3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก
รถผมป้ายแดงทุกคันเปลี่ยนครั้งแรกที่ 10,000 โล ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคันไหนเป็นอะไรซักทีเหมือนกัน
4. เชื่อว่าการติดตั้ง turbo timer จะถนอมเครื่องได้ดีกว่า สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่มี turbo มาจากโรงงาน
ข้อนี้เอาง่ายๆครับ เคยเห็นสิบล้อติด turbo timer ไหม พวกนี้ใช้งานหนักกว่ารถเล็ก ยังวิ่งได้เป็นล้านโลแบบไม่ต้องยกเครื่อง รถกระบะผม 8 ปีวิ่งมา 1.7แสนโล ก็ยังไม่เป็นไรเหมือนกัน ตัวนี้ตอบได้เลยว่าสำหรับรถที่มีเทอร์โบจากโรงงานไม่จำเป็นครับ
ข้อ 4 ถ้าเป็นรถโรงงาน ใช้งานปกติธรรมดา ไม่จำเป็น แต่ถ้าใช้โหดๆ ขับแช่ยาวๆๆข้ามจังหวัด แกนเทอร์โบ มีความร้อนสะสมสูงจริงคับ (แกนเทอร์โบหมุนได้เป็นแสนรอบต่อนาทีนะคับ)
วิ่งมายาวๆ น้ำก็ร้อน(เทอร์โบจะมีน้ำจากหม้อน้ำไปหล่อเย็นด้วย) เครื่องก็ร้อน แกนเทอร์โบยิ่งร้อนหนัก จอดปุบดับเครื่องปั๊บ น้ำที่หล่อเย็นก็หยุดส่งไปเลี้ยง ฟิมล์น้ำมันเครื่องบ้างบางก็มีโอกาสที่จะระเหยเผาไหม้ได้ ต่อให้เป็น Super Synthetic ก็เถอะไม่เหลือ
ไอ้น้ำมันเครื่องที่แห้งไม่เท่าไรยิ่งเจอเศษสิ่งแปลกปลอมต่าง(เขม่าเผาไหม้+เศษผงโลหะ)ดันไปแห้งคาอยู่ด้วยนี่ซิ มันก็ทำให้แกนเทอร์โบกับเสื้อ(ส่วนมากเป็นทองเหลือง รุ่นใหม่ๆเป็นลูกปืน ลื่นกว่ามากแต่แพงเสียแล้วทิ้ง)
สึกหรอ เป็นเหตุให้เทอร์โบพัง ควันขาวไหลออกท่อ แล้วก็พลอยไปว่ารถที่เป็นเครื่อเทอร์โบพังง่าย เสียง่าย
แล้วพวกรถเทอร์โบสมัยนี้จะมีซักกี่คันที่ค่อยๆขับ เห็นกดกันวี๊ด.ด.ด มันส์
ความเชื่อทุกอย่างน่าจะเกิดจากความจริงบ้างไม่มากก็น้อยคับ
รอผู้รู้ท่านอื่นๆมาตอบคับผม
ปล.ตอนนี้ค่ายรถทั่วโลกกำลังกลับไปสู่ยุค Turbo กันอีกครั้งเพียงแต่หัวเรื่องคือความประหยัดคับ