มาตรวัดอัจฉริยะนั้นแสดงค่าได้ 8 แบบครับ ขอไล่จากซ้ายไปขวาครับ
1.ระยะทางรวม 2.ทริปA 3.ทริปB 4.วัดอัตราสิ้นเปลืองขณะนั้น 5.วัดอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย
6.ระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลือ 7.อุณหภูมิภายนอกรถ 8.ตั้งเวลา
****มาตรวัดนี้ไม่ได้ฉลาดถึงขั้นบอก Happy Birthday วันเกิดเจ้าของได้เหมือน March นะครับ เจ้า Almera คงอยากให้เพื่อนๆคุณบอกมากกว่าที่จะให้รถบอก
ละก็หน้าจอที่เตือนเข้าเพื่อเข้ารับบริการซ่อมและตรวจเช็ค ผมหาไม่เจอครับ *0*
จากภาพด้านบน
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย รถคันนี้เพิ่งออกมาวิ่งได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์ แถมใช้ในตัวเมือง จ.น่าน ที่รถไม่ค่อยติดเท่าใดนัก ทำได้ 11.2 กม./ลิตร นี่ไม่ถือว่าประหยัดเลยแหะ สำหรับรถระดับนี้ (หรือว่าเจ้าของรถ เขาขับกระทืบเป็นประจำ)
เบาะคู่หน้าของรถนั้นสามารถปรับระดับของพนักพิงศีรษะได้ เบาะคนขับจะสามารถปรับสูงต่ำของตัวเบาะได้อีก
นั่งได้สบาย ความนุ่มก็กำลังดี ลองขับสั้นๆยังไม่เมื่อย เสียแต่ไม่ค่อยกระชับตัวยามเข้าโค้งเท่าไหร่
เบาะหลังของรถ ถือเป็น High Light ของ Almera คันนี้เลยก็ว่าได้ leg room กว้างมาก เอาตรงๆเลยก็ leg room กว้างกว่า Camry ACV30 และ ACV40 ส่วนตัวเบาะก็นั่งสบาย ที่รองขาไม่สั้นอย่างเบาะหลัง Vios แต่ head room น้อยไปนิดจริงๆ เนื่องจากหลังคาส่วนหลังลาดเอียง ถ้าใครสูงเกิน 175 นั่งหลังตรงหัวจะเฉี่ยวถึงชนหลังคา ต้องนั่งไถลก้นเอานิดๆ แบบเดียวกับที่ผู้การ Cheng ทำให้ดูใน First Impression นั่นแหละครับ
แต่ยังดีที่ Nissan ไม่ลืมที่จะใส่ที่วางแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำมาให้
เสียอย่างเดียวจริงๆกับเบาะหลังเนี่ย คือมันพับลงไม่ได้ครับ แย่จริง (บ่นอีกที)
เพิ่มเติมที่ประตู ประตูบานหน้าเปิดได้กว้างดีครับ กางออกได้เกือบๆ90องศา ที่วางแขนข้างประตูก็วางได้พอดีๆ ไม่ต้องเป็นอุรังอุตังแบบในอัลติส
ประตูบานหลังเปิดได้แคบกว่าบานหน้าเล็กน้อย แต่ยังคงเข้าออกได้สะดวก ด้านล่างของประตูเป็นตำแหน่งของลำโพงคู่หลัง ติดตำแหน่งเดียวกับ
Honda City ไม่มีผิด