มาดูข้อมูลเทคนิกกันมั้ง แบบตัวถังซีดาน 4 ประตู แบ่งเป็น 2 รุ่นหลัก 1.6 และ 2.0 ทำตลาดในไทยเมื่อปี 1988-1993
CORONA AT
รุ่น 1.6 แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย คือ XL และ GL ใช้เครื่องยนต์รหัส 4A-F แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว คาร์บูเรเตอร์ ความจุ 1,587 ซีซี
กำลังสูงสุด 94 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที
CORONA ST
รุ่น 2.0 ช่วงแรกแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย คือ 2.0 GL เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ 2.0 GL AUTO เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ใช้เครื่องยนต์รหัส 3S-F แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว คาร์บูเรเตอร์ ความจุ 1,998 ซีซี
กำลังสูงสุด 113 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที
รุ่นสูงสุด 2.0 GLi เครื่องยนต์รหัส 3S-FE หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ความจุ 1,998 ซีซี
กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.3 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที
ระบบช่วงล่างแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หน้า-หลัง
ระบบเบรคแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม ยกเว้นรุ่น 2.0 GLi เป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ
มิติตัวถังยาว 4,425 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร สูง 1,305 มิลลิเมตร
ปี1991 จึงมีการไมเนอร์เชนจ์ โดยที่เครื่องยนต์แบ่งเป็น 1.6 กับ 2.0 เหมือนเดิม โดยตัดรุ่น 2.0 GL AUTO ออกไป
และเพิ่มรุ่น 2.0 GLi AUTO แทน และเรียกว่ารุ่น หน้ายิ้ม
จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ ไม่จุกจิก ทนทานทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง อะไหล่เพียบ ประหยัดนํ้ามันพอตัว