Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: dEsiGnz ที่ เมษายน 19, 2011, 08:46:50

หัวข้อ: ขอความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dEsiGnz ที่ เมษายน 19, 2011, 08:46:50
สวัสดีครับ
ปัจจุบันผมใช้ City ZX VTEC ซึ่งรับมาจากคุณแม่ของผมเอง เมื่อปีที่แล้วเพื่อใช้ขับไปเรียนครับ
ขับวันละประมาณ 120 กิโลเมตร บนมอเตอร์เวย์ ความเร็วประมาณ 110-130 km/hr ครับ
ตอนที่รับมาจากคุณแม่เลขกิโลก็ 120,000 กว่าแล้วครับ โดยรถคันนี้เข้าศูนย์มาตลอดครับ
พอครบ 130,000 ผมก็นำเข้าศูนย์เหมือนที่ผ่านมา(ตื่นเต้นมากเลยเข้าครั้งแรกสำหรับผม)
ศูนย์โทรมาแจ้งว่า 1.ยางกันฝุ่นลูกสูบเบรคขาด 2.ยางบูทปีกนกขาก 3.ลูกปืนล้อหลังซ้ายแตก 4.ลูกยางหัวเพลาขับขาด
ผมจึงตกลงซ่อมแค่ยางกันฝุ่นลูกสูบเบรคครับเพราะศูนย์แจ้งว่าอันตรายหากใช้ต่อ
ที่เหลือผมกะว่าจะหาอู่ข้างนอกซ่อมครับจะได้ประหยัดเงินหน่อย

หลังจากออกจากศูนย์ ก็ไปซ่อมอีก 3 รายการที่อู่แห่งหนึ่ง
พอครบ 140,000 ผมก็กะจะนำเข้าศูนย์เหมือนเดิมแต่คุณพ่อทักว่า รถเก่าแล้วเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามอู่ก็ได้ จะได้ประหยัดเงิน
ประกอบกับเจ้าลูกยางหัวเพลาขับที่เพิ่งเปลี่ยนมา แตกลายงา และจาระบีเริ่มซึมออกมาแล้ว
จึงตัดสินใจเข้าอู่เดิมครับ กะไอโวยเลย 10,000 กิโล ลูกยางแกแตกลายงายังงี้ไม่ไหวครับ
เข้าอู่ก็บอกเขาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนลูกยางดังกล่าว
ช่างถามว่าเอาแบบ 5,000 กิโล หรือ 10,000 กิโล ด้วยความไม่อยากเปลี่ยนบ่อยจึงเลือก 10,000 กิโลไป
เขาถามต่อว่าเอายี่ห้อไหน ร้านเขามี Hawk1 กับ PTT  ยี่ห้อแหกนี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยสำหรับผม
จึงเลือก PTT ครับอย่างน้อยก็เคยได้ยินชื่อ

ช่วงที่ถ่ายน้ำมันเครื่องช่างถามว่า ครั้งล่าสุดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ไหน ก็บอกเขาว่าเข้าศูนย์
เขาบอกว่าน้ำมันเครื่องเยอะมาก น้ำมันเครื่องเยอะไปรถจะอืด วิ่งไม่ออก
ผมก็เถียงเขาไปว่า ศูนย์น่าจะรู้ว่ารถต้องเติมน้ำมันเครื่องเท่าไร เพราะเป็นรถยี่ห้อของเขา
ช่างคนนั้นจึงเถียงกลับว่า ศูนย์มีแต่ช่างเด็กน้อย ช่างใหญ่ๆ เขาไปเปิดอู่เองกันหมดแล้ว
ผมจึงถามเขาว่า ให้เปิดคู่มือไหมว่ารถผมต้องใส่น้ำมันเครื่องกี่ลิตร
ช่างตอบว่า เขารู้ไม่ต้องเปิดหรอก แถมยังบอกสรรพคุณของน้ำมันเครื่องอีกว่า
น้ำมันตัวนี้ใสมากประสิทธิภาพดี ใส่เข้าไปรถน้องจะแรงเลย

ช่วงพี่ถอดเพลาขับออกมา น้ำมันเกียร์ก็ไหลออกมา
ผมก็ถามเขาว่าจะต้องเติมเพิ่มหรือเปล่า
ช่างตอนว่า เขาน่ะเซียนแล้วถอดเพลาน้ำมันเกียร์ไม่ไหล
ทั้งๆ ที่ผมเห็นกับตาว่ามันไหลลงมากองที่พื้นเต็มเลย

พอรถเสร็จเห็นบิล งงเลยครับ น้ำมันเครื่องอย่างเดียว 1,400 บาท! จำได้ว่าเข้าศูนย์น้ำมันเครื่องไม่ถึง 1,000 บาทเลย
นี่อู่มันหลอกเงินผมเหลือเปล่าเนี่ย
แถมผมยังต้องออกเงินค่าลูกยางอันใหม่อีก แต่เขาไม่คิดค่าแรง เพราะเพิ่งเปลี่ยนกับเขาไป

กลับมาบ้านก็เอะใจครับ จึงชักก้านวัดน้ำมันทั้งน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ออกมาดู
ปรากฏว่าน้ำมันเกียร์ลดไปไม่มากครับ แต่น้ำมันเครื่องนี่สิเลยขีด max บนก้านวัดขึ้นมาเกือบ 1 cm ได้

จึงอยากถามทุกๆ ท่านดังนี้ครับ
1. น้ำมันเครื่องที่มากเกินขีด max บนก้านวัด จะทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาหรือไม่ครับ
2. อยากให้ช่วยแนะนำยี่ห้อน้ำมันเครื่องที่คุณภาพดีหรือคนเขานิยมกันอะครับ คือผมไม่ทราบเลย
    คิดไว้ว่าจะไปหาซื้อแล้วเอาไปให้อู่เปลี่ยน และคงไม่ใช่อู่เดิมอีกแล้ว
3. จากลักษณะการใช้รถของผมควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ กี่กิโลเมตรครับ ( 5,000/10,000 )
4. น้ำมันเกียร์ตามคู่มือต้องเปลี่ยนทุกๆ 40,000 กิโลเมตร แต่ผมอ่านเจอตามอินเตอร์เน็ตว่าควรเปลี่ยนก่อน
    เพื่อยืดอายุให้เกียร์ CVT  แล้วการใช้งานแบบผมนี่ต้องเปลี่ยนทุกๆ กี่กิโลเมตรครับ
5. จำได้ว่าตอนเข้าศูนย์พนักงานเสนอว่าจะให้ล้างเครื่อง/ล้างหัวฉีดเพิ่มไหม
    มันมีความจำเป็นต้องทำหรือเปล่าครับ แล้วควรทำบ่อยแค่ไหน

ขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลาอ่านผมบ่นซะยืดยาว คือ ถ้าไม่เข้าศูนย์นี่ผมก็ไม่รู้เลยครับ ว่ารถต้องดูแลยังไง มือใหม่จริงๆ ครับ
อยากให้รถมันอยู่กับผมไปนานๆ กะใช้จนทำงานเลยทีเดียว มันจะไหวไหมหนอ .....
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ เมษายน 19, 2011, 09:22:24
มาช่วยแนะนำครับ ....

เรื่องอู่ กับศูนย์ รถคุณวิ่งมาขนาดนี้ แนะนำเข้าอู่ ที่รับทำเฉพาะ Honda ดีกว่าครับ ถูกกว่าและช่างชำนาญกว่า

อีกอย่้าง ก็จริงอย่างที่อู่เค้าบอกแหละครับ ส่วนใหญ่ ช่างรถยนต์้เก่งๆ ที่ทำงานมานาน พอมีเงินก้จะออกไปเปิดอู่เองกันซะเยอะ ในศูนย์ ก็จะมีแต่ช่างหน้าใหม่ๆ

น้ำมันเครื่อง ผมว่าถ้าเลี่ยงใช้ PTT ได้ก็จะดีครับ ลองหาพวกคลาสตรอน หรือ โมบิล อะไรพวกนี้ดีกว่าครับ  น้ำมันเครื่องก็ให้หาสัก เบอร์ 10W-30 ประมาณนี้ก็พอครับ และก็ทุกวันนี้ น้ำมันเกรดธรรมดา ก็สามารถใช้งานที่ 10000โล ได้เหมือนกันครับ ...

อีกอย่าง การเติมน้ำมันเครื่องเกิดขีดที่กำหนด .... เป็นผลเสียต่อเครื่องยนต์ครับ ....
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: toonnazaone ที่ เมษายน 19, 2011, 09:35:54
1. ทำให้รถวิ่งไม่ออก ที่กรองอากาศอาจมีน้ำมันเครื่องเยิมอยู่ ควรจะถ่ายออก
2. / 3. คาสตอรอล เอจ สปอร์ต ครับและเปลืยนที่ 9000 โลครับ ตัวนี้ตามสเปคบอกที่10000โล แต่ก็ขึ้นอยู่กับการขับถ้า  ขับเร็วบ่อยๆ และสภาพอากาศร้อนจัด / ฝุ่นมากๆก็ต้องเปลืยนเร็วขึ้นครับ
4. ก็ประมาณข้อ2 / 3ครับ รถผม HONDA ACCORD VTi-E 2.3 AT LEV ปี 2003  เปลียนทุก 30000 โลเพื่อๆเพราะรุ่นนี้เกียรไม่ค่อยแข็งแรงเลยครับ
5. ถ้าเปลียนน้ำมันเครืองตามกำหนดตอนนี้ยังไม่จะเป็นครับ ส่วนหัวฉีดล้างที่ประมาณ200000โลครับได้เปลียนกรอนเบนชินบางไมครับ ที่ควรจะล้างก็คือระบบหล่อเย็นครับ  ผิดประการไดก็ขอโทษด้วยครับ ที่เหลือรอกูรูมาตอบนะครับ
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Northbridge ที่ เมษายน 19, 2011, 10:55:23
จำได้ว่าเคยมีเคส Subaru Impreza เติม นมค เกิน มีปัญหายืดยาวกันมาก ดราม่าด้วย น่ากลัวนะครับ drain ออกเถอะ เอาจริงๆ  :(


รถวิ่งมาหลายแสนแล้ว ตามหลักเท่าที่ทราบ ช่างส่วนใหญ่จะแนะนำให้เติมน้ำมันเครื่อง ที่หนืดมากกว่าเดิมอาจจะสักเบอร์นึงที่มีขายๆกันอยู่นะ


น้ำมันเกียร์ ลองไปหามาเติมเองก็ได้ครับ ผมไม่แน่ใจซิตี้เติมตรงไหน น่าลองเปิดคู่มือดู รถบ้านผม เติมกรอกลงไปที่ก้านวัดน้ำมันเกียร์เลย ใช้กรวยกรอกเอาน่ะ หาเป็นเบอร์เดิมแบบเดิมเติมไปก็แล้วกันครับ

เติมเสร็จแล้วก็ ติดเครื่อง เข้าเกียร์ PRND12 อะไรก็ว่าไป ให้มันเข้าร่องเข้ารอย แล้วก็มาเช็คใหม่ ... ถ้าไม่ชัวร์ รีบหาอู่ใหม่เปลี่ยนเถอะครับ ฟังดูแล้ว ช่างคนนี้มันดูเกรียนมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ เมษายน 19, 2011, 11:19:29
แย่แล้วละครับ คุณเจอช่างเฮงซวยหัวขวดเข้าให้แล้วละ

พวกช่างที่อวดเก่ง อวดดี แบบนี้ รีบออกห่างมาให้ไวเถอะครับ

1. น้ำมันเครื่องเติมเท่าไหร่ ก็ควรเติมตามที่คู่มือกำหนด ไม่ใช่บอกว่า รู้ดีว่าใส่เท่าไหร่อย่างนั้นอย่างนี้

2. ยิ่งมีน้ำมันเครื่องให้เลือกแค่ 2 ยี่ห้อนี้ ผมว่า อู่นี้ ห่วยบรมครับ ถอยออกมาเลยอย่างเร่งด่วน!
PTT น้ำมันเครื่อง อาจจะเพียงพอกับรถของคุณ แต่เมื่อเทีนยบกับน้ำมันเครื่องแบรนด์ฝรั่งแล้ว
ประสิทธิภาพยังด้อยกว่า อันนี้คนรอบข้างของพวแกเรา เจอกันมากับตัวเอง มีเคสลูกสูบติดก็มีมาแล้ว
แต่คงไม่เกิดกับรถของคุณแน่ครับ เพราะคันที่ลูกสูบติดนั้น เป็นรถสมรรถนะสูงกว่ามากๆ

ที่คิดว่าแนะนำได้ คือแบรนด์ฝรั่งส่วนใหญ่ หรือถ้าเอาประหยัดงบหน่อย บางจาก ก็ได้ครับ
และรถของคุณ ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเครื่องสังเคราะห์หรอกครับ เติมแค่กึ่งสังเคราหะห์ก็เพียงพอแล้ว
ถ้าไม่ได้ขับเร็วมากมายนัก

3. น้ำมันเครื่อง จะสังเคราะห์ หรือกึ่งสังเคราะห์ หรือน้ำมันเครื่องธรรมดา
กรุณา เปลี่ยนถ่ายที่ 10,000 กิืโลเมตร ขึ้นไป ได้ทั้งสิ้่นครับ มันหมดสมัยไปแล้วสำหรับพวกที่แนะนำ
ให้เปลี่ยนถ่ายที่ 5,000 หรือ 7,000 กิโลเมตร หนะครับ น้ำมันเครื่องสมัยนี้ มันรองรับระยะการใช้งาน
ที่ยาวนานแบบนั้นได้หมดแล้วครับ ใครที่แนะนำคุณนอกเหนือจากนี้ ด่ามัน สาบแช่งมันไปเลย! ว่า "ไอ้โง่!"

4. น้ำมันเกียร์ ตามหลักการแล้ว เปลี่ยนถ่ายที่ 40,000 กิโลเมตร ถูกแล้วครับ
แต่สำหรับคนที่ขับรถหนักๆ เยอะๆ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้บ่อยขึ้นนิดนึง คือ ราวๆ 20,000 กิโลเมตร
ก็จะช่วยยึดอายุการใช้งานของเกียร์ออกไปได้อีกนิดหน่อยครับ (เพราะยังไง มันก็ต้องมีปัญหาอยู่ดี
สำหรับเกียร์ CVT ลูกนี้)

5. ไม่จำเป็นต้องไปล้างเครื่อง หรือล้างหัวฉีดเพิ่มหรอกครับ ตัวน้ำมันเครื่องเอง เขาผสมสารชะล้างทำความสะอาด
มาให้ในตัวของมันอยู่แล้ว และแค่นั้น ก็เพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องไปใส่หัวฉ่งหัวฉีดอะไรเพิ่มให้ศูนย์บริการ
เขาได้เปอร์เซนต์ค่าบริการพวกนี้หรอกครับ

เปลี่ยนถ่ายที่อู่ข้างนอกก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย์ Honda แล้ว ถ้ารถแล่นมาเลยระยะรับประกันไปแล้ว

หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ เมษายน 19, 2011, 11:43:43
เออ ผมว่าขันน๊อตใต้ถาดน้ำมันเครื่องแล้วค่อยๆวัดดูว่ามันลดลงมาหรือยัง ส่วนวิธีดูดผมไม่เคยทำอะ

แต่ช่างที่เปลี่ยน นมค.ให้คุณอะน่าโดนน้ำมันเครื่องกรอกปากมากเลย
หัวข้อ: Re: ขอความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องหน่อยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dEsiGnz ที่ เมษายน 19, 2011, 11:49:08
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบมากครับ

หลังจากนี้ผมจะไปหาอู่ใหม่ เพื่อเอาน้ำมันเครื่องที่เกินออก

ตอนนี้เล็งไว้แล้วครับ เป็นอู่รับซ่อมฮอนด้าโดยเฉพาะเลย

หวังว่าจะไม่เจอช่างหัวขวดอีกนะ   ::)