ผมขอตอบข้อ 1 แบบค่อนข้างละเอียดละกันนะครับมีประสบการณ์อยู่สองเคท 5 5 5
ถามว่าดาวน์เยอะสุดได้เท่าไหร่ จริงๆแล้ว วงเงินดาวน์ที่เพียงพอต่อการไม่ต้องมีคนค้ำประกันคือประมาณ 25% ขึ้นไปสำหรับมูลค่ารถครับ(สำหรับรถใหม่)
ส่วนรถมือสองก็อยู่ในองค์ประกอบไล่เลี่ยกัน ในการผ่อนระยะเวลาขั้นต่ำอยู่ที่ 1 ปีขึ้นไปครับ ในกรณีที่คุณผ่อนไม่เกิน 2 ปี (ตีซะสองปี) ในส่วนของดอกเบี้ย
จะได้ส่วนลดมากกว่าผ่อน 3-4 ปีขึ้นไปครับ
เคทแรกละกันครับ ผมออกทีด้าป้ายแดง (680,000) ดาวน์ประมาณ 350,000 ยอดจัดก็เอา 680,000-350,000 = 430,000 ครับ
ผ่อน 4 ปี ชิลๆ ดอก 2.xx (จำแน่ชัดไม่ได้แระ) เฉลี่ยส่งต่อเดือน 8,xxx บาทปลายๆ
กรณีนี้แม้จะเป็นรถใหม่และผมไม่เคยข้อกู้กับไฟแนนท์เลย ก็ได้รับอนุมัติภายใน 2 วันครับ (จริงๆ 1 วัน) ทั้งนี้อยู่ที่เครดิตคุณด้วย(มีการตรวจเช็คเครดิตบูโร)
และพวกรายละเอียดเกี่ยวกับ พันธะสัญญาต่างๆ หนี้สินต่างๆที่คุณอาจจะีมีอยู่ เป็นการประกอบการพิจารณาให้กู้จากไฟแนนท์ครับ
สำหรับเคทนี้ผมส่งมา 2 ปีกับอีก 2 เดือน แล้วปิดยอดจัดเลย โป๊ะไปแสนแปดได้โดยประมาณ ได้รับส่วนลดปิดยอดก่อนถึงดิว 4,000 บาท
ณ ปัจจุบันก็ ไม่มีหนี้สินแล้ว....แต่.....ความอยากเสี้ยนเป็นหนี้ ไม่เคยเข้าใครออกใคร.....ผ่านไปได้ 7 วัน ขอเป็นหนี้ต่อละกัน
เลยเกิดเคทที่สองครับ
เคสนี้ เกิดจากผมอยากได้รถมือสองเอาไว้ใช้งานในเมือง เลยดู ฮอนด้า ซีวิค Y2007 ไว้ และติดต่อไฟแนนท์ธนชาติเจ้าเดิมครับ เพราะมีประวัติดีอยู่แล้ว
(ไม่เคยส่งเลทแม้แต่ครั้งเดียว) คันนี้ผมดาวน์ไป 400,000 บาท และขอยอดจัดกับธนชาติไว้ 240,000 บาท เรื่องอนุมัติภายในเวลา 1 วัน
ยอด 240,000 ผ่อนแค่ 2 ปีก็ได้ แต่.....ผมขอ 3 ปี เพราะต้องการยอดผ่อนต่อเดือนที่น้อยลง สรุปคือยอดส่งต่อเดือน 7,xxx ปลาย
ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ผมโอเค สบายตัว สบายกระเป๋า เหลือเงินดูแลเจ้าซีวิคได้สบายๆ ในแต่ละเดือน (ก็ของแต่งมันเยอะซะเหลือเกินนี่นา)
สำหรับเคทนี้ เป็นรถมือสอง ดอกเบี้ยแพงกว่ารถป้ายแดงพอสมควร คือ 3.65% ครับ ดังนั้นสำหรับรถมือสอง ยิ่งผ่อนนาน ยิ่งเจอดอกเยอะ จุดนี้ควรระวังให้ดี
ก่อนการซื้อรถด้วยนะครับ ให้เทียบอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ กับรถป้ายแดง (ในรุ่นเดียวกันก่อนที่จะตัดสินใจ) เพราะจำนวนดอกเบี้ยที่มากขึ้น
อาจจะไม่คุ้มสำหรับกรณีรถมือสองก็ได้ครับ
สำหรับเคล็ดลับในการกู้ของผม.....แหมชอบจริงๆ การเป็นหนี้เนี่ย!!!
อันดับแรกเลย "สเตทเม้นต์" ต้องงาม ผมทำหอพัก ผมมีเงินเข้าออกบัญชีทุกเดือน คราวละหลายหมื่น(ตัดค่าน้ำค่าไฟค่านู่นนี่นั่นมากมาย) ผมเดินทุกเดือนอยู่แล้ว
ถ้าคุณไม่เคยทำ ควรทำก่อนซื้อรถสัก 6 เดือนเป็นอย่างน้อย เอาเงินเข้าๆ ออกๆ หมุนให้ดูสวย และเยอะพอ
อันดับที่สอง ไม่ง้อมัน รอบแรกที่กู้ธนชาติ ก็มีฝ่ายดูแลลูกค้าโทรมาคุยรายละเอียดก่อน ผมก็บอกว่า แล้ววงเงินผมจะอนุมัติมั๊ย ถ้าไม่แจ้งผมไวๆ ผมจะได้ซื้อสดนะ
วันรุ่งขึ้น(วันที่2) ก็อนุมัติเลย จริงๆ เรื่องแทงออกมาตั้งแต่ผ่านลูกค้าโทรมาคุยกันในวันแรกแล้ว...พวกไฟแนนท์ถ้าประวัติเราดี เขาก็อยากให้กู้เยอะๆครับ
ระหว่างที่กู้ผ่านแล้วส่งค่างวดได้สองสามงวดแล้ว ผมทำเืรื่องขอหักค่างวดกับธนชาิติผ่านบัญชีของแบงค์ธนชาติไปเลย เพราะนอกจากจะสะดวกแล้ว(โอนเิงินเข้าบัญชีอย่างเดียว) ให้ทันในรอบเดือนทุกเดือน ทำให้เรามีประวัติที่ดีเพิ่มขึ้นในส่วนของ ธนชาิติอีกด้วย (เขาเช็คประวัติการส่งค่างวดผ่านจุดนี้ได้เลย)
เคล็ดลับของผมคือผมไม่เคยปล่อยให้เงินในบัญชีหักค่างวดรถ มีค่างวดน้อยกว่า 1 รอบบิลเสมอ พูดง่ายๆ น้อยที่สุดคือ หลังจากตัดค่างวดในวันที่ 10 ของเดือนปุ๊บ ผมนำเงินเข้าไว้เป็นงวดต่อไปเลยทันที บัญชีผมจะมีเงินสแตนน์บายไว้อย่างต่ำ 1 รอบบิลเสมอ แต่...ผมมักใส่ไว้เกินกว่า 1 งวดเสมอเช่นกัน ไว้กันพลาดครับ
เพราะอุบัติเหตุการเงินมันมีโอกาสเกิดได้ไม่คาดฝันเช่นกัน อย่างน้อยๆ มีเงินสำรองไว้ก็ดีกว่า
พยายามตัดหนี้ไม่จำเป็นให้หมดโดยไว เช่นพวกหนี้ผ่อนชำระจากบัตรต่างๆ อันนี้เพราะผมมีกู้เงินผ่อนพวกแอร์บ้านบ่อยๆ(ทำหอพักต้องติดแอร์ใหม่บ้างเปลี่ยนบ้างให้ห้องพัก ซึ่งแน่นอนผมไม่ซื้อสดชัวส์)
ถ้าสามารถทำตามข้อแนะนำเหล่านี้ได้ คุณก็จะสบายๆ และเป็นหนี้อย่างมีความสุขครับ 5 5 5