ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำกลั่นที่ใช้ล้างแผลทางการแพทย์ ใช้เติมแบตเตอรี่ได้ไหมครับ  (อ่าน 24972 ครั้ง)

ออฟไลน์ wahahaman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
    • อีเมล์
พอดีหมอเค้าให้มาแล้วมันมีเหลือเป็นลังๆเลยน่ะครับ ถ้าเติมได้จะได้เอามาเติมแบตเตอรี่
ข้างขวดเค้าเขียนว่า

Sterile Distilled Water
For general purpose and for irrigation

ครับ
ตอนแรก หมอให้น้ำยาที่เอาไปเจือจางกับน้ำตัวนี้มาล้าง แต่แพ้ยาครับ หมอเลยบอกว่าใช้น้ำกลั่นล้างอย่างเดียวก็ได้

ปล. ไม่ได้ประหยัดครับ แต่มันเหลืออยู่ไม่ได้ใช้ เห็นเป็นน้ำกลั่นเหมือนกัน จะทิ้งก็เสียดาย แผลก็หายแล้ว ไม่จำเป็นต้องล้างด้วยน้ำกลั่นแล้วน่ะครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
สมัยเรียนหนังสือ(ปีั 2537) ผมเคยไปซื้อที่หลังคณะเภสัชมหิดล เอาถังแกลลอนไปซื้อ 30 บาท ได้เต็มถัง 20 ลิตรเลย เขามีเครื่องกลั่นอยู่ เข้าประตูถนนพระราม 6

ผมก็ใช้มาจนเรียนจบนั่นแหละครับ

ออฟไลน์ Infinity

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
น้ำกลั่น = น้ำบริสุทธิ์ = Pure H2O = น้ำล้วนๆไม่มีสิ่งเจือปน

ทั้งสองน้ำกลั่นที่ว่า ควรจะเป็นสิ่งเดียวกันครับ ไม่งั้นจะเรียกว่าน้ำกลั่นไม่ได้

ออฟไลน์ anuchitn2

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 122
พอดีหมอเค้าให้มาแล้วมันมีเหลือเป็นลังๆเลยน่ะครับ ถ้าเติมได้จะได้เอามาเติมแบตเตอรี่
ข้างขวดเค้าเขียนว่า

Sterile Distilled Water
For general purpose and for irrigation

ครับ
ตอนแรก หมอให้น้ำยาที่เอาไปเจือจางกับน้ำตัวนี้มาล้าง แต่แพ้ยาครับ หมอเลยบอกว่าใช้น้ำกลั่นล้างอย่างเดียวก็ได้

ปล. ไม่ได้ประหยัดครับ แต่มันเหลืออยู่ไม่ได้ใช้ เห็นเป็นน้ำกลั่นเหมือนกัน จะทิ้งก็เสียดาย แผลก็หายแล้ว ไม่จำเป็นต้องล้างด้วยน้ำกลั่นแล้วน่ะครับ
เท่าทีทราบ มันเป็นน้ำเกลือไว้ใช้ล้างแผล ไม่น่าเอาเสี่ยงเติมแบตเตอรี่นะครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป

เท่าทีทราบ มันเป็นน้ำเกลือไว้ใช้ล้างแผล ไม่น่าเอาเสี่ยงเติมแบตเตอรี่นะครับ

น้ำกลั่นใช้ล้างแผลถูกแล้วครับ เพราะเห็นว่าผสมกับยาด้วย ยาล้าง ยาฉีด บางตัวต้องใช้น้ำกลั่นผสม

 ถ้าเป็นน้ำเกลือ พวก ล้างตา ล้างจมูก .... คนละอันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 26, 2011, 16:49:48 โดย jaesz »

ออฟไลน์ Sarutino

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 758
  • อยากออกไปกอดเมืองไทย^ ^
ใช้ได้ครับ ไม่มีปัญหา
"Lose who you are to save what you love."

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051

เท่าทีทราบ มันเป็นน้ำเกลือไว้ใช้ล้างแผล ไม่น่าเอาเสี่ยงเติมแบตเตอรี่นะครับ

น้ำกลั่นใช้ล้างแผลถูกแล้วครับ เพราะเห็นว่าผสมกับยาด้วย ยาล้าง ยาฉีด บางตัวต้องใช้น้ำกลั่นผสม

 ถ้าเป็นน้ำเกลือ พวก ล้างตา ล้างจมูก .... คนละอันครับ
ถ้าเป็นเกลือ มันจะเป็น Saline อะไรนั่นหรือเปล่าครับ
แต่ Distilled water นี่แปลว่าน้ำกลั่นเหมือนกันแน่นอน

ออฟไลน์ YF-19

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 974
มันคือ น้ำกลั่นนั่นล่ะครับ  น่าจะใช้ได้ แต่ไม่ยืนยันผล

ที่เข้ามาตอบเพราะสงสัยว่า ทำไมให้ใช้น้ำกลั่นล้างแผล

มันเป็น hypotonic solution  จะทำให้เกิด tissue swelling จากน้ำที่ osmosis เข้าไป

ปกติจะใช้ NSS  หรือ เรียก ว่าnormal saline  ล้างแผลมากกว่า เพราะเป็น isotonic

สังเกตง่ายๆ ใครคัดจมูก แล้วเอาน้ำล้าง มันจะยิ่งบวม  เค้าเลยต้องใช้ NSS สวนล้างกัน ??? ??? ???
รีวิว "VW scirocco" กำลังจะมาครับ ขอเวลาอีกนิด

รีวิว "Hyundai coupe" ของผมเอง ติชมได้ตลอดครับ
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3731.0

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
 ;D ;D ;D...........sure positively you may fill it in your battery. 8)
                                                                                                          yogibear
                       

ออฟไลน์ wahahaman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
    • อีเมล์
มันคือ น้ำกลั่นนั่นล่ะครับ  น่าจะใช้ได้ แต่ไม่ยืนยันผล

ที่เข้ามาตอบเพราะสงสัยว่า ทำไมให้ใช้น้ำกลั่นล้างแผล

มันเป็น hypotonic solution  จะทำให้เกิด tissue swelling จากน้ำที่ osmosis เข้าไป

ปกติจะใช้ NSS  หรือ เรียก ว่าnormal saline  ล้างแผลมากกว่า เพราะเป็น isotonic

สังเกตง่ายๆ ใครคัดจมูก แล้วเอาน้ำล้าง มันจะยิ่งบวม  เค้าเลยต้องใช้ NSS สวนล้างกัน ??? ??? ???

อ๋อ พอดีแพ้ยาที่ผสมกับน้ำกลั่นตัวนี้น่ะครับ หมอเลยบอกไม่ต้องผสมยา เอาน้ำกลั่นล้างอย่างเดียวครับ

ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ

ออฟไลน์ ฮิ ฮิ้วววว!!~~~

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 335
มันคือ น้ำกลั่นนั่นล่ะครับ  น่าจะใช้ได้ แต่ไม่ยืนยันผล

ที่เข้ามาตอบเพราะสงสัยว่า ทำไมให้ใช้น้ำกลั่นล้างแผล

มันเป็น hypotonic solution  จะทำให้เกิด tissue swelling จากน้ำที่ osmosis เข้าไป

ปกติจะใช้ NSS  หรือ เรียก ว่าnormal saline  ล้างแผลมากกว่า เพราะเป็น isotonic

สังเกตง่ายๆ ใครคัดจมูก แล้วเอาน้ำล้าง มันจะยิ่งบวม  เค้าเลยต้องใช้ NSS สวนล้างกัน ??? ??? ???

ตามนั้่น!!  ^^
Master Degree of Science Program in Animal Science
Department of Animal Production Technology
Faculty of Agricultural Technology
King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang (KMITL)

ออฟไลน์ Steez

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
น้ำเกลือล้างแผล = NSS = 0.9%NaCl
น้ำกลั่นแบตเตอรี่ ผมไม่ทราบองค์ประกอบ แต่ในเวป http://www.teenet.chula.ac.th/forum/allmsg.asp?ID=1921
เขียนรายละเอียด ประมาณว่าเป็น Deionized water ซึ่งไม่น่าจะเหมือนกันครับ แต่หลายเวปก็เขียนว่า เติมน้ำธรรมดาไปก่อนก็ได้ ดีกว่าจะให้แบตแห้งไปนะครับ
 แต่ก็ไม่ทราบข้อมูลจริงๆ ว่าเป็นยังไงเพราะผมก็ไม่มีความรู้ทางวิศวกรรมทางแบตอะไรหรอกครับ คร่าวๆ ผมว่าใช้น้ำกลั่นจริงๆ คงจะดีกว่า  น้ำเกลือขวดนึง ถ้าไม่ใช่ รพเอกชนก็ไม่แพงครับ  อย่าเสียดายเลย ^^

ออฟไลน์ E-OOD

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
    • อีเมล์
น้ำกลั่นมีหลายแบบ  กลั่นแล้วแต่ยังมี polar อยู่  คือมีประจุ  หรือแบบว่ามีขั้วบวก  ขั้วลบอยู่   แต่ถ้าจะใช้ในการล้างเครื่องมือทางห้อง lap  และ ที่ใช้เติมแบตเตอรี่ ต้อง deionite ก่อน  คือเอาขั้วบวก  ขั้วลบมันออกก่อน  โดยใช้เครื่องมือในการจับขัั้วบวก ขั้วลบ ออก  ในห้องแลบ  ต้องเอาทำซ้ำถึง 2 ครั้ง  จึงจะใช้ในการล้างเครื่องมือทดลองได้  และขอเตือนเลยนะครับ  ว่า  น้ำกลั่นประเภทนี้  รับประทานไม่ได้เด็ดขาด  เพราะ น้ำที่เราบริโภคได้  จะต้องมีขั้วบวก  ขั้วลบ ไม่งั้น  มันจะทำให้ระบบการทำงานในร่างกายเรา ช็อตได้นะครับ  ขอย้ำว่า ดื่มไม่ได้นะครับ

ออฟไลน์ wahahaman

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกๆคำตอบนะครับ

ออฟไลน์ sedan lover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
น้ำกลั่นมีหลายแบบ  กลั่นแล้วแต่ยังมี polar อยู่  คือมีประจุ  หรือแบบว่ามีขั้วบวก  ขั้วลบอยู่   แต่ถ้าจะใช้ในการล้างเครื่องมือทางห้อง lap  และ ที่ใช้เติมแบตเตอรี่ ต้อง deionite ก่อน  คือเอาขั้วบวก  ขั้วลบมันออกก่อน  โดยใช้เครื่องมือในการจับขัั้วบวก ขั้วลบ ออก  ในห้องแลบ  ต้องเอาทำซ้ำถึง 2 ครั้ง  จึงจะใช้ในการล้างเครื่องมือทดลองได้  และขอเตือนเลยนะครับ  ว่า  น้ำกลั่นประเภทนี้  รับประทานไม่ได้เด็ดขาด  เพราะ น้ำที่เราบริโภคได้  จะต้องมีขั้วบวก  ขั้วลบ ไม่งั้น  มันจะทำให้ระบบการทำงานในร่างกายเรา ช็อตได้นะครับ  ขอย้ำว่า ดื่มไม่ได้นะครับ

ผมรู้ว่าดื่มได้ทั้งหมดครับ แต่เกิดประโยชน์หรือไม่ต้องลอง review ผมไม่เคยเจอเคส และไม่เคยเรียนมาว่าดื่มน้ำที่มีประจุจะทำให้ร่างกายช็อตและเป็นอันตรายได้ เพราะเวลาดื่มก็เป็นกลางอยู่แล้วต้องเป็นH,O ล้วนๆนะครับ
ในpaperก็ไม่เคยอ่านเจอ เรียน physioตอนpreclinicมา เป็น10ปีก่อนก็ไม่เคยได้ยิน เวลาเรารับประทาน ร่างกายเราปรับประจุได้อยู่แล้ว ขออย่าให้เป็นisotopeกัมมันตรังสีครับ มีผลต่อneuronและไตแน่นอน และไม่มีหลักฐานทางวิชาการว่าประจุพวกนี้จะเหนี่ยวนำให้เป็น malignancyแต่อย่างใด ลองไปreviewมาใหม่นะครับ หรือเจอบทความอะไร updateส่งมาให้ด้วยนะครับ เพราะตั้งแต่เป็น specialistไม่ได้ update ความรู้ basic scienceเลย ส่วนเติมรถยนต์ได้ไหม ไม่ทราบครับ

ออฟไลน์ THEKHAM

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 487
    • อีเมล์
ผมเคยทราบมาว่าน้ำกลั่นดื่มได้ เเต่ไม่มีประโยชน์กับร่างกาย เพราะไม่มีเเร่ธาตุ อะไรนี่เเหละครับ

น้ำธรรมดาที่เราดื่มจะมี คงเพราะมันกลั่น กรองจนไม่เหลือ

ถ้าไม่เเน่ใจในเคสนี้ ผมว่าเอาไปทำบุญ บริจาคให้กับโรงพยาบาล หรือ บุคคลที่จำเป็นต้องใช้ครับ ;D

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
แวะมาบอกว่าเติมแบตเตอรี่ได้ครับ ไม่มีผลเสียใดใด
เพราะแบตเตอรี่ต้องการของเหลวที่เป็นกรด เพื่อส่งต่อประจุไฟฟ้า
พอเราใช้ไป ถ้าไม่ใช่แบตแบบปิดสนิทไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
น้ำก็จะระเหยออกไปตามช่องต่างต่าง เพราะความร้อนที่สะสมในเครื่องยนต์และตัวแบต
เราเลยต้องเติมน้ำกลั่น หรือน้ำสะอาดเข้าไปรักษาระดับน้ำกรดไว้เท่านั้น

ออฟไลน์ E-OOD

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
    • อีเมล์
คุณหมอเรียน phisio จะเจอได้ไง  อันนี้ผมเจอความรู้นี้ตอนทำแลป bio-chem นี่  แล้วน้ำจะต้องมีประจุจึงจะดื่มได้  ถ้าไม่มีประจุ( deionize)  ดื่มแล้วเป็นอันตราย  อันนี้อาจารย์ ที่สอนแลป bio-chem บอกไว้  ถูกผิดไงไม่รู้

ออฟไลน์ E-OOD

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
    • อีเมล์
http://www.balavi.com/webboard/QAview.asp?id=276   ลองอ่านดูครับ  เป็นบทความเกี่ยวกับน้ำ deionized ที่คุณหมอบอกว่าไม่เคยเห็น paper  ไม่มีรายงานมาก่อน ก่อนที่จะแนะนำตามความคิดของตัวเอง  รู้แล้วถึงมาว่าผมก็ยังทันครับ เฮ้อ  ไม่อยากป่วยเลย ชาตินี้  ถ้าป่วยแล้วต้องเจอหมอแบบนี้อ่ะ

ออฟไลน์ sedan lover

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
http://www.balavi.com/webboard/QAview.asp?id=276   ลองอ่านดูครับ  เป็นบทความเกี่ยวกับน้ำ deionized ที่คุณหมอบอกว่าไม่เคยเห็น paper  ไม่มีรายงานมาก่อน ก่อนที่จะแนะนำตามความคิดของตัวเอง  รู้แล้วถึงมาว่าผมก็ยังทันครับ เฮ้อ  ไม่อยากป่วยเลย ชาตินี้  ถ้าป่วยแล้วต้องเจอหมอแบบนี้อ่ะ
ขอโทษครับคุณ คุณพูดอย่างงี้ก็ไม่ถูกนะครับ

คุณดูถูกวิชาชีพแพทย์ ผมจะรายงานเวบมาสเตอร์

 คุณรู้แล้วเหรอว่าผมเป็นเฉพาะทางด้านอะไร แพทย์ทุกคนไม่จำเป็นต้องรู้เรื่อง Basic science ที่ลึกๆมากๆ ไม่เกี่ยวกับตัวเขาก็ได้จะรู้ไปทำไม เช่นหมอตาจะรู้ทำไมว่าน้ำที่มีประจุกินไม่ได้ เป็นหมอผิวหนัง จะรู้เรื่องน้ำยาเคมีทางห้องแลบ
หรือที่ไม่เกี่ยวกับสายของตัวเองไปทำไม

คุณพูดอย่างงี้ คุณกำลังดูถูผมอย่างมาก

ผมถามว่าคุณ ทำงานอะไรเป็นใคร ครับ สังกัดอะไร ถ้าบริสุทธ์ใจจริงเปิดเผยมาเลย คุณต้องขอโทษผมในสิ่งที่คุณพิมพ์ไป มิงั๊นผมจะเอาเรื่องคุณ เพราะผมไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ ผมไม่เคยอ่านเจอ และผมก็ไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะมันไม่เกี่ยวกับความเชี่ยวชาญของผม

และการที่คุณมาโพสว่าผมไม่มีความสามารถ คิดสั้นไปมั๊งคุณ ตัดสินแบบนี้ หมิ่นประมาทชัดๆ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
http://www.balavi.com/webboard/QAview.asp?id=276   ลองอ่านดูครับ  เป็นบทความเกี่ยวกับน้ำ deionized ที่คุณหมอบอกว่าไม่เคยเห็น paper  ไม่มีรายงานมาก่อน ก่อนที่จะแนะนำตามความคิดของตัวเอง  รู้แล้วถึงมาว่าผมก็ยังทันครับ เฮ้อ  ไม่อยากป่วยเลย ชาตินี้  ถ้าป่วยแล้วต้องเจอหมอแบบนี้อ่ะ

ในฐานะผู้ดุแลเว็บ

ผมอยากจะบอกว่า คนเราหนะ ต่อให้เป็นหมอ ก็ยังไม่มีใครรู้ครบทุกด้าน
ต่างก็ต้องขยันหาความรู้เพิ่มเติมด้วยกันทั้งสิ้น

คุณ มีสิทธิ์จะกลัวจะเกรง แต่คำถามคือ ถ้าสมมติว่า คุณเป็นพ่อครัว แต่คุณไม่รู้วิธีการทำ "พระกระโดดกำแพง"
แล้วถ้ามีใครสักคน มาด่าคุณว่า แล้วอย่างนี้ เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าคุณเป็นพ่อครัวที่เก่ง

ถามหน่อยครับ คุณ จะโกรธเคืองคนที่มาว่าคุณแบบนั้นไหม?

จะสื่อสารกันบนพื้นที่สาธาณะ
ใจเขาใจเรากันหน่อยครับ

คุณ Sedan Lover ครับ
ความรู้ ไม่ได้มีแค่ในตำราครับ ความรู้รอบตัว เราเองก็ต้องหมั่นขยันศึกษาไว้ครับ
แม้ความจริงจะเป็นอย่างไร แต่อีกความจริงก็คือ สังคมไทย ยังคาดหวังกับวิชาชีพหมอค่อนข้างสูงมากอยู่ครับว่าผิดพลาดไมไ่ด้
ทั้งที่จริงๆ โอกาสจะเกิดขึ้น มันก็มีได้ทั้งสิ้นหนะครับ

ฝากไว้ด้วยนะครับ ทั้ง 2 ท่านเลยครับ

ออฟไลน์ vecchio

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
เอ๊า ไปๆมาๆ ทะเลาะกันซะงั้น  ;D