Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: เอก ที่ มกราคม 28, 2019, 22:18:14
-
เมื่อเทียบกับ civic 1.8 ต่างกันเยอะไหมครับ และ 1.5T เงียบและนุ่มพอๆกับ chr ที่ว่าช่วงล่างดีได้ไหมครับ
-
คือลองขับ civic 1.8 แต่เสียงถนนดังเหลือเกิน ยังกะ b segment แต่ชอบรูปทรงและภายใน แต่ลองขับ chr ชอบความเงียบและการเก็บเสียง แต่ติดกระจกบานหลังที่คนนั่งหลังรับไม่ได้ครับ และศูนย์ฮอนด้าไม่มี ตัว 1.5rs ให้ลองครับ เลยต้องขอความเห็นจากทุกท่านครับ
-
ถ้าหมายถึงรุ่นล่าสุด ปี2019 อาจจะใหม่จริงๆ ไม่มีให้ลูกค้าลอง
เห็นศูนย์ไกล้บ้านผม ประกาศขายตัวทดลองขับรุ่นเก่า
ลองถามในเพจ facebook Civic Turbo มีเซลล์เสนอขายเยอะเลยครับ ถามลองรถเลยครับ
ไกล้บ้านผม มีให้ลองครับ ไม่รู้ตัวเดิม หรือตัว2019 ผมไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์CRV ไม่ลองเพราะไม่คิดซื้อ จะเสียเวลาเซลล์ (เซลล์สาวและสวยนะ ฮ่าาา)
-
ต่างกันอยู่นะครับ
-
ประสบการณ์ใช้งานหลังจากที่ใช้มา 1 ปีกว่าๆนะครับ 1.5T RS
การเก็บเสียงการเทียบในส่วนนี้ของแต่ละคนน่าจะมีความรู้สึกที่ไม่เท่ากันนะครับ สำหรับผมการเก็บเสียงเข้าขั้นแย่เลยครับ เสียงพื้นถนน เสียงลมดังมาก ใช้ไปนานๆก็ชินครับ
การซับแรงสะเทือนถือว่ากำลังทำได้ดีครับ ไม่แข็งกระด้างหรือนุ่มจนเกินไป อยู่ในเกณฑ์กลางๆ
เทียบช่วงล่างกับ Chr ผมว่า chr ทำได้ดีกว่าครับ ความรู้สึกคล้ายๆ x1 2018 หนึบๆเกาะๆ **ทดลองขับ chr แค่ 3 กิโลเมตรนะครับ**
-
ผมเคยนั่ง Civic 1.8 EL/1.5T 5Dr./1.5T RS มาครับ และเคยทั้งนั่งและขับ CHR HV มาแล้ว
Civic 1.8 การเก็บเสียง และการซับแรงสะเทือน แย่กว่า 1.5T พอสมควรเลยครับ คือตัว 1.8 เนี่ย ไม่ทิ้งความรู้สึกจาก Civic FD เลยครับ การเก็บเสียง การซับแรงสะเทือนไม่ได้ดีกว่าเลย เก็บเสียงห่วย ช่วงล่างเด้ง แต่ตัว 1.5T เนี่ย มันสร้างความแตกต่างจากฮอนด้ายุคก่อนๆ ได้ ทั้งๆ ที่ล้อใหญ่และกว้างกว่าตัว 1.8 นะ
แต่ถ้าเทียบกับ CHR HV ทั้งการเก็บเสียงและการซับแรงสะเทือน CHR ดีกว่าซีวิค 1.5T แบบรู้สึกได้ครับ
-
ช่วงล่าง CHR เหมาะขับคนขับทั่วๆไป ขับบนถนนทั่วๆไป เลยดีกว่าซีวิค แต่ถ้าเอาลงสนาม หรือวิ่งเร็วแบบจริงๆ ใส่ถึงลิมิตรถ ยังไงซีวิคก็ดีกว่า ไม่ใช่เพราะช่วงล่าง แต่เป็นเพราะศูนย์ถ่วงที่ต่ำ รวมถึงฐานล้อทึ่ยาวกว่าทำให้คุมรถในช่วงลิมิตได้ดีกว่า
-
Civic RS คุ้มสุด ไปต่อได้ไกล
-
ใช้ได้อยู่นะครับ ถ้าเทียบกับรถราคาใกล้กัน ผมเคยขับอยู่ 4-5 Km นะตัว RS ไม่ต้องเทียบ กับ chr เลยครับ
มันคนละแบบกันเลย chr เก็บเสียงจากล้อแย่นะครับที่ผมซื้อมา ไม่ได้ดีอะไรมากแต่ช่วงล่างวิ่งนิ่งๆ เปลี่ยนเลน
เนิบๆดีจริงครับแต่ถ้า ขับแบบโหดๆมุดๆ เข้าโค้งแรงมากๆผมเอา RS ครับ มั่นใจกว่า
ขับดีทั้งคู่ครับ 2 รุ่นนี้ น่าจะเป็นรถราคา 1-1.2 ล้านที่น่าใช้สุดแล้ว chr ก้ไม่แรงแต่นุ่มดี ช่วงล่างขับดีหยั่งกับ
รถราคา 3 ล้านหลายคันแต่ถ้าขับสุดๆยังไงก้มีอาการเยอะกว่ารถที่เตี้ยกว่า เก็บเสียงจากล้อแย่แต่โดยรวมผม
ชอบครับ ส่วน RS ผมเชียร์ จขกท. เลยนอกจากเบาะหลังที่เป็นขอบพลาสติก(ซึ่งchr ก้เป็น) ที่เหลือทั้งคัน
ผมโอเคหมด เครื่องแรงทำต่อได้ไกล ซื้อมาเปลี่ยนยางเกาะๆใส่ก้ขับมันละครับ
-
ผมชอบทั้งคู่เลยคับทั้งcivic rsทั้งchr ถ้าเปรียบเทียบเป็นผู้หญิงนี่เลือกยากเลยนะคับ
งานนี้ เชียร์ทั้งคู่เลยคับ
-
ผมว่าในตัวเลือกราคา 1.2M RS คุ้มสุดแล้วครับ
Options ครบ พื้นที่ใช้สอยดี อัตราเร่งแรงสุด
ยังหาตัวเลือกใกล้เคียงไม่ได้เลย มันโดดออกมามาก
เคยเช่าขับ 1.8 ช่วงล่างไม่เกิน 120 ok เลย
ซับแรงสะเทือนดีมาก ออกไปทางนุ่ม
การเก็บเสียงผมว่ากลาง ๆ
CH-R ผมไม่เคยขับครับ คงเทียบลำบาก
ผมมี Focus V40 ผมว่า Civic กับ Focus พอ ๆ กัน Focus เก็บขอบกระจกดีกว่านิดหน่อย เสียงยางผมว่าไม่ต่างกันมาก
ส่วน V40 ยังเก็บเสียงดีกว่า Civic
ช่วงล่าง พวงมาลัย Civic คมกว่า Focus คมกว่า V40 มาก
Civic ซับแรงสะเทือนดีสุดใน 3 คัน แต่แม่ผมนั่งหลังบอกว่า นั่ง Civic แล้วเวียนหัว ความเร็วเกินกว่านั้นผมไม่แน่ใจ คนทั่วไปน่าจะขับประมาณนี่
ถ้ามีให้เลือก Focus 1.5T, Civic 1.5T, V40 2.0T
ผมว่า Civic คุ้มค่า ตอบโจทย์มากสุดครับ สำหรับผมตอนนี้ยังไม่มีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจเลย
ส่วน CH-R ผมเคยลองนั่ง เบาะสบายครับ แต่ผมไม่ค่อยชอบรูปร่างมันเท่าไหร่ กลัวจะอยู่ได้ไม่นาน
Vote RS ครับ
-
ขอบคุณทุกท่านครับ ผมกะว่าจะหารถไปรับส่งลูกไปโรงเรียนน่ะครับ คงไม่ขับเร็วนัก เน้นประหยัด ปลอดภัย นั่งสบายด้วยครับ คงต้องไปหาศูนย์ฮอนด้าที่มี rs ให้ลองให้ได้แล้วครับ
-
ขอบคุณทุกท่านครับ ผมกะว่าจะหารถไปรับส่งลูกไปโรงเรียนน่ะครับ คงไม่ขับเร็วนัก เน้นประหยัด ปลอดภัย นั่งสบายด้วยครับ คงต้องไปหาศูนย์ฮอนด้าที่มี rs ให้ลองให้ได้แล้วครับ
เมื่อวานผมเห็นแถว นนทบุรี มี civic rs สีน้ำเงินติดสติ๊กเกอร์วิ่งอยู่ น่าจะเป็นรถทดลองขับครับ แจ่ไม่รู้ของศูนย์ไหน ลองหาดูครับ
-
ใช้ได้อยู่นะครับ ถ้าเทียบกับรถราคาใกล้กัน ผมเคยขับอยู่ 4-5 Km นะตัว RS ไม่ต้องเทียบ กับ chr เลยครับ
มันคนละแบบกันเลย chr เก็บเสียงจากล้อแย่นะครับที่ผมซื้อมา ไม่ได้ดีอะไรมากแต่ช่วงล่างวิ่งนิ่งๆ เปลี่ยนเลน
เนิบๆดีจริงครับแต่ถ้า ขับแบบโหดๆมุดๆ เข้าโค้งแรงมากๆผมเอา RS ครับ มั่นใจกว่า
ขับดีทั้งคู่ครับ 2 รุ่นนี้ น่าจะเป็นรถราคา 1-1.2 ล้านที่น่าใช้สุดแล้ว chr ก้ไม่แรงแต่นุ่มดี ช่วงล่างขับดีหยั่งกับ
รถราคา 3 ล้านหลายคันแต่ถ้าขับสุดๆยังไงก้มีอาการเยอะกว่ารถที่เตี้ยกว่า เก็บเสียงจากล้อแย่แต่โดยรวมผม
ชอบครับ ส่วน RS ผมเชียร์ จขกท. เลยนอกจากเบาะหลังที่เป็นขอบพลาสติก(ซึ่งchr ก้เป็น) ที่เหลือทั้งคัน
ผมโอเคหมด เครื่องแรงทำต่อได้ไกล ซื้อมาเปลี่ยนยางเกาะๆใส่ก้ขับมันละครับ
chr กับรถราคา 3 ล้าน เทียบกับรุ่นไหนได้บ้างครับ 8) ผมยังไม่เคยลอง chr เลย
-
United Honda ตรงข้าม Food Villa ราชพฤกษ์มีรถเทสเป็น RS ตัวใหม่อยู่ครับ
-
ขอบคุณทุกท่านครับ ผมกะว่าจะหารถไปรับส่งลูกไปโรงเรียนน่ะครับ คงไม่ขับเร็วนัก เน้นประหยัด ปลอดภัย นั่งสบายด้วยครับ คงต้องไปหาศูนย์ฮอนด้าที่มี rs ให้ลองให้ได้แล้วครับ
ศูนย์ Honda เอกอินทราตรงใกล้ๆ The Crystal เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรามี Civic RS 2019 ให้ทดลองขับครับ แต่ต้องโทรนัดก่อน
ศูนย์ Honda พระราม 9 เคยถามเมื่อต้นเดือน เค้าบอกจะมี RS 2019 ให้ขับ แต่ตอนนั้นรถยังไม่มา ตอนนี้น่าจะมีแล้ว โทรถามชัวร์สุด
ศูนย์ Honda นครินทร์ตรงถนนศรีนครินทร์ใกล้ๆแยกพัฒนาการ มี Civic RS ตัวเก่าให้ขับ แต่ตัวใหม่ไม่มีครับ
เท่าที่ลองตระเวณถามก่อนจองมาก็รู้เท่านี้ครับ
-
เรื่องเสียงเข้ารถนี่ เป็นจุดใหญ่ที่ Honda โดนบ่นมากๆเลยนะครับ อยากให้แก้ไขจริงๆ
-
ขอเห็นต่างหน่อยครับ
ล้านสองนี่ซื้อ teana ตัวล่างสุดได้นะครับ 8)
มันขายไม่ค่อยออกครับ ต่อรองดีๆรวมกับดอกเบี้ยที่ถูกกว่า รวมๆเงินที่จ่ายๆไปอาจจะถูกกว่าcivic 8)
รับรองว่านิ่มเงียบปลอดภัยกว่าสองคันที่เทียบกันแน่ๆ 8)
ถ้าทำให้ จขกท ปวดหัวเพื่มก็ขออภัยครับ
-
ไม่ปวดหัวหรอกครับ คือ teana2.0 ได้ข่าวว่ามันกินน้ำมันมากกว่า civic กับ CHR ชัดเจนครับ แถม CVT ของฮอนด้ากับโตโยต้าดูแล้วน่าจะทนกว่า jatco เลยยังไม่ได้มอง teana ครับ ขอบคุณนะครับ
-
ขอบคุณทุกท่านครับ ผมกะว่าจะหารถไปรับส่งลูกไปโรงเรียนน่ะครับ คงไม่ขับเร็วนัก เน้นประหยัด ปลอดภัย นั่งสบายด้วยครับ คงต้องไปหาศูนย์ฮอนด้าที่มี rs ให้ลองให้ได้แล้วครับ
รับส่งลูก ขับไม่เร็ว เน้นประหยัด จิ้มไปที่chr hv hiเลยครับ ครบทุกความต้องการ
แต่ถ้าขับเร็ว ซิ่งหน่อย ไปcivicจะไม่ผิดหวังเลย
-
ไม่ปวดหัวหรอกครับ คือ teana2.0 ได้ข่าวว่ามันกินน้ำมันมากกว่า civic กับ CHR ชัดเจนครับ แถม CVT ของฮอนด้ากับโตโยต้าดูแล้วน่าจะทนกว่า jatco เลยยังไม่ได้มอง teana ครับ ขอบคุณนะครับ
ขึ้นกับนำไปขับใช้งานแบบไหน ถ้าขับยาวๆเป็นประจำ ตัวใหญ่ D-seg ดีกว่าแน่นอน และยังนิ่งเงียบแบบไม่ต้องสืบ
ส่วนเรื่องกิน ถ้าขับเดินทาง L33-2.5 ผมว่าม้นไม่ได้กินแบบที่เป็นข่าวครับ เอาเป็นว่าผม วิ่งทางไกล 85-90% เหลือ 10-15 % ติดๆแถวอโศก-เพชรบุรี เติมจดทุกครั้ง เอามาหารตั้งแต่ป้ายแดง จาก 75,000 กม. เลขที่ออกคือ 15.15 กม.ลิตรครับ เติม E20 ตลอด เว้นแค่ 5-6 พัน กม.แรกเป็น E10
เรื่องกินน้ำมันใช้จริงกับทดสอบ อาจไม่ตรงกัน ส่วนเลือกไหมขึ้นกับ D-seg มันตอบโจทย์ไหมแค่นั้น
-
ไม่ปวดหัวหรอกครับ คือ teana2.0 ได้ข่าวว่ามันกินน้ำมันมากกว่า civic กับ CHR ชัดเจนครับ แถม CVT ของฮอนด้ากับโตโยต้าดูแล้วน่าจะทนกว่า jatco เลยยังไม่ได้มอง teana ครับ ขอบคุณนะครับ
ขึ้นกับนำไปขับใช้งานแบบไหน ถ้าขับยาวๆเป็นประจำ ตัวใหญ่ D-seg ดีกว่าแน่นอน และยังนิ่งเงียบแบบไม่ต้องสืบ
ส่วนเรื่องกิน ถ้าขับเดินทาง L33-2.5 ผมว่าม้นไม่ได้กินแบบที่เป็นข่าวครับ เอาเป็นว่าผม วิ่งทางไกล 85-90% เหลือ 10-15 % ติดๆแถวอโศก-เพชรบุรี เติมจดทุกครั้ง เอามาหารตั้งแต่ป้ายแดง จาก 75,000 กม. เลขที่ออกคือ 15.15 กม.ลิตรครับ เติม E20 ตลอด เว้นแค่ 5-6 พัน กม.แรกเป็น E10
เรื่องกินน้ำมันใช้จริงกับทดสอบ อาจไม่ตรงกัน ส่วนเลือกไหมขึ้นกับ D-seg มันตอบโจทย์ไหมแค่นั้น
ประหยัดกว่า EX GT 2.0 ชัดเจน ผมวิ่ง พัฒนาการ-เพรชบุรี-อโศก เฉลี่ยถังได้ 7-8 โล/ลิตร ทางไกล 11-13
เห็นแล้วอยากขยับไป L33 2.5 จริงๆ
-
[/quote]
ส่วนเรื่องกิน ถ้าขับเดินทาง L33-2.5 ผมว่าม้นไม่ได้กินแบบที่เป็นข่าวครับ เอาเป็นว่าผม วิ่งทางไกล 85-90% เหลือ 10-15 % ติดๆแถวอโศก-เพชรบุรี เติมจดทุกครั้ง เอามาหารตั้งแต่ป้ายแดง จาก 75,000 กม. เลขที่ออกคือ 15.15 กม.ลิตรครับ เติม E20 ตลอด
[/quote]
D SEG โอ้ววว ประหยัดจริงครับ
CRV E20 ผมได้ไม่เกิน12km./ลิตร
-
ผมพึ่งขาย CX3 แล้วมาซ์้อ 1.5 rs 2019
ตอนไป test ผมว่า CX3 เถื่อนกว่า แต่รถเตี้ยอย่าง Civic ขับแล้วเหมือนเหนือยน้อยกว่า แต่เบาะหน้านั่งไม่สบายอย่างแรง
civic หนุ่บ กว่า CX3 เยอะมาก แต่ หนึบน้อยกว่าหน่อย โดยรวมโอเคมาก เครื่องแรงดีแรงกว่า Sky 2.0G แบบรู้สึกได้ เก็บเสียงพอใช้ได้
-
พวงมาลัยcivic คม เบสสบาย กว่า
-
ถ้า Civic ต้อง 1.5T เท่านั้นครับ ที่เหลือแก้ได้ ไม่ยาก
-
ไม่ปวดหัวหรอกครับ คือ teana2.0 ได้ข่าวว่ามันกินน้ำมันมากกว่า civic กับ CHR ชัดเจนครับ แถม CVT ของฮอนด้ากับโตโยต้าดูแล้วน่าจะทนกว่า jatco เลยยังไม่ได้มอง teana ครับ ขอบคุณนะครับ
ขึ้นกับนำไปขับใช้งานแบบไหน ถ้าขับยาวๆเป็นประจำ ตัวใหญ่ D-seg ดีกว่าแน่นอน และยังนิ่งเงียบแบบไม่ต้องสืบ
ส่วนเรื่องกิน ถ้าขับเดินทาง L33-2.5 ผมว่าม้นไม่ได้กินแบบที่เป็นข่าวครับ เอาเป็นว่าผม วิ่งทางไกล 85-90% เหลือ 10-15 % ติดๆแถวอโศก-เพชรบุรี เติมจดทุกครั้ง เอามาหารตั้งแต่ป้ายแดง จาก 75,000 กม. เลขที่ออกคือ 15.15 กม.ลิตรครับ เติม E20 ตลอด เว้นแค่ 5-6 พัน กม.แรกเป็น E10
เรื่องกินน้ำมันใช้จริงกับทดสอบ อาจไม่ตรงกัน ส่วนเลือกไหมขึ้นกับ D-seg มันตอบโจทย์ไหมแค่นั้น
ขับL33 ต้องจับจุดได้ถึงประหยัดครับ น้องจิมมี่ในคริปก็เคยบอกไว้ครับ 8)
รถมันน้ำหนักตัวมากแต่อากาศพลศาสตร์ดี พอถอนคันเร่งมันจะปล่อยไหลได้ยาวมากๆ เติมให้น้อย เบรกให้น้อย ตจว ขับได้ 16-17 โลลิตรครับ
ถ้าในเมืองก็อย่าดีกว่า ซดจริงๆ >:(
-
ไม่ปวดหัวหรอกครับ คือ teana2.0 ได้ข่าวว่ามันกินน้ำมันมากกว่า civic กับ CHR ชัดเจนครับ แถม CVT ของฮอนด้ากับโตโยต้าดูแล้วน่าจะทนกว่า jatco เลยยังไม่ได้มอง teana ครับ ขอบคุณนะครับ
ขึ้นกับนำไปขับใช้งานแบบไหน ถ้าขับยาวๆเป็นประจำ ตัวใหญ่ D-seg ดีกว่าแน่นอน และยังนิ่งเงียบแบบไม่ต้องสืบ
ส่วนเรื่องกิน ถ้าขับเดินทาง L33-2.5 ผมว่าม้นไม่ได้กินแบบที่เป็นข่าวครับ เอาเป็นว่าผม วิ่งทางไกล 85-90% เหลือ 10-15 % ติดๆแถวอโศก-เพชรบุรี เติมจดทุกครั้ง เอามาหารตั้งแต่ป้ายแดง จาก 75,000 กม. เลขที่ออกคือ 15.15 กม.ลิตรครับ เติม E20 ตลอด เว้นแค่ 5-6 พัน กม.แรกเป็น E10
เรื่องกินน้ำมันใช้จริงกับทดสอบ อาจไม่ตรงกัน ส่วนเลือกไหมขึ้นกับ D-seg มันตอบโจทย์ไหมแค่นั้น
ขับL33 ต้องจับจุดได้ถึงประหยัดครับ น้องจิมมี่ในคริปก็เคยบอกไว้ครับ 8)
รถมันน้ำหนักตัวมากแต่อากาศพลศาสตร์ดี พอถอนคันเร่งมันจะปล่อยไหลได้ยาวมากๆ เติมให้น้อย เบรกให้น้อย ตจว ขับได้ 16-17 โลลิตรครับ
ถ้าในเมืองก็อย่าดีกว่า ซดจริงๆ >:(
CVT เรียนรู้วิธีขับให้ดี แล้วจะทั้งเร็วและประหยัดครับ ขับดีๆไม่เกิน 100 มี 18-19 กม/ลิตร ให้้เห็นเป็นประจำ
เซียนต้าเครื่อง 1500 ขับแบบเดียวกันเกือบทั้งหมด แต่อาจวิ่งในเมืองมากกว่า L33-2.5 ราว 5% สัดส่วน 80(ทางหลวง) : 20 (อโศก-เพชรบุรี) เติมจดหารตั้งแต่ป้ายแดง e20 วิ่งมา 24,000 กม. หารมายังได้ 15.25 กม/ลิตร หนี L33-2.5 แทบไม่ออกครับ
ถ้าขับแต่ทางไกลจริงๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องใหญ่เลยครับ ถ้าขับแต่ในเมืองก็เลือกเครื่องเล็กๆไว้ก่อนดีกว่า