Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Underseven ที่ สิงหาคม 14, 2021, 12:42:08
-
ได้ข่าวมาก่อนหน้านี้เรื่องการจับมือกันระหว่าง 2 บริษัท ยังไม่มีอะไรชัดเจน
แต่ล่าสุดทาง Foxconn ออกมาบอกเองจะสร้างโรงงานในไทยแล้ว รอชมเลยครับ
https://asia.nikkei.com/Business/Companies/Taiwan-s-Foxconn-to-build-EV-plants-in-US-and-Thailand-in-2022
ช่วงนี้ยังแย่งตู้ DC fast charge กันอยู่
หลายเจ้าก็ไม่ยอมเปิดให้ใช้อยู่เลย กลัวจ่ายค่าไฟไม่คุ้ม :-X
-
เห็นข่าวสักพักแล้วละ ขนาด ปตท ก็ยังต้องหาทางรอดในยุค EV
ลองดู ข่าว อีกหลายปีเลยนะครับ แค่คุย สัญญา คำว่า จะะะะะ
เผลอ เจอ Toyota ออก EV มาก่อนอีก
นี่ละครับคำว่าเงินซื้อได้ทุกสิ่ง
แต่ก็อยาก รู้ว่า องค์กร ที่ รัฐอุ้มบุญเสือนอนกิน ไม่ต้องดิ้นรน เมื่อถึงคราวดิ่้นรน จะไปต่อได้ไหม
อีก 10 ปี ปั้ม ปตท อาจกลายมาเป็น 100 % EV charger station พร้อม รีสอร์ท
ตัว ปตท เอง ก็หันไปลงทุน ผลิตแบตแล้ว
เมือ่เวลามา ถึง แบตใหญ่ ถูก
Toyota ก็แค่ไป ซื้อมาใส่รถ จบปิ้ง
-
ทำไมไม่ถามว่า กฟผ กับ ปตท ส่วนแบ่งลงตัวหรือยัง?
-
มีแต่ระดับ user ล่ะครับที่ตื่นตูม ระดับ มหภาค กว่าจะลงตัว หว่าจะปรับโครงสร้างพื้นฐาน กว่าจะคิดกำไรขาดทุนในการใช้ไฟ กว่าปั๊มเติมไฟจะคิดเงินแบบจริงจัง ผมให้ 10+ ปีครับ
-
foxconn หาทางรอดจากยอดสั่งผลิต iphone โตลดลง และอาจถูกเลิกจ้างผลิตในอนาคต
Ptt หาทางรอดจากการที่รถยนต์จะไม่ใช้น้ำมัน
คือเค้าก็ไม่อยากเป็นบริษัทขายน้ำมันตะเกียงในวันที่มีไฟฟ้าและหลอดไฟ หรือขายฟีลม์ในวันที่คนส่วนใหญ่ใช้ดิจิทัล
ปล.ถ้าโครงการนี้ผลิตรถขายไทยเมื่อไหร่ มีโครงการรถไฟฟ้าคันแรกมาเป็นส่วนลดให้แน่นอน
-
อีกนาน เอาง่ายๆ ทุกวันนี้ ยอดขายรถ hybrid+phev+ev ยังไม่ได้ใกล้เคียงรถน้ำมันเลย แล้วรถ ev ราคาต่ำกว่าล้าน ยัง ีีีแค่mg epอยู่เลยยังมองไม่เห็นเลว่ามันจะโตก้าวกระโดดได้ยังไง ในเมื่อกำลังซื้อคนส่วนใหญ่ที่พอซื้อไหวคือราคาต่ำกว่าล้าน แต่รถ evราคานี้ยังไม่มีขายเลยม
-
คงจะมาเร็วขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ห้าเสือแห่งเยอรมนีก็โดนEUปรับไป1พันล้านยูโร ข้อหาสมคบคิดกันไม่นำเทคโนโลยีที่ตนเองมีมาใช้ลดมลพิษ เจอกันถ้วนหน้าทั้งBMW VW Audi Porsche ยกเว้นBenzที่ทิ้งเพื่อนโดยเอาหลักฐานมามอบให้กรรมธิการทั้งๆที่ตัวเองก็ร่วมกับเค้าด้วย ตราดาวหักหลังเพื่อนเฉยเลย
https://edition.cnn.com/2021/07/08/business/eu-commission-fines-german-carmakers/index.html
-
คงจะมาเร็วขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ห้าเสือแห่งเยอรมนีก็โดนEUปรับไป1พันล้านยูโร ข้อหาสมคบคิดกันไม่นำเทคโนโลยีที่ตนเองมีมาใช้ลดมลพิษ เจอกันถ้วนหน้าทั้งBMW VW Audi Porsche ยกเว้นBenzที่ทิ้งเพื่อนโดยเอาหลักฐานมามอบให้กรรมธิการทั้งๆที่ตัวเองก็ร่วมกับเค้าด้วย ตราดาวหักหลังเพื่อนเฉยเลย
https://edition.cnn.com/2021/07/08/business/eu-commission-fines-german-carmakers/index.html
ถ้าแบบนี้ถือว่า BENZ แสบมาก ::)
-
บางทีก็สงสัยเหมือนกัน ประเทศเราพร้อมสำหรับ รถ EV เต็มรูปแบบไหม เพราะปัญหาอย่างนึงที่เห็นในประเทศจีน คือ พอ ปชช โหมซื้อ รถไฟฟ้า ทำให้ระบบไฟฟ้าสำหรับ ปชช ไม่พอ ส่งผลให้ รัฐบาลจีน เพิ่มกำลังการผลิดไฟฟ้า ด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อีกหลายสิบโรง ลองคิดดูถ้าเปลี่ยนรถน้ำมันเป็นรถไฟฟ้าสัก 500,000 คัน ทุกคืนจะมีการชาร์จไฟตอนกลางคืนรถแต่ละคันกินกำลังไฟเท่าไรในการชาร์จ มันคล้ายๆ กับยุคนึงที่เราเริ่มมีแอร์ พอหลายๆ บ้านติดแอร์ เราจึงต้องผลิดกระแสไฟฟ้ามากขึ้น
แรกๆ มันอาจจะดูดีครับ พอเราเริ่มใช้รถไฟฟ้าสัก 2-3 แสนคัน แต่พอมากขึ้นจนคนใช้มากขึ้น การไฟฟฟ้าวางแผนสำหรับเรื่องนี้ไหม
-
ตราบใดที่ ev station ผุดขึ้นได้สัก 30-50% ของ gas station เมื่อนั้นก็เกิดครับ
ตอนนี้ใช้ phev อยู่ บอกตรงๆ ว่าได้ charge จริงๆ จากที่บ้านเท่านั้นล่ะครับ
นอกนั้นถ้าไฟหมดก็พึ่งพาน้ำมันอยู่ดี ซึ่งโชคดีหน่อยที่ว่าคันนี้วิ่งไฟล้วนได้ไกลพอสมควร
-
ในความเห็นผมมันคงไม่ง่ายแบบพลิกฝ่ามือแบบธุรกิจเซมิคอนดัคเตอร์ แต่หลายอย่างมันแทบจะพร้อมแล้ว จุดหักเหของธุรกิจมีแค่สองเรื่อง
- เมื่อไหร่ที่รายใหม่ที่ไม่มีต้นทุนภาระ ice กระโดดเข้ามาและได้ economy scale
- ราคาและวงจรต้นน้ำแบตที่เริ่มนิ่งและพร้อมส่งมอบ อาจะไม่จำเป็นที่ต้องพัฒนาจนถึงที่สุด
ผู้เล่นเดิมที่ยังแบกภาระและยังพยายามดัน ice น่าจะกลัวตรงนี้มาก เราถึงยังเห็นภาวะก้ำกึ่งแบบนี้อยู่ ส่วนเรื่องการขยายกำลังการผลิตและระบบจ่ายไฟฟ้าอันนั้นไม่น่ายากเท่าไหร่ ผู้ใช้เองยังงัยก็ไปตามตลาดอยู่แล้ว...ดูเครื่องไฮบริดเป็นตัวอย่างได้
-
จะมาเร็วได้ไม่ได้เกิดจากรัฐสนับสนุน อยู่ที่พลังงานน้ำมันแพงกว่านี้อีกมากหรือเปล่า ส่วนตัวมันไม่มีทาง พอแพงกว่านี้อีกสักพักราคาน้ำมันก็ลดลง โอเปกเล่นสงครามราคาแบบนี้มานานแล้วเพื่อไม่ให้พลังงานทางเลือกเกิดได้เต็ม ๆ มันมีจุดตัดอยู่ว่าถ้าราคาน้ำมันเท่านี้ พลังงานทางเลือกไม่คุ้มเท่าน้ำมัน โอเปกก็เล่นแบบนี้มาตลอด คุมไว้แพงเป็นพัก ๆ ก็ลดลงล่อให้คนมาใช้น้ำมันต่อ พอลดก็ฉวยโอกาสเพิ่ม แต่ไม่ให้ราคาน้ำมันสูงเกินไปจนคนหนีไปพลังงานทางเลือก ทำให้พลังงานทางเลือกไม่เกิดขึ้นทั่วโลกซักที
-
ถึงมาลองทำที่นี้ ผมก็ซื้อของผลิตจากเมืองนอกอยู่ดี
-
มีแต่ระดับ user ล่ะครับที่ตื่นตูม ระดับ มหภาค กว่าจะลงตัว หว่าจะปรับโครงสร้างพื้นฐาน กว่าจะคิดกำไรขาดทุนในการใช้ไฟ กว่าปั๊มเติมไฟจะคิดเงินแบบจริงจัง ผมให้ 10+ ปีครับ
ใช่ครับ มีแต่คนใช้ตื่นตูม ผมเคยอ่านสาสน์จากประธานใหญ่ที่ญี่ปุ่น เรื่องรถไฟฟ้ามาเร็วเพราะกฎหมายมลพิษทั่วโลกพยายามเร่งรัดให้รถไฟฟ้ามาเร็วขึ้น แต่ทุกอย่างมันยังไม่พร้อมที่จะถึงเวลานั้น ปัจจัยพื้นฐานก็ยังไม่มาหรือมาไม่ครบ อีกทั้งรถหลายรุ่นส่วนใหญ่คนซื้อทั่วโลกก็ยังพอใจกับเครื่องยนต์สันดาป ไม่ได้อยากได้รถไฟฟ้า นอกจากนี้เค้าเปรียบเทียบตัวเลขง่าย ๆ รถสันดาปกับรถไฟฟ้าในระดับเดียวกันราคารถไฟฟ้าแพงกว่าพอสมควรเลย (อย่าเอาราคารถจีนมาเทียบ )
-
แถบยุโรปโดนกดดันจากมาตรการลดมลพิษเครื่องยนตร์สันดาป
และ ส่งผลให้ค่ายรถถูกบีบให้เร่งระบายรถเครื่องยนตร์มาแถวๆประเทศโลกที่สาม
รถevกว่าใช้แพร่หลายในไทย อีกสิบปีขั้นต่ำ
-
คนทั่วไป และส่วนใหญ่ตอนนี้ แค่หากินยังลำบากเลยครับ เรื่องรถไฟฟ้าก็แค่กระแสคนในเน็ตส่วนหนึ่ง ถึงเวลาก็ต้องตื่นมาใช้ชีวิตจริงกันต่อไป ถามว่าถ้ามาเร็วดีไหม ดีครับ แต่ คนทั่วไปพร้อมไหม มองดูความเป็นอยู่ตอนนี้ก็เดาออก
-
นี่เราเข้าสู่ยุค EV กันแล้วหรือครับ
เอ
แล้วถ้าจะซื้อรถใหม่ตอนนี้ ระหว่าง Civic 1.5T กับ MG EP
ชาว HLM จะซื้ออะไรกันครับ
เหมือนว่า EV จะถูกกว่า 1.5T ด้วยใช่มั้ยนะ
-
คนที่ตื่นตูมกระแส EV จริงๆ คือคนที่ไม่ได้มีกำลังซื้อที่เป็นสัดส่วนใหญ่ของตลาด แถมส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ความต้องการสูงมาก ประมาณอยากได้รถสเปก Tesla Model S ในราคา Yaris Ativ
-
ความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะมากขึ้นพร้อมขึ้น เราอาจจะได้ขับรถยนต์ไฟฟ้าจากรุงเทพ ไป พิษณุโลก โดยไม่ต้องกังวลเท่าปัจจุบัน แต่ความแพร่หลายไม่เท่าแน่นอนครับ
คนที่พร้อมจะใช้ก็จะใช้ไป แบบที่สบายขึ้น แต่คนไม่พร้อมใช้ก็มีอีกมากมาย
-
คนทั่วไป และส่วนใหญ่ตอนนี้ แค่หากินยังลำบากเลยครับ เรื่องรถไฟฟ้าก็แค่กระแสคนในเน็ตส่วนหนึ่ง ถึงเวลาก็ต้องตื่นมาใช้ชีวิตจริงกันต่อไป ถามว่าถ้ามาเร็วดีไหม ดีครับ แต่ คนทั่วไปพร้อมไหม มองดูความเป็นอยู่ตอนนี้ก็เดาออก
ใช่ครับตอนนี้คนรู้จักกันขายรถขายเครื่องดนตรีปรับเปลี่ยนการทำมาหากินใหม่เพราะผับปิดไม่มีงาน ส่วนเรื่องกระแสรักษ์โลกถ้าจะรักษ์โลกจริงก็ควรบริหารการเดินทางให้ดีหรือใช้ขนส่งสาธารณะ. ถ้าหากระยะไม่ไกล. จักรยานและการเดินน่าจะได้ อีกอย่างคนไหนอยู่หอหรือคอนโดเค้าไม่สะดวกชาร์จแบตกันหรอก
คนที่ตื่นตูมกระแส EV จริงๆ คือคนที่ไม่ได้มีกำลังซื้อที่เป็นสัดส่วนใหญ่ของตลาด แถมส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ความต้องการสูงมาก ประมาณอยากได้รถสเปก Tesla Model S ในราคา Yaris Ativ
ใช่ครับ ราคามันไม่เป็นมิตรต่อคนทั่วไปเลย
-
คนที่ตื่นตูมกระแส EV จริงๆ คือคนที่ไม่ได้มีกำลังซื้อที่เป็นสัดส่วนใหญ่ของตลาด แถมส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ความต้องการสูงมาก ประมาณอยากได้รถสเปก Tesla Model S ในราคา Yaris Ativ
ขออนุญาตินะครับ แรงแต่โดนใจ
-
คนที่ตื่นตูมกระแส EV จริงๆ คือคนที่ไม่ได้มีกำลังซื้อที่เป็นสัดส่วนใหญ่ของตลาด แถมส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ความต้องการสูงมาก ประมาณอยากได้รถสเปก Tesla Model S ในราคา Yaris Ativ
5555 คมกริป
-
รัฐบาล คงวางแผนให้เราเข้า EV เร็วขึ้น
เนื่องจาก แรงกดดันหลายปัจจัย เช่น
การลดกาซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ
การผลักดันให้ ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิต รถยนต์ EV ต่อไปจากเดิมที่ผลิต รถยนต์ ICE
เพราะนั่นคือ อุตสาหกรรมที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศ ในอนาคต (หากทำสำเร็จ)
สุดท้ายแล้ว
พวกยุโรป ที่ชอบเขียนกฏเกณฑ์มาตราฐานโลก บีบบังคับคนอื่น ให้ทำตาม
ทั้งๆที่ อัตราเร็วการชาร์ตไฟในรถยนต์ EV มันยังช้ามากไป เมื่อเทียบกับ รถน้ำมัน
รวมทั้ง ปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน หลายชาติยังไม่พร้อม
มันเป็นอุปสรรค์ ในการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้
ก็ขอชื่นชม หน่วยงานรัฐบาล ที่พยายามวางแผนเรื่องนี้
ถือว่า สถานีจุดชาร์ตมีความก้าวหน้า มากกว่าหลายประเทศ
...ถ้าเทียบกับประเทศระดับเดียวกัน เชื่อได้เลยว่า เราเข้ายุค EV เร็วกว่าแน่
-
สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด คือ คนเริ่มค่อยๆทยอยซื้อไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ใช่รถยนต์เชื้อเพลิงหลักของไทยแน่นอนครับ
ถ้าจะเห็นภาพชัดเจนจริงๆ น่าจะเป็นปี 2040 ถ้าอย่างเร็วจริงๆก็อาจจะภายใน 2035 นะครับ ในความคาดเดาของผมนะ
-
คนที่ตื่นตูมกระแส EV จริงๆ คือคนที่ไม่ได้มีกำลังซื้อที่เป็นสัดส่วนใหญ่ของตลาด แถมส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ความต้องการสูงมาก ประมาณอยากได้รถสเปก Tesla Model S ในราคา Yaris Ativ
+100
5 บรรทัดโดนๆ
-
ถ้าดูแค่ผิวๆ อาจจะเหมือนอีกไม่นาน
แต่ถ้าได้ดูไปลึกๆ จะเห็นว่าน่าจะอีกนานพอควร
แม้ภาครัฐก็ยังทำตัวตื่นเต้นไปด้วย 555
-
คิดไว้ว่ามันต้องมาเร็ว
ถ้าไม่มีโควิดระบาดอาจจะมาเร็วกว่านี้
เหมือนกับตอน Smart phone เข้ามาใหม่ๆ เป็นของเล่นคนรวยก่อน
หลังจากนั้นเทคโนโลยีพัฒนาแบบก้าวกระโดด ผ่านไปไม่นานราคาลดลงจนคนทั่วไปจับต้องได้
แบรนด์ใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย แต่หลายแบรนด์ดังๆหายไป
ดูจาก App Plugshare สถานีชาร์จมีเพิ่มขึ้น เกือบจะครอบคลุมเส้นทางหลักแล้ว
-
คงมาเร็วกว่าที่คิด ผมว่าเมืองนอก 2-3 ปี ในไทย 5-6 ปี น่าจะเห็นชัด
ในต่างประเทศ จากประกาศของรัฐที่ให้เลิกผลิต รถ ICE ในอีก 5-10 ปี
ทำให้ในต่างประเทศ ค่อยๆ เลิกพัฒนา และค่อยๆ เลิกผลิต รถ ICE จนจำนวนผลิตน้อยลง
ซักพัก supply chain ต่างๆ ก็ต้องค่อยๆเปลี่ยนไปทาง EV
รถ ICE จะราคาสูงขี้น จาก economic scale ที่ลดลง
ในขณะที่ ราคา แบต ถูกลงมาก จน รถ EV ถูกกว่าICE ประสิทธิภาพดีกว่า และขับเองได้เกือบทุกสถานณการณ์ ไมว่าจะเป็นในเมืองหรือ high way
ตอนนี้ในจีน ก็มีรถเมล์ กับ taxi ที่ขับเองได้เกือบทุกสถาณการณ์ทั้งในเมืองนอกเมือง
ในจีน รถที่ขับเองได้ เกือบตลอดเส้นทาง ปลายปีนี้จะเริ่มออกขาย ราคาแค่ 1-1.5 ล้านบาทเอง (xpeng P5)
ต่อไปการชารจ์ไฟ จะเร็วขึ้นจากเทคโนโลยี solid stage
ทั้งหมดนี้จะทำให้ ICE ค่อยๆลดไปเอง และ EV จะมาเร็วขึ้น
เมื่อรถราคาถูก ขับเองได้ demand มากขึ้น
รถปริมาณมากขึ้น แท่นชาร์จต่างๆ เอกชนก็พร้อมลงทุน และจะค่อยๆ มากขึ้นไปเอง
-
เร็ว/ไม่เร็ว ดูที่ยอดขายเอาละกัน ไอ้ที่เห็นตั้งโรงงานเนี่ยคิดว่าผลิตออกมาแล้ว ราคา อยู่ในช่วงที่คนจะซื้อมาใช้ง่ายมั้ยหละ?????
-
คงเลี่ยงไม่ได้ สำหรับรถไฟฟ้า แต่บ้านเราจะพร้อมเมื่อไหร่ ตอบยากจริงๆ ประเทศที่การเมืองไม่มั่นคง ทำให้นโยบายไม่ต่อเนื่อง
-
ผมว่าในอีก 3-5 ปี รถไฟฟ้าในเมืองใหม่ๆ น่าจะเยอะขึ้นมากนะครับ
โดยเฉพาะ กลุ่มที่สามารถกลับมาชาร์จที่บ้านได้ทุกวัน แต่ถ้าต้องไปต่างจังหวัดบ่อยๆ นี่ station อาจจะยังตามไปไม่ทัน ยิ่งจังหวัดรองๆ