Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: QSCAP ที่ มกราคม 20, 2013, 00:19:09
-
ทั้งหมดที่ผมเขียนนี้ ขอเป็นความคิดเห็นโดยส่วนตัวของผมคนเดียวละกันนะครับ ถ้าออกความคิดเห็นกันขอเป็นการเสนอแนวคิดดีกว่านะครับ อย่าถกเถียงหรือดราม่า เลยนะครับ ;)
เมื่อวันก่อนผมได้อบรมสอบใบขับขี่มาครับ ซึ่งใชเวลาอบรม 4 ชม. แต่เมื่อไปอบรมมาแล้วบอกได้เลยครับสำหรับผม ไม่มีความจำเป็นเลยครับที่ต้องอบรม 4 ชม. วิทยากรส่วนมากไม่เน้นเรื่องลึกๆครับ พูดแต่พื้นฐานและวิทยากรก็ใช้คำพูดและรูปภาพอาจจะไม่เหมาะสมด้วยนะครับ (ยังไงก็ฝากตรงนี้ไว้ด้วยครับ) ผมว่าถ้าอยากให้ผู้ขับรถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฏจราจรเปลี่ยนการบริหารใหม่เถอะครับ เพราะว่าผมไปอบรมมา 4 ชม. คร่าวๆเนื้อหาที่ผมจับใจความได้จะมีประมาณนี้ครับ
1.นำ Video รถที่เกิดอุบัติเหตุมาให้ผู้เข้าอบรมฟัง
2.แนะนำเรื่องจุดบอดของรถ
3.แนะนำเรื่องสัญญาณป้ายต่างๆ
4.เตือนเรื่องการใช้แตร
5.ความรู้เรื่องสัญญาณป้ายเตือน
6.ความรู้เรื่องกฏหมายพื้นฐานอีกนิดหน่อย
7.ความรู้อื่นๆ ที่ผมอาจจำไม่ได้อีกนิดหน่อยครับ
โดยทั้งหมดใช้เวลามากกว่า 4 ชม. นิดหน่อยครับ ถ้าหากเนื้อหามีเพียงแค่นี้ผมว่าสรุปรวบรวมทั้งหมดใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที - 1 ชม. เท่านั้นครับ แต่วิทยากรก็พูดไปพูดมาชวนเรื่องคลายเครียด ผมก็ว่าดีส่วนนึงครับ แต่สำหรับผมและผมคิดว่ายังมีหลายคนที่คิดแบบผมเพราะใช้เวลาอบรมนานมากบางคน เค้าอาจทำธุรกิจมีรายได้วันละหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน ซึ่งมาอบรม 4 ชม.ผมว่าเสียเวลาเปล่าครับ
ในส่วนของวิทยากร บอกได้เลยครับว่าการบรรยายถือว่าดีครับ ไม่ตึงเครียดแต่บางครั้งวิทยากรท่านก็ใช้คำพูดและรูปภาพไม่เหมาะสมนะครับ
ผมมองว่าสำหรับการอบรม 4 ชม. และจะทำให้ผู้ขับขี่ขับดีขึ้นเข้าใจมากขึ้นในความคิดผมบอกได้เลยว่ายากครับเมื่ออบรมเสร็จ หรือ เค้าไม่ตั้งใจฟัง พอไปขับจริงบนท้องถนนก็เป็นอย่างเดิมครับ ผมว่าไปเข้มงวดกับกฏหมายเอาจริงจังแบบนั้นผมว่าดีกว่านะครับ อย่างเช่นขับฝ่าไฟแดง ก็ปรับ แต่เมื่อถูกจับแล้วพอทำซ้ำอีกก็ให้คูณเท่าตัวไปเลยครับ และ อาจจะริบใบอนุญาตชั่วคราว หรือ อย่างเช่น ตรงไหนที่เป็นจุดที่ชอบแซงกันผมว่าแก้ปัญหา ให้ตำรวจ ไปยืนจุดนั้นดีกว่ามาอบรมผู้ขับขี่อีกนะครับ เพราะจะมีโอกาสแก้ปัญหาได้สูงกว่า
สิ่งที่ผมอยากให้ทางกรมขนส่งแก้ก็มีดังนี้ครับ (ถ้ามีคนในขนส่งมาอ่าน หรือ ท่านใดพอรู้จัก ผมก็อยากฝากเรื่องนี้ไปให้พิจารณาดูครับ)
1.ปรับเปลี่ยนเวลาอบรม 4 ชม. ให้เหลือน้อยกว่านี้เถอะครับ ผมว่าใช้เวลาซักไม่เกิน 1 ชม. กำลังดีครับ แต่สำหรับเวลาการอบรม 4 ชม.นี้ผมเห็นว่าน่าจะนำไปกับผู้ขับขี่รถสาธารณะ , ผู้ขับขี่ที่ความรถแล้วประมาท , ผู้ขับขี่ที่เมาสุรา เป็นต้น
2.เพิ่มจำนวนข้อเขียน อันนี้ผมเห็นด้วยว่าควรเพิ่มให้เป็นซัก 100-200 ข้อ เพราะว่าข้อสอบที่ผมสอบ 30 ข้อบอกได้เดียวครับว่าง่ายมากและบางข้ออาจไม่จำเป็น และก็มีไม่ครอบคลุมทั้งหมดด้วยครับ ผมอยากเสนอให้มีข้อสอบ 2 ชุด โดยชุดแรกก็จะเป็นข้อสอบป้ายสัญญาณเตือนต่างๆ ที่ผู้เข้าทำข้อสอบจะต้องทำถูกต้องทั้งหมด ข้อสอบชุดที่ 2 ก็อาจจะทำเป็นข้อสอบกฏหมายจราจร การขับขี่ที่ถูกต้อง ตรงส่วนนี้ก็อาจจะให้ถึง 90% ขึ้นไปถึงจะผ่าน
3.ทำหนังสือแจกหรือขาย ผมมองว่าการที่จะให้ผู้เข้าอบรมไปสอบ 4 ชม. ทำหนังสือขายหรือแจกดีกว่าครับ และให้ผู้ที่ทำใบขับขี่อ่านหนังสือให้หมดเพื่อที่จะได้ทำข้อสอบได้และรู้กฏจราจรเพื่อให้สอดคล้องกับข้อ 2 ถ้าหากใครไม่ได้อ่านก็จะไม่สามารถสอบผ่านได้
4.ปรับเปลี่ยนกฏจราจร อย่างเช่นถ้าหากอยากให้ผู้ขับขี่ขับอย่างปลอดภัยผมว่าควรเด็ดขาดกับกฏหมายมากกว่ามา อบรม 4 ชม. แบบนี้นะครับ แต่ในส่วนของความเร็วอย่างกับ 80 หรือ 100 ผมว่าผ่อนผันเถอะครับ อย่างน้อยผมคนนึงก็ใช้ความเร็วเกินเพราะคงไม่มีใครใช้ความเร็วไม่เกินนั้นได้หรอกครับ อย่างกับบางทีตำรวจจราจรจุดต่างๆยังสั่งให้คำเร็วเลยครับ / เปลี่ยนกฏสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ห้ามขึ้นสะพาน ผมว่าน่าจะผ่อนผันให้สำหรับผู้ขับ Bigbike นะครับเพราะว่ารถบิ๊กไบค์สามารถทำความเร็วสูงได้ก็น่าจะให้เค้าขึ้นได้ครับ แต่มอเตอร์ไซค์เล็กผมเห็นด้วยครับ
5.เรื่องการบริการของเจ้าหน้าที่ ผมบอกได้เลยครับว่าใครๆก็รู้กันอยู่สถานที่ข้าราชการ ยังไงประชาชนก็เข้าไปติดต่ออยู่แล้วครับไม่เหมือนบริษัทเอกชนที่เค้ายังสามารถเลือกใช้บริการได้ แต่ผมก็อยากให้เห็นความสำคัญแก่บริการหน่อยนะครับ ให้บริการให้ดีสุภาพเรียบร้อยกว่านี้ เพราะเจ้าหน้าที่ข้าราชการทำไมส่วนมากเป็นการทุกคนเลยครับ บริการด้วยน้ำเสียงที่ไม่สุภาพ อย่างวันที่ผมไปทำใบขับขี่มาก็เห็นได้ชัดครับ มีคุณลุงท่านนึงแกมาสอบในของทดสอบปฏิกิริยา ถ้าหากคุณลุงแกทำไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ก็ควรอธิบายให้คุณลุงท่านเข้าใจ กลับมาไปต่อว่าคุณลุง
ในส่วนของการทำใบขับขี่
เอกสารที่ต้องเตรียมไป พกไปแค่สำเนาบัตรประชาชน กับ ใบรับรองแพทย์พอนะครับ (สำเนาทะเบียนบ้านเลิกใช้แล้วนะครับ)
ขั้นตอนการทำใบขับขี่
1.ให้ไปถึงก่อนที่นั่นซัก 8 โมงครับ จะมีเจ้าหน้าที่ออกพูดให้คำแนะนำว่าขั้นตอนเป็นอย่างไรขึ้นไปติดต่อชั้นไหน
2.เมื่อทราบแล้วต้องไปติดต่อชั้นไหนก็ขึ้นไปชั้นนั้นเพื่อรับบัตรคิวครับ เสร็จแล้วก็เป็นเข้าห้องอบรมซักครู่นึงครับ ซึ่งตรงส่วนนี้อยากให้ตั้งใจฟังกันครับ เพราะเค้าจะบอกขั้นตอนการทดสอบปฏิกิริยาครับ (เพราะถ้าไม่ฟังเจ้าหน้าที่เตรียมต่อว่าเราอยู่แล้วครับ)
3.ทดสอบปฏิกิริยา เมื่ออบรมเสร็จแล้วเค้าจะให้เราไปทดสอบปฏิกิริยาครับ ซึ่งทดสอบจะมีด้วยกัน 4 ทดสอบด้วยกันครับ
3.1 ทดสอบตาบอดสี เจ้าหน้าที่ก็จะชี้สีและให้เราตอบสีที่เค้าชี้ครับ
3.2 ทดสอบเหยียบคันเร่ง (ผมก็เรียกไม่ถูกครับ) เค้าจะมีแป้นเหยียบคันเร่ง กับ เบรคครับให้เค้าเหยียบเมื่อเหยียบแล้วพอขึ้นไฟแดงเราก็ต้องเหยียบเบรคครับ
3.3 ทดสอบสายตาทางลึก (ไม่แน่ใจว่าถูกหรือเปล่านะครับ) จะมีแท่นด้วยกัน 2 แท่นครับ แล้วเจ้าหน้าที่จะเลื่อนแท่นออกไปไม่ให้ตรงกันครับซ้ายขวา เราต้องกดเลื่อนเข้ามาเพื่อให้แท่นขนานกันครับ
3.4 ทดสอบสายตากว้าง เจ้าหน้าที่จะให้เราเอาจมูกวางไว้แล้วตามองตรง ด้านขวาจะมีสีครับ เจ้าหน้าที่จะกดสีให้เราตอบว่าสีที่กดสีอะไรครับ
เมื่อสอบทดสอบเสร็จแล้วจะให้ไปลงชื่อครับ ให้ดูบัตรคิวเราครับว่าสีอะไร เลขอะไรให้ลงในช่องนั้นครับ และติ๊กถูกด้วยนะครับว่าจะสอบขับขี่รถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์
4.9.30 เข้าห้องอบรมครับ อบรมจะมีด้วยกัน 2 ช่วงครับ คือเช้า และ บ่าย อบรมช่วงละ 2 ชม. ครับถ้าผมจำไม่ผิดรอบแรกอบรมถึงเกือบ 12.00 ครับและเข้าห้องอบรมอีกทีเวลาประมาณ 12.45 ครับแล้วจะเลิกประมาณ 15.00 น. ครับ
5.ทดสอบข้อเขียนครับ ในตอนอบรมเค้าจะบอกว่าขั้นตอนการทดสอบเป็นอย่างไร คร่าวก็คือการสอบด้วยอิเล็กทรอนิกส์ครับ ใช้บัตรเสียบลงไป (แต่ของผมจะมีเจ้าหน้าที่มาเสียบบัตรให้ทำทุกอย่างให้จนถึงเรากดข้อสอบได้เลยครับ) เมื่อเรากดเสร็จเรียบร้อย ก็กดปุ่มส่งครับแล้วเจ้าหน้าที่จะเรียกชื่อเรา หรือ เดินมาบอกเราให้เอาบัตรออกได้ครับ ถ้าเค้ายังไม่เรียกอย่าเพิ่งเอาบัตรออกนะครับ (ข้อสอบ 30 ข้อ 23 ข้อถึงจะผ่านครับ)
6.ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อคืนบัตรสมาร์ทการ์ดกับบัตรคิวให้พนักงานเรียบร้อยแล้ว ออกมารอหน้าห้องครับ เพื่อรอรับใบนัดมาทำการทดสอบในเวลาทำการวันต่อไปครับ
ข้อแนะนำสำหรับผม
-ผู้หญิงแต่งกายสุภาพนะครับ เพราะว่าไปที่ขนส่งผู้คนมีหลายรูปแบบครับ ทั้งดี ทั้งไม่ดี ยังไงก็แต่งกายสุภาพนะครับเพราะแต่งกายไม่สุภาพไม่สามารถเข้าห้องสอบได้นะครับ (แต่เห็นเค้าบอกว่ามีชุดให้เปลี่ยนครับ)
-ใส่รองเท้าให้สบายถนัดๆครับ เพราะว่าเดี๋ยวจะมีขั้นตอนการทดสอบเหยียบใส่รองเท้าที่ถนัดดีกว่าครับ อย่างถ้าผู้หญิงไม่ควรใส่ส้นสูงมานะครับ เพราะอาจลำบากได้ครับ
-มารยาทในการอบรม ถ้าหากเมื่อไปสายและจะเข้าอบรม หรือ ออกจากห้องอบรมเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ผมอยากให้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ซักหน่อยครับเพื่อให้เกียรติซึ่งกันและกันครับ
-ทำการบ้านก่อนไปอบรม ก่อนไปผมอยากให้อ่านพวกความรู้ต่างๆจากเว็บซักหน่อยพอไปเราจะสบายๆครับพวกกฏจราจร ป้ายเตือนครับ
ทั้งหมดที่ผมไปสอบใช้เวลาไปถึงนั่นประมาณเกือบ 07.00 ครับ เลิกประมาณ 16.00 น. ครับถ้าใครไปสอบผมให้ทุกคนผ่านการสอบไปด้วยดีครับ และไม่ต้องตื่นเต้นครับไม่ยากเลยครับขอให้ผ่านครับ
-
อบรมไม่เคยฟัง แต่ผมก็ตามกฏ และเข้าใจได้ครับ ;D
เปลี่ยนเป็น วัด IQ (ใครไม่ถึงขับไม่ได้ )สอบสกิลการขับรถ เน้นสอบกฏที่ใช้บ่อยๆ ห้ามผิดเลย
แบบนี้ผมว่า คนขับรถจะเหลือ ประมาณ 30เปอเซน และประเทศไทยจะไม่มีปัญหาการจราจร
เราจะขับรถไปยิ้มไป เพราะไม่มีคนเบลอๆอยู้ท้องถนนให้ต้องรำคาญ
-
ใช่ ผมว่ามันโครตไร้สาระ (ผมโดน 2 ชม แบบเก่า) คนเข้าไปนั่งฟังเพลงผ่านหูฟัง เล่นเฟส ไม่ได้สนเลย
-
เรื่องทดสอบตาบอดสีเขามีนโยบายให้ใช้สัญญาณไฟจราจรจริงในการทดสอบแล้วนะครับ(แต่สีจะขึ้นสลับช่องกัน ไม่ได้เหมือนไปจราจรปกติ) แต่ทำไมขนส่งบางที่ถึงยังไม่เปลี่ยนใช้ระบบชี้แล้วให้อ่านสีเหมือนเดิมครับ เลยงงว่าระบบชุดตรวจสอบหรืออุปกรณ์เขาไม่ได้อัพเดตทั่วประเทศหรือครับ?
ทำไมบางคนใส่กางเกงขาสั้น เข้าไปทำใบขับขี่ได้ทั้งๆที่มาติดต่อราชการ
เรื่องอบรมผมไม่มีปัญหานะครับตอนผมไปทำก็นั่งฟังไปเรื่อยๆได้ความรู้ดีหรือสงสัยวิทยากรที่มาอบรมผมเขาพูดไม่น่าเบื่อก็ไม่รู้นะครับ แหะๆ แต่ผมอยากให้ปรับปรุงเรื่องใช้เวลาทั้งหมด 2 วัน ถ้าจะใช้เวลาถึง2วัน ผมว่าน่าจะปรับปรุงให้เปิดทำการ 7 วันเลยก็ดีนะครับแล้วสลับวันหยุดกันเอาเหมือนบางบริษัท เพื่อประชาชนจะได้สะดวกในการติดต่อ เพราะบางท่านไปสอบ 2 วันยังไม่ผ่าน แต่ลางานมาเรียบร้อยก็ต้องมาใหม่อีกวันหลัง เสียดายเวลาครับดีนะผมผ่านหมดไม่มีปัญหาไม่งั้นละก็...
ปล.ผมว่าผู้ที่มีใบขับขี่ไม่ได้ยืนยันว่าคนนั้นจะขับรถได้ดีมีมารยาทกว่าผู้ที่ไม่มีใบขับขี่บางคนเลยด้วยซ้ำ :D
-
ไม่ต้องอบรม สอบอย่างเดียว ข้อเขียน และขับจริง
ไครไม่ผ่าน ไม่ต้องให้แม่งเลย 555555
กระทรวง onet anet
แต่มันก็จริง เพราะว่าที่ผมขับรถแข็งอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะประสบการล้วนๆ ทำใบขับขี่ไม่จำเป็นต้องรู้จราจรเลยง่ายเกิน
ขออย่างเดียว ให้มันได้สอบไวๆๆ ไม่ต้องต่อคิว แค่เนี่ยยยแหละ
ใครตก จ่ายตังสอบไหม่
และทุกข้อสอบต้องอยู่ในหนังสือมาตรฐาน ไม่เกิน 100หน้า เพราะ เดี่ยวแม่งคอรับชันออกข้อสอบยากเกิ้นอีก
-
เคยแต่สอบแบบเก่าครับ แค่นั้นก็เบื่อแย่แล้ว
ทีตอนทดสอบตาบอดสีดันให้เวลาผมพูดไม่ถึงวิเลย กำลังจะอ้าปากพี่ท่านบอกว่า"ตอบเร็วๆหน่อย" O_o
-
ผมจะเปลี่ยนเลน ในขณะที่ถนนว่างๆ ไม่มีคันไหนตามมา เปิดไฟเลี้ยวก่อนแป๊บนึง แล้วก็เปลี่ยนเลน มันอยู่ที่สามัญสำนึกด้วยนะครับ
-
ผมว่า ถ้า 1-2 ชม มันก็พอสมเหตุสมผลนะ
แต่ 4 ชม เนี่ย มันจะกลายเป็นน้ำ มากกว่าเนื้อน่ะสิครับ
-
คิดแบบนี้ ก็คงไม่ต้องมีการ เรียนหนังสือเลยก็ดีละมังครับ
เวลาครูสอน มันก็เป็นปกติที่จะมีคนฟัง และไม่ฟัง หรือฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอะไรติดตัวมาบ้าง จากที่ได้ยิน จากที่คนอื่นพูดกันมา
ตอนสอบ มีลอกกันบ้าง ก็ยังคลับคล้ายคลับคลา ว่าเคยเห็นผ่านตา
แล้วจะบอกว่าไม่ต้องสอนเลยได้ยังไง ไม่ต้องรู้เลยสักนิดได้ยังไง
รู้บ้างยังดีกว่าไม่รู้ ลองคิดไม๊ ว่าสอนแล้วยังได้เท่านี้ ถ้าไม่สอนจะขนาดไหน
อย่าไปเอาแต่โทษว่าสอนไม่ดี ต้องบอกว่าคนเรียนนั่นแหละ มันไม่ได้คุณภาพ มันไม่ค่อยสนใจฟัง
แล้วพอเค้าจับมากๆ ใครบ่นครับ พอเคร่งกฎจัดๆ แล้วใครเดือดร้อนครับ
คิดอยู่มุมเดียว มันไม่ให้ประโยชน์กับใครหรอกครับ ถ้าคิดว่าคุณรู้ เอาสิ่งที่เรียนได้มามากกว่าคนอื่น
"ไปสอนสิ่งที่ถูกให้เค้าเถอะครับ" ได้ประโยชน์ กับสังคมมากกว่า
จะไปบังคับ ให้ทุกคนทำอย่างที่คุณพอใจไม่ได้หรอก "เอาเวลามาเพิ่ม คนที่คุณพอใจดีกว่าครับ"
ช่วยๆกัน สังคมน่าอยู่ครับ ทำสิ่งที่ควรทำได้ "อย่ามัวบ่น ว่าหน้าหนาว อากาศหนาว ไปหาเสื้อกันหนาวใส่ และแบ่งเสื้อกันหนาวให้คนที่ไม่มีใส่ ดีกว่าครับ" ;D ;D ;D
-
นี่แหละทำไมผมถึงไม่ต่อใบขับขี่ >:(
-
ผมว่าอบรมโอเคแล้ว ถึงแม้ผมจะรู้เกือบทุกเรื่องแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ไม่รู้อยู่
แต่ข้อสอบน่ะ ผมอยากให้เพิ่ม และผิดได้น้อยกว่านี้ เพราะมันง่ายมากๆ ผมเห็นบางคนมาบอกว่าสอบข้อเขียนตก ผมว่าอย่าขับรถเลยถ้าแค่นี้ยังผิด
-
ทนๆไปเถอะ บนถนนจริงมีอะไรให้เราต้องอดทนมากกว่านี้อีกเยอะ :D
-
4 ชม. ผมมองว่าเยอะไปนะครับ ตอนไปทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดนอบรม 2 ชม. ก๊ง่วงอยู่ แต่พอสอบ ก็ผ่าน
ผมว่า 2 ชม. หรือ 1 ชม. จะดีมากเลยครับ
-
ประเด็นคืออบรมมันคือนั่งดู VDO โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำอะไรเลย ไม่ใช่ไม่อยากอบรมนานๆไม่ใช่เหมือนเวลาเรียนหนังสือ อบรมของขนส่งเหมือนให้คนเข้าไปดูทีวี แล้วมันจะได้อะไร ปัญญาอ่อนแท้ ให้ไปทำข้อสอบ 100 ข้อ ผิดได้ไม่เกิน 5 ข้อดีกว่าอีก แบบนี้คนจะสนใจอ่านมาเต็มที่ไม่ใช่ 20 ข้อผิดได้ 7 บ้าปะ แบบนี้มันง่ายเกิน ตอนสอบผมไม่สนหรอก VDO บ้าบอนั่นแต่ข้อเขียนได้เต็ม สอบใช้รถครั้งเดียวผ่าน กับการไปเสียเวลานั่งบ้าบออยู่ในห้องบ้าบอนั่นไร้ซึ่งสาระ
การอบรมที่ดีควรเอาคนมาบรรยาย ไม่ใช่นั่งหน้าจอทีวี แล้วให้ดูกันเอง ถ้าอยากให้อบรมก็ต้องแบบนี้ ไม่ใช่นั่งดูทีวี 4 ชั่วโมง แล้วมันจะได้อะไร
-
ประเด็นคืออบรมมันคือนั่งดู VDO โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำอะไรเลย ไม่ใช่ไม่อยากอบรมนานๆไม่ใช่เหมือนเวลาเรียนหนังสือ อบรมของขนส่งเหมือนให้คนเข้าไปดูทีวี แล้วมันจะได้อะไร ปัญญาอ่อนแท้ ให้ไปทำข้อสอบ 100 ข้อ ผิดได้ไม่เกิน 5 ข้อดีกว่าอีก แบบนี้คนจะสนใจอ่านมาเต็มที่ไม่ใช่ 20 ข้อผิดได้ 7 บ้าปะ แบบนี้มันง่ายเกิน ตอนสอบผมไม่สนหรอก VDO บ้าบอนั่นแต่ข้อเขียนได้เต็ม สอบใช้รถครั้งเดียวผ่าน กับการไปเสียเวลานั่งบ้าบออยู่ในห้องบ้าบอนั่นไร้ซึ่งสาระ
พูดก็พูดเถอะนะ ที่ผมสอบ 30 ข้อ ถูกหมดเลย อันนี้ดีใจมากที่เราเข้าใจ ว่าแต่คนอื่น สอบข้อเขียนเป็นไงมั่ง เอามาแชร์กันครับ
-
ประเด็นคืออบรมมันคือนั่งดู VDO โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำอะไรเลย ไม่ใช่ไม่อยากอบรมนานๆไม่ใช่เหมือนเวลาเรียนหนังสือ อบรมของขนส่งเหมือนให้คนเข้าไปดูทีวี แล้วมันจะได้อะไร ปัญญาอ่อนแท้ ให้ไปทำข้อสอบ 100 ข้อ ผิดได้ไม่เกิน 5 ข้อดีกว่าอีก แบบนี้คนจะสนใจอ่านมาเต็มที่ไม่ใช่ 20 ข้อผิดได้ 7 บ้าปะ แบบนี้มันง่ายเกิน ตอนสอบผมไม่สนหรอก VDO บ้าบอนั่นแต่ข้อเขียนได้เต็ม สอบใช้รถครั้งเดียวผ่าน กับการไปเสียเวลานั่งบ้าบออยู่ในห้องบ้าบอนั่นไร้ซึ่งสาระ
พูดก็พูดเถอะนะ ที่ผมสอบ 30 ข้อ ถูกหมดเลย อันนี้ดีใจมากที่เราเข้าใจ ว่าแต่คนอื่น สอบข้อเขียนเป็นไงมั่ง เอามาแชร์กันครับ
ผมได้เต็มครับ ทำในคอมทั้งหมดเลย แล้วข้อสอบผมว่าเหมือนกับแจกใบขับขี่เลย -*- ซึ่งไม่ชอบเลย ผมว่า ให้ทำ 100 ข้อผิดได้ 5-10 ข้อดีกว่า แล้วเอาคนที่ตกไปอบรมด้วยคนถึงจะถูก ว่ามั้ย
-
ผมว่ายกเลิกก็ดีครับไอ้ 4ชม. เนี่ย ขอเปลี่ยนเป็น 10 ชม. หรือ 3วันไปเลยครับ
เพื่อถนนเมืองไทยจะมี "คนขับรถเป็น" มากขึ้นครับ
คนขับรถได้คิดว่าขับรถเป็นมันอันตรายมากๆครับ ถ้าถนนทั้งเส้นมีขับอยู่คันเดียวก็ไม่เป็นไรหรอกครับ
คนที่เคยสูญเสียญาติพี่น้องที่เกิดอุบัติเหตุจากรถชนจากความประมาทและไม่รู้ของคน"ขับรถได้"แต่"ขับไม่เป็น" มีมากมายครับ
-
ควรจะมีครับ แต่น่าจะปรับปรุงการนำเสนอให้มากขึ้น และอื่นๆ
ตัวอย่างเช่น... ตอนผมไปต่อใบขับขี่แล้วได้อบรมด้วย ผมรอฟังว่าเค้าจะพูดเรื่องขับช้าแช่ขวาไหม แต่ไม่ได้พูดถึง ผมก็เลยยกมือถามผู้บรรยายไปว่าทำไมไม่พูดเรื่องนี้ เพราะคนขับช้าแช่ขวากันเยอะ อย่างน้อยๆคนที่มาอบรมจะได้เข้าใจกันให้มากขึ้น แล้วในรุ่นต่อๆไปก็จะได้ฟังกันด้วย
ฝากถึงท่านอื่นๆที่ไปอบรมด้วยนะครับ ถ้าเค้าไม่พูดเรื่องนี้หรือเรื่องอื่นๆเรายกมือถามไปเลย จะได้ช่วยขึ้นมาอีกหน่อยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ;) :D
-
ผมมองว่าใบขับขี่บ้านเรายังได้มาง่ายเกินไปครับ ควรจะมีการอบรมและสอบวัดความรู้กันให้เข้มข้นมากกว่านี้ ดูอย่างประเทศที่เค้าเข้มงวด เอาอย่างใกล้ๆบ้านเราอย่างสิงคโปร์ กว่าจะได้ใบขับขี่มาไม่ง่ายเลย บางคนสอบกันจนแก่ยังไม่ผ่านเลย แล้วบ้านเมืองเค้าคนที่ขับรถขับกันได้ดีมากๆ ไม่ใช่มักง่ายกันแบบบ้านเราที่นึกจะจอดก็จอด เลี้ยวก็เลี้ยว ชวนให้เวียนหัว เพราะบ้านเราคนที่ขับรถได้มีมากกว่าคนที่ขับรถเป็น
-
คิดแบบนี้ ก็คงไม่ต้องมีการ เรียนหนังสือเลยก็ดีละมังครับ
เวลาครูสอน มันก็เป็นปกติที่จะมีคนฟัง และไม่ฟัง หรือฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอะไรติดตัวมาบ้าง จากที่ได้ยิน จากที่คนอื่นพูดกันมา
ตอนสอบ มีลอกกันบ้าง ก็ยังคลับคล้ายคลับคลา ว่าเคยเห็นผ่านตา
แล้วจะบอกว่าไม่ต้องสอนเลยได้ยังไง ไม่ต้องรู้เลยสักนิดได้ยังไง
รู้บ้างยังดีกว่าไม่รู้ ลองคิดไม๊ ว่าสอนแล้วยังได้เท่านี้ ถ้าไม่สอนจะขนาดไหน
อย่าไปเอาแต่โทษว่าสอนไม่ดี ต้องบอกว่าคนเรียนนั่นแหละ มันไม่ได้คุณภาพ มันไม่ค่อยสนใจฟัง
แล้วพอเค้าจับมากๆ ใครบ่นครับ พอเคร่งกฎจัดๆ แล้วใครเดือดร้อนครับ
คิดอยู่มุมเดียว มันไม่ให้ประโยชน์กับใครหรอกครับ ถ้าคิดว่าคุณรู้ เอาสิ่งที่เรียนได้มามากกว่าคนอื่น
"ไปสอนสิ่งที่ถูกให้เค้าเถอะครับ" ได้ประโยชน์ กับสังคมมากกว่า
จะไปบังคับ ให้ทุกคนทำอย่างที่คุณพอใจไม่ได้หรอก "เอาเวลามาเพิ่ม คนที่คุณพอใจดีกว่าครับ"
ช่วยๆกัน สังคมน่าอยู่ครับ ทำสิ่งที่ควรทำได้ "อย่ามัวบ่น ว่าหน้าหนาว อากาศหนาว ไปหาเสื้อกันหนาวใส่ และแบ่งเสื้อกันหนาวให้คนที่ไม่มีใส่ ดีกว่าครับ" ;D ;D ;D
+10
-
ผมได้ตลอดชีพ. เลยไม่รู้เขาอบรมอย่างไร.
แต่อีกอาชีพหนึ่งที่ต้องอบรมค่อใบอนุญาต คือตัวแทนประกัน ผมมาแชร์คร่าวๆนะครับ มันคล้ายๆสอบใบขับขี่
1 ต้องต่อใบอนุญาตทุกปี ยกเว้นต่อแบบ 5 ปี. สมัยก่อนจ่ายเงินต่อ เดี๋ยวนี่ต้องอบรม
2 อยรม 3 วัน. ไปฟังบรรยาย ซึ่งเอามาใช้จริงในการขายได้น้อยมาก เสียเวลา เพราะบางคนทำงานประจำ อย่างแฟนผม กับน้องชายผม เป็นDUMMY CODE ของผม มีธุรกิจต้องดูแล. เขาบอกเสียเวลามาก
3 สอบใบอนุญาต ตัวแทนใหม่ อบรมเช้า บ่ายสอบ ต้องผ่านข้อสอบ 60% ข้อสอบมีหลายชุด ลอกกันไม่ได้แน่ รู้ผลสอบทันทีวันนั้นเลย บางคนจบมัธยมสอบผ่าน บางท่านจบปริญญาเอกสอบไม่ผ่าน สาเหตุเพราะไม่ใส่ใจ.
สรุปนะครับ
การอบรมเพื่อเพิ่มทักษะเป็นสิ่งดี แต่ควรกระชับ จรรยาบรรณตัวแทนอยู่แต่ละบุคคล เหมือนขับรถ ขับได้กับขับเป็นคนละอย่าง
กวดขันกฎหมายดีกว่าครับ. ซึ่งผมสนับสนุนใช้เทคโนโลยี่จับคนทำผิดมากกว่าใช้บุคคล
ปล. ผมถูกสอนเรื่องจรรยาบรรณไม่ลดคอมมิชชั่น. เจอแบงค์ขายประกันมีแถม เวลาเคลมพนง.แบงค์ตอบไม่ได้เลย จรรยาบรรณหายหมด เน้นขายเอายอดอย่างเดียว. สังคมเปลี่ยนไปเยอะ
-
การขับรถอยู่ที่จิตสำนึก ใจเขาใจเรา
ผมเจอคนขับรถ 40กิโลเมตรต่อชม ถามว่าผิด กม มั๊ย ไม่ผิด แต่มันทุเรศ
ตราบใดที่คนในชาติเป็นแบบนี้ทุกอย่างก็ยาก ไม่คิดจะทำอะไรดีๆให้ใคร เห็นแก่ตัว
-
เนอะ น่าจะทำให้มาตรฐานสูงเหมือน UK หรือ US
ไม่ก็ EU ยิ่งดี เห่อยุโรปกันนัก
-
ผมว่ายกเลิกก็ดีครับไอ้ 4ชม. เนี่ย ขอเปลี่ยนเป็น 10 ชม. หรือ 3วันไปเลยครับ
เพื่อถนนเมืองไทยจะมี "คนขับรถเป็น" มากขึ้นครับ
คนขับรถได้คิดว่าขับรถเป็นมันอันตรายมากๆครับ ถ้าถนนทั้งเส้นมีขับอยู่คันเดียวก็ไม่เป็นไรหรอกครับ
คนที่เคยสูญเสียญาติพี่น้องที่เกิดอุบัติเหตุจากรถชนจากความประมาทและไม่รู้ของคน"ขับรถได้"แต่"ขับไม่เป็น" มีมากมายครับ
Like มากๆครับ อาจจะอบรมรอบแรกแล้วให้ใบขับขี่มาก่อน แต่ภายในเดือน-2เดือน ต้องมาอบรมเพิ่มอีกซัก4-5รอบ ไปเลย อย่าคิดเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานครับผม ทุกวันนี้บนถนนคนทั่วไปขับกันยังไงก็น่าจะรู้ บางคนอาจตั้งใจ แต่ผมว่าหลายคนอีกมากไม่ตั้งใจเพราะไม่รู้ แล้วยังเรื่องๆต่างๆ เหตการณ์ต่างๆ อุบัติเหตุต่างๆ มากมายบนถนนที่ควรนำมาบอกเล่าให้ฟังไว้ระวัง อย่างเมื่อวานนี้ผมขับของผมอยู่ดีดีเกือบโดนเฟอรารี่สอยขับเร็วมาก รถผมสั้นเลย หักซ้ายหักขวาหลบรถคันอื่นๆ ต้องรู้เมื่อมีรถขับเร็วมากๆมาควรทำยังไงบางคนกลัวมากๆขับส่ายเลยเกือบโดนชน เพราะไม่รู้ควรหลบทางไหน ยังมีเรื่องอีกมาก
-
ผมว่ามันเหมือนเป็นการบังคับให้คนฟังมากกว่าครับ อาจจะมองว่า2ชม
.แบบเก่านั้น อบรมแล้วคนยังขับรถแย่ ประมาท บลาๆ.. เลยเพิ่มเป็น4ชั่วโมงเพื่อให้จำได้ดีขึ้นละมั้ง :D
-
ต่างคนต่างความคิด ต่างมุมมองครับ
ผมว่ามันเสียเวลา แต่ถ้าจะนานกว่านี้เพื่อจะให้มีคนที่มีคุณภาพจริงๆมันก็ดี
แต่................
ไปปรับปรุงกฏหมายให้มันเข้มกว่านี้ก่อนดีกว่าไหม
ไม่งั้นจะมี 10ชั่วโมง 10 วัน 10ปี มันก็ไม่ช่วยอะไรครับ ในเมื่อคนยังไม่กลัวกฏหมาย
-
ผมว่าอบรมนะถูกแล้วครับ 4 ชม. ยังน้อยไปด้วยซ้ำ
ช่วงแรกเป็นพวกกฏ หรือระเบียบต่างๆ
ช่วงสองป้ายต่าง
ช่วงสามประสบการณ์จริง เหตุการณ์จริงที่เสี่ยงหรือเกิดอุบัตติเหตุบ่อยๆ สอนว่าควรทำอย่างไร จะได้ไม่เกิดเหตุครับ
ช่วงสี่ เอาตัวอย่างการขับรถแย่ๆ เห็นแก่ตัวที่เกิดประจำ ว่าผิดกฏหมายยังไง มีโทษยังจะได้รู้ไว้
ไม่ใช้มาคอยเข้มงวดตอนขับ มันแก้ที่ปลายเหตุ ไม่เข้าท่าเลยครับความคิดแบบนี้
-
ผมจำไม่ได้ว่าประเทศไหนนะครับ เคยเปิดในYoutube ดู เขาแบบกว่าจะออกใบขับขี่ให้นี่ต้องไปเข้าค่ายอบรมเป็นวันๆเลยอะครับแบบมีการจำลองสถานการณ์ต่างๆ การใช้ ABS การหักหลบสิ่งกีดขวาง ผมว่าแบบนั้นดีมากๆเลยแหละ แต่เปลืองงบประมาณ แต่ก็ได้ความปลอดภัยต่อคนอื่นต่อตนเองต่อครอบครัว และก็วินัยจราจรก็จะดีมากๆเลยครับ :)
-
ผมว่าควรนานกว่านี้ ที่เมืองนอกกว่าจะได้ใบขับขี่ยากเย็นกว่านี้หลายเท่าครับ "มันไม่เกี่ยวว่าเวลาคุณจะมีค่าแค่ไหน จะมีรายได้เป็นแสน เป็นล้านมากมายขนาดไหน เพราะเวลาอยู่บนท้องถนนคุณก็สำคัญเท่ากับคนอื่นๆ สิ่งที่คุณต้องทำก็เหมือนที่คนอื่นต้องทำ"
ข้อ 1. ผมเห็นตรงกันข้ามเลย อบรมสัก 3-4 วันก็ยังได้ ให้ดีเอาแบบเลือกเวลาเองได้ต้องไปให้ครบใน 2 เดือนก็ว่าไป
ข้อ 2. อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ
ข้อ 3.หนังสือนี้เหมือนผมเคยเห็นว่าเขามีแจกนะ
ข้อ 4. อันนี้ก็ว่ากันมายาวนาน เห็นด้วยว่าควรจะมีใครทำอะไรสักที
ข้อ 5. ผมไปสอบก็ได้รับบริการดีนะครับไม่ติดขัดอะไรเลย แต่ตอนไปต่ออายุเป็น 5 ปี มีเสียเวลานิดหน่อย(รอ 2ชม.)ตอนระบบคอมล่ม เซ็งๆแต่รับได้ :D
ปล.ถ้าเลือกไม่ต้องไปอบรมได้ ผมก็คนปกติคงขี้เกียจเหมือนกันครับ ฮาๆๆ
แต่จากการขับรถมาบนท้องถนนก็ยังรู้สึกว่ามันควรต้องมีอยู่และมากขึ้นกว่าเดิมอยู่ดี
-
ผมเข้าใจคนทำงานนะครับ (แบบท่าน จขกท. เป็นต้น)
หรือสำหรับคนไม่ได้ทำงาน แต่คิดว่าไมมันนานจังฟะ
แต่อย่าลืม
ยังมีคนรุ่นใหม่ ๆ (รวมถึงยังมีรุ่นเก่าด้วยซ้ำ) อีกมากนะครับ
ที่มีรถ แต่ใช้รถไม่เป็น ดูแลรถไม่เป็น
รวมถึงไม่รู้แม้กระทั่งมารยาทในการขับรถ
ฉะนั้น ยิ่งกฏต่าง ๆ ของกฏหมาย ...ผมว่ามีคนที่ยังไม่รู้อีกมากครับ
(ยกตัวอย่างที่ท่านนึงบอกว่า ....คนสอน ๆ ไป คนฟัง นั่งเล่นมือถือ ประมาณนั้นละครับ)
ลองนึกภาพที่การมีใบขับขี่ได้มาโดยง่าย
สังคมบนถนน จะน่ากลัวขนาดไหน
ถ้าให้แนะนำ
ผมเห็นด้วยกับหลายท่าน ที่คิดว่าน่าจะเพิ่มเวลาอบรมด้วยซ้ำ
ถ้าจะให้ดี ภาคปฏิบัติ อยากให้ยากกว่านี้ด้วยซ้ำ
และให้มีการตัดแต้ม ยึดใบขับขี่ที่จริง ๆ จัง ๆ (ไม่ใช่จ่าย ใบแดง ใบม่วง ก็รอดแล้ว)
แต่ก็นะ ที่นี่ชาวโลก .... =..=
ป.ล.ลืมไป เดี๋ยวนี้พวกคลิป อุบัติเหตุต่าง ๆ มีเยอะแยะ
คัดเลือกตามสถานการณ์ และดูแล้วน่ากลัว ๆ หน่อย
แล้วเอามาให้ดูก็ดีนะ และบอกเล่าถึงผลกระทบที่ตามมา
หากเกิดเหตุการณืแบบนั้น แบบนี้ ...ว่าตัวเรา หรือใครจะเดือดร้อนบ้าง
เป็นเหตุการณ์จริง ที่น่าจะเข้าสมองมากกว่ามานั่งฟังอย่างเดียว
-
เลิกแน่ครับ 4 ชม.เพราะเห็นวิทยากรว่าจะพยามเพิ่มเวลาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอาจจะเป็น 1-2 วันไปจนถึงต้องเข้าเรียนหลายๆวันในอนาคตครับ
ผมก็ว่าสมควรนะครับเห็นคนไม่รู้กฎจราจรเยอะแยะเอาแค่เรื่องเลี้ยวซ้ายไม่ได้ผ่านตลอดทุกแยกบางคนยังไม่รู้เลยมากดแตรไล่ให้เราไปอีก อีกอันที่ basic มากจะไปตรงผ่านแยกเปิดไฟฉุกเฉิน (ขอทาง) ทำไม? เรื่องยากๆไม่ต้องพูดถึง...อบรมเยอะๆน่ะดีแล้วครับ
-
เพราะบางคนคิดว่ารู้แล้ว 4 ชม มันน่าเบื่อ แต่บางเรื่องอาจจะไม่รู้หรือเข้าใจผิดๆก็ได้
ไอ้พวกเล่น เฟส หรือฟังเพลงระหว่างอบรมก็น่าจะปรับตกให้หมดนะ
-
เดาว่า อีกหน่อยคงมีค่ายสอบใบขับขี่ 3 วันแน่ๆ
-
ผมทำบัตรตอน อบรม 2 ชั่วโมง
ได้เต็ม 30 ด้วยแฮะ
ตอนนี้จำที่วิทยากรสอนได้แค่ว่า "เวลาข้ามไฟแดง ไม่ต้องเปิดไฟผ่าหมาก"
กับ "เวลาเลี้ยว รถฝั่งขวาได้ไปก่อน"
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์เอา
เดี๋ยวนี้ ถ้าจะทำบัตร ต้องใช้เวลา 2 วันแล้วนี่ครับ คนที่ทำงานกินเงินเดือน ไม่อยากลางาน 2 วันหรอก
-
ประเด็นคือเรื่องของกฏจราจรคนไทยจำนวนมากทำความเข้าใจได้ง่ายๆครับ แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือสันดานความมักง่ายและความไม่เคารพกฏของคนไทยต่างหากที่มันทำให้การจราจรเละเทะแบบนี้ ปาดแทรกคอสะพาน แซงเส้นทึบ จอดในที่ห้ามจอด ขับรถปาดหน้า ขับรถเกินความเร็วที่กฏหมายกำหนด ขับรถแข่งกันบนถนนหลวง เรื่องเหล่านี้คนพวกนี้รู้แต่ก็จะทำเพราะว่าพอใจที่จะแหกกฏเพื่อความสบายและความสะใจของตัวเอง
-
ใช่ ผมว่ามันโครตไร้สาระ (ผมโดน 2 ชม แบบเก่า) คนเข้าไปนั่งฟังเพลงผ่านหูฟัง เล่นเฟส ไม่ได้สนเลย
ตอนผมไปต่อใบขับขี่ ก้อโดนอบรมไป 1 ชั่วโมง
และเจอคนประมานนี้เหมือนกัน ก้มหน้าเล่นแต่เฟส ใส่หูฟัง ฟังเพลง
พอหลังจากจบอบรม 1 ชั่วโมง ป้าที่คุมห้อง ให้คน ที่เล่นเฟส กับใส่หูฟัง อบรมใหม่อีกคนละ 1 รอบ :o
-
ผมว่าควรเสริมเนื้อหาตรงมารยาท ในการขับรถเพิ่มเข้าไปด้วยครับ เพราะปัญหารถติดที่เจอทุกวันนี้นอกจากไม่ทำตามกฎแล้ว อีกอย่างก็คือไม่มีมารยาท
เช่น ถ้าทางบีบจาก 2 เลนเป็น 1 เลน ให้สลับกันไปซ้ายขวา หรือไอ้พวกชอบแตกแถวแล้วมาแทรกเข้าข้างหน้าก็ตัวการใหญ่ กับอีกพวกเห็นรถติดไม่ได้กรูออกไหล่ทางแล้วก็ไปแทรกเข้าข้างหน้าเหมือนกัน ถ้าต่อแถวกันดีๆ รถที่อยู่ในเลนก็ไม่ต้องชลอให้ไอ้รถแทรก ภาพรวมคือรถเคลื่อนตัวได้ดีกว่า
-
เรื่องการเปิดไฟเลี้ยว ทั้งรถยนต์ และ มอเตอร์ไซค์
ปัจจุบัน 10 คัน เปิดไฟเลี้ยวให้เห็นแค่ 1 คันได้มั่งเดียวนี้
ขับรถยากครับ เพราะต้องเดาใจ เดาสภาพถนน ไว้ล่วงหน้า กัยพวกที่ไม่เปิดไฟเลี้่ยว
แค่ส่งสัยว่ามันยากอะไรกันนักหน่า กับอิแค่เปิดไฟเลี้ยวเนี่ย !!
-
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแชร์ครับ พอดีผมมีอีกหลายปัจจัยที่อยากบอกแต่เนื่องจากเวลาพิมพ์มันเด้งไปเด้งมาเลยทำให้พิมพ์ลำบากหน่อยครับ แล้วบวกกับตอนนี้เม้าส์ผมมีปัญหาครับ ^_^
ประเด็นของผมคือต้องการที่ต่อว่า เนื้อหาการอบรม 4 ชม.กับทางขนส่งครับเพราะสิ่งที่เอามาพูดสำหรับผมถ้าพูดตรงๆเลยก็คือไร้สาระครับ ไม่มีประโยชน์ครับ สิ่งที่ขนส่งต้องมีอบรมอย่างแรกเลยคือ เมื่อขึ้นรถผู้ขับจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย , ท่านั่งที่ถูกต้อง ควรให้คำแนะนำว่าต้องนั่งอย่างไร แขนต้องไม่ตึงเกินไป , การให้สัญญาณไฟเลี้ยว ก็อาจจะเป็นพร้อมเทคนิคว่าประมาณ เมื่อจะเปลี่ยนเลนก็ควรมองกระจกมองข้างก่อนเลี้ยวทุกครั้งและให้สัญญาณ และก็ต้องระวังรถมอเตอร์ไซค์ , การขับขี่ปลอดภัยทำอย่างไร อย่างเช่นพวกฝนตก การใช้เบรค ที่ถูกต้อง พวกนี้ขนส่งกลับไม่มีบอกครับ พอเข้าห้องอบรมที่เปิดมาอย่างแรกคืออุบัติเหตุเอามาให้ผู้ขับขี่ดู ผมว่าตรงส่วนนี้มันก็ทำให้คนหดหู่ได้เหมือนกันครับ แต่ไม่จำเป็นเลยครับ
ถ้าหากขนส่งยังยืนยันที่จะคงไว้ อบรม 4 ชม. ก็คงเปลี่ยนรูปแบบครับเพราะผมเชื่อไว้มีอีกหลายท่านที่เค้าอยากทำใบขับขี่ แต่มาทำไม่ได้และเวลาขับก็ไม่มีใบขับขี่ ขนส่งก็ควรจะปรับเปลี่ยนใหม่อย่างเช่นให้อบรม ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย , หรือไม่อย่างงั้นก็ควรให้ผู้ขับขี่อบรม 4 ชม. แต่ก็ไม่ต้องกำหนดว่าต้องอบรมภายในวันเดียวเสร็จ อาจจะเป็นการอบรมวันละ 1 ชม. ถ้าวันไหนว่างก็ค่อยมาอบรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีการเพิ่มห้องหรือปรับเปลี่ยนการบริหารให้สอดคล้อง และ รอรับผู้ที่จะมาทำได้ครับ
ผมอยากเสนอให้มีการทดสอบขับรถบนถนนจริงครับ เพราะผมเชื่อว่ายังมีหลายท่านที่มาสอบใบขับขี่และยังไม่สามารถขับบนถนนจริงได้ และอีกหลายท่านที่ไม่ได้มาสอบใบขับขี่ แต่สามารถขับรถบนถนนจริงได้ครับ ดังนั้นเลยอยากให้ขนส่งมีการทดสอบให้ผู้ขับขี่ขับรถบนถนนจริง โดยมีเจ้าหน้าที่นั่งไปด้วยครับ เพราะว่าถ้าหากมีข้อนี้ขึ้นมาผู้ที่ยังขับไม่ได้เค้าก็อาจจะยังไม่มาทำใบขับขี่ครับ แล้วก็เพื่อเช็คว่าผู้ที่มาทำใบขับขี่สามารถขับออกถนนจริงได้และปลอดภัยต่อเพื่อนร่วมทางครับ
-
คุณมีค่าตัววันละหลายล้านบาท แต่คุณตายบนถนนได้เหมือนกัน...
-
ผมขอเพิ่มอีกประเด็นที่เราก็ไม่ควรมองข้ามในการอบรมนะครับ
ถ้าใครได้ฟังการอบรม ก็จะมีเนื้อหาให้เราตระหนักถึงเรื่องอุบัติเหตุด้วยครับ (26:20)
http://www.youtube.com/embed/-9ECtXkUBfc (http://www.youtube.com/embed/-9ECtXkUBfc)
ผมว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำใบขับขี่ครับ
-
คิดแบบนี้ ก็คงไม่ต้องมีการ เรียนหนังสือเลยก็ดีละมังครับ
เวลาครูสอน มันก็เป็นปกติที่จะมีคนฟัง และไม่ฟัง หรือฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอะไรติดตัวมาบ้าง จากที่ได้ยิน จากที่คนอื่นพูดกันมา
ตอนสอบ มีลอกกันบ้าง ก็ยังคลับคล้ายคลับคลา ว่าเคยเห็นผ่านตา
แล้วจะบอกว่าไม่ต้องสอนเลยได้ยังไง ไม่ต้องรู้เลยสักนิดได้ยังไง
รู้บ้างยังดีกว่าไม่รู้ ลองคิดไม๊ ว่าสอนแล้วยังได้เท่านี้ ถ้าไม่สอนจะขนาดไหน
อย่าไปเอาแต่โทษว่าสอนไม่ดี ต้องบอกว่าคนเรียนนั่นแหละ มันไม่ได้คุณภาพ มันไม่ค่อยสนใจฟัง
แล้วพอเค้าจับมากๆ ใครบ่นครับ พอเคร่งกฎจัดๆ แล้วใครเดือดร้อนครับ
คิดอยู่มุมเดียว มันไม่ให้ประโยชน์กับใครหรอกครับ ถ้าคิดว่าคุณรู้ เอาสิ่งที่เรียนได้มามากกว่าคนอื่น
"ไปสอนสิ่งที่ถูกให้เค้าเถอะครับ" ได้ประโยชน์ กับสังคมมากกว่า
จะไปบังคับ ให้ทุกคนทำอย่างที่คุณพอใจไม่ได้หรอก "เอาเวลามาเพิ่ม คนที่คุณพอใจดีกว่าครับ"
ช่วยๆกัน สังคมน่าอยู่ครับ ทำสิ่งที่ควรทำได้ "อย่ามัวบ่น ว่าหน้าหนาว อากาศหนาว ไปหาเสื้อกันหนาวใส่ และแบ่งเสื้อกันหนาวให้คนที่ไม่มีใส่ ดีกว่าครับ" ;D ;D ;D
+1
ผมว่าควรนานกว่านี้ ที่เมืองนอกกว่าจะได้ใบขับขี่ยากเย็นกว่านี้หลายเท่าครับ "มันไม่เกี่ยวว่าเวลาคุณจะมีค่าแค่ไหน จะมีรายได้เป็นแสน เป็นล้านมากมายขนาดไหน เพราะเวลาอยู่บนท้องถนนคุณก็สำคัญเท่ากับคนอื่นๆ สิ่งที่คุณต้องทำก็เหมือนที่คนอื่นต้องทำ"
ข้อ 1. ผมเห็นตรงกันข้ามเลย อบรมสัก 3-4 วันก็ยังได้ ให้ดีเอาแบบเลือกเวลาเองได้ต้องไปให้ครบใน 2 เดือนก็ว่าไป
ข้อ 2. อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ
ข้อ 3.หนังสือนี้เหมือนผมเคยเห็นว่าเขามีแจกนะ
ข้อ 4. อันนี้ก็ว่ากันมายาวนาน เห็นด้วยว่าควรจะมีใครทำอะไรสักที
ข้อ 5. ผมไปสอบก็ได้รับบริการดีนะครับไม่ติดขัดอะไรเลย แต่ตอนไปต่ออายุเป็น 5 ปี มีเสียเวลานิดหน่อย(รอ 2ชม.)ตอนระบบคอมล่ม เซ็งๆแต่รับได้ :D
ปล.ถ้าเลือกไม่ต้องไปอบรมได้ ผมก็คนปกติคงขี้เกียจเหมือนกันครับ ฮาๆๆ
แต่จากการขับรถมาบนท้องถนนก็ยังรู้สึกว่ามันควรต้องมีอยู่และมากขึ้นกว่าเดิมอยู่ดี
นี่ก็เยี่ยม
ผมเข้าใจคนทำงานนะครับ (แบบท่าน จขกท. เป็นต้น)
หรือสำหรับคนไม่ได้ทำงาน แต่คิดว่าไมมันนานจังฟะ
แต่อย่าลืม
ยังมีคนรุ่นใหม่ ๆ (รวมถึงยังมีรุ่นเก่าด้วยซ้ำ) อีกมากนะครับ
ที่มีรถ แต่ใช้รถไม่เป็น ดูแลรถไม่เป็น
รวมถึงไม่รู้แม้กระทั่งมารยาทในการขับรถ
ฉะนั้น ยิ่งกฏต่าง ๆ ของกฏหมาย ...ผมว่ามีคนที่ยังไม่รู้อีกมากครับ
(ยกตัวอย่างที่ท่านนึงบอกว่า ....คนสอน ๆ ไป คนฟัง นั่งเล่นมือถือ ประมาณนั้นละครับ)
ลองนึกภาพที่การมีใบขับขี่ได้มาโดยง่าย
สังคมบนถนน จะน่ากลัวขนาดไหน
ถ้าให้แนะนำ
ผมเห็นด้วยกับหลายท่าน ที่คิดว่าน่าจะเพิ่มเวลาอบรมด้วยซ้ำ
ถ้าจะให้ดี ภาคปฏิบัติ อยากให้ยากกว่านี้ด้วยซ้ำ
และให้มีการตัดแต้ม ยึดใบขับขี่ที่จริง ๆ จัง ๆ (ไม่ใช่จ่าย ใบแดง ใบม่วง ก็รอดแล้ว)
แต่ก็นะ ที่นี่ชาวโลก .... =..=
ป.ล.ลืมไป เดี๋ยวนี้พวกคลิป อุบัติเหตุต่าง ๆ มีเยอะแยะ
คัดเลือกตามสถานการณ์ และดูแล้วน่ากลัว ๆ หน่อย
แล้วเอามาให้ดูก็ดีนะ และบอกเล่าถึงผลกระทบที่ตามมา
หากเกิดเหตุการณืแบบนั้น แบบนี้ ...ว่าตัวเรา หรือใครจะเดือดร้อนบ้าง
เป็นเหตุการณ์จริง ที่น่าจะเข้าสมองมากกว่ามานั่งฟังอย่างเดียว
อันนี้ก็ดี
สรุปผมว่าการสอบใบขับขี่ คือการเริ่มต้นครับ ควรเน้นให้แ่น่น
หลายๆคน มองว่าเสียเวลา ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่มีการได้ใบขับขี่มาแบบไม่ถูกต้อง
บังคับใช้กฏหมายที่ใช้ลงโทษผู้กระทำผิดให้เข้มข้น
มันเป็นเรื่องต้องทำแล้วครับ ไม่งั้นหย่อนไปอีก อนาคตความปลอดภัยและระเบียบก็จะยิ่งหมดไปจากสังคมมากขึ้น จนเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ในที่สุด
-
ก็จริงนะ ที่ผมไปอบรมมาประมาณ 2 ชมมีแต่เรื่องแท็กซี่ทั้งนั้นเลยไม่รับผู้โดยสาร จอดฉี่ข้างทาง พูดจากับผู้โดยสารที่เป็นหญิงไม่สุภาพแต่ก็ดูเพราะไม่รู้จะทำอะไร อยากให้เปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้เข้มๆและมีสาระสามารถนำไปใช้ได้จริงๆหน่อย
-
ผมเห็นด้วยที่ให้มีอบรมครับ ดูแล้วมีสาระดีครับ
-
ตอนผมไปทำ หลับสนิท กันทุกคนแลย ยกเว้นผมนะ อิอิ ;D ;Dผมว่าน้ำเยอะไปนิดนึง
-
เรื่องเวลา ผมไม่มีความเห็น แต่เรื่องเนื้อหา มันมีบางเรื่องที่ผมว่าควรจะเพิ่มเข้าไปด้วย คือการใช้สัญญาณไฟกระพริบ และสัญญาณไฟฉุกเฉิน อย่างสัญญาณไฟกระพริบ ผมเห็นมากะตา กำลังจะกลับรถ รถคันหน้าผมก็ทิ่มเข้าไปเรื่อย รถทางตรงกระพริบไฟสั้นๆทีนึง คันที่กำลังจะกลับคงจะเข้าใจว่าไปได้ (เพราะถ้าว่าอย่าเพิ่งออกมาคงจะยกไฟสูงค้าง) ก็โครมสิครับ คันนึงหน้าบู้ คันนึงตูดบี้
-
อ่านมาก็หลายความคิดเห็นแล้ว
ผมเห็นด้วยครับที่ควรเลิกอบรม 4 ชม.ครับ
ควรเพิ่มให้นานมากกว่านี้ ตามความเห็นหลายๆท่านครับ
เพราะแค่ 4 ชม. จะไปได้อะไร แค่จะบรรยายให้คนที่เข้าใจยากว่า
ถ้าขับรถไม่ตามกฎจะมีอะไรตามมาบ้าง หลายท่านคงรู้ แต่บางท่านคิดไม่ออกก็มีนะครับ
-
เรื่องเวลา ผมไม่มีความเห็น แต่เรื่องเนื้อหา มันมีบางเรื่องที่ผมว่าควรจะเพิ่มเข้าไปด้วย คือการใช้สัญญาณไฟกระพริบ และสัญญาณไฟฉุกเฉิน อย่างสัญญาณไฟกระพริบ ผมเห็นมากะตา กำลังจะกลับรถ รถคันหน้าผมก็ทิ่มเข้าไปเรื่อย รถทางตรงกระพริบไฟสั้นๆทีนึง คันที่กำลังจะกลับคงจะเข้าใจว่าไปได้ (เพราะถ้าว่าอย่าเพิ่งออกมาคงจะยกไฟสูงค้าง) ก็โครมสิครับ คันนึงหน้าบู้ คันนึงตูดบี้
ในเนื้อหามีนะครับ เรื่องไฟฉุกเฉิน
-
:D :D
สถานะกาณ์ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้ ผมเพิ่งไปอบรมแลสอบใบขับขี่รถมอไซค์มาเมื่อวันศุกร์
ข้อเขียนผิดไป 3/30 เกือบได้ลางานมาใหม่อีกวัน
-
เรื่องเวลา ผมไม่มีความเห็น แต่เรื่องเนื้อหา มันมีบางเรื่องที่ผมว่าควรจะเพิ่มเข้าไปด้วย คือการใช้สัญญาณไฟกระพริบ และสัญญาณไฟฉุกเฉิน อย่างสัญญาณไฟกระพริบ ผมเห็นมากะตา กำลังจะกลับรถ รถคันหน้าผมก็ทิ่มเข้าไปเรื่อย รถทางตรงกระพริบไฟสั้นๆทีนึง คันที่กำลังจะกลับคงจะเข้าใจว่าไปได้ (เพราะถ้าว่าอย่าเพิ่งออกมาคงจะยกไฟสูงค้าง) ก็โครมสิครับ คันนึงหน้าบู้ คันนึงตูดบี้
ในเนื้อหามีนะครับ เรื่องไฟฉุกเฉิน
ตอนผมอบรมไม่มีเลยครับ ผมอาศัยคิดเอาเองว่าไฟฉุกเฉิน ก็น่าจะเปิดตอนฉุกเฉิน เช่น รถเสีย รถชน จอดข้างทาง
-
รู้แต่ว่าผมนั่งหลับ ตื่นอีกทีไปสอบเลย..
สมัยผมสอบเขายังใช้วิดีโอที่มันเป็นม้วนใหญ่ๆเปิดให้ดูเลยครับ
ยังไม่ใช่ CD เหมือนสมัยนี้เลย..
-
ข้อเสอนแนะดีมาครับ แต่อยู่ในนี้คงไม่ค่อยได้ผล ส่งข้อความไปที่ขนส่งเลยดีกว่าครับ
-
ผมก็อยากให้เลิกครับ อบรม 4 ชม แต่เปลี่ยนอบรม 2 วัน สอบข้อเขียน 1 วัน และสอบปฏิบัติอีก 1 วัน
โดยที่เป็นการสอบอย่างเคร่งครัด และเป็นหลักสูตรสากล ให้ทั่วโลกยอมรับใบขับขี่จากประเทศไทยครับ
-
ผมก็สงสัย เรื่องไฟกระพริบ (ไม่ใช่ไฟฉุกเฉินนะ)
เวลาให้ทางกัน กรณี
รถคันหนึ่ง เปิดไฟขอเลี้ยวเข้าซอย แล้วรถทางตรง
บางคันก็ เปิดไฟกระพริบ แล้วจอดรถให้เลี้ยวได้
บางคันก็ เปิดไฟกระพริบ แล้วรีบเหยียบคันเร่ง ไมให้คนที่ของทางเลี้ยว
จริง ๆ แล้วต้องทำอย่างไรครับ
-
เห็นด้วยครับ นั่งไป 4 ชม. แถบจะไม่มีเนื้อหาสำคัญเท่าไหร่ ของผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง อ่านหนังสือจากที่โรงเรียนสอนขับรถให้มาตอนซื่้อคอร์ส ก้ทำได้ (แถมได้เต็มอีกด้วย ;D ;D ;D)