ผู้เขียน หัวข้อ: รถ D-seg C-seg มีค่าดูแลและบำรุงรักษาที่สูงกว่า B-seg มากหรือไม่ครับ  (อ่าน 8075 ครั้ง)

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,706
ผมปัจจุบันใช้ Eco car อยู่ครับ คือ Nissan March ตั้งใจว่าคันต่อไป รถต้องใหญ่ขึ้นเพราะต้องวิ่งบ่อยกว่าเดิม

ทีนี้ผมสงสัยว่า รถพวก D-seg C-seg มีค่าดูแลและบำรุงรักษาที่สูงกว่า B-seg มากหรือไม่ครับ

ขอรบกวนเปรียบเทียบ ดังนี้ครับ

1. กลุ่ม B-seg เช่น Toyota Vios / Honda City Jazz Mobi กับ Eco car เช่น Toyota Yaris / Nissan March Almera / Honda Brio Amaze

2. กลุ่ม C-seg เช่น Toyota Corolla Altis / Honda Civic / Nissan Sylphy

3. กลุ่ม D-seg เช่น Toyota Camry / Honda Accord / Nissan Teana

อยากให้ช่วยแชร์ประสบการณ์ในการ ซ่อมบำรุง ราคาอะไหล่ ค่าแรง และค่าประกัน ภาษี ที่ทุกท่านได้เจอว่า ในแต่ละกลุ่มเนี่ย มันสูงกว่ากลุ่มที่ต่ำกว่าแค่ไหนครับ :)

พอดีผมฟังมาจากพี่ที่ทำอู่รถนะครับ เขาบอกว่า Camry อะไหล่แพงขึ้นไปกว่า Altis มาก ส่วน Altis กับ Vios ต่างกันไม่มาก แต่ altis ขับดีกว่ามากๆ แต่ภาพลักษณ์ผมมองว่า Altis ยังไงก็สู้ Camry ไม่ได้ครับ แต่กลัวซ่อมแพง :'(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 12, 2016, 16:59:53 โดย c5 hdi »

ออฟไลน์ mark2015

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 340
เซอร์วิส คู่ คี่ ก็หลักพัน ช่วงไม่เกิน 100,000 โล

ไม่น่าต่างกันเยอะมาก ค่าประกันก็ตามราคาเบี้ยครับ ค่าแรงพอๆกัน ส่วนอื่นตามราคารถครับ
" เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาจนตาย "

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด
ผมเทียบที่ใช้อยู่เอง Honda Jazz GE

กับ รถประจำบ้าน Toyota Prius 1.8 ค่าบำรุงรักษาอยู่ตรงกลางระหว่าง C-seg แต่ไม่ถึงกับ D


                               Jazz / Prius
ภาษีต่อปี                  1645 / 2090
ประกันภัยประเภท 1   21xxx / 27xxx (ณ วันออกรถ ไม่ระบุคนขับ)
ยาง 4 เส้น            9K-12K / 15K-17K  (ล้อ 15 กับ ล้อ 16 ยางกลุ่มกึ่งๆ Performance ไม่ใช่ยาง Eco มี Rimguard)
น้ำมันเครื่อง Semi        8xx / 10xx   (Jazz 3.8ลิตร / Prius 4.2 ลิตร เปลี่ยนทุก 6 เดือน ทั้งคู่)
ไส้กรอง                     250 / 250    (เปลี่ยนพร้อมน้ำมันเครื่อง)
กรองอากาศ                255 / ไม่ทราบ (พรีอุสวิ่งสลับไฟฟ้าบ่อย กรองไม่ค่อยดำ)
น้ำมันเกียร์                  300 / 12xx   (Jazz น้ำมัน เกียร์ธรรมดา 2 กระป๋อง ทุก 6หมื่นหรือ 36 เดือน)  (พรีอุส น้ำมันเกียร์ออโต้ ทุก 4หมื่น หรือ 24 เดือน)


ก็หลายอย่างจ่ายมากกว่า ค่าของเหลว ค่าบำรุงทั่วไป
อันนี้ไม่นับบรรดาพวกที่ไม่รู้จะมาเจ๊งตอนไหนอย่าง โช้ค คอมแอร์ แบตเตอรี่

ส่วนค่าแรงนี่พูดยาก พรีอุสผมโดนผูกมัดจากเซอร์วิสว่าถ้าเข้าศูนย์ของเขาไปเรื่อยๆ ก็ยังฟรีค่าแรง
แต่แจ็สนี่เข้าสามหมื่น ค่าแรงแพงเว่อร์ หนีศูนย์มาหลังหมดประกัน โซโล่เอง


ถ้ารถที่ซื้อจุดประสงค์คือ วิ่งเยอะ ใช้ยาว
ลองลดพวกอุปกรณ์ฟรุ้งฟริ้งกับระบบไฟฟ้าจุกจิกได้เป็นดี
เน้นไปที่การใช้งานกับระบบความปลอดภัยเป็นหลัก
จะได้รักษาง่าย ยามออกมาโซโล่เอง

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,309
เทียบ Camry 2.0G กับ Swift ECO ที่ใช้อยู่

ค่า Maintain ที่ศูนย์ไม่หนีห่างกันมาก

ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ ค่าประกันภัย / ค่าน้ำมัน

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,472
    • อีเมล์
อะไหล่พื้นฐานเช่นกรองอากาศ น้ำมันเครื่องอาจไม่มาก
แต่ถ้าช่วงล่างจะต่างเยอะครับ ทั้งปริมาณที่ต้องทำ และราคาต่อชิ้น

ออฟไลน์ testmaster

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 450
    • อีเมล์
จะบอกอย่างงี้ค่ารถ japan service จะยีห้ออะไรก็ไม่ค่อยหรอกต่างครับมันขึ้นว่าเราดูแลดีแค่ไหนเช่น ไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เลย น้ำมันเครื่องก็ลากยาว 15k 20k กัน กรองไม่เปลี่ยนเลยเป่าอย่างเดียว ใช้แบบนี่ก็ถูกครับ รถพังไม่รู้นะครับ แต่ถ้ารักรถหน่อยเปลี่ยนปล่อยๆ มันก็จะแพงครับแต่รถอยู่กับเรานานหน่อย  เอาจริงๆหลักๆมันจะไปเจ็บค่าอะไหล่เวลาเสียมากกว่ามากกว่าครับอย่าง mazda2 นี่เห็นคันแค่นี่อะไหลบางชิ้นน้องๆรถยุโรปเลย (แพงกว่า ford อันก็ไม่เข้าใจแต่พอใช้ของ ford ได้)


ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,706
อะไหล่พื้นฐานเช่นกรองอากาศ น้ำมันเครื่องอาจไม่มาก
แต่ถ้าช่วงล่างจะต่างเยอะครับ ทั้งปริมาณที่ต้องทำ และราคาต่อชิ้น

ครับ

ผมเห็นพวก D-seg กับ Civic ช่วงล่างเป็นอิสระหมดเลย เคยใช้สามห่วง จำได้ว่าอะไหล่ช่วงล่างแพงมาก :'(

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Dseg PPV4*4 Ecocar
ถ้าเช็คระยะทั่วๆไปไม่ต่างกันเลยครับ เข้าศูนย์ตลอด ต่างค่ายกันหมด
เต็มที่หลักร้อย สุดๆเลยก็แค่เกือบพัน(หลักๆเลยคือ น้ำมันเครื่องใช้ไม่เท่ากัน)
ถ้าอะไหล่บางตัว หรือชิ้นใหญ่ๆที่ไม่ได้เสียกันบ่อยๆ ต่างชัดเจนครับ

ออฟไลน์ secrecyguy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,744
  • 3.2plus
รถใหม่ 6ปีเเรก เข้าศูนย์ปกติ ค่าดูเเลไม่ต่างกันมากมาย ไม่ใช่สาระที่ต้องคิด ถ้าไม่ไปชน ไปทำอะไรให้รถมีปัญหา

เเต่ค่าผ่อนต่อเดือนนี้ละ ต่างกันมาก

ตอนนั้น ผ่อนJazz 6,500 ผ่อนเทียน่า 18818

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
แตกแยกย่อยแล้วอาจดูต่างกันไม่มาก ลองทำค่าใช้จ่ายช่วง 3ปี/100,000 โลแรกสิครับ จะเห็นว่าต่างกันเท่าไหร่ ผมว่ามันมากกว่า 2เท่านะ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ mozart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,341
ต่างกันอย่างชัดเจนนะครับคือราคาขายต่อ  d-seg ราคาร่วงมากว่าอีโค่แน่นอนครับ  แต่ก็แลกมากับอะไรหลายๆอย่างที่อีโค่ให้ไม่ได้ครับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,706
ต่างกันอย่างชัดเจนนะครับคือราคาขายต่อ  d-seg ราคาร่วงมากว่าอีโค่แน่นอนครับ  แต่ก็แลกมากับอะไรหลายๆอย่างที่อีโค่ให้ไม่ได้ครับ

คับ ที่ผมชอบ D-seg คือ ภาพลักษณ์ดีกว่า Eco ไปจนถึง C-seg นั่งสบายกว่า คันใหญ่กว่า

ช่วงล่าง น่าจะนุ่มกว่า ตัวถังโครงน้อยกว่า (แต่ผมไปลอง camry ใหม่ ผมว่าสะเทือนไปนิด หรือผมคิดไปเอง)

แต่ถ้าตอนนี้ คงได้เป็นมือสองมากกว่า

ออฟไลน์ extazy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 40
accord g9 เข้า 0 แต่ละรอบทุก 6 เดือน ครั้งละพันต้นๆ ถูกมาก แต่ผมหิ้วน้ำมันเครื่องไปเอง เปลี่ยนปีละครั้ง ค่านัำมันสังเคราะห์แท้ mobil1 5w-30 ตก 2300 บาท สรุปปีนึงเสียค่าใช้จ่าย 5000 บาท

ประกันชั้น 1 ปีละ 2 หมื่น

ออฟไลน์ Tomz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
ไม่มากอย่างที่คิดครับ ต่างกันนิดเดียววววว

จะมากก็ตรงประกัน/ภาษี ต่อปี นี่แหละครับ ที่ต่างมาก 555

โดยเฉพาะประกันชั้น1
2001 Mitsubishi Evolution 5 
2004 Isuzu Dmax 2.5 di 
2012 Honda Jazz ( JP ) Ge   
2015 Mercedes Benz Cla250 AMG 
2016 Mazda Cx-3

promt

  • บุคคลทั่วไป
ค่าบำรุงตามระยะหลักหมื่นโล ต่างกันไม่มากแค่หลักพัน

แต่หากเข้าระยะ 75,000 โล
ต่างกันเย้อะมาก หลักหมื่นถึงหลายหมื่น ได้แก่ยาง, แบต, สายพาน ฯลฯ

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,851
  • Let the SKYFALL
ที่บ้านมี b-c-d segment เช็คระยะทั่วไปไม่ต่างกันมากครับ
อย่างกรองอากาศราคาก็จะต่างกันนิดหน่อย หลักสิบบาท
แต่อย่างช้างบนว่า พอเป็นสายพาน โช้ค ยาง ก็จะต่างกันมากหน่อย
ไม่ได้มากระดับรถยุโรป
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งจะเจอ Balance shaft Camryเสียไป

เข้าศูนย์ประเมินค่าซ่อมมาหมื่นกว่า


หาอะไหล่ทำเองหมดไปเกือบ 7พันบาท

มาร์ชปีหลังกว่่วิ่งไมล์พอๆกันยังไม่มีอะไรซ่อมเท่านี้เลยครับ

ออพชั่นเยอะ เทคโนโลยีเยอะ ตอนซ่อมก็จะมีเเยอะ

เว้นAltisไว้ซักรุ่นเพราะอะไหล่เทียบมากมาย จีนทำ ไทยทำ ฝรั่งทำ พม่าทำ สำหรับแท๊กซี่ถูกๆ พัดลมหม้อน้ำมอเตอร์ใหม่ๆ ลูกละ 650 ได้มอเตอร์แรงๆ แต่ลองเจอพัดลมตัวละ 4000ของแอคคอร์ด ที่แรงแทบไม่มีนี่จะเข้าใจครับ


ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,447
เทียบ Camry 2.0G กับ Swift ECO ที่ใช้อยู่

ค่า Maintain ที่ศูนย์ไม่หนีห่างกันมาก

ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ ค่าประกันภัย / ค่าน้ำมัน
+1
ค่างวดอีกอย่างนะครับ  :-X :-X :-X :-X

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,706
เพิ่งจะเจอ Balance shaft Camryเสียไป

เข้าศูนย์ประเมินค่าซ่อมมาหมื่นกว่า


หาอะไหล่ทำเองหมดไปเกือบ 7พันบาท

มาร์ชปีหลังกว่่วิ่งไมล์พอๆกันยังไม่มีอะไรซ่อมเท่านี้เลยครับ

ออพชั่นเยอะ เทคโนโลยีเยอะ ตอนซ่อมก็จะมีเเยอะ

เว้นAltisไว้ซักรุ่นเพราะอะไหล่เทียบมากมาย จีนทำ ไทยทำ ฝรั่งทำ พม่าทำ สำหรับแท๊กซี่ถูกๆ พัดลมหม้อน้ำมอเตอร์ใหม่ๆ ลูกละ 650 ได้มอเตอร์แรงๆ แต่ลองเจอพัดลมตัวละ 4000ของแอคคอร์ด ที่แรงแทบไม่มีนี่จะเข้าใจครับ

ครับ

สงสัยว่า ซื้อ Altis แบบเดิมน่าจะเหมาะสมกับตัวผมมากกว่า

ผมชอบครับ เคยใช้ Corolla อยู่รถอะไรไม่รู้อะไหล่หาง่ายมาก ไม่แพงด้วยละ

ท่าทาง Camry จะเหนื่อยแน่ๆ เลย ขนาดคุณเทียบกับ March ซึ่งอะไหล่ไม่ทนยังหนักกว่าอีก

ออฟไลน์ tsubasa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,322
ค่าบำรุงรักษาทั่ว เช็คตามระยะไม่เท่าไร
แต่ที่มันแพงเพราะศูนย์บริการชอบยัด ชอบขายพวกน้ำยาต่างๆเพิ่ม เช่น toyoto เดี๋ยวนี้จะมีน้ำยาล้างหัวฉีด น้ำยา flusing oil  น้ำยาทำความสะอาดเบรค ครับ สมัยก่อนพวกนี้ไม่มี ไม่เห็นต้องใช้ แต่เข้าศูนย์เดี๋ยวนี้ พยายามยัดเหลือเกิน


ออฟไลน์ Silverliner

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 84
    • อีเมล์
ใช้ ECO car ก็อย่าได้น้อยใจไปเลยครับ

ไปไหนๆก็ถึงเหมือนกัน

แค่สลับตำแหน่งตัวอักษร

ก็เป็น CEO car แล้วคร้าบ

 ;D ;D ;D ;D ;D


ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,724
  • Blue. Just BLUE.
เทียบกันระหว่าง Jazz 2009 และ Camry 2.0 2008 ค่าบำรุงรักษาไม่ค่อยต่างกันเท่าไร แต่ค่าอะไหล่ต่างกันเยอะครับ
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ bompuriku

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
    • อีเมล์
ที่บ้านเคยมี Civic อยู่คันครับ เข้าศูนย์ราคาพอๆ กันครับ  ต่างเรื่องค่าประกันอ่าครับ
2006 Honda Accord G7 2.4 EL
2014 Honda Accord G9 2.4 EL
2016 Toyota Fortuner 2.8 TRD Sportivo 4WD AT
2019 Mercedes-Benz E350e Exclusive

ออฟไลน์ yourturle

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,080
    • อีเมล์
มากกว่า แต่ไม่ได้โอเวอร์
ช่วง50,000km  แพงกว่า แค่พัน

แพงที่ยาง เพราะเส้นใหญ่กว่า
ค่าแรงหลังพ้นระยะ โตต้า คิดตามรุ่นรถ จึงแพงกว่า b seg
One Day.