การระบายควมร้อนทำได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก็จะดีตาม
ชิ้นส่วนที่เกียวข้องก็จะมีอายุการใช้งานนานขึ้นอีกหน่อย
ยิ่งลดอุณหภูมิน้ำระบายความร้อนได้มากยิ่งดี
ความร้อนที่สะสมถายในเครื่องยนต์จจากการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ ถ้าหากมีมากเกินความสามารถที่ชิ้นส่วนต่างๆถายในเครื่องยนต์จะทนได้ ทำให้เกิดการขยายตัว ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนจะแคบลง การเสียดสีของผิวโลหะจะมีมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและหมดสภาพการหล่อลื่น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมรรถนะและประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานเพื่อถ่ายเทมาล้อหลังลดลง
เข้าใจผิดแล้วครับ ......
อุณหภูมิที่เครื่องยนต์แต่ละรุ่นทำงานได้มีประสิทธิภาพ ต่างกันครับ ไม่ใช่ยิ่งเย็นยิ่งดี .....
บางรุ่น 82 บางรุ่น 85 บางรุ่น 90 องศา ... ขึ้นอยู่กับสเป็กของเครื่องยนต์นั้นๆว่ามีเหล็กและอลูมิเนียมผสมอยู่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็มีผลต่อการขยายตัวและความร้อนที่เหมาะสมของน้ำมันเครื่อง กระบอกสูบ และระบบวาวล์ต่างๆด้วย ....
ถ้าอุณหภูมิยิ่งเย็นยิงดี แล้วทำไม เวลาสต๊าทเครื่องยนต์ตอนเช้า เครื่องยนต์ถึงดีดสุงไปที่ 1000รอบ ก่อนเพื่อวอมเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมก่อน ที่จะใช้งานในรอบสุง
การทำงานของวาวล์น้ำ คือ ถ้าวาวล์น้ำ 82องศา ถ้าอุณหภูมิน้ำที่วนอยู่ในเครื่องยนต์(ในเครื่องยนต์นะ ไม่ใช่ในหม้อน้ำ) สูงกว่า 82องศา วาวล์น้ำจะเปิด และวนเอาน้ำออกมา และนำน้ำที่เย็นกว่าในหม้อน้ำไหลเข้าไป .... ซึ่งสเป็กตรงนี้ ผู้ผลิตได้คำนวนมาเหมาะสมแล้ว ดังนั้น ถ้าเราไปใส่ 76องศา ทำให้เปิดเร็วกว่าเดิม ความร้อนในเครื่องยนต์ไม่เหมาะสม บางทีเย็นไป การขยายตัวในห้องเครื่องก็ต่างออกไป ก็ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอกว่าปรกติได้เช่นกัน ....
วาวล์น้ำมีหน้าที่คุมอุณหภูมิในเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมครับ .... ไม่ใช่ตัวระบายความร้อน ส่วนที่เครื่องยนต์ร้อนขึ้นกว่าปรกติถ้าอ่านจากมาตรวัด เวลาใช้งานหนัก นั่นแปลว่า หม้อน้ำระบายความร้อนของน้ำที่ออกมาจากเครื่อยนต์ไม่ทัน ต้องไปแก้ที่หม้อน้ำครับ ไม่ใช่ไปเปลี่ยนวาวล์น้ำ ....