Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ABUSEz ที่ มิถุนายน 22, 2017, 09:38:03
-
ผมไม่เคยใช้ fd นะครับ แต่มีคนรู้จักใช้
ผมชอบการปัดน้ำฝนแบบนี้ครับ ผมว่ามันทำให้คนนั่งหน้าทั้ง2ฝั่งมองทางได้ชัดกว่าการปัดแบบปกติ
เลยอยากรู้ว่ามันมีข้อเสียอะไรไหมครับ ทำไมค่ายรถส่วนใหญ่ถึงไม่ใช้แบบนี้
ตอนนี้คิดออกอย่างเดียว คือถ้าติดกล้องหน้ารถ กระจกตรงกลางมันจะไม่โดนปัด ทำไมกล้องบันทึกภาพได้ไม่ชัด
-
เข้าใจผิดคิดว่าหมายถึงใบเดียวตรงกลางครับ
(http://s.hswstatic.com/gif/wiper-coverage.gif)
-
ไม่รู้เหมือนกัน
ผมก็ชอบนะ รู้สึกว่าเวลาล้าง ดึงก้าน มันง่ายดี เพราะอยู่ด้านนอกรถ แล้วก็ไม่เป็นมุมสามเหลี่ยมตรงกลางกระจกด้วย
เวลาปัดน้ำฝนก็ดี ยังไม่เห็นข้อเสียเลยครับ
-
เห็นด้วยว่า ที่ปัดน้ำในแบบ fd มันประสิทธิ์ภาพดีกว่าครับ ส่วนตัวผมก็ชอบแบบนั้น รู้สึกมันสมมาตรดี
แต่ที่ทำไม่ได้แบบนั้นเพราะมันเป็นเรื่องของ ความสูงกระจกครับ คือยิ่งกระจากมีความสูง (วัดตามแนวระนาบเสาเอ)เท่าไหร่ยิ่งเหมาะกับใบปัดน้ำฝนไขว้แบบ fdครับ คือมันจะได้พื้นที่ในการปัดมากกว่า และเหลือพื้นที่ตรงกลางที่ปัดไม่ถึงน้อยกว่า ถ้ารถทั่วไป ทำแบบfd อาจไม่เห็นตรงกลางเลยแล้วจะกะลำบากครับ
เท่าที่สังเกตุดู รถที่กระจกสูงมากๆเช่นalphardบางรุ่น ก็จะใช้ใบปัดไขว้แบบนี้เช่นกัน
ตามรูปครับ (รูปอาจเบี้ยวเล็กน้อยครับ ถ้าลองใช้วงเวียนทำดูมันจะชัดเจนขึ้น)
-
ไม่แน่ใจ ผมเคยใช้แต่รุ่นที่มี 2 ใบ ทุกคันเลยในบ้าน
FD ก็มีสองใบครับ
แต่มันปัดเข้าหากัน ไม่ได้ปัดไปทางเดียวกัน
จขกท. ไม่ได้หมายถึงใบเดียววางตรงกลางครับ
-
ข้อเสียคือถ้าติดกล้องหน้ารถ เวลาปัดน้ำฝนจะใบปัดจะไม่ทำความสะอาดตรงส่วนเว้านั้น ทำให้กล้องบันทึกแล้วมันไม่ชัด
-
เห็นด้วยว่า ที่ปัดน้ำในแบบ fd มันประสิทธิ์ภาพดีกว่าครับ ส่วนตัวผมก็ชอบแบบนั้น รู้สึกมันสมมาตรดี
แต่ที่ทำไม่ได้แบบนั้นเพราะมันเป็นเรื่องของ ความสูงกระจกครับ คือยิ่งกระจากมีความสูง (วัดตามแนวระนาบเสาเอ)เท่าไหร่ยิ่งเหมาะกับใบปัดน้ำฝนไขว้แบบ fdครับ คือมันจะได้พื้นที่ในการปัดมากกว่า และเหลือพื้นที่ตรงกลางที่ปัดไม่ถึงน้อยกว่า ถ้ารถทั่วไป ทำแบบfd อาจไม่เห็นตรงกลางเลยแล้วจะกะลำบากครับ
เท่าที่สังเกตุดู รถที่กระจกสูงมากๆเช่นalphardบางรุ่น ก็จะใช้ใบปัดไขว้แบบนี้เช่นกัน
ตามรูปครับ (รูปอาจเบี้ยวเล็กน้อยครับ ถ้าลองใช้วงเวียนทำดูมันจะชัดเจนขึ้น)
แบบนี้นี่เอง ขอบคุณมากครับ หายสงสัยเลยครับหลังจากข้องใจมานาน :)
-
เห็นด้วยว่า ที่ปัดน้ำในแบบ fd มันประสิทธิ์ภาพดีกว่าครับ ส่วนตัวผมก็ชอบแบบนั้น รู้สึกมันสมมาตรดี
แต่ที่ทำไม่ได้แบบนั้นเพราะมันเป็นเรื่องของ ความสูงกระจกครับ คือยิ่งกระจากมีความสูง (วัดตามแนวระนาบเสาเอ)เท่าไหร่ยิ่งเหมาะกับใบปัดน้ำฝนไขว้แบบ fdครับ คือมันจะได้พื้นที่ในการปัดมากกว่า และเหลือพื้นที่ตรงกลางที่ปัดไม่ถึงน้อยกว่า ถ้ารถทั่วไป ทำแบบfd อาจไม่เห็นตรงกลางเลยแล้วจะกะลำบากครับ
เท่าที่สังเกตุดู รถที่กระจกสูงมากๆเช่นalphardบางรุ่น ก็จะใช้ใบปัดไขว้แบบนี้เช่นกัน
ตามรูปครับ (รูปอาจเบี้ยวเล็กน้อยครับ ถ้าลองใช้วงเวียนทำดูมันจะชัดเจนขึ้น)
ชัดเจนมากครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :-X
-
ใช่ปัดแบบที่รถยุโรปชอบใช้รึเปล่าครับ
ก็เห็นใช้กันเยอะนะครับ ทั้งยุโรป อเมริกา มีแต่รถญี่ปุ่นนี่ละที่ไม่ใช้
-
ไม่แน่ใจ ผมเคยใช้แต่รุ่นที่มี 2 ใบ ทุกคันเลยในบ้าน
คำตอบไม่ช่วยอะไรเลย แล้วยังมาตอบ จริงๆ FD มันมีสองใบ สงสัยจะไปคิดเหมือนพวก benz ที่มีใบเดียวนะนี่ ลองไปหารูปดูนะครับ มันปัดเข้าหาตรงกลางครับ
-
เห็นด้วยว่า ที่ปัดน้ำในแบบ fd มันประสิทธิ์ภาพดีกว่าครับ ส่วนตัวผมก็ชอบแบบนั้น รู้สึกมันสมมาตรดี
แต่ที่ทำไม่ได้แบบนั้นเพราะมันเป็นเรื่องของ ความสูงกระจกครับ คือยิ่งกระจากมีความสูง (วัดตามแนวระนาบเสาเอ)เท่าไหร่ยิ่งเหมาะกับใบปัดน้ำฝนไขว้แบบ fdครับ คือมันจะได้พื้นที่ในการปัดมากกว่า และเหลือพื้นที่ตรงกลางที่ปัดไม่ถึงน้อยกว่า ถ้ารถทั่วไป ทำแบบfd อาจไม่เห็นตรงกลางเลยแล้วจะกะลำบากครับ
เท่าที่สังเกตุดู รถที่กระจกสูงมากๆเช่นalphardบางรุ่น ก็จะใช้ใบปัดไขว้แบบนี้เช่นกัน
ตามรูปครับ (รูปอาจเบี้ยวเล็กน้อยครับ ถ้าลองใช้วงเวียนทำดูมันจะชัดเจนขึ้น)
วิเคราะห์เก่งมากเลยครับ
เลยลองมองมุมกลับ ก็พบว่าถ้าเป็นกระจกสูงจริง ก้านปกติก็จะไม่เหมาะเหมือนกัน เพราะต้องทำให้ยาวมากๆ เพื่อที่จะ sweep ไปถึงด้านบน
-
ใบปัดน้ำฝนแบบนี้เหมาะสำหรับรถที่กระจกหน้าความกว้างน้อยแต่ความสูงเยอะน่ะแหละครับมันถึงจะปัดได้ทั่ว ถ้าสังเกตดีๆรถที่มีใบปัดน้ำฝนลักษณะนี้มักจะเป็น MPV ซะเป็นส่วนใหญ่ เช่น Space wagon รุ่นสุดท้าย,Odessy รุ่นแรกๆ,Zafira,Vito รถเก๋งมีใช้กันไม่เยอะเพราะส่วนมากกระจกหน้าจะกว้างมากกว่าสูง
-
โฟกัส MK3 อีกรุ่นครับ แต่ของโฟกัสใบปัดยาวมากมาย หาซื้อเฉพาะยางเปลี่ยนยากหน่อย แต่ก็พอหาได้ครับ ;D
-
ผมพึ่งทราบเลยครับว่ามีหลายรุ่นที่ใช้ปัดน้ำฝนแบบนี้
ส่วนตัวผมเคยเห็นแค่ fd กับ fb เองครับ
-
เคยใช้ w210 จะมีใบปัดก้านเดียว เวลาเจอฝนหนัก ปัดไม่ทันครับ สู้ toyota soluna ยังไม่ได้เลย
บางครั้ง ถึงต้องจอดเลยครับ
-
คิดถึง รถเมล์ ก่อนเลยไม่รุ้ทำไม
;D ;D
-
รถดัสสันคันเก่าของพ่อผมสมัยเด็กจำได้ว่าเป็นเหมือน FD ข้อเสียที่เจอคือถ้าทำงานไม่สัมพันกันมันจะปัดมาชนกันพอดีตอนขากลับ จะทำให้ใบปัดทั้งสองอันมันค้างต้องจอดรถแล้วเอามือดึงออกครับ
-
ชอบใบปัด ของ benz w124
-
โฟกัส MK3 อีกรุ่นครับ แต่ของโฟกัสใบปัดยาวมากมาย หาซื้อเฉพาะยางเปลี่ยนยากหน่อย แต่ก็พอหาได้ครับ ;D
Focus 2.0 ของศุนย์พันกว่าบาท ต้องใส่เอง เห้อ
-
ของFocus Mk3 ยาวมากครับ ขนาด 29 นิ้ว เท่ากันทั้งซ้ายและขวา(ยาวกว่าของMk2)
หาซื้อข้างนอกได้ยาก วันก่อนสอบถามร้านข้างทางที่เปลี่ยนเฉพาะยางใบปัด ยังไม่มียางยาวเท่านี้
ขนาดความยาวของใบปัดน้ำฝนรวมกับก้านที่ปัดน้ำฝนรถแต่ละข้างนั้น
..ราวๆ 3/4 ของความกว้างกระจกบังลมหน้าเลย
(ขอแนะนำให้ซื้อเก็บตอนมีโปร ที่ออกมาเป็นระยะๆ ครั้งหลังสุดที่เข้าไปเช็คระยะเห็นลูกค้าท่านอื่นเปลี่ยนคู่ละ800-ไม่แน่ใจมีโปร)
ส่วนประสิทธิภาพการปัดแบบนี้เวลาฝนตกหนัก เหมือนจะดีกว่าวิธีปัดน้ำฝนแบบเดิม(เทียบกับคันเก่าๆที่ใช้)
คงเป็นตามเหตุผลของความเห็นท่านข้างบน และอาจอีกผลหนึ่ง คือ กลไกวิธีการปัดกวาดน้ำ
แบบCivic FD ขณะปัดขึ้นบน ทั้งสองฝั่งกวาดน้ำแยกออกไปด้านข้างของแต่ละฝั่งจากกัน
ขณะที่วิธีปัดแบบเดิม ขณะปัดขึ้นบนใบปัดอันหนึี่งจะกวาดน้ำใส่ไปยังด้านใบปัดอีกอัน
แม้ความยาวของที่ปัดน้ำฝนแต่ละข้างยาวทับซ้อนกัน แต่ขณะปัดไม่จะเกิดการชนกัน เพราะมีโมดูลคอมฯควบคุมการทำงาน
ปกติของฝั่งหนึ่งจะอยู่อันบนเสมอ แม้ตอนล้างรถเกิดยกแล้ววางสลับกันเป็นอีกอันอยู่บนแทน (หรือวางตำแหน่งใดก็ตาม)
เมื่อเปิดสวิทช์เครื่องยนต์รถ ที่ปัดน้ำฝนจะปัดเองหนึ่งครั้งแล้วจัดลงให้เป็นตำแหน่งปกติ
-
อีกอย่างนึงที่สำคัญ คือที่ปัดน้ำฝนแบบ Fd ต้นทุนมันแพงกว่าครับ ออกแบบ link arm ยากกว่าด้วยครับ
เผลอๆ ต้องใช้ motor wiper 2 ตัว
(ปกติใช้ตัวเดียว อีกก้านใช้ link เป็นตัวหมุนครับ)
-
ของโฟกัสไงยังใช้อยู่ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับความสูงกระจกเท่าไหร่ เพราะเจ้าโฟกัสมันก็ไม่ได้สูงมาก ออกแนวลาดเอียงพอสมควร
น่าจะเป็นเรื่องของต้นทุนมากกว่า เพราะปัดไปทางเดียวกันใช้ Motor ตัวเดียวได้ ใช้คันชักคันโยกดึงเอาได้ การปรับ ตรวจจับตำแหน่งอะไรก็น่าจะทำได้ง่ายกว่า แต่ปัดแบบ 2 ฝั่งจะต้องใช้ motor 2 ตัว มีเรื่องสายไฟอะไรที่ต้องมี 2 ชุดอีก มันแพงกว่าในแง่ต้นทุน
ของโฟกัสใบปัดเป็นแบบ 2 ชั้น ซื้อร้านข้างทางก็พอมียาวถึง 29 นิ้ว เอามาใส่จริงเงียบกว่าใบปัดของศูนย์อีก ใบปัดของศูนย์ออกแนวจะแข็งแรงไปหน่อย ใบหนากว่า เปลี่ยนเฉพาะใบตอนใส่นี่ต้องเอาพวกสบู่เหลวหล่อลื่นนิดนึงไม่งั้นลำบากมาก
-
ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับความกว้างหรือความสูงของกระจกหรอก ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะสังเกต รถพ่วง รถสิบล้อ ทั้งกว้างทั้งสูง มันก็มีทั้งแบบปัดไขว้. กับแบบปัดไปทางเดียวกัน แต่มี3ก้านแหนะ มันอยู่การออกแบบ เรื่องต้นทุนมากกว่า. ส่วนตัวชอบแบบปัดไปทางเดียวกัน ไม่ชอบแบบปัดไขว้ ดูมึนๆ ลายตายังไงไม่รู้ ไขว้ไปไขว้มา มึน
-
ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับความกว้างหรือความสูงของกระจกหรอก ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะสังเกต รถพ่วง รถสิบล้อ ทั้งกว้างทั้งสูง มันก็มีทั้งแบบปัดไขว้. กับแบบปัดไปทางเดียวกัน แต่มี3ก้านแหนะ มันอยู่การออกแบบ เรื่องต้นทุนมากกว่า. ส่วนตัวชอบแบบปัดไปทางเดียวกัน ไม่ชอบแบบปัดไขว้ ดูมึนๆ ลายตายังไงไม่รู้ ไขว้ไปไขว้มา มึน
เกี่ยวสิครับ ทำไมจะไม่เกี่ยวรถพ่วง,รถบรรทุกถ้าเป็นแบบปัดไขว้กระจกหน้าจะแคบกว่าแบบปัดไปทางเดียวกัน ส่วนแบบปัดไปทางเดียวกันก็มีทั้งแบบ2ใบและ3ใบเช่นกัน ขึ้นกับการออกแบบของยี่ห้อนั้นๆ
-
โฟกัส MK3 อีกรุ่นครับ แต่ของโฟกัสใบปัดยาวมากมาย หาซื้อเฉพาะยางเปลี่ยนยากหน่อย แต่ก็พอหาได้ครับ ;D
Focus 2.0 ของศุนย์พันกว่าบาท ต้องใส่เอง เห้อ
ถ้าจะเปลี่ยนเอง Focus Mk3 ให้กดก้านสวิทช์ทีเลือกปรับที่ปัดน้ำฝน ไปยังตำแหน่งservice
(แก้ไข***) วิธีทำโดย หลังจากกดปุ่มปิดสวิทช์start/stopเครื่องยนต์ภายใน3วินาที ให้กดที่ตำแหน่งปัดหนึ่งครั้ง(กดลงล่างสุด)กดค้างไว้
ก้านที่ปัดน้ำฝนทั้งสองฝั่งจะเคลื่อนมา เสมือนยืนตั้งตรง ชิดขอบด้านข้างของกระจกหน้าเองเลยครับ เปลี่ยนใบปัดสะดวกสบาย
เปลี่ยนเสร็จ กดปุ่มstart ก้านใบปัดน้ำฝนก็จะเลื่อนลงสู่สภาพปกติ
-
ของโฟกัสไงยังใช้อยู่ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับความสูงกระจกเท่าไหร่ เพราะเจ้าโฟกัสมันก็ไม่ได้สูงมาก ออกแนวลาดเอียงพอสมควร
น่าจะเป็นเรื่องของต้นทุนมากกว่า เพราะปัดไปทางเดียวกันใช้ Motor ตัวเดียวได้ ใช้คันชักคันโยกดึงเอาได้ การปรับ ตรวจจับตำแหน่งอะไรก็น่าจะทำได้ง่ายกว่า แต่ปัดแบบ 2 ฝั่งจะต้องใช้ motor 2 ตัว มีเรื่องสายไฟอะไรที่ต้องมี 2 ชุดอีก มันแพงกว่าในแง่ต้นทุน
ของโฟกัสใบปัดเป็นแบบ 2 ชั้น ซื้อร้านข้างทางก็พอมียาวถึง 29 นิ้ว เอามาใส่จริงเงียบกว่าใบปัดของศูนย์อีก ใบปัดของศูนย์ออกแนวจะแข็งแรงไปหน่อย ใบหนากว่า เปลี่ยนเฉพาะใบตอนใส่นี่ต้องเอาพวกสบู่เหลวหล่อลื่นนิดนึงไม่งั้นลำบากมาก
น่าจะหลายตังค์เอาเรื่องอยู่ครับ ใช้มอเตอร์สองตัวที่มีชุดอิเลคโทรนิกส์อยู่ภายใน
มีปลั๊กต่อควบคุมการทำงานโดยโมดูลBCM (Body control module บางที่เรียก GEM)
ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์ตัวใหม่ ต้องต่อคอมฯของศูนย์ฯรีเซ็ทใหม่ครับ
และมอเตอร์ซ้าย/ขวา สลับแทนกันไม่ได้ครับ
-
เข้าใจผิดคิดว่าหมายถึงใบเดียวตรงกลางครับ
(http://s.hswstatic.com/gif/wiper-coverage.gif)
ขอบคุณสำหรับภาพประกอบ ได้รู้จักชนิดต่างๆครับ
-
โฟกัส MK3 อีกรุ่นครับ แต่ของโฟกัสใบปัดยาวมากมาย หาซื้อเฉพาะยางเปลี่ยนยากหน่อย แต่ก็พอหาได้ครับ ;D
Focus 2.0 ของศุนย์พันกว่าบาท ต้องใส่เอง เห้อ
หมายถึงเฉพาะยางใบปัด ไม่ใช่ใบปัดทั้งใบ
-
ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับความกว้างหรือความสูงของกระจกหรอก ไม่เกี่ยวกันเลย เพราะสังเกต รถพ่วง รถสิบล้อ ทั้งกว้างทั้งสูง มันก็มีทั้งแบบปัดไขว้. กับแบบปัดไปทางเดียวกัน แต่มี3ก้านแหนะ มันอยู่การออกแบบ เรื่องต้นทุนมากกว่า. ส่วนตัวชอบแบบปัดไปทางเดียวกัน ไม่ชอบแบบปัดไขว้ ดูมึนๆ ลายตายังไงไม่รู้ ไขว้ไปไขว้มา มึน
เกี่ยวสิครับ ทำไมจะไม่เกี่ยวรถพ่วง,รถบรรทุกถ้าเป็นแบบปัดไขว้กระจกหน้าจะแคบกว่าแบบปัดไปทางเดียวกัน ส่วนแบบปัดไปทางเดียวกันก็มีทั้งแบบ2ใบและ3ใบเช่นกัน ขึ้นกับการออกแบบของยี่ห้อนั้นๆ
ผมถึงบอกว่ามันอยู่การออกแบบ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ size กระจกโดยตรง อยู่ที่ว่าจะออกแบบให้ใช้แบบไหน รถขนาดsize เดียวกัน ขนาดกระจกไม่ต่างกันมากสักเท่าไหร่หรอก บางรุ่นรุ่นเดียวกันแท้ๆ ยังใช้ทั้ง2แบบเลย ก่อนmodel change ใช้แบบนึง model change หรือ minor change ใช้อีกแบบนึง
-
คลิบแสดงภาพการปัดน้ำฝน ของที่ปัดทั้งสองระบบ โดยเจ้าของคลิปคนเดียวกัน
แบบ Oppose : Ford Focus
https://www.youtube.com/watch?v=_q7dGv-i9pw
แบบ Tandem : Chevrolet Cruze
https://www.youtube.com/watch?v=Vm2o8B3zvbA