ผู้เขียน หัวข้อ: W205 c180/c200 หรือ F30 320D  (อ่าน 8705 ครั้ง)

ออฟไลน์ Clubonline69

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 12:32:33 »
กำลังจะซื้อรถยุโรปคันแรกครับ แต่เป็นมือ 2 นะครับ

สนใจ w205 C180/c200 กับ F30 320D lci iconic

ผมสนใจ w205 เป็นพิเศษ
1.อยากสอบถามว่า w205 ถ้าได้รถที่หมดวารันตีแล้ว มีปัญหาประจำตัวที่ต้องกังวลไหมครับ
2.w205 เราจะสามารถเช็ค service การ maintennace ได้ที่ไหนครับ(ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถ) เหมือนของ BMW ที่ใช้เลขตัวถังเช็คที่ 0 ไหมครับ
3.กรณีหมดวารันตี(bsi) ทั้งคู่ ถ้าผมกังวลเรื่องการซ่อมบำรุง ความจุกจิก การใช้งาน ผมควรเลือก w205 หรือ F30 ดีครับ
4.อู่นอก Benz แถวรามอินทรา มีแนะนำไหมครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 12:53:29 »
w205 ปัญหาเสียยงรบกวนที่กรอบประตู กรอบกระจก
ปัญหา เกียร์กระตุก

เป็นรุ่น ที่น่าปวดหัวรุ่นนึงเลยครับ

F30 กลับไม่ค่อยมีข่าว


ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,007
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 14:04:48 »
320d​ iconic​ น่าเล่นกว่า​ มี​ bsi เหลือ
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,235
    • อีเมล์
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 14:07:56 »
หลังๆ bmw เสียงบ่นน้อยกว่านะครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 15:04:55 »
1. เบนซ์ ปัญหาของเครื่องตระกูลนี้ M27X คือ ชุดเฟืองcamshaft ไม่ว่าจะเก่าสิบกว่าปีหรือรุ่นปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนองศาเพลาลูกเบี้ยวทำให้เกิดการเบียดของโซ่กับเฟือง เร่งปล่อยเร่งปล่อยบ่อยๆ  มันก็จะพังเร็ว ตอบยากว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหนเพราะแต่ละเจ้าของเก่าคงขับรถไม่เหมือนกัน แต่โชคดีว่าเขามีคนรับทำกันทั่วไป ราว ๆ 4-5 หมื่นบาท  ใช้ต่อไปได้อีกเท่าๆเดิม ๆ ปัญหาอื่นๆ ของเครื่องก็พวกท่อพลาสติก ระบบน้ำ กล่องเครื่อง ไดชาร์จไดสตาร์ท จุกจิกเล็กๆน้อยๆในช่วง 2 แสนโล และ เกียร์อัตโนมัติที่นับคันพังกันอยู่ 7-9 สปีด คงหนีไม่พ้นเรื่องแผงวงจรเกียร์ แล้วแต่การใช้งานอีกนั่นแหละครับ คันไหนเกียร์ทำงานทดขึ้นทดลงบ่อยก็พังเร็ว รถในเมืองนี่แน่นอนไปก่อนรถวิ่งทางไกลๆยาว ๆอย่างเดียว เรื่องระบบเบรค ระบบอิเลคโทรนิค ก็คงต้องมีเจอ ถ้าเลือกเบนซ์ กำเงินรอไว้สองแสน เผื่อซ่อม ในห้าปีอาจจะได้ใช้หมด อยู่ที่การใช้ของคนก่อนและของคุณ สภาพรถ และดวงล้วน ๆ โชคดีเจอคันที่แบบทนหน่อยก็ยาวไปไม่ซ่อมหนัก แต่ที่แน่ ๆรถเบนซ์ใหม่ ๆ ถ้าใช้ทุกวันใช้วันละ 50-100กม. ใครไม่เคยขึ้นยานแม่ก็ในช่วง 4-5 ปีแรก ผมเรียกว่า โชคดีนะ เพราะสถิติจากศูนย์มันบอกอยู่แล้ว

F30 320D เครื่องตัวนี้ N47 ปัญหาก็รู้ ๆกันหมดแล้วในกลุ่มช่าง  พูเล่หน้าเครื่อง เทอร์โบ  ปั๊มดีเซลแรงดันสูง หัวฉีดดีเซล ระบบไอเสีย และสุดท้ายที่น่าจะหนักหนาสุดก็คงหนีไม่พ้น ชุดโซ่ราวลิ้น ที่เสียกันได้ตั้งแต่ แสนกว่าโลไปยัน สามสี่แสนโล ตอบยากเลย บางคันวิ่งแตะสามแสนโลยังไม่เสียก็มี พวกท่อน้ำพลาสติกก็มีให้กวนใจอยู่ น้ำหายหาสาเหตไม่เจอ เซนเซอร์สารพัดเรียงแถวกันเข้ามาเสีย

สองตัวนี้ถ้าต้องเลือก "มือสอง" ผมจะเลือกเบนซ์  W205 Minor Change  เอาเหตผลส่วนตัว เพราะผมสนิทกับช่างเบนซ์ฝีมือดีมากกว่า ช่างบีเอ็มที่จะทำดีเซลตัวนี้ให้จบถูกๆ ได้ ผมรู้จักช่างบีเอ็มหลายคน ที่สนิทเขาก็ไม่ได้ถนัดดีเซลตัวนี้  ไอ้ที่ไม่สนิท เอาตีนเขี่ยก็เจอ หรือไม่ก็อยู่ไกลกันเกินกว่าจะสนิท แถมราคาขายต่อ MB ในไทยมันดีกว่า BM อยู่มากโข  ถ้าอยากเปลี่ยนรถเป็น BMW ในภายหลังก็ทำได้ไม่ยากไม่ขาดทุนมาก

2. ประวัติเช็คที่ศูนย์ แต่ผมจะไม่แนะนำให้ไปสนใจอะไรมันมาก เอาไว้อ้างอิง หรือ ถ้าเจ้าของเข้าแต่ศูนย์อย่างเดียวจริง ๆ รถพวกนี้ผมจะไม่มอง คนใช้เบนซ์ เอาเข้าศูนย์คือหมูในอวยซะมากกว่า ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องรถมากเท่าไหร่ มีแต่ก็น้อย ถ้าไม่รู้เรื่องรถ มักจะดูแลรถไม่ดี อะไรเสียก็ต้องรอให้พังคาตีนก่อน แทบทุกรายไป

3. หมดวารันตี ผมว่าพอ ๆกัน สำหรับเครื่องสองตัวนี้ ตัวนึงเฟืองไทมมิ่งด้านหน้า อีกตัว ชุดโซ่ไทมมิ่งด้านหลัง ท่อน้ำก็อายุพอ ๆกัน เซนเซอร์ก็พอ ๆ กัน แต่คันไหนออพชั่นเยอะ คันนั้นมีโอกาศจุกจิกมากกว่าแน่นอน เพราะไอ้ที่จะขึ้นเตือนนั่นโน่นนี่ มันก็พวกออพชั่นพิศดารไร้สาระทั้งนั้นครับ แนวโน้มก็คงเป็นเบนซ์ เพราะเสียยันจอแสดงผลรวน ไม่ต้องรอเก่าหรอก ทุกวันนี้ก็ไปเคลมจอวิทยุกันแล้ว เหมือนคอมเก่าๆ ลงวินโดว์ใหม่ๆ คือมันซ่อมไม่ได้ เปลี่ยนอย่างเดียว แวะไป mercedes benz owner, CLA Club, C Class club ในเฟสครับ เก็บข้อมูลจะได้เข้าใจว่าผมพูดถึงอะไร ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้ว

4. อู่ในแถวรามอินทรา ถ้าเป็นรุ่นเก่า ๆ สมัยยี่สิบปีก่อนผมคงแนะนำแถวลาดปลาเค้า แต่ถ้าตอนนี้ เจ้าของอู่แกคงแก่เกินจะซ่อมรุ่นใหม่ ๆ แต่ถ้าคุณได้ไปใช้บริการแล้วเขายังทำได้ดีอยู่ ก็ยินดีด้วยครับ เจ้าของน่าจะ 70 แล้ว

ถ้าไม่เคยมีรถยุโรป เริ่มจากเบนซ์ครับ เจ็บตัวราคาขายต่อน้อยกว่า เพราะคนที่ซื้อเบนซ์ ไม่ค่อยรู้เรื่องรถมีเยอะกว่า เน้นแค่โลโก้หน้ารถควักตังซื้อ ไม่ค่อย Savvy เหมือนพวก BMW ที่จะซ่อมอะไรที่หากันทั่วประเทศ คนพวกนี้เขี้ยวกว่าซื้อรถแพงเขาไม่ซื้อกัน






ออฟไลน์ tatum0022

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 760
    • อีเมล์
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 21:38:41 »
1. เบนซ์ ปัญหาของเครื่องตระกูลนี้ M27X คือ ชุดเฟืองcamshaft ไม่ว่าจะเก่าสิบกว่าปีหรือรุ่นปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนองศาเพลาลูกเบี้ยวทำให้เกิดการเบียดของโซ่กับเฟือง เร่งปล่อยเร่งปล่อยบ่อยๆ  มันก็จะพังเร็ว ตอบยากว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหนเพราะแต่ละเจ้าของเก่าคงขับรถไม่เหมือนกัน แต่โชคดีว่าเขามีคนรับทำกันทั่วไป ราว ๆ 4-5 หมื่นบาท  ใช้ต่อไปได้อีกเท่าๆเดิม ๆ ปัญหาอื่นๆ ของเครื่องก็พวกท่อพลาสติก ระบบน้ำ กล่องเครื่อง ไดชาร์จไดสตาร์ท จุกจิกเล็กๆน้อยๆในช่วง 2 แสนโล และ เกียร์อัตโนมัติที่นับคันพังกันอยู่ 7-9 สปีด คงหนีไม่พ้นเรื่องแผงวงจรเกียร์ แล้วแต่การใช้งานอีกนั่นแหละครับ คันไหนเกียร์ทำงานทดขึ้นทดลงบ่อยก็พังเร็ว รถในเมืองนี่แน่นอนไปก่อนรถวิ่งทางไกลๆยาว ๆอย่างเดียว เรื่องระบบเบรค ระบบอิเลคโทรนิค ก็คงต้องมีเจอ ถ้าเลือกเบนซ์ กำเงินรอไว้สองแสน เผื่อซ่อม ในห้าปีอาจจะได้ใช้หมด อยู่ที่การใช้ของคนก่อนและของคุณ สภาพรถ และดวงล้วน ๆ โชคดีเจอคันที่แบบทนหน่อยก็ยาวไปไม่ซ่อมหนัก แต่ที่แน่ ๆรถเบนซ์ใหม่ ๆ ถ้าใช้ทุกวันใช้วันละ 50-100กม. ใครไม่เคยขึ้นยานแม่ก็ในช่วง 4-5 ปีแรก ผมเรียกว่า โชคดีนะ เพราะสถิติจากศูนย์มันบอกอยู่แล้ว

F30 320D เครื่องตัวนี้ N47 ปัญหาก็รู้ ๆกันหมดแล้วในกลุ่มช่าง  พูเล่หน้าเครื่อง เทอร์โบ  ปั๊มดีเซลแรงดันสูง หัวฉีดดีเซล ระบบไอเสีย และสุดท้ายที่น่าจะหนักหนาสุดก็คงหนีไม่พ้น ชุดโซ่ราวลิ้น ที่เสียกันได้ตั้งแต่ แสนกว่าโลไปยัน สามสี่แสนโล ตอบยากเลย บางคันวิ่งแตะสามแสนโลยังไม่เสียก็มี พวกท่อน้ำพลาสติกก็มีให้กวนใจอยู่ น้ำหายหาสาเหตไม่เจอ เซนเซอร์สารพัดเรียงแถวกันเข้ามาเสีย

สองตัวนี้ถ้าต้องเลือก "มือสอง" ผมจะเลือกเบนซ์ W205 Minor Change เอาเหตผลส่วนตัว เพราะผมสนิทกับช่างเบนซ์ฝีมือดีมากกว่า ช่างบีเอ็มที่จะทำดีเซลตัวนี้ให้จบถูกๆ ได้ ผมรู้จักช่างบีเอ็มหลายคน ที่สนิทเขาก็ไม่ได้ถนัดดีเซลตัวนี้  ไอ้ที่ไม่สนิท เอาตีนเขี่ยก็เจอ หรือไม่ก็อยู่ไกลกันเกินกว่าจะสนิท แถมราคาขายต่อ MB ในไทยมันดีกว่า BM อยู่มากโข  ถ้าอยากเปลี่ยนรถเป็น BMW ในภายหลังก็ทำได้ไม่ยากไม่ขาดทุนมาก

2. ประวัติเช็คที่ศูนย์ แต่ผมจะไม่แนะนำให้ไปสนใจอะไรมันมาก เอาไว้อ้างอิง หรือ ถ้าเจ้าของเข้าแต่ศูนย์อย่างเดียวจริง ๆ รถพวกนี้ผมจะไม่มอง คนใช้เบนซ์ เอาเข้าศูนย์คือหมูในอวยซะมากกว่า ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องรถมากเท่าไหร่ มีแต่ก็น้อย ถ้าไม่รู้เรื่องรถ มักจะดูแลรถไม่ดี อะไรเสียก็ต้องรอให้พังคาตีนก่อน แทบทุกรายไป

3. หมดวารันตี ผมว่าพอ ๆกัน สำหรับเครื่องสองตัวนี้ ตัวนึงเฟืองไทมมิ่งด้านหน้า อีกตัว ชุดโซ่ไทมมิ่งด้านหลัง ท่อน้ำก็อายุพอ ๆกัน เซนเซอร์ก็พอ ๆ กัน แต่คันไหนออพชั่นเยอะ คันนั้นมีโอกาศจุกจิกมากกว่าแน่นอน เพราะไอ้ที่จะขึ้นเตือนนั่นโน่นนี่ มันก็พวกออพชั่นพิศดารไร้สาระทั้งนั้นครับ แนวโน้มก็คงเป็นเบนซ์ เพราะเสียยันจอแสดงผลรวน ไม่ต้องรอเก่าหรอก ทุกวันนี้ก็ไปเคลมจอวิทยุกันแล้ว เหมือนคอมเก่าๆ ลงวินโดว์ใหม่ๆ คือมันซ่อมไม่ได้ เปลี่ยนอย่างเดียว แวะไป mercedes benz owner, CLA Club, C Class club ในเฟสครับ เก็บข้อมูลจะได้เข้าใจว่าผมพูดถึงอะไร ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้ว

4. อู่ในแถวรามอินทรา ถ้าเป็นรุ่นเก่า ๆ สมัยยี่สิบปีก่อนผมคงแนะนำแถวลาดปลาเค้า แต่ถ้าตอนนี้ เจ้าของอู่แกคงแก่เกินจะซ่อมรุ่นใหม่ ๆ แต่ถ้าคุณได้ไปใช้บริการแล้วเขายังทำได้ดีอยู่ ก็ยินดีด้วยครับ เจ้าของน่าจะ 70 แล้ว

ถ้าไม่เคยมีรถยุโรป เริ่มจากเบนซ์ครับ เจ็บตัวราคาขายต่อน้อยกว่า เพราะคนที่ซื้อเบนซ์ ไม่ค่อยรู้เรื่องรถมีเยอะกว่า เน้นแค่โลโก้หน้ารถควักตังซื้อ ไม่ค่อย Savvy เหมือนพวก BMW ที่จะซ่อมอะไรที่หากันทั่วประเทศ คนพวกนี้เขี้ยวกว่าซื้อรถแพงเขาไม่ซื้อกัน

ขอโทษนะครับ w205 พึ่งจะ FL ไปคงจะยังหามือสองยากมั้งครับ หมายถึง 204FL หรือเปล่าครับ
E220d AMG 17' BBS RI-D
C200 AMG Carlsson add on 12'
Fortuner 2.8 E4 16'
Camry Hybrid 10'
Jazz JP 12'
vios 13'
Preruner 08'
Austin Mini Mark1 1962

ออฟไลน์ paulmoderndog

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,781
    • อีเมล์
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2019, 22:48:48 »
ตั้งงบไว้ที่เท่าไหร่ครับ?

ต่ำกว่า2 ล้าน Camry Accord ดีกว่าไหมครับ?
2ล้านต้น CLA Gla X1 series 1 xc40 2กลาง Lexus UX

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,449
    • อีเมล์
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2019, 00:34:54 »
w205 ปัญหาเสียยงรบกวนที่กรอบประตู กรอบกระจก
ปัญหา เกียร์กระตุก

เป็นรุ่น ที่น่าปวดหัวรุ่นนึงเลยครับ

F30 กลับไม่ค่อยมีข่าว

เรื่องเสียงประตู f30 ก็มีเสียงครับ เรียกว่าปัญหาประจำรุ่นเลยดีกว่า ขนาดของผม lci แล้ว ยังมีเสียงเลย แต่แก้ไขโดยการแปะเทป งานหยาบกว่าของ w205 อีก รายนั้นเปลี่ยนอะไหล่กรอบประตูเลย

ตอบ จขกท ถ้าวิ่งทางยาวๆ บ่อยๆ ผมเชียร์ 320d นะครัย ประหยัดน้ำมันสุดๆ แต่ถ้าวิ่งในเมืองขอเบนซินดีกว่า มันสมูทตามสภาพการจราจรดีกว่า ไม่กระโชกโฮกฮากเหมือนเบนซิน

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,258
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2019, 08:35:47 »
205 เครื่องที่คุณว่า มันก็คือ m274 ตัวสุดท้ายใน W204 นั่นแหละ
เท่าที่ใช้มา ก็ไม่เห็นมีอะไรพังเป็นพิเศษ มีปั้มน้ำพังก็เคลมศูนย์ได้ ส่วน เฟือง advance หรือ แผงวงจรเกียร์ ก็แล้วแต่ดวง มันไม่ได้เป็นทุกคัน เท่าที่เห็น ราวๆ 10-15 % ที่พังกัน ในเรื่องเกียร์ ส่วนเฟือง ก็นานๆเห็นทีนึง

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,456
Re: W205 c180/c200 หรือ F30 320D
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2019, 16:42:38 »
c180 ส่วนมากเป็นรถ fleet นะครับ c200 ก็คล้ายๆกัน ฉะนั้นผมไม่แน่ใจเรื่องสภาพ คนขับรถคันนั้นๆ คงกดกันไปพอสมควร ถ้าสามารถตรวจสอบได้ดี ก็ดีไปครับ