Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: final ที่ พฤศจิกายน 30, 2022, 20:11:45
-
รถมีหม้อน้ำ พัดลม วาล์วน้ำ คอยควบคุมอุณหภูมิเครื่องยนต์ไม่ให้ร้อนเกินเย็นเกินอยู่แล้ว อุณหภูมิภายนอกไม่น่ามีผลอะไรเว้นตอนสตาร์ทเครื่องใหม่ๆ แต่ทำไมมักแนะนำกันว่าเมืองร้อนควรใช้เบอร์ นมค มากกว่าเมืองหนาวล่ะครับ
-
ความเห็นส่วนตัวผม คิดว่า น่าจะเป็นความเชื่อ ที่พูดติดปากกันมามากกว่าครับ
เมื่อก่อนข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับน้ำมันเครื่องน้อย ช่างตามอู่ก็จะพูดต่อๆกันมาโดยขาดความรู้มากกว่า ทั้งๆที่ความจริงคือ เลขหน้าตัว W คือค่ามาตรฐานในเขตหนาว เมืองร้อนอย่างเราใช้เบอร์อะไรก็ได้
-
ผมคงยึดเติมตามคู่มือครับ
นิ่งรถใหม่ถ้าเข้าศูนย์ เราก็เลือกเบอร์น้ำมันไม่ได้หนิครับ
ใช้ต่อมา3-5ปี ไม่มีปัญหาอะไรก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเบอร์น้ำมัน อาจหาเบอร์เดิมแต่เกรดดีขึ้นแทน
ถ้ามีคนเทสแบบจริงๆจังๆ ก็อาจเปลี่ยนตามครับ
-
อันนี้ผมก้ไม่รู้เหมือนกันคับ.... ตั้งแต่ผมจำความได้ก็เจอน้ำมันเครื่องเบอร์บางแต่ทนร้อนได้ถึง 150-160 องศาแล้ว คือร้อนเกินเบอร์อากาศเมืองไทยไปเยอะ
เพราะงั้นสภาพอากาศภายนอกคงมีผลกับความร้อนน้ำมันเครื่องน้อยมาก ถ้าระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์มันไม่เจ๊งอ่ะนะ
-
หากนมค มาตรฐานเดียวกัน
นมคร้อนขึ้น ควานหนืดจะลดลง
ใสเกิน สูญเสียการหล่อลื่น คราบไหม้ในเครื่องเยอะ กำลังตก
เดานะครับ บ้านเราตอนสตาร์ทรถที่อุณหภูมิ 40 องศา ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์หนืดอาจจะหนืดน้อยกว่า เมืองหนาวที่สตาร์ทรถตอนติดลบ แต่ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ต่ำกว่าก็ได้
หม้อน้ำระบายความร้อนเครื่อง
น้ำมันเครื่องใช้หล่อลื่นภายในเครื่องยนต์
-
ในคู่มือ จะมีระบุไว้ว่า อุณภูมิภายนอกกี่องศา ต้องใช้น้ำมันเครื่องเบอร์อะไร ลองเปิดดูครับ
ซึ่งก็ใช้ตามที่เค้าระบุแหละ จบสุด
-
รู้แค่ว่าสมัยนี้ชอบยัดเยียดเบอร์ 0w-20 บอกได้คำเดียวว่าห่วยแตกมาก ได้แค่ประหยัดน้ำมันที่เหลือไม่มีอะไรดีเลย
-
เคยขับบนสนามแข่งรถไม่มีออยคูลเลอร์ในไทยนี่แป็ปเดียวอุณหภูมิขึ้นไปสูงมากครับ ขับแบบเดียวกันในเมืองหนาวอุณหภูมิกว่าจะขึ้นไปสูงใช้เวลาต่างกันพอสมควร และเมืองหนาวอุณหภูมิน้ำมันเครื่องลงเร็วกว่าด้วย ที่ให้ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์หนืดกว่าเค้าน่าจะเผื่อการใช้งานหนักด้วยครับ
-
เคยได้ยินมาว่า ความหนืดของน้ำมันเครื่อง มันจะลดลงตามอุณหภูมิ บ้านเราเมืองร้อนเลยต้องเพิ่มเบอร์น้ำมันเครื่องเพื่อให้คงสภาพความหนืดไว้ได้ละครับ
แต่รายละเอียดลึกๆก็ไม่ทราบเหมือนกัน คงต้องรอผู้รู้ท่านอื่นๆมาแนะนำกันอีกทีละครับ
-
ค้นกระทู้เก่า
มีรายละเอียดบอกไว้ครับ
เถียงกันจนเลิกเถียงไปแล้ว
-
เคยซื้อFord escape มาใช้ เบอร์น้ำมันเขาก็ให้ใช้0w20 สามปีวิ่งไปสองแสนห้าหมื่นโล หลวมเกือบทุกชิ้น เลยเอาไปฮอลใหม่ คราวนี้เลยใช้เบอร์50 วิ่งไปอีกสามแสนยันขายไม่หลวม
มันเคยมีโปรเจ๊คอะไรซักอย่างของโตโยต้าเคยอ่านเจอจากคนในเว็บไซต์นี้นะ อ่านแล้วไปอ่านต่ออีกเข้าใจละ
-
เค้าบอกนี่ใครครับ
ผมเชื่อคู่มือรถ เพราะได้มีการทดสอบกับอากาศเมืองไทยและลักษณะการใช้งานแล้ว
จุดสำคัญคือการได้รับการทดสอบในไทยหรือยัง
ผมขายเครื่องจักรจากจีน ที่ไม่เคยทดสอบในไทยมาก่อน ผมก็ต้องมีการเพิ่มเบอร์ขึ้น เพื่อลดการสึกหรอครับ
-
น้ำมันเครื่องทีดีเบอร์ตรงกับที่บริษัทผู้ผลิตแนะนำให้ใช้ มันน่าจะใช้ได้ดี และเพียงพอกับการใช้แบบปกติครับ แต่ถ้าเราใช้แบบเกินปกติจะเพิ่มเบอร์ก็คงไม่ได้เสียหายอะไร
-
ในคู่มือยังมีระบุการเลือกเบอร์น้ำมันเครื่องให้อยู่ครับ และมันไม่ได้มีเบอร์เดียว (แต่เบอร์นึงอาจจะใช้ได้ช่วงกว้าง) ช่างศูนย์มักชอบบอกว่า ต้องเบอร์นี้เท่านั้น ผมเลือกเชื่อเอกสารมากกว่าปากช่าง
ส่วนตัวผมคิดว่า หากเลือกเบอร์หนืดไป ยังอุ่นใจกว่าเลือกใสเกินไปครับ ;D
-
8) 8) 8)......หากมีโอกาส ลองหาดูในอากู๋ พิมพ์ What weight (grade) SAE the most using in Middle East country.....ส่วนมากจะยก servicing SAE 30, 40, 50 straight weight mono/single grade ขึ้นมาตอบให้ใช้เกรดเดี่ยวเท่านั้น จะไม่ค่อยพบให้ใช้ multi grade 0W-20, 5W-30 เพื่อใช้เซอร์วิสเช่นเมืองหนาวสั่นแบบในไทยเราครับ ลองหาดูจาก บ้านเมืองโซนร้อน tropical climate ดูหลายๆที่ ว่าทั้งรถยุโรปกับรถเอเชีย เขาใช้น้ำมันเครื่องเกรดเหมาะสมกับเมืองร้อนจริงๆแบบใดกันครับ ค้นหาดูเอง อย่าเพิ่งเชื่อที่พูดๆกันทั่วไป :-X
-
น่าจะแค่กลุ่มคน บางกลุ่มที่มีความเชื่อแบบนั้นครับ
เขาว่า นี่ คงไม่กี่คน
เติมตรงเบอร์ ตามคู่มือ ก็จบ
ถ้าน้ำมันเครื่องหาย ควันไหล ค่อยว่ากัน ถ้าจะปรับเบอร์ ก็คงหลัก 1-2 แสนกิโลขึ้น
หรือถ้าอยากปรับเพราะพฤติกรรมการขับขี่ ความชอบ ความศรัทธา ก็ว่ากันไป ตามใจชอบ
ปล.ผมก็เพิ่มเบอร์ ไม่ใช่เพราะเรื่องอากาศร้อน แต่เพราะเรื่องพฤติกรรมการขับขี่ครับ
-
หรือเป็นเพราะว่าหม้อน้ำคุมอุณหภูมิได้เฉพาะตัวเครื่องยนต์ภายนอก (เสื้อสูบ ฝาสูบ) แต่สิ่งที่อยู่ในนั้น (นมค) มันเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาและต้องรับความร้อนของจากการจุดระเบิด อุณหภูมิมันจึงไม่นิ่งและสูงกว่าระบบหม้อน้ำครับ
-
จขกท. เข้าใจถูกแล้วครับ
อุณหภูมิสิ่งแวดล้อมภายนอกไม่ได้มีผลต่อน้ำมันเครื่องให้น้ำมันเครื่องจากที่หนืดมาก ๆ แต่ใสลงได้ขนาดนั้นครับ
อย่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ปกติทั่วไปทนความร้อนได้มากกว่า 200 กว่าองศา ซึ่งอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมภายนอกไม่มีทางถึงแน่
ค่าการทนอุณหภูมิความร้อนไปหาดูได้จากสเปคชีทน้ำมันเครื่องแต่ละเจ้าเลย
ในส่วนของจุดวาบไฟ (Flash Point) และจุดติดไฟ (Pour Point) ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะ 200 องศาบวกๆ ทั้งนั้น
สุดท้ายผมว่าใช้น้ำมันเครื่องตามคู่มือดีสุดครับ เว้นแต่ว่าไปจูน รีแมพ หรือขับหนัก ๆ อาจจะเพิ่มเกรดความหนืดก็ได้