Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 19, 2010, 12:49:25
-
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน
คนทั่วไปเขาแทบไม่สนใจเจ้า Ex เลย เชื่อว่าคนทั่วไปไม่มองเลยด้วยซ้ำกับจุดเด่นเรื่องช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ(บางคนอาจมองว่าซ่อมแพงด้วยซ้ำ) พวงมาลัยธรรมดา(หลายๆเจ้าใช้ไฟฟ้าหมดแล้ว)
และยิ่ง Cruze ออกมา option แบบนี้ ราคาก็ไม่แพงมาก
ผมนึงไม่ออกเลยว่า Ex จะไปขายใคร เพราะใจผมลึกๆแล้ว ถ้าไม่มีส่วนลด 5-8.5 หมื่น ก็แทบจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจในตัว EX เลย เพราะมันแพงเกินไป
แถม option ยังน้อยมากแม้แต่ Ciivic 1.8S กับอัลติส 1.6G ยังดูมากกว่าเลย(ทั้งที่พวกนี้เป็นเจ้าตลาดนะ)
ไม่รู้นะครับ ผมแอบคิดว่า เออ ถ้ามิตซูบิชิ ทำราคา EX ไม่ได้ถูก+คุ้มค่ากว่านี้ เลิกขายมันไปเลยดีไหม และทำอะไรที่คู่แข่งขันน้อยๆ เช่น Eco car / Lancer 1.6CNG เป็นต้นเอาเวลา+ทรัพยากรไปทุ่มกับของที่ขายได้ดีกว่า
ทุกท่านมีค.คิดเห็นอย่างไร ขอบคุณครับ
*ปล. ขอโทษเพื่อนๆ แฟน Lancer EX ด้วยนะครับ แต่ผมรู้สึกว่า รถดีนะ แต่ถ้าขายไม่ได้จะขายไปทำไม*
-
ติด cng ลด 60,000 บาท ผ่อน 48 เดือน ดอกเบี้ย 0 % แถมประกันดัวยน่าจะกระตุ้นยอดขายได้
-
ไมเนอร์เชนท์ใหม่ ใส่ออฟชั่นเข้าไป ให้เพียงพอ โดยไม่ปรับราคาเพิ่ม น่าจะไปต่อได้
ดีกว่าแห้งตาย เพราะไม่มีคนซื้อ
-
คงต้องทำอะไรที่มากกว่าจัดแคมเปญ โปรโมชั่นต่างๆ แหละครับ
ควรจะปรับออพชั่น ไมเนอร์เชนจ์อะไรบ้าง โดยไม่ต้องปรับราคาขึ้น เป็นไปได้ก็ลดราคาเลย
-
เพิ่มออพชั่นแต่ราคาเดิม
ทำแคมเปญเจ๋งๆ
โฆษณาเลิศๆ
น่าจะพอช่วยได้บ้างนะ
-
อยากให้ลอง minor change แต่ลดราคาทุกรุ่นอะ โดยไม่แตะoption อะ
จะเป็นไปได้ไหม ;D
-
ผมเคยไปดูแล้วรู้สึกว่า ออฟชั่นไม่โดนอย่างแรง+วัสดุมองแล้วไม่สมราคาอะ(ไม่ได้บอกว่าใช้ของไม่ดีนะ) ส่วนคนที่บอกว่าสวย สำหรับผมแล้ว ไม่สวยเลย
-
เคยไปดูเหมือนกัน แบบว่าพลาสติคทุกชิ้น แบบไม่ค่อยมีราคา ประตูก็โปร่งๆ ภายนอกสวยดี แต่ภายในเฮ้อ
ดูอัลติสยังดีกว่าเยอะเลย สำหรับภายใน
ถ้าไม่ปรับปรุง ลำบากครับ
รถขายได้ นอกจากสวยภายนอก ภายใน แล้วยังต้องมีบุคคลิกการขับขี่ที่ดีด้วย อย่างสวิฟท์ไม่ต้องโฆษณามากมาย ก็ไปได้ ด้วยตัวเขาเอง
-
ตอนนี้ผมว่าก็คงขายไปเรื่อยๆแหละครับคงไม่ถึงขั้นแห้งตายหรอก
เพราะช่วงล่างดีไม่ได้เปลี่ยนแค่โช๊คอัพแพงๆแล้วได้เลย ไหนจะฟิลลิ่งตอนอยู่หลังพวกมาลัยอีก
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ผมเห็นด้วยที่มัน "น้อย ไปมาก" ไม่คุ้มกับเงินจวนเจียนจะ 1ล้านบาท ที่จะจ่ายออกไป
ส่วนตัวคิดว่าเขาคงมีอะไรปรับเปลี่ยนบ้างแหละ ทั้ง Option ส่วนลดเงินสด ของแถม
สุดท้ายผู้บริโภคอย่างเราก็เป็นคนเลือกอยู่ดีครับ ว่าคันไหน รุ่นไหน เหมาะกับเราเองมากที่สุด ทั้งในแง่ของ Option ภายใน และ Image ภายนอก
-
คุณ GreenG
อย่าพยายามมองอะไรไปในแง่ร้ายเสียเกินขนาดอย่างนั้นเลยครับ
อย่าคิดว่า Cruze จะขายได้ดีนัก แบรนด์ เชฟวี ในไทยตอนนี้ ยังน่าเป็นห่วงอยู่ไม่แพ้ค่ายอื่นหนะครับ
คุณ Sman
ภายในอัลติส ใช้พลาสติก เกรดด้อยกว่า EX ครับ แต่ด้วยโทนสี
และคอนโซลกลาง ทำให้ ภายใน อัลติสใหม่ จึงดูเหมือนจะสวยกว่า EX ครับ
-
อย่างที่คุณ JiMMY ว่านั่นแหละครับ
ถ้า EX MC แล้วปรับปรุงโทนสีภายในให้ดูดีขึ้น (ทั้งๆที่พลาสติกดีกว่า Altis)
เพิ่มออฟชั่นที่ขาดเล็กน้อย ก็น่าจะเพียงพอ...แค่นี้ Mitsu คงทำได้ไม่ยาก!!!
-
เคยไปดู EX มารู้สึกว่าภายในอัลติสกับทีด้าสวยกว่าเยอะ ดูดีกว่า
เพิ่งจะรู้ครับว่าภายในของ Ex ดีกว่า Altis
-
คุณ GreenG
อย่าพยายามมองอะไรไปในแง่ร้ายเสียเกินขนาดอย่างนั้นเลยครับ
อย่าคิดว่า Cruze จะขายได้ดีนัก แบรนด์ เชฟวี ในไทยตอนนี้ ยังน่าเป็นห่วงอยู่ไม่แพ้ค่ายอื่นหนะครับ
คุณ Sman
ภายในอัลติส ใช้พลาสติก เกรดด้อยกว่า EX ครับ แต่ด้วยโทนสี
และคอนโซลกลาง ทำให้ ภายใน อัลติสใหม่ จึงดูเหมือนจะสวยกว่า EX ครับ
เห็นด้วววววย ทั้งสองข้อเลยคับ
Lancer ถ่ายรูปออกมาไม่สวย แต่เข้าไปนั่งข้างในแล้วมองดูใกล้ๆ พลาสติคเนื้อดีกว่า Corolla นะครับ
ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าลูกค้า Lancer มีแต่ผู้ชายแทบทั้งนั้น เพราะผู้หญิงมองมันไม่สวยหนิ หนำซ้ำ
ผู้ชายทุกคนก็ใช่ว่าจะเลือก Lancer ไปเอารุ่นนั้นรุ่นนี้บ้าง เพราะ option น้อย และราคาแพง
ทุกอย่างเลยโป๊ะเชะ ก็คือยอดขาดน้อยยยย มากๆ ครับ และแถม Lancer ยังดูตรึงใจกับผู้ชาย
ที่ชอบแบบเข้มๆ แมนๆ สุดๆ ด้วย ยิ่งน้อยไปอีกขั้น และ Lancer ก็ดูไม่ใช่รถในแนวครอบครัวเลยด้วย
ทำให้ผู้ชายที่เริ่มมีครอบครัวอาจจะมองมันเป็นตัวเลือกหนึ่งในหลายๆ ตัวเลือก แต่ไม่ใช่ตัวเลือกอันดับ
ต้นๆ อย่างที่ควรจะเป็น เพราะทุกอย่างที่เป็น Lancer มันออกแบบมาเพื่อให้เจาะกลุ่มผู้ชายใช่มั๊ยครับ
ผู้ชายที่เริ่มจะมีครอบครัว น่าจะ 28 ขึ้นไป เดี๋ยวนี้คนมีเมียเร็วขึ้น (ถ้ามีช้า ก็โคตรช้าไปเลย) ทำให้ช่วงอายุ
ของผู้ชายที่จะเลือกซื้อ Lancer เป็นอันดับต้นๆ อยู่ในระหว่าง 18-27 ปี ถ้าถามว่า Lancer รุ่นไหนที่จะตอบโจทย์
ใจของคนซื้อส่วนใหญ่ ก็ต้องเป็นรุ่น 2.0 ราคา 1 ล้านต้นๆ เพราะรุ่น 1.8 ลงมา option และความจัดจ้านสู้คู่แข่ง
ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ต้องแบ่ง segment ลงไปอีก ว่า ต้องเป็นผู้ชายอายุระหว่าง 18-27 และต้องมีเงินล้านซื้อ
Lancer 2.0 ด้วย อายุ 18-22 น่าจะตัดออกไปเลย เพราะยังเรียนไม่จบ ยังหาตังเองไม่ได้ ยกเว้นมีผู้อุปถัมภ์
อย่างคุณพ่อคุณแม่ซื้อให้ ตอนนี้ ก็เหลือช่วงอายุแค่ 23-27 ละ ที่จะเป็นกลุ่มที่หากสนใจ Lancer ก็จะสนใจ
มากก เป็นอันดับต้นๆ แบบว่าไม่มองรุ่นอื่นเลยว่างั้น แม้ option จะน้อยมากก็ตาม แล้วลงลึกไปอีกนิด ในช่วง
อายุ 23-27 ปีนี่ จะมีกี่คนที่สามารถซื้อรถราคา 1 ล้านกว่าได้ และทำอาชีพอะไรที่จะได้เงินเดือนมากขนาดนั้น
หรืออย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่เพิ่งเข้างาน แต่ต้องทำงานมาซักระยะ จนได้เลื่อนขั้นมาแล้วซักขั้นสองขั้น ปรากฎว่า
เหลือช่วงอายุแคบนิดเดียว 26-27 เท่านั้นมั้ง และรวมกับกลุ่มผู้ชายที่มีครอบครัวช้าบางส่วน อาจจะ late ไป
ประมาณ 32-33 เต็มที่ เท่ากับว่า ช่วงอายุของลูกค้าเป้าหมาย ที่พอจะคาดหวังให้สนใจ Lancer เป็นอันดับต้นๆ
มันน้อยมากๆ
เขียนเอง อ่านเองก็รู้สึกว่ามัน Critical มากเหมือนกัน มันไม่ใช่การ projection แบบเป๊ะๆ แต่ถ้าราวๆ นี้ ก็ถือว่าเรื่องใหญ่
หากมีรุ่น CNG ออกมาขายก็น่าจะช่วยได้ มีรุ่นเครื่อง 1.6 ขายราคาย่อมเยาว์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยขยายฐานอายุของลูกค้าได้
ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชายหนุ่มแมนเต็มร้อย หรือจะไม่เต็มร้อย แต่รักในลักษณะเฉพาะแบบแมนๆ ของ Lancer ก็แล้วแต่
ต้องทำตลาดจับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ให้ได้ ตีออกมาให้ได้ เพื่อที่จะจับคนกลุ่มนี้ไม่ให้หลุดไปหารุ่นอื่นๆ
อันดับหนึ่งที่ทำให้รถด้อยค่าลงอย่าง Option เป็นสิ่งง่ายๆ สิ่งแรกที่ต้องเพิ่ม อย่าให้ขาด ระบบ AF.. อะไรนั่นไม่ต้องใส่มาก็ได้
เพราะพาลจะดูเป็นของส่วนเกินซะมากกว่า หาก option หลักๆ ที่ควรจะมียังไม่จัดมาให้ครบ
เมื่อ option มาแบบครบๆ แล้ว มีรุ่นที่ใช้เครื่องเล็กๆ 1.6 ราคาย่อมเยาว์ กับมีรุ่น CNG แล้ว ต่อมาก็ต้องดูว่า Lancer ควรจะมี
อะไรที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งแบบชัดๆ นั่นก็คือความแรงของสมรรถนะเครื่อง ที่ถึงเพิ่มเข้าไปอีกซักมากหน่อย ช่วงล่างเดิมๆ ที่ยอด
เยี่ยมอยู่แล้วยังไงๆ ก็รับไหว นั่นก็คือต้องจูนเครื่อง 1.8 กับเกียร์ CVT ให้มีแรงสมรรถนะที่ดีแบบชัดเจนโดดขึ้นมาจากคู่แข่งซักหน่อย
(จะมากก็ได้) เอาให้ถึงขนาดที่ว่า ต้องทำให้ลูกค้าสับสนให้ได้ว่าจะเอารุ่น 1.8 หรือ 2.0 ดี เพราะ 1.8 ก็แรงดีมากมาย ต้องทำถึง
ขนาดนั้น ส่วนรุ่น 2.0 จะเพิ่มกำลังเพิ่มหรือไม่ยังไงก็ได้ เพราะรุ่นท๊อปต้องไม่ใช่รุ่นที่ขายดีที่สุดอยู่แล้ว เหมือนกับเป็นน้ำจิ้มเพื่อ
เสริมภาพลักษณ์ก็ว่าได้ แต่รุ่นที่ Mitsubishi ต้องประคบประหงมเลี้ยงดูให้ดีต้องเป็นรุ่น 1.8 และต้องทำราคาให้สู้กับคู่แข่งได้ด้วย
ส่วน campaign ต่างๆ กิจกรรมต่างๆ ก็ควรมีไม่ให้ขาด หรืออย่างน้อยก็ต้องมีบ้าง ดูคู่แข่งแล้ว อย่าง Toyota ก็จะมีรุ่น Sportivo
ออกมาเรื่อยๆ Lancer ก็มี Ralliart แต่ทำออกมาแบบครึ่งๆ กลางๆ มันไม่จบ ทำไมไม่เอาชุดแต่งที่ดูใกล้เคียง Evo X มากๆ อย่าง
รุ่นท๊อป Lancer 2.0GT ของมาเลย์เซีย หรือออกแบบมาให้ได้ใจหน่อย อย่างที่หลายๆ รุ่นของ Toyota ทำให้รถจ่ายกับข้าวบ้านๆ
ดูแล้วเป็นรถซิ่งได้ ซึ่งเค้าทำได้ แต่ Mitsu ไทย ส่งชุดแต่งออกมาเหมือนแบบว่ากั๊กๆ ซึ่งคนที่ซื้อออกมา ก็ต้องไปเปลี่ยนเป็นหน้า
Evo กันข้างนอกอยู่ดี จะเห็นได้ว่าประชากรรุ่นพิเศษ Ralliart ตัวนี้ แทบจะไม่เห็นกันเลย เห็นเดือนละครั้งล่ะมั้ง
กิจกรรม Motor Sport ที่จับเอา Lancer มาแข่งขันกัน แบบที่คู่แข่งมี Once makes race Mitsubishi ก็ยิ่งต้องจัดให้ดูจริงจังยิ่ง
กว่านั้นขึ้นไปอีก พอดีผมไม่ได้ติดตามข่าวสารก็ไม่รู้ว่า Mitsu จัดไปบ้างรึยัง แต่มันค่อนข้างเงียบมากๆ ซึ่งการแข่งขันจะทำให้
Lancer ดูร้อนแรงขึ้นไปอีก ต้องทำให้เกิดกระแสบ้ารถ Lancer ในกลุ่มนักขับรถผู้ชายให้ได้ โคโยตี้ อะไรๆ จัดมาให้ครบ 555 ผมจะ
ได้ไปถ่ายรูป ต้องทำให้กระแส Lancer มีมาเรื่อยๆ อย่าให้จางหาย เพียงแต่ว่ามันต้องใช้เงิน จัดโปรแกรมอะไรต่างๆ มากมาย แล้ว
Mitsu จะกล้าแลกด้วยหรือไม่ ซึ่งตลาดมันก็จำกัดอยู่ที่เพศเดียว และช่วงอายุแคบๆ เท่านี้จริงๆ จนอาจจะมองว่าได้ไม่คุ้มเสีย หรือกำไร
ที่แทบจะไม่มีอยู่แล้ว จะหมดไปกับการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ยอดขายคืนกลับมาจริงๆ หรือไม่ Mitsubishi ก็เลยทำเท่าที่
ทำได้ในขณะนี้ คือ ขายโปรโมชั่นต่างๆ ผ่อน 0% เพิ่มเงิน 50,000 กับรถเก่าที่มาแลก ส่วนลด 7-8 หมื่นบาท ซึ่งถ้าไม่ได้เล่นเวปจะมีใคร
รู้บ้างในวงกว้าง แต่นั่นอาจจะเป็นโปรโม ที่ฝ่ายเซลส์ของศูนย์นั้นๆ แทบจะกรีดเลือดตัวเองเลยก็ว่าได้ แถมหน้าจอ Navi อะไรต่างๆ
ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่สามารถสร้างกระแสให้ครึกโครมได้ แต่เป็นการลดแลกแจกแถมเฮือกสุดท้ายก่อนตายเท่านั้น นี่พูดแค่เปรียบเทียบนะครับ
แต่โรงงานเค้าไม่ได้ตายหรอก ยอดส่งออกก็มี โมเดลอื่นๆ ก็ขายได้อีกเยอะ แค่พยายามนึกถึงหนทาง และพยายามเอาใจช่วยเท่านั้น
-
เพิ่งรู้เหมือนกันว่า อีเอ็กซ์ ใช้วัสดุพลาสติคเกรดดีกว่า อัลติส
เพราะอย่างที่คุณความเห็นข้างบนบอก ภายในของอัลติสมันดูดีกว่าจริงๆ คือมันดูน่านั่ง และอบอุ่นกว่า
ส่วนของอีเอ็กซ์ออกแนวแข็งกระด้าง (ความเห็นส่วนตัว)
อย่างนี้ก็แสดงว่ามีของดีอยู่ ใช้ของดีอยู่ แต่ผิดที่การออกแบบ ซึ่งอันนั้น อัลติสทำได้ดีกว่าใช้ของถูกกว่า แต่ทำให้ดูดีกว่าของแพงได้
แต่อย่างที่บอก อีเอ็กซ์ น่าจะกลับมาได้ ถ้า ไมเนอร์ซะใหม่ ปรับปรุงภายใน เพิ่มออฟชั่น แต่คงราคาเดิม ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้ม ในราคาที่ต่ำกว่า ถ้าจะซื้อ เมื่อเทียบกับแบรนด์ตลาด
-
จริงๆ ตามหัวข้อ ชะตากรรมของ Lancer ยังไม่จบนะครับ
Cruze นี่อาจจะเบาะๆ พอประมาณ
แต่ All-new Mazda 3 กับ All-new Civic ปีหน้านี่อ้วกแตกอ้วกแตนแน่ๆ ครับ
ที่จริงๆ จะว่าไปแล้ว เจอ Corolla Minor Change ไปนี้ก็จุกสุดๆ ไปเหมือนกันนะ
เพราะเค้าไมเนอร์มาเพื่อสู้ Mazda 3/Civic ตัวใหม่
สรุปแล้ว Mitsubishi คงทำอะไรไม่ได้มากนัก Lancer ที่ทำออกมาได้
ดี แต่โหงวเฮ้อ หน้าบึ้งๆ เศร้าๆ คงจะไม่ดีมั้ง เจอชะตากรรมเข้าไปหลายดอก
จนไม่อาจเกิดได้ ถ้าจะสู้ก็ต้องรีบๆ สู้ ใส่ option ปรับปรุงราคา เสริมภาพลักษณ์
เน้นกลุ่มลูกค้าให้ถูกเป้าหมาย อย่าเพิ่งไปรีบอัดโฆษณาทีวี ถ้ายังไม่ได้แก้อะไร
เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะมันเปลืองเงินโดยเปล่าประโยชน์
-
ดูยอดขายรถของเดือน กันยา กับ สิงหา ทำไมยอด เทียน่าตกเยอะจัง
-
เพื่อนผมก็บอกว่าที่บ้านก็อยากได้
แต่
ติดแก๊สไม่ได้
จบข่าว!!!
(จนกระทั่งป่านนี้เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้ออะไรมาแทนโคโรลลาสามห่วงคันเก่าที่มีแต่ใช้ ไม่มีถนอม)
-
ผมเป็นคนนึงที่ได้ไปลองขับมาแล้วพูดตรงๆว่าชอบมากกับการตอบสนองของตัวรถเองและการออกแบบ คือตัว EX เองพยายามทำให้ตัวมันเองเข้าใกล้หรือเทียบเท่ากับมาตรฐานของรถยุโรป คือ"ไม่ทำเกินแต่ทำในสิ่งที่จำเป็นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดครับ" ใช่ว่าจะมีแต่ EX เท่านั้น Mazda 3 ผมก็ชื่นชอบด้วยเช่นกันรวมถึงเจ้า Focus ด้วย นี่ถ้าอนาคตผมมีกำลังหละก็จะสอยมาเป็นคู่หูคู่ใจให้ได้เลย 555
-
ทำเครื่อง 1.8 มาใหม่
จัดเกียร์ MT เข้าไป
แล้วบรรจงยัด LPG จากโรงงาน ;D
-
เลิกไปเลยก็ดี เอ้ยไม่ช่าย!!!!!
ผมว่าถ้าปรับปรุงให้มีรุ่น CNG แล้วให้ของแถมมาเยอะกว่านี้หน่อยก็น่าจะขายได้นะครับ
ผมว่าภายในมันดูทึมๆ ไม่มีลูกเล่น (เมื่อเทียบกับคู่แข่ง) น่าจะทำอะไรให้มันดูน่าสนใจกว่านี้ครับ
แต่ถ้าจะลงเครื่อง 1600 ก็ต้องขายแทน New Lancer ไปเลย
-
ผมคนนึงล่ะที่สนใจ EX อยู่ ::)
พอมาเห็น Option ของ Cruze แล้ว :o
ก็ชะลอดูสถานการณ์ทันทีเลยครับ ;D
-
เชพ ฟอร์ด มิตซู มาสด้า ต้องให้ 4 แบรนด์เหล่านี้ทำให้ยอดขายของ Toyota Honda ลดลงให้ได้ แต่ในทางธุรกิจร่วมมือกันไม่ได้แน่นอนถ้าอยากจะขายให้ได้เยอะๆ มีวิธีคือการพัฒนาแบรนด์โดยยกระดับ ภาพลักษณ์ให้ได้ และทำให้เป็นที่รู้จักโดยการฆษณานี่แหละ หรือไม่ออกบูซร่วมกัน
-
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน
ไม่ได้กวนนะครับ
แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น
ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย
ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี
แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง
ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน
(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)
-
ก็จริงนะครับ
ถ้าคนมองที่รถตลาด ก็คงไม่มอง EX
ผู้หญิงก็ไม่มอง เพื่อนผู้หญิงผมนี่ หลายๆคนก็บอกว่า EX ไม่สวยเลย
โฆษณาก็ไม่ค่อยดี สู้ Civic Altis MZ3 ไม่ได้
คนที่มองหาความคุ้มค่า เจ้า Cruze กับ Focus ก็น่าสน แถมมีESPอีก
ออฟชั่นEX ก็น้อย
ผมว่าMitsu ต้องทำการบ้านหนักแน่ๆ ไม่งั้นก็เตรียมสตาฟรถไว้ดูเล่นได้เลย ขายไม่ออก เอิ๊ก
อย่างน้อยผมว่าเพิ่มเกียร์ธรรมดา ในรุ่น1.8 (มันไม่ได้ต้องใช้ทุนอะไรมากมายนี่นา) ก็ยังพอทำให้คนอยากได้เกียร์ธรรมดาจาก รถ C-Seg หันมามองได้ ยังไงมันก็เข้าสไตล์ผู้ชายวัยรุ่นอยู่แล้ว ปรับออฟชั่นมาให้รับได้หน่อย ถ้ามีตังผมก็ซื้อ EX นะ เอิ๊ก
-
เห้ออออออออออออออออออ เหนื่อยใจแทนครับ
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว
น่าจะลองทำ Evo X ประกอบในไปเลย
ขายอย่าเกินสองล้านนะ รับรองอาจจะได้เห็นยอดขายงามๆ
หรือไม่ก็ 2.0 Turbo จูนให้ได้สัก 204 แรงม้านะ(จะได้ไม่ต้องเสียภาษีอีกอัตรา)
มาแบบนี้อย่าเกินล้านห้า วัยรุ่นคิดจะซื้อเทียน่า คัมรี่ คิดหนัก
ส่วนรุ่นล่างๆ น่ะ ใส่ไปเห่อะ ออฟชั่นมีประโยชน์ไม่มีประโยชน์ ใส่ๆ ไป
คนไทยเห็นว่าเยอะเอาหมดแหล่ะ เชื่อผม
ส่วนเกรดของวัดสุผมว่าพอกันแหล่ะ
แต่ Ex มันดูโล่งไป มันเลยดูไม่คุ้มครับ
-
ผมว่าMitsu ต้องทำการบ้านหนักแน่ๆ ไม่งั้นก็เตรียมสตาฟรถไว้ดูเล่นได้เลย ขายไม่ออก เอิ๊ก
อย่างน้อยผมว่าเพิ่มเกียร์ธรรมดา ในรุ่น1.8 (มันไม่ได้ต้องใช้ทุนอะไรมากมายนี่นา) ก็ยังพอทำให้คนอยากได้เกียร์ธรรมดาจาก รถ C-Seg หันมามองได้ ยังไงมันก็เข้าสไตล์ผู้ชายวัยรุ่นอยู่แล้ว ปรับออฟชั่นมาให้รับได้หน่อย ถ้ามีตังผมก็ซื้อ EX นะ เอิ๊ก
ผมเกรงว่าถ้าเขาไม่ตั้งใจขายมากกว่านี้ อนาคตเราอาจได้เห็น "นิวแซยิด"
-
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน
ไม่ได้กวนนะครับ
แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น
ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย
ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี
แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง
ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน
(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)
ความเห็นตรงกับผมเลยนะ ผมก็ไปทริปทดลองขับ ยาวๆ ไปถึง แหลมฉบังเหมือนกัน ความรู้สึกมันดูจะต่างกับคนอื่นพอสมควร เลยไม่ได้เขียนความเห็นร่วมในรีวิวด้วยนะ
ที่ชอบมากๆ คงเป็นเรื่องพวงมาลัยที่น้ำหนักดี นิ่งใช้ได้เลย มากกว่า เครื่องกับเกียร์ก็โอเค อาจจะรู้สึก อืดๆ บางครั้งเพราะ CVT มันหลอกว่าไม่เร็ว แต่จริงๆ ก็เร็วใช้ได้นะ ตัว2.0 นี่่เร็วกว่ารถผมแน่นอน คำว่าดีที่สุดในกลุ่ม อันนี้ ถ้าถามผมผมให้เฉพาะ ตัว 2.0 gt น่าจะได้ แต่ 1.8 ยังไม่ใช่แน่นอน ย้วยกว่าอย่างชัดเจน ช่วงเด้งรีบาวน์ก็เยอะ และมันยังเทียบกับรถราคาหลายๆ ล้านไม่ได้ครับ
รถก็ดีนะ ทำไม ชอบมีคนมองในแง่ลบกับมันจัง แต่งก็สวยดีออก รถก็ไม่โหล คนใช้ก็น่าจะพอใจกับสมรรถนะนะครับ "ไม่ลองไม่รู้ครับ" ใครจะพูดยังไงก็ช่างเถอะ 8) 8) 8)
-
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน
ไม่ได้กวนนะครับ
แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น
ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย
ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี
แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง
ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน
(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)
ความเห็นตรงกับผมเลยนะ ผมก็ไปทริปทดลองขับ ยาวๆ ไปถึง แหลมฉบังเหมือนกัน ความรู้สึกมันดูจะต่างกับคนอื่นพอสมควร เลยไม่ได้เขียนความเห็นร่วมในรีวิวด้วยนะ
ที่ชอบมากๆ คงเป็นเรื่องพวงมาลัยที่น้ำหนักดี นิ่งใช้ได้เลย มากกว่า เครื่องกับเกียร์ก็โอเค อาจจะรู้สึก อืดๆ บางครั้งเพราะ CVT มันหลอกว่าไม่เร็ว แต่จริงๆ ก็เร็วใช้ได้นะ ตัว2.0 นี่่เร็วกว่ารถผมแน่นอน คำว่าดีที่สุดในกลุ่ม อันนี้ ถ้าถามผมผมให้เฉพาะ ตัว 2.0 gt น่าจะได้ แต่ 1.8 ยังไม่ใช่แน่นอน ย้วยกว่าอย่างชัดเจน ช่วงเด้งรีบาวน์ก็เยอะ และมันยังเทียบกับรถราคาหลายๆ ล้านไม่ได้ครับ
รถก็ดีนะ ทำไม ชอบมีคนมองในแง่ลบกับมันจัง แต่งก็สวยดีออก รถก็ไม่โหล คนใช้ก็น่าจะพอใจกับสมรรถนะนะครับ "ไม่ลองไม่รู้ครับ" ใครจะพูดยังไงก็ช่างเถอะ 8) 8) 8)
อ่านแล้วพาลคำนึงไปถึง Mazda 2 หรือ Fiesta ด้วยจังเลยครับ ว่ารุ่นท๊อปช่วงล่างสปอร์ตมันดีกว่ารุ่นล่างจริงๆ
ใช้ 2 รุ่น M/T อยู่ เกาะถนนดีกว่าคู่แข่งก็จริง แต่ยังห่างไกลจากคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับรุ่นท๊อป
อยากจะขับรถช่วงล่างดีๆ ต้องซื้อแต่รุ่นท๊อปแพงๆ แฮะ เศร้าเลย
-
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน
ไม่ได้กวนนะครับ
แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น
ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย
ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี
แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง
ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน
(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)
ความเห็นตรงกับผมเลยนะ ผมก็ไปทริปทดลองขับ ยาวๆ ไปถึง แหลมฉบังเหมือนกัน ความรู้สึกมันดูจะต่างกับคนอื่นพอสมควร เลยไม่ได้เขียนความเห็นร่วมในรีวิวด้วยนะ
ที่ชอบมากๆ คงเป็นเรื่องพวงมาลัยที่น้ำหนักดี นิ่งใช้ได้เลย มากกว่า เครื่องกับเกียร์ก็โอเค อาจจะรู้สึก อืดๆ บางครั้งเพราะ CVT มันหลอกว่าไม่เร็ว แต่จริงๆ ก็เร็วใช้ได้นะ ตัว2.0 นี่่เร็วกว่ารถผมแน่นอน คำว่าดีที่สุดในกลุ่ม อันนี้ ถ้าถามผมผมให้เฉพาะ ตัว 2.0 gt น่าจะได้ แต่ 1.8 ยังไม่ใช่แน่นอน ย้วยกว่าอย่างชัดเจน ช่วงเด้งรีบาวน์ก็เยอะ และมันยังเทียบกับรถราคาหลายๆ ล้านไม่ได้ครับ
รถก็ดีนะ ทำไม ชอบมีคนมองในแง่ลบกับมันจัง แต่งก็สวยดีออก รถก็ไม่โหล คนใช้ก็น่าจะพอใจกับสมรรถนะนะครับ "ไม่ลองไม่รู้ครับ" ใครจะพูดยังไงก็ช่างเถอะ 8) 8) 8)
อ่านแล้วพาลคำนึงไปถึง Mazda 2 หรือ Fiesta ด้วยจังเลยครับ ว่ารุ่นท๊อปช่วงล่างสปอร์ตมันดีกว่ารุ่นล่างจริงๆ
ใช้ 2 รุ่น M/T อยู่ เกาะถนนดีกว่าคู่แข่งก็จริง แต่ยังห่างไกลจากคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับรุ่นท๊อป
อยากจะขับรถช่วงล่างดีๆ ต้องซื้อแต่รุ่นท๊อปแพงๆ แฮะ เศร้าเลย
ไม่หรอกครับ ยังไงพื้นฐานของช่วงล่างมันก็เหมือนกันครับ เอาไปเพิ่มช็อคอัพดีๆ เหล็กกันโคลง ดีๆ ซักชุด มันก็วิ่งดีจนยิ้มออกได้เหมือนกันครับ
" เลือกสิ่งที่เหมาะกับเราครับ " ขอบคุณครับ
-
ที่โรบินสันเชียงใหม่ มี EX ออกบูทโชว์จอดอยู่หน้าร้านไอติม เซเวนเซ่น ผมไปนั่งกินราวๆ 30 นาที
ขอบอกว่า แทบไม่ค่อยจะมีคนเข้าไปดูเท่าไหร่เลยครับ เงียบเหงามาก...
-
ช่วยไม่ได้ ตอนโปรดักซ์ตัวเองใหม่ๆคนสนใจเยอะ ก็เอามาขายไม่ทัน
ตอนนี้ยี่ห้ออื่นมีของดีกว่า ใหม่กว่า สดกว่า
อันนี้ก็ดูจืดไปเป็นธรรมดา
-
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ ถือว่าเร็วดี
ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า
ติชมไปเลยครับ ชอบๆ ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป มั้ง :D
-
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ ถือว่าเร็วดี
ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า
ติชมไปเลยครับ ชอบๆ ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป มั้ง :D
ผมว่าก็จริงนะครับ คงเพราะมันมาทีหลัง เลยคาดหวังกันว่ามันน่าจะเริดกว่านี้ 55
-
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ ถือว่าเร็วดี
ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า
ติชมไปเลยครับ ชอบๆ ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป มั้ง :D
คิดเหมือนกันว่าหุ่นมัน Upper C segment จริงๆ นะ นี้ก็เป็นข้อดี ที่ดีมากๆ ข้อนึงเลยนะคับ
-
ผมว่า Option มันขาดไปในจุดที่สำคัญพอดี คือกระจกขึ้น Auto นี่แหละ แต่ ถ้าได้ลองใช้มัน กระจกบานคนขับ Only จะมีมอเตอร์ที่แรงกว่าบานอื่นๆครับ ผมจับเวลาดู การขึ้นลงของกระจกบานคนขับมัน < 4 วิ ครับ ถือว่าเร็วดี
ที่สนใจซื้อน้องหลามก็เพราะด้วย Performance ของรถ + ขนาดของมัน ถือได้ว่าเป็น Upper C secment หลายๆท่านบอกว่าพื้นที่ด้านหลังใหญ่พอๆกับ accord รุ่นเก่า
ติชมไปเลยครับ ชอบๆ ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นไม่มีอันไหนไม่มีข้อเสียแหละครับ แต่ผมแค่รู้สึกเล็กๆว่า น้องหลามจะโดนโจมตีมากกว่าทุกรุ่น คงเป็นเพราะหลายๆท่านคาดหวังกับรุ่นนี้มากเกินไป มั้ง :D
สำหรับผมถ้าดู performance อย่างเดียวผมก้อคงเลือกเจ้าฉลามน้อย แต่อย่างว่าคนเราซื้อรถก้อดูการใช้งานเป็นหลัก
ทุกวันนี้ผมต้องเปิดกระจกข้างคนขับขึ้นลงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งตอนเข้าออกทำงาน และผมจะหงุดหงิดถ้ามันไม่ออโต้ และเวลาจอดรถผมต้องพับกระจกทั้งสองข้างอยู่ตลอด มันดูกลายเป็นจุดใหญ่ไปเลย สำหรับบางคนที่เห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก
ส่วนตัวผมชอบเจ้าหลาม แต่ถ้าให้ซื้อคงต้องคิดดูก่อน ผมว่าเป็นอย่างนี้ทุกคน ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนแปลงละก้อ จุดอื่นผมไม่สนใจมากเท่ารัย เรื่องภายในหรืออะไรก้อตาม ผมขอแค่ 2 ข้อนี้ ถ้าแก้ได้ เจ้าหลามน้อยได้มาจอดในบ้านผมแน่นอน...
-
สำหรับผม ผมคิดว่าน่าจะมีรุ่น 1.6 มาเป็นอีกทางเลือกนะครับ...mass มันอยู่ที่ 1.6 นี่แหละครับ
-
สำหรับผม ผมคิดว่าน่าจะมีรุ่น 1.6 มาเป็นอีกทางเลือกนะครับ...mass มันอยู่ที่ 1.6 นี่แหละครับ
ความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้ามี 1.6 ผมคนนึงแหละไม่เลือกแน่นอน สำหรับ EX 1.6 ผมว่า ไปเล่น festa ดีกว่าหรือรถเล็กรุ่นอื่นดีกว่า
-
ยังไงผมก็เชื่อว่า จะต้องมีจับตลาดล่างมาสักวันแน่ๆ เพราะ New Lancer มันอยู่เกินอายุตลาดไปนานแล้ว ไม่มีทางที่มันจะอยู่ตลอดไปหรอกครับ ยิ่งตัวรถขายตลาดบนไม่ออกแบบนี้ ยังไง MMTh ก็น่าจะหาทางรอดให้ได้ทางใดทางหนึ่ง ยกเว้นเสียแต่ว่า จะมี Colt Sedan มาขายแทน New Lancer (ซึ่งก็คงจะยากอยู่ดี)
-
ที่ต่างประเทศเค้าใช้ตัว 1.5 ลิตรกันครับ ผมว่าถ้าตัวนี้มาก็น่าสนใจเหมือนกัน ประหยัดน้ำมัน แต่เค้าคงคิดว่าให้ new lancer ทำตลาดสู้รถเล็กไปแล้วมั้งครับ
-
รถจะขายดี มันไม่ได้อยู่ที่ตัวรถอย่างเดียวหรอกครับ
มิตซูบิชิยังมีหลายอย่างที่ต้องทำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของแบรนด์ให้กลับมาอยู่ในใจลูกค้าให้ได้
อย่างที่ผมเคยเล่าๆ ไป ว่าความประทับใจมันเกิดขึ้นตั้งแต่เราเดินเข้าบูธที่มอเตอร์โชว์ หรือโชว์รูมแล้ว
ต่อเนื่องไปถึงการเปิดตัว การแนะนำบุคลิกของรถ การต้อนรับขับสู้ของพนักงานขาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ แล้วก็ตัวรถเอง
ซึ่งถ้าให้ผมมองอย่างตรงไปตรงมา (ท่านไหนจะไม่เห็นด้วยก็ได้นะครับ) มันยังมีอีกหลายจุดให้พัฒนา
หน้าตาโชว์รูมที่ยังเป็นแบบเก่า การต้อนรับลูกค้าของพนักงานขายก็เป็นแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ
โชว์รูมในกรุงเทพฯ และตัวเมืองต่างๆ ก็หายไปทีละแห่งสองแห่ง
การโหมโฆษณาก็ประชาสัมพันธ์ในแบบรถขับสบายให้ผู้หญิงใช้ ซึ่งขัดกับบุคลิกของรถที่ออกสปอร์ตสื่อถึงผู้ชายวัยเริ่มทำงานมากกว่า
ตอนเปิดตัวที่ดอนเมืองก็เปิดมาแบบสปอร์ต ขัดกันกับโฆษณาตอนหลังๆ อีก
คนขึ้นไปทดลองขับ เจอวัสดุหลายอย่างในรถ รวมถึงรายละเอียดการประกอบที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันด้อยกว่าคู่แข่ง ก็ติดลบเพิ่มไปอีก
แล้วจะว่าไป Lancer EX นี่เปิดตัวตลาดทั่วโลกมาตั้งนานสองนานแล้ว รถมันก็ไม่ได้ใหม่แล้วล่ะครับ
เพราะฉะนั้น ยากมากที่จะอัดออพชันหั่นราคาแล้วสร้างยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ต้องพัฒนาสิ่งต่างๆ รอบตัวให้ดีขึ้นควบคู่กันไปด้วย เรื่อง Brand Personality เป็นสิ่งที่มิตซูต้องนำกลับไปทำการบ้านอีกเยอะครับ
-
ผมใช่Ex 1.8 Ltd อยู่ครับ ผมว่ามันก็ไม่ได้อืดมากนะครับ(ช่วงออกตัว) แต่ตีนปลายนี่สุดยอดครับ ที่ความเร็วสูงรถนิ่งดีมากๆพวงมาลัยนิ่งมาก(ที่ความเร็ว130ขึ้น) เกาะถนนเวลาเข้าโค้งดีกว่า altis mc และ civic FD ครับ ภายในผมว่าก็ไม่ด้อยกว่านะครับ วัสดุเบาะหนังนี่ดีกว่า พลาสติกตรงคอนโซลและประตูผมว่าก็พอๆกัน(แต่ต่าง BMW X3 ชัดเจน) การตกแต่งภายในดูสปอร์ตดีครับ(ผมชอบมากกว่า) เรื่องอ๊อปชั่นนี่ถ้าติดตัวG9แล้วนี่สุดยอดครับของเล่นเยอะ ความกว้างของห้องโดยสารกว้างกว่าaltis(ไม่เชื่อดูที่ตัวเลขความยาวฐานล้อจากล้อหน้าถึงล้อหลัง) leg room กว้างกว่าครับ ราคาผมว่าก็ไม่ได้แพงกว่าคู่แข่ง ตัวท๊อป1.8นี่ถูกกว่าaltisและFDเพียงแต่ตัวล่างสุดราคาแพงกว่า Ex1.8มีแค่3รุ่นย่อย) เรื่องอะไหล่ถ้าของแท้ในศูนย์ไม่ต่างกัน
ส่วนข้อเสียคือกินน้ำมันกว่าเล็กน้อย ย้ำเล็กน้อย(ไม่รวมถ้าเติมE85ครับ) เก็บเสียงในห้องโดยสารไม่ดี ไม่มีกระจกข้างพับไฟฟ้า และที่สำคัญสำหรับหลายคนคือราคาขายต่อหวบครับ
ปล.ที่บ้านไม่ได้รวยแต่มีรถคนละคันเพราะทำงานคนละที่ มีcivic FD ,altis mc, CRV (gen3) 2.0sและ2.0e, jazz ตัวแรก, BMW X3 2.0d และล่าสุด Ex ครับ ก่อนซื้อพาทุกคนไปดูและลองขับมาหมดและครับ ทุกคนที่บ้านลงความเห็นเป็น black Ex 1.8 Ltd (ขับไปกับแม่ที่140 แม่ไม่บ่นซักคำเพราะมันรู้สึกนิ่งมาก ปกติขับเร็วแม่จะบ่นมาก)
ปล.แต่สองขายต่ออีกเจ็ดปีข้างหน้าทุกคนอาจจะเกลียดมันก็ได้ครับ อิอิ ;D
-
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน
ไม่ได้กวนนะครับ
แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น
ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย
ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี
แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง
ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน
(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)
ถือเป็นอีกความเห็นหนึ่ง ที่มจะขอรับฟังไว้แล้วกันนะครับ ในฐานะ "ขาประจำ"
แต่ในฐานะที่ ชีวิตผม ผ่านรถมาแล้ว..ผมว่าน่าจะ มี 200 คันขึ้นไปแล้่ว
ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น ตั้งแต่คันละไม่กี่แสนบาท จนถึงคันละ 20 กว่าล้านบาท
บอกได้ว่า ช่วงล่างของ EX ณ วันนี้ ดีที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่นกลุ่มเดียวกัน
และแน่นอนว่า มันอาจจะไม่ได้ถึงกับดีเลิศประเสริฐศรี อย่างที่คุณตั้งใจ
แต่ ถ้าจะต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน และหักหลบสิ่งกีดขวาง
EX จะมีอาการท้ายอกน้อยกว่า Mazda 3 นิดหน่อย ครับ
ขณะเดียวกัน การเข้าโค้ง Mazda 3 ด้านหน้าจะจิกโค้งมากกว่า EX นิดหน่อยครับ
-
ผมใช้ Focus 1.8 อยู่ครับ
ผมมีความคิดเห็นดังนี้
Lancer EX เป็นรถที่ดีมากด้านช่วงล่าง และดีที่สุดในบรรดารถที่ราคาไม่เกิน 1500k(สำหรับการใช้งานแบบทุกพื้นผิวถนน และสภาวะการใช้งานที่หลากหลาย)
เครื่องยนต์ก็ไม่ถือว่าอืดมากนักเมือเทียบกับ Focus 1.8 ที่ผมใช้ และสำหรับคนที่เท้าไม่หนัก
เรื่องรูปทรง....ต้องบอกว่า
" Design รถแบบนี้ล่ะ ใช่เลย " สำหรับผมนะ
Function ในรุ่น Top ถือว่าให้อะไรมาคุ้มค่าไม่แพ้กลุ่ม
ข้้อเสนอแนะ (ในฐานะที่ผมยังชอบ และอยากเห็น Lancer EX วิ่งบนถนนมากขึ้น)
1. น่าจะมีรุ่นเกียร์ Manual และซอยรุ่นเพิ่มขึ้นซัก 2-3 รุ่น
2. ถ้าลดน้ำหนักรถ. ให้ต่ำกว่านี้ซัก 100-150 Kg. ผมว่ามันจะเป็นรถที่เครื่องแรงและประหยัดน้ำมันมากๆ :o :o
3. กล้าที่จะให้ความมั่นใจกับลูกค้ามากกว่าที่เป็นอยู่ เหมือนกับตั้งราคาขายเพื่อขอความมั่นใจจากผู้ซื้อ (ผมมีความรู้สึกว่าจะผลักภาระเรื่องต้นทุนมาให้ผู้ซื้อมากเกินไป)
ลองนึกเล่นๆนะครับ ถ้า Mitsu ลงทุนปรับปรุงภาพลักษณ์ของศูนย์ด้วยการทาสีใหม่ทั่วประเทศ
โฆษณาชูสมรรถนะ และแคมเปญให้ตรงจุด และกล้าที่จะเป็นผู้นำมากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้ตาม เชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่ขายดีอีกรุ่น
เหมือนๆที่ Ford กำลังเริ่มทำ(แบบกล้าๆกลัวๆ เหมือนร้านโชว์ห่วยขึ้นห้าง)
4. กล้าที่จะเป็นผู้นำมากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้ตาม
ลองคิดดูนะว่าขณะนี้ Mitsu มีจุดแข็งในเรื่องใด ?
Mazda กล้าที่จะเป็นผู้นำแห่งการ Design ด้วยรูปทรงไฉไลแนว Z Z
Ford (พึ่ง)กล้าที่จะเป็นผู้นำรถที่ให้ Function และสมรรถนะมากกว่าคู่แข่งในพิกัดเดียวกัน และกล้าที่จะแข่งขันงาน Design
Honda กล้าจะเป็นผู้นำเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้รูปลักษณ์ที่ทันสมัย ราคาไม่แพง
Nissan กล้าที่จะเป็นผู้นำเรื่องความอลังการของ Pickup คันโต เครื่องเล็กแต่แรงงงง และกล้าที่จะเปิด Eco Car จ้าวแรก !!! ราคาไม่แพง
Toyota คงไม่ต้องอธิบาย..
Chev กำลังรวบรวมความกล้า....
Mitsu ???????????? เป็นรถที่ช่วงล่างดีนะ นอกนั้นยังไม่เด่นเรื่องใดเป็นพิเศษ มีเพียงกระบะ New look และ PPV new look แต่ขาดการสานต่อเต็มอัตรา
สิ่งที่เป็นจุดแข็งของแต่ละค่าย... คือจุดขายที่แต่ละค่ายได้รับเช่นกัน
โดยเฉพาะเมืองไทยเรา การทำตลาดอะไรซักอย่างให้ขายได้..
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เว้นเสียแต่..คุณวางระบบการตลาดแบบ
ลด-แลก แจก..แถม บริการถึงที่... เครมง่าย... จ่ายเร็ว.... มีปัญหา..เปลี่ยนใหม่ภายใน 7 วัน
รับประกัน ไม่พอใจยินดีคืนเงิน.. ซ่อมฟรีตลอดชีพ ...
ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองยอดขายชนะ TOYOTA ทุกรุ่น ทุกพิกัด ทุกประเภท ;D ;D ;D
;D ;D
-
ผมว่าตอนนี้ Lancer Ex นอกจากคนใน web เราที่สนใจ เพราะเรารู้เรื่อง ช่วงล่าง+การควบคุม+เบรคที่ดีที่สุดในกลุ่มหรืออาจดีเท่ารถราคาหลายๆล้าน
ไม่ได้กวนนะครับ
แต่อะไรทำให้คุณมั่นใจได้ขนาดนั้น
ผมขับมาได้สองหมื่นกว่าโลแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นเลย
ผมว่ามันนิ่งดีเฉพาะทางตรงเท่านั้น ที่ความเร็วสูงๆมั่นใจดี
แต่ที่ความเร็วกลางๆถึงสูง เวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งหนักๆ ผมว่ามันอยู่ในระดับที่รับได้เท่านั้นเอง
ผมจึงคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า "ดีที่สุดในกลุ่ม" หรือเทียบกับ "รถราคาหลายๆล้าน
(คงไม่มีใครมาว่าผมไม่เคยขับรถดีๆ เลยไม่รู้อีกนะครับ)
ถือเป็นอีกความเห็นหนึ่ง ที่มจะขอรับฟังไว้แล้วกันนะครับ ในฐานะ "ขาประจำ"
แต่ในฐานะที่ ชีวิตผม ผ่านรถมาแล้ว..ผมว่าน่าจะ มี 200 คันขึ้นไปแล้่ว
ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น ตั้งแต่คันละไม่กี่แสนบาท จนถึงคันละ 20 กว่าล้านบาท
บอกได้ว่า ช่วงล่างของ EX ณ วันนี้ ดีที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่นกลุ่มเดียวกัน
และแน่นอนว่า มันอาจจะไม่ได้ถึงกับดีเลิศประเสริฐศรี อย่างที่คุณตั้งใจ
แต่ ถ้าจะต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน และหักหลบสิ่งกีดขวาง
EX จะมีอาการท้ายอกน้อยกว่า Mazda 3 นิดหน่อย ครับ
ขณะเดียวกัน การเข้าโค้ง Mazda 3 ด้านหน้าจะจิกโค้งมากกว่า EX นิดหน่อยครับ
รับทราบครับ
แต่ยังไงซะ จากประสบการณ์ตรงของผม (Mazda3 เกือบแสนกิโล EX เกือบสามหมื่นกิโล)
ผมยังให้ Mazda3 กับ Focus ช่วงล่างดีกว่า EX "ชัดเจน" ครับ
-
ผมก็ไม่รู้จะบอกยังไงดีเหมือนกัน โดยปรกติแล้วผมยังมั่นใจในช่วงล่างของมิสซู นะ ถึงแม้จะไม่สปอร์ตมากแบบ 3 ก็เถอะ แต่ถ้าจะให้ด้อยกว่าเจ้าอื่นนี่คงยากหน่อย เท่าที่เคยขับมาตัว 1.8 ผมว่าช่วงล่างก็ดีนะ พวงมาลัยก็คม แต่ที่ไม่ชอบเท่าไหร่คือการออกแบบภายในที่มันดูเป็นของราคาถูกไปเลย ไทรทัน ยังออกแบบได้ดีกว่าเลย และ option ที่น้อยไปหน่อยของจำเป็นไม่ใส่ ของไม่จำเป็นดันใส่มา ผมว่าถ้าออกแบบภายในให้ลดความทื่อลงไปบ้างก็ดี แต่ก็คงจะอนุโลมได้เพราะ Evo ก็ภายในแบบนี้เหมือนกันแหละ ยังไงก็เปลี่ยนหน้ามาใหม่ด้วยทำให้เหมือน evo ไปเลย
-
อยากจะบอกจริง ๆ ว่า คนประเทศนี้จะมีซักกี่คนที่สนใจสมรรถนะของรถป้ายแดง ...ส่วนใหญ่ที่ซื้อก็เพราะ หน้าตา ดูดี ประหยัด ซ่อมง่าย ขายคล่อง นี่เมืองไทยนะครับ .....
ex เนี่ย ผมว่าหน้าตามันผ่านเลย เวลาขับก็รู้สึกว่าดูดี แค่นั้น....สำหรับคนที่กำตังค์ไว้ เก้าแสนและมีทางเลือกในตลาด ณ ตอนนี้ และที่ผมแคร์ที่สุดคือเรื่องความประหยัด...คนส่วนใหญ่ใช้รถกันในเมืองหรือนอกเมืองครับ เอาส่วนใหญ่จริง ๆ แต่เท่าที่ผมอ่านมาตั้งแต่ปีที่แล้ว Ex ไม่เคยทำให้สบายใจเรื่องของความประหยัดเชื้อเพลิงเลย เมืองไทยไม่ใช่เศรษฐีน้ำมัน ส่วนจะไล่ให้เขาไปดมแก๊ส ผมว่ามันไม่ใช่แล้ว...ถ้าดมแก๊สแล้วเครื่องมันดีเลิศขึ้นมาเห็น ๆ ก็คงโดนจับดมแก๊สกันไปหมดแล้ว...ดังนั้นรถเดิม ๆ ต้องชี้ให้เห็นว่าถ้าคุณเติมน้ำมันคุณใช้รถแบบไม่ต้องปรับไม่ต้องแต่ง คุณก็ได้ความประหยัดมาด้วย ทำไมซีวิคมันทำได้ ทั้งที่เมื่อก่อนฮอนด้าก็ไม่ได้เลื่องลือเรื่องความประหยัดเช่นกัน...
มีแต่ Review ของ คุณ Jim ที่บอกว่ามันได้เท่านั้นลิตร เท่านี้ลิตร จนถึงต้องวนเอา Ex ไปเติมโซฮอลล์ 95 เพื่อวัดความประหยัดกันถึงสองรอบ แต่มิตซูฯ เงียบ... ไม่ได้ชูเรื่องความประหยัดน้ำมัน แต่เอาทางเลือกการเติมมาเป็นจุดขาย ไอ้ E85 86 87 อะไรเนี่ย คนต่างจังหวัดไม่รู้จักหรอกครับ ขับ E85 แล้วประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วเป็นงัย บ้านอยู่ ยุดยา จะให้ถ่อไปเติมใน กทม.เลยหรอคร้าาาบ....เจ้านาย
ขายรถในเมืองไทย...ถ้ามิตซูฯ ออกมาบอกว่า EX มันประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องอะไรมาก แค่พอๆ กับ Fd นี่ก็ยอดถล่มแล้ว ไม่ต้องมานั่งปรับปรุงภายใน ปรับกระจกพับ ด้วย ลองดูมั้ยล่ะ.... แต่ ณ ปัจจุบัน...เอาอะไรไปสู้กับคุณพ่อโต คุณแม่ฮอนล่ะครับ เขาชูเรื่องประหยัดกันตูม ๆ มิตซูฯชูเรื่องทางเลือกการเติมน้ำมัน แต่ไม่ประหยัด (เออ...อะไรวะเนี่ย) เอาช่วงล่างไปสู้เขา ใครสนล่ะครับ... รถนะครับไม่ใช่ผู้หญิง....