับ

อันนี้รถผมเองนะครับ หลังจากมีอาการก็เปลี่ยนก่อนจะได้กินข้าวลิงครับ เคยมีปัญหาเรื่องแบตหมดปีแรกหลังจากขับรถต้องหารถมาพ่วง หลังจากนั้นไม่เคยมีครับ เพราะเปลี่ยนก่อนเวลาตลอดตอนมีอาการข้างต้น

ผมว่าถ้ารถใช้งานเองทุกวัน พอจะจับได้อยู่ว่าเสียงสตาร์ทรถมันเริ่มแปลกไปครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: เนื้อน่องไม่หนัง ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 17:10:48
ปรกติจะเปลี่ยนเมื่อเริ่มมีอาการครับ ประมาน 2 ปี - 2 ปีครึ่ง
พอมีอาการ สตาร์ทยากขึ้น ต้องเปลี่ยนเลย เคยใช้ต่อแบบไม่เปลี่ยนได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ก็สตาร์ทไม่ได้แล้ว
อันนี้เปน Jazz GE นะครับ รถเบสิกๆ ไม่มีระบบไฟฟ้าอะไร
หลังๆจะเปลี่ยน ทุก 2 ปีแทน สบายใจหน่อย โชคดีที่แบตไม่แพง
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 17:15:55
รถคันอื่นผมสตาร์ทเริ่มยากก่อนถึงค่อยเปลี่ยนครับ
เพราะรถแต่ละคันและแบตแต่ละลูกใช้งานได้ไม่เท่ากันจริงๆ คาดเดาได้ยาก
เคยเจอเร็วสุดปีเดียว ช้าสุด 4 ปี

แต่พอมาใช้ Mazda 2 มีไฟเตือนครับ
เหมือนจะวัดค่าความถ่วงจำเพาะไรซักอย่างนี่แหละแล้วก็เตือนเป็นไฟรูปสามเหลี่ยมตกใจ พร้อม i-stop ขัดข้อง
ลากใช้ไปเฉลี่ยแล้วแต่คัน 1-2 เดือนก็จะเริ่มสตาร์ทยากขึ้น เราก็เปลี่ยนตั้งแต่ไฟเตือนขึ้นมาเลย
ที่เปลี่ยนมา 2 รอบ อายุการใช้งานตกประมาณ 20-22 เดือน ไม่ถึง 2 ปีดี
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 17:17:12
ตรวจวัดค่าจากเครื่องมือวัดครับ
แล้วประเมินสภาพครับ
มีค่ากำลังสำรอง ความต้านทานภายใน
ค่าแรงดัน หลังจากชาร์ทเต็ม ประมาณนี้ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Darkart ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 18:16:18
ประมาณ 2 ปี กำลังดี และฟังเสียงตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ สตาร์ทยาวกว่าปกติ เตรียมเงินเปลี่ยนแบเตอรี่ครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 19:18:57
ผมสังเกตจาก กระจกไฟฟ้าเริ่มเลื่อนช้าลง ถ้าบีบแตรแล้วเริ่มมีเสียงเพี้ยน ก็เตรียมตัวได้ครับ แต่ก็ใช้จนเริ่มรู้สึกสตาร์ทยากแหละครับ
รถผมเท่าที่สังเกตุ อายุแบตราวๆ 1.5 ปี ก็เตรียมเสียเงินครับ
ตอนนี้ใช้บริการร้านแบตที่มาเปลี่ยนถึงบ้านครับ สะดวกดี
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 19:36:42
ถ้าเป็นรถที่ใช้ประจำวันแบบไม่ใช่สายจอดนะครับ

ตามคห.ด้านบนว่า เลื่อนกระจกแล้วจะหมดแรง นั่นคืออาการแบบวาระสุดท้าย

แต่.... ผมทำแบบนี้ประจำครับ เนื่องจากผมทำธุรกิจเกี่ยวกับแบตเตอรี่ตะกั่วกรด ผมจะใช้สูตรเติมน้ำกรดเข้าไปครับ

แบตเตอรี่ที่ถูกเติมน้ำกรด จะอยู่ได้อีก 2 เดือนเป็นขั้นต่ำ

ก็คุ้มอยู่นะครับ

ปล.อาการเสื่อมของสายจอด คือซัลเฟตเกาะครับ ถ้าล้างถูกวิธี ใช้ได้อีกยาว

อาการใกล้หมดอายุของรถใช้งานหนักอย่างแท๊กซี่ ก็ยืดอายุด้วยวิธีนี้ไม่ได้
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ พฤษภาคม 18, 2021, 22:56:50
Audi A8 ผมใช้แบตติดรถมา7ปียังปกติ แต่กลัวสตาร์ทไม่ติดเลยตัดสินใจเปลี่ยนเอง
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 09:16:20
วัดความต้านทานครับ ถ้ามันสูงมากก็เปลี่ยนเลย
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: the kit ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 09:33:33
เรื่อง "แบต" นี้เป็นอะไรที่แล้วแต่บุคคลเลย
เท่าที่ผมรู้จัก "โดยมาก" รอให้มันหมดจริง Start ยาก ก่อนแล้วถึงเปลี่ยน
แต่ถ้าเอา Safe 2 ปี เปลี่ยนก็น่าจะดี แต่ก็ใช่ว่าจะ Sure 100% นะ

แบต ผมเคย "ลากยาว" สุดได้ 6 ปี ในTriton
และตอนนี้ แบตใน PJS ตัวปัจจุบัน 5 ปี 6 เดือน ก็ยังใช้อยู่
เป็นที่สังเกตุว่า ระบบไฟใน "มิตซู" มันดีหรือไร? ทำไม แบตถึงใช้ได้นานมากกกก

ส่วนยี่ห้ออื่นๆ เฉลี่ย 3-4 ปี ไม่เกินนั้น ทั้งที่ใช้รถและดูแลแบบเดียวกัน!!??
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: ^Yimm@^ ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 09:41:47
ผมไม่รอให้เริ่มสตาร์ทยากครับ Focus Fiesta ค่าccaเริ่มต่ำผมจับเปลี่ยนเลย โดยประมาณ2ปี
CRV diesel ล่าสุดพึ่งเปลี่ยนไปใช้มาเกือบ3ปี เปลีี่ยนไปก่อนทริปสงกรานต์วัดค่าccaยังดี แต่ก็เปลี่ยนไปเลยดีกว่าสบายใจ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: AboveGod ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 10:16:18
แบตหมดเข็นกระตุกเอาตลอดเลยครับ ไม่รู้ว่ามีผลเสียไหม  ;D
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 10:45:43
ซิตี้คันเก่าสตาร์ทกุญแจ พอสตาร์ทติดยากปั๊ป ไม่เกิน 2 หน แบตหมด รู้อาการชิงเปลี่ยนก่อนได้ทัน

ซีวิคคันปัจจุบัน ไม่มีอาการบอก บอกแต่อายุ ทุกๆ 1 ปี 4 เดือน หมดใกล้ๆกัน 3 รอบเลย

ปล. ถ้ามีเครื่องเช็ค เปลี่ยนก่อนก็ดีครับ ไม่เสียเวลา
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 11:07:12
ส่วนใหญ่รถ1คัน จะมาอาการเดิม อายุแบตก็แถวๆเดิม
คันไหนยาวก็ยาวอยู่แบบนั้น คันไหนสั้นก็สั้นแบบนั้นไปเรื่อย
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 11:35:23
ผมสังเกตจากการวัดค่าต้านทานครับ
ถ้าวัดแล้วค่าสูง ก็ชิงเปลื่ยนก่อน

บางทีแบตทนเกินไป หรือ ปล่อยให้หมดคาที ก็ไม่เป็นผลดีกับไดชาร์จครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: XyteBlaster ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 12:13:07
ใช้รถ honda สิครับ accord ผมเปลี่ยนแบตทุกปี 555 ลูกที่สั้นที่สุดคือ 9 เดือนลาโลกซะแล้ว
civic crv ราว ๆ 2 ปีครับ แต่พี่โต ผมลากมา 4 ปีจนผ่อนหมดยังไม่เคยเปลี่ยนแบตเลย  ทั้งที่แบตมันก็ยี่ห้อเดียวกัน และดีไม่ดี ไดชาร์จ มันก็ยี่ห้อเดียวกันด้วยครับ

ผมเลยอนุมานเอาเองว่าน่าจะเป็นจังหวะการ charge เข้า และ จ่ายไฟออก ของแต่ละยี่ห้อที่ design มาไม่เหมือนกัน  ทำให้แบตเสื่อมไว
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 12:58:30
ใช้รถ honda สิครับ accord ผมเปลี่ยนแบตทุกปี 555 ลูกที่สั้นที่สุดคือ 9 เดือนลาโลกซะแล้ว
civic crv ราว ๆ 2 ปีครับ แต่พี่โต ผมลากมา 4 ปีจนผ่อนหมดยังไม่เคยเปลี่ยนแบตเลย  ทั้งที่แบตมันก็ยี่ห้อเดียวกัน และดีไม่ดี ไดชาร์จ มันก็ยี่ห้อเดียวกันด้วยครับ

ผมเลยอนุมานเอาเองว่าน่าจะเป็นจังหวะการ charge เข้า และ จ่ายไฟออก ของแต่ละยี่ห้อที่ design มาไม่เหมือนกัน  ทำให้แบตเสื่อมไว

ใช่ครับ ระบบของฮอนด้า ออกแบการชาร์จแบบ ups โดยจ่ายกระแสคงที่ ที่ประมาณ 14.00 ครับ ซึ่งจะทำให้แบตเสื่อมไวกว่า

ส่วนโตโยต้าจะจ่ายคงที่ที่ประมาณ 13.8 ตอนกลางวัน แต่... ของโตโยต้า เมื่อเปิดไฟหน้า กระแสชาร์จจะปรับขึ้นไปที่ 14.2 ครับ และ ถ้าหากเจอไดชาร์จอัจฉริยะ​ ของทางพี่โตเค้า แบตน่าจะเสื่อมไวมากหากใช้แบตธรรมดา คือ ถ้าขับความเร็วคงที่ แบตจะจ่ายไฟให้อุปกรณ์ต่างๆแทนได้ชาร์จแทนน่ะครับ เมื่อไฟต่ำำ ถึงชาร์จ

ส่วน nissan ใช้ระบบชาร์จแบบไฟฉุกเฉินครับ trickle charge คือไฟเต็มแล้วตัดครับ โดย ค่าเลี่ยงแบตจะอยู่ที่ประมาณ 13.4 เมื่อแรงดันในแบตต่ำำ จึง boost ขึ้นมาที่ 14.0 จะแอมป์ลด ถึงกลับสู่โหมดเลี้ยงต่ำ

ระบบชาร์จพวกนี้โดนคุมจาก ecu อีกทีครับ
อนุมาน​ได้ว่า nissan น่าจะทนสุด แต่เสียงสตาร์ทของนิสสันน่าจะเอื่อยสุด เพราะชาร์จลักษณะของ nissan แบตจะได้รับอยู่ ประมาณ 80% ตลอดเวลา เว้นแต่ตอนก่อนดับเครื่อง จะถูก boost พอดี เช้าวันถัดไป เสียงสตาร์ก็จะกระชุ่มกระชวยกว่าทุกครั้ง
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Tae_Gunner ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 13:07:04
ผมรอตอนสตาร์ยากแล้วค่อยเปลี่ยน กับยันต์กันผีอีกตัวสายพวงแบต ไอ้ตอนไม่ใช้นะก็ไม่รู้ว่ามีไว้ทำไม แต่พอเจอปัญหาทีเนี่ยโคตรดีใจเลยที่พกไว้ พอๆกับยางอะไหล่เลย
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: ball2401 ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 13:38:17
กระจกข้างปรับขึ้นลงดูครับ ถ้าแบตใกล้หมด จะเลื่อนขึ้นลงช้ากว่าปกติ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: youngbear ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 17:49:35
 8) 8) 8)......นานๆเจอสักคนหนึ่งทั้งไทยทั้งฝรั่งที่เปลียนแบตโดยใช้เวลาเป็นเกณฑ์ แทนเสื่อมสภาพสตาร์ท "แอ๊ะ ๆๆ" safe side โดยใช้อายุตามชนิดแบต. พอรวบรวมข้อมูลให้ตามนี้ครับ :-
SMF  Sealed Maintenance Free แห้งแท้ ปิดตายไม่ตรวจ-เติมฯ อายุใช้งานหนัก Heavy Duty
        CCA  Cold Cranking Ampere สูงๆ จะมีระบุที่ตัวแบต.รุ่นนี้ชัดเจนแน่นอน ทั้งแบต.ใหญ่/เล็ก
MF    Maintenance Free กึ่งแห้ง/น้ำ  ตรวจ-เติม น้ำกรด/น้ำกลั่น ทุก 12 เดือน บางยี่ห้อระบุ CCA
Standard/Conventional แบต.ธรรมดา ต้องหมั่นตรวจ-เติมฯ  ทุกๆ 1-2 เดือน ไม่มี CCA แน่นอนครับ
        แบต.ชนิดนี้ ไม่แนะนำ ให้ใช้งานหนักประเภท HD

อายุใช้งานคือ SMF=48 เดือน,    MF=24 เดือน  และ Standard=18 เดือน
*เกณฑ์อายุใช้งานนี้ แผนกงานซ่อมบำรุงรถของบริษัททั่วๆไปใช้ดูแลยานยนต์ เปลี่ยนแบต.ตามวาระครับ :-X


หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ พฤษภาคม 19, 2021, 21:25:15
ใช้รถ honda สิครับ accord ผมเปลี่ยนแบตทุกปี 555 ลูกที่สั้นที่สุดคือ 9 เดือนลาโลกซะแล้ว
civic crv ราว ๆ 2 ปีครับ แต่พี่โต ผมลากมา 4 ปีจนผ่อนหมดยังไม่เคยเปลี่ยนแบตเลย  ทั้งที่แบตมันก็ยี่ห้อเดียวกัน และดีไม่ดี ไดชาร์จ มันก็ยี่ห้อเดียวกันด้วยครับ

ผมเลยอนุมานเอาเองว่าน่าจะเป็นจังหวะการ charge เข้า และ จ่ายไฟออก ของแต่ละยี่ห้อที่ design มาไม่เหมือนกัน  ทำให้แบตเสื่อมไว

ใช่ครับ ระบบของฮอนด้า ออกแบการชาร์จแบบ ups โดยจ่ายกระแสคงที่ ที่ประมาณ 14.00 ครับ ซึ่งจะทำให้แบตเสื่อมไวกว่า

ส่วนโตโยต้าจะจ่ายคงที่ที่ประมาณ 13.8 ตอนกลางวัน แต่... ของโตโยต้า เมื่อเปิดไฟหน้า กระแสชาร์จจะปรับขึ้นไปที่ 14.2 ครับ และ ถ้าหากเจอไดชาร์จอัจฉริยะ​ ของทางพี่โตเค้า แบตน่าจะเสื่อมไวมากหากใช้แบตธรรมดา คือ ถ้าขับความเร็วคงที่ แบตจะจ่ายไฟให้อุปกรณ์ต่างๆแทนได้ชาร์จแทนน่ะครับ เมื่อไฟต่ำำ ถึงชาร์จ

ส่วน nissan ใช้ระบบชาร์จแบบไฟฉุกเฉินครับ trickle charge คือไฟเต็มแล้วตัดครับ โดย ค่าเลี่ยงแบตจะอยู่ที่ประมาณ 13.4 เมื่อแรงดันในแบตต่ำำ จึง boost ขึ้นมาที่ 14.0 จะแอมป์ลด ถึงกลับสู่โหมดเลี้ยงต่ำ

ระบบชาร์จพวกนี้โดนคุมจาก ecu อีกทีครับ
อนุมาน​ได้ว่า nissan น่าจะทนสุด แต่เสียงสตาร์ทของนิสสันน่าจะเอื่อยสุด เพราะชาร์จลักษณะของ nissan แบตจะได้รับอยู่ ประมาณ 80% ตลอดเวลา เว้นแต่ตอนก่อนดับเครื่อง จะถูก boost พอดี เช้าวันถัดไป เสียงสตาร์ก็จะกระชุ่มกระชวยกว่าทุกครั้ง
ได้ความรู้เพียบเลย เยี่ยมเลยครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ พฤษภาคม 20, 2021, 07:23:08
คร่าวๆประมานนี้ครับ

1. จับอาการตอนสตาท
2. ซื้อที่วัดโวล์แบบทียบที่จุดบุหรี่มาใช้
3. ไปเช็คสุขภาพแบตที่ร้าน

ส่วนตัวผม 1 กับ 3 ครับ
รอดมา 10 กว่าปีแล้ว ไม่เคยแบตหมดหลางทางครับ
หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: PaPaMan ที่ พฤษภาคม 20, 2021, 09:38:41
8) 8) 8) ......นานๆเจอสักคนหนึ่งทั้งไทยทั้งฝรั่งที่เปลียนแบตโดยใช้เวลาเป็นเกณฑ์ แทนเสื่อมสภาพสตาร์ท "แอ๊ะ ๆๆ" safe side โดยใช้อายุตามชนิดแบต. พอรวบรวมข้อมูลให้ตามนี้ครับ :-
SMF  Sealed Maintenance Free แห้งแท้ ปิดตายไม่ตรวจ-เติมฯ อายุใช้งานหนัก Heavy Duty
        CCA  Cold Cranking Ampere สูงๆ จะมีระบุที่ตัวแบต.รุ่นนี้ชัดเจนแน่นอน ทั้งแบต.ใหญ่/เล็ก
MF    Maintenance Free กึ่งแห้ง/น้ำ  ตรวจ-เติม น้ำกรด/น้ำกลั่น ทุก 12 เดือน บางยี่ห้อระบุ CCA
Standard/Conventional แบต.ธรรมดา ต้องหมั่นตรวจ-เติมฯ  ทุกๆ 1-2 เดือน ไม่มี CCA แน่นอนครับ
        แบต.ชนิดนี้ ไม่แนะนำ ให้ใช้งานหนักประเภท HD

อายุใช้งานคือ SMF=48 เดือน,    MF=24 เดือน  และ Standard=18 เดือน
*เกณฑ์อายุใช้งานนี้ แผนกงานซ่อมบำรุงรถของบริษัททั่วๆไปใช้ดูแลยานยนต์ เปลี่ยนแบต.ตามวาระครับ :-X


แล้วแบตแบบ EFB (Enhanced Flooded Battery) ล่ะครับอายุกี่ปี
แล้วซื้อมาใช้แทนแบบ SMF จะคุ้มมั้ย (ราคาเพิ่มจากแบตแบบ SMF ประมาณ 500 บาทสำหรับเก๋งเล็ก หรือ 1000 บาทสำหรับ PPV ดีเซล)



หัวข้อ: Re: เปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อน โดยไม่รอให้เกิดอาการสตาร์ทยาก
เริ่มหัวข้อโดย: เรือใบลำน้อย ที่ พฤษภาคม 20, 2021, 18:12:09
พออายุแบตประมาณ 2 ปี ก็จะจากเริ่มเช็กสุขภาพแบตก่อนครับ
ถ้า % ตกก็จะประจุไฟเพิ่มหรือเปลี่ยนลูกใหม่ไปเลยครับ