Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ มกราคม 17, 2018, 10:14:31
-
Toyota เปิดเผยสัดส่วนยอดจองสิทธิ์ C-HR ตั้งแต่ พฤศจิกายน 60 - มกราคม 61
รวมกว่า 3,000 คัน โดยแบ่งเป็นรุ่น เบนซิน 1.8 ลิตร : 25% และ รุ่น 1.8 Hybrid : 75%
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/toyota-c-hr-pre-booking-3000-units-ratio/
(https://www.img.in.th/images/bccef33908f22e18c7203c38c3dc23c3.jpg)
-
อ่าวผิดคาดแหะนึกว่า 1.8 Gas สัดส่วนจะมากกว่าตัว Hybrid ไหงมันต่างจาก Camry สะงั้น
-
อ่าวผิดคาดแหะนึกว่า 1.8 Gas สัดส่วนจะมากกว่าตัว Hybrid ไหงมันต่างจาก Camry สะงั้น
นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้นนะ รอดูครับ (เพราะไฮปิ๊ด มันสวยกว่าด้วย)
-
ผิดโผแฮะงวดนี้ น่าจะเพราะส่วนต่างราคาที่ต่างกันไม่มาก
-
อ่าวผิดคาดแหะนึกว่า 1.8 Gas สัดส่วนจะมากกว่าตัว Hybrid ไหงมันต่างจาก Camry สะงั้น
จะเพราะเหตุนี้รึเปล่าครับ
มองในมุมลูกค้าเป้าหมาย อาจเป็นเพราะ
camry กลุ่มลูกค้ามีอายุเฉลี่ยสูงกว่า ก็จะแนวอนุรักษ์นิยมมากกว่า เลยเลือกเครื่องเบนซินเดิมๆมากกว่า
ส่วน c-hr ด้วยอายุเฉลี่ยที่น้อยกว่าของลูกค้า และรูปแบบของตัวรถที่ฉีกแนวออกจากโตโยต้ารุ่นอื่นๆ ลูกค้าที่เลือกซื้อรุ่นนี้ จึงเป็นลูกค้าที่มีแนวคิดเปิดรับและพร้อมที่จะลองสิ่งใหม่
ถ้ามองมองในมุมราคา อาจเพราะ c-hr รุ่นไฮบริด เพิ่มเงินขึ้นจากรุ่นธรรมดาไม่มากเท่า camry (เทียบเป็นบาทนะครับ ไม่ได้เทียบเป็น % )
-
ต้องดูสัดส่วนกันยาวๆครับ กลุ่มแรกที่ซื้อน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบเทคโนโลยี ก็น่าจะเลือก Hybtrid
ถ้าตัว Hybrid ไม่มีปัญหาอะไร ก็น่าจะโอเคร แต่ถ้ามีปัญหา คนก็จะเทไปตัวธรรมดาแน่นอน
เหมือน CX-5 ที่ตอนนี้คนเทไปตัว 2.0 หรือไม่ก็ข้ามไป CRV ไปเลย
-
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณวุฒิกรก็กล่าวเสริมว่า ในช่วงแรกของการเปิดตัวรถ ลูกค้ามักจะจองในส่วนของรุ่นท้อปสุด แต่หลังจากนี้สัดส่วนระหว่างทั้ง 2 รุ่นเครื่องยนต์ คงจะเปลี่ยนไป ไม่ได้ยืนพื้นแบบนี้
ตามนั้นฮะ 😁
-
มีกำหนดการไม๊ว่าเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าเมื่อไหร่ครับ
-
ยอดจองไฮบริดเยอะกว่าแบบนี้ก็ดีนะครับ คงเป็นความตั้งใจของพี่โตด้วยละครับ เพราะลงทุกขอรับการส่งเสริม ผลิตรถไฮบริดในไทยเยอะอยู่
-
ถ้ามีรุ่นทูโทนลงเครื่องธรรมดา สัดส่วนจะเปล่ยนไปแค่ไหนนะ
-
ดีใจคนไทย กล้าใช้ รถ hybrid มาขึ้น หวังว่า toyota คงไม่ทำให้ผิดหวังแบบ x-trail
ที่ตอนแรก ยอด hybrid สูงกว่า สุดท้าย nissan ก็ทำให้ผิดหวัง
-
ถ้าเทียบกับ camry ตัวธรรมดาได้เครื่องยนต์ใหม่แบบฉีดตรง ลองเอามาใช้กับ chr ดิ คนซื้อก็มีลังเลเหมือนกัน
-
ผมมั่นใจเลยว่าเอา Hybrid กันเพราะเอา Option
-
ไม่ได้มากจนน่าตกใจนะครับ
จำได้ว่า นิสสันจู๊ค ตอนเปิดตัวก็ราวๆนี้
ตลาดยังมีช่องว่างของคนโสดขับคนเดียว ข้างหลังไว้วางของ
-
ลูกค้า เลือก ภาพลักษณ์ มากกว่า สมรรถนะ มั๊ง
-
ผมมั่นใจเลยว่าเอา Hybrid กันเพราะเอา Option
เห็นด้วยเลย Option ดีกว่า สีสวยๆสดๆ ก็มีเฉพาะ Hybrid
ถ้าจัด line up ทั้งสองเครื่องยนต์ให้เหมือนกัน ผมว่ายอดไม่น่าจะใช่แบบนี้
-
เป็นผมก็อาจจะเอา Hybrid นะ คือแรงม้าสูงสุดไม่ได้ใช้ทุกวัน แต่ประหยัดน้ำมันนี้เห็นๆ
ยังไงประกันยาวขนาดนี้อาจจะขายก่อนแบตเสียด้วย
ตอนนี้กลุ่มผมไปไหน เอา Prius ไปอย่างเดียว ค่าน้ำมันถูกมากจริงๆ
ค่าเฉลี่ยใน HLM มันคงไม่หรูมาก แต่ในชีวิตจริงที่รถติดบ้าง วิ่งชิลๆบ้าง ผมเคยทำเฉลี่ย 18-20 กม/ลิตร เทียบกับ Altis 1.8 นี่ส่วนใหญ่ได้ 10-12 เอง
-
คนที่ไม่ใช่พวกบ้ารถอย่างเรา ๆ ได้ยินคำว่า Hybrid ก็อยากจะลองใช้ดูซักตั้งนะครับ
-
มีกำหนดการไม๊ว่าเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าเมื่อไหร่ครับ
ย่อหน้าสุดท้ายครับ
Toyota จะเปิดตัว C-HR อย่างเป็นทางการในปลายเดือน กุมภาพันธ์ ต้นเดือน มีนาคม นี้ โดยรุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 1.8 จะเริ่มส่งมอบได้ในเดือน มีนาคม เป็นต้นไป ส่วนรุ่น 1.8 Hybrid จะเริ่มส่งมอบได้ในเดือน เมษายน เป็นต้นไป
http://www.headlightmag.com/toyota-c-hr-pre-booking-3000-units-ratio/
-
ตัวธรรมดาออฟชั่นน้อยเกิน
-
คงชอบ option กับสีของไฮบริด
-
เป้นยอดลมตามที่ให้แจ้งความประสงค์ตั้งแต่ในงานรถที่เมืองทอง หรือยอดจริงที่จ่ายเงินจองไปแล้วครับ สงสัยเพราะจำได้ว่าโตโยต้าจะให้คนที่จองตอนแรกมายืนยันอีกที
ซึ่งไม่แน้ว่าในท้ายสุด คนที่จอง hybrid อาจเปลี่ยนใจไปรุ่นธรรมดา หรือคนจองรุ่นธรรมดา เปลี่ยนใจไป hybrid
-
สงสัยจังครับว่า อนาคต altis จะใส่ไฮบริดมาขายไหม เพราะราคา chr ตัวท็อปล้านต้นๆๆ แถมไม่ต้องมาทำฅลาดพรีอุสด้วย กระจายคนใช้งานมาก ต้นทุนก็ลดด้วย
-
หลังจากไปนั่งคันจริงมา รับไม่ได้กับภายในเทียบกับราคาล้านนึงครับ
เพิ่มอีกนิดเดียวได้เเคมรี่เบสตัวใหม่เเล้ว สำหรับผมยังไงภาพลักษณ์เเคมรี่ก้ดีกว่า ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ขับ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
อยากทราบว่าทำไมขายได้มาก555
-
พอประเมินราคาที่เพิ่มเทียบออฟชั่นที่ได้ ผมว่าไม่แปลกที่ Hybrid ขายได้เยอะนะครับ :D
-
ดีใจคนไทย กล้าใช้ รถ hybrid มาขึ้น หวังว่า toyota คงไม่ทำให้ผิดหวังแบบ x-trail
ที่ตอนแรก ยอด hybrid สูงกว่า สุดท้าย nissan ก็ทำให้ผิดหวัง
+1 ครับ แต่เครื่องไฮบริดของโตโยต้าก็น่าไว้ใจได้ระดับนึงนะครับ ดูได้จากรุ่นก่อนๆที่ทำมานาน เมื่อเทียบกับค่ายอื่น
-
สงสัยจังครับว่า อนาคต altis จะใส่ไฮบริดมาขายไหม เพราะราคา chr ตัวท็อปล้านต้นๆๆ แถมไม่ต้องมาทำฅลาดพรีอุสด้วย กระจายคนใช้งานมาก ต้นทุนก็ลดด้วย
คิดว่าต้องมานะครับ รออีกสัก2ปี ......... ผมยังหวังไปถึงวีออสด้วย
-
ยอดเหมือนจะเยอะกว่า Juke ตอนมาใหม่ๆ
แต่ก็อย่างว่า ไฮบริดโตโยต้า พวกใช้พริอุสมาก็รู้ว่ามันปัญหาไม่มาก และประหยัดได้เยอะจริง เครดิตถือว่าดีอยู่ครับ
-
หลังจากไปนั่งคันจริงมา รับไม่ได้กับภายในเทียบกับราคาล้านนึงครับ
เพิ่มอีกนิดเดียวได้เเคมรี่เบสตัวใหม่เเล้ว สำหรับผมยังไงภาพลักษณ์เเคมรี่ก้ดีกว่า ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ขับ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
อยากทราบว่าทำไมขายได้มาก555
ต่างกันอยู่ 240,000 บาท และออพชั่นผิดกันคนละเรื่อง ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดคุณก็ไม่เล่นแคมรี 2.0G หรอกครับ ส่วนต่างจริงๆจึงไม่น่าใช่แค่นิดเดียวอย่างที่บอก
เอาง่ายๆ ผมกับแฟนเริ่มมองหารถใหม่ที่จะซื้อประมาณ 1-2 ปีนี้อยู่ เคยมอง CH-R ไว้ ไปดูแล้วผิดหวังกับวัสดุเหมือนคุณ แต่พอไปดูแคมรีเพราะคิดว่าเพิ่มเงินอีกสองแสนกว่า ปรากฎว่า ตัวล่างก็ไม่ถูกใจเช่นกัน ออพชั่นก็สู้ตัวท๊อป CH-R ไม่ได้ ก็ต้องขยับไปดูรุ่นที่สูงๆขึ้นไปครับ สุดท้ายคิดว่าถ้าหากให้ซื้อตอนนี้ ก็คงต้อง Camry Extremo ก็คันละ 1.525 ล้านอีก คราวนี้ออพชั่นพอจะได้ขึ้นมาบ้าง แต่ราคาก็ห่างกัน 366000 บาท
-
รถไฮบริด โตโยต้า ไม่น่ากลัวครับ ไม่เสีย ไม่จุกจิก เข้าเช็คระยะก็ไม่ได้เเพงอะไรกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปเพียวๆ อัตราเร่งดี ประหยัด จากใจคนใช้ ACV50 HV 4ปีกว่าไม่มีปัญหาเเม้เเต่นิดเดียว เสียอย่างเดียว ราคาตกตอนขาย 55555
-
มีรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี กับ รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี
น่าซื้อมากครับ ใช้ยาวๆได้อย่างสบายใจเลยครับ
-
น่าทำแท๊กซี่ ไม่รู้คุ้มหรือเปล่า
-
ปกติกลุ่มผู้ใช้สินค้าก็มีตามนี้ครับ
กลุ่มแรก กลุ่มนี้จะศึกษา Product มาก่อนทำตลาด ชื่นชอบทุกอย่าง จึงมีความอยากได้ถึงที่สุด กล้าลองสิ่งใหม่ๆ และต้องการอุปกรณ์ใหม่ๆ ในสินค้านั้นๆ ทั้งหมด เมื่อเปิดตัว "รุ่นท็อป" จึงขายดี
กลุ่มที่สอง เพิ่งจะตื่นตัวตอนสินค้าเปิดตัวครับ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลมีหน้าตาทางสังคม มีอิทธิพลต่อผู้อื่น ต้องการมีสินค้าใหม่ๆ ประดับตัว เมื่อมีสินค้าเปิดตัว(ไม่ได้ศึกษามาหรอก แต่มีอะไรใหม่ ฉันจะซื้อ) ฉะนั้น รุ่นท็อป ก็จะยังขายดี และเริ่มมีรุ่นรองๆ ตามมา
กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มใหญ่ จะเริ่มมองหาสินค้าที่คนกลุ่มสองใช้งานกัน พูดง่ายๆ ว่า อยากเหมือน แต่ไม่จำเป็นต้องแพงสุด ดีสุด แค่ขอให้เหมือน และคุ้มค่า และผ่านการรีวิวมาแล้ว หรือพิสูจน์แล้วว่าไม่พังง่ายๆ "รุ่นกลาง หรือ รุ่น Value" จึงขายดีสุด รุ่น Top จะเริ่มขายได้น้อยลง
กลุ่มที่สี่ เกือบจะท้าย แต่ไม่ท้ายสุด อยากได้เหมือนคนอื่นๆ แต่กำลังซื้ออาจจะไม่ถึงขั้นแรก จึงต้องเลือก "รุ่นล่างสุด" ในขณะที่ กลุ่มแรก อาจจะเปลี่ยนสินค้าไปแล้วก็ได้ แต่เลือกตามคนส่วนใหญ่ที่ยังใช้งานกันอยู่ "รุ่นล่างสุด" จึงขายดี
กลุ่มสุดท้าย กลุ่มไม่สนใจความสดใหม่ใดๆทั้งสิ้น ขอแค่ ลดแลกแจกแถมเป็นถึงที่สุด ไม่แคร์ว่าสินค้าจะเก่าหรือตกรุ่น ขอให้คุ้มเงินที่สุด บางทีก็ซื้อเพราะความจำเป็น เช่น ของเก่าพัง
(https://ffbsccn.files.wordpress.com/2013/08/diffusion-of-innovation-chart1.png)
-
ตัวล่างสุด 979 (ราคาเท่า altis esport option) ไมมี push start, smart entry เสียใจ ๆ :'( :'( :'(
-
ยังไม่เคยขับ ก็จองกันแล้ว แล้วถ้าใช้ๆไป ไม่ถูกใจ ทำไง???
-
รถไฮบริด โตโยต้า ไม่น่ากลัวครับ ไม่เสีย ไม่จุกจิก เข้าเช็คระยะก็ไม่ได้เเพงอะไรกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปเพียวๆ อัตราเร่งดี ประหยัด จากใจคนใช้ ACV50 HV 4ปีกว่าไม่มีปัญหาเเม้เเต่นิดเดียว เสียอย่างเดียว ราคาตกตอนขาย 55555
ถ้าเซอร์วิสตามระยะปกติ มันก็ราคาเท่ารถทั่วๆ ไปแหละครับ
แต่ถ้าลองพวก คอมเพรสเซอร์เสีย ตุ้แอร์เสีย ตัวแปลงไฟเสีย แล้วจะหนาวครับ บอกเลย ราคาไม่ใช้ถูกๆ แพงกว่ารถปกติหลายเท่าแน่นอน