Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Fong ที่ ตุลาคม 21, 2017, 16:36:32
-
เมื่อก่อนผมเห็นไฟเลี้ยวด้านหน้าจะอยู่ด้านมุม และจะเผื่อไฟเลี้ยวมาให้ด้านข้างได้เห็นด้วย
แต่เข้าใจว่าอาจจะไม่เพียงพอ เลยเพิ่มไฟเลี้ยวที่แก้มล้อหน้ามาเพิ่ม
ซึ่งผมเข้าใจว่าเพื่อให้คันที่อยู่ข้างๆเรา (เยื้องไปทางหลัง) เห็นว่าเราเปิดไฟเลี้ยว
แต่ตอนนี้ไฟที่แก้มล้อหน้าได้ถูกแทนที่ด้วยไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ซึ่งเหมือนจะเน้นให้รถคันหน้ามองเห็นมากกว่าที่จะให้รถด้านข้างมองเห็น
อย่าง Mazda2 ก็มีไฟเลี้ยวอยู่ด้านข้างของกระจกมองข้าง แต่ MY2017 กลับออกแบบไฟไปอยู่ด้านหน้าซะงั้น
รถด้านข้างนี่แทบมองไม่เห็น แถมไฟเลี้ยวที่โคมไฟหน้าบางรุ่นก็ย้ายไปอยู่ด้านในใกล้กระจังหน้ารถอีกต่างหาก
เลยสงสัยว่า จริงๆแล้วไฟเลี้ยวตำแหน่งนี้ เขาออกแบบให้ใครเห็นกันแน่ครับนี่ งงจริงอะไรจริง?? :-\ :-\ :-\ :-\
-
กลางคืนไม่มีปัญหาเห็นทั้งรถข้างๆและรถที่สวนมา แต่กลางวันนี่ก็แล้วแต่ว่าออกแบบมายังไง
อย่างรถผมสองคันคันแรกอัลติสออกแบบมาธรรมดาหลอดก็ธรรมดาถึงมันไม่สวยดูโบราณหน่อนแต่มันเห็นได้ชัดเจนไม่ว่าจะทิศไหน ส่วนอีกคันคือG9นี่หลอดledเล็กๆไอ้คันนี้แปลกนึกว่าฝั่งตรงข้ามจะเห็นชัดกลายเป็นว่าถ้าแดดจัดๆนี่เกือบมองไม่เห็นแต่ถ้าอยู่ข้างๆกลายเป็นเห็นชัดนะทั้งๆที่มันมีติ่งห้อยมานิดเดียว คงชัดสู้ไอ้หลอดใหญ่ข้างแก้มไม่ได้หรอกแต่มันก็แลกมาด้วยตำแหน่งที่ดีกว่ามากๆ
-
นั่นแหละครับ รถญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้ออกแบบไฟเลี้ยวซุกมุดอยู่ในโคมไฟหน้า แถมบางรุ่นยังทำไฟเลี้ยวเป็นติ่งเล็กๆ ตรงกระจกมองข้างอีก ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร และช่วยประหยัดต้นทุนอะไรยังไงหรือ หรือว่าจะพยายามเป็น LED แต่ต้นทุนมันได้แค่นี้ ?
เพราะรถยุโรปจะใส่โคมไฟหน้าไฮโซหรูหราเวอร์แค่ไหน แต่ไฟเลี้ยวเขาสว่างมองเห็นเต็มโคม ตัวไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างก็เป็นเส้นพาดยาวมองเห็นได้ชัดเจน
-
ในรถรุ่นเดียวกันแต่คนละรุ่นย่อย ไฟเลี้ยวอาจจะอยู่คนละจุด เช่นตัวท็อปไฟเลี้ยวจะอยู่กระจกมองข้าง แต่ตัวล่างจะอยู่ที่แก้มหน้า
-
มองในมุมคนขี่จักรยาน ไฟเลี้ยวแก้มข้างมองได้ชัดกว่าไฟเลี้ยวบนกระจกมมองข้างมากเลยครับสังเกตได้ง่ายกว่ากันมาก
แต่เดี๋ยวนี้ไฟเลี้ยวหลายรุ่นๆกันออกแบบเอาไว้ในโคมด้าในสุดอีกต่างหาก เวลาเปิดพร้อมไฟหน้าไม่ค่อยชัดเจนเลย
รถที่เจอบ่อยๆแล้วเค้าขั้นแย่ 1.อัสติสรุ่นปัจจุบัน ไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้างไม่โอเคเลยซักนิด 2. jazz gd 3. MG5
เท่าที่นึกออกตอนนี้นะครับ 3 รุ่นนี้ไม่โอเค แต่จริงเยอะกว่านี้ละนึกไม่ออก พวกกระบะทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่นี่ไฟฃัดเจนมากครับ
-
มัวเน้นดีไซน์ ไม่คำนึงความปลอดภัยเลย :'(
ไฟเลี้ยวอยู่มุมข้างๆดีสุดแล้ว ไฟตรงกระจกข้างไม่จำเป็น มอไซค์หรือจักรยานที่จอดข้างๆเลยกระจกไปไม่เห็นหรอก
อย่างมาสด้าสาม ไฟท้ายสีแดงตอนกลางคืนเล็กมาก ช่วงที่ถนนมืดๆแทบมองไม่เห็น
-
ฟอจูนตัวใหม่ไฟเลี้ยวหน้าดูยากมาก บ้างที่นึกว่าไม่เปิด
-
รถบางรุ่นไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง ตอนกลางวันมองแทบไม่เห็นจริงๆครับ ยิ่งรถรุ่นใหม่ๆไฟเลี้ยวไม่อยู่ที่มุมแบบรถยุคเก่า
ส่วนบางรุ่นที่มีไฟ drl แต่เวลาเปิดไฟเลี้ยว drl ไม่หรี่ให้ ผมว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้มองเห็นไฟเลี้ยวไม่ถนัดครับ
-
จริงๆ 4 ดวง แบบปกติพอแล้ว แต่เบนซ์มาเพิ่มที่กระจกมองข้างเลยตามมากันหมดทุกยี่ห้อ ดังนั้นไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างมันคือของตกแต่งที่ได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากกว่าครับ
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ แสดงว่าผมไม่ได้คิดไปเองคนเดียวสินะครับ
ผมว่าของพี่โตกับพี่สุ ส่วนใหญ่จะมองเห็นได้จากด้านข้างเผื่อมาทางด้านหลังชัดเจนในหลายรุ่นครับ
Mazda ช่วงปีที่แล้วก็ติดอยู่ข้างกระจก มองเห็นชัดเจน พอมา MY2017 ก็ย้ายไปด้านหน้าซะงั้น :(
พี่ฮอนก็อย่างท่าน nuntapon.s ว่าครับ พอจะเห็นถ้าเป็นกลางคืน กลางวันนี่ไม่ค่อยชัด :(
-
ไฟเลี้ยวตามหลักต้องมี 6 ดวงครับ ด้านข้างถ้าไม่อยู่ตรงซุ้มล้อหน้าก็มาไว้ที่กระจกมองข้าง จุดนี้เอาไว้ให้รถข้างๆ หรือคนเดินถนนสังเกตเพิ่มเติม เบนซ์น่าจะเป็นรายแรกๆ ที่ย้ายไฟเลี้ยวไปกระจกมองข้าง ทีนี้ลูกค้ามองว่ามันโก้เก๋แต่ผู้ผลิตลืมนึกถึงความปลอดภัยและการใช้ประโยชน์ ผลก็เลยออกมาแบบปัจจุบัน
จริงๆ 4 ดวง แบบปกติพอแล้ว แต่เบนซ์มาเพิ่มที่กระจกมองข้างเลยตามมากันหมดทุกยี่ห้อ ดังนั้นไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างมันคือของตกแต่งที่ได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากกว่าครับ
-
ไฟเลี้ยวตามหลักต้องมี 6 ดวงครับ ด้านข้างถ้าไม่อยู่ตรงซุ้มล้อหน้าก็มาไว้ที่กระจกมองข้าง จุดนี้เอาไว้ให้รถข้างๆ หรือคนเดินถนนสังเกตเพิ่มเติม เบนซ์น่าจะเป็นรายแรกๆ ที่ย้ายไฟเลี้ยวไปกระจกมองข้าง ทีนี้ลูกค้ามองว่ามันโก้เก๋แต่ผู้ผลิตลืมนึกถึงความปลอดภัยและการใช้ประโยชน์ ผลก็เลยออกมาแบบปัจจุบัน
จริงๆ 4 ดวง แบบปกติพอแล้ว แต่เบนซ์มาเพิ่มที่กระจกมองข้างเลยตามมากันหมดทุกยี่ห้อ ดังนั้นไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างมันคือของตกแต่งที่ได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากกว่าครับ
สำหรับผมถ้าขับอยู่แล้วรถคันที่อยู่ขนานกันทางด้านซ้ายแล้วขับใกล้กันมากแบบเลนในกทมเปิดไฟเลี้ยวขวาผมจะไม่เห็นไฟที่แก้มเลยเพราะเป็นจุดบอดไฟหน้าก็ไม่เห็นไฟท้ายก็ไม่เห็นดังนั้นการที่เขาย้ายขึ้นมาอยู่ที่กระจกก็ถือว่าเป็นการลบจุดบอดในข้อนี้ที่ได้ผลดี ดังนั้นจะไปถือว่าเขาละเลยความปลอดภัยและการใช้ประโยชน์ผมว่าก็รุนแรงไปนิดนึง อย่างรถผมทั้งสองคันก็ถือว่าเขาทำมุมมองด้านข้างได้โอเคจะมีจุดบอดบ้างตอนกลางวันและกับรถฝั่งสวนมาเท่านั้นแต่ก็มีไฟเลี้ยวในโคมไฟหน้าอยู่แล้วก็ถือว่าหยวนๆ
ถ้าจะตัวอย่างของรถที่เน้นดีไซน์นำหน้าประโยชน์ใช้สอย ส่วนตัวมีตัวอย่างชัดๆอยู่รุ่นนึงคือ fortunerหน้าแชมป์ที่เอาไฟต่ำย้ายเข้าไปอยู่ด้านลึกสุดของโคมไฟหน้าสวยจริงครับผมยังชอบเลย แต่ขับกลางคืนที่มืดๆจะชนหลายรอบละเพราะกะขนาดตัวรถไม่ได้ไฟหรี่ย้ายมาด้านนอกก็จริงแต่แทบจะมองไม่เห็นเลยเวลาใช้งาน
-
ส่วนตัวผมก็ว่ามันมองยากและไม่ชัดจริงๆล่ะครับ
แต่ยังไงถ้าพยายามมองผมก็เห็นนะครับ
ที่เจอคือคนขับส่วนใหญ่มันไม่เปิดไฟเลี้ยวซะมากกว่า
บางครั้งเจอรถคนรู้จักไม่เปิดไฟเลี้ยว เดินเข้าไปคุย ส่วนใหญ่คิดว่าเปิดแล้ว คือไม่รู้ตัวว่าไม่เปิดไฟเลี้ยว
ขออภัยที่นอกเรื่องครับ
-
ใช่ครับ มีไฟด้านข้าง ก็ช่วยได้นะครับ ยิ่งพวกที่จะแทรกมาด้านหลัง จะได้ไม่โดนรถเบียด
-
ใช่ครับ ส่วนไฟเลี้ยวจะอยู่ที่กระจกมองข้าง บางยี่ห้อ ความสว่างน้อยมองแถบจะไม่เห็นว่าเปิดอยู่
รุ่นล่างๆ บางยี่ห้อ ไฟเลี้ยวอยู่ใต้กระจกมองข้าง ประตูคู่หน้าครับ
-
ไฟเลี้ยวด้านข้างผมไม่ค่อยได้สังเกตซักเท่าไหร่ แต่ถ้าไฟเลี้ยวที่โคมหน้ายอดแย่หละก็ ผมขอมอบตำแหน่งนี้ให้แก่ Isuzu D-Max โฉมเก่าครับ ตอนเช้านี่เปิดกับไม่เปิดมองแทบไม่ออกเลยครับ โดยเฉพาะเวลาแดดจ้ามากๆ มองไม่รู้เรื่องเลยจริงๆครับว่าเปิดไฟเลี้ยว ขับสวนกันจะเลี้ยวเข้าซอยมีเบรคตัวโก่งครับ เจอมากับตัวเองเลยครับ
-
ผมชอบให้มีไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างนะ
ส่วนไฟเลี้ยงที่โคมไฟหน้า ผมชอบให้มาอยู่ตรงด้านข้างรถมากกว่าที่จะอยู่ตรงกระจังหน้า
แบบที่อยู่ตรงกระจังหน้ามันมองยาก ทั้งรถที่อยู่ข้างหลังเรา แล้วเปิดไฟเลี้ยว มองผ่านกระจงมงอข้างไม่รู้เลยว่าเขาจะเปลี่ยนเลน
หรือ รถที่กำลังออกจากซอย ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเลี้ยวช้าย หรือ ขวา หรือลืมเปิดไฟ