Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: supernc ที่ พฤษภาคม 02, 2013, 20:19:34
-
สวัสดีครบพีๆ ผมกำลังจะซื้อคอนโดครับและก็กำลังจะซื้อรถด้วย ทั้งสองอย่างราคาพอๆกัน
อยากถามพี่ๆว่า ผมควรจะซื้อสดคอนโดแล้วส่วนรถค่อยผ่อนเอาดีมั้ยครับ ถ้าผมซื้อสดคอนโดผมจะมีเงินเหลือไว้ดาวน์รถอีกราวๆ 50%
ผมไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกะพวกไฟแนนซ์กู้บ้านกู้รถเลยน่ะครับ แต่ที่คิดจะซื้อคอนโดเงินสดเพราะเท่าที่ดูมาบ้างดอกเบี้ยบ้านจะแพงกว่ารถ
อาทิตย์หน้าจะไปคุยกับแบงค์ครับ เลยอยากขอไอเดียพี่ๆ หน่อยครับ
ขอบคุณครับ ;D
-
ซื้อคอนโดเงินสดครับ แล้วค่อยผ่อนรถ
เพราะรถบางรุ่นมีดอก0% แต่เดาว่ารถต้องเกินล้้านแน่
;D
-
ผมรู้แค่ว่าบ้านเป็นแบบลดต้นลดดอก
รถเป็นแบบ fix rate.
ลองหาโปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยมาคำนวณดูครับ
ส่วนตัวผมว่าบ้านคุ้มค่าการลงทุนมากกว่าครับ
-
คอนโดซื้อสดครับ
เพราะรถดอกเบี้ยถูกกว่ามากครับ
อสังหาตอนนี้ก็ MLR -1 มั้งครับ
อาจจะมี fix ให้ 2-3 ปีแรก แต่ก็แพงกว่ารถอยู่ดี
ตอนนี้ผมมีทั้ง2อย่าง รถได้ 1.55% fix 5ปี
ดอกเบี้ยช่วยน้ำท่วม
บ้าน มี2ฉบับ(สัญญาเดียวกันแต่แยกดอกเบี้ย)
อันแรก MLR -1 = 6%
อีกฉบับช่วยน้ำท่วม fix 3% 5ปี
ผมว่ายังไงอสังหาฯก็ดอกแพงกว่ารถยนต์ครับ
-
ดูตามดอกเบี้ยครับ ดอก 0% ก็ซื้อผ่อนเลยครับ คุ้มกว่าเห็นๆ
ถ้าผ่อนอะไรก็ตามแล้วมีดอกยังไงซื้อสดก็ดีกว่าถ้ามี "เงินเย็น" สำรอง
-
รถ ผ่อนได้อย่างมากก็6-7ปี ถ้าได้ดอก 0% ผมเลือกผ่อนรถ
แต่ถ้าไมได้ก็ดูความสามารถว่าจะผ่อนคอนโดหมดในกี่ปี
คอนโด ผ่อนยาว20ปี จะผ่อนต่อเดือนถูกกว่า แต่ถ้ารวมดอกเบี้ยทั้ง20ปีแล้ว จะจ่ายดอกมากกว่า
แต่ถ้าคิดว่าอีก 6-7ปี มีเงินโปะคอนโดได้ ก็มาคำนวณดอกเบี้ยเปรียบเทียบกัน
อย่างไหนน้อยกว่าก็ผ่อนอันนั้น
-
ข้อมูลน้อยมากจนไม่สามารถตัดสินใจได้ครับ
รถดอกกี่เปอร์เซนต์ 0% ไหม
บ้านดอกกี่เปอร์เซนต์ ไม่ใช่ 0 แน่ๆ
ถ้าเป็นแบบนี้ ซื้อบ้านเยอะ แล้วเอาขั้นต่ำไปดาวน์รถที่ยอมให้ได้ดอกเบี้ย 0%
ในกรณีที่รถไม่ใช่ 0%
บ้านไม่ใช่ 0 % เปอร์เซนต์ๆ
Excel เลยครับ
-
คอนโด เงินสดครับ เหลืออีก 50 % ดาวน์รถครึ่งนึง ผ่อน 5 ปี สบายๆครับ
-
ไม่ทราบว่าคอนโดซื้ออยู่เองหรือลงทุนปล่อยเช่าครับ ถ้าให้เช่าแนะนำว่าควรผ่อนกับทางไฟแนนส์ครับ จะคุ้มกว่า เพราะเราสามารถนำเงินที่เป็นรายได้ค่าเช่า
นำไปผ่อนแบงค์ได้ครับ ยิ่งถ้าทำเลดีๆอย่าต้นสุขุมวิท ค่าเช่าต่อตรมจะสูงทำให้เหมาะแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่งครับ
แต่ถ้าจะซื้ออยู่เองแนะนำจ่ายสดไปเลยก็ดีกว่าครับเพราะไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ย
-
บ้านคิดดอกต่อปี รถคิดดอกเป็นต่อเดือนครับ
ซื้อรถเงินสด แล้ว ผ่อนคอนโดจะประหยัดดอกกว่าเยอะ
รถไม่ผ่อน 3 เดือน โดนยึด
บ้านไม่ผ่อน ยังยื้ิอกันทางคดีได้หลายปีครับ ขายดาวน์ก็ไม่ขาดทุน
-
ที่อยู่อาศัยดอก 7% รถยนต์ 3% เท่านี้ก็เลือกได้ไม่ยาก ว่าควรโปะอะไรก่อนครับ
-
อย่าพึ่งเข้าใจผิดเรื่องดอกเบี้ยผ่อนรถนะครับ หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้
ดอกเบี้ยผ่อนรถเป็นฟิกครับ ถ้าจะเทียบกับแบบลดต้นลดดอกแบบบ้าน ให้คิดง่ายๆคือ คูณสองครับ เช่นดอกเบี้ยที่ไฟแนนช์ให้ 2.5% ถ้าเป็นแบบ เอฟเฟคทิฟเรท จะเท่ากับ 5% นะครับ
(http://i1179.photobucket.com/albums/x391/nathaphong1/photo5-4.jpg) (http://s1179.photobucket.com/user/nathaphong1/media/photo5-4.jpg.html)
*เช่นผมผ่อน แจ๊สใหม่ ดอกเบี้ยดูเหมือน แค่ 2.2% แต่......*ดูที่อัตราดอกเบี้ยแท้จริงด้านล่าง มันคือ 4.43% ต่อปีถ้าคิดแบบผ่อนคอนโดนะครับ เพราะ ถ้า ผ่อนแบบลดต้นลดดอก ดอกเบี้ยจะลดไปเรื่อยๆๆกับเงินต้น เช่น
สมมติหนี้ ยอดกู้ 1000 บาท ผ่อน ไป 100 หนี้จะเหลือ 900 และดอกเบี้ยหนี้จะลดลงไปเรื่อยๆ ขณะที่ผ่อนรถ หนี้ 1000 ผ่อน ไปถึงแม้จะผ่อนไปครึ่งหนึ่งแล้ว หนี้ ก็ยังคิดดอกเบี้ยที่ 1000 ถึงแม้ ยอดหนี้ จะเหลือ 500 แล้ว หรือ หนี้ จะเหลือแค่ 100 ไฟแนนช์เค้าก็ยังจะคิดดอกเบี้ยจากยอดเดิมคือ 1000 ครับ
จะเข้าใจไหมครับ
ผ่อนคอนโดเราเอาดอกเบี้ยค่าผ่อนมาหักภาษีเงินได้ได้อีก
เท่ากับ ดอกเบี้ยผ่อนคอนโดจะถูกกว่ามากครับ
-
ผมก็สับสนกับตัวเลข 2 อย่างนี้เหมือนกัน
ใครพอจะยกตัวอย่างเป็นตัวเลขให้เห็นชัดเจนได้บ้างครับ
ขอบคุณครับ
-
ยกตัวอย่าง ผ่อน บ้าน คอนโด หนี้ 1 ล้าน ผ่อน 10 ปี
ง่ายๆๆ ถ้าผ่อนบ้าน คอนโด ปีที่ 5 ยอดหนี้ สมมติเหลือครึ่งละ คือ 5 แสน ดอกเบี้ยธนาคารจะคิดจากยอดหนี้ที่เหลือ คือ 5 แสน เท่านั้น
แต่....
ถ้า รถ กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนมาครึ่งหนึ่งแล้ว ยอดหนี้ ถึงแม้ว่าจะเหลือครึ่งหนึ่งแล้ว คือ 5 แสน แต่ไฟแนนช์ยังคงจะคิดดอกเบี้ยกับเราที่ 1 ล้าน เสมอ ไม่ว่ายอดหนี้เราจะเหลือแค่ 5 แสนหรือ เหลือแค่ 1 แสน หรือ เหลือแค่ งวดสุดท้ายสมมติ 2 หมื่น แต่เรายังต้องผ่อนไฟแนนช์ยอดดอกเบี้ย 1 ล้านบาท เท่ากับยอดกู้วันแรก ถึงเรียกว่าแบบ fix ดอกมันเลยเยอะกว่า ฉะนั้นดอกเบี้ยตามจริงจึงสูงกว่า 2 เท่า
คิดให้ดีด้วยนะครับ
-
ท่ากับยอดกู้วันแรก ดอกมันเลยเยอะกว่า ฉะนั้นดอกเบี้ยตามจริงจึงสูงกว่า 2 เท่า
คิดให้ดีด้วยนะครับ
ถ้าเราไม่คิดจะโปะ ดอกเบี้ยผ่อนรถก็จะถูกกว่า
ถ้าคิดจะโปะ ต้องดูว่ากี่ปี อาจจะถูกกว่าดอกเบี้ยผ่อนรถ
ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ??
อย่างสมมติกรณีแรก
ผ่อนคอนโดที่ 6 แสนบาท ดอกเบี้ย 6% ผ่อน 4 ปี แบบลดต้นลดดอก
เฉลี่ยเดือนละ 14,092 บาท x 48 เดือน
สรุปต้องจ่ายดอกเบี้ย 76,362.85 บาท แต่ถ้าอยากโปะตรงไหน
ก็ดูว่าที่กี่เดือน ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ถึงจะถูกกว่าดอกเบี้ยรถยนต์
(http://image.ohozaa.com/i/gea/Ao6mYH.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wO4Mfg3yvKFxd8Y0)
credit รูปจาก http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?showtopic=62483 (http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?showtopic=62483)
กรณีที่ 2 ผ่อนรถยนต์ราคา 6 แสนบาท ดอกเบี้ย 2.2% ผ่อน 4 ปี
เฉลี่ยเดือนละ 13,600 บาท x 48 เดือน แบบ fix rate
สรุปต้องจ่ายดอกเบี้ย 52,800 บาท แต่ถ้าจะโปะ ดอกเบี้ยก็ต้องจ่ายเท่านี้อยู่ดี
สรุป
ดอกเบี้ยผ่อนคอนโด (แบบไม่โปะ) 76,362.85 บาท
ดอกเบี้ยผ่อนรถยนต์ 52,800 บาท
ถ้าจะโปะ ในเวลาอันรวดเร็ว เลือกผ่อนคอนโด แต่ถ้าผ่อนเรื่อยๆจนครบ เลือกรถยนต์
-
ซื้อสดคอนโด จร้า
-
คอนโดราคาเท่าไร?
รถราคาเท่าไร?
ตัวเลือกอาจจะเป็น
คอนโด 1.9 ล้าน รถ 2.9 ล้าน
หรือ
คอนโด 5.0 ล้าน รถ 0.6 ล้าน
ตอบยาก
-
ถ้าในสภาพเศรษฐกิจปกติผมเลือกที่จะผ่อนบ้าน ดอกที่เสียไปมันก็จะกลับไปอยู่ที่ Value ของบ้านนะครับ
แต่สำหรับรถแล้วก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่
-
คอนโดราคาเท่าไร?
รถราคาเท่าไร?
ตัวเลือกอาจจะเป็น
คอนโด 1.9 ล้าน รถ 2.9 ล้าน
หรือ
คอนโด 5.0 ล้าน รถ 0.6 ล้าน
ตอบยาก
เขาบอกว่าราคามันพอๆกันครับ
ถ้าพอๆกันผมว่าคิดไม่ยากเลย ดูอาชีพคุณไงครับ ต้องมีเงินหมุนมั๊ย ทำธุรกิจรึเปล่า มีการลงทุนอะไรเยอะมั๊ย ส่วนต่างเงินดาว หรือเงินผ่อน สามารถทำให้งอกเงยมากกว่าดอกเบี้ยได้มั๊ย หรือกินเงินเดือน แค่นี้ก็เลือกไม่ยากแล้วครับ
-
จากที่ผ่อนรถมาสองคัน กับบ้านหนึ่งหลัง
ราคาเท่าๆกันดอกเบี้ยบ้านต่อปีจะเยอะกว่ารถ ถึงจะลดต้นลดดอกก็ตาม
-
ผมมีทั้งบ้านมีทั้งรถ
สรุปง่ายๆ
รถ ต้น 600,000 ดอก 60,000
บ้าน ต้น 1,500.000 ดอก 1,800,000
บ้านดอคิดง่ายๆเลยก็คือ 8 % X 30 ปี
รถดอก 3% X 5 ปี
ชัดเจนนะครับ ;D
-
ดอกเบี้ยรถ บอกว่าเป็น fix แต่เอาเข้าจริง เวลาผ่อน เขาคิดแบบลดต้นลดดอกครับ ดังนั้น การโปะในช่วงท้ายๆ จึงไม่ช่วยอะไร เพราะดอกเบี้ยมันน้อยแล้ว
ดอกเบี้ยบ้าน ก็ลดต้นลดดอก แถม สามปีแรก ดอกถูกมาก แต่ ตัวดอกเบี้ย หักภาษีได้ เต็ม 100 % ดังนั้น สมมุติว่าจ่ายดอกทั้งปี 10,000 บาท คุณจะได้คืนมา 2,000 บาท (ถ้าฐานภาษีอยู่ที่ 20 % นะครับ) ถ้าปีต่อๆไป ยังเอาไป re-finance ทำให้ดอกถูกลงได้อีกครับ
ดังนั้น รถควรซื้อสด บ้านควรซื้อผ่อนครับ
-
ถ้าคุณมีรายได้ที่ต้องเสียภาษีแล้วยังไม่มีเรื่องบ้านมาลดหย่อนก็ให้เอาบ้านเงินผ่อนเลยครับเอามาลดหย่อนได้สูงสุด 1 แสนเลยเชียวของผมเรทอยู่ที่ 10% ก็เท่ากับลดหย่อนได้ปีละ 10,000 เลยเชียว ส่วนดอกเบี้ยรถถ้าจะให้เทียบกับดอกเบี้ยบ้านต้องคูณสองครับมีเงินกู้ที่ไหนสามารถผ่อนได้ถึง 30 ปีแล้วดอกแค่นี้กันบ้าง ถ้าให้เลือกจริงเลือกผ่อนคอนโดดีกว่าผ่อนไป 3 ปีก็รีไฟแนนท์เอาดอกถูกลงได้หรือจะเอาเงินเพิ่มก็ยังได้เพราะเงินต้นลดแต่มูลค่าเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินต่างกันเยอะดอกก็ได้อัตราเดิม
ส่วนผมผ่อนให้เรียบวุธทั้งรถ บ้าน คอนโดทั้ง 3 เพราะเอาเงินที่จะโปะไปลงทุนได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยที่เสียไปเยอะ (ดอก 7 % แต่ลงทุนได้ 20%) ทั้งที่สามารถเลือกให้จบได้อย่างน้อย 1 อย่างแต่อย่างว่าแหละครับ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ กะว่าให้เงินต้นน้อยๆลงก่อนแล้วค่อยไล่เก็บทีละอย่าง
ป.ล. ฮาพี่ที่โรงงานเค้าเอาบ้านไปรีไฟแนนท์ได้ดอก 0% 9 เดือน ทำให้เอามาลดหย่อนได้นิดหน่อยแล้วแกบ่นใหญ่เลยว่าเสียภาษีเยอะกว่าปีที่แล้วเพราะเอาบ้านมาลดหย่อนไม่ได้ นี่ได้ดอก 0% แล้วยังมาบ่นได้อีกเร๊อะ
-
ดูจากตัวเลขแล้ว
ถ้าคิดซื้อบ้านต้องโปะ ถ้าไม่โปะดอกเบี้ยเท่าตัวหรือมากกว่ายอดเงินที่กู้มาอีก
ดอกเบี้ยบ้านจะถูกกว่าดอกเบี้ยรถก็ต่อเมื่อมีการโปะเข้าไปให้เหลือการผ่อนไม่เกิน 4-5 ปี ซึ่งผมว่าน้อยคนที่จะทำแบบนี้ได้
คราวนี้ก็ต้องดูที่กำลังตัวเองหละครับว่าแข็งแรงแค่ไหน
ถ้าเป็นผมผมขอซื้อบ้านสด แล้วผ่อนรถเอา ดอกเบี้ยที่เสียไปน่าจะน้อยกว่า
ปล.คิดแบบบ้านๆนะครับ ไม่ได้มีหลักการอะไร ดูที่จำนวนเงินเป็นหลัก ;D
อีกอย่างกู้ซื้อบ้านเป็นหนี้ระยะยาว ถ้าเป็นหนี้บ้านอยู่แล้วระหว่างผ่อนบ้านอยากจะไปกู้เงินทำอย่างอื่นอีกผมว่ามันลำบาก
-
ขอตอบในฐานะคนซื้อบ้านนะ
ซื้อบ้านของพวกนี้มีเงินซื้อสดได้ ซื้อไปครับ อย่าผ่อน
รถผ่อนไปเถอะ ดอกเบี้ยต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยละตอนสรุปออกมา
ตอนนั้นรีบเอารีบซื้อรีบจองเลย ไม่มีรายละเอียดมากนัก รู้งี้ ดาวสูงๆดาวเยอะๆดีกว่าเรื่องบ้านนะ
ส่วนรถ ยังไงมันก็ลด มีบ้านมีที่ มีแต่เพิ่ม
รถผมดอก 7หมื่น 4 ปี
บ้านผมดอก 2 ล้าน 25 ปี
-
มันมองได้ 2 มุมนะ
1 มุมคนที่กินเงินเดือน จะคิดแค่ว่าอะไรก็ได้ที่คำนวนแล้วเสียดอกเบี้ยน้อยสุด (ดาวน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และผ่อนให้ระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้) เมื่อมองแบบนี้ก็แน่นอนอยู่แล้วผ่อนรถ เพราะรถเต็มที่เขาก็ให้่ผ่อนแค่ 6 ปี ก็เสียดอกแค่ 6 ปี ซึ่งน้อยกว่าผ่อนบ้าน 10 ปีแน่ๆ แต่ถ้าระยะเวลาเท่ากันก็คำนวนเอาว่าอะรไดอกถูกกว่าอะไรก็ผ่อนอันนั้น
กับ 2 มุมคนทำธุรกิจ อะไรก็ได้ที่ทำให้มีเงินทุรสำรองมากสุด เงินออกจากกระเป๋าเราน้อยสุด กู้ได้นานที่สุด ดาวน้อยสุด ผ่อนต่องวดน้อยๆ ซึ่งก็คือบ้านนี่เอง เพราะบ้านเผลอๆไม่ต้องมีเงินดาวน์ เอาเงินส่วนนี้ไปลงทุนได้ผลตอบแทนคุ้มกว่า
ข้อดีของการผ่อนน้อยๆ และนานๆ อีกอย่างก็คือ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นส่งไม่ไหว เงินที่เราจมไปกับมันยังไม่มาก จะขายต่อก็หาคนมารับช่วงผ่อนต่อง่ายเปลี่ยนสัญญาผ่อนต่อไปเลย
-
ผมมีทั้งบ้านมีทั้งรถ
สรุปง่ายๆ
รถ ต้น 600,000 ดอก 60,000
บ้าน ต้น 1,500.000 ดอก 1,800,000
บ้านดอคิดง่ายๆเลยก็คือ 8 % X 30 ปี
รถดอก 3% X 5 ปี
ชัดเจนนะครับ ;D
บ้านดอกแพงกว่าจิงๆครับ อย่างน้อย7-8% รถราว4%+ๆ
แต่บ้านถ้าโปะเร็วไม่กี่ปีหมด จะคุ้มกว่าผ่อนยาว ดอกบานสะพรั่ง
รถโปะก็ไม่ลดดอกเบี้ย ถึงลดก็น้อยนิด
รถช่วงนี้มีหลายรุ่น ดอก0% น่าสนใจครับ
ผ่อนบ้านนะ มีเจ็บปวดตอนดูใบเสร็จ ดอกครึ่ง ต้นครึ่ง บางทีดอกมากกว่าต้น :P
-
คอนโดเงินสด
รถผ่อนครับ
-
พี่ที่ทำงานผม ผ่อนบ้านเดือนละ 9000
ใน 9000 นี้ ค่าดอกประมาณ 8000 หักต้นได้แค่เดือนละ 1000
โหดมาก
แล้ววันหนึ่ง พี่เขากู้เงินกับญาติมาปิดหมดเลย พอดีญาติคิดดอกถูกมากๆๆๆๆๆๆ
สบายไปเยอะ ไม่งั้นก็ผ่อนแบบไม่มีอนาคตเลย
-
เป็นผมจะซื้อสดคอนโดครับ รถดาวน์ไปแล้ว 50% เหลือผ่อนน่าจะสบายๆ (ดูจากว่ามีเงินสดซื้อได้ 1.5 คัน รายได้น่าจะพอตัว)
เพราะทำเรื่องกู้ผ่อนคอนโด มีค่านู่นนี่เยอะกว่าด้วย ค่าผ่อนต่อเดือนช่วงแรก จะมีดอกดบี้ยเยอะกว่าเงินต้น(นอกจากได้โปรฯ 0%กี่เดือนๆก็ว่าไป)
แต่ถ้าลดสเปครถยนต์มาหาราคาที่เท่ากับเงินสดที่เหลือ ก็จะ perfect มากๆ