ผู้เขียน หัวข้อ: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ  (อ่าน 5151 ครั้ง)

ออฟไลน์ babybigman

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 95
ผมเห็นพอมีปัญหาเยอะ
จะขายทิ้ง
คราวนี้พอคนใหม่มาซื้อไป
เขาก็ต้องขายทิ้งต่อ
แล้วสุดท้ายจะไปจบที่ไหน
Past History
1995 Honda Civic Sold
1998 Mitsubishi Lancer Sold
2003 BMW 325i Sold
2006 Kia Carnival CEO Sold
2013 E250 CGI Current
2013 Honda CRV 2014 Current
2014 Honda Freed 2014 Current

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,957
    • อีเมล์
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 11:28:59 »
ผมเห็นพอมีปัญหาเยอะ
จะขายทิ้ง
คราวนี้พอคนใหม่มาซื้อไป
เขาก็ต้องขายทิ้งต่อ
แล้วสุดท้ายจะไปจบที่ไหน

          ปัญหาที่มี บางคนแก้ได้ บางคนแก้ไม่ได้  บางคนยอมรับปัญหาเล็กๆน้อยๆได้ บางคนรับไม่ได้เลย

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 11:54:56 »
ผมเคยบอกบริษัทที่ทำรถมีปัญหา และไม่แก้ไขว่า คุณไม่แก้ปัญหาให้ลูกค้า เค้าทนไม่ได้ก็ขายทิ้ง
มือ2 พอคนใช้มือ2มีปัญหา ก็ขายเป็นมือ 3  4   5 
กลายเป็นรถ1คันที่มีปัญหา แต่มีคนเข็ดยี่ห้อนี้ไปหลายคน

แต่เชื่อป่ะ หลังจากผมพูดไป  ผมก็ไม่เคยเห็นบริษัทนั้นจะสนใจแก้ไข  หลายๆครั้งผมก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมหลายบริษัท จะเจ๊งๆๆ  มันมีเหตุผลและกรรมในตัวมันเองทั้งนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2016, 17:04:00 โดย Newhang »

ออฟไลน์ babybigman

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 95
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 13:17:53 »
ผมเคยบอกบริษัทที่ทำรถมีปัญหา และไม่แก้ไขว่า คุณไม่แก้ปัญหาให้ลูกค้า เค้าทนไม่ได้ก็ขายทิ้ง
มือ2 พอคนใช้มือ2มีปัญหา ก็ขายเป็นมือ 3  4   5 
กลายเป็นรถ1คันที่มีปัญหา แต่มีคนเข็ดยี่ห้อนี้ไปหลายคน

แต่เชื่อป่ะ หลังจากผมพูดไป  ผมก็ไม่เคยเห็นบริษัทนั้นจะสนใจแก้ไข  หลายๆครั้งผมก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมหลายบริษัท จะเจ๊งๆๆ  มันมีเห็นผลและกรรมในตัวมันเองทั้งนั้น

จริงครับ
เพราะ พอซื้อไป ไม่ดีจะขยาดยี่ห้อนั้นไปตลอด 10 ครอบครัวเลย ไม่ใช่ 1 คน
Past History
1995 Honda Civic Sold
1998 Mitsubishi Lancer Sold
2003 BMW 325i Sold
2006 Kia Carnival CEO Sold
2013 E250 CGI Current
2013 Honda CRV 2014 Current
2014 Honda Freed 2014 Current

ออฟไลน์ PunTam

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
    • อีเมล์
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 13:39:08 »
เอาจากตั้งแต่เกิดมาแล้วเห็นเลยนะครับ
1.ราคาตกมาก คนมีเงินน้อยพอซื้อได้ ใช้กระดองเดิม หัวใจใหม่
2.เหมือนกัน แต่ตกซะจนเด็กๆวัยเรียนมหาวิทยาลัย สามารถนำเงินจากการทำ Part Time หรือรับจ็อปตอนเรียนอย่างสุจริต ซื้อมาใช้ขับไปเรียน และสุดท้ายดัดแปลงไปเป็นรถซิ่งบนท้องถนนหรือในสนามในเวลาต่อมา
3.กลายเป็นอะไหล่ ต่อชีวิตให้รถที่วิ่งอยู่ครับ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 13:39:54 »
แยกชิ้นขาย !!! ;D

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 13:48:38 »
ผมเคยบอกบริษัทที่ทำรถมีปัญหา และไม่แก้ไขว่า คุณไม่แก้ปัญหาให้ลูกค้า เค้าทนไม่ได้ก็ขายทิ้ง
มือ2 พอคนใช้มือ2มีปัญหา ก็ขายเป็นมือ 3  4   5 
กลายเป็นรถ1คันที่มีปัญหา แต่มีคนเข็ดยี่ห้อนี้ไปหลายคน

แต่เชื่อป่ะ หลังจากผมพูดไป  ผมก็ไม่เคยเห็นบริษัทนั้นจะสนใจแก้ไข  หลายๆครั้งผมก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมหลายบริษัท จะเจ๊งๆๆ  มันมีเห็นผลและกรรมในตัวมันเองทั้งนั้น

จริงครับ
เพราะ พอซื้อไป ไม่ดีจะขยาดยี่ห้อนั้นไปตลอด 10 ครอบครัวเลย ไม่ใช่ 1 คน

เพราะทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกรึเปล่าครับ

ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,179
    • อีเมล์
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 13:53:43 »
รถจะค่อยหายไปจากตลาด  เต้นท์ก็ไม่รับซื้อ  คนใช้ก็ไม่สามารถขับได้  สรุปทิ้ง  มูลค่าจะกลายเป็น 0  เป็นขยะ
จึงเห็นแต่ฉพาะรถตลาดๆ  ที่สามาถดูแลรักษาง่าย  ยังคนวิ่งอยู่บนถนน  ตัวอย่าง toyota โดเรมอน พบเห็นมากกว่า ford lacer ที่อายุใหม่กว่ามาก

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 14:52:13 »
แต่ละคนมีวิธีแก้ปัญหา ไม่เหมือนกัน
defect มันมีทุกคัน แตกต่างกันออกไป
ยอมรับได้ก็ใช้ต่อ
ยอมรับไม่ได้ พึ่งแต่ศูนย์ ก็ใช่ว่าจะจบเสมอไป บางปัญหาอู่นอกแก้ได้ ง่ายกว่าศูนย์อีก

ยกตัวอย่าง
ford fiesta เกียร์มีปัญหา อู่นอกยกเกียร์ธรรมดาใส่ หรือจะแปลงเกียร์จากรุ่นอื่นใส่
ford fiesta เกียร์มีปัญหา มือ 2 แสนต้นๆ จับมาวาง 1NZ Auto ตรวจขนส่ง บันทึกลงเล่ม จบ ช่วงล่างดี ประหยัด เครื่องทน ในงบ ไม่เกิน 2แสนห้า
pajero sport พวงมาลัยมีปัญหา ศูนย์แก้ไม่ได้ อู่นอก แก้ได้

วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ที่ เจ้าของรถเอง จะทำเอง หรือจะให้ศูนย์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ไม่มีจุดจบของรถมือสองที่มี defect ที่แน่นอนคับ


ออฟไลน์ warez

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 702
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 16:52:47 »
ราคาลงมาจนกล้ายำ

ยำแล้วขายถูกๆ

ออฟไลน์ neutrino

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 17:49:19 »
แต่ละคนมีวิธีแก้ปัญหา ไม่เหมือนกัน
defect มันมีทุกคัน แตกต่างกันออกไป
ยอมรับได้ก็ใช้ต่อ
ยอมรับไม่ได้ พึ่งแต่ศูนย์ ก็ใช่ว่าจะจบเสมอไป บางปัญหาอู่นอกแก้ได้ ง่ายกว่าศูนย์อีก

ยกตัวอย่าง
ford fiesta เกียร์มีปัญหา อู่นอกยกเกียร์ธรรมดาใส่ หรือจะแปลงเกียร์จากรุ่นอื่นใส่
ford fiesta เกียร์มีปัญหา มือ 2 แสนต้นๆ จับมาวาง 1NZ Auto ตรวจขนส่ง บันทึกลงเล่ม จบ ช่วงล่างดี ประหยัด เครื่องทน ในงบ ไม่เกิน 2แสนห้า
pajero sport พวงมาลัยมีปัญหา ศูนย์แก้ไม่ได้ อู่นอก แก้ได้

วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ที่ เจ้าของรถเอง จะทำเอง หรือจะให้ศูนย์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ไม่มีจุดจบของรถมือสองที่มี defect ที่แน่นอนคับ
+1
แปลกใจว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงคิดพึ่งแต่ศูนย์ บางอย่างศูนย์ไร้สมรรถภาพเยอะแยะไป
ผมใช้รถ ผมเข้าทั้งนอกและในศูนย์ และถ้าหมดระยะประกัน ก็ไม่เคยเหยียบศูนย์อีกเลย เพียงแค่เป็นคน
หมั่นสังเกตุและศึกษา เท่านั้น ปัญหาหลายอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 18:08:53 »
แต่ละคนมีวิธีแก้ปัญหา ไม่เหมือนกัน
defect มันมีทุกคัน แตกต่างกันออกไป
ยอมรับได้ก็ใช้ต่อ
ยอมรับไม่ได้ พึ่งแต่ศูนย์ ก็ใช่ว่าจะจบเสมอไป บางปัญหาอู่นอกแก้ได้ ง่ายกว่าศูนย์อีก

ยกตัวอย่าง
ford fiesta เกียร์มีปัญหา อู่นอกยกเกียร์ธรรมดาใส่ หรือจะแปลงเกียร์จากรุ่นอื่นใส่
ford fiesta เกียร์มีปัญหา มือ 2 แสนต้นๆ จับมาวาง 1NZ Auto ตรวจขนส่ง บันทึกลงเล่ม จบ ช่วงล่างดี ประหยัด เครื่องทน ในงบ ไม่เกิน 2แสนห้า
pajero sport พวงมาลัยมีปัญหา ศูนย์แก้ไม่ได้ อู่นอก แก้ได้

วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ที่ เจ้าของรถเอง จะทำเอง หรือจะให้ศูนย์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ไม่มีจุดจบของรถมือสองที่มี defect ที่แน่นอนคับ
+1
แปลกใจว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงคิดพึ่งแต่ศูนย์ บางอย่างศูนย์ไร้สมรรถภาพเยอะแยะไป
ผมใช้รถ ผมเข้าทั้งนอกและในศูนย์ และถ้าหมดระยะประกัน ก็ไม่เคยเหยียบศูนย์อีกเลย เพียงแค่เป็นคน
หมั่นสังเกตุและศึกษา เท่านั้น ปัญหาหลายอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา

รถมีปัญหา มันมีปัญหาตั้งแต่ป้ายแดง เหลือเวลาเกือบ3ปีจะหมดประกัน คุณจะนำรถออกไปให้ข้างนอกทำเพื่อให้ประกันหมดเหรอครับ ขนาดไม่ได้ดัดแปลงก็บอกปัดกันแล้ว ถ้าดัดแปลงคงไม่ต้องพูด

อีกอย่างเราคงจะเอา พื้นฐานเล่นแร่แปรธาตุ มาใช้กับทุกคนก็คงไม่ใช่ หลายๆอย่างที่เป็นปัญหาข้างนอกก็แก้ปัญหาให้ไม่ได้หรอกครับ
แต่ก็เอาเถอะครับ เอาเป็นว่าถ้ารถมันมีปัญหาจนถึงขนาดเจ้าของรถจะขายทิ้ง มันคงเลวร้ายเกินกว่าเค้าและศูนย์จะแก้ไขแล้ว ก็ให้มือ 2   3   4   5 เค้าลองไปจัดการดูแล้วกัน  อาจจะโอเคก็ได้
เพราะจบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่ไม่เต็มที่คงไม่ขายกันหรอกครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 20:19:17 »
ในชีวิตนี้ มีรถสองคันที่แก้ไม่คุ้ม เลยขายเตนท์ไป

ผมได้เจอเจ้าของใหม่ ใช้แบบมีปัญหาติดๆไปแบบนั้น อาจจะเพราะเขาไม่จุกจิกเท่าผมก็ได้

ดีเฟคแบบที่รถยังขับได้ มันมีเยอะมากครับ แต่สุดท้ายถ้าคนใช้คิดว่าซ่อมไม่คุ้มจะใช้ต่อแล้วก็อาจจะขายไปให้คนที่ซ่อมคุ้ม หรือแยกชิ้นขายก็ได้

ออฟไลน์ Super hornet

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,141
  • Hello everyone 我是爱车的人
    • อีเมล์
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 22:44:00 »
จุดพอใจของคนเราไม่เหมือนกันครับ ผมก็พึ่งขายEvoqueให้เพื่อนแฟนไป ทั้งๆที่ผมก็จริงใจบอกถึงDefectที่คันนี้เป็นคือเสียงลมดัง ว้อวๆเวลารถวิ่ง ที่ไม่ใช่มาจากยางขอบประตู ตรงด้านคนขับที่แก้ไม่เคยหายและสาเหตุไม่เจอ ลื้อจนน็อตยึดจะหลวมอยู่แล้ว แดมป์ก็ไม่หายจนช่างบอกว่าลองเปลี่ยนทั้งบานดีไหม? ถึงได้ตัดสินใจขายเพราะ รำคาญ  แต่สุดท้ายก็มีคนยินดีซื้อและรับมันได้ แต่เนื่องด้วยรถเรามีปัญหาจริงๆเลยลดให้จนคิดว่าน่าจะพอใจทั้งสองฝ่าย  เพราะฉะนั้นจุดจบมันมีได้ร้อยแปดพันอย่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2016, 22:49:42 โดย Super hornet »
History of my car
2013 Lamborghini LP570-4 Superleggera For me
2006 Benz E200 Kompressor +Kleemann For wife
2008 Maserati Granturismo 4.2  For wife,me
2009 Jaguar XF 3.0 For sister
2014 Range Rover Evoque 2.2 Sold...
2009 Benz CL 500 second hand  Sold....
2001 Lexus GS300  Sold....

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,447
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2016, 23:15:19 »
ถ้าแก้ไม่จบจริงๆ คงโดนจับแยกชิ้นส่วน

ออฟไลน์ FisherBoy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • อีเมล์
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 13:04:59 »
แต่ละคนมีวิธีแก้ปัญหา ไม่เหมือนกัน
defect มันมีทุกคัน แตกต่างกันออกไป
ยอมรับได้ก็ใช้ต่อ
ยอมรับไม่ได้ พึ่งแต่ศูนย์ ก็ใช่ว่าจะจบเสมอไป บางปัญหาอู่นอกแก้ได้ ง่ายกว่าศูนย์อีก

ยกตัวอย่าง
ford fiesta เกียร์มีปัญหา อู่นอกยกเกียร์ธรรมดาใส่ หรือจะแปลงเกียร์จากรุ่นอื่นใส่
ford fiesta เกียร์มีปัญหา มือ 2 แสนต้นๆ จับมาวาง 1NZ Auto ตรวจขนส่ง บันทึกลงเล่ม จบ ช่วงล่างดี ประหยัด เครื่องทน ในงบ ไม่เกิน 2แสนห้า
pajero sport พวงมาลัยมีปัญหา ศูนย์แก้ไม่ได้ อู่นอก แก้ได้

วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ที่ เจ้าของรถเอง จะทำเอง หรือจะให้ศูนย์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ไม่มีจุดจบของรถมือสองที่มี defect ที่แน่นอนคับ

มีซักกี่คนที่จะยำรถละครับ แล้วถ้าแก้ไม่จบจะเกิดไรขึ้น ทนใช้ไปเรื่อยๆ ด้วยความระแวง
พาลูกเมียไปเที่ยว ตจว ต้องมาวัดดวงว่าจะจบทริปด้วยสวัสดิภาพหรือไม่

ออฟไลน์ M-Titan Man@NacT

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 335
Re: จุดจบของรถมือสองที่มี defect ไปอยู่ที่ไหนครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 22:42:03 »
เอาจากตั้งแต่เกิดมาแล้วเห็นเลยนะครับ
1.ราคาตกมาก คนมีเงินน้อยพอซื้อได้ ใช้กระดองเดิม หัวใจใหม่
2.เหมือนกัน แต่ตกซะจนเด็กๆวัยเรียนมหาวิทยาลัย สามารถนำเงินจากการทำ Part Time หรือรับจ็อปตอนเรียนอย่างสุจริต ซื้อมาใช้ขับไปเรียน และสุดท้ายดัดแปลงไปเป็นรถซิ่งบนท้องถนนหรือในสนามในเวลาต่อมา
3.กลายเป็นอะไหล่ ต่อชีวิตให้รถที่วิ่งอยู่ครับ


agree