Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Robot_natty ที่ เมษายน 14, 2020, 13:25:47
-
มีแผนจะออกรถ มิ.ย. ปี 2020 ครับ สนใจสองรุ่นนี้ อยากทราบว่าจะพิจารณายังไงดีครับ โดยปกติขับรถไปทำงานในชลบุรี ไปกลับประมาณ 20 km และมีขับกลับ กทม อาทิตย์ละครั้ง ไปกลับประมาณ 200 km อยากทราบว่าถ้ากะจะใช้ยาวๆ 7 ปี ++ ส่วนต่างน้ำมันจะคุ้มมั้ยครับ พี่ๆ พอจะทราบอัตคาการสิ้นเปลืองเฉลี่ยของทั้งสองรุ่นมั้ยครับ เพื่อประกอบการคำนวณ ขอบคุณครับ :) :) :)
-
CHR เบนซินธรรมดา ประหยัดตามเครื่องรถ 1.8
City ตัวนี้ Eco car Phase 2 ประหยัดระดับ 23 โลลิตรอัพ ตามมาตรฐาน
เชียร์ City ครับ แล้วไปเปลี่ยนโช๊คเอา ถ้าอยากได้แบบขับดี
-
ถ้าวิ่งระยะทางแค่นี้ และราคาตัวรถซื้อได้ทั้งคู่ เป็นผมจะไม่สนใจเรื่องอัตรากินน้ำมันเลยครับ. เอาคันที่เราถูกใจที่สุดดีกว่า (คหสต)
-
เครื่องเล็กวิ่งในเมืองน่าจะประหยัดนะครับ
-
เอา CHR ครับ
-
เลือกคันที่ชอบ และถูกใจดีกว่าครับ
ใช้วันละ 20 km เดือนนึง 600 km ประมานถังครึ่งเอง
chr ประหยัดกว่า แต่ราคาสูงกว่า ถ้าจะเอาให้คุ้มค่าน้ำมัน คงต้องใช้หลายแสนโลเลย
-
ใช้ City ตัวใหม่ครับ ขออนุญาตให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
วันจันทร์ถึงศุกร์ ใช้งานวันละ 8 กิโล เจอสภาพรถติดรวมประมาณ 1 กม. ทำความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. (เฉลี่ย 45 กม./ชม. จากแอพ Honda Connect)
วันเสาร์อาทิตย์เข้ากทม. รวม 250 กม. ทำความเร็วไม่เกิน 140 กม./ชม. แค่ช่วงสั้นๆ (เฉลี่ย 75 กม./ชม. จากแอพ Honda Connect)
ปัดเศษ ตกอาทิตย์ละ 300 กม. อัตราสิ้นเปลืองแบบคำนวนตามน้ำมันหน้าหัวจ่าย 16.8 กม./ลิตร (E20)
ผมคิดว่าลักษณะการใช้รถของผมน่าจะคล้ายๆ กับของเจ้าของกระทู้
ในแต่ละปี ผมจะจ่ายค่าน้ำมัน E20 ประมาณ 18,570 บาท (กรณีคิดราคาน้ำมันที่ลิตรละ 20 บาท คิด 52 สัปดาห์)
หรือประมาณ 23,200 บาท (กรณีคิดราคาน้ำมันที่ลิตรละ 25 บาท คิด 52 สัปดาห์)
ค่าบำรุงรักษา รบกวนเช็คกับเวปของ Honda นะครับ อาจจะ Mark-up ไปอีก 20-25% กรณีเจออะไรเซอร์ไพรซ์หลังรถหมดประกันแล้ว https://web.honda.co.th/service/periodical/result
-
สำหรับผมโจทย์นี้ฮอนด้าน่าสนใจกว่าเพราะใช้งานอยู่แค่นี้ไม่รู้จะเอาเครื่อง 1.8 ไปทำไม
แต่มีกังวลอยู่เรื่องที่จำเป็นต้องเข้าไปเช็คตามคลับอีกรอบนึงคือเรื่องสนิมของฮอนด้ายุคใหม่ๆ เห็นแจ๊สกับซีวิคเป็นสนิมกันหลายคันอยู่นะครับ แล้วส่วนใหญ่ชอบเป็นในจุดที่ต้องรื้อต้องแงะถึงจะเจอ ไม่แน่ใจว่าซิตี้จะยังไง ส่วนตัวผมรับไม่ได้กับเรื่องสนิมเพราะต่อให้ซ่อมสีให้ลูกค้าใหม่ ยังไงมันก็ไม่ใช่สีเดิมจากโรงงานอีกต่อไป
-
ตามโจทย์ บอกทีว่า CH-R มีอะไรที่เหนือกว่า ณ วันนี้
เพราะมันชี้ไปที่ City เลย
-
เลือกคันที่ชอบ และถูกใจดีกว่าครับ
ใช้วันละ 20 km เดือนนึง 600 km ประมานถังครึ่งเอง
chr ประหยัดกว่า แต่ราคาสูงกว่า ถ้าจะเอาให้คุ้มค่าน้ำมัน คงต้องใช้หลายแสนโลเลย
จขกท หมายถึง CHR เบนซิล 1.8 ไงก็ไม่ประหยัดกว่า City ตัวใหม่หรอกครับ
-
city ตัวใหม่ก็ประหยัดนะครับ แรงด้วย 8)
-
เลือกคันที่ชอบ และถูกใจดีกว่าครับ
ใช้วันละ 20 km เดือนนึง 600 km ประมานถังครึ่งเอง
chr ประหยัดกว่า แต่ราคาสูงกว่า ถ้าจะเอาให้คุ้มค่าน้ำมัน คงต้องใช้หลายแสนโลเลย
จขกท หมายถึง CHR เบนซิล 1.8 ไงก็ไม่ประหยัดกว่า City ตัวใหม่หรอกครับ
ขอบคุณครับ ผมอ่านไม่เคลียเอง
-
ถ้าใช้วันละ 20 ก.ม. City ก็เหลือๆแล้วครับ เข้ากทม มันก็ไม่ได้ไกลมาก สบายครับ (เก็บส่วนต่างไว้เติมน้ำมันได้หลายปีเลย)
ผมให้ข้อมูลเพิ่มจากตัวผมนะครับ เดิมใช้ B-segment ตลอด(ราวๆ 11 ปี) พอแก่ตัวเริ่มรู้สึกเหนื่อย + มีลูก เลยขยับมาเป็น SUV ก็สบายขึ้นหน่อยครับ
แต่เคสผมใช้รถเยอะ วันละร่วม 100 ก.ม. แถมเป็นคนชอบขับรถเที่ยว แทบทุกเดือนต้องมีออกทริป B-Segment เวลาเดินทางไกลๆ ถึงจุดหมายแล้วต้องพักครับ เที่ยวต่อไม่ได้มันเพลีย
เคสผม ซื้อรถคันนึงใช้ราวๆ 10 ปี ดังนั้นผมเลือก Class สูงสุดเท่าที่ผมจ่ายไหวครับ
-
การใช้งานสบายๆทั้งคู่ครับ ขอชม จขกท. ก่อนว่าเป็นตัวเลือกที่น่าใช้ทั้งคู่ครับ ณ ปีนี้
ก้ขึ้นอยู่ว่า จขกท. ขับรถแบบไหน สไตล์การขับชอบอะไรยังไง
เอาเครื่องแรง = City
ช่วงล่าง = Chr
Design ภายใน = ผมชอบ Chr มากกว่า
Desigh ภายนอก = โอเคทั้งคู่แต่ผมชอบ chr มากกว่านิดๆ ลงตัวกว่าหน่อย
Image = Chr ครับ แต่รถก้ราคาสูงกว่าพอสมควร
ประหยัดน้ำมัน = City ครับ
Feeling พวงมาลัย = ดีทั้งคู่แต่ผมชอบ city มากกว่าหน่อย ทดน้อยกว่า
ศูนย์บริการ = Toyota ดีแทบทุกที่ ชลบุรีดีๆเยอะ กทม ก้ดีเยอะครับ ส่วน Honda อย่าเข้าชลบุรีครับ ไม่ผ่านซักอัน ถ้าซื้อ city เวลาเช็คเข้ากทม. ครับ
การบำรุงรักษา = chr ง่ายกว่า ถูกกว่า ส่วน city รถ turbo มี service a&b เพิ่มมา อาจจะเข้าศูนย์บ่อยขึ้นแต่ราคาไม่ได้แพงมากมาย แต่ไม่มีใครเข้าศูนย์ถูกเท่า toyota ละครับ
-
งานประกอบ วัสดุ
CHR กินขาดดดด
-
city แน่นอนครับ ประหยัดกว่าแน่ๆ
-
to บ้านๆ ธรรมดาๆ แต่ทนและคุณภาพดีกว่า
hon สวย แต่กาก คุณภาพพัฒนาลงตลอด
จากใจคนที่เคยบ้า honda อย่างผม
-
อยู่ที่งบ อยากประหยัดก็ City เงินถึง CHR ก็ CHR เพราะคุณภาพตามราคาจริงๆ และจริงๆ แค่ Almera ก็เพียงพอ ถ้าอยากประหยัดเงินในการซื้อ
เพราะผมว่าซื้อตอนนี้ Almera, City หรือ CHR แต่ละคัน Overall ก็ดีเกือบที่สุดใน Segment นั้นๆแล้ว
-
City ครับ ใข้รถประมาณนี้ ไม่จำเป็นต้องไปถึง CHR
วิ่งเข้า กทม รถเยอะ City ประหยัดกว่า ซอกแซ่ก มุดง่ายกว่า หาที่จอดก็สะดวก แถมเงินเหลือด้วย
เรื่อง Defect คิดว่าไม่น่ามีเยอะครับ
-
รถใช้น้อยประหยัดต่างกันไม่เยอะครับ
จริงๆซิตี้เหลือๆแล้วไม่จำเป็นต้องไปchr แต่สุดท้ายเลือกที่ชอบเถอะ รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้
-
ถ้าเทียบตัวท้อปเบนซินของรุ่นทั้งสอง
Chr จะชนะตรงที
งานประกอบ
ช่วงล่างอิศระTNGA ขับดีจริง
เครื่อง1.8 น่าจะทนกว่า
ความเท่
Air dual zone +heater
Cityจะเหนือกว่าคือ
ความประหยัด ทั้งน้ำมัน และส่วนต่างราคารถที่300000บาท
เบาะหลังโปร่งกว่าchr
เครื่องเสียงที่รองรับapple carplay
ไฟหน้าไฟท้ายLED
ขึ้นอยู่กับว่าคุณแคร์เงิน300000ที่เพิ่มมารึเปล่า แต่เป็นผมโจทย์แบบจขกท. เอาcityก็พอ แต่ถ้าขับทางไกลบ่อยๆใช้ความเร็วหน่อย เข้าโค้งไม่ค่อบเบรค ค่อยไปchr
-
ถ้าเน้นความคุ้มค่าและความประหยัดเป็นหลัก เราว่า City ก็พอแล้วนะคะ
ส่วนตัวเองก็ใช้รถประมาณวันละ 20 กม เหมือนคุณเจ้าของโพสต์ ต่างตรงที่ว่าเราไม่ออกต่างจังหวัด
แต่ก็ยังเปลี่ยนมาขับ HRV อยู่ดี (จากเดิมใช้ Mazda 2) เพราะอยากได้รถคันใหญ่ ทัศนวิสัยดีขึ้น
เพราะฉะนั้น คุณเจ้าของโพสต์อาจจะต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนค่ะ ว่าอยากได้อะไรมากสุดจากรถคันนี้ ^^
-
รถใช้น้อยประหยัดต่างกันไม่เยอะครับ
จริงๆซิตี้เหลือๆแล้วไม่จำเป็นต้องไปchr แต่สุดท้ายเลือกที่ชอบเถอะ รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้
"รู้อะไรไม่เท่ารู้งี้" ชอบคำนี้ของคุณ Slipknot' มากเลยค่ะ
นึกถึงตัวเองเลย ใจอยากได้รถใหญ่ แต่ก็ยอมเอา Eco/B-Segment ตามใจที่บ้าน
สุดท้ายเสียเงินอีกรอบ ไม่จบไม่สิ้นจริงๆค่ะ ::)
-
ระยะทางสั้นมาก ถ้าคิดจะเอาประหยัด City ชนะขาดตั้งแต่ราคาซื้อ
ถ้างบถึง ไม่เดือดร้อน มีเงินเย็นๆ เอารถที่ชอบ
อยู่กับมันอีกนาน ถ้าซื้อแล้วห่วงประหยัด แต่ดันไม่ชอบ หัวเสียเปล่าๆ
ส่วนตัวผม TNGA รุ่นนี้ขับดีจนแปลกประหลาด ผมคงเลือก CHR
อีกอย่างคืองานภายใน งานประกอบ คุณภาพ ผมว่าโตต้าดีกว่า
-
chr จะได้ไม่เสียดายทีหลัง ;D
-
พบกันครึ่งทาง civic 1.8 e
- ได้เครื่อง 1.8
- ช่วงล่างที่ดีกว่า city แต่ด้อยกว่า chr ไม่มาก
- ห้องโดยสารที่ดีกว่าทั้ง city และ CHR
- ราคาแพงกว่า city ไม่มาก และถูกกว่า CHR ด้วย
แต่ถ้าต้องเลือกแค่ 2 รุ่นนี้เท่านั้น
ใช้ยาว 7 ปี คุณภาพรถโดยรวม CHR ดีกว่านะครับ
-
ถ้าวิ่งระดับนี้แล้วเน้นขับคนเดียวผมไป CHR แต่ถ้าต้องมีผู้โดยสารผมอาจดูตัวเลือกอื่นมากกว่าcityตัวล่าสุด(แต่ถ้าซีัเรียสเรื่องค่าน้ำมันก็อีกเรื่ีองนึง)
-
ขอนอกโจทย์นะครับ
Altis HYB Entry ครับ หักส่วนลดแล้วไม่ถึง 9 แสน เสมือนได้ City กับ CHR รวมกันครับ
ได้ TNGA ขับดีทนทานแบบ Toyota
ได้แรง และประหยัดแบบ Honda
และได้ C-Seg ไปใช้ยาวๆครับ 7-10 ปีเปลี่ยนก็สบายๆ
-
ขอคิดแบบแปลกๆแยกๆ
สมมุติ ตอนนี้ อายุ 25 ซื้อ city มาใช้ ok
3 ปี ตอน 28 city OK ????
5 ปี ตอน 30 city OK ????
8 ปี ตอน 33 city OK ????
( chr ด้วยระดับ ราคา เทียบกับ civic )
-
ขอนอกโจทย์นะครับ
Altis HYB Entry ครับ หักส่วนลดแล้วไม่ถึง 9 แสน เสมือนได้ City กับ CHR รวมกันครับ
ได้ TNGA ขับดีทนทานแบบ Toyota
ได้แรง และประหยัดแบบ Honda
และได้ C-Seg ไปใช้ยาวๆครับ 7-10 ปีเปลี่ยนก็สบายๆ
แอบเห็นด้วยกับเม้นนี้ครับ วันนึงใช้รถไม่เยอะ แล้วกะใช้ยาวๆ7ปี ขึ้นไป
ผมว่าAltis hybrid ตัวเริ่มต้น น่าสนใจนะครับ เพิ่มส่วนต่างอีกหน่อย
-
ลองขับดูแล้ว เลือกที่ชอบดีกว่า
ตัวคุณเองต้องอยู่กับ รถ อีกมากกว่า 7 ปี
เรื่องประหยัด ไม่น่าต่างกันมากครับ
-
พบกันครึ่งทาง civic 1.8 e
- ได้เครื่อง 1.8
- ช่วงล่างที่ดีกว่า city แต่ด้อยกว่า chr ไม่มาก
- ห้องโดยสารที่ดีกว่าทั้ง city และ CHR
- ราคาแพงกว่า city ไม่มาก และถูกกว่า CHR ด้วย
แต่ถ้าต้องเลือกแค่ 2 รุ่นนี้เท่านั้น
ใช้ยาว 7 ปี คุณภาพรถโดยรวม CHR ดีกว่านะครับ
อันนี้น่าสนใจนะ เห็นช่วงนี้ส่วนลด ของแถมเยอะมาาาก เป็นแสน Civic สวยเลย
-
ขอนอกโจทย์นะครับ
Altis HYB Entry ครับ หักส่วนลดแล้วไม่ถึง 9 แสน เสมือนได้ City กับ CHR รวมกันครับ
ได้ TNGA ขับดีทนทานแบบ Toyota
ได้แรง และประหยัดแบบ Honda
และได้ C-Seg ไปใช้ยาวๆครับ 7-10 ปีเปลี่ยนก็สบายๆ
แอบเห็นด้วยกับเม้นนี้ครับ วันนึงใช้รถไม่เยอะ แล้วกะใช้ยาวๆ7ปี ขึ้นไป
ผมว่าAltis hybrid ตัวเริ่มต้น น่าสนใจนะครับ เพิ่มส่วนต่างอีกหน่อย
แอบเห็นด้วย เมื่อสองเดือนก่อนไปถามๆ มา ส่วนลด 35k แล้ว
แต่ถ้าสองโจทย์นี้ ถ้าตามการใช้งาน City พอ แต่ถ้าเลือกด้วยความรู้สึก ผมเลือก CHR ครับ ชอบ Overall มันมากกว่า
ปล. CHR คุยๆมา ส่วนลดมี 60k+ ครับ
-
มีแผนจะออกรถ มิ.ย. ปี 2020 ครับ สนใจสองรุ่นนี้ อยากทราบว่าจะพิจารณายังไงดีครับ โดยปกติขับรถไปทำงานในชลบุรี ไปกลับประมาณ 20 km และมีขับกลับ กทม อาทิตย์ละครั้ง ไปกลับประมาณ 200 km อยากทราบว่าถ้ากะจะใช้ยาวๆ 7 ปี ++ ส่วนต่างน้ำมันจะคุ้มมั้ยครับ พี่ๆ พอจะทราบอัตคาการสิ้นเปลืองเฉลี่ยของทั้งสองรุ่นมั้ยครับ เพื่อประกอบการคำนวณ ขอบคุณครับ :) :) :)
เห็นมีขับไปกลับ 200 km. ทุกสัปดาห์ น่าลองขยับอีกนิดเป็น altis หรือ civic ดูนะครับ
ผมว่าความสบายต่างกันพอสมควร แต่ราคาต่างกันไม่มากเท่าไร ยังไงไปทดลองขับแล้วตัดสินใจอีกทีครับ
-
CHR ตัวเบนซิน ที่ไม่มี Hybrid ในระยะยาวไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องห่วงครับ แค่ดูแลบำรุงรักษาดีๆตามการใช้งานก็โอเคแล้วครับ
-
จันทร์-ศุกร์ 261 วัน 261x20=5,220 กิโลเมตร
เสาร์-อาทิตย์ 104 วัน 104x200=20,800 กิโลเมตร
----------
city 15.6 กิโลเมตร/ลิตร
ระยะทาง1ปี 26,020 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 26,020/15.6=1,667.95 ลิตร
ราคาน้ำมันเบนซิน (ณ16/4/63) 24.46บาท/ลิตร ค่าใช้จ่าย 40,798.06 บาท/ปี
7ปี ค่าใช้จ่าย 285,586.42 บาท
---------
CHR 16.63 กิโลเมตร/ลิตร
ระยะทาง1ปี 26,020 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 26,020/16.63=1,564.64 ลิตร
ราคาน้ำมันเบนซิน (ณ16/4/63) 24.46บาท/ลิตร ค่าใช้จ่าย 38,271.09 บาท/ปี
7ปี ค่าใช้จ่าย 197,897.63บาท
----------
ค่าใช้จ่ายCHR ประหยัดกว่า City 87,688.79 บาท ที่ 7 ปี
8)คิดเล่นๆไม่รู้ถูกป่าว
-
จันทร์-ศุกร์ 261 วัน 261x20=5,220 กิโลเมตร
เสาร์-อาทิตย์ 104 วัน 104x200=20,800 กิโลเมตร
----------
city 15.6 กิโลเมตร/ลิตร
ระยะทาง1ปี 26,020 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 26,020/15.6=1,667.95 ลิตร
ราคาน้ำมันเบนซิน (ณ16/4/63) 24.46บาท/ลิตร ค่าใช้จ่าย 40,798.06 บาท/ปี
7ปี ค่าใช้จ่าย 285,586.42 บาท
---------
CHR 16.63 กิโลเมตร/ลิตร
ระยะทาง1ปี 26,020 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 26,020/16.63=1,564.64 ลิตร
ราคาน้ำมันเบนซิน (ณ16/4/63) 24.46บาท/ลิตร ค่าใช้จ่าย 38,271.09 บาท/ปี
7ปี ค่าใช้จ่าย 197,897.63บาท
----------
ค่าใช้จ่ายCHR ประหยัดกว่า City 87,688.79 บาท ที่ 7 ปี
8)คิดเล่นๆไม่รู้ถูกป่าว
City ตัวใหม่ 1.0 Turbo มันเข้า Eco Car Phase 2 ที่ต้องผ่านเกณฑ์ 23 โลลิตร ขับระยะไกล ผมว่าอัตราเฉลี่ยไม่น่าได้ 15
-
จันทร์-ศุกร์ 261 วัน 261x20=5,220 กิโลเมตร
เสาร์-อาทิตย์ 104 วัน 104x200=20,800 กิโลเมตร
----------
city 15.6 กิโลเมตร/ลิตร
ระยะทาง1ปี 26,020 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 26,020/15.6=1,667.95 ลิตร
ราคาน้ำมันเบนซิน (ณ16/4/63) 24.46บาท/ลิตร ค่าใช้จ่าย 40,798.06 บาท/ปี
7ปี ค่าใช้จ่าย 285,586.42 บาท
---------
CHR 16.63 กิโลเมตร/ลิตร
ระยะทาง1ปี 26,020 กิโลเมตร ใช้น้ำมัน 26,020/16.63=1,564.64 ลิตร
ราคาน้ำมันเบนซิน (ณ16/4/63) 24.46บาท/ลิตร ค่าใช้จ่าย 38,271.09 บาท/ปี
7ปี ค่าใช้จ่าย 197,897.63บาท
----------
ค่าใช้จ่ายCHR ประหยัดกว่า City 87,688.79 บาท ที่ 7 ปี
8)คิดเล่นๆไม่รู้ถูกป่าว
City ตัวใหม่ 1.0 Turbo มันเข้า Eco Car Phase 2 ที่ต้องผ่านเกณฑ์ 23 โลลิตร ขับระยะไกล ผมว่าอัตราเฉลี่ยไม่น่าได้ 15
อ้างอิง First Impression ของพี่แพน
http://www.headlightmag.com/first-impression-honda-city-turbo-rs-by-pan/ (http://www.headlightmag.com/first-impression-honda-city-turbo-rs-by-pan/)
ยังไม่เห็น Full Review เลยคำนวนตามนั้นไปก่อน
-
เป็นผมไป CHR ใช้รถน้อยความประหยัดด้อยกว่านิดเดียว
-
คุณภาพตามราคาครับ
City มีดีที่แรงประหยัด (แต่ไม่มาก)
CHR ดีที่ขับสบาย ทัศนวิสัยดี ช่วงล่างดีกว่ามาก ความแรงผมว่า 1.8 น่าจะแรงกว่า 1.0T นะ