Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Fragile ที่ สิงหาคม 24, 2022, 11:12:03
-
ถ้ากะใช้ยาวประมาณ 5-8 ปี มีอะไรต้องกังวลไหมครับ ถ้าเทียบกับรถไฮบริดจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าไหมครับ
ขอบคุณครับ
-
เครื่องยนต์ไม่น่าห่วง แต่ไม่เกิน 10 ปี แบตเตอรี่อยู่ในประกันนี่ครับ ชุดอินเวอเตอร์ รอดูว่าจะใช้งานได้นานไหม รถพึ่งออก แต่พวก e power ในญี่ปุ่นมีมาพักนึงละ อย่างน้อยๆก็ไม่มีชุดเกียร์เหมือนพวกคู่ขนานไฮบริดเจ้าอื่นๆ อย่างมอเตอร์อย่างเดียวน่าจะทน อย่างหัวรถจักร ใช้กันเป็นล้านกิโล และมันมีเซฟตี้อยู่แล้ว เผลออนาคตซ่อมไม่น่ายาก
-
เครื่องยนต์ไม่น่าห่วง แต่ไม่เกิน 10 ปี แบตเตอรี่อยู่ในประกันนี่ครับ ชุดอินเวอเตอร์ รอดูว่าจะใช้งานได้นานไหม รถพึ่งออก แต่พวก e power ในญี่ปุ่นมีมาพักนึงละ
แสดงว่า อนาคต เชียงกงเพียบสินะ
-
ตอนนี้น่าห่วงแค่อย่างเดียวคือ
ถ้าจะเอาไปใช้ลุยน้ำระดับที่สูงกว่าเก๋งปกติแค่นิดเดียว น้ำก็เข้าพื้นรถถึงแบตแล้วมีปัญหาแล้วครับ
กลายเป็นลุยน้ำไม่ได้สูงอย่างที่คิด เผลอๆ อาจใช้ได้แค่ในระดับเก๋งหรือต่ำกว่าเก๋งสันดาปไปด้วย
ไม่ได้ทำมากันส่วนนี้ได้ดีเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องขยันต่อประกันภัยปีต่อปีที่ราคาสูงหน่อยไว้บ้างครับ
ดีกว่าเสียค่าแบตเอง ถึงจะยังไม่แสนแต่ก็หลายหมื่นเกือบแสนอยู่
นอกนั้นยังไม่มีอะไรน่าห่วงครับ Gen 1 รถไม่จุกจิกเลยในช่วงที่ผ่านมา
Gen 2 มีปัญหาออกใหม่ประปรายแต่ก็แก้ได้จบ
รับประกันระบบ e-Power 5 ปี แต่จำกัดแค่ 100,000 km ก็อาจจะคิดหนักสำหรับคนใช้รถเยอะหน่อย
แบตประกัน 10 ปีไม่จำกัดระยะทางก็ไม่มีอะไรน่าห่วงมาก ถ้าใช้แค่ตามที่ว่าครับ
-
ถ้ากะใช้ยาวประมาณ 5-8 ปี มีอะไรต้องกังวลไหมครับ ถ้าเทียบกับรถไฮบริดจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าไหมครับ
ขอบคุณครับ
ถ้าเทียบกับรถไฮบริด
e Power คือไฮบริดนะครับ มันมีทุกอย่างแบบรถไฮบริด
ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ แบตเตอรี่ และอื่นๆ
ก็มันเป็นไฮบริดน่ะครับ อย่างไปหลงคำโฆษณาที่ว่าเป็นรถไฟฟ้า
อยากให้เข้าใจตรงนี้ก่อน
ทีนี้ต้องย้อนกลับมาถามแล้วว่าก่อนหน้านี้กังวลใจอะไรกับรถไฮบริดอื่นๆ
ซึ่งความกังวลอันน้ันก็ย่อมต้องมีอยู่ใน Kicks e-power แน่นอน
แต่ถ้าเชื่อมั่นว่าระบบไฮบริดญี่ปุ่นมันเชื่อถือได้ ไฮบริดญี่ปุ่นทุกยี่ห้อก็
มีความแม่นยำน่าเชื่อถือหมด มีความต่างที่แนวคิดวิธีการทำงานของ
ระบบเท่านั้น
e power ของนิสสันเป็นระบบที่ง่ายสุด คือเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟอย่างเดียว
ไม่ทำอย่างอื่นเลย ตั้งหน้าตั้งตาปั่นไฟมันเข้าไป ซึ่งการใช้งานช่วงเร่งๆ หยุดๆ
ในเมืองจะดี แต่เหมื่อไหร่ที่ทางไหลลื่น วิ่งไปไหลๆ ไปจนวิ่งเร็วไปมันจะประหยัด
สู้ไฮบริดอื่นไม่ได้ เผลอๆ ถ้าวิ่งนิ่งๆ จะสู้รถน้ำมันที่ใช้เครื่องขับล้อตรงๆ ไม่ต้อง
ผ่านการปั่นไฟไปส่งมอเตอร์ไม่ได้อีกต่างหาก ระบบไฮบริดของฮอนด้าจึงเพิ่ม
การต่อตรงเอาเครื่องมาขับล้อตรงๆ ในช่วงที่ e power เสียเปรียบในการแปลง
พลังงานตรงนี้นี่แหละ ส่วนระบบของโตโยต้ามันผู้ทุกอย่างรวมหมด อธิบายยาว
แต่ประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า เพียงแต่เราอาจไม่รู้สึกว่าเรี่ยวแรงมันจี๊ดจ๊าด
เพราะโตโยต้าใช้มอเตอร์ตัวเล็กกว่าเท่านั้นเอง แต่ภาพรวมระบบเขาทำงานได้
ครอบคลุมเงื่อนไขมากกว่า
ทีนี้ถ้าย้อนกลับมาที่ความน่ากังวลในระยะยาวของไฮบริดซึ่งรวมทุกระบบ
ไม่เฉพาะของนิสสันก็คือ ตัวแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์ ไปจนถึงชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม
การทำงานของระบบ ความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อจะอยู่ที่การสต็อกอะไหล่ และ
ความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิคของแต่ละแบรนด์แล้วล่ะครับ
-
Hybrid ทุกยี่ห้อ ที่เป็นระเบิดเวลาคือ แบต และ ชุดอินเวิตเตอร์ แม้แต่โตต้า ฮอนด้า ที่ขายรถกันไปเยอะๆ เมื่อถึงระยะก็พังเหมือนกันครับ แต่ค่าซ่อมอาจจะถูกกว่ายี่ห้อที่ขายรถออกไปน้อย ต่อให้เปลี่ยนทีล่ะโมดุลก็ตามสุดท้ายถ้าใช้ไปยาวๆ ก็ต้องเปลี่ยนหมดอยู่ดีครับ และที่มันจะซ้ำซ้อนคือ เครื่องยนต์ก็ต้องซ่อมบำรุงด้วย กลายเป็นซ่อม 2 ต่อ ถ้าซื้อเพราะชอบ เพราะอัตราเร่งดี ซื้อเลยครับ แต่ถ้าซื้อเอาประหยัด ไปน้ำมันปกติดีกว่าครับ
-
เล่าให้อ่านจากรถไฮบริจ ละกันครับ ..
รถอายุเกิน 5ปี แบ็ตก็จะเก็บไฟได้น้อยลงตามระยะทางที่ใช้งาน
รถในประกันมีแบ็ตเสียไหม ... มีแต่เครมได้ และเมื่อหมดประกันแล้ว มีเสียไหม คือมี และเปลี่ยนเองแพงมาก
ทีนี้ถ้าต้องการขายรถเมื่อรถมีอายุ 5-6ปีล่ะ ก็ขายได้ แต่เต้นท์ไม่อยากได้ เพราะไม่มีอะไรการันตีว่า เมื่ออยู่ในมือคนที่ซื้อต่อแบ็ตจะไม่เสีย รวมถึงระบบอื่นๆด้วย (รถไฮบริจราคาตกมาก แนะนำให้ศึกษาให้ดีก่อน)
แบ็ตที่มีเทคโนโลยีสูงที่สุด คือแบ็ตมือถือเรานี่แหละ และลองคิดดูว่า มือถือเราใช้ได้กี่ปี แบ็ตเริ่มเสื่อมเก็บไฟไม่อยู่จนต้องเปลี่ยน ก็ลองย้อนมามองที่รถยนต์ดูครับ ว่าแบ็ตมันจะทนได้แค่ไหน
นี่ยังไม่รวมมอเตอร์ขับเคลื่อนที่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า วิ่งได้กี่แสนกิโลเลยและถ้าพัง ซ่อมได้ไหมเหรือต้องเปลี่ยนยกลูก
-
ไม่อยากให้เดา
ผมใช้มา ตั้งแต่เปิดตัว ไม่มีปัญหาไร แต่ประหยัดไม่เท่าไฮบริดอื่น ๆ ครับ ค่าเฉลี่ยคือ 18.7 กม./ลิตร
แบตฯ ก็คงแบบมือถือ ทนแค่ไหนก็แบบนั้น ผมไม่ห่วงอะไร
ค่าดูแลก็เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็คระบบ ไม่มีน้ำมันเกียร์
มีกังวลอะไรไหม ..... ไม่มีครับ ......
ผมชอบครับ อาจจะไม่เท่า saab เพราะการดึงไม่เหมือนกัน แต่เป้าหมายใช้งานต่างกันครับ
-
นิสสันรุ่นต่อๆไปก็จะมี epowerเป็นทางเลือกด้วย มันคงจะแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ น่ากังวลน้อยลงเรื่อยๆมากกว่า
-
รู้สึกว่าแบตรถรุ่นนี้จะป้องกันน้ำเข้าได้ไม่ดีครับ. แถมยังแพงมากอีก ทั้งที่ลูกเล็กนิดเดียว
https://m.youtube.com/watch?v=Mg800mWL6sA