ฉบับแรก จดหมายขอบคุณจากรองกรรมการผู้จัดการ
เนื้อหาระบุชื่อ ผู้ซื้อรถ รุ่นรถ สีรถ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ ราคารถ เงินดาวน์ หักเงินจอง
เงินมัดจำป้ายแดง เงินชำระในวันออกรถ รายการของแถมของสมนาคุณทั้งหมด
สุดท้ายที่ผมชอบก็คือ ให้เบอร์มือถือของรองกรรมการผู้จัดการไว้ด้วย โดยเขียนว่าหากไม่ได้ของแถมหรืออะไรผิดพลาดโปรดโทรติดต่อโดยตรง
ซึ่งผมออกรถมาก่อนที่ได้ของแถมครบครับ
หลังจากได้รับจดหมาย ผมก็ได้โทรแจ้งกับรองกรรมการผู้จัดการและได้ของแถมครบทุกอย่าง
รองกรรมการดูแลดีมากครับ โทรกลับตลอดเลยครับ พูดจาตรงไปตรงมามากครับ
จดหมายฉบับแรกนี้ผมได้หลังจากออกรถได้ประมาณ 10 วันครับ
ฉบับที่สอง จดหมายจากฝ่ายบุคคลของศูนย์รถยนต์
ผมได้รับหลังจากออกรถมา 1 เดือน 17 วันครับ
เรื่องพนักงานขาย ทุจริต ซึ่งชื่อที่ระบุเป็นชื่อพนักงายขายที่ขายรถให้ผมนั่นเอง
ซึ่งในจดหมายระบุว่าได้พ้นสภาพการเป็นพนักงงานขายแล้ว
ผมไม่ได้โดนโกงหรือโดนหลอกอะไรครับ ทุกอย่างผมได้ครบถ้วนครับตามที่ตกลงกันไว้ครับ
สิ่งที่อยากบอกก็คือ ศูนย์รถยนต์มีความจริงใจดีครับ ที่บอกเบอร์มือถือของรองกรรมการผู้จัดการ
เพราะไม่ว่าบริษัทอะไร ศูนย์ไหน หรือสังคมไหนก็ตามครับ ย่อมมีคนไม่ดีครับ
ผมคนนึงและคนซื้อส่วนใหญ่ก็คงได้คุยแต่กับพนักงานขาย
การบอกเบอร์มือถือของรองกรรมการผู้จัดการแสดงว่ามีความจริงใจดีครับ
ทางศูนย์เองก็ไม่อาจตรวจสอบได้หมดว่าพนักงงานขายแต่ละคนจริงใจกับลูกค้าแค่ไหนครับ
สุดท้ายก็ยังอุ่นใจที่ซื้อกับศุนย์นี้ที่มีรองกรรมการผู้จัดการคอยดูแลครับ
จดหมายฉบับแรกจึงมีความสำคัญมากเลยครับสำหรับผมครับ ผมหวังว่าทุกศูนย์รถยนต์ไม่ว่าค่ายไหนจะทำเหมือนกันนะครับสำหรับจดหมายฉบับแรก
ผมโพสไว้สองที่ครับ อีกที่นึงในคลับรถที่ผมใช้อยู่ครับ