Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: oatekung ที่ กรกฎาคม 28, 2016, 07:32:20
-
เคยอ่านเจอว่าเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆเกียร์จะพังหนะครับ
แต่เห็นบางที่ให้มา N เพื่อให้เกียร์ไม่ต้องทำงานครับ
-
ติดนานๆ เกิน60วินาที ผมดันมา N ดึงเบรกมือ
แต่ถ้าติดไม่นาน ผมก็คาไว้ที่ D แล้วเหยียบเบรกเอา...
-
ผมใช้รถเกียร์ออโต้ มา 30 ปี (หลายคัน)
N หรือ D แล้วแต่อารมณ์ 5555555555555 ไม่เห็นคันไหน มันจะพังไว ::) ::) ::)
-
ติดไฟแดงส่วนใหญ่ พลักไป N
ไม่เมื่อยขา
เกียรก็พัก
ไฟเบรคไม่แทงตาคันหลัง
แต่อีกหน่อยคำถามนี้จะหมดไป ถ้ามีแต่คนเปลี่ยนใช้รถใหม่ที่มี BREAK HOLD กันหมด ;) ::) ;D
-
ดูอารมณ์ส่วนใหญ่ผมเบรคไกลๆคันหน้าเกือบๆช่วงตัวรถน่ะ ค่อยๆปล่อยเบครมาทีหละหน่อยๆ เหมือนเวลาเราขยับรถในช่องแคบๆน่ะ
แต่ถ้าติดนานเกิน1นาที ใส่เกียร์ว่างพร้อมเบรคมือรอเลย
-
ถ้าไม่เกิน 90 วิผมไม่เข้า n นะครับ แต่จริงๆก้ยังไงก้ได้ ผมไม่เห็นมันจะพังเลย
-
รถมีไว้เพื่อเพิ่มความสะดวกสะบาย
ในการเดินทาง การจอดไฟแดง จะd n อะไหนสบายกว่าละ
ชอบเหยียบเบรกก้อd
ไม่ชอยเหยียบก้อn เบรกมือดีกว่า
N น่าจะถนอมรถมากกว่านะ
-
ปัญหาโลกแตก เหมือนไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน
สรุป มื้อไหนมีไก่กินไก่ มื้อไหนมีไข่กินไข่ อะไรมาก่อน กินอันนั้นก่อน... ::) ::)
-
ไม่พังง่ายกว่ากันอย่างเห้นได้ชัดหรอกครับ แต่ถ้าขับทางไกลแล้วต้องจอดติดไฟแดงน้ำมันเกียร์ยังอุณหภูมิสูงอยู่ผมจะเหยียบเบรคแต่ยังเข้า D อยู่หรือดึงเบรคมือช่วยเพราะถ้าเข้า N น้ำมันเกียร์จะหยุดไหลทำให้อุณหภูมิเกียร์ไม่ลดเกรงจะพังไว
-
Focus Mk3 ไม่ต้องเลื่อนมาที่ N แล้ว
มีคุณสมบัติที่เรียกว่า Neutral Idle เมื่อเหยียบเบรกค้าง(ที่ตำแหน่งD) และความเร็วรถเป็นศูนย์
จะตัดการทำงานเป็นเกียร์ N เมื่อปล่อยเบรกก็กลับเป็นทำงานเกียร์ D
คิดว่ารถรุ่นใหม่ๆ มีคุณสมบัตินี้กันบ้างแล้วครับ
รถที่มีเบรกHold ในการทำงานก็อาศัยคุณสมบัตินี้เช่นกัน
ส่วนที่มีการถกเถียงเรื่องเปลี่ยนเป็นNหรือไม่ในรถรุ่นเก่า ก็ยังโต้กันไม่จบ ยังมีค้านมีสนับสนุนกัน
เอาเป็นว่าถ้าติดไฟแดงสั้นๆไม่ต้องเลื่อน แต่ถ้านาน เมื่อยขาเมื่อยเท้าก็เลื่อนมาเป็นN
ใช้รถอย่างมีความสุขเถอะ มันแค่สิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตอย่างหนึ่ง
อย่าถึงกับให้ความสำคัญเกินกว่าร่างกายเราครับ
(เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก้ไม่ได้เป็นผลเสียอย่างร้ายแรง
ถ้าร้ายแรง ผู้ใช้ทั่วโลกคงได้เห็นผลประจักษ์ชัดๆไปแล้ว ไม่ต้องมาถกเถียงกันตราบจนถึงปัจจุบันนี้)
-
ผมดันไป P เลยนะ เพราะเคยใช้ N แล้วรถไหลเกือบชนคันหลัง ทางดูเรียบๆนี่หล่ะ ส่วนตัวไม่ชอบเหยียบเบรค
แต่ก็เคยได้ยินมาว่าถ้าโดนชนท้ายเกียร์จะพัง
-
เกียร์ N กับเกียร์อื่น ถ้าจอดอยู่คันสุดท้าย แล้วโดนชนท้าย
อย่างไหนเกียร์และเพลาะจะเสียหายมากกว่ากันครับ ;)
อย่าลืมดึงเบรคมือด้วยนะครับ
-
ขอตอบตามคู่มือรถนะครับ all new dmax บอกว่า ติดไฟแดงให้เข้าเกียร์ n เพื่อประหยัดน้ำมัน(บอกแค่นี้)
ไปหาอ่านกันได้
ส่วนที่บอกว่าเข้าเกียร์ n บ่อยแล้วพัง หรือติดไฟแดงแล้วควรคาไว้ที่ d ไม่เคยเห็นรถคันไหนที่เคยใช้มาเขียนในคู่มือไว้เลยครับ
นี่จากประสบการณ์ส่วนตัว ใครเคยเห็นในคู่มือกล่าวถึงจุดนี้มากกว่าหรือนอกเหนือจากที่ผมเคยเจอมั๊ยครับ
-
Focus Mk3 ไม่ต้องเลื่อนมาที่ N แล้ว
มีคุณสมบัติที่เรียกว่า Neutral Idle เมื่อเหยียบเบรกค้าง(ที่ตำแหน่งD) และความเร็วรถเป็นศูนย์
จะตัดการทำงานเป็นเกียร์ N เมื่อปล่อยเบรกก็กลับเป็นทำงานเกียร์ D
คิดว่ารถรุ่นใหม่ๆ มีคุณสมบัตินี้กันบ้างแล้วครับ
รถที่มีเบรกHold ในการทำงานก็อาศัยคุณสมบัตินี้เช่นกัน
ส่วนที่มีการถกเถียงเรื่องเปลี่ยนเป็นNหรือไม่ในรถรุ่นเก่า ก็ยังโต้กันไม่จบ ยังมีค้านมีสนับสนุนกัน
เอาเป็นว่าถ้าติดไฟแดงสั้นๆไม่ต้องเลื่อน แต่ถ้านาน เมื่อยขาเมื่อยเท้าก็เลื่อนมาเป็นN
ใช้รถอย่างมีความสุขเถอะ มันแค่สิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตอย่างหนึ่ง
อย่าถึงกับให้ความสำคัญเกินกว่าร่างกายเราครับ
(เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก้ไม่ได้เป็นผลเสียอย่างร้ายแรง
ถ้าร้ายแรง ผู้ใช้ทั่วโลกคงได้เห็นผลประจักษ์ชัดๆไปแล้ว ไม่ต้องมาถกเถียงกันตราบจนถึงปัจจุบันนี้)
+1
-
ถ้าผมติดไฟแดงโดยที่ไม่รู้ว่า มันเริ่มแดงเมื่อไร ก็คา D ครับ แต่ถ้าขับมาเขียวๆ แล้วแดง แสดงว่าอีกนานกว่าจะเขียว ผมก็ N ครับ ง่ายๆ
-
Focus Mk3 ไม่ต้องเลื่อนมาที่ N แล้ว
มีคุณสมบัติที่เรียกว่า Neutral Idle เมื่อเหยียบเบรกค้าง(ที่ตำแหน่งD) และความเร็วรถเป็นศูนย์
จะตัดการทำงานเป็นเกียร์ N เมื่อปล่อยเบรกก็กลับเป็นทำงานเกียร์ D
คิดว่ารถรุ่นใหม่ๆ มีคุณสมบัตินี้กันบ้างแล้วครับ
รถที่มีเบรกHold ในการทำงานก็อาศัยคุณสมบัตินี้เช่นกัน
ส่วนที่มีการถกเถียงเรื่องเปลี่ยนเป็นNหรือไม่ในรถรุ่นเก่า ก็ยังโต้กันไม่จบ ยังมีค้านมีสนับสนุนกัน
เอาเป็นว่าถ้าติดไฟแดงสั้นๆไม่ต้องเลื่อน แต่ถ้านาน เมื่อยขาเมื่อยเท้าก็เลื่อนมาเป็นN
ใช้รถอย่างมีความสุขเถอะ มันแค่สิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตอย่างหนึ่ง
อย่าถึงกับให้ความสำคัญเกินกว่าร่างกายเราครับ
(เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก้ไม่ได้เป็นผลเสียอย่างร้ายแรง
ถ้าร้ายแรง ผู้ใช้ทั่วโลกคงได้เห็นผลประจักษ์ชัดๆไปแล้ว ไม่ต้องมาถกเถียงกันตราบจนถึงปัจจุบันนี้)
มันเป็นคุณสมบัติที่ดีของเกียร์ที่เป็น Dual Clutch ครับ
มันจะยกคลัชออก พอปล่อยเบรค คลัชมันก็จับ
เกียร์แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ไม่น่าจะทำได้
แต่ถึงอย่างนั้นถ้าติดนานๆ ผมก็ดึงมา N และใส่เบรคมืออยู่ดี 55+
-
ผมดันไป P เลยนะ เพราะเคยใช้ N แล้วรถไหลเกือบชนคันหลัง ทางดูเรียบๆนี่หล่ะ ส่วนตัวไม่ชอบเหยียบเบรค
แต่ก็เคยได้ยินมาว่าถ้าโดนชนท้ายเกียร์จะพัง
ติดไฟแดงไม่ต้อง P ก็ได้ครับ N ก็พอแล้วดึงเบรกมือเอา
-
ผมถามหน่อยถ้าเกียร์ N ใช้ไม่ได้แล้วบริษัทผลิตรถยนต์จะใส่มาเพื่อ ?
-
ส่วนตัวผมแล้วแต่ บางทีก็เข้า D เหยียบเบรก บางทีก็เข้า N ดึงเบรกมือ ผมยังไม่เห็นว่าคันไหนเกียร์มันจะพังไวกว่าเลยนะพูดตรงๆ ใช้รถมาก็หลายคัน
-
ผมดันไป P เลยนะ เพราะเคยใช้ N แล้วรถไหลเกือบชนคันหลัง ทางดูเรียบๆนี่หล่ะ ส่วนตัวไม่ชอบเหยียบเบรค
แต่ก็เคยได้ยินมาว่าถ้าโดนชนท้ายเกียร์จะพัง
ติดไฟแดงไม่ต้อง P ก็ได้ครับ N ก็พอแล้วดึงเบรกมือเอา
P อันตรายครับ ชนท้าย แล้วต้องรื้อเกียร์
ใช้รถมา 6 คัน ตลอด 20 ปี ไม่เคยสลับไปมาระหว่าง N กับ D ถ้าไม่ติดนานจริงๆ ติดนิสัยเหยียบเบรคมาตั้งแต่ขับรถใหม่ๆ ไม่เคยเกียร์พังครับ ตอนขับเกียร์ Auto ใหม่ๆ ช่างรุ่นเก่า บอกว่า เข้า D - N บ่อยๆ พังง่ายกว่า เลยเชื่อ
แต่ผมว่า ปัจุบัน Technology มันไปไกลแล้ว อาจไม่เป็นอะไร
-
P อันตรายครับ ชนท้าย แล้วต้องรื้อเกียร์
ใช้รถมา 6 คัน ตลอด 20 ปี ไม่เคยสลับไปมาระหว่าง N กับ D ถ้าไม่ติดนานจริงๆ ติดนิสัยเหยียบเบรคมาตั้งแต่ขับรถใหม่ๆ ไม่เคยเกียร์พังครับ ตอนขับเกียร์ Auto ใหม่ๆ ช่างรุ่นเก่า บอกว่า เข้า D - N บ่อยๆ พังง่ายกว่า เลยเชื่อ
แต่ผมว่า ปัจุบัน Technology มันไปไกลแล้ว อาจไม่เป็นอะไร
ใช่ครับใส่ P ถ้าโดนชนมาเกียร์พังแน่นอนครับ
ส่วน สลับเกียร์บ่อยๆ ผมว่าแค่คลัชหมดไวเฉยๆ ถ้าเราเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยอยู่แล้วตัดปัญหาเรื่องโซลินอยเกียร์ไปได้เลย พวกเศษครัชอะไรที่อยู่ในเกียร์มันก็ไปตามน้ำมันทีเราเปลี่ยนั้นหละ ถ้าพวกชอบลากระยะน้ำมันเกียร์นี้จะมีปัญหากะกรองเกียร์ด้วย
-
https://www.youtube.com/watch?v=6zzEtxJkC7Y
อันนี้ชัดเจนนะ
-
มันอยู่ที่ชนิดของเกียร์
ถ้าเอาสมัยเกียร์วาวล์กลไกแบบสายสลิงและแรงดันน้ำมันเกียร์ ที่อาศัยรอบเครื่องและการดึงของปีกผีเสื้อฝควบคุมเกียร์ แบบนี้ เปิดแอร์ เหยียบเบรคเข้าDไว้สักชั่วโมงคลัทช์รูดไม่รู้กี่ทีแล้ว เพราะรอบเดินเบาขึ้นๆลงๆ แรงดันไม่คงที่
อธิบายไม่หมดครับ การออกแบบหลากหลายเกิน
-
ผมดันไป P เลยนะ เพราะเคยใช้ N แล้วรถไหลเกือบชนคันหลัง ทางดูเรียบๆนี่หล่ะ ส่วนตัวไม่ชอบเหยียบเบรค
ดึงเบรคมือสิครับ ...
ผมมีบทเรียนจากรุ่นพี่ผู้หญิง ติดไฟแดง เหยียบคา D ไว้ แล้วมีลุงขี่มอไซด์ ไม่เบรค(แกอ้างว่าเบรคแล้ว ไม่อยู่)มาชนโครม รุ่นพี่ผมตกใจ ปล่อยเบรค รถยิ่งพุ่งไปข้างหน้า ตกใจอีกจะเหยียบเบรค กลายเป็นเหยียบคันเร่งพุ่งข้ามแยกไป โชคดีจังหวะนั้น ด้านหน้ามีช่องว่างที่รถแกไปได้พอดี กลายเป็นว่าเหมือนคนเร่งฝ่าไฟแดงไปเลย
1. ยังโชคดี ที่แกเป็นคันแรกสุดที่อยู่ด้านหน้า และก็มีลุงมอไซด์ เป็นคันที่สอง มาชนท้าย ถ้าเป็นรถใหญ่ไม่อยากจะคิด
2. ยังโชคดี ที่ด้านหน้ามีช่องว่าง ที่รถพุ่งไปได้ จึงทำให้สุดท้ายเคลมซ่อมแค่ฝากระโปรงท้าย กับ กันชนท้าย ลุงมอไซด์ถลอกนิดหน่อย กับเจ็บหัวเข่า มอไซด์ก็เสียหาพอสมควร
จากเหตุการณ์นี้
ทำให้คิดเองว่า การจอดติดไฟแดง เข้าเกียร์ N นอกจากจะได้พักทั้งเกียร์ ทั้งคนแล้ว ในกรณีถูกชนท้าย เกียร์ว่าง ก็อาจจะปลอดภัยกว่า แต่หากเข้า P หากถูกชนท้าย ทั้งรถทั้งเกียร์อาจเสียหายหนักก็เป็นได้
ทำให้ผมไม่ลังเล ที่จะใช้เกียร์ N กับการจอดติดไฟแดงเลยครับ แยกที่มีตัวเลขนับถอยหลัง ยิ่งตัดสินใจได้ง่าย ว่าเราควร หรือไม่ปลดมาที่ N เกิน 60 วิ ผมปลดทันที
-
เหยียบเบรคครับ แต่ถ้านานไป หรือวันนั้นเมื่อยขา ก็ N ไปครับ
-
อ้าวแสดงว่าเราใช้ผิดมาตลอด????
คือเราจะเข้า N ตอนใกล้จะถึงไฟแดง แล้วปล่อยไหล คือที่ทำแบบนี้เพราะรู้สึกว่ามันได้พักและผ่อนคลายเท้าและขาอ่ะ
-
Focus Mk3 ไม่ต้องเลื่อนมาที่ N แล้ว
มีคุณสมบัติที่เรียกว่า Neutral Idle เมื่อเหยียบเบรกค้าง(ที่ตำแหน่งD) และความเร็วรถเป็นศูนย์
จะตัดการทำงานเป็นเกียร์ N เมื่อปล่อยเบรกก็กลับเป็นทำงานเกียร์ D
คิดว่ารถรุ่นใหม่ๆ มีคุณสมบัตินี้กันบ้างแล้วครับ
รถที่มีเบรกHold ในการทำงานก็อาศัยคุณสมบัตินี้เช่นกัน
ส่วนที่มีการถกเถียงเรื่องเปลี่ยนเป็นNหรือไม่ในรถรุ่นเก่า ก็ยังโต้กันไม่จบ ยังมีค้านมีสนับสนุนกัน
เอาเป็นว่าถ้าติดไฟแดงสั้นๆไม่ต้องเลื่อน แต่ถ้านาน เมื่อยขาเมื่อยเท้าก็เลื่อนมาเป็นN
ใช้รถอย่างมีความสุขเถอะ มันแค่สิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตอย่างหนึ่ง
อย่าถึงกับให้ความสำคัญเกินกว่าร่างกายเราครับ
(เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก้ไม่ได้เป็นผลเสียอย่างร้ายแรง
ถ้าร้ายแรง ผู้ใช้ทั่วโลกคงได้เห็นผลประจักษ์ชัดๆไปแล้ว ไม่ต้องมาถกเถียงกันตราบจนถึงปัจจุบันนี้)
+1
-
อ้าวแสดงว่าเราใช้ผิดมาตลอด????
คือเราจะเข้า N ตอนใกล้จะถึงไฟแดง แล้วปล่อยไหล คือที่ทำแบบนี้เพราะรู้สึกว่ามันได้พักและผ่อนคลายเท้าและขาอ่ะ
ปล่อยรถไหล เกียร์ตำแหน่ง(N) การขับเคลื่อนไม่อยู่ในการควบคุม ผมว่าไม่น่าจะปลอดภัยนะครับ
N นี่คงต้องรถหยุดนิ่งสนิทแล้วเท่านั้น
-
อ้าวแสดงว่าเราใช้ผิดมาตลอด????
คือเราจะเข้า N ตอนใกล้จะถึงไฟแดง แล้วปล่อยไหล คือที่ทำแบบนี้เพราะรู้สึกว่ามันได้พักและผ่อนคลายเท้าและขาอ่ะ
ถ้าเป็นเกียร์ออโต้นานไปเตรียมงานงอกได้เลยครับ เข้า N แล้วน้ำมันเกียร์จะไม่ฉีดไปหล่อลื่นเกียร์แต่เกียร์มีการหมุนความร้อนและการสึกหรอมารอเพียบเลย อีกอย่างสังเกตุจากคู่มือได้ครับเกี่ยวกับการลากจูงเค้าจะมีบอกไว้ว่าลากได้ความเร็วไม่เกินเท่าไหร่และระยะทางไม่เกินเท่าไหร่แต่ให้ดีก็ยกล้อที่ขับเคลื่อนจะดีที่สุด ส่วนการจอดติดไฟแดงเข้า N ถึงน้ำมันเกียร์ไม่หล่อลื่นแต่เกียร์ก็ไม่ได้หมุนหรือทำงานอีกอย่างการปล่อยไหลเวลาเกิดเหตุอะไรจะแก้สถานการณ์ยากครับเพราะแรงบิดไม่ได้อยู่ที่ล้อแล้ว
-
ผมใช้ brake hold เป็นส่วนใหญ่ครับ
แต่ถ้านานจริงๆแบบเกิน 5-10 นาที อาจจะเข้า N นานๆทีครับ
แต่ใช้ brake hold นานๆ พอมาเข้า N มักจะไม่ชิน ออกตัวก็เหยียบเลยทั้งๆที่เป็น N ต้องผลักกับมา D เสียจังหวะอีก ผมเคยมาแล้ว คือต้องมีสติมากขึ้น
แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ เข้า N รถนิ่งกว่า รู้สึกนั่งสบายกว่า, D สั่นกว่า
นี่นก็เป็นอีก 1 ข้อดีเล็กๆน้อยๆของการเข้า N ที่ผมสัมผัสได้
แต่สุดท้ายผมไม่ค่อยแคร์ครับ brake hold ต่อไป
เอาความถนัดส่วนตัวเป็นหลัก
-
ไม่มีความจำเป็นใดๆต้องเข้า P ตอนติดไฟแดงเลย
กลัวไหล ดึงเบรคมือ เบรคมือดึงไม่อยู่ ซ่อม
เข้า P หากโดนชนท้าย ซ่อมเกียร์อีก
-
ถ้าติดนิ่งผมก็เข้า N นะครับไม่ชอบเหยียบเบรค
-
ไฟแดงไม่นาน หรือไม่เกิน 1 นาที เหยียบเบรคไว้
นานเกิน 1 นาที เข้าเกียร์ N ดึงเบรคมือครับ
-
อ้าวแสดงว่าเราใช้ผิดมาตลอด????
คือเราจะเข้า N ตอนใกล้จะถึงไฟแดง แล้วปล่อยไหล คือที่ทำแบบนี้เพราะรู้สึกว่ามันได้พักและผ่อนคลายเท้าและขาอ่ะ
อ้าว เหมือนพ่อผมเลยครับ 5555 แถมพ่อผมรอยูเทิร์นยังเข้าเกียร์ N อีก เมื่อไหร่จะได้ไป จะบ้า ทำอะไรแปลกกว่าชาวบ้าน บอกเท่าไหร่ก็ไม่เชื่อ อ้างกลัวตกใจ กลัวไม่ปลอดภัย แบบตัวเองสิไม่ปลอดภัย พิลึก โชคดีที่ไปใช้คันเกียร์ธรรมดานานแล้ว ไม่งั้นรถผมเน่าแน่ ;D
-
อ้าวแสดงว่าเราใช้ผิดมาตลอด????
คือเราจะเข้า N ตอนใกล้จะถึงไฟแดง แล้วปล่อยไหล คือที่ทำแบบนี้เพราะรู้สึกว่ามันได้พักและผ่อนคลายเท้าและขาอ่ะ
ใช่เลยครับ
เคยอ่านมา ในการขับขี่รถเกียร์ธรรมดา การเหยียบคลัทช์ปล่อยให้รถไหลไปเรื่อยๆนี่เรียกว่าการทำ coasting
ในการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติในบางประเทศ กรรมการจะให้สอบตกทันทีหากผู้ทดสอบมีการทำ coasting
ส่วนในเกียร์อัตโนมัติ จากคลิปวิดิโอในกระทู้ข้างบน ภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นของผมจับความได้ส่วนหนึ่งว่า ผิดกม.ในหลายรัฐ
ที่มีการทำcoasting โดยเข้าเกียร์Nขับขี่ปล่อยให้รถไหลลงจากเนิน(เพื่อหวังประหยัดเชื้อเพลิง)
-
ดูอารมณ์ส่วนใหญ่ผมเบรคไกลๆคันหน้าเกือบๆช่วงตัวรถน่ะ ค่อยๆปล่อยเบครมาทีหละหน่อยๆ เหมือนเวลาเราขยับรถในช่องแคบๆน่ะ
แต่ถ้าติดนานเกิน1นาที ใส่เกียร์ว่างพร้อมเบรคมือรอเลย
ขออนุญาตต่อต้านความคิดนี้แบบสุภาพนะครับ คือกลายเป็นว่าคนที่ต่อหลังคุณจอดรถแบบสนิทไม่ได้โดยเฉพาะรถที่มีระบบ auto start/stop เพราะเวลาคุณปล่อยให้รถไหลแล้วเค้าไม่ขยับตาม คันหลังก็จะด่าว่าเว้นที่ห่างๆทำไม
ทำไมไม่จอดนิ่งๆไปทีเดียวเลยครับ
-
http://www.headlightmag.com/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3307/
ผมอ่านบทความนี้มา ก็เข้า D เหยียบเบรกตลอด ถ้ามันไม่นานเกิน 3 นาที
เเต่เคยอ่านกระทู้เมืองนอก เค้าบอกว่าให้เข้า N ดีกว่า จะลดภาระของ Torque Converter เเต่ก็มีฝรั่งอีกคนมาเเก้ว่า ตอน idling รอบเครี่องเเค่ 600-800 รอบ ไม่น่าสร้างโหลดอะไรขนาดนั้น
เเต่ผมก็ยังเชี่อเเบบเดิมอยู่นะ เพราะการเปลี่ยนไปๆมาๆ ไม่น่าจะดีอยู่เเล้วล่ะ เหยียบเบรกไปดีกว่า ผ้าเบรกไม่หมดอยู่เเล้ว หลอดไฟเบรกหลอดละ 100นิดๆ 3 ดวง 300บาท ถูกกว่าซ่อมเกียร์เป็นไหนๆ
-
ผมผลักไป N แล้วดึงเบรคมือครับ
-
ผมว่าจะ N หรือ D มันไม่ได้เป็นสาเหตุให้เกิดการเสียของเกียร์ได้ชัดเจนครับ เท่าที่ทราบมาก็ยังไม่เห็นมีใครระบุชัดว่าเข้าซ่อมเกียร์เพราะใช้เกียร์ N หรือ D ในขณะจอดรถบ่อยๆ แต่ที่ควรมองน่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้ขับมากกว่า การเข้าเกียร์ N ยังไงก็มีความปลอดภัยในการจอดมากกว่า การเข้าเกียร์ D เพราะการเข้าเกียร์ D ซึ่งอยู่ในสถานะพร้อมเคลื่อนที่ขณะจอด อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องเกี่ยวกับรถไหลเพราะลืมเหยียบเบรค หรือเหยียบเบรคน้อยไป ปัญหาเกียร์มีโอกาศเสียหายจากการโดนชนท้ายอย่างรุนแรง ปัญหาจากการตกใจ หรือโรคประจำตัว แล้วเผลอเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง ปัญหานี้จะไม่เกิดหากคุณเข้าเกียร์ N ในขณะจอดรถ แต่ถ้าจอดติดไฟแดงแค่ไม่ถึงนาที ผมก็จอดอยู่ในเกียร์ D ครับ เอาความสะดวกเป็นหลัก แต่ถ้านานกว่านั้นก็เข้า N ดึงเบรคมือ
-
ของผมถ้าติดแดงนานก็Nถ้าแป็บๆก็Dครับ เอาสะดวกไว้ก่อน ของแบบนี้ไม่พังหรือสึกหรอง่ายขนาดนั้นหรอก คิดมากปวดหัวครับ
-
จากคำถาม ไม่เห็นระบุว่าเป็นเกียร์อะไร งั้นตอบว่าเข้า N เพราะเวลาจอดนิ่งๆถ้าไม่เข้า N ก็ต้องเหยียบคลัทค้างไว้ค่ามันก็เท่ากับเข้า N แล้วปล่อยไว้ แถมเหยียบคลัททิ้งไว้คลัทยังสึกอีกด้วย
แต่ถ้าหมายถึงเกียร์ออโต้ ลองนึกตามคนสร้างรถนะ เค้าสร้างระบบเบรคโฮลขึ้นมา เวลาใช้เบรคโฮลเกียร์ต้องอยู่ตำแหน่งอะไร รถที่ไม่มีก็ควรอยู่ตำแหน่งนั้นแหละ
ถ้าเป็นเกียร์แบบ MG3 ผมไม่รู้เพราะไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่ง แต่เค้าบอกว่าควรเข้า N ต่อให้เข้า D เหยียบเบรคพอรถหยุดมันก็จะตัดไป N อยู่ดี คิดว่าสมเหตุสมผลไหมล่ะ
-
ถ้าเป็นauto มี hold break นี่คือ d ยาวได้เลยไหมคับ
แต่ถ้านานๆๆๆ หน่อยค่อย N??
-
รถผมถ้าจอดไฟแดง ถ้าเหยียบเบรคอยู่ที่เกีย D เครื่องสั่นจนรู้สึกได้ (ศูนย์บอกปกติ)
แก้ปัญหาโดยดึงมาที่ N ครับ เครื่องสั่นน้อยลงแบบพอรับได้
-
รถติดในเมืองการจราจรชลอตัวก็เกียร์Dแล้วเหยียบเบรคเอา ถ้าเจอสี่แยกไฟแดง200วิค่อยเลื่อนมาN
-
ถ้าติดนานเกิน 30 วิ ผมก็ผลักมา N อยากให้เกียร์ได้พัก เพราะเข้า D ไว้กำลังถูกส่งลงไปที่เกียร์ตลอดเวลา ทำให้เกัยร์พยายามไปหมุนเพลาขับ เฟืองหัวเพลาขับ( CV JOINT)ก็จะมีแรงมากระทำตลอดเวลา ระบบเบรคด็ต้องทำงานตลอดเวลาเช่นกัน และทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า
ถ้าอยากทราบว่ากำลังเครื่องยนต์ช่วง 600-800 รอบมีขนาดไหน ลองใส่เกียร์ D แล้วปล่อยให้รถวิ่งโดยไม่ต้องเหยียบค้นเร่ง ความเร็วที่เคลื่อนตัวในขณะนั้นคือกำลังของเครื่องยนต์ที่ส่งไปยังเกียร์และไปกระทำกับระบบขับเคลื่อนในส่วนต่างๆ ทั้งตัวเฟืองเกียร์และเฟืองขับ ลองขึ้นไดโน่ดูว่าได้เท่าไหร่
ส่วนตัวเคยเข้า D แล้วเหยียบเบรค แล้วเกิดหลับในขึ้นมา ทำให้เท้าปล่อยเบรคแล้วรถไหลไปชนคันหน้า งานเข้าเลยครับ
-
ดูอารมณ์ส่วนใหญ่ผมเบรคไกลๆคันหน้าเกือบๆช่วงตัวรถน่ะ ค่อยๆปล่อยเบครมาทีหละหน่อยๆ เหมือนเวลาเราขยับรถในช่องแคบๆน่ะ
แต่ถ้าติดนานเกิน1นาที ใส่เกียร์ว่างพร้อมเบรคมือรอเลย
ขออนุญาตต่อต้านความคิดนี้แบบสุภาพนะครับ คือกลายเป็นว่าคนที่ต่อหลังคุณจอดรถแบบสนิทไม่ได้โดยเฉพาะรถที่มีระบบ auto start/stop เพราะเวลาคุณปล่อยให้รถไหลแล้วเค้าไม่ขยับตาม คันหลังก็จะด่าว่าเว้นที่ห่างๆทำไม
ทำไมไม่จอดนิ่งๆไปทีเดียวเลยครับ
ในความเป็นจริงมันก็ว่างได้เต็มที่ เมตรนิดๆนะ -*-
หรือผมประหลาดเอง ชับต่างจังหวัดมากกว่าในกรุง :-\
-
ปกติจะเบรคครับถ้าไม่นาน ถ้านานก็N+เบรคมือ
ส่วนPเนี่ยโอกาสมีรถมาชนมันน้อยมากๆเลย แต่ก็อย่าเสี่ยง
-
ไล่ดูใน youtube ทั้งหมด บอกว่า ไม่ต้องสลับไปมา ระหว่าง D-N การสลับไปมา เป็นภาระกับชิ้นส่วน มากกว่า
การเข้า D แล้ว เหยียบเบรค ไม่ได้สร้าง Load ให้เกียร์ และ ไม่เปลืองน้ำมัน
เรื่องนี้เป็นวิทยาศาสตร์ครับ
แต่ รถใคร ก็รถมัน ใช้ตามที่อยากใช้ครับ
-
ดูอารมณ์ส่วนใหญ่ผมเบรคไกลๆคันหน้าเกือบๆช่วงตัวรถน่ะ ค่อยๆปล่อยเบครมาทีหละหน่อยๆ เหมือนเวลาเราขยับรถในช่องแคบๆน่ะ
แต่ถ้าติดนานเกิน1นาที ใส่เกียร์ว่างพร้อมเบรคมือรอเลย
ขออนุญาตต่อต้านความคิดนี้แบบสุภาพนะครับ คือกลายเป็นว่าคนที่ต่อหลังคุณจอดรถแบบสนิทไม่ได้โดยเฉพาะรถที่มีระบบ auto start/stop เพราะเวลาคุณปล่อยให้รถไหลแล้วเค้าไม่ขยับตาม คันหลังก็จะด่าว่าเว้นที่ห่างๆทำไม
ทำไมไม่จอดนิ่งๆไปทีเดียวเลยครับ
ในความเป็นจริงมันก็ว่างได้เต็มที่ เมตรนิดๆนะ -*-
หรือผมประหลาดเอง ชับต่างจังหวัดมากกว่าในกรุง :-\
ขอออกตัวก่อนว่าผมอธิบายปัญหาที่ผมเจอนะครับ ไม่ได้จะเถียงต่อความยาวสาวความยืดครับ :D
ผมจะเป็นคนที่ชอบใช้ระบบ auto start/stop มากเพราะรู้สึกว่ามันประหยัดน้ำมัน แต่ก็จะโดนคนบีบแตรใส่ประจำโดยเฉพาะพวก taxi ถ้าด้านหน้ามีช่องเหลือเกิน 1 คันรถที่เกิดจากรถคันข้างหน้าขยับรถแบบที่คุณอธิบายอ่ะครับ
ก็เข้าใจคันหลังเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะถนนสาทรที่ถ้าไม่พ้นไฟแดงแรกนี่รออีกยาวอ่ะครับ เค้าเลยอยากเพิ่มโอกาสที่จะผ่านไฟแดงข้างหน้าได้ในครั้งนี้ แต่รถที่เป็นระบบ auto start/stop ถ้าเลื่อนรถนิดๆบางทีระบบมันไม่ทำงานครับ ก็กลายเป็นเสียน้ำมันเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ (อาจจะไม่มากมายอะไรขนาดนั้น แต่ก็ประหยัดกว่าถ้าระบบทำงานครับ) ก็เลยงงว่าทำไมต้องจอดเว้นระยะแล้วค่อยๆขยับครับ
-
รถผม vios 2003 ถ้าอยู่ D แล้วจอดมันสั่นทั้งคัน ต้องใส่ N ตลอด
มันเหมือนรถเกียร์ธรรมดา เหยียบคันคันเร่งกับเบลคพร้อมกัน แล้วเลียครัชเบาๆ เหมือนรถเลียครัชตลอด ;D ;D ;D
-
N แล้วดึงเบรคมือครับ เมื่อยขา 55555
-
อยู่ฝ่าย D แล้วดึงเบรคมือครับ