Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ismael ที่ มกราคม 29, 2020, 11:55:55
-
ขอบคุณครับ ---
-
ผมเดาว่าเจ้าของอยากได้รถอะไรที่ประหยัดที่สุด
Eco Car ประหยัดตอนซื้อยันตอนขับ บวกลบคูณหารแล้ว คุ้มกว่าซื้อ Hybrid Car ที่ราคาล้าน Up ทุกคันครับ
-
มันเทียบกันไม่ได้. รถมันต่าง segment กัน
ถ้า hybrid + เครื่องเล็ก ก็ประหยัดสุด
-
ถ้าเอาแค่ประหยัดน้ำมัน ก็ดู Eco sticker ที่เขาแปะกระจกรถได้เลยครับ นั่นคือค่า official ที่มีการทำทดสอบแบบมาตรฐาน ผ่านการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ เชื่อถือได้ครับ ยกตัวอย่าง Camry HV รถคันเบ้อเร่อ เครื่อง 2.5 Hybrid D segment ทำได้ 24.5 km/l ตามสติกเกอร์นะ และ Nisson Almera Eco car ชัดๆ เครื่อง 1000 + โบ ทำได้ 23.3 km/l
แต่การขับจริงบนถนน ก็ขึ้นกับอากาศ อุณหภูมิ ตรีนหนักเบา น้ำหนักบรรทุกและอีกหลายอย่างครับ แต่ Camry HVP เนี่ยออกมา 1 ปี เรื่องความประหยัดนี่ยกให้เลย ขับชิวๆ มี 20km/l ขึ้นแน่นอน
-
รถปัจจุบันผมไม่รู้นะ แต่ขับนอกเมืองรถไม่ติด Marchเกียร์ธรรมดา ประหยัดกว่า Prius :D รถเก่าๆแล้วทั้งคู่
แต่ถ้ารถติด ในกทม Prius ประหยัดกว่านิดนึง
-
มาสด้า2 1.3 vs chr 1.8 hybrid
เวลาวิ่งปกติ มาสด้าประหยัดกว่านิดหน่อย
เวลารถติด hybrid ประหยัดกว่านิดหน่อย
อันนี้บนการขับเหมือนๆกันนะครับ
สำหรับผม hybrid ไม่มีผลกับผมรวมทั้งมลพิษ
แค่ hybrid เลือกที่พ่นมลพิษบางที่ได้แค่นั้น
chr 1800 hybrid ตัวนี้ไม่น่าประทับใจอะไรเลย ทั้งอัตราเร่งและความประหยัด
-
Hybrid สิ คันเบ้อเร่อ กินน้ำมันพอๆกับ eco คันกะเปี๊ยก
แต่ถ้าจะบอกว่าไม่สนใจขนาด งั้นมอไซค์ชนะเลิศครับ
-
พูดถึงประหยัดน้ำมัน. ไม่รวมfactor อื่นๆ
หากขับปกติ. Hybrid ชิครับ
-
ใช้ยาวๆ hybrid
เน้นขายต่อ eco car
-
ในเมือง hybrid
นอกเมือง พอกัน(มั้ง)
-
คิดถึงมูลค่าที่หายไปตอนขายต่อด้วย ยังไง eco car ก็ประหยัดกว่าครับ
-
ส่งมาสด้า 2 ดีเซล เข้าประกวด ถนนโล่งๆ 30 โลลิตร เหยียบให้ตายก็ไม่เคยต่ำกว่า 20 โลลิตร วิ่งในเมืองน้ำมันถังนึงได้ไม่ต่ำกว่า 700 โล แต่ถ้ารถติดหนักๆ ก็ยอมไฮบริดเขาไป #อวยมาสด้า
-
Hybrid ครับ ชัดเจนมาก ผมใช้อยู่ CHR ตอนนี้ 15000 KM ล่ะ ขับสบายๆ เหยียบได้ ติดได้ 20 KM/L นี่หมูมากๆ
ที่บ้านเน้นรถประหยัดเป็นหลัก
Brio 220000 KM. , Mirage 90000 KM.
คอนเฟิม Hybrid ประหยัดกว่า แต่ค่าตัวแพงกว่า แต่ก็ได้ Performance และ Option ที่ดีกว่าคนละเรื่อง โดยเฉพาะช่วงล่าง
-
จากประสบการณ์ ผม march vs ct200h ผลคือ ct200h ประหยัดกว่า ทุกกรณี ครับ แต่ถ้าจะเทียบความคุ้มค่ามันเหมือนเทียบกันไม่ได้ เพราะค่าตัว และขนาดรถมันต่างกันเยอะไป ต้องลองเอาตัวเลขพวก Note ePower, Toyota Aqua, Jazz hybrid ไรพวกนี้มาเทียบดูถึงจะตอบได้ว่าอะไรประหยัดกว่า คุ้มกว่า
-
Ecocar ใช้เครื่องดีเซล นี่โคตรประหยัดเลยครับ :-X :-X
ยิ่งนอกเมืองไฮบริดมองตาปริบๆเลย
-
2 ดีเซล น้ำมันเต็มถังประมาณ 900-1000 บาท วิ่งตจวก็ได้ประมาณ 1000-1200 กิโลครับ มันประหยัดจริงๆ แต่มันก็...นะ
-
eco car ได้รถเล็ก ..... ไฮบริดได้รถขนาดกลางไปใหญ่ แต่ประหยัดเท่ากันหรือใก้ลเคียงกัน.....แต่ราคาไม่เท่ากัน.........จขกท.ต้องการแบบไหนล่ะครับ
-
เทียบตอนนี้อาจจะดูต่างsegmentไปหน่อย factorต่างกันเยอะ
รอcity hybridที่คุณจิมมี่บอกว่ามาปลายปีนี้ ทีนี้จะได้คู่เทียบตรงๆครับ
-
Hybrid เป็นรถรักษ์โลก ใช้ในเมือง ในห้าง สตารท์ในบ้าน มลพิษน้อยมาก ก่อนเข้าบ้านใช้ไฟฟ้า ถอยเข้าบ้าน ไม่มีไอเสีย ความประหยัดผลพลอยได้ อัตราเร่งก็ดีประมาณนึง
-
ถ้าโจทย์คือประหยัตน้ำมัน
Plug - in Hybrid >>> Hybrid Motor >>> Eco
ถ้าเอาเม็ดเงินยังไงก็ Eco Car ครับ
-
คันที่วิ่งน้อยกว่า ประหยัดกว่าครับ
-
ผมว่าให้ไฮบริดสร้างมลพิษมากกว่านะครับ ทั้งระบบที่ซับซ้อนกว่า แบตเตอรี่เมื่อเสื่อมสภาพแล้วที่ต้องกำจัดหรือรีไซเคิล ซึ่งขั้นตอนเหล่านั้นสร้างผลกระทบต่อธรรมชาตพอสมควร อีกทั้งสารประกอบก็เป็นสารเคมีอัตราย
-
พูดถึงแต่เรื่องความประหยัด
ส่วนตัว ไปhybridครับ
-
eco car ประหยัดกว่าหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ไม่มีเรื่องระบบ ไฮบริดให้ปวดหัว
-
น่าจะเทียบเป็นรุ่นต่อรุ่นกันไปจะดีกว่าครับ ;)
-
ถามกันแค่ eco car กับ hybrid ผมคงตอบ eco car
เพราะ hybrid มันมีตั้งแต่ คันเล็กไปถึงคันใหญ่ ถ้า 7series ตัวปกติ 5km/l พอเป็นไฮบริดได้ 10km/l มาเทียบกับ mazda เครื่อง 1.3 จะบอกว่าใครประหยัดกว่าอะครับ น้ำหนักห่างกันขนาดนั้น
ถ้ายังเกิดคำถามความคุ้มค่าไฮบริดกับสันดาป รวมราคาขายต่อ ยังไงไม่ไฮบริดก็ชนะครับ เพราะคนส่วนใหญ่กลัวไฮบริดกันมากๆๆๆๆ
ทั้งจากที่เคยเจอเอง และทั้งจากที่ฟังมาแล้วเชื่อหมดใจ
-
น่าจะเปรียบเทียบแยกเป็นรุ่น ๆ ไปดีกว่าครับ เพราะ Hybrid เองก็มีหลายแบบ และ Eco Car ยังมีเครื่องเทอร์โบมาอีกด้วย แต่นอกเหนือจากค่าน้ำมันแล้ว รวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ + ค่าเสื่อม ยังไง Eco Car ก็ต่ำกว่าครับ
-
- ถ้าบรรทุกไม่เยอะ ขับนอกเมือง ผมว่าพอๆ กัน
- แต่ถ้าขับในเมือง หรือ รถรับน้ำหนักเยอะหน่อย หรือขับเร็วๆ แพ้ไฮบริด
-
ก็ต้องแยกเป็นคู่ชกกันไปครับ
ส่วนถ้าเทียบว่าไฮบริดสร้างมลพิษเยอะ ในการสร้างแบตเตอรี่
แต่ถ้ามองว่าจุดกำจัดมันเป็นหลักแหล่ง คล้ายกับการแยกขยะอย่างถูกต้อง
มันไม่ดีกว่าขยะน้อยๆแต่กระจายไปทั่วที่รวมกันก็เยอะหรือครับ
ระหว่างมลพิษน้อยๆที่รวมกันก็เยอะได้ กระจายและมีผลต่อคนโดยตรง
กับมลพิษที่เยอะทีเดียว แต่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม มีตัวควบคุมการผลิตและทำลาย
ยังไม่นับ eco คนที่เอามาแต่งแง้นอีก 555
โดยส่วนตัว ถ้าความทนทานพอกัน ผมค่อนข้างเทใจไปไฮบริดหละครับตอนนี้
เพราะชอบเดินทาง รวมไปถึงทำธุระหรืองีบบนรถบ้าง ตอบโจทย์เรื่องมลพิษสำหรับตัวเองมากครับ
-
เหมือนที่เม้นก่อนหน้าตอบมาแหล่ะครับ รถมันขนาดไม่เท่ากัน ถ้าเอามาเทียบกันก็จะยากหน่อย เพราะรถอีโค่มีข้อดีตรงที่น้ำหนักตัวน้อย แต่รถไฮบริดอย่างน้อยก็ต้องมีระบบไฟฟ้ามีน้ำหนักแบตเตอรี่ น้ำหนักตัวก็มากราคาก็สูงไปอีก ถ้าอยากประหยัดน้ำมันต้องพวก PHEV ครับ เสียบปลั้กทุกวันถ้าไม่ออกนอกเส้นทางหรือไปต่างจังหวัด แทบไม่ต้องเติมน้ำมันเลย
-
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าโดยรวม เน้นประหยัดเงิน โดยรวมจริงๆ
Eco car ยังไงก็นำโด่งครับ
เพราะรถมันถูก ราคา 5-6 แสน
ในขณะที่ Hybrid ราคา 9 แสนกว่าๆ ขั้นต่ำ ราคามือสองตกกว่า
ถึง Hybrid จะประหยัดกว่า แต่ราคาซื้อแพง ขายก็ไม่ได้ราคา (ราคาตกมาก)
ในขณะที่ Eco car ผมเคยใช้ March ราคามันตกปีละ ไม่เกิน 10% เลยครับ
คุ้มมาก ขายมาออก Ativ ได้รถใหม่ๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ต้องทนขับรถ Hybrid 10 ปีครับ
อยาก Ativ คันใหม่ผม รถมันไม่มีอะไรที่ให้เสียเท่าไหร่ครับ แบตก็เป็นแบบธรรมดา ไม่มี I-stop
ผมมองว่าในระยะยาว คงใช้ได้ยาวกว่า March อีกครับ...โดยรวม
ผมว่า Hybrid (Corolla) ถ้าไม่มองเรื่องอัตราเร่งการขับขี่ ผมก็คงซื้อ Eco car ต่อไปครับ
-
ขึ้นอยู่กับขนาดตัวถังที่เอามาเปรียบเทียบกันด้วยครับ
ถ้าเทียบง่ายๆ เช่น ยาริส เอทีฟ กับ อัลติส ผมว่าประหยัดพอๆกัน ต่างกันก็นิดหน่อย
แต่ถ้าตัวถังเดียวกัน เช่น อัลติส เบนซิน กับ ไฮบริด นี่เห็นได้ชัดว่า ไอบริดประหยัดกว่าครับ
แต่สิ่งที่แตกต่างกันมากๆ คือการขับขี่ ความสบายในการโดยสารครับ
ขับในเมืองอาจจะไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ถ้าขับยาวๆ ความเหนื่อย ความล้ามันต่างกันชัดเจนครับ
-
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าโดยรวม เน้นประหยัดเงิน โดยรวมจริงๆ
Eco car ยังไงก็นำโด่งครับ
เพราะรถมันถูก ราคา 5-6 แสน
ในขณะที่ Hybrid ราคา 9 แสนกว่าๆ ขั้นต่ำ ราคามือสองตกกว่า
ถึง Hybrid จะประหยัดกว่า แต่ราคาซื้อแพง ขายก็ไม่ได้ราคา (ราคาตกมาก)
ในขณะที่ Eco car ผมเคยใช้ March ราคามันตกปีละ ไม่เกิน 10% เลยครับ
คุ้มมาก ขายมาออก Ativ ได้รถใหม่ๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ต้องทนขับรถ Hybrid 10 ปีครับ
อยาก Ativ คันใหม่ผม รถมันไม่มีอะไรที่ให้เสียเท่าไหร่ครับ แบตก็เป็นแบบธรรมดา ไม่มี I-stop
ผมมองว่าในระยะยาว คงใช้ได้ยาวกว่า March อีกครับ...โดยรวม
ผมว่า Hybrid (Corolla) ถ้าไม่มองเรื่องอัตราเร่งการขับขี่ ผมก็คงซื้อ Eco car ต่อไปครับ
hybrid. ค่าใช้จ่ายในการดูแลเยอะครับ. ทั้งชุดเบรคไฟฟ้า. คอมแอร์ไฟฟ้าที่ราคาแพงพอสมควร
-
มันกว้างเกินไปครับ เพราะมันเป็นไปได้หมด
ปลองหา X-Trail Hybrid เทียบกับ C-SUV ด้วยกัน ยังเทียบจะเท่ากัน พอๆ กันด้วยซ้ำ ไม่ต้อง Eco ก็ได้
และ Hybrid บางคัน ดีกว่า Eco บางคัน ก็มีเช่นกัน เช่น Accord Hybrid
ดั้งนั้น ถ้าอยากเทียบ ก็เทียบเป็นคันๆ ไปครับ พอเทียบแบบนี้ มันมีหลายคันตอบ
-
ไม่ปัจจุบันเท่าไหร่ จากที่ใช้ ปี 12 กับปี 11 ต้องบอกว่า Ecocar ยอมแพ้แทบทุกกรณีครับ
Eco Car ประหยัดตอนซื้อยันตอนขับ บวกลบคูณหารแล้ว คุ้มกว่าซื้อ Hybrid Car ที่ราคาล้าน Up ทุกคันครับ
Corolla Hybrid มีตัวไม่ถึงล้านละนะฮะ
-
ผมมองว่า ecocar ชนะครับ
ประหยัดตั้งแต่ซื้อตอนแรกเลย
ไม่ต้องไปเสียค่าเปลี่ยนแบตชาจ์ตที่ราคาสูงด้วย
hybrid ดีกว่าเรื่องกำลังเครื่อง 8)