Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: babybigman ที่ สิงหาคม 22, 2016, 08:31:53
-
คือมีมือสองที่ชอบ
C class w204
ใช้มา 1 แสนกิโล
ซื้อมาไม่รู้ว่าจะวิ่งได้อีกเท่าไร
-
คำถามที่ไม่มีคำตอบ เพราะคำตอบมันอยู่ที่คนดูแลครับว่าจะดูแลมันดีแค่ไหน
-
ถ้าดูแลรักษาถูกต้องก็ใช้ได้อีกเป็นแสนกิโลหละครับ แต่วิ่งมาถึงแสนโลแล้วสิ่งที่ใกล้ต้องซ่อม/เปลี่ยน ก็ช่วงล่างกับเกียร์ ซึ่งถ้าทำแล้ว ก็วิ่งได้อีกเป็นแสนถึงจะต้องมาดูแลกันอีกรอบ
-
W201 อายุ 23ปี น่าจะใช้งานมาแล้วเกือบ 3แสนโล
แต่ระหว่างทาง overhaul เครื่อง เกียร์มาแล้ว 1 รอบ
หม้อน้ำ ระบบแอร์ ช่วงล่าง ทำมาหมดแล้ว
เมื่อปีกว่าที่ผ่านมา ทำสีปะผุ บูรณะภายในที่มีเสียหายตามกาลเวลา
รถมันจะยังใข้งานได้ตราบใดที่ยังดูแลอย่างดี
หากคาดหวังจะใช้แบบไม่ซ่อมเลย ต้องซื้อป้ายแดงครับ มือสองคาดเดาอะไรไม่ไ้ด้ว่าจะใช้ไปได้อีกนานแค่ไหนโดยไม่เสีย ผมซื้อมือสองมาอีกคัน สภาพดีรู้ตักเจ้าของแบบมีประวัติซ่อมบำรุง วิ่งมาแสนต้นๆ ตอนเช้าไปเอายังดีๆ ตอนบ่ายโอนเสร็จ ไฟโชว์ ควันออก ตอนเย็นไป lotus สตาร์ทไม่ติดวันแรกเลย สรุปหัวฉีดพังไปหัวนึง ใครจะรู้หละครับส่าจะเสียเมื่อไร วันไหน
-
เห็น Taxi สนามบินบอกว่าวิ่งปีละแสน แต่ไม่รู้ว่ากี่ปีเปลี่ยนที
เคยนั่ง S300 ของโรงแรมในต่างประเทศแล้วเสีย เค้าเลยเปลี่ยนเป็น E260L มารับแทน
-
R172 เพื่อนสนิทผม 40,Xxx โล สภาพดีมาก
แต่เพราะสนิทกัน รุ้ว่ามันพวกไม่ดูแลรถ เลยไม่กล้าเอา
แต่วิ่งน้อยก้อเป้นfactor สำคัญครับ
-
ใช้ได้อย่างมาก เท่าที่จะมากได้แน่นอนครับ
-
เมื่อสิบกว่าปีหรือเกือบ 20 ปีที่แล้ว จะมีคำพูดยอดนิยมว่ารถยุโรปวิ่งได้ 300,000 ต้องมีซ่อมใหญ่ (โอเวอร์ฮอลเครื่องเกียร์)
แต่พอเป็นรถรุ่นปลายปี 200x เป็นต้นมาไม่แน่ใจว่ายังจะเป็นไปตามนี้หรือไม่ เพราะอิเล็คทรอนิคเยอะกว่าก่อน
ระบบหัวฉีดที่ยุ่งยากขึ้นและระบบอัดอากาศที่เพิ่มเข้ามาเป็นอีกปัจจัย ที่ทำให้ค่าดูแลสูงขึ้นจนเจ้าของรถคิดว่า
ขายทิ้งไปซื้อรถใหม่ดีกว่า
-
คำถามที่ไม่มีคำตอบ เพราะคำตอบมันอยู่ที่คนดูแลครับว่าจะดูแลมันดีแค่ไหน
+1
-
ก็วิ่งได้เรื่อยๆถ้าซ่อมถึงครับ
รถเบนซ์สมัยนี้ ระบบไฟฟ้ามันมากกว่าเก่าไปเยอะมาก ดูแลดีแค่ไหนก็ต้องมีเอามาซ่อมอยู่แล้ว จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่โชคชะตาจะพาไป
ที่ผมว่าคนทั่วไปลืมมองเวลาซื้อรถพวกนี้คืออะไหล่สอ้ยเปลืองที่เสียแน่ๆ เช่น โชคอัพ ไดชาร์จ คอมแอร์ ผ้าเบรค พัดลมไฟฟ้าหน้าเครื่อง อะไหล่ช่วงล่างต่างๆ ฯลฯเวลาใช่ไปแล้วเสียหมดอายุมันไม่ถูกเหมือนรถยี่ปุ่นแน่ๆครับ
คือถ้ารับราคาอะไหล่สิ้นเปลืองใหม่ได้ คงไม่ยากจะรับค่าดูแลที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ
แต่จะหวังว่าไม่ซ่อม ไม่เสีย ไม่มีปัญหาในช่วงห้าหกหมื่นโลคงยากหน่อยครับ มันต้องโดนแน่ๆ แค่จะหนักแค่ไหนเท่านั้นเอง
ผมเจอระบบกุญแจเสียผมก็ถอดใจแล้ว รถเบนซ์ใหม่ๆสตาร์ทไม่ติดแถวมวกเหล็ก ใครเดินผ่านมันก็มองก็มาถาม เหนื่อย เบื่อ เซง ลาขาดเลย เอาไว้มาทำกุญแจไขสตาร์ทเมื่อไหรผมจะกลับมาใช้
-
ดูแลขับขี่อย่างรอบคอบ ระมัดระมังในการดูแลให้ถูกต้องครบถ้วนตามโรงงานแนะนำ ก็วิ่งได้นานถึงนานมากครับ
E-Class 270 CDI ปี 2003 แท็กซี่ที่กรีซ 1ล้านกิโลเมตรตามเลขไมล์
http://www.leftlanenews.com/greek-taxi-driver-hits-1-million-kilometers-with-2003-mercedes-e-class.html
MAYBACH 2004 1 ล้านกิโลเมตรตามเลขไมล์
http://www.carbuzz.com/news/2014/3/9/2004-Maybach-Covers-One-Million-Miles-and-Then-Some-7719085/
-
คือมีมือสองที่ชอบ
C class w204
ใช้มา 1 แสนกิโล
ซื้อมาไม่รู้ว่าจะวิ่งได้อีกเท่าไร
W203 ของผมวิ่งมาแล้วสามแสนกิโล เครื่องยนต์ยังแน่น เพิ่งเอาไปเช็กมา แรงดันลูกสูบยังปกติ ช่างบอกว่าลูกสูบ แหวน กระบอกสูบยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถามเจ้าของอู่เบนซ์สุขุมวิท47 เขาบอกว่าเบนซ์บางคันที่ไปเซอร์วิสซ์กับเขาวิ่งมาเจ็ดแปดแสนกิโลแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาครับ
-
ช่างเบนซ์ที่ซ่อมให้ผมประจำบอกเสมอรถเบนซ์ เครื่องเบนซ์ ถ้าใช้แบบไม่โหด สี่แสนโลขึ้นไปค่อยคุยเรื่องเครื่องหลวม
ทุกวันนี้12ปีแล้วเครื่องยังแน่นอยู่เลย เสียงเวลาเร่งยังเหมือนตอนป้ายแดง ผมมองว่า ซ่อมถึง เน้นเปลี่ยนไม่เน้นซ่อม มันก็วิ่งได้ของมันไปได้เรื่อยๆเฟิมๆของมันนะ ของแฟนผมE200 kom ที่ทุกคนกลัวเรื่องkompressorเสีย ทุกวันนี้รถไมล์29x,xxxแล้ว ตัวkompressorยังไม่เคยมีปัญหาถึงกับต้องยกเครื่องเลย ถือว่าโชคดีจริงๆ ถ้าเป็นเครื่องปกติไม่มีอัดอากาศ หรือ เทอร์โบเกี่ยวข้องน่าจะอึดกว่านี้อีกนะ
-
ใช้ได้เรื่อยๆครับ หลายแสนโลก็ได้ถ้าซ่อมถึง แต่จะหนักหน่อยจำพวกระบบไฟฟ้าอีเล็คทรอนิคส์ ถ้าเป็นรุ่นหลายๆปีหน่อยอะไหล่มือสองหรืออะไหล่วัดโสมก็มีเยอะ หรือถ้าพวกระบบไฟฟ้าบางอย่างก็มีคนรับซ่อมแล้วครับ