ผู้เขียน หัวข้อ: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN  (อ่าน 3180 ครั้ง)

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,953
    • อีเมล์
ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 12:11:58 »
แรกๆ ก็ตื่นตาตื่นใจ หลังๆ ไปจะเป็นลม ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN

หลังจากเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมเฝ้ารอเวลาที่จะได้ลองขับ Ford Ranger Raptor New Gen นานถึง 5 เดือน ในที่สุดก็ได้อยู่หลังพวงมาลัยของ Raptor รุ่นปี 2022 รถที่ Ford Performance ภูมิใจนำเสนอภาคสานต่อของกระบะสมรรถนะสูงที่ถูกปรับปรุงใหม่หมดทั้งคัน เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Ranger Raptor รุ่นแรกที่ผมเคยขับในปี 2018 นับเป็นรถปิกอัพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อเทียบกับรถกระบะในตลาดของประเทศไทยแบบไร้คู่แข่ง สำหรับนักล่าตัวใหม่ มาพร้อมแพลตฟอร์ม T6.2 ของ Ford ซึ่งพัฒนาและออกแบบในออสเตรเลียทั้งหมด เป็นการถ่ายเทวิวัฒนาการของแพลตฟอร์ม T6 ของรุ่นก่อน ทำให้ Ranger Raptor รุ่นใหม่ ต้องเจอกับเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่างแรกเลยก็คือ เครื่องยนต์ ขุมกำลังดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 157kW (213 แรงม้า) แรงบิด 500 นิวตันเมตร หายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จคู่ 3.0 ลิตร Twin-Turbo EcoBoost V6 ความจุ 2,956 ซีซี. ส่งกำลังจากเครื่องสูบ V ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10R60 10 สปีด low-range transfer case, locking front and rear differentials ชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์ที่ปรับปรุงใหม่ เครื่องยนต์ Ecoboost ถูกจูนให้มีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 391 แรงม้า (292kW) แรงบิดเพิ่มเป็น 583 นิวตันเมตร กำลังสูงสุดอยู่ที่ 5,650 รอบต่อนาที ในขณะที่แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 3,500 รอบต่อนาที ตัวเลขเหล่านี้ สำหรับเจ้าของ Raptor รุ่นแรก พอมาลองขับรุ่นใหม่ ก็จะสัมผัสได้ทันทีว่ารถรุ่นใหม่นั้นเร่งความเร็วได้ดีขึ้น ความต่อเนื่องของย่านกำลัง ในการไต่ระดับความเร็วจาก 120 ไปจนถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นเร็วกว่าเดิมมาก

โหมดการขับขี่บนถนน
Normal : ออกแบบมาเพื่อความสบาย ประหยัดน้ำมัน และสมรรถนะในการขับขี่

Sport : ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นสำหรับการขับขี่บนถนนอย่างมีจิตวิญญาณ

Slippery : โหมดผิวถนนลื่น เพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจบนพื้นผิวที่ลื่นหรือไม่เรียบ

โหมดการขับขี่แบบออฟโรด
Rock Crawl : ให้การยึดเกาะและโมเมนตัมที่ดีที่สุดบนพื้นผิวที่หลวม

Sand : โหมดขับบนทางทราย สำหรับใช้ในทรายที่อ่อนนุ่มและสภาพหิมะที่ลึก เพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและการเปลี่ยนเกียร์

Mud/Ruts : โคลน/ร่อง เพื่อการยึดเกาะทางวิบากสูงสุดในระหว่างการออกตัวและรักษาโมเมนตัมของรถ

Baja : ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะออฟโรดความเร็วสูงพร้อมระบบทั้งหมดที่ตั้งค่าไว้สำหรับการขับด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

Ford Ranger Raptor ตัวใหม่ ราคา 1,869,000 บาท ยังเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ permanent all-wheel-drive system 4A -4WD drivetrain ใช้ชุดคลัตช์ Borg Warner ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างหลากหลาย ทั้งขับสองล้อหลังในสถานการณ์ปกติ และขับเคลื่อนสี่ล้อทั้ง Low และ High โดยแยกการส่งแรงบิดไปยังด้านหน้า/ด้านหลังด้วยสมองกลไฟฟ้า ถือเป็นจุดเด่นเพราะเป็นสิ่งที่ Raptor รุ่นเก่าไม่สามารถทำได้ และจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อต้องขับฝ่าทางวิบากออฟโรด ระบบกระจายแรงบิดที่เรียกว่า Torque On Demand ในเจเนอเรชันล่าสุดนี้ ยังสามารถล็อกเฟืองทดกำลังหน้า-หลังร่วมกันได้อย่างเต็มที่ เพื่อการกระจายแรงบิดของการขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้ความเร็วสูง (4H) นอกจากนี้ ยังสามารถขับเคลื่อนล้อหลังแบบ 2H ได้เหมือนรถกระบะขับหลังทั่วไป สำหรับการลุยทางโหดที่ต้องใช้ความเร็วต่ำในโหมดขับสี่แบบ 4L ด้วย locking front and rear differentials ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แชสซีใหม่ที่หนาบึ้กของ Raptor Next Gen ออกแบบมาเพื่อรับงานหนัก เอาไปขับลุยไม่ต้องกลัวบิดหรือแตก แชสซีได้รับการออกแบบใหม่มาเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ออฟโรดความเร็วสูง มีความแกร่งมากพอที่จะรับแรงกระแทกที่เกิดจากการขับบนทางวิบาก ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อกทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง ช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถ

แชสซีด้านหน้าเพิ่มความแข็งแรงของจุดยึดหูโช้คที่ถูกขยายความสูงขึ้นมา ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบคอยล์โอเวอร์ช็อก Ford Performance tuned-and-tested FOX 2.5” Live Valve internal bypass shock absorbers รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์ที่ด้านหลัง ช่วยให้เพลาเคลื่อนที่ขึ้น-ลงได้อย่างอิสระ โดยที่มีการขยับตัวในแนวราบน้อย ตะขอเกี่ยว 2 ตำแหน่งด้านหลัง รองรับน้ำหนักจากการลากจูงได้ 3.8 ตัน โครงสร้างแท่นยึดยางอะไหล่ที่ถูกเสริมความแข็งแรงเพื่อรองรับยางอะไหล่ขนาด 17 นิ้ว รองรับโช้คแบบ Position Sensitive Damping (PSD) ความก้าวหน้าของโช้คอัพที่ใช้เทคโนโลยีในสนามแข่ง เพื่อก้าวไปข้างหน้าพร้อมประสิทธิภาพการทรงตัวเหนือระดับ ใน Raptor รุ่นนี้ องค์ประกอบบางอย่างของช่วงล่างยังคงคล้ายกับรุ่นที่แล้ว โช้คอัพโมโนทิวบ์ของ Fox มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว วาว์ลบายพาสภายในที่ทำงานได้ดีขึ้น มีความสอดคล้องไปกับสภาพเส้นทางได้อย่างยอดเยี่ยม (ใช้คำว่า "ยอดเยี่ยม" เพราะมันวิ่งได้เนียน ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น) คราวนี้ไม่มีลูกสูบลอยอยู่ภายใน แต่กลับมีการบีบอัดตัวแปรที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง Fox เรียกระบบนี้ว่า 'Live Valve' เป็นห้องเพิ่มเติมที่ด้านล่างของโช้คอัพซึ่งตั้งฉากและมีสายไฟสองสามเส้นเชื่อมต่ออยู่ เป็นวิธีการเพิ่มเติมประสิทธิภาพการทำงาน ในการควบคุมการไหลของน้ำมันภายในกระบอกโช้ค โดยมีการเปิดและปิดวาล์วแบบอัตโนมัติ เพื่อลดหรือเพิ่มการหน่วงและการอัดที่สอดคล้องกันตลอดการขับเคลื่อนไปบนผิวถนนที่แตกต่างกัน

รูปแบบของระบบกันสะเทือนถือเป็นจุดเด่นและประสิทธิภาพการขับเคลื่อนของรถ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระดับเบิ้ลวิชโบน ปีกนกคู่ พร้อมระยะห่างระหว่างล้อ 1,710 มิลลิเมตร เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มใหม่ ส่วนประกอบหลัก เช่น แขนควบคุมและจุดยึดต้องออกแบบและติดตั้งชิ้นส่วนต่างๆ ใหม่ทั้งหมด ล้ออัลลอยลายแกร่ง รองรับการลุยแหลกด้วยความแข็งแรงของล้อขอบ 17 นิ้ว ยางกึ่งออฟโรดสมรรถนะสูง ไซส์ 285/70 R17 ยังคงใช้แบรนด์เดิม นั่นก็คือยาง BFGoodrich รุ่น KO2 all-terrain แบบเดียวกันกับยาง Raptor เจนแรก KO2 all-terrain มีแก้มยางความหนาสามชั้น ยางรุ่นนี้ติดตั้งกับล้ออัลลอยของ Ford Performance ได้อย่างลงตัว KO2 วิ่งอย่างเนียนทั้งทางลาดยาง ทางปูนซีเมนท์และทางวิบากทั้งดิน โคลน ทราย ลูกรัง และหินลอย

Ford Ranger Raptor รุ่นปี 2023 ถูกปรับรูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด หน้าตาที่แตกต่างไปจากรถกระบะ F-Series ของ Ford ไฟหน้าแบบ Dark Accent Matrix LED headlamps with LED DTRLs  เดินเส้นล้อมกรอบไฟหน้าด้วยไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light แบบ C-clamp และกระจังหน้า block letter Grille ตัวอักษร F-O-R-D ที่โดดเด่น โดยรวมแล้ว Raptor ใหม่ กว้างขึ้น 100 มิลลิเมตร กันชนหน้ามีไฟตัดหมอก LED ขนาดเล็กอยู่บริเวณมุมด้านล่างของกันชนทั้งสองฝั่ง ด้านล่างมีแผ่นโลหะกันกระแทก Super Alloy front skid plate ฝากระโปรงหน้าเชื่อมโยงเส้นสายได้อย่างลงตัวระหว่างแก้มข้างและส่วนหน้า พลาสติกหุ้มซุ้มล้อสีเทา-ดำ คงต้องระวังเวลาใช้งานกันพอสมควร เพราะถ้าเอาไปลุยหนักๆก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ ด้านข้างมีกาบบันได Black Powder coated die cast aluminum side steps ใช้เหยียบขึ้นไปสู่ห้องโดยสาร เนื่องจากขนาดความสูงที่มากกว่ารถกระบะทั่วไป การมีกาบบันไดข้างช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกจากห้องโดยสารได้ดี แต่ถ้าจะเอาไปลุยหนักๆ ควรถอดออกจะดีกว่ามาก

มิติตัวถังยาว 5360 มิลลิเมตร กว้าง 2028 มิลลิเมตร สูง 1926 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3270 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 272 มิลลิเมตร ระยะแทร็กล้อหน้า-หลัง 1,710 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,475 กิโลกรัม น้ำหนักรถบวกน้ำหนักบรรทุกสูงสุด รวม 5,370 กิโลกรัม มุมเข้าใกล้ 32° มุมลาดเอียง 24° มุมจาก 27° (24° เมื่อติดตั้งคานลาก) ความจุถังเชื้อเพลิง 80 ลิตร (เบนซิน) เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทุกแง่มุมของ Ranger Raptor ได้รับการออกแบบมาโดยมีสมรรถนะของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์และระบบรองรับเป็นหัวใจหลัก ช่วงล้อที่ถูกขยายให้กว้างขึ้น บวกกับความสูงของตัวรถที่เพิ่มขึ้น โป่งข้างซุ้มล้อของรถที่ขยายออกเพื่อให้มีความสอดคล้องกับแทร็กองล้อที่กว้างกว่า Ranger รุ่นมาตรฐาน โช้คอัพของ FOX Racing Shox ปีกนกอลูมิเนียม รวมถึงล้อและยางที่ถูกออกแบบให้สามารถรองรับการขับขี่แบบออฟโรด กระบะท้ายมีพื้นที่กว้างมากกว่ารถกระบะทั่วไป ฝาท้ายกระบะมีระบบผ่อนแรงเปิด-ปิด พร้อมจุดเชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าสองตำแหน่งที่คอยป้อนพลังงานยามออกไปแคมป์ปิ้ง ทั้งแบบ 12V 180W และ AC230V 400W MAX ไฟท้ายทรงตั้งหลอด LED สว่างคมชัดใช้ได้ ตำแหน่งของไฟเลี้ยว LED ที่มุมบนทำให้สังเกตได้ง่าย ไฟเบรกดวงที่สามอยู่เหนือมือจับที่เปิดฝาท้าย กันชนหลังออกแบบได้ดีทั้งความแข็งแรงสวยงามและใช้เป็นที่เหยียบเพื่อขึ้นไปบนกระบะท้าย ท่อระบายไอเสียทรงกลมฝั่งละท่อ พร้อมจุดลากเหล็กรูปตัวยูที่เอาไว้ลากจูง ฝากระบะท้ายปั๊มตัวอักษร Ranger และแถบป้าย Raptor พลาสติกสีดำที่มุมบนด้านขวาของฝากระบะท้าย จากรูปลักษณ์ที่ดุดัน สื่อถึงสมรรถนะที่เหนือกว่ารถกระบะไซส์กลางทุกรุ่นที่มีขายในประเทศไทย Ranger Raptor Next Gen ที่มีดีเอ็นเอของ Ford Performance ได้กลายมาเป็นรถออฟโรดสมรรถนะสูงที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทยแล้วถูกส่งออกไปขายทั่วโลก

ภายในของ Ranger Raptor Next Gen นั้นเหมือนกับ Ranger รุ่นใหม่ตัวถังดับเบิ้ลแค็บ แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น เบาะที่นั่ง ใช้การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำแหน่งที่นั่งนักบินในเครื่องบินขับไล่ F22 Raptor พื้นที่เบาะคู่หน้ามีขนาดใหญ่ แดชบอร์ดคอนโซลตกแต่งด้วยพลาสติกสีส้ม ช่องแอร์ทรงรังผึ้งท่ีสวยงาม บางจุดของห้องโดยสาร พวกแผงประตู เบาะ และขอบของแดชบอร์ด บุด้วยวัสดุแบบใหม่ที่มีส่วนผสมของหนังที่คล้ายกับหนังกลับ Alcantara การออกแบบตัวเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง มีรูปทรงที่โอบอุ้มสรีระของคนของ การออกแบบเบาะที่นั่งในลักษะดังกล่าวจะช่วยทำให้นั่งขับได้สบายตัวขึ้นมากไม่ว่าจะขับบนไฮเวย์ หรือเอาลงไปรูดบนทางลูกรังด้วยความเร็วสูง

เบาะหลังแบบสามที่นั่ง เอาเข้าจริงๆ นั่งสองคนจะสบายตัวกว่ามาก เบาะหลังใช้หนังและวัสดุตกแต่งเพิ่มเติมรวมถึงธีมสีเหมือนกับเบาะคู่หน้า ลวดลาย Code Orange ปรากฏอยู่ทั่วทั้งห้องโดยสาร โดยเฉพาะบริเวณช่องแอร์และพวงมาลัยที่ประทับตรา Raptor พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ มีแถบหนังสีส้มอยู่ตรงกึ่งกลางด้านบน เพื่อเป็นแนวทางในการเล็งตำแหน่งองศาของพวงมาลัยในแนวรถซิ่ง หนังที่ใช้หุ้มรอบวง มีสัมผัสพิเศษแบบอ่อนนุ่มบางจุด มันมาพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชันและแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ทำให้ Raptor อยู่เหนือกว่า Ranger หรือ Everest รุ่นท็อป รวมถึงวัสดุไมโครไฟเบอร์ที่คล้าย Alcantara บนช่องเก็บของหน้ารถ แผงประตู และงานตกแต่งบนเบาะนั่ง

นอกจากจอแสดงผลอินโฟเทนเมนท์แนวตั้งขนาด 12 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้นแล้ว Ford Ranger Raptor Next Gen ยังแตกต่างจาก Ranger จากการใช้แผงหน้าปัดดิจิตอล instrument cluster TFT  tft thin film transistor ขนาด 12.3 นิ้ว ที่ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้อย่างน่าประทับใจ ความคมชัดของจอภาพมาตรวัดที่แสดงตำแหน่งเกียร์เอาไว้ตรงกลาง ควบรวมการแสดงผลที่มีความหลากหลาย โดยยังคงใช้หลักการเดิมของมาตรวัดแบบคลาสสิกที่คุ้นเคย เชื่อมโยงด้วยสีสันและความชัดเจนท่ีน่ามอง มาตรวัดรอบทรงกลม ตรงกลางเป็นจอภาพแสดงข้อมูล MID multi function display แสดงข้อมูลที่สำคัญเช่น อุณหภูมิในหม้อน้ำ อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ ระดับเชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่สามารถไปถึง อัตราสิ้นเปลือง ระบบอินโฟเทนเมนท์ การเชื่อมต่อ การนำทาง อุณหภูมิภายนอก ฯ จอภาพมาตรวัดคลัสเตอร์ที่ด้านหน้าคนขับสามารถแสดงการนำทางแบบสด พร้อมด้วยข้อมูลทางเทคนิคและกลไกมากมาย สำหรับเวลาที่คุณต้องการเรียกดูข้อมูล คลัสเตอร์ดิจิทัลยังสามารถปรับแต่งได้ตามการผสมผสานข้อมูลต่างๆ

จอภาพมอนิเตอร์กลางวางตำแหน่งในแนวตั้งของระบบอินโฟเทนเมนต์ก็ดีเช่นกัน มีการผสมผสานความซับซ้อน คุณสมบัติที่หลากหลาย และความสะดวกในการใช้งานเข้าด้วยกัน มีเมนูและตัวเลือกมากมายให้ใช้งาน โดยเฉพาะปุ่มทางลัดที่ด้านบนสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการแสดงผลกลับไปที่ส่วนหลักได้ แม้ว่าจอแสดงผลจะมีขนาดที่ยาวผิดปกติ แต่ Ford ออกแบบให้ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ (โซนคู่) โดยวางตำแหน่งอยู่ที่ด้านล่าง พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียงที่เน้นความสำคัญทั้งหมดของการใช้งาน ซึ่งช่วยได้ดี เพราะปุ่มหมุนเหล่านี้ใช้งานขณะเดินทางได้ง่ายกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการสัมผัสไปที่หน้าจอในขณะที่รถกำลังขับเคลื่อน หน้าจอมอนิเตอร์กลางวางตัวในแนวตั้งขนาดใหญ่ ทำให้คุณมีทุกอย่างที่ต้องการในโลกยุคใหม่ เช่น การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย เชื่อมต่อ Android Auto, ระบบนำทางแบบ3D, บริการสตาร์ทรถจากระยะไกลและการระบุตำแหน่ง (ผ่านแอพ FordPass), วิทยุดิจิตอล ระบบเสียงที่ได้รับการอัพเกรดของ B&O sound system (Bang & Olufsen) ลำโพง 8 ตำแหน่งรอบห้องโดยสารที่เหนือกว่าเครื่องเสียงจากโรงงานในรถกระบะทั่วไป

อุปกรณ์ความปลอดภัยจัดมาให้อย่างครบ มีทั้งแบบใช้งานได้ดีและเกินความจำเป็นสำหรับนักขับที่มีฝีมือในการควบคุมระดับแชมป์แรลลี่ เช่น : การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go , การจดจำป้ายจราจร, การตรวจสอบจุดบอด พร้อมระบบเตือนการเข้าใกล้สิ่งกีดขวางด้านหลัง, การเตือนออกนอกเลนพร้อมกับการสั่นเบาๆ และดึงพวงมาลัยกลับอย่างค่อยเป็นค่อยไป อันนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดี สำหรับนักขับที่ชอบเผลอ ระบบช่วยจอด ไฟหน้าอัตโนมัติ Adaptive LED ที่ฉลาด ทำงานเร็ว แบ่งช่องแสงไฟในขณะที่ยกไฟสูงคาเอาไว้ เพื่อไม่ทำให้แสงไฟไปรบกวนรถยนต์รอบตัว Adaptive LED ของ Raptor Next Gen มีกำลังในการส่องสว่างไกลเฉียดๆ 600 เมตร กล้อง 360 องศา เซนเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง และระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะ สำหรับการตรวจสอบจุดบอดยังสามารถกดปุ่มตรวจการณ์บริเวณหลังซุ้มคันเกียร์ ระบบจะแสดงผลด้วยภาพ 360 องศา กับกราฟิกของระบบขับเคลื่อน เหมาะสำหรับเส้นทางวิบาก ที่ต้องการการวางตำแหน่งของรถให้ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง

วิศวกรของ Ford Performance แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน 95 หรือ 98 (ในบางประเทศ) สำหรับ Ranger Raptor รุ่นใหม่ โดยมีการยืนยันจาก Ford ว่า ระบบเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ V6 Twin Turbo ถูกปรับตั้งให้สามารถรองรับเชื้อเพลิงมาตรฐาน 91 ได้ แต่ประสิทธิภาพจะลดลงและทำระยะทางได้น้อยลง ทั้งนี้ เนื่องจาก Raptor ได้รับการพัฒนาระบบเชื้อเพลิงใหม่หมด โดยเผื่อไว้สำหรับภูมิภาคที่มีมาตรฐานค่าออกเทนต่ำ อีกเรื่องที่มีความสำคัญก็คือ เวลาเติมน้ำมันก็อย่าเอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ ดับเครื่อง แล้วลงมาดูว่าหัวจ่ายน้ำมันถูกต้องหรือเปล่า อย่าไปคิดว่าเด็กปั๊มเค้าจะรู้ว่าต้องเติมอะไร เพราะอาจเกิดการเข้าใจผิดคิดว่านี่คือกระบะดีเซลแล้วยัดหัวจ่ายน้ำมันดีเซลเข้าไป แบบนั้นก็เรื่องใหญ่เลยละครับ ลงจากรถ ดูให้แน่ใจว่าที่ยัดเข้าไปก่อนจะกดเติมว่านั่นคือหัวจ่ายเบนซินเป็นใช้ได้ เมื่อดูว่าเติมน้ำมันได้ถูกต้องแล้ว ก็ถือโอกาสเดินตรวจรอบๆ รถ ดูสภาพของยางว่ายังปกติดีอยู่หรือเปล่า การลงมาตรวจสอบด้วยตัวเองเวลาเติมเชื้อเพลิงจะดีกว่านั่งอยู่บนรถแล้วปล่อยให้เด็กปั๊มเข้าใจไปเองนะครับ

Ford Ranger Raptor ใหม่ ผ่านกระบวนการทางวิศวกรรมและการตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อทำให้รถรุ่นใหม่เหนือชั้นกว่า นั่นหมายถึงองค์ประกอบที่สำคัญในขั้นตอนการออกแบบ กระบวนการพัฒนา Ranger ท่ามกลางภูมิประเทศที่โหดร้าย ส่งผลต่อโปรแกรมการปรับจูน Raptor Next Gen ในทางกลับกัน มันมีประสิทธิภาพมากกว่า Raptor รุ่นเก่า เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเป็นเครื่องยนต์ที่ว่องไว แต่ท้ายที่สุดก็มีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐานใหม่ เนื่องจากขนาดและน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น มวลเหนือสปริงที่สูงขึ้นทำให้ Raptor ใหม่ จำเป็นต้องมีกำลังมากกว่าเดิม ระบบกันสะเทือนและชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้า กลายเป็นดาวเด่นของการควบคุม ทำให้ระบบส่งกำลังต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปรับตัวให้ทันกับช่วงล่างระดับเทพ  เครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร เป็นสัตว์ร้ายที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กำลัง 391 แรงม้า และแรงบิด 583 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะทำให้นักล่ารุ่นใหม่กระฉับกระเฉงมากกว่าเดิม ซึ่งเท่ากับกำลังเพิ่มขึ้น 85 เปอร์เซ็นต์ และแรงบิดเพิ่มขึ้น 16.6% เครื่องยนต์นี้ทรงพลังและตอบสนองได้ดี โดยมีเสียงท่อระบายท้ายที่กระหึ่มหนักแน่นน่าประทับใจ เครื่องยนต์ Ecoboost เร่งความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง จากการทำงานของระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ - เทอร์โบหนึ่งตัว รับผิดชอบในการอัดไอดีของกระบอกสูบทั้งสามตำแหน่ง มันสามารถป้อนอากาศได้อย่างรวดเร็วโดยมีอาการรอรอบเพียงเล็กน้อย เพื่อให้แรงดันบูสต์เพิ่มขึ้น เมื่อจุดติด Raptor Next Gen จะพุ่งทะยานแหวกกระแสลมอย่างมุ่งมั่นพร้อมๆ กับเข็มวัดระดับเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อัตราสิ้นเปลือง 6.8 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อใช้ความเร็ว 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เป็นมิตรต่อคนที่กระเป๋าบาง และเมื่อปรับโหมดขับเคลื่อนให้ตอบสนองอย่างเต็มประสิทธิภาพใน Sport Mode พร้อมๆ กับการใช้คันเร่งอย่างต่อเนื่องเพื่อขับในย่านความเร็วสูง อัตราสิ้นเปลืองก็จะเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ


https://www.thairath.co.th/news/auto/testdrive/2502537

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,953
    • อีเมล์
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 12:13:09 »
เส้นทางหนองปรือ เขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ คือถนนบนภูเขาที่คดเคี้ยววกไปวนมา ท่ามกลางหุบเขาสูงของเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นแนวแบ่งเขตไทยกับพม่า บริเวณด่านบ้องตี้ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อผมผลักดันเจ้า Raptor อย่างเต็มที่ เครื่องยนต์ Ecoboost ก็ตอบสนองได้ดี รอบสูงทำให้เกิดเสียงจากท่อระบายท้ายที่เร้าใจ เมื่อขับผ่านชุมชนเล็กๆ ที่ต้องลดความเร็วเหลือแค่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในการขับผ่านโรงเรียน การขับ Raptor ใหม่ ในย่านความเร็วต่ำ คือความสุขและผ่อนคลายอย่างแท้จริง ช่วงล่างผ่องถ่ายทั้งความหนึบแน่นและนิ่มนวล อาการโคลงตัวที่ลดลงมากกว่า Raptor รุ่นที่ผ่านมาซึ่งก็ทำได้ดีแล้ว แต่ตัวใหม่มีประสิทธิภาพของช่วงล่างในการควบคุมองคาพยบดีขึ้นไปอีกสเต็ป บนเส้นทางออฟโรดแบบลูกรัง การสร้างโมเมนตัมทำได้อย่างดีแม้จะขับเร็ว พลังการเร่งจากเครื่อง V6 ที่คุณต้องการ เพื่อออกจากโค้งมุมกว้างด้วยความกระฉับกระเฉง เครื่องยนต์ทำงานคล้ายฝูงแตนแตกรังท่ีกำลังโกรธจัด เบรกพอใช้ได้ เนื่องจากน้ำหนักตัวเยอะ ก็ต้องมีการเผื่อระยะเบรกเอาไว้บ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของรถคันโตที่มีน้ำหนัก 2.5 ตัน เมื่อเบรกหนักๆ  ก่อนหัวโค้ง ผมสามารถเร่งความเร็วอีกครั้งได้อย่างรวดเร็วในจุดบรรจบส่วนปลายของโค้ง ประสิทธิภาพของแรงบิด เกิดจากการปรับปรุงครั้งใหญ่ มันลดเวลาออกตัวจาก 0–100 กม./ชม. ของ Raptor รุ่นเก่าลงครึ่งหนึ่ง ประสิทธิภาพของช่วงล่างให้ความรู้สึกรุดหน้าและจู่โจม แทนที่จะเป็นการขับแบบตั้งรับ เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่ Raptor ใหม่รวบรวมเอาไว้ทั้งหมด (ยกเว้นอัตราสิ้นเปลือง เตือนแล้วนะ!)  มันเกรี้ยวกราดและน่ากลัวในบางจังหวะที่ใส่มาล้นจนเกินไป คุณจะมีความสุขทั้งทางเรียบและโลดโผนโจนทะยานบนเส้นทางออฟโรดในสถานการณ์ที่เหมาะสม

เมื่อหมุนแป้นควบคุมโหมดขับเคลื่อนไปยังโหมดที่ดุดัน ระบบไอเสียแบบแอคทีฟจะเริ่มขั้นตอนการทำงานทันที วาล์วบายพาสแบบควบคุมได้ในระบบไอเสีย ซึ่งอยู่หลังชุดท่อไอเสียหลัก จะส่งเสียงจากดังเล็กน้อยไปจนถึงระดับดังปานกลาง มันเป็นเสียงที่ Ford พยายามปรับแต่งอย่างหนักเพื่อให้ถูกต้อง แต่ผมคิดว่าท่อน่าจะทำเสียงได้ดีกว่านี้ ท่อระบายท้ายของเครื่องเบนซิน V6 ใน GLC43  มีโทนเสียงที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมเสียงครางที่หวานเสนาะหูในรอบสูง แต่ท่อของ Raptor Next Gen กลับให้เสียงที่กระหึ่มออกไปในแนวเครื่องบิ้กบล็อกของพวกมะกันมากกว่า สำหรับโหมดไอเสียที่ดังและดุดันที่สุดเรียกว่า Baja มาพร้อมกับคำเตือนว่ามีไว้สำหรับการใช้งานแบบออฟโรดเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันอาจจะดังเกินไปสำหรับการใช้บนถนนสาธารณะ โดยเฉพาะในเขตชุมชน

นอกจากช่วงล่างขั้นเทพตราหมาป่าแล้ว ระบบบังคับเลี้ยวของ Raptor Next Gen คือที่สุดของพวงมาลัยรถกระบะที่มีขายในไทย ซึ่งใช้ส่วนประกอบต่างๆ กับส่วนที่เหลือของรถ Ranger โดยได้รับความช่วยเหลือจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกับเซนเซอร์สปีดความเร็วและโหมดขับเคลื่อน เมื่อใช้ความเร็วสูง พวงมาลัยของ Raptor Next Gen ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากพวงมาลัยรถกระบะทุกยี่ห้อในไทย แม้แต่ Ranger ตัวใหม่ก็ยังมีพวงมาลัยที่ตอบสนองได้ไม่ดีเท่า สัมผัสเชื่อมต่อกันมากขึ้นในโค้ง น้ำหนักที่หน่วงกำลังดีในแต่ละโหมดขับเคลื่อน มันใช้ฮาร์ดแวร์เดียวกัน แต่ได้รับการปรับแต่งให้แตกต่างออกไป ด้วยอัตราทดของแร็คที่ช้ากว่าเล็กน้อย ความรู้สึกในการบังคับเลี้ยวมีประโยชน์มากขณะทำความเร็ว ทั้งบนถนนและทางวิบาก พร้อมการตอบสนองและความมีชีวิตชีวาที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟีลลิ่งของพวงมาลัยในรถรุ่นเก่า การมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่และโช้คอัพระดับเทพบวกกับพวงมาลัยไฟฟ้าท่ีมาดมั่นเป็นสูตรสำเร็จที่ Raptor ให้ความสำคัญ การขับเร็วจี๋บนผิวทางลูกรังถือเป็นประสบการณ์พิเศษ คุณสามารถขับด้วยความเร็วสูงใน Raptor ได้อย่างสนุกสนาน โดยภาพรวม Raptor ใหม่ มีความสมดุลที่ทำให้ควบคุมได้ง่าย แค่ระวังเรื่องขนาดและพื้นที่รอบตัวเท่านั้น จุดประสงค์ของการใช้เบรกขนาดใหญ่เป็นเรื่องที่ดี แต่น้ำหนักตัวน้องๆ ช้างพลายก็ควรจะเผื่อระยะเบรกเอาไว้บ้าง มวลที่ใหญ่โตต้องการพื้นที่ด้านหน้าในการเบรกมากกว่ารถที่เบากว่า ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวคอยควบคุมให้รถอยู่บนเส้นทาง อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณทำได้อย่างถูกต้อง คุณสามารถเข้าโค้งได้เร็วและออกจากปลายโค้งด้วยส่วนท้ายที่เริ่มบานออกด้านข้าง แค่ยกคันเร่งและขยับพวงมาลัยไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับส่วนท้ายที่กำลังบาน อาการโอเวอร์สเตียร์ของนักล่าตัวใหม่แก้ได้ง่าย แต่ความเร็วต้องไม่ล้นมากจนเกินไป

ถ้าไม่มองเรื่องอัตราสิ้นเปลือง 6.3 กิโลเมตรต่อลิตร Ford Ranger Raptor Next Gen นับเป็นกระบะหัวแถวที่มีความน่าใช้งาน ขับสนุกและเก็บเสียงได้ดี ถ้าไม่เปิดโหมดท่อดังก็วิ่งได้อย่างเงียบเชียบ ส่วนอื่นๆ ของรถ เช่น การบังคับเลี้ยว คุณภาพการขับขี่ และการตกแต่งภายใน ทำออกมาได้สมราคา เป็นรถที่ใช้เดินทางไกลได้ดีมาก  บนถนนทั้งขาไปและกลับ Raptor Next Gen ยังคงสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง Raptor รุ่นที่แล้วก็มีธรรมชาติของช่วงล่างที่นุ่มนวล แต่รถรุ่นใหม่ ให้คุณภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ซึ่งปกติแล้วผมจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับขนาดอันใหญ่โตของรถกระบะไซส์นี้สักเท่าไหร่ แต่ขับในเมืองก็ไม่ได้สร้างปัญหาในเรื่องของการกะระยะ แค่ต้องมองให้ขาดเวลาเปลี่ยนเลน แม้จะมีตัวช่วยมากมายคอยระแวดระวังให้ เนื่องจากปัจจุบัน กรุงเทพฯนั้นมีมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจและต้องคอยมองพวกที่บิดพุ่งเข้ามาใกล้ทั้งสองข้าง Raptor Next Gen เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มันไม่ได้นุ่มนวลและหมกมุ่นกับการกระโดดเนินเหมือนรถรุ่นแรก คุณภาพการขับดีกว่ารถเก๋งขับเคลื่อนสี่ล้อราคาแพง เมื่อผิวถนนเปลี่ยนไปเป็นลำคลอง คุณจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย การเชื่อมต่อและการสื่อสารระหว่างรถกับคนขับมีมากขึ้น เมื่อใช้ความเร็วก็ให้ความรู้สึกกระชับและมีคันเร่งที่ตอบสนองได้ฉับไวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวงมาลัยและช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง ความสามารถในการปรับเปลี่ยนบุคลิกระหว่างเส้นทาง ทำให้สามารถขับรถกลับถึงบ้านในวันท่ีสภาพอากาศเปลี่ยน การลดแรงสั่นสะเทือน และทำให้ระบบกันสะเทือนดูมีสัมผัสที่แน่นขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มการตอบสนองที่แข็งแกร่งผ่านระบบส่งกำลัง รถขับเคลื่อนสี่ล้อกำลังสูง หนัก 2.5 ตัน คันนี้ ยังมาพร้อมยางสำหรับทุกพื้นที่และช่วงล่างที่ไม่มีในรถกระบะคู่แข่ง มันไม่ได้เลี้ยวโค้งเร็วเท่ารถสปอร์ต ไม่มีทางที่จะแข่งทางตรงกับ BMW M340i แต่การเลี้ยวโค้งด้วยความเร็วที่เหนือกว่ากระบะทั่วไป การตอบสนองของคันเร่ง ความคล่องตัว และความมันในอารมณ์ Raptor Next Gen มีความสามารถเหล่านั้นอยู่ครบ
 
สรุป
แม้จะมีคนจำนวนมากนิยมชมชอบ อยากได้ Ford Ranger Raptor Next Gen เอาไว้ขับลุยเท่ๆ แต่ก็มีคนอีกไม่น้อย ที่ยังออกอาการกล้าๆ กลัวๆ เมื่อเข้าไปส่องตามคลับคนใช้ Raptor แล้วรูดไปพบกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงชวนสะดุ้ง สำหรับเรื่องความแข็งแรงของระบบส่งกำลังแบบใหม่นั้น คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Ford จะทำได้หรือเปล่า เพราะรถรุ่นใหม่นั้นอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี ถ้าใช้ไปแล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนที่คิดจะซื้อได้บ้างไม่มากก็น้อย ลูกค้ากลุ่มแรกที่ซื้อ เหตุผลหลักของการซื้อก่อนใครก็คือ ความชอบส่วนตัวและกำลังทรัพย์ที่มากเกินพอในการเลี้ยงดู ส่วนบริการดีๆ จากศูนย์บริการของ Ford ที่ยังจะต้องปรับงานบริการบวกฝีมือของช่างในบางศูนย์ที่ไม่ค่อยจะลงตัว รวมถึงการเคลมชิ้นส่วน ให้มีความรวดเร็วและมีฝีไม้ลายมือในการซ่อมบำรุงดีเทียบเท่ากันทุกศูนย์ พูดง่ายแต่ทำยากอยู่เหมือนกัน และถ้าทำได้ ปากต่อปากของลูกค้าจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนที่สุด จ่ายเงินไป 1.8 ล้าน หากใช้งานแล้วต้องมาพบกับปัญหา จะทำให้ Ford รักษาฐานลูกค้าเก่าได้ยากขึ้น แต่การแก้ใขและใส่ใจดูแล รีบเข้ามาสอบถามถึงอาการของรถและการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เป็นเรื่องที่ดี Ford เองก็ควรทดสอบชิ้นส่วนให้แน่ใจในความคงทน ก่อนผลิตออกขายเพื่อความมั่นใจของลูกค้า

เรื่องการลุยแหลกนั้นหายห่วง ด้วยความที่มีโหมดขับเคลื่อนเยอะมากถึง 7 โหมด คุณสามารถวางตำแหน่งที่ถูกต้องของรถด้วยความง่ายดาย และเอาตัวรอดในเส้นทางที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะขับบนทางลูกรัง ทราย โคลน หินหรือหญ้า เมื่อเทียบกับกระบะทั่วไปที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็สามารถลุยได้เหมือนกัน แต่ไม่มีโหมดที่จะช่วยให้ฟันฝ่าเส้นทางที่เป็นทรายลึกเหมือนกับนักล่าออฟโรดรุ่นนี้ ใน Raptor ใหม่ ทุกอย่างดูง่าย แค่กดปุ่มเลือกใช้โหมดให้ตรงกับสภาพของเส้นทาง Ranger Raptor 2022 มีทุกอย่างที่จะช่วยให้การขับลุยกลายเป็นเรื่องง่ายดาย แค่คนขับมีทักษะในการควบคุม และใช้คันเร่งให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตรงหน้า ก็สามารถลุยฝ่าอุปสรรคได้อย่างสบาย งานประกอบที่แน่นหนา เมื่อขับลุยฝ่าร่องสวนหรือหล่มลึกๆ แล้วไต่ขึ้นมาในลักษณะเอียงกระเท่เร่ ไม่มีเสียงลั่นหรือบิดของตัวถังดังเข้ามาให้ได้ยินแม้แต่น้อย รวมถึงคอนโซลและแดชบอร์ด แผงประตู เปิดเครื่องเสียง B&O แล้วลองเร่งเต็มที่ก็ยังเงียบ ไม่ปรากฏว่ามีเสียงกระพือตามชิ้นส่วนต่างๆ ให้รำคาญใจ เป็นอีกจุดที่ทำออกมาได้ดี

 
Ford Ranger Raptor เจเนอเรชันใหม่ ไม่ใช่รถกระบะที่เหมาะกับทุกคน เฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน V6 กับอัตราสิ้นเปลือง 5-6 กิโลเมตรต่อลิตร ทำให้ระยะห่างระหว่างการเติมน้ำมันต่ออาทิตย์น้อยลงมาก มันเป็นรถกระบะสมรรถนะสูงที่ขับมันสุดๆ แต่ก็กินน้ำมันหนักยิ่งกว่าเดิม และการเลือกใช้กระบะสมรรถนะสูงแบบนี้ ต้องมาพร้อมกับเงินในกระเป๋าสำหรับการเลี้ยงดูให้อิ่มหนำ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นของมัน ไม่ควรเอามาขับแค่ 70-80 เพื่อประหยัดเชื้อเพลิง และถ้าคุณต้องผ่อน แล้วมีเงินเหลือต่อเดือนไม่ถึงสี่-ห้าหมื่นบาท มองหาอะไรที่สบายกระเป๋ามากกว่านี้เถอะครับ แต่ถ้าไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน มี Raptor Next Gen ไว้สักคันนั่นคือดีเลยครับ.

https://www.thairath.co.th/news/auto/testdrive/2502537
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 20, 2022, 15:55:08 โดย Smith686 »

ออฟไลน์ a@s

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 16:04:17 »
จั่วหัวว่า จะเป็นลม :)

ประโยคสุดท้ายบอกเองว่าสำหรับคนไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน

มันก็เป็นเช่นนั้นแล สำหรับผมถ้าซื้อรถเงินผ่อนอยู่ก็ได้แต่แลตามมองเจ้าแร็พเตอร์

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,635
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 16:26:02 »
จะไปหาลองศูนย์ใกล้บ้านดันไม่มีรถเทสซะงั้นมีแต่รถโชว์ พอเข้าใจได้แต่ตอนไปดูกำลังส่งมอบอยู่ 2 คัน

ส่วนเรื่องน้ำมัน ผมมองงว่าส่วนใหญ่ที่ซื้อไปเท่าที่เห็นรถคันอื่นๆของเค้าแล้ว  น่าเป็นรถประหยัดน้ำมันของคนกลุ่มนั้นนะ  ;D ;D
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 527
    • อีเมล์
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 16:36:41 »
มีข่าวลือว่าบางโชว์รูม มีลูกค้าจองรถTest ไปแล้ว เขาเลยไม่อยากให้ลองขับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,635
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 16:44:35 »
มีข่าวลือว่าบางโชว์รูม มีลูกค้าจองรถTest ไปแล้ว เขาเลยไม่อยากให้ลองขับ

ประมาณนั้นครับคนรอตัดสดเยอะมาก ในกลุ่มนี่ใครได้รถเร็วเหมือนโดนสอบสวน  ;D ;D
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,230
    • อีเมล์
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 16:49:22 »
ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย

ออฟไลน์ yodmanoot

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 333
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 16:54:36 »
ที่สุดของสายกระบะ ทุกครั้งที่เห็นโครตเท่เลย
ปล.พออ่านบทความทั้งหมด เหลือแค่กล้องกับตัวรถ ก็สามารถมีคลิปรีวิว RAPTOR ได้แล้ว 55
2013 - 2021 : Toyota Collora EE101 ปี 1993 1,300cc AT
2020 - Present  : Chevrolet Colorado 4wd ปี 2005 3,000 MT
2021 - Present  : Toyota Sienta V mc ปี 2019 1,500 CVT

ออฟไลน์ stm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 400
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 17:18:28 »
ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย
ผมทายใว้ล่วงหน้าเลยว่า ถ้ามันมีข่าวคนเอาไปติดแก๊สแล้วใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา ยอดขายพุ่งกระฉุดแน่นอน ผมเองก็อยากได้นะแต่ยอมรับว่าเสียดายค่าน้ำมันอยู่

ออฟไลน์ EVA01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 532
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 17:27:53 »
ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย

ไม่รู้สิ ผมกลับมองว่าแค่ดูสเปครถก็น่าจะทำใจแล้วรึเปล่าครับเรื่องกินน้ำมัน ซึ่งมันคงไม่ประหยัดแน่ๆ ฉะนั้นคนที่ซื้อเองก็ต้องคิดไว้แล้วว่าไหวกับค่าใช้จ่ายตรงนี้ จริงๆ ลองคำนวณง่ายๆก็ได้ว่าปีนึงใช้รถประมาณกี่กิโล แล้วจะเสียค่าน้ำมันเท่าไหร่ ซึ่งบางมองว่าค่าน้ำมันแลกกับคุณภาพรถและประสิทธิภาพของมันอาจจะคุ้มนะ (รถสเปคขนาดนี้ราคาไม่เกิน 2 ล้าน ผมว่าไม่น่าจะมี)

สรุปผมว่าถ้าคิดกันดีๆ มันก็ไม่ถึงกับเป็นของเล่นคนรวยขนาดนั้นหรอกครับ คนมีเงินซื้อ camry accord หรือพวก c class series3 ก็ยังเล่นได้

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,814
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 20, 2022, 19:05:02 »
อยากได้มาก  แต่คงไม่มีเวลาจะใช้มัน และไม่คุ้มสำหรับผม

เลยเข้าใจคำว่า ของเล่นคนรวยนะ
เพราะหากมีเงินเหลือๆ ผมจะเอามาจอดในโรงรถ ขับปีละสองสามครั้ง

แต่ตอนนี้ จับสวนขับตาม ก็ยิ้มได้
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,042
    • อีเมล์
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 09:43:23 »
ถ้าเคยใช้รถที่กินระดับ 5-6 กม/ลิตร มาก็คงจะพอรับได้ละมั้งคับ   เติมน้ำมันทีละเกือบ 3 พัน   .....บ้านอยุ่ชานเมือง ขับเข้าไปเมืองไปทำงาน ได้ 2 อาทิตย์ ต้องเติมใหม่อีกละ 


ต้องเผื่อเงินเติมน้ำมันเดือนละ 5000+ เนี่ย ก็คงต้องเหลือ ๆ ระดับนึงแหละคับ (ยังไม่รวมค่างวดระดับ 25,000 ต่อเดือน ) 


-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ a@s

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 09:58:38 »
ถ้าเคยใช้รถที่กินระดับ 5-6 กม/ลิตร มาก็คงจะพอรับได้ละมั้งคับ   เติมน้ำมันทีละเกือบ 3 พัน   .....บ้านอยุ่ชานเมือง ขับเข้าไปเมืองไปทำงาน ได้ 2 อาทิตย์ ต้องเติมใหม่อีกละ 


ต้องเผื่อเงินเติมน้ำมันเดือนละ 5000+ เนี่ย ก็คงต้องเหลือ ๆ ระดับนึงแหละคับ (ยังไม่รวมค่างวดระดับ 25,000 ต่อเดือน )

แต่เจ้าแร็พเตอร์คงไม่มีใครซื้อมาขับไปทำงานทุกวันนะครับ 555++ ถ้าเอามาขับไปทำงานทุกวันนี่แสดงว่าเงินเดือนหนักจริงๆ

ออฟไลน์ chatcharwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
  • เหยียบคลัช ยัดเกียร์ โว้วววววววว.......
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 11:57:24 »
ถ้าเคยใช้รถที่กินระดับ 5-6 กม/ลิตร มาก็คงจะพอรับได้ละมั้งคับ   เติมน้ำมันทีละเกือบ 3 พัน   .....บ้านอยุ่ชานเมือง ขับเข้าไปเมืองไปทำงาน ได้ 2 อาทิตย์ ต้องเติมใหม่อีกละ 


ต้องเผื่อเงินเติมน้ำมันเดือนละ 5000+ เนี่ย ก็คงต้องเหลือ ๆ ระดับนึงแหละคับ (ยังไม่รวมค่างวดระดับ 25,000 ต่อเดือน )

แต่เจ้าแร็พเตอร์คงไม่มีใครซื้อมาขับไปทำงานทุกวันนะครับ 555++ ถ้าเอามาขับไปทำงานทุกวันนี่แสดงว่าเงินเดือนหนักจริงๆ

มีๆ เจ้านายผมขับมาปกติเลย แกว่าก็ไม่ได้กินมากกว่าRS4, M5ย้ายของที่ขับมาทำงานทุกวันอยู่แล้วครับ แถมสบายใจกว่าถ้าแถวสายไหมฝนตกหนักยังไงก็รอด ข้อเสียคือขับไปกินข้าวจอดลำบาก 555+

ออฟไลน์ a@s

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 11:59:25 »
ถ้าเคยใช้รถที่กินระดับ 5-6 กม/ลิตร มาก็คงจะพอรับได้ละมั้งคับ   เติมน้ำมันทีละเกือบ 3 พัน   .....บ้านอยุ่ชานเมือง ขับเข้าไปเมืองไปทำงาน ได้ 2 อาทิตย์ ต้องเติมใหม่อีกละ 


ต้องเผื่อเงินเติมน้ำมันเดือนละ 5000+ เนี่ย ก็คงต้องเหลือ ๆ ระดับนึงแหละคับ (ยังไม่รวมค่างวดระดับ 25,000 ต่อเดือน )

แต่เจ้าแร็พเตอร์คงไม่มีใครซื้อมาขับไปทำงานทุกวันนะครับ 555++ ถ้าเอามาขับไปทำงานทุกวันนี่แสดงว่าเงินเดือนหนักจริงๆ

มีๆ เจ้านายผมขับมาปกติเลย แกว่าก็ไม่ได้กินมากกว่าRS4, M5ย้ายของที่ขับมาทำงานทุกวันอยู่แล้วครับ แถมสบายใจกว่าถ้าแถวสายไหมฝนตกหนักยังไงก็รอด ข้อเสียคือขับไปกินข้าวจอดลำบาก 555+

555++ แบบนั้นก็ยอมแกเลยครับ กระเป๋าหนัก คนที่ซื้อมาขับคงไม่มีใครห่วงเรื่องประหยัด รถเน้นสมรรถนะอ่ะเนาะ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 21, 2022, 12:04:26 โดย a@s »

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,230
    • อีเมล์
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 14:46:31 »
ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย
ผมทายใว้ล่วงหน้าเลยว่า ถ้ามันมีข่าวคนเอาไปติดแก๊สแล้วใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา ยอดขายพุ่งกระฉุดแน่นอน ผมเองก็อยากได้นะแต่ยอมรับว่าเสียดายค่าน้ำมันอยู่

ผมว่าอาจจะมี (แต่คงน้อย) ครับ หรือ คงไม่ได้เอามาอวดอ้างอะไร

ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย

ไม่รู้สิ ผมกลับมองว่าแค่ดูสเปครถก็น่าจะทำใจแล้วรึเปล่าครับเรื่องกินน้ำมัน ซึ่งมันคงไม่ประหยัดแน่ๆ ฉะนั้นคนที่ซื้อเองก็ต้องคิดไว้แล้วว่าไหวกับค่าใช้จ่ายตรงนี้ จริงๆ ลองคำนวณง่ายๆก็ได้ว่าปีนึงใช้รถประมาณกี่กิโล แล้วจะเสียค่าน้ำมันเท่าไหร่ ซึ่งบางมองว่าค่าน้ำมันแลกกับคุณภาพรถและประสิทธิภาพของมันอาจจะคุ้มนะ (รถสเปคขนาดนี้ราคาไม่เกิน 2 ล้าน ผมว่าไม่น่าจะมี)

สรุปผมว่าถ้าคิดกันดีๆ มันก็ไม่ถึงกับเป็นของเล่นคนรวยขนาดนั้นหรอกครับ คนมีเงินซื้อ camry accord หรือพวก c class series3 ก็ยังเล่นได้

ผมว่ามันเรื่องปกติมา ถ้าจะหวังประหยัดคงยากหน่อย

แต่ถ้ารู้จักรถที่ชื่อว่า Ford Escape V6 มาก่อน จะรู้ว่า Ranger Raptor ที่แรงม้า และ ประสิทธิ์ภาพ ขนาดนี้ กินน้ำมันประมาณนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ

ผมถึงเขียนว่า ได้ยินคำพวกนี้บ่อยๆ ผมว่ามันไม่ค่อยถูกต้องมั้ง เพราะคนธรรมดา อยากได้ Ranger Raptor ก็เยอะ

ที่ผมรู้จักๆ มา ตอนที่เป็นโฉมเดิม ก่อน Next Gen คนมี Wildtrak ตอนที่ Ranger Raptor ตัวโอม T6 ยังไม่ออก ก็แต่ง Wildtrak กันหมดไปหลายบาท

ถ้าเขาย้อนเวลากลับได้ เขาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ก็คงซื้อ Ranger Raptor ไปเลย จบกว่า ซึ่งคนเหล่านั้น ก็คนธรรมดาๆ ทั้งนั้น แค่ชอบรถกระบะ ใช้รถกระบะที่อยากได้ แค่นั้นเลย

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,752
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 14:57:19 »
ที่ผมรู้จักๆ มา ตอนที่เป็นโฉมเดิม ก่อน Next Gen คนมี Wildtrak ตอนที่ Ranger Raptor ตัวโอม T6 ยังไม่ออก ก็แต่ง Wildtrak กันหมดไปหลายบาท
ถ้าเขาย้อนเวลากลับได้ เขาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ก็คงซื้อ Ranger Raptor ไปเลย จบกว่า ซึ่งคนเหล่านั้น ก็คนธรรมดาๆ ทั้งนั้น แค่ชอบรถกระบะ ใช้รถกระบะที่อยากได้ แค่นั้นเลย

อันนี้ตรงข้ามกับคนที่ผมรุ้จักเลย เอาWildtrakไปแต่งโช๊คแบบมีซัพแท๊ง อัฟเครื่องเสียง ทำท่อ เปลี่ยนล้อยางเบ็ดเสร็จ สองแสน แกบอกว่าถ้าซื้อ Raptor ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก และไม่อยากทำให้มันเด่นเกินไป
แต่ถ้าเป็นตัวปัจจุบันได้เครื่องคนละตัว ผมว่าเขาคงไม่คิดแบบนั้น 555

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,697
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 15:35:01 »
ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย

กลุ่มคนที่ซื้อได้ มีเงินพอที่จะซื้อได้น่ะมีเยอะจริงครับ
แต่ซื้อแล้วเอามาใช้ ต้องจ่ายค่าน้ำมันอย่างต่อเนื่อง
ต้องเป็นคนที่มีเงินเหลือเยอะจริงแหละ

เพราะถ้าซื้อมาแล้ว ต้องใช้น้อยๆ เพราะเติมน้ำมันไม่ไหว
มันก็คงจะไม่ใช่อ่ะ จริงมั้ยครับ  คนกลุ่มนั้นนั่นแหละ
ที่จะเอาเงินจำนวนเท่าๆ กัน ไปซื้อรถที่ใช้ทุกวันแล้วดูแลไหว

มันก็คล้ายๆ กับคนที่ซื้อพวกรถคูเป้ 2 ประตู ที่ราคามันก็ไม่ได้
แพงกว่าซีดานหรูๆ หรือมินิแวนคันโตๆ เลย อย่าง GR86 หรือ MX-5
แต่คนที่จะซื้อรถพวกนั้นจริงๆ คือคนที่มีเงินเหลือจากการซื้อรถที่ใช้
ในชีวิตประจำวันไปแล้วนั่นล่ะครับ

ออฟไลน์ EVA01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 532
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 16:27:35 »
ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย
ผมทายใว้ล่วงหน้าเลยว่า ถ้ามันมีข่าวคนเอาไปติดแก๊สแล้วใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา ยอดขายพุ่งกระฉุดแน่นอน ผมเองก็อยากได้นะแต่ยอมรับว่าเสียดายค่าน้ำมันอยู่

ผมว่าอาจจะมี (แต่คงน้อย) ครับ หรือ คงไม่ได้เอามาอวดอ้างอะไร

ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย

ไม่รู้สิ ผมกลับมองว่าแค่ดูสเปครถก็น่าจะทำใจแล้วรึเปล่าครับเรื่องกินน้ำมัน ซึ่งมันคงไม่ประหยัดแน่ๆ ฉะนั้นคนที่ซื้อเองก็ต้องคิดไว้แล้วว่าไหวกับค่าใช้จ่ายตรงนี้ จริงๆ ลองคำนวณง่ายๆก็ได้ว่าปีนึงใช้รถประมาณกี่กิโล แล้วจะเสียค่าน้ำมันเท่าไหร่ ซึ่งบางมองว่าค่าน้ำมันแลกกับคุณภาพรถและประสิทธิภาพของมันอาจจะคุ้มนะ (รถสเปคขนาดนี้ราคาไม่เกิน 2 ล้าน ผมว่าไม่น่าจะมี)

สรุปผมว่าถ้าคิดกันดีๆ มันก็ไม่ถึงกับเป็นของเล่นคนรวยขนาดนั้นหรอกครับ คนมีเงินซื้อ camry accord หรือพวก c class series3 ก็ยังเล่นได้

ผมว่ามันเรื่องปกติมา ถ้าจะหวังประหยัดคงยากหน่อย

แต่ถ้ารู้จักรถที่ชื่อว่า Ford Escape V6 มาก่อน จะรู้ว่า Ranger Raptor ที่แรงม้า และ ประสิทธิ์ภาพ ขนาดนี้ กินน้ำมันประมาณนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ

ผมถึงเขียนว่า ได้ยินคำพวกนี้บ่อยๆ ผมว่ามันไม่ค่อยถูกต้องมั้ง เพราะคนธรรมดา อยากได้ Ranger Raptor ก็เยอะ

ที่ผมรู้จักๆ มา ตอนที่เป็นโฉมเดิม ก่อน Next Gen คนมี Wildtrak ตอนที่ Ranger Raptor ตัวโอม T6 ยังไม่ออก ก็แต่ง Wildtrak กันหมดไปหลายบาท

ถ้าเขาย้อนเวลากลับได้ เขาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ก็คงซื้อ Ranger Raptor ไปเลย จบกว่า ซึ่งคนเหล่านั้น ก็คนธรรมดาๆ ทั้งนั้น แค่ชอบรถกระบะ ใช้รถกระบะที่อยากได้ แค่นั้นเลย

Escape 5 โลลิตร แต่วิ่งยังกะรถเครื่อง 1800

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,230
    • อีเมล์
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 16:34:14 »
ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย
ผมทายใว้ล่วงหน้าเลยว่า ถ้ามันมีข่าวคนเอาไปติดแก๊สแล้วใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา ยอดขายพุ่งกระฉุดแน่นอน ผมเองก็อยากได้นะแต่ยอมรับว่าเสียดายค่าน้ำมันอยู่

ผมว่าอาจจะมี (แต่คงน้อย) ครับ หรือ คงไม่ได้เอามาอวดอ้างอะไร

ผมเห็นหลายคำพูด จาก หลายคน เกี่ยวกับ Ranger Raptor ว่า
- "มันเป็นของเล่นคนรวย"
- "คนที่ซื้อเขาไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันกันหรอก"
- "คนซื้อมาไม่ได้ลุยจริงหรอก แค่เอาขับเท่ห์"
- บลาาาาา

ทำไมผมกลับคิดตรงกันข้ามว่า คนแค่พอมีจะกินอย่างผม อยากซื้อมาใช้ ซื้อลุย ซื้อมาใช้งาน และ แคร์เรื่องอัตราการกินน้ำมันด้วย เพราะรถราคาหลายล้าน หรือ รถคนรวย ยังเป็น PHEV, BEV ได้เลย (สมัยก่อนมีบางรุ่นติดแก็สโรงงานมาด้วยซ้ำ) ไม่ใช่เหรอ

เพราะบางคน ซื้อตัว Ranger Wildtrak มา ราคาค่าตัวก็ 1.3 ล้าน ยังมาแต่ง ล้อเอย โช้คเอย บางคนมีชุดแต่งด้วย เพิ่มอีกไปเป็นแสนๆ (หลายแสน) เขาอาจจะยอมกระโดด ไปจับ Ranger Raptor เลยก็ได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ผมมองว่า เขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถุง หรือ รวยมาจากไหนนะครับ เท่าที่รู้จักก็หาเช้ากินค่ำก็เยอะด้วย

ไม่รู้สิ ผมกลับมองว่าแค่ดูสเปครถก็น่าจะทำใจแล้วรึเปล่าครับเรื่องกินน้ำมัน ซึ่งมันคงไม่ประหยัดแน่ๆ ฉะนั้นคนที่ซื้อเองก็ต้องคิดไว้แล้วว่าไหวกับค่าใช้จ่ายตรงนี้ จริงๆ ลองคำนวณง่ายๆก็ได้ว่าปีนึงใช้รถประมาณกี่กิโล แล้วจะเสียค่าน้ำมันเท่าไหร่ ซึ่งบางมองว่าค่าน้ำมันแลกกับคุณภาพรถและประสิทธิภาพของมันอาจจะคุ้มนะ (รถสเปคขนาดนี้ราคาไม่เกิน 2 ล้าน ผมว่าไม่น่าจะมี)

สรุปผมว่าถ้าคิดกันดีๆ มันก็ไม่ถึงกับเป็นของเล่นคนรวยขนาดนั้นหรอกครับ คนมีเงินซื้อ camry accord หรือพวก c class series3 ก็ยังเล่นได้

ผมว่ามันเรื่องปกติมา ถ้าจะหวังประหยัดคงยากหน่อย

แต่ถ้ารู้จักรถที่ชื่อว่า Ford Escape V6 มาก่อน จะรู้ว่า Ranger Raptor ที่แรงม้า และ ประสิทธิ์ภาพ ขนาดนี้ กินน้ำมันประมาณนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ

ผมถึงเขียนว่า ได้ยินคำพวกนี้บ่อยๆ ผมว่ามันไม่ค่อยถูกต้องมั้ง เพราะคนธรรมดา อยากได้ Ranger Raptor ก็เยอะ

ที่ผมรู้จักๆ มา ตอนที่เป็นโฉมเดิม ก่อน Next Gen คนมี Wildtrak ตอนที่ Ranger Raptor ตัวโอม T6 ยังไม่ออก ก็แต่ง Wildtrak กันหมดไปหลายบาท

ถ้าเขาย้อนเวลากลับได้ เขาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ก็คงซื้อ Ranger Raptor ไปเลย จบกว่า ซึ่งคนเหล่านั้น ก็คนธรรมดาๆ ทั้งนั้น แค่ชอบรถกระบะ ใช้รถกระบะที่อยากได้ แค่นั้นเลย

Escape 5 โลลิตร แต่วิ่งยังกะรถเครื่อง 1800

ใช่ครับ เรียกว่า แดกน้ำมันเป็นอูฐ ก็เคยได้ยินมาแล้ว

ถ้ากินน้ำมันในระดับเดียวกัน รับได้กับ Escape ผมว่า Ranger Raptor เด็กๆ เลย มันดีกว่าทั้งในแง่กำลังที่ได้ การขับขี่ ความสนุก และ อื่นๆ กว่าหลายขุมเลย

ออฟไลน์ jbrc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 317
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กันยายน 21, 2022, 20:21:30 »
ผมรอคนรวยกว่า ขับเล่นจนถอดใจ เรื่องค่าน้ำมัน แล้วขายทิ้ง ผมจะสอยมือสองมาติดตั้งแก๊ส lpg ไว้ขับเล่นสักคัน

ปล. จริงๆ คนรวยเป็นคนขี้เหนียว คิดแล้วคิดอีกเวลาจะจ่ายเงินออกไปสักบาท  ไม่เช่นนั้น เขาไม่เป็นคนรวยได้หรอก  คนรวย เวลาเติมน้ำมัน rapter เต็มถังครั้งละ 3-4,000 บาทแล้ว ขับได้ไม่ถึงอาทิตย์ ถ้าอาทิตย์นึงต้องเติมน้ำมัน 8 พัน  ถ้าเดือนนึงต้องเติมน้ำมันสัก 30,000 บาท ต้องมีการถอดใจกันบ้างละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 21, 2022, 21:41:50 โดย jbrc »

ออฟไลน์ EVA01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 532
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กันยายน 22, 2022, 00:34:13 »
ผมรอคนรวยกว่า ขับเล่นจนถอดใจ เรื่องค่าน้ำมัน แล้วขายทิ้ง ผมจะสอยมือสองมาติดตั้งแก๊ส lpg ไว้ขับเล่นสักคัน

ปล. จริงๆ คนรวยเป็นคนขี้เหนียว คิดแล้วคิดอีกเวลาจะจ่ายเงินออกไปสักบาท  ไม่เช่นนั้น เขาไม่เป็นคนรวยได้หรอก  คนรวย เวลาเติมน้ำมัน rapter เต็มถังครั้งละ 3-4,000 บาทแล้ว ขับได้ไม่ถึงอาทิตย์ ถ้าอาทิตย์นึงต้องเติมน้ำมัน 8 พัน  ถ้าเดือนนึงต้องเติมน้ำมันสัก 30,000 บาท ต้องมีการถอดใจกันบ้างละครับ

เติมน้ำมันเดือนละ 30000 นี่วิ่งเยอะอยู่นะครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,456
Re: ทดสอบ FORD RANGER RAPTOR NEXT GEN
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กันยายน 22, 2022, 11:44:34 »
เห็นตัวจริงแล้ว ก็ต้องบอกว่าคันใหญ่มากจริงๆ แล้วก็เท่มากๆด้วย