Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 6229 ที่ กันยายน 25, 2020, 00:29:54
-
ไปเจอใน social เค้าดิสคัสกันว่า camry/accord นี่ค่า maintainance ประกัน ฟิล์ม ของเหลว ค่ายาง ค่าเชคระยะนี่ พอกับ bmw ตัวเรื่มๆเช่น x1, series3 ที่มี bsi เลยหรอครับ
แล้วถ้าใช้ยาวๆ 8-10 ปีนี่cost of ownership จะต่างกันมากไหมครับ
-
ในกรณีที่ยังมี BSI มันก็ถูกของเขาครับ แต่ถ้าหมดแล้ว คนละเรื่อง ยิ่งในระยะยาว 8-10 ปี ผมว่าต่างกันเป็นเท่าตัว เวลามันเริ่มเก่า เชคระยะแต่ละที 2 หมื่นบ้าง 5 หมื่นบ้าง
-
BMW ที่มี BSI มันแทบจะมีค่าใช้จ่ายแค่เติมน้ำมันอย่างเดียวครับ
ถ้าเบี้ยประกันก็จะสูงกว่า D Segment พอประมาณครับ
-
มี bsi มันแทบไม่ต้องจ่ายอะไรอยู่แล้วนี่นา หมด bsi เมื่อไหร่ ก็ สยอง กัน ล่ะครับ ถ้าเข้าศูนย์
-
ค่าใช้จ่าย camry แพงกว่า vios แต่ถูกกว่า benz bm เยอะครับ
ใช้ 10 ปีจะยิ่งเห็นความต่างเยอะ
ที่สำคัญความถี่ในการจอด d seg น้อยกว่าเยอะครับ ยกเว้นเปลี่ยนทุก 5 ปีแล้วซื้อ bm bsi 5 ปี อาจจะต่างชัดๆที่ค่าประกันชั้น 1
-
อย่าลืมว่าพวกรถยุโรปเวลามันรวนแล้วมันเข้า safe mode เลยนะ ต้องขึ้นรถยกอย่างเดียว
-
โอ้ย ยุโรป เยอะกว่าเยอะครับยกเว้นว่าใช้แค่ 5 ปีอะครับเพราะมันฟรีแต่หลังจากเหอะเข้า 0 ทีก็เจ็บอะครับ
-
ค่า maintenance JAP D-seg Standard Brand ถูกกว่า Euro เริ่มต้น ทุกอย่าง!!
ค่าแรงก็ถูกกว่า ค่าของเหลวต่างๆ ก็ถูกกว่า ถ้าไม่เอา BSI มารวม คือ จ่ายกับจ่ายเหมือนกันนะ
ที่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ JAP "จุกจิกน้อยกว่า!!"
-
จากที่เคยส่องๆ ค่าใช้จ่ายเช็คระยะแบบไม่มี Cost Support ตามคลับแบรนด์พรีเมี่ยม
เทียบกับ Space Wagon อายุขัย 12 ปีที่รวมรายการสารพัดน้ำยาที่ไม่จำเป็น
ผมยังว่า Space Wagon ผมถูกกว่าอยู่นะครับ
-
สมัยก่อนมีรถ C200 Kom w204 ปี 2008 ซื้อหลัง ACV40 ปีเดียว คิดค่า"ซ่อม" แล้วเท่าๆกัน
C200 Kom เครื่อง มีแค่หัวเทียนกับคอยล วิ่งไปแปดแสนโล
Camry ชุดโซ่ ฝาวาวล์ เฟืองเพลาบาลานซ์ ตัวตั้งสายพาน เปิดซ่อมซีลเสื่อม และพวกช่วงล่างอีก ที่ต้องทำแสนกว่าโลครั้ง
แต่รุ่นใหม่W204 180 CGi ซ่อมหนักกว่าหลาย
ใหม่กว่านั้น ซ่อมแบบรีบใช้รีบขายทิ้งเลยครับ
-
อย่าลืมว่าพวกรถยุโรปเวลามันรวนแล้วมันเข้า safe mode เลยนะ ต้องขึ้นรถยกอย่างเดียว
ประเด็นนี้สำคัญกว่า ค่าใช้จ่ายอีกครับ ;D
-
ค่าซ่อมยุโรปรุ่นใหม่แพงมากนะครับ ผมมีแคมรี่ปี 08 ซ่อมใหม่แบบยกช่วงล่างใหม่หมดจ่าย 5x,xxx ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ได้แค่เปลี่ยนชุดเบรค Cls 250 แค่ชุดเดียวเอง หรือเทียบกับวอลโว่ XC60 ตัวใหม่ก็ได้กระจกหน้าบานเดียวเท่านั้น
อย่าว่าไรเลยครับ แค่กุญแจหล่นหายยังล่อไป 2x,xxx บาท
-
ว่ากันที่ห้าปีใกล้เคียงครับสมมุติเล่นๆว่า d seg ตัวท๊อปก็ล้านปลายๆแล้ว กับ c seg เยอรมันเริ่มต้น ส่วนต่าง3-4 แสนในระยะเมนทีแนนซ์ห้าปีแสนโล เข้าศูนย์ไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้งกับอะไหล่สิ้นเปลืองและอะไหล่หลักๆที่มีมาเยี่ยมเยือนบ้าง ยังไงก็เกินแสนแน่ๆครับ ส่วนเวลาขายก็ต่างกัน 3-4แสนเช่นกันฝั่งยุโรป คือล้านถ้วน กับญี่ปุ่นหลักแสนปลาย
ว่ากันที่หลังห้าปีต้องบอกว่ายุโรปเจ็บสาหัสกว่าญี่ปุ่นเยอะครับ ราคาลดฮวบแถมค่าซ่อมที่ไม่เป็นมิตรกับกระเป๋าเท่าไร
-
5-6 ปีแรกใช่ครับ เฉพาะ BMW
ถ้า benz volvo เค้ามี sp ขายก็ถือว่าเราจ่ายล่วงหน้า ซื้อไปยังไงก็คุ้ม แต่ก็ถือว่าบวกในราคารถอ่ะนะ
camry ปีแรกๆ ยังมีเข้า 1-2 พัน
ใบพัด กับน้องดาว บางทีจัดบอลลูนฟรีประกันยาวๆไปอีก 3 ปีแรก นอกจากผ่อนก็ไม่ได้จ่ายอะไรเลยครับ แต่หลังจาก 5 ปี บอลลูนก็ถือว่าดอกอ่วม ถ้าเปลี่ยนตลอดคืนรถไปเอาคันใหม่มาเหมือนเช่ารถก็ไม่มีปัญหาครับ ซึ่งปัจจุบันผมทำแบบนั้นอยู่ เพราะเปลี่ยนทุกๆ 3-5 ปีอยู่แล้ว แต่ด้าน financial ยังไงก็ขาดทุนอะ ดอกปีนึง 5-6%
หลัง 5 ปีถ้าใช้ต่อก็แล้วแต่บุญแต่กรรมครับ gs300h ที่ใช้อยู่ก็มีเรื่อยๆ ปีละ 10-30k แล้วแต่ว่าอะไรจะสวัสดีก่อนกัน ปีไหนแบตเสื่อมก็ +100k ไปเลย แต่ w212 ใช้น้อยกว่า gs ไม่ค่อยเสียครับ เข้าอุ่นอกก็ไม่ได้แพงอะไร ยิ่งรุ่นใหม่ๆมี mbsp ยาวๆ ผมว่าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก
แต่ถ้าบอกว่า cost of owner เทียบ 8-10ปี ผมเชื่อว่า d seg ญี่ปุ่นถูกกว่าหลายเท่าครับ ทั้งค่าตัว ค่าอะไหล่ต่างๆ ต่อให้เข้าอุ่นอกก็เถอะ แค่ค่าประกันก็แพงกว่าเกือบเท่านึงแล้ว
-
5-6 ปีแรกใช่ครับ เฉพาะ BMW
ถ้า benz volvo เค้ามี sp ขายก็ถือว่าเราจ่ายล่วงหน้า ซื้อไปยังไงก็คุ้ม แต่ก็ถือว่าบวกในราคารถอ่ะนะ
camry ปีแรกๆ ยังมีเข้า 1-2 พัน
ใบพัด กับน้องดาว บางทีจัดบอลลูนฟรีประกันยาวๆไปอีก 3 ปีแรก นอกจากผ่อนก็ไม่ได้จ่ายอะไรเลยครับ แต่หลังจาก 5 ปี บอลลูนก็ถือว่าดอกอ่วม ถ้าเปลี่ยนตลอดคืนรถไปเอาคันใหม่มาเหมือนเช่ารถก็ไม่มีปัญหาครับ ซึ่งปัจจุบันผมทำแบบนั้นอยู่ เพราะเปลี่ยนทุกๆ 3-5 ปีอยู่แล้ว แต่ด้าน financial ยังไงก็ขาดทุนอะ ดอกปีนึง 5-6%
หลัง 5 ปีถ้าใช้ต่อก็แล้วแต่บุญแต่กรรมครับ gs300h ที่ใช้อยู่ก็มีเรื่อยๆ ปีละ 10-30k แล้วแต่ว่าอะไรจะสวัสดีก่อนกัน ปีไหนแบตเสื่อมก็ +100k ไปเลย แต่ w212 ใช้น้อยกว่า gs ไม่ค่อยเสียครับ เข้าอุ่นอกก็ไม่ได้แพงอะไร ยิ่งรุ่นใหม่ๆมี mbsp ยาวๆ ผมว่าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก
แต่ถ้าบอกว่า cost of owner เทียบ 8-10ปี ผมเชื่อว่า d seg ญี่ปุ่นถูกกว่าหลายเท่าครับ ทั้งค่าตัว ค่าอะไหล่ต่างๆ ต่อให้เข้าอุ่นอกก็เถอะ แค่ค่าประกันก็แพงกว่าเกือบเท่านึงแล้ว
+1
-
ผมเคยเห็นราคาหัวฉีดตรง
ของ CX5 หัวละ 6 พันกว่าผมก็ตกใจแล้ว
เจอของ GLA เข้าไป หัวนึงหลักหมื่น ไปไม่เป็นเลย ::) ::) ::)
-
ถ้าตีว่าจำนวนครั้ง/อะไหล่ ที่ต้องซ่อมเท่ากัน ยุโรปแพงกว่าเยอะครับ ซึ่งโดยปกติแล้วยุโรปจะมีชิ้นส่วนที่เสียเยอะกว่าด้วย
ยกตัวอย่างง่ายๆ โช็ค 4 ต้น camry หมื่นกว่าบาท c class โช็คธรรมดามี 25000+ ถ้าถุงลมก็ไปอีกระดับเลย
อันนี้วัดราคาอู่นอกเลยนะครับ ถ้าศูนย์ทั้งคู่ ยุโรปจะห่างกว่านี้อีก
-
ถ้าไม่นับ BSI
ญป เข้าศูนย์ ยังไม่เท่า ยุโรปเข้าอู่นอกใช้อะไหล่เทียบเลยครับ!
-
D seg ญี่ปุ่นสมัยนี้ก็ฟรีค่าแรง 5 ปีนะครับ
เข้าศูนย์แต่ละครั้ง จ่ายแค่ 1,xxx-2,xxx รอบที่เปลี่ยนหลายอย่างก็หลายพันแต่ไม่ถึงหมื่น
ในระยะ 5 ปี สมมติใช้น้อยเข้าตามกำหนดปีละ 2 ครั้งก็รวมเป็นสิบครั้ง สิบครั้งนี้รวมกันยังไงก็ไม่ถึงแสน
รถยุโรปอย่าง bmw แค่เปิดอ่างถ่ายน้ำมันเกียร์ ถ้าทำที่ศูนย์ซึ่งไม่อยู่ใน bsi ค่าน้ำมันบวกค่าแรงก็ 2 หมื่นกว่าแล้ว
ไม่นับรายการซ่อมอื่นๆหลังหมด bsi
มีบางท่านเคยกล่าวว่าก็รถมันหรูกว่าแพงกว่าค่าซ่อมค่าอะไหล่ก็ต้องแพงกว่าสิ
อันนี้ถูกครับ แต่ถ้าคิดตามตรรกะความเป็นจริง เทียบ d seg ญี่ปุ่นตัวท็อปกับยุโรปตัวเริ่ม ราคาต่างกันนิดเดียว แต่ทำไมเวลาซ่อมต่างกันลิบลับ
-
ไม่จริงครับ D-segment ญี่ปุ่นราคาค่า Maintenance แพงกว่าญี่ปุ่นรุ่นเล็กๆไม่เกิน 25% ครับ
ยังห่างกับรถเยอรมันเยอะครับ ถึงแม้จะเป็นตัวเริ่ม แต่ตัวเครื่องและเกียร์แทบจะเป็นตัวเดียวกับรุ่นใหญ่ๆครับ
-
ยังไงๆยุโรปก็แพงกว่าเยอะครับ
ต่อให้ 5 ปีแรกมี BSI แต่ค่าเบี้ยประกันก็โหดมาก แล้วญี่ปุ่น 5 ปีแรก แทบไม่มีอะไรมีแค่ถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งล่ะไม่กี่พันเท่านั้น ยังไงๆ 5 ปีแรก ญี่ปุ่นก็ถูกกว่า
แล้วยิ่งหลัง 5 ปี ยุโรปเข้าอู่นอกยังแพงกว่า ญี่ปุ่นเข้าศูนย์อีกครับ ไม่ต้องเอาเวลาชีวิตไปสิ้นเปลือง ไปตีซี้กับเจ้าของอู่ให้วุ่นวายครับ
-
ความคิดผม Cost of maintainance รถยุโรป มันบวก cost and proud of ownership เข้าไปด้วยแหละ
ตราบใดที่คำว่ารถยุโรป มีผลในการตัดสินใจสำคัญในการตัดสินใจซื้อเพราะความภูมิฐาน ดูดี มากกว่าเรื่องคุณภาพ
ความพรีเมี่ยมไม่มีฟรีครับ
-
สมัยก่อนมีรถ C200 Kom w204 ปี 2008 ซื้อหลัง ACV40 ปีเดียว คิดค่า"ซ่อม" แล้วเท่าๆกัน
C200 Kom เครื่อง มีแค่หัวเทียนกับคอยล วิ่งไปแปดแสนโล
Camry ชุดโซ่ ฝาวาวล์ เฟืองเพลาบาลานซ์ ตัวตั้งสายพาน เปิดซ่อมซีลเสื่อม และพวกช่วงล่างอีก ที่ต้องทำแสนกว่าโลครั้ง
แต่รุ่นใหม่W204 180 CGi ซ่อมหนักกว่าหลาย
ใหม่กว่านั้น ซ่อมแบบรีบใช้รีบขายทิ้งเลยครับ
ใช้คุ้มมากๆครับ ??? น่าจะเป็นสถิติซีคลาสที่ระยะเยอะที่สุดในไทยแล้วมั้งนี่ ;D
-
หากพูดถึง810ปี
Accord คุ้มกว่าครับ
ผมมี w212 กับ accord
G8
ชัดเจนว่า การบำรุงรักษาฮอนด้าจุกจิกน้อยกว่ามาก
แถมประกันยิ่งต่าง
-
ถ้าไม่นับ BSI
ญป เข้าศูนย์ ยังไม่เท่า ยุโรปเข้าอู่นอกใช้อะไหล่เทียบเลยครับ!
ผมใช้ cx-5 เข้า 0 โดยรวมแพงกว่า f30 เข้าอู่นอกครับ ถ้าเซอวิสรายการคล้ายกัน
-
ฟังความเห็นแต่ละท่านละ สยองมาก มีเงินเดือนไม่ถึงแสน ไม่ควรไปแตะต้องเลย ถ้าลงไปเล่นยาวๆ อาจจะบาดเจ็บ ไม่ได้ทำอย่างอื่นในชีวิตก็ได้เลย
-
ฝากถามเขาด้วยนะครับ ว่า
ที่คุยกันมาแบบนั้น คือระยะใน warranty หรือ หมด warranty ไปแล้วละ ::)