Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: whitebear ที่ มีนาคม 08, 2020, 16:23:25
-
อยากหารถมาทำไว้ขับขี่เล่นในสนาม ควรเลือกตัวไหนดีครับ โดยส่วนตัวยังไม่ได้ขับเก่งอะไร เคยลงคอร์สอบรมของ BMW มา 3 คอร์ส และรู้สึกชอบ
ตอนแรกว่าแต่งเจ้า 430i ของตัวเอง แต่คิดไปคิดมาถ้าทำแล้วรถมีปัญหาหรือเอาไปลงสนามแล้วผิดพลาดขึ้นมาจะวุ่นวาย
เลยอยากจะหารถที่เราจะเล่นจะแต่งจะทำอะไรกับมันก็ได้ ไม่เสียดายรถมากนัก ไม่ต้องกลัวว่าถ้าผิดพลาดไปแล้วจะไม่มีรถใช้หรือเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเยอะ
ที่มองๆ ไว้มี 3 กลุ่ม ในมุมมองตัวเองก็รู้สึกว่ามีทั้งดีทั้งเสีย
1. รถรุ่นเก่าๆ ดูเก๋าๆ หน่อย คนเอามาแต่งซิ่งเยอะแบบ Civic 3d แต่ก็มีข้อกังวลว่าพวกอะไหล่จะเริ่มหายากแล้วหรือเปล่า, จะเสียบ่อยไหม
2. รถเก่าๆ ที่รูปลักษณ์ดูมีคาแรคเตอร์ เช่น Celica, MR2 แต่พวกนี้ก็รู้สึกว่าซื้อมาแล้วถ้าเอามาแปลงเยอะๆ จะเสียของไหม ควรจะเก็บให้มันเดิมๆ หรือเปล่า, และอะไหล่จะหายากกว่าข้อ 1 ไหม
3. รถ Eco Car เช่น Brio, Jazz, Swift (ปี 2010 บวกลบนิดหน่อย) กลุ่มนี้คือรู้สึกเฉยๆ กับรูปลักษณ์ รถยังปีไม่เก่ามาก ยังไม่ค่อยมีสตอรี่, แต่ก็รู้สึกว่าน่าจะปัญหาน้อยกว่า 2 กลุ่มบน อะไหล่ก็น่าจะหาง่ายกว่า อย่างน้อยรถก็ใหม่กว่าเป็น 10+ ปี
ถ้าเป็นเพื่อนๆ คิดว่าจะเลือกตัวไหน เพราะอะไรครับ :)
แก้ไขเพิ่มเติม: ลืมบอกไปครับว่ามีงบ 4 แสนไม่เกิน 5 แสน (สำหรับปีนี้) ตอนแรกก็มอง MX5 ไว้เหมือนกัน แต่เกินงบไปพอสมควร
-
ถ้าเป็นผมจะเลือก MX5 ครับ มันเป็นรถที่เหมาะกับมาทำเป็นรถ track car มากๆ พื้นฐานเป็นรถที่บาลานซ์มากทำให้เราเรียนรู้อาการรถขับหลังได้เป็นอย่างดี ของแต่งสำหรับไว้ลงแทร็กก็เยอะเลย สมัยก่อนตอนผมอยู่ต่างประเทศเวลาไปแทร็กเดย์รถที่เจอบ่อยที่สุดคือ MX5 ครับ ตอนผมไปลงเรียนคอร์สแข่งรถก็ใช้ Spec Miata ที่ทำไว้สำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะครับ
-
ถ้าเป็นผมจะเลือก MX5 ครับ มันเป็นรถที่เหมาะกับมาทำเป็นรถ track car มากๆ พื้นฐานเป็นรถที่บาลานซ์มากทำให้เราเรียนรู้อาการรถขับหลังได้เป็นอย่างดี ของแต่งสำหรับไว้ลงแทร็กก็เยอะเลย สมัยก่อนตอนผมอยู่ต่างประเทศเวลาไปแทร็กเดย์รถที่เจอบ่อยที่สุดคือ MX5 ครับ ตอนผมไปลงเรียนคอร์สแข่งรถก็ใช้ Spec Miata ที่ทำไว้สำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะครับ
ลืมบอกไปครับว่าตั้งงบ 4 แสนไม่เกิน 5 แสน (สำหรับปีนี้) ตอนแรกก็มอง MX5 ไว้เหมือนกัน แต่เกินงบไปพอสมควร
-
E36. ครับ.
ในเหตุผลมองว่าเป็นรถขับหลังเช่นเดียวกับรถที่ จขก ใช้ เวลาเจออาการในสนาม สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับอาการรถเวลาเกิดเหตุบนถนนได้ และ E36ของแต่งยังพอหาได้พอสมควร รวมถึงการสื่อสารระหว่างรถกับคนขับมันทำได้โอเค
-
ถ้ายอมสละไว้ใช้ในสนามเท่านั้น
ผมแนะนำว่า หารถที่ไม่ต้องมีทะเบียนได้เลย
ข้อดีคือ ด้วยงบที่เท่ากัน สามารถได้รถที่มีสมรรถนะเอื้อต่อการเรียนรู้และเพิ่มทักษะการขับได้ดีกว่ามาก
เช่น ผมยกเคส MX-5 NA นะครับ
หามีทะเบียน เกินงบไปเยอะ
แต่ถ้าไม่มีทะเบียน งบเหลือไปทำเพิ่มได้อีก
สงสัยอะไรหรือไม่เข้าใจตรงไหน หลังไมล์มาได้ครับ
-
ในงบ 4 แสน รถลงสนาม ไม่แน่ใจว่าตั้งใจจะจริงจังขนาดไหน ถ้าอยากจริงจังมาก คงต้องมองรถที่หาอะไหล่ (โดยเฉพาะตัวถัง)ง่ายหน่อย เผื่อมีกระทบกระทั่ง ถัดมาคือรถ MR อาจต้องตัดทิ้งเพราะหาเพื่อนร่วม class ยาก ... เบื้องต้นผมมองที่รถเล็กขับหน้าอย่าง Jazz GE เกียร์ธรรมดา แล้วค่อยขยับรถต่อไปตามความชอบ
แต่ถ้าเน้นขับสนุกๆ ก็เลือกตามที่ชอบเลยครับ
-
Jazz หรือตระกูล Honda ทำง่าย อะไหล่เพียบ
-
อยากอยู่ใกล้สนามบ้างจัง
-
เมื่อวานเห็นซีวิค 3 ประตูลงประกาศขายในตลาดรถ ราคา 2 หมื่น ผมว่าเหมาะเอามาปั้นมากๆ ผมยังอยากได้เลย แต่ไม่มีที่จอด รุ่นนี้คนเอามาวาง uz เพื่อวิ่งในสนามกันพอสมควร
-
ก่อนจะไปดูเรื่องรถ อยากให้ถอยกลับมาดูว่าจะ ลงแทรคแบบไหนก่อน ครับ
1. แทรคเดย์ธรรมดา ผมว่า 430 ก็พอได้ อาจจะต้องเปลี่ยนจานเบรค ผ้าเบรค ยาง แค่นี้ก็น่าจะพอ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนมีกลุ่ม gentle man track day ก็ใช้รถบ้านๆนี่ลง พีระ จับเวลา best lap สนุกดี ถ้าแน่ใจว่าชอบ ค่อยไปทางเลือกที่เหลือ
2. ถ้าลงแข่ง open civic 3 door โมเต็ม ในงบที่ว่าน่าจะพอไหว แต่ต้องมีconnection กับช่าง service บ้าง เคยดูคลิป พวกนี้แข่งกันโหดเหลือเกิน ประเภท ทิ้งรถ เอาถ้วย
3. ปัจจุบันมีการแข่ง พวก jazz swift ที่เป็นซีรี่ยส์ ได้แข่งที่่บางแสนด้วย ก็ต้องใช้รถตามที่กติกากำหนด แต่งบก็อาจจะเกินอยู่ดี น่าจะเกือบล้าน เพราะต้องมีทีมเซอร์วิสด้วย
4. อีกแบบคือ ไม่ต้องซื้อรถ ลงแข่ง endurance บุรีรัมย์ อันนี้ จ่าย ห้าหมื่น ไม่รวมพวกชุดนักแข่ง รองเท้า ได้ขับ jazz กันเป็นทีม แต่อาจจะต้องคุ้นเคยกับการลงแทรคพอสมควรไม่งั้นถ้าเราช้าจะเป็นตัวดึงเวลาของทีม และร่างกายต้องแข็งแรงมากเพราะแข่งกันยาวๆ
-
ก่อนจะไปดูเรื่องรถ อยากให้ถอยกลับมาดูว่าจะ ลงแทรคแบบไหนก่อน ครับ
1. แทรคเดย์ธรรมดา ผมว่า 430 ก็พอได้ อาจจะต้องเปลี่ยนจานเบรค ผ้าเบรค ยาง แค่นี้ก็น่าจะพอ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนมีกลุ่ม gentle man track day ก็ใช้รถบ้านๆนี่ลง พีระ จับเวลา best lap สนุกดี ถ้าแน่ใจว่าชอบ ค่อยไปทางเลือกที่เหลือ
2. ถ้าลงแข่ง open civic 3 door โมเต็ม ในงบที่ว่าน่าจะพอไหว แต่ต้องมีconnection กับช่าง service บ้าง เคยดูคลิป พวกนี้แข่งกันโหดเหลือเกิน ประเภท ทิ้งรถ เอาถ้วย
3. ปัจจุบันมีการแข่ง พวก jazz swift ที่เป็นซีรี่ยส์ ได้แข่งที่่บางแสนด้วย ก็ต้องใช้รถตามที่กติกากำหนด แต่งบก็อาจจะเกินอยู่ดี น่าจะเกือบล้าน เพราะต้องมีทีมเซอร์วิสด้วย
4. อีกแบบคือ ไม่ต้องซื้อรถ ลงแข่ง endurance บุรีรัมย์ อันนี้ จ่าย ห้าหมื่น ไม่รวมพวกชุดนักแข่ง รองเท้า ได้ขับ jazz กันเป็นทีม แต่อาจจะต้องคุ้นเคยกับการลงแทรคพอสมควรไม่งั้นถ้าเราช้าจะเป็นตัวดึงเวลาของทีม และร่างกายต้องแข็งแรงมากเพราะแข่งกันยาวๆ
คิดว่าน่าจะแค่ระดับ 1 ครับ (อย่างมากก็คง 2 แต่คงอีกนาน) แต่ที่ไม่ใช้ 430 เพราะเป็นรถใช้งานหลัก กังวลว่าเกิดเฉี่ยวชน หรือ แค่สไลด์ลงบ่อกรวด ก็จะวุ่นวายต้องรอซ่อมหรือเสียค่าซ่อมเยอะน่ะครับ
-
มาแนว 1 ผมว่าเลือกที่ชอบได้เลยครับ ... เว้นไว้หน่อยว่า MR2 อาจจะยากไปหน่อย อาจจะไม่สนุก
ส่วนตัวถ้าเน้นรถเบาๆ หัดขับลงสนามเชียร์ Jazz GE หรือถ้าอยากได้รถแรงๆ ขับทั้งในสนามนอกสนาม ก็ Impreza GC
-
ก่อนจะไปดูเรื่องรถ อยากให้ถอยกลับมาดูว่าจะ ลงแทรคแบบไหนก่อน ครับ
1. แทรคเดย์ธรรมดา ผมว่า 430 ก็พอได้ อาจจะต้องเปลี่ยนจานเบรค ผ้าเบรค ยาง แค่นี้ก็น่าจะพอ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนมีกลุ่ม gentle man track day ก็ใช้รถบ้านๆนี่ลง พีระ จับเวลา best lap สนุกดี ถ้าแน่ใจว่าชอบ ค่อยไปทางเลือกที่เหลือ
2. ถ้าลงแข่ง open civic 3 door โมเต็ม ในงบที่ว่าน่าจะพอไหว แต่ต้องมีconnection กับช่าง service บ้าง เคยดูคลิป พวกนี้แข่งกันโหดเหลือเกิน ประเภท ทิ้งรถ เอาถ้วย
3. ปัจจุบันมีการแข่ง พวก jazz swift ที่เป็นซีรี่ยส์ ได้แข่งที่่บางแสนด้วย ก็ต้องใช้รถตามที่กติกากำหนด แต่งบก็อาจจะเกินอยู่ดี น่าจะเกือบล้าน เพราะต้องมีทีมเซอร์วิสด้วย
4. อีกแบบคือ ไม่ต้องซื้อรถ ลงแข่ง endurance บุรีรัมย์ อันนี้ จ่าย ห้าหมื่น ไม่รวมพวกชุดนักแข่ง รองเท้า ได้ขับ jazz กันเป็นทีม แต่อาจจะต้องคุ้นเคยกับการลงแทรคพอสมควรไม่งั้นถ้าเราช้าจะเป็นตัวดึงเวลาของทีม และร่างกายต้องแข็งแรงมากเพราะแข่งกันยาวๆ
คิดว่าน่าจะแค่ระดับ 1 ครับ (อย่างมากก็คง 2 แต่คงอีกนาน) แต่ที่ไม่ใช้ 430 เพราะเป็นรถใช้งานหลัก กังวลว่าเกิดเฉี่ยวชน หรือ แค่สไลด์ลงบ่อกรวด ก็จะวุ่นวายต้องรอซ่อมหรือเสียค่าซ่อมเยอะน่ะครับ
จริงๆ track day ถ้าลงกับคน ที่รู้ใจกัน มันปลอดภัยมากๆนะครับ
มุมมองผมว่าปลอดภัยกว่าอัดบนถนนอีก
เพราะไม่ได้แข่งเอาถ้วย ต่างคนต่างวิ่งจับเวลา ทุกคนกลัวชนเหมือนกัน
เห็นแรงกว่าก็หลบให้แซงเลย สุดท้ายได้เพื่อนดีๆด้วยครับ
อีกอย่าง กลุ่ม bm ทีลงแทรค น่าจะหาง่ายกว่า รถอื่นๆ ครับ
แต่ถ้าเสียดายรถจริงๆ ก๋ฝ็ jazz นี่แกฝหละครับ เปลี่ยนผ้าเบรคเอา
ถ้า อยากจะเริ่ม ลองไปเข้าเวป mra racing acadamyดูครับ เอารถเดิมๆไปลงก่อนก็ได้
-
กำลังมองๆอยู่เหมือนกันครับ ;D คืออยู่ที่โจทย์ที่อยากทำครับ ว่าจะขับเล่นอย่างเดียว หรือลงรายการสมัครเล่นด้วย
เคยทำ EG 3dr ซื้อรถมาปั้นเอง งบไปไกลมาก ทำทั้งปะผุ , เครื่อง , ช่วงล่าง, set-upไห้พอดี ถ้าเวลาไม่มี หรือมีงานประจำ ถึงจะมีงบผมไม่ค่อยแนะนำเลย
ไป Brio, Jazz one make race spec ผมว่าจบกว่าค่อนข้างเยอะ รถสดใหม่ ลงแข่งได้เลย
-
ถ้าเป็นผมจะเลือกตามระบบขับเคลื่อนที่ชอบครับ :D
-
Subaru Gc ครับ อยู่ในงบ ขับ4ด้วย ลองแล้วจะฟิน
-
งบ 5 แสน ต้องถามก่อนว่า เป็นรถขับขี่ในสนาม แล้ว กังวลเรื่องค่าซ่อมบำรุงไหม(ไม่ใช่ซื้อขับในสนาม พังแล้วทิ้งนิ จริงไหมครับ)
เพราะรถที่ขับขี่ในสนาม(อาจจะแค่วันหยุด หรือ เวลาว่า) แต่ความสึกหรอมากกว่าปกติ แทบทุกส่วน เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ฯลฯ
ทีนี้ต้องบอกมาว่า อยากได้รถแบบไหน คาแรคเตอร์ยังไง เพราะจริงๆ มันขับในสนามได้หมด ขนาดกลุ่ม 1.5 เขายังมี One Make Race เลยครับ แสดงรถพวกนี้ เขาลงสนามได้หมด
ผมแนะนำกลุ่มรถ 1.5 เนี่ยละ แล้วเอาไปลงรายการ One Make Race ไปเลยครับ จะได้ฟิลลิ่งเต็มที่ พร้อมความสนุก เร้าใจ ท้าทาย และ ประสบการณ์ด้วย ดีกว่าไปขับเล่นๆ คนเดียว หรือ แค่กลุ่มคนรู้จักไม่กี่คน
-
งบ 5 แสน ต้องถามก่อนว่า เป็นรถขับขี่ในสนาม แล้ว กังวลเรื่องค่าซ่อมบำรุงไหม(ไม่ใช่ซื้อขับในสนาม พังแล้วทิ้งนิ จริงไหมครับ)
เพราะรถที่ขับขี่ในสนาม(อาจจะแค่วันหยุด หรือ เวลาว่า) แต่ความสึกหรอมากกว่าปกติ แทบทุกส่วน เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ฯลฯ
ทีนี้ต้องบอกมาว่า อยากได้รถแบบไหน คาแรคเตอร์ยังไง เพราะจริงๆ มันขับในสนามได้หมด ขนาดกลุ่ม 1.5 เขายังมี One Make Race เลยครับ แสดงรถพวกนี้ เขาลงสนามได้หมด
ผมแนะนำกลุ่มรถ 1.5 เนี่ยละ แล้วเอาไปลงรายการ One Make Race ไปเลยครับ จะได้ฟิลลิ่งเต็มที่ พร้อมความสนุก เร้าใจ ท้าทาย และ ประสบการณ์ด้วย ดีกว่าไปขับเล่นๆ คนเดียว หรือ แค่กลุ่มคนรู้จักไม่กี่คน
เบื้องต้นคิดว่าอยากขับเล่นในสนามวันหยุดก่อนครับ อยากลองเปลี่ยนโน่นปรับนี่ดู ให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
ดังนั้นรถคาแรกเตอร์แบบไหนตอนนี้ได้หมดไม่เกี่ยง จะขับหน้า ขับหลัง ขับสี่ เพราะสำหรับผมมันเป็นประสบการณ์ใหม่หมดเลย (จะบอกว่าขับเกียร์ธรรมดายังไม่รู้จะรอดหรือเปล่า ขับล่าสุดเมิ่อสิบกว่าปีก่อนตอนเรียนขับรถ หลังจากนั้นก็เกียร์ออโต้ตลอด)
เรื่องลงรายการแข่งยังไม่ได้คิดเลยครับตอนนี้ ยังแค่เริ่มต้น แถมไม่น่าจะค่อยมีเวลาฝึกเท่าไรด้วยครับ
-
งบ 5 แสน ต้องถามก่อนว่า เป็นรถขับขี่ในสนาม แล้ว กังวลเรื่องค่าซ่อมบำรุงไหม(ไม่ใช่ซื้อขับในสนาม พังแล้วทิ้งนิ จริงไหมครับ)
เพราะรถที่ขับขี่ในสนาม(อาจจะแค่วันหยุด หรือ เวลาว่า) แต่ความสึกหรอมากกว่าปกติ แทบทุกส่วน เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ฯลฯ
ทีนี้ต้องบอกมาว่า อยากได้รถแบบไหน คาแรคเตอร์ยังไง เพราะจริงๆ มันขับในสนามได้หมด ขนาดกลุ่ม 1.5 เขายังมี One Make Race เลยครับ แสดงรถพวกนี้ เขาลงสนามได้หมด
ผมแนะนำกลุ่มรถ 1.5 เนี่ยละ แล้วเอาไปลงรายการ One Make Race ไปเลยครับ จะได้ฟิลลิ่งเต็มที่ พร้อมความสนุก เร้าใจ ท้าทาย และ ประสบการณ์ด้วย ดีกว่าไปขับเล่นๆ คนเดียว หรือ แค่กลุ่มคนรู้จักไม่กี่คน
เบื้องต้นคิดว่าอยากขับเล่นในสนามวันหยุดก่อนครับ อยากลองเปลี่ยนโน่นปรับนี่ดู ให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
ดังนั้นรถคาแรกเตอร์แบบไหนตอนนี้ได้หมดไม่เกี่ยง จะขับหน้า ขับหลัง ขับสี่ เพราะสำหรับผมมันเป็นประสบการณ์ใหม่หมดเลย (จะบอกว่าขับเกียร์ธรรมดายังไม่รู้จะรอดหรือเปล่า ขับล่าสุดเมิ่อสิบกว่าปีก่อนตอนเรียนขับรถ หลังจากนั้นก็เกียร์ออโต้ตลอด)
เรื่องลงรายการแข่งยังไม่ได้คิดเลยครับตอนนี้ ยังแค่เริ่มต้น แถมไม่น่าจะค่อยมีเวลาฝึกเท่าไรด้วยครับ
ประสบการณ์ การขับรถในสนาม ขับหน้า(FF) ขับหลัง(FR) หรือ ขับสี่(AWD/4WD) ก็คนละแบบครับ อาการ ตอบสนอง, การเข้าโค้ง, Racing line , การใช้รอบใช้คันเร่ง,การเบรค ก็ต่างกัน
ถ้าเริ่มต้นเลย หารถง่าย ราคาถูกเข้าไว้ เผื่อพลาดวิ่งจูบแบริเออร์มา จะได้ซ่อมง่าย ไม่ต้องใช้งบเยอะ ผมแนะนำ Civic 3Dr เตารีด เกียร์ MT จบสุด
รถไม่ได้แรง ความเร็วไม่สูง ขับง่าย(เบา) โอกาศพลาดมีน้อย ทำช่วงล่างนิดหน่อย เปลี่ยนล้อยาง เปลี่ยนผ้าเบรค แค่นี้ก็ลง track ได้แล้วครับ ก็จะได้ประสบการณ์และความสนุกเลยละ เป็นรถครู รถซ้อม รถฝึกมือ สำหรับใครหลายคน(รวมถึงผมด้วย) ต่อไปในอนาคตอยากไปต่อกับรถที่แรงขึ้น เร็วขึ้น พร้อมที่จะไปต่อค่อยว่ากันไป
-
งบ 5 แสน ต้องถามก่อนว่า เป็นรถขับขี่ในสนาม แล้ว กังวลเรื่องค่าซ่อมบำรุงไหม(ไม่ใช่ซื้อขับในสนาม พังแล้วทิ้งนิ จริงไหมครับ)
เพราะรถที่ขับขี่ในสนาม(อาจจะแค่วันหยุด หรือ เวลาว่า) แต่ความสึกหรอมากกว่าปกติ แทบทุกส่วน เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ฯลฯ
ทีนี้ต้องบอกมาว่า อยากได้รถแบบไหน คาแรคเตอร์ยังไง เพราะจริงๆ มันขับในสนามได้หมด ขนาดกลุ่ม 1.5 เขายังมี One Make Race เลยครับ แสดงรถพวกนี้ เขาลงสนามได้หมด
ผมแนะนำกลุ่มรถ 1.5 เนี่ยละ แล้วเอาไปลงรายการ One Make Race ไปเลยครับ จะได้ฟิลลิ่งเต็มที่ พร้อมความสนุก เร้าใจ ท้าทาย และ ประสบการณ์ด้วย ดีกว่าไปขับเล่นๆ คนเดียว หรือ แค่กลุ่มคนรู้จักไม่กี่คน
เบื้องต้นคิดว่าอยากขับเล่นในสนามวันหยุดก่อนครับ อยากลองเปลี่ยนโน่นปรับนี่ดู ให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
ดังนั้นรถคาแรกเตอร์แบบไหนตอนนี้ได้หมดไม่เกี่ยง จะขับหน้า ขับหลัง ขับสี่ เพราะสำหรับผมมันเป็นประสบการณ์ใหม่หมดเลย (จะบอกว่าขับเกียร์ธรรมดายังไม่รู้จะรอดหรือเปล่า ขับล่าสุดเมิ่อสิบกว่าปีก่อนตอนเรียนขับรถ หลังจากนั้นก็เกียร์ออโต้ตลอด)
เรื่องลงรายการแข่งยังไม่ได้คิดเลยครับตอนนี้ ยังแค่เริ่มต้น แถมไม่น่าจะค่อยมีเวลาฝึกเท่าไรด้วยครับ
ประสบการณ์ การขับรถในสนาม ขับหน้า(FF) ขับหลัง(FR) หรือ ขับสี่(AWD/4WD) ก็คนละแบบครับ อาการ ตอบสนอง, การเข้าโค้ง, Racing line , การใช้รอบใช้คันเร่ง,การเบรค ก็ต่างกัน
ถ้าเริ่มต้นเลย หารถง่าย ราคาถูกเข้าไว้ เผื่อพลาดวิ่งจูบแบริเออร์มา จะได้ซ่อมง่าย ไม่ต้องใช้งบเยอะ ผมแนะนำ Civic 3Dr เตารีด เกียร์ MT จบสุด
รถไม่ได้แรง ความเร็วไม่สูง ขับง่าย(เบา) โอกาศพลาดมีน้อย ทำช่วงล่างนิดหน่อย เปลี่ยนล้อยาง เปลี่ยนผ้าเบรค แค่นี้ก็ลง track ได้แล้วครับ ก็จะได้ประสบการณ์และความสนุกเลยละ เป็นรถครู รถซ้อม รถฝึกมือ สำหรับใครหลายคน(รวมถึงผมด้วย) ต่อไปในอนาคตอยากไปต่อกับรถที่แรงขึ้น เร็วขึ้น พร้อมที่จะไปต่อค่อยว่ากันไป
ขอบคุณมากครับ ::) ::)
-
ซื้อโกคาร์ทครับ หาแบบมือ2 หรือมือ1ก็ได้ อยากแรงก็หาแบบมีเกียร์ พวกโกคาร์ทส่วนตัวการขับขี่มันคนละแบบกับที่เช่าเล่นกันกับปกติ ตามสนามใหญ่ๆก็มีบริการฝากรถ ขับให้แม่นไลน์จริงๆค่อยขยับไป4ล้อ จำพวก one make race ก็ได้ ทุกปีมีคนที่เลิกแข่งมาขายรถ ซื้อต่อพวกนี้ก็ได้ พวกนักแข่ง f1 ก็มากจากการขับโกคาร์ททั้งนั้น เป็นพื้นฐานที่สุด ราคารวมทั้งหมดยังถูกกว่าซื้อรถไว้เล่นคันนึง