Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Robot_natty ที่ เมษายน 05, 2020, 13:30:21
-
จะซื้อรถแต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาสีอะไรดี ???
-
เอาที่ชอบ สีดำจะเห็นรอย สิ่งสกปรกง่ายกว่า
-
ยากทั้งสองสี
-
สีขาวมุกดูแลง่ายกว่า หลบซ่อนรอยขูดขีดเบาๆ ได้ดี
สีขาวมุกจะออกอมเหลืองนิดๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องความเหลืองเมื่อใช้ไปนานๆ เท่าไร
แต่อย่าถลอกเชียว เห็นชัดเจนเลย
-
ดำ
-
ขนแมวเป็นสิ่งที่น่ารำคาญสำหรับสีดำ แต่สีขาวน่ารำคาญเรื่องยางไม้นะครับ ขนาดพยายามไม่จอดใกล้ต้นไม้
ก้ยังมีปลิวๆมาโดน 2-3 เดือนต้องเสียเงินให้คาแคร์ทำให้ที ทำเองได้แต่เมื่อยมือพอสมควร รถบ้านผมสีขาว
ทุกคันตอนนี้เริ่มเบื่อเรื่องนี้เหมือนกัน
-
ขาว ดูแลง่ายกว่า
ดำ ล้างไม่ดี ส่งแต่คาแคร์ แป้บเดียว เจอแสงส่อง ขนแมวขึ้น น่าเกลียดเลยล่ะ
-
มีรถอยู่ทั้งสองสี ตอบเลยว่าสีขาวมุกดูแลง่ายกว่ามากๆ
สีดำถ้าล้างแล้วฝุ่นสีขาวหม่นจับเต็มเลย สีขาวมุก 3 อาทิตย์ยังไม่เห็นฝุ่นเลยครับ มีแค่พวกจุดสีเหลืองนิดหน่อย
-
ขาว ดูแลง่ายกว่า
ดำ เห็นรอยเห็นฝุ่นง่าย
-
ระยะสั้น ขาวดูแลง่ายกว่าครับ
ระยะยาวรถสีขาวจะออกเหลือง ถึงตอนนั้นดำจะดูสวยกว่า
-
ดูแลยากคนละแบบ ผมมีรถทั้งสองสี
สีดำรอยขนแมวเห็นชัด ฝุ่นจับเห็นชัด เลอะง่าย
สีขาวฝุ่นจับมองไม่ค่อยเห็น แต่กลัวยางไม้ ขี้นก รอยเลอะต่างๆจะเป็นคราบฝังลึกได้ง่ายมาก เวลาเป็นคราบแล้วล้างออกยากต้องขัดสีเอา
ว่าคันต่อไปคงต้องลองสีเทาดูบ้าง
-
ความเห็นส่วนตัว ชอบสีดำ ถ้ารถอายุเยอะๆระดับ 10-15 ปีดูแล้วยังไม่เก่ามากเท่าไหร่ แม้ดีไซน์จะคนละยุคกับรถรุ่นใหม่ก็ตาม ข้อดีทำสีแล้วไม่ค่อยเพี้ยน ข้อเสียฝุ่นจับจะเห็นง่ายมาก เป็นรอยขนแมวจะเห็นชัด
แต่รถสีขาวขายง่ายกว่า เวลาฝุ่นจับมองเห็นยาก ถ้าที่จอดรถประจำต้องตากแดดตลอดเวลามีโอกาสเหลืองในระยะยาว อีกข้อเสียคือเวลาทำสีโอกาสเพี้ยนง่ายกว่าสีดำ
-
สีดำ แต่ต้องทำใจเรื่องรอยขนแมว
-
ใช้ทั้ง 2 สี มาหลายปี
ผมว่าสีดำดูแลง่ายกว่า
บางจุดมีรอยนิดหน่อยใช้สีดำหรือเมจิกแต้มยังพอได้
และถ้าล้างเคลือบจะสวย หลักๆ คืออยากสวยก็ล้างบ่อยหน่อย
ส่วนสีขาวมุกน่าจะทำสียากที่สุดแล้ว ลองถามช่างทำสีหลายๆ ที่ดู
บางทีต้องแก้ไขหลายครั้ง
-
ขนาดมอเตอร์ไซค์สีดำ ยังลำบาก
รถยนต์นี่ ไม่เหลือ
-
ขาวมุกถ้าจะดูแลจะง่ายกว่าสีดำที่เกิดรอยขนแมวและฝุ่นง่ายกว่า แต่ถ้าขาวมุกไม่ดูแล และสีเสียไปแล้ว เช่นแดดเลีย จอดตากแดดบ่อย ขี้นก เป็นคราบน้ำจนขัดไม่ออก ปล่อยฝุ่นขี้โคลน จับเลอะจนสีเสียไปทั้งคัน เกิดรอยจากอุบัติเหตุ การซ่อมแซมฟื้นฟูสภาพสีกลับคืนมาแทบเป็นไปไม่ได้เลย แม้ว่าจะทำสีใหม่ก็ไม่มีทางเหมือนเดิม และการทำสีขาวมุกจากอู่สีจะทำยากและราคาแพงกว่าสีปกติด้วย
คือสรุปสีขาวมุกดูแลง่ายกว่า แต่ต้องดูแลก่อนที่สีมันจะเสียไป ถ้าคนไม่ดูแลรถ โดยเฉพาะหน้าฝนรอนาน ๆ ครั้งล้างที จอดตากแดดประจำ แบบนี้อย่าใช้สีขาวมุก
-
ข้อดีของสีดำ = ซ่อม (ทำสี) ง่าย แผลเล็กๆ แค่เอาสีแต้ม ก็ดูไม่ค่อยออกแล้ว
-
ถ้าสีขาวธรรมดาดูแลยากไหมครับ
-
สีดำ ถ้าทำใจเรื่องขนแมวไม่ได้อย่าซื้อเด็ดขาด เพราะจะทำให้จิดตกมาก ถ้าทำใจได้ก็จัดเลย
-
ผมใช้ทั้งสีดำ ขาวมุก มันดูแลยากทั้งคู่ ยากคนละแบบ
และผมก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถ ไม่ได้เคลือบแก้วด้วย
แต่ชอบแล้ว มันก็ต้องเอาล่ะครับ
บางสี ดูแลง่ายกว่า แต่ในเมื่อเราไม่ชอบ ก็ไม่เอาครับ
-
ยากคนละแบบ แต่โดยรวมแล้ว ผมว่าขาวง่ายกว่า อย่างน้อยมันก็เห็นรอยเลอะกับรอยขนแมวไม่ชัดเท่า
-
ดำดูแลยากมากครับ
รอยขนแมว อยู่ๆ ก็มา จะเคลือบ จะขัดก็มาอยู่ดี
คันหน้าผมขอบายแล้ว
-
ดำมีรอยไม่ได้เลย เห็นแล้วท้อ
-
ขาวเลยจร้า
สีดำไม่บ้างบ่อยๆ เด่วคราบก็มาละ
ปล เวลากลางคืน รถสีอ่อนจะมองเห็นชัดกว่าด้วยอ่ะนะ
ยกเว้นตอนหมอกลง หรือฝนหนัก นานๆจะเจอสักกะที
-
สีดำสีเทาดำดูแลยากมากกกก ครับ ล้างแป้ปเดียวฝุ่นจับใองเห็นชัด แถมวันไหนมีน้ำกระเด็นโดน มีรอยด่างตามรถเหมือนตุ๊กแกเลยครับ
-
สีดำดูแลยากมาก ล้างแป๊ปเดียวเห็นฝุ่นเกาะแล้ว มูลนกยางไม้ หล่นใส่ไม่ได้เช็ค พอล้างออกเห็นเป็นรอยดวงๆ
-
มีทั้งสองสีอยู่ที่บ้านพอดี
ส่วนตัว สีขาว ดูแลง่ายกว่าครับ มีฝุ่นหรือเป็นลอย มองออกยากกว่าสีดำ
สีดำนี่แค่มีฝุ่นเกาะก็ดูสกปรกแล้วครับ
-
ผมเลือกดำนะ ขาวใช้ไปนานๆมักจะเหลือง
-
Toyota majesty หรือเปล่าครับ มีให้เลือกแค่สองสีนี้
-
ดำ คือสีที่ดูแลยากที่สุดนะครับ ขาว รองลงมา แต่ ขาว พอนานไป เหลืองแน่ครับ
-
จากที่ใช้ทั้งสองสี
ผมว่า สีขาวดูแลง่ายนะ แต่ขาวมุก ถ้าเคลือบไม่ดีก็ออกเหลืองนะครับ 8)