Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: IS2000 ที่ ธันวาคม 12, 2015, 21:17:58
-
วันนี้ขอเป็น teaser ไว้ก่อนละกันนะครับ พอดีเพิ่งรับรถ W205 C300 hybrid ตัว AMG มาเลยอยากลองทำรีวิวคู่กับ W204 C63AMG คันเก่าสีเดียวกันแต่บุคลิกคนละขั้วกันเลย (แต่ภายนอกดูสไตล์คล้ายกันมาก) เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อครับ ;)
-
ปูเสื่อรอชมเลยครับ
-
มาต่อครับ ขอทำรีวิวแบบบ้านๆละกันนะครับแต่ผมจะลองทำแบบเทียบสลับกันสองคันไปพร้อมๆกันเลย
มาดูเจ้า W205 กันก่อน
-
ต่อด้วย W204 C63AMG ครับ ภายนอกถ้าดูผ่านๆเหมือนรถแรงในระดับเดียวกันเลย
-
มาดูเครื่องยนต์กันบ้างครับ
W205 มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อค OM651 เทอโบดีเซล 2.1 ลิตรพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวม 231ps แรงบิดประมาณ 500nm
ปล รูปแอบเบลอต้องขออภัยครับ ผมรีบๆไปถ่ายเก็บไว้เมื่อเช้านี้
-
ส่วน W204 มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ความจุมากกว่า W205 C300 เกือบสามเท่าตัว
บล็อค M156 8สูบ 6.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 457ps แรงบิด 600nm
-
โดยรวมถ้าให้เทียบเครื่องยนต์ของรถยนต์ทั้งสองคันนี้คงเทียบกันไม่ได้นะครับ ตัวนึงเป็นเครื่องสุดประหยัด กับอีกตัวเป็นเครื่องที่เน้นพละกำลังล้วนๆ
แต่ผมกลับคิดว่า C300 hybrid นั้นทำได้ดีมากในการใช้กำลังของมอเตอร์ไฟฟ้ามาเสริมกับเครื่องเทอโบดีเซลครับ ในรอบเครื่องต่ำการเอาแรงจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาอุดช่วงที่มีอาการเทอโบแล็ค (ช่วงที่เทอโบยังไม่ตอบสนองเต็มที่) ทำให้เครื่องตัวนี้ในรอบต่ำนั้นให้ความรู้สึกในการส่งกำลังแอบคล้ายเครื่องบล็อคของคัน 63 ครับ
ผมเคยขับ F30 325d รถรุ่นนั้นมีอาการเทอโบแล็คค่อนข้างชัดเจนครับ แต่ C300 hybrid กลับไม่มีเลยในโหมด sport
เสียงเครื่องบล็อค OM651 เป็นอะไรที่ไม่น่าฟังในช่วงเร่งแต่ถ้าขับไปเรื่อยๆก็เงียบไม่มารบกวนห้องโดยสารครับ
ในทางกลับกัน M156 นั้นเสียงเครื่องและท่อน่าจะเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ เวลาขับทำให้รู้สึกอยากเบิ้ลเครื่องตลอดเวลาเพราะเสียงเร้าใจมาก
อัตราเร่งในรอบต้นๆนั้นไม่ต่างกันมากครับ แต่การตอบสนองต่อคันเร่งเครื่อง V8 จะเป็นธรรมชาติกว่า
พอรอบกลางและปลายคงไม่ต้องเทียบกันเพราะ C63 ดึงได้หนักหน่วงมากในทุกช่วงรอบเครื่องยนต์ครับ (เอาจริงๆ C300 ผมก็ยังไม่ได้ลองเครื่องยนต์อย่างจริงจังเพราะรอพ้นช่วงรันอินก่อนครับ) ให้เทียบกับ Audi R8 V8 คันที่ผมเคยรีวิว ผมคิดว่า C63 ดึงกว่าในทุกรอบเครื่อง จะมีออดี้ที่สามารถลากรอบได้เกิน 8000rpm เทียบกับ C63 ที่ได้ 7000 กว่าๆ ในช่วงนั้นถ้า Audi ลากรอบจริงๆก็อาจจะสูสีตีคู่กับ 63 ได้
เรื่องอัตราสิ้นเปลืองก็คงไม่ต้องเทียบกันเลยครับ เท่าที่ขับมา C300 บริโภคน้ำมันราวๆ 1/3 ของ C63 ได้และนั่นคือเทียบการขับทั่วๆไปครับ ไม่นับตอนกดหนักๆหรือวิ่งทางด่วนยาวๆ
-
มาต่อกันที่ภายในครับ
W205 ตัวนี้ภายในหรูหราดูไฮโซมาก นั่งแล้วไม่เหมือนอยู่ในรถ C-Class เลยครับ ให้เทียบกับ F30 328i ของผมอีกคันแล้วเหมือนนั่งในรถคนละ segment เลย วัสดุและดีไซน์ของ W205 เหนือกว่า F30 พอสมควร แต่การใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆผมกลับชอบ F30 มากกว่ารวมถึงตำแหน่งขับที่จมกว่าและเบาะหลังที่นั่งสบายกว่า
-
เทียบ W204 แล้วคนละเรื่องเลยครับ เหมือนย้อนยุคไปหลาย generation
แต่ 204 ผมให้คะแนนเรื่องทัศนวิสัยดีกว่า 205 ครับ ปุ่มต่างๆใช้งานง่าย (อาจเพราะชินแล้วด้วย)
เบาะตัวนี้เป็น AMG เลยโอบกระชับมากครับและสามารถปรับการโอบของปีกเบาะและที่ดันหลังได้ หนังที่ใช้เป็นหนัง Nappa คล้าย S-Class ตัว AMG ทั้งตรงเบาะรองนั่งและผนังบุประตูด้วย C-Class ตัวอื่นๆจะใช้หนังสังเคราะห์ Artico บุที่ประตูครับ รวมไปถึง W205 ด้วย
-
ส่วนการใช้งานในชีวิตประจำวัน W205 คงเป็นรถที่เหมาะกว่าทั้งในด้านความประหยัดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ช่วงล่างตัว AMG ให้ความรู้สึกหนึบแน่นกำลังดีเลยครับ (อันนี้เหนือกว่า F30 ตัวที่มาขายในบ้านเรามาก) แต่ถ้าผู้ใหญ่นั่งคงจะไปทาง F30 กันหมด
ช่วงล่างตัวนี้ให้ความรู้สึกคล้าย E90 ตัว M Sport ที่เคยขายกันจากศูนย์ในไทย
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าในตัว W205 ผมว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว น้ำหนักหน่วงกำลังดีในย่านความเร็วสูงแต่สัมผัสถนนคงเทียบพาวเวอร์แบบไฮโดรลิกไม่ได้
ซึ่งตรงนี้ผมเทคะแนนไปทางพวงมาลัยพาวเวอร์ของ W204 ครับ ถึงเป็นตัวธรรมดาผมก็ชอบกว่า W205 ส่วน C63 AMG จะเป็นแร็คที่อัตราทดไวกว่า W204 ทั่วๆไป สัมผัสถนนนั้นชัดเจนกว่าแร็คไฟฟ้ามาก ช่วงล่าง C63 นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ กระด้างไม่แพ้รถซิ่งญี่ปุ่นเลย บางทีขับแล้วทำให้นึกถึงช่วงล่าง Subaru WRX มาก แต่ C63 จะนิ่งและเรียบกว่าเวลาขับบนทางด่วน อันนี้คงเป็นเพราะน้ำหนักรถที่สูงกว่าด้วย
-
ส่วนระบบเบรคทั้งสองคันใช้เบรคขนาดใหญ่ จานหน้าของ W205 C300 ขนาดไม่ได้เล็กไปกว่า W204 C63AMG เลยครับ
กำลังเบรคเหลือๆแต่ C300 จะให้ความรู้สึกหัวทิ่มเวลาไม่ระวังกับแรงเท้า นั่นคงเป็นผลมาจากระบบ brake re-generation ที่ใช้พลังงานจากการเบรคนี้กลับไปปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่รถครับ
C63 ความรู้สึกของแป้นเบรคจะเป็นธรรมชาติกว่า แรงเบรคเหลือๆแต่ความรู้สึกจากแป้นเบรคผมว่ายังสู้รถซิ่งแนวอีโวลูชั่นที่ใช้เบรค Brembo เหมือนกันไม่ได้ รถแนว Porsche หรือ Audi R8 ที่ใช้เบรค Brembo ด้วยก็ยังทำส่วนนี้ได้ดีกว่า C63 ครับ
-
งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ มีอะไรเดี๋ยวไว้มาเพิ่มเติมทีหลังครับ :)
-
ไม่รู้ทำไม เห็น C-300 ตัวใหม่ ต้องเหลียวมองทุกที
ทุกอย่างมันดูลงตัวไปหมดเลยครับ
-
C63 amg ตัวนี้ปิด traction control ขับยากมั๊ยครับ
ได้ดูแต่คลิปยูทูป ลุง Jeremy Clarkson ชอบมากทีเดียว กดนิดหน่อยท้ายออก
ละก็อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเจ้าตัวนี้น่ะครับ
เทียบกับ Porsche, Audi, รถจ่ายกับข้าว etc.. ที่จขกท เคยขับ ถูกแพงต่างกันอย่างไร
-
C63 amg ตัวนี้ปิด traction control ขับยากมั๊ยครับ
ได้ดูแต่คลิปยูทูป ลุง Jeremy Clarkson ชอบมากทีเดียว กดนิดหน่อยท้ายออก
ละก็อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเจ้าตัวนี้น่ะครับ
เทียบกับ Porsche, Audi, รถจ่ายกับข้าว etc.. ที่จขกท เคยขับ ถูกแพงต่างกันอย่างไร
ผมยังไม่เคยลองขับแบบปิดเลยครับ เพราะขนาดเปิดไว้ท้ายยังไวมากเลย แต่ตัวนี้จะมี esp sport mode ที่สามารถเล่นสนุกได้นิดหน่อยก่อน traction control จะมาตัดกำลังครับ เรื่องการบำรุงทั่วไปราคาไม่ต่างจากรถยุโรปทั่วไป แต่พวกน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นต่างๆจะใช้ปริมาณเยอะกว่ารถตลาดครับ ค่าดูแลโดยรวมพอๆกับ Porsche แต่ถูกกว่า Audi R8
-
สวย แรง ชอบครับ..
ซี แทบทุกรุ่นท้ายสวยมาก ๆ(คหสต)
-
C300 AMG สวยมากๆครับ
ส่วนตัวผมว่าลงตัวสุดใน 4 serie : A/C/E/S เลย
-
C63 amg ตัวนี้ปิด traction control ขับยากมั๊ยครับ
ได้ดูแต่คลิปยูทูป ลุง Jeremy Clarkson ชอบมากทีเดียว กดนิดหน่อยท้ายออก
ละก็อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเจ้าตัวนี้น่ะครับ
เทียบกับ Porsche, Audi, รถจ่ายกับข้าว etc.. ที่จขกท เคยขับ ถูกแพงต่างกันอย่างไร
ผมยังไม่เคยลองขับแบบปิดเลยครับ เพราะขนาดเปิดไว้ท้ายยังไวมากเลย แต่ตัวนี้จะมี esp sport mode ที่สามารถเล่นสนุกได้นิดหน่อยก่อน traction control จะมาตัดกำลังครับ เรื่องการบำรุงทั่วไปราคาไม่ต่างจากรถยุโรปทั่วไป แต่พวกน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นต่างๆจะใช้ปริมาณเยอะกว่ารถตลาดครับ ค่าดูแลโดยรวมพอๆกับ Porsche แต่ถูกกว่า Audi R8
. อยากทราบหน่อยครับว่า พวกน้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆนี้ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าไหร่(ตามสเปค การเข้าบริการในแต่ละครั้ง)
-
C63 amg ตัวนี้ปิด traction control ขับยากมั๊ยครับ
ได้ดูแต่คลิปยูทูป ลุง Jeremy Clarkson ชอบมากทีเดียว กดนิดหน่อยท้ายออก
ละก็อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเจ้าตัวนี้น่ะครับ
เทียบกับ Porsche, Audi, รถจ่ายกับข้าว etc.. ที่จขกท เคยขับ ถูกแพงต่างกันอย่างไร
ผมยังไม่เคยลองขับแบบปิดเลยครับ เพราะขนาดเปิดไว้ท้ายยังไวมากเลย แต่ตัวนี้จะมี esp sport mode ที่สามารถเล่นสนุกได้นิดหน่อยก่อน traction control จะมาตัดกำลังครับ เรื่องการบำรุงทั่วไปราคาไม่ต่างจากรถยุโรปทั่วไป แต่พวกน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นต่างๆจะใช้ปริมาณเยอะกว่ารถตลาดครับ ค่าดูแลโดยรวมพอๆกับ Porsche แต่ถูกกว่า Audi R8
. อยากทราบหน่อยครับว่า พวกน้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆนี้ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าไหร่(ตามสเปค การเข้าบริการในแต่ละครั้ง)
น้ำมันเครื่องใช้เกือบสิบลิตรครับ เปลี่ยนครั้งนึงทุกๆหมื่นกิโลเมตร ราคาหมื่นกว่าบาท
ส่วนนอกนั้นน้ำมันเกียร์เปลี่ยนทุก50,000กิโลเหมือนเบ็นซ์ทั่วๆไปครับ มีแต่ค่าน้ำมันและยางหลังที่เป็นค่าใช้จ่ายสูงจริงๆครับ ยางหลังได้หมื่นกว่าๆสองหมื่นกิโลก็โล้นแล้ว
-
ดีครับ มาเป็น แพ็คคู่
-
C63 amg ตัวนี้ปิด traction control ขับยากมั๊ยครับ
ได้ดูแต่คลิปยูทูป ลุง Jeremy Clarkson ชอบมากทีเดียว กดนิดหน่อยท้ายออก
ละก็อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเจ้าตัวนี้น่ะครับ
เทียบกับ Porsche, Audi, รถจ่ายกับข้าว etc.. ที่จขกท เคยขับ ถูกแพงต่างกันอย่างไร
ผมยังไม่เคยลองขับแบบปิดเลยครับ เพราะขนาดเปิดไว้ท้ายยังไวมากเลย แต่ตัวนี้จะมี esp sport mode ที่สามารถเล่นสนุกได้นิดหน่อยก่อน traction control จะมาตัดกำลังครับ เรื่องการบำรุงทั่วไปราคาไม่ต่างจากรถยุโรปทั่วไป แต่พวกน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นต่างๆจะใช้ปริมาณเยอะกว่ารถตลาดครับ ค่าดูแลโดยรวมพอๆกับ Porsche แต่ถูกกว่า Audi R8
. อยากทราบหน่อยครับว่า พวกน้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆนี้ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าไหร่(ตามสเปค การเข้าบริการในแต่ละครั้ง)
น้ำมันเครื่องใช้เกือบสิบลิตรครับ เปลี่ยนครั้งนึงทุกๆหมื่นกิโลเมตร ราคาหมื่นกว่าบาท
ส่วนนอกนั้นน้ำมันเกียร์เปลี่ยนทุก50,000กิโลเหมือนเบ็นซ์ทั่วๆไปครับ มีแต่ค่าน้ำมันและยางหลังที่เป็นค่าใช้จ่ายสูงจริงๆครับ ยางหลังได้หมื่นกว่าๆสองหมื่นกิโลก็โล้นแล้ว
แล้วน้ำยา refill AdBlue มันคืออะไรครับ ต้องเติมเมื่อไหร่ครับ ขอบคุณมากครับ
-
สุดยอดมากครับ C63 AMG :o
อยากทราบว่าขับทางไกลความเร็วนิ่งๆ นี่ 10 กิโล/ลิตร เป็นไปได้มั้ยครับกับเครื่องขนาด 6.2L
-
C63 amg ตัวนี้ปิด traction control ขับยากมั๊ยครับ
ได้ดูแต่คลิปยูทูป ลุง Jeremy Clarkson ชอบมากทีเดียว กดนิดหน่อยท้ายออก
ละก็อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเจ้าตัวนี้น่ะครับ
เทียบกับ Porsche, Audi, รถจ่ายกับข้าว etc.. ที่จขกท เคยขับ ถูกแพงต่างกันอย่างไร
ผมยังไม่เคยลองขับแบบปิดเลยครับ เพราะขนาดเปิดไว้ท้ายยังไวมากเลย แต่ตัวนี้จะมี esp sport mode ที่สามารถเล่นสนุกได้นิดหน่อยก่อน traction control จะมาตัดกำลังครับ เรื่องการบำรุงทั่วไปราคาไม่ต่างจากรถยุโรปทั่วไป แต่พวกน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นต่างๆจะใช้ปริมาณเยอะกว่ารถตลาดครับ ค่าดูแลโดยรวมพอๆกับ Porsche แต่ถูกกว่า Audi R8
ขอบคุณครับ
-
C63 amg ตัวนี้ปิด traction control ขับยากมั๊ยครับ
ได้ดูแต่คลิปยูทูป ลุง Jeremy Clarkson ชอบมากทีเดียว กดนิดหน่อยท้ายออก
ละก็อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเจ้าตัวนี้น่ะครับ
เทียบกับ Porsche, Audi, รถจ่ายกับข้าว etc.. ที่จขกท เคยขับ ถูกแพงต่างกันอย่างไร
ผมยังไม่เคยลองขับแบบปิดเลยครับ เพราะขนาดเปิดไว้ท้ายยังไวมากเลย แต่ตัวนี้จะมี esp sport mode ที่สามารถเล่นสนุกได้นิดหน่อยก่อน traction control จะมาตัดกำลังครับ เรื่องการบำรุงทั่วไปราคาไม่ต่างจากรถยุโรปทั่วไป แต่พวกน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันหล่อลื่นต่างๆจะใช้ปริมาณเยอะกว่ารถตลาดครับ ค่าดูแลโดยรวมพอๆกับ Porsche แต่ถูกกว่า Audi R8
. อยากทราบหน่อยครับว่า พวกน้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆนี้ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าไหร่(ตามสเปค การเข้าบริการในแต่ละครั้ง)
น้ำมันเครื่องใช้เกือบสิบลิตรครับ เปลี่ยนครั้งนึงทุกๆหมื่นกิโลเมตร ราคาหมื่นกว่าบาท
ส่วนนอกนั้นน้ำมันเกียร์เปลี่ยนทุก50,000กิโลเหมือนเบ็นซ์ทั่วๆไปครับ มีแต่ค่าน้ำมันและยางหลังที่เป็นค่าใช้จ่ายสูงจริงๆครับ ยางหลังได้หมื่นกว่าๆสองหมื่นกิโลก็โล้นแล้ว
แล้วน้ำยา refill AdBlue มันคืออะไรครับ ต้องเติมเมื่อไหร่ครับ ขอบคุณมากครับ
Adblue อันนั้นเป็นของ C300 ครับ น่าจะเติมทุก 10,000 กม.
-
สุดยอดมากครับ C63 AMG :o
อยากทราบว่าขับทางไกลความเร็วนิ่งๆ นี่ 10 กิโล/ลิตร เป็นไปได้มั้ยครับกับเครื่องขนาด 6.2L
นิ่งๆแบบแช่ที่ 90 ตลอดทางได้ไม่เกิน 8 กิโล/ ลิตรครับ ผมขับทางด่วนประมาณ 80% ได้ ส่วนใหญ่วิ่งไม่เกินร้อยมีกดสนุกบ้างนานๆที ได้ประมาณ 6 กิโล/ลิตร
เทียบ F30 328i ขับสไตล์คล้ายๆกันผมได้ประมาณ 12 กิโล/ลิตรครับ
-
ถ้าเทียบกับ m3 e92 ฟิลลิ่ง เป็นยังไงบ้างครับ
-
M3 ตัวนั้นผมยังไม่เคยลองขับครับ แต่เท่าที่คุยกะเพื่อนที่ขับมาทั้งคู่ M3 handling จะดีกว่าเพราะรถเบากว่า บาลานซ์ต่างๆน่าจะเซ็ทมาดีกว่าด้วย
C63 ตัวนี้ขับแล้วยังมีอาการเสียวๆอยู่บ้างเพราะจับอาการรถไม่ได้ชัดเจน 100% ครับ รถรุ่นนี้ออกไปทางรถ muscle car มากกว่า ส่วน e9x M3 จะออกไปทางรถสปอร์ตแท้ๆ แต่เรื่องกำลังเครื่องรอบต่ำกับกลางนั้นเทียบกันไม่ได้เลย ตัว C63 มีกำลังเหลือๆในทุกรอบจริงๆ ส่วน M3 ต้องลากเกิน 4000 รอบเท่านั้น
-
ที่แถวบ้านผมมี คันนึง C63 AMG แท้ เสียงมันชั่งหวานหู มากๆชอบเสียง V8 NA มากครับ แอบอิจแามาตลอด
-
ว้าว ยินดีกับรถใหม่ครับ
-
เรียนตามตรงไม่ได้สนใจ W205 เลยครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบ W204 มากกว่าด้วยซ้ำ(แนวอนุรักษ์นิยม) ยิ่ง 204 FL ยิ่งชอบครับ
อิจฉาเลยครับ C63 เสียงมันหวานจริงๆ ซึ่งตัวใหม่ก็ไม่หวานแบบนี้อีกแล้ว ถ้าจำไม่ผิด 4.0 BiTurbo
-
เรียนตามตรงไม่ได้สนใจ W205 เลยครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบ W204 มากกว่าด้วยซ้ำ(แนวอนุรักษ์นิยม) ยิ่ง 204 FL ยิ่งชอบครับ
อิจฉาเลยครับ C63 เสียงมันหวานจริงๆ ซึ่งตัวใหม่ก็ไม่หวานแบบนี้อีกแล้ว ถ้าจำไม่ผิด 4.0 BiTurbo
ส่วนตัวผมคิดว่าเสียง 63 ตัว 204 ดิบโหดมากครับ ท่อที่มากับรถเป็นแบรนด์ท่อแต่ง Eisenmann แต่ติดตรา AMG ที่ปลาย
ตัว 205 ยังไม่เคยได้ยินของจริงแต่จากในคลิปออกแนวสุขุมแต่แอบดุ
-
C63 นี้รถในฝันผมเลย (ตอนนี้ขับ C300 ไปก่อน 5555555)
ผมรู้สึกว่าดูจากบุคลิกรถแล้ว เหมือนรถมันพยศรึเปล่าครับ เหมือนแบบเราต้องคุมมันให้อยู่ ไม่เหมือนกับ M3 ที่เหมือนจะตามคำสั่งของคนขับ ดูจากตอน Jeremy Clarkson ขับแล้วมันสะบัดสุดๆจริงๆ
-
C63 นี้รถในฝันผมเลย (ตอนนี้ขับ C300 ไปก่อน 5555555)
ผมรู้สึกว่าดูจากบุคลิกรถแล้ว เหมือนรถมันพยศรึเปล่าครับ เหมือนแบบเราต้องคุมมันให้อยู่ ไม่เหมือนกับ M3 ที่เหมือนจะตามคำสั่งของคนขับ ดูจากตอน Jeremy Clarkson ขับแล้วมันสะบัดสุดๆจริงๆ
ถ้าขับแบบปกติเปิด traction control ไว้ก็เหมือนขับ C300 ครับหรือรถขับหลังที่มีกำลังทั่วไป แต่จะสักเกตุได้ว่าถ้ากดคันเร่งหนักหรือเร็วไปหน่อยตัว tc จะมาไวมากเพื่อกันล้อฟรี
แต่ถ้าลองปิดระบบแล้วผมว่าออกแนวพยศใช้ได้เลยครับ เข้าโค้งแตะคันเร่งนิดเดียวท้ายมาทันที อีกอย่างขับทางตรงตอนพื้นถนนเย็นแล้วปิดแทรคชั่น ต่อให้วิ่งอยู่ 100 กม/ชม กดคันเร่งเต็มๆก็ฟรีทิ้งครับ เวลาขับตอนปิด tc ต้องมีสติอยู่ตลอด
-
วันนี้มีอัตราเร่งมาฝากครับ วัดจาก app Dynolicious บนไอโฟน ผมเอาผลทดสอบเทียบกับ F30 328i เดิมๆ 218 แรงม้า เพื่อให้ดูความแตกต่าง (C63 มีจูนกล่อง stage 1 เลยตอนทดสอบมีม้าประมาณ 510 ตัวครับ)
พอดีตอนวัดอัตราเร่งของ BMW ปรับไว้เป็น mph เลยไม่ได้ปรับกลับตอนทดสอบ C63 นะครับ
ตอนทดสอบไม่ได้ใช้เทคนิคใดๆ กดคันเร่งมิดอย่างเดียวใน sport mode ของเกียร์ D ทั้งสองคัน อากาศตอนทดสอบรถทั้งสองคันประมาณ 32-33 องศาครับ
ซ้ายมือเป็น 328i (218ps) ขวา C63AMG stage1 (510ps)
ส่วนอัตราเร่ง 402m BMW ทำได้ที่ 15.71 วินาที ส่วน C63 ได้ 13.21 ครับ
-
รถคุณเจ้าของกระทู้สวยมากๆ C63เป็นรถที่ขึ้นแท่นระดับความแรงและขับดีคันนึงของเบนซ์เลยก็ว่าได้ จากที่ได้ลองขับระยะสั้นๆก้รุ้ได้ถึงพลังของมันนะ
หมู่บ้านเพื่อนผมมี w211 E63 amgสีเงินอยู่คันนึง เสียงเครื่องเป็นเอกลักษณ์มาก รอบเครื่องครางเบาๆในหมู่บ้านนี่คนเหลียวหลังมองกันเลยแต่ตอนนี้เหมือนเขาไปทำท่อAkrapovicใหม่ เคยไปด้อมๆมองตอนเจ้าของเขาไม่อยู่ ไฉไลกว่าเดิม เหมือนเมกันมัสเซิลคาร์ได้ใจผมสุดๆ ครางเบาๆหมายังเห่าเลยครับ
ดูจากรายการTop gear C63นี่ม้าพยศชัดๆ ถ้าให้เทียบกันจริงๆ R8ตัวV8โดนทิ้งเป็นฝุ่นแน่ๆ ตัวเครื่องV10 ดูฝรั่งมันแข่งกันยังโดนC63ฉีกได้เลย อยากให้คุณเจ้าของกระทู้เก็บรถดีๆแบบนี้ไว้ครับตัวใหม่ไม่มีแล้ว เครื่องNAดิบๆแบบนี้ ผมมีโอกาสจะหามาเป็นเก็บเหมือนกัน
-
รถคุณเจ้าของกระทู้สวยมากๆ C63เป็นรถที่ขึ้นแท่นระดับความแรงและขับดีคันนึงของเบนซ์เลยก็ว่าได้ จากที่ได้ลองขับระยะสั้นๆก้รุ้ได้ถึงพลังของมันนะ
หมู่บ้านเพื่อนผมมี w211 E63 amgสีเงินอยู่คันนึง เสียงเครื่องเป็นเอกลักษณ์มาก รอบเครื่องครางเบาๆในหมู่บ้านนี่คนเหลียวหลังมองกันเลยแต่ตอนนี้เหมือนเขาไปทำท่อAkrapovicใหม่ เคยไปด้อมๆมองตอนเจ้าของเขาไม่อยู่ ไฉไลกว่าเดิม เหมือนเมกันมัสเซิลคาร์ได้ใจผมสุดๆ ครางเบาๆหมายังเห่าเลยครับ
ดูจากรายการTop gear C63นี่ม้าพยศชัดๆ ถ้าให้เทียบกันจริงๆ R8ตัวV8โดนทิ้งเป็นฝุ่นแน่ๆ ตัวเครื่องV10 ดูฝรั่งมันแข่งกันยังโดนC63ฉีกได้เลย อยากให้คุณเจ้าของกระทู้เก็บรถดีๆแบบนี้ไว้ครับตัวใหม่ไม่มีแล้ว เครื่องNAดิบๆแบบนี้ ผมมีโอกาสจะหามาเป็นเก็บเหมือนกัน
ขอบคุณมากครับ
ตัวผมเองชอบรถคันนี้มากๆ ใช้งานได้สะดวกครับ ขับไปได้ทุกที่แบบรถบ้านๆแต่เล่นสนุกได้ตลอด เคยมี F10 แปะ M5 (แต่ล้อ 17) มาจี้ๆ พอผมกด downshift เบิ้ลเครื่องที BMW เบรคถอยไปเลยครับ ขำๆดี
เทียบ R8 V8 เดิมๆ ตัว C63 แรงกว่านิดหน่อยครับแต่แรงบิดมาหนักกว่าเยอะช่วงรอบต่ำ แต่จูนมาแล้ว C63 ทิ้ง R8 ได้ง่ายๆครับ อีกอย่างเห็นด้วยเรื่องเครื่อง na ตัวนี้ครับ มันขับสนุกมาก ผมลองรถเทอโบแรงๆมาหลายรุ่นรวมถึงรถอเมริกันอย่าง Corvette แต่ยังไม่เคยเจอเครื่องตัวไหนตอบสนองได้ไวเท่าเครื่อง AMG V8 ตัวนี้ครับ