ผู้เขียน หัวข้อ: รถคันไหนของท่านที่คิดว่า Perfect ที่สุดในเกือบทุกๆด้านครับ  (อ่าน 15984 ครั้ง)

ออฟไลน์ Red Bicycle

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 849
 :) แต่ละท่าน เคยมีรถยนต์คันไหน ที่ได้เคยครอบครอง

    แล้วรู้สึกว่ามันใช่   Perfect  เหมาะ เป๊ะ  ถูกใจ รู้สึกรัก ผูกพันธ์ เป็นความทรงจำที่ประทับใจ ที่สุดครับ

    ทั้ง  รูปร่าง ภายนอก ภายใน วัสดุที่ใช้ การขับขี่ ช่วงล่าง ประโยชน์ใช้สอย ความภูมิใจที่ครอบครอง
    ความประหยัดน้ำมัน  ระบบความปลอดภัย Options  ความถูกใจของคนในบ้าน ครับ
    รวมทั้งอาลัยอาวรณ์มากเมื่อต้องพลัดพรากจากกันไป

 :) และขออีกข้อครับ และมีรถคันไหนที่ซื้อมาแล้ว คนที่บ้านบ่นมากที่สุดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2015, 16:02:56 โดย Red Bicycle »

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
สองคันนี้ครับ สะดวก รวดเร็ว ไม่ติด ส่งถึงในตัวอาคารที่หมาย แอร์เย็น ปลอดภัย ราคาถูก มีคนขับให้ ไม่ต้องหาที่จอด ไม่ต้องกลัวหาย ไม่ต้องดูแลรักษาเอง เสียก็มีคนซ่อมให้ อะไหล่ไม่ต้องหา

ข้อเสีย เบียดมากกก คนแน่น ใครๆก็อยากใช้ หลับนานไม่ได้ เด๋วเลยที่หมาย

ถ้าเป็นคันที่วิ่งบนถนนแล้วน่าจะตอบโจทย์ให้ถึงกับรู้สึกว่า Perfect นี่ยังไม่เจอครับ อาจจะมีขายแต่ไม่มีปัญญาซื้อและไม่คิดจะครอบครอง ส่วนตัวขอแค่รถที่ใช้แล้วสบายใจสบายกายพอแล้วไม่ต้องเลิศ

คันที่โดนบ่นมากที่สุด Mazda 323 ครับ อะไหล่แพง ปัญหาจุกจิกกวนใจ ราคาขายต่อแย่ พอเก่าแล้วเครื่องสั่นมากแบบเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรคติดไฟแดงตลอดทาง 3 โลจากที่ทำงานถึงบ้านแล้วลงจากรถขาชาเดินไม่ได้ เบรคแย่ เลยกลายเป็นที่บ้านสั่งห้ามยุ่งกับ Mazda ถาวรครับ ตอนนี้คบจ้าวตลาดทั้ง T และ H ครับ และมี N อีกคันที่ไม่ใช่จ้าวตลาด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2015, 12:20:07 โดย Nonlamer »

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,449
    • อีเมล์
ไม่เคยขับ อ่านแต่ตัวหนังสือ น่าจะเป็นรถ plug in hybrid ทางฝั่งยุโรป เรียบ หรู ประหยัด แรง ครบเลย

แก้ไขเพิ่มเติม* ถ้าเป็นรถของตัวเองคงต้องแบ่งเป็นช่วงเวลานั้นๆ
2003 เป็น accord v6 g7 เพราะแรง ขับทางไกลมัน
2015 เป็น w205 c300amg แรงประหยัด มีหลังคาแก้ว เครื่องเสียงดี ไฟหน้าฉลาด ก็ถือว่า perfect มากๆ เพราะถือว่าครบกับความต้องการของผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2015, 13:40:32 โดย DriveOnly »

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
สำหรับผมก็มีสองคันครับ ใช้อยู่ปัจจุบันนี้แร่ะ
คันแรก suzuki new grand vitara ( ไม่ค่อยจะมีคนใช้กันเท่าไหร่ 555 )
คันนี้ที่ซื้อมาใช้เพราะจำเป็นต้องเข้าป่าไปบ้านญาติภรรยาครับ รถเก๋งเข้าไม่ได้ท้องติดครับ
ก่อนตัดสินใจเลือกเจ้านี่ก็หาข้อมูลเยอะและทดลองขับ suv มาทุกยี่ห้อ มาถูกใจเพราะการทรงตัวมีนดีมาก ๆ
ช่วงล่างออกจะกระด้างไปหน่อยแต่มันก็ถึก และทน  รูปลักษณ์โดนใจครับ ภายในก็หรู เรียบ ๆ ดี ถูกใจทั้งผมและภรรยามาก ๆ
โดยเฉพาะภรรยาแรก ๆ เค้าไม่ชอบนะ แต่พอให้เค้าไปทดลองขับ เค้าชอบมากครับ แล้วมันก็ตอบสนองการใช้งานได้สมใจจริง ๆ  ราคาก็รับได้ครับ มันไม่แพงด้วย

อีกคันก็ freed ครับ จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจเลือก freed เลย คิดว่าจะหารถเล็ก ๆ eco car มาใช้แทน city
แต่ eco car ก็ไม่ถูกใจภรรยา ไปลองขับ brio ครับ ลองเสร็จภรรยาจอง freed 
ก็เป็นรถที่ถูกใจมากเช่นกัน ถึงจะอืดบ้าง แต่เราก็ไม่ได้ต้องการรถแรง ๆ ครับ ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือภายในห้องโดยสาร
เดินทางไกลแล้วรู้สึกสบาย อบอุ่นดีครับ 

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
มี 3 ช่วงชีวิต

ช่วงเรียน ใช้รถแม่ แต่เป็นรถที่เลือกให้แม่ - CIVIC EF ครับ ชอบที่สุดใน 3 โลก สวย และขับดีมาก ทำให้ไม่ปันใจจาก honda เลยเป็นสิบปี คันนี้วิ่งน้อย แต่ตอนนั้น ดูแลรถไม่เป็น ไปเช็คแล้วมันเริ่มเป็นสนิมด้านหลัง เลยปล่อยไป เสียดายที่สุด ชอบมากที่สุด

ช่วงทำงานมาเกือบ 10 ปี - ACCORD G7 ครับ ไฝ่ฝันแต่เด็ก ชอบ accord แต่รถล้านกว่า เริ่มทำงานเงินเดือน 9000 ฝันยังไม่กล้า แต่ทำงานไป เริ่มดีขึ้น วันที่ต้องซื้อรถใหม่ ไม่ลังเลจิ้มที่ accord จำได้วันที่รับรถ ขึ้นไปนั่ง น้ำตาจะไหล "เราทำสำเร็จแล้วนะ" เป็นเจ้าของ accord แล้ว นั่งลูบพวงมาลัยเกือบ 5 นาที เซลส์งง ตอนขับกลับบ้าน รู้สึกเลย ภูมิใจที่สุด แล้วยังขับดีมากๆ รักเลย

คันล่าสุด ทำงานมา 20 ปี - BMW F30 320i  BM เป็นยี่ห้อในใจมาตลอด ตอนที่แม่ยอมซื้อเป็นรถแม่ E34 แทบกรี๊ด ได้ขับน้อยมาก แต่รู้สึกใช่ทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย แต่รถเกือบ 3 ล้าน คิดยังไงก็ไม่คิดว่าจะไหว จนวันนี้ สามารถซื้อได้ เป็นรถคันแรกที่ขับแบบไม่ทำอะไรเลย มานาน 2 ปี เพราะทุกอย่างลงตัวหมด ไม่ต้อง upgrade ใดๆ ก็สามารถไปถึง 180 สบายๆ แน่นอน ภูมิใจมากกว่าที่เราสามารถเป็นเจ้าของมันได้ คนรอบข้าง ครอบครัว ก็ชอบคันนี้ที่สุด ที่สำคัญ ที่บ้านภูมิใจไปกับเราด้วย เพราะทุกคนรู้ว่า ผมชอบ BMW มากแค่ไหน คันนี้คงใช้ยาวละครับ
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,091
ณ ตอนนี้นะคะ  C220cdi W203 ของคุณแม่ค่ะ

เป็นความภูมิใจของคุณพ่อคุณแม่ เพราะเป็น Benz คันแรกในชีวิต
รูปร่างยังดูสวยจนถึงทุกวันนี้ ส่วนตัวเรามองว่าดูคลาสสิคกว่า W204 ค่ะ

เครื่องยนต์อาจจะอืดช่วงต้น แต่ถ้ากดก็มา เคยเหยียบ 180 อยู่หลายครั้ง
แถมยังไม่ค่อยจุกจิกอีก ถ้าเทียบกับ Benz อีกคันที่เข้าศูนย์เป็นว่าเล่น

ปกติที่บ้านเราจะเปลี่ยนรถทุกสิบปี แต่คันนี้ เราขอคุณแม่ว่า
เมื่อถึงเวลาเปลี่ยน เราขอรถคันนี้นะ อย่าขาย
เราจะเอาไปทำข้างในใหม่ เก็บงานด้านนอกนิดนึง ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เก็บรถไว้เป็นความทรงจำค่ะ
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ boykung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
  • ตอนเด็กๆ โคตรอยากเป็นจีบันเลย
Mitsubishi Spacewagon ครับ

เป็นรถที่ปัจจุบันก็ยังดูสวยอยู่เลยทั้งๆที่ผ่านมา 12ปีแล้ว

ประโยชน์ใช้สอยภายในไร้ที่ติ ยังหารถมาแทนไม่ได้จนถึงปัจจุบัน

เครื่อง เกียร์ ธรรมดา ไม่ได้ดีเด่ แต่ก็ถือว่าเหลือๆ ช่วงล่างแค่เปลี่ยน Kayaba SR + H&R ก็จบลงตัว

กินน้ำมันรับได้กับขนาดตัวรถ ทางไกลได้ 10+โล/ลิตรให้เห็นที่ความเร็ว 140 ในเมืองก็ 6-9โล/ลิตร

ถึงขายไปแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่นะ
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,056
ปกติแล้วผมจะชอบแต่รถแปลกๆไม่ค่อยเป็นรถตลาด แต่มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ต้องเดินทางที่"ปลอดภัย" เล่นมากไม่ได้ เลยต้องใช้รถตลาด ซึ่งกลายเป็นรถคันที่ชอบมากที่สุดคันหนึ่งเลย ... คันนั้นคือ accord g7 (ซึ่ง upgrade ช่วงล่างและเบรคไปพอควร) เป็นรถที่ดีมาก ไม่จุกจิก ฟีลที่พวงมาลัย ที่ก้นเวลาเข้าโค้ง เบรคที่ดูดเท้า (น่าจะเป็นผลของจาน 300 + ebc yellowstuff) กว้างขวางนั่งสบายแต่คล่องตัว เสียดายอย่างเดียวว่าน่าจะเล่นตัว 3.0 เพราะตัว 2.4 ไม่"สะใจ" คาดว่าถ้าซื้อตัว 3.0 คงไม่ขายออกไปง่ายๆแน่

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,553
Re:
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 15, 2015, 13:32:10 »
ไม่มี

-คันแรกกินน้ำมัน ช่วงล่างย้วย พวงมาลัยทื่อๆ ขับแล้วเสียว
-คันที่สองระบบไฟฟ้ารวนสารพัด ปั๊มน้ำ2ปีมีปั๊มน้ำใหม่3ตัว ช่วงล่างไปไวมาก
-คันที่สามซ่อมบ่อย ฯลฯ
-คันล่าสุดเกียร์พัง เมื่อเดือนที่แล้ว ฯลฯ

อยากเจอเนื้อคู่เหมือนกัน ไม่รู้เมื่อไร

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
.
.
.
ผมก็ชอบ CLA 250 ที่ใช้อยู่ตอนนี้สุดตั้งแต่เคยใช้มาครับ

ผมชอบ MB มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วตอนเด็กชอบวาดรูปรถตลอด
วาดแต่ MB นี่แหละ แล้วรูปที่เคยวาดไว้เมื่อ ตอนเด็กๆหน้าตามันเหมือน CLA มากครับ
ขนาดแม่ผมยังบอกเลยว่าเหมือนรูปที่ผมวาด

แล้วมันมีทุกอย่างเหมือนที่อยากได้ อย่างที่เมื่อก่อน MB ไม่เคยทำให้มาก่อน
อย่างเช่น เป็นรถเล็ก ที่เครื่องแรงประมาณนึง กระจกประตูเฟรมเลส
มีพาโนรามิครูฟ ไฟท้ายสวย เบาะนั่งแบบที่อยากได้เลย (ตอนเด็กๆผมชอบเบาะพรีลูดมาก)
โดยรวมมันเป็นเหมือนรถในฝันตอนเด็กๆเลย ได้มาขับก็โอเคเลยครับ  :-X

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
รถที่ชอบมีหลายรุ่นแตกต่างกันไปในข้อดี

รถที่ไม่ชอบที่สุด Toyota Commuter รถบ้าอะไรกระโดดเป็นม้า นั่งแถวหลังนี่หลับไม่ลง ตกหลุมทีหัวเด้งไปชนหลังคา ใครได้ขับรถคันนี้จะมีอารมณ์พลุกพล่าน ร้อยละ70ชอบจี้ตูดชาวบ้าน ปาดไปมาซ้ายขวา สียอดฮิตคือรถคันนี้ คือขาวและเทา

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
Subaru 1800 GFT-5 Coupe
ไฟเหลี่ยม โฉมสวย 5 เกียร์ กระจกไร้ขอบ เรือนไมล์อลังการ อั้นที่ 180 ยางอะไหล่บนหัวเครื่อง
กะทะเหล็กขอบ 13 ยาง 175/65 เบอร์เดียวกับ Taxi สมัยนั้น
เครื่อง boxer ตุ๊บตับๆ อัตราทดเกียร์ห่าง เกียร์ 4 ลากสุดเกือบ 180 ลง 5 มีแตะสอง
ใส่ไม่กลัวรุ่น ทั้งที่ยางเกรดแค่ S ไม่ใช่ V สูงสุดเท่าที่มีในตอนนั้น
อยู่ด้วยกันนานมาก ไม่เคยจุกจิก แม้ว่าจะไล่กัดเขาไปทั่ว แน่ๆ E-car 1.5EFI มีโดน
ใช้แบบโหดๆ จนถึง แสนหก จึงปลดประจำการ สุดยอดจริงๆ Fuji Heavy Industry

Isuzu TFR 2.5 90HP มังกรทอง
หน้าสวย เบรคดี ราคาตอนนั้น 315,000 บ. เครื่องดังแต่ทนโคตร เดิมๆ วิ่งได้แค่ 140
จับยัด Turbo Z ร้านดังแถวรามอินทรา ไม่มี inter ทำปั้มหน่อย ท่อตรงออกหน้าเพลา 2.2"
ล้อแท้ Lorinser RSK2 17 ยาง Yoko AVS 225/45-17 ช็อคอัพ Monroe กระบอกเหลือง
นิ่มหนึบๆ วิ่งทะลุเกจ์ ยันหมุด (เกจ์มีแค่ 180 รอบเครื่อง 4300-4400 รอบ!!)
นี่ก็อยู่กันถึงประมาณเกือบ สองแสน จึงปลดระวาง ขาดทุนไป 50,000 บ.!!

Opel Omega Van B 2.0
ออกมารุ่นเดียวกับ volvo 850van แต่ที่เลือกตัวนี้ เพราะ โฉมสวย และขับหลัง
เกาะถนนสุดๆ เหนือกว่า C W202 ที่ใช้ ภายในกว้าง เบรคดี เครื่องยนต์เยี่ยม แม้ว่าจะอืดไปหน่อย
ตาม style เครื่องเล็ก (2.0L) แต่ นน.ตัวเยอะ (น่าจะ 2.4ตัน) อัตราทดเฟืองท้ายต่ำ
วิ่งลอยตัวแล้วประหยัด น้ำมันมาก วิ่ง 140 กม./ชม. จะอยู่ประมาณ 13-14 กม./ลิตร รอบเครื่องต่ำ
ประมาณสองพันปลาย  ทางตรงต้องให้ชาวบ้านเขาไปก่อน ในโค้งแล้วเจอกัน ชอบมากช่วง ลำปาง-เชียงใหม่,
เชียงใหม่-เชียงราย  ล้อเดิมติดรถให้มาดีทีเดียว Ronell นน.เบา แต่แข็งแรง
คือ ตัวรถดีทุกอย่าง เสียเรื่องศูนย์ กับ รออะไหล่พระนคร
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ผมไม่มีรถที่ Perfect ในทุกด้าน มีแต่รถที่เราใช้แล้วรู้สึกว่ามันมีจุดที่ผมชอบ และถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผล
มันก็จะเป็นในเรื่องของความผูกพันธ์ ซึ่งไม่สามารถใช้เหตุผลในการสนับสนุนได้ ..คำว่า Perfect
แปลว่าไร้ที่ติ และนิสัยของผมมันทำให้ผมต้องหาจุดติรถให้เจอให้ได้เสมอ ดังนั้นจึงไม่มีคำว่า Perfect
มีแต่ Perfectly-fit คือลงตัวกับเรา..แต่ไม่ใช่ว่าไร้ที่ติ



อย่างคันนี้ เป็นรถคันแรกที่อยู่ใต้ความดูแลของผมโดยพ่อผมมอบต่อมาให้ รถเป็นรถฑูตสวมป้ายฟ้า อ02-0151
พ่อเอามาในปี 1989 รถมาถึงเมืองไทยเดือนธันวาคมปี 89 วันขึ้นทะเบียนป้ายคือ 19 ธันวาคม 1989
รถคันนี้กลายเป็นแม่พิมพ์ในการสร้างประสบการณ์ด้านรถยนต์ให้กับผมหลายอย่าง เช่นเรื่องช่วงล่างซึ่ง
รถหนัก 1.37 ตันคันนี้สามารถทรงตัวได้ดีแม้ใช้ความเร็วสูงๆ W124 ที่ใช้ 6 สูบแค็มเดี่ยวให้เสียงที่เพราะ
พอประมาณ แรงพอประมาณ และน้ำหนักตกหน้าก็จะเบากว่าพวก 6 เรียงทวินแค็มใหม่ๆอยู่ 60 ก.ก.

ดูในรูป กระจกมุมขวาบน จะเห็นสติกเกอร์พันทิพโต๊ะรัชดา ใช่เลย ผมเล่นเว็บรถครั้งแรกก็ตอนใช้คันนี้อยู่
สิงสู่อยู่รัชดาในชื่อ V.Putin ตั้งแต่ยุคที่ยังมีมีตติ้งพวกชาวรัชดา มีสมาชิกอย่างคุณ Azzy อัศวิน อานามนารถ
ที่ตอนนี้เล่นกับงานออกแบบรถจนประสบความสำเร็จไปแล้ว, มีคุณ Junky Celica, คุณ noklek ขับ NV
คุณ n_nupy สุดสวย, คุณ pk126 ที่ตอบเรื่องเบนซ์สั้นๆห้วนๆแต่ก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน, คุณเสือย้อย
, คุณ hiter, คุณ Pom_Gambino, พี่เอ้อ และอื่นๆอีกหลายคนในยุคที่พันทิพยังทะเลาะกันน้อยกว่า
บอร์ดเว็บเราตอนนี้เสียอีก

นอกเรื่องแล้ววุ้ย

พ่อให้ผมใช้คันนี้เพราะสมัยนักศึกษาผมเรียนที่ MUIC แล้วพ่อมองว่าที่นั่นมีแต่ลูกคนรวย เขาก็อยากให้ใช้
รถที่ขับไปเรียนแล้วไม่ฟู่ฟ่าเกินแต่ก็ไม่น้อยหน้าใคร ดังนั้นถ้าความผูกพันธ์มันวัดตามกิโล W124 คันนี้คือ
รถที่ผมผูกพันธ์มากที่สุด เพราะขับไปกว่า 200,000 กิโลเมตรในรถคันนี้ คันอื่นๆที่ตามมายังไม่มีใครเทียบ

รถช่วงล่างดี ขับทางไกลไม่เหนื่อย แต่ขับบนเขาจะไม่สนุกเลยเพราะเกียร์มันโง่ตามเทคโนโลยี ต้องเล่น
เกียร์ช่วยประจำ จีบสาวมหาลัยคนแรกก็พานั่งรถคันนี้ อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งแรกก็รถคันนี้ แถมยังไปทำ
อะไรเกรียนๆไว้ที่มหาลัยเยอะมาก เอาไปซิ่ง ไปดริฟท์เล่นจนเกือบมิดหน้าหอพยาบาล เดือดร้อนจน
ทางมหาลัยต้องทำลูกระนาดเพิ่ม 3-4 เท่าตัว (ดังนั้นเวลาพวกคุณรุมด่าพวกนักซิ่งเกรียนๆ บางทีผมก็ไม่อยาก
ไปผสมวงด่าด้วย เพราะด่าแล้วก็เข้าตัว) เมาแล้วขับครั้งแรกก็รถคันนี้ ตั้งแต่วันก่อนเข้าเรียน ผมไปเมากับเพื่อน
ที่ RCA แล้วขับรถกลับมานอนคอนโดธูป 3 ดอกที่ท้ายมหาลัย ไม่มีใครท้วงเลยแต่ผมอัด 220-230 ตลอดทาง
และเกือบหลุดโค้งด้วย นั่นคือจุดที่ทำให้ผมเลิกขับเวลาเมาอย่างเด็ดขาด

รถคันนี้หลายอย่างรื้อง่ายมาก (ยกเว้นตู้แอร์ที่ผมไม่ขอยุ่ง) สายไมล์เสื่อม เข็มความเร็วกระตุก ก็เปลี่ยนเองที่บ้านได้
หลอดไฟดวงไหนขาด เปิดเปลี่ยนได้เองเกือบทุกหลอด ไม่ต้องมานั่งถอดแง้มกันชนเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟแบบ
รถสมัยนี้ ตั้งไฟหน้าเอง เปลี่ยนนู่นนี่เอง ..คือวันที่รถมาอยู่กับผมมันก็อายุ 11 ปีแล้ว สิ่งต่างๆก็จะพัง บางทีวิ่งๆไป
ก็ดับเองเฉยเลย บางช่วงเจอบ่อยมากจนไม่กลัวรถดับ (ผมถึงกล้าเขียนในบทความเรื่องคันเร่งว่า คันเร่งค้างอย่าดับเครื่อง)
บางทีจู่ๆสตาร์ท ก็ไม่ติด ปรากฏว่าเป็นรูกุญแจเสื่อม บางทีแอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง ..แต่บางปัญหาก็ทำให้รู้ข้อดีของมัน
คือเคยเป็นรถขับนำขบวนรับน้องตอนปี 3 แล้วระหว่างทางพัดลมไฟฟ้าเกิดเสีย ทำให้ผมรู้ว่าเครื่องขับหลังมีพัดลมเครื่อง
แบบโบราณมันมีดียังไง ต่อให้พัดลมไฟฟ้าสองตัวเสียไป แต่พัดลมเครื่องยังอยู่ มันก็พอให้ผมสามารถวิ่งไปถึงปากช่อง
และกลับมากรุงเทพได้ เปิดแอร์วิ่งได้ ความร้อนไม่ขึ้น มีแค่ตอนรถติดอยู่กับที่เท่านั้นแหละที่ต้องปิดแอร์หรือดับเครื่อง



นอกจากนี้โรคชอบภายในสีครีมของผม มันก็มาจากรถคันนี้ด้วยส่วนหนึ่ง พอผมเกิดมาบนโลก รถคันแรกที่นั่งกลับบ้าน
ก็คือ 300D W123 ภายในสีครีม คันต่อมาก็ 190E ที่เป็นรถฑูตพวงมาลัยขวาล็อตแรกๆ ภายในสีครีม คัน W124
นี่ก็สีครีมอีก ผมเลยชอบรถที่ภายในโทนแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนแก่ สีภายในที่ผมชอบที่สุดคือ แดชบอร์ดดำ พวงมาลัยดำ
แดชบอร์ดล่างกับเบาะสีครีม ลายไม้Zebranoหรือ Walnut ที่เป็นสีน้ำตาลออกเข้ม ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ทุกวันนี้
เห็นรถใหม่ๆภายในดำๆแซมสีเงินหรือคาร์บอนปลอมแล้วผมจะออกอาการเบื่อ

ท้ายสุด ..ตอนนั้นผมทำงานแบงก์ เงินเดือนหมื่นห้าครับ
ไม่พอยาไส้ นับประสาอะไรกับการดูแลรถสองคัน ปัญหาในรถเบนซ์มันเริ่มพอกพูนตามอายุรถ
ค่าน้ำมันก็ไม่พอ เพราะ 6 สูบ KE-Jet นี่มันเจ๊ดสมชื่อ วิ่งในเมืองเจอ 6 โลลิตรได้เป็นปกติ
ทางไกลวิ่ง 120-130 เห็นแต่เลข 8 กับ 9 ผมเลยต้องเลือกว่าจะขายคันไหนไปสักคัน
ระหว่างเบนซ์กับรถสองประตูตาเหล่ขึ้นสนิมอีกคัน



กลายเป็นว่าไอ่เบื๊อกข้างบนนี่แหละครับได้อยู่ต่อ ผมขายเบนซ์ไปเดือน พ.ค. 2008
ได้เงินมา 250,000 บาท ก็เก็บเอาไว้ก่อน ช่วงนั้นผมก็หารถมาแทนที่เบนซ์ไป แต่ก็ใช้ NX สีน้ำเงินนั้น
ไปพลาง

ไอ้คันน้ำเงินนี่ ผมไม่มีอะไรจะชมมันจริงๆนอกจากแค่ว่ามันเป็นเกียร์ธรรมดา ทำให้ขับสนุก รถคันนี้พ่อซื้อให้คุณแม่
เป็นของขวัญวาเลนไทน์และของขวัญวันเกิด เพราะแม่เกิดหลังวาเลนไทน์ 2 วัน ซื้อมาก็ปี 1992 จดทะเบียนได้ป้ายขาว
วันที่ 4 มีนาคม 1992 ตอนแรกมาเป็นสีน้ำเงินไมก้าม่วงๆ สีเหมือนกับ Civic EG ที่ขายปีนั้นมาก ตอนแรกได้รถมา
ผมเห่อมาก ขึ้นไปนอนเล่นในรถจนลมแดดจับเป็นไข้ เปิดนู่นเปิดนี่เล่น ชอบดูหน้าปัดดิจิตอลของมัน ชีวิตในวัยเด็ก
ของผมจะอยู่กับมันมากกว่าเบนซ์ เพราะเบนซ์นั้นพ่อใช้ ส่วนแม่จะขับ NX ผมเรียนประถมที่สวนสุนันทา แม่ก็เป็นอาจารย์
อยู่ที่นั่นก็เลยไปและกลับกับแม่ประจำ แต่ตอนหลังๆแม่ชอบพาเพื่อนกลับบ้าน ทำให้ผมต้องไปนั่งหลัง..ซึ่งนรกมาก
ผมเลยยื่นคำขาดว่าถ้าจะใช้รถคันนี้ต่อ ห้ามพาเพื่อนกลับบ้าน พ่อเลยซื้อ Vento ให้แม่ไป ส่วน NX นั้นก็ส่งไปให้พี่สาวผม
ซึ่งเป็นแพทย์จุฬาจบปี 2539 ไปใช้ ไอ้หมอถูกส่งไปเป็นรอง ผอ. ที่โรงพยาบาลในอยุธยาบ้าง ที่อ.สามโก้ บ้าง
พ่อก็ให้ NX เกียร์ธรรมดานี่แหละไปใช้  จนยนตรกิจออกแคมเปญผ่อน 5 ปีดอก 0% ให้กับ Vento ในปี 97
พ่อเลยออก Vento อีกคันให้พี่สาว ส่วน NX จอดตากแดดกับกองซากต้นไม้ที่สนามหน้าบ้านเลยครับ ไม่มีใครอยากขับมัน
พ่อก็มีทั้งเบนซ์กับ Land Cruiser VX80 แล้ว ส่วนแม่เขาก็มี Vento อยู่แล้ว ไอ้เจ้านี่จอดเหมือนคนรอวันตาย หลังคาปูด
ฝาท้ายสนิมกิน บางครั้งจอดจนยางฟีบเลยก็มี

พอผมได้ใบขับขี่ แม่ยอมให้ขับรถได้ ผมขับเบนซ์อยู่สักพัก ก็มองๆไอ้เจ้านี่แล้วสงสาร เลยลองสตาร์ทแล้วหัดขับ
ช่วงแรกดับเกือบตลอด แต่ไม่กี่วันก็ชิน พอผมลากรอบได้ กะจังหวะคลัตช์และสับเกียร์เป็น ผมงี้แทบทิ้งเบนซ์เลยครับ
เพราะเบนซ์มันหนักแน่น นิ่ง แต่มันไม่สนุก ไอ้นี่ตีนต้นออกไวกว่า ช่วงล่างมันลอยๆ ต้องฝึกคุมมัน ผมเริ่มออมเงิน
สมัยเรียนนี่ยังไม่รับจ๊อบอะไรนะ พ่อให้ค่าน้ำมันเดือนละ 3,500 แม่ให้ค่าอาหารเดือนละ 3,000 มันก็จะออมอะไรไม่ได้มาก
ของแต่งชิ้นแรกที่ซื้อคือกรอง K&N จากนั้นก็เริ่มไปทำเฮดเดอร์ ทำท่อกับพี่ยงวัดด่าน พอเอาไปวิ่ง 188 แล้วหน้าทิ่ม
ก็มาคุยกับเพื่อน ซึ่งก็คือไอ้จอร์จที่ทำอู่ Gettuned อยู่ทุกวันนี้ ว่าจะทำยังไงบ้าง ไอ้จอร์จไปศึกษาเรื่อง Wiring มา
แล้วก็ถอด Apexi RSM รุ่นปุ่มกลมจากรถพี่ชายมัน แอบเอามาใส่ NX ผม แล้วเราก็วิ่งไปบนโทลล์เวย์ ทำความเร็วได้
204 ก.ม./ช.ม. แล้วก็นั่งวี๊ดว๊ายดีใจกันสองคนอยู่บนรถ รู้สึกเหมือนปีนเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ นี่คือความเกรียนของผม
เมื่อ 13 ปีก่อน

ปี 2004 เดือนกันยาผมวางเครื่องใหม่ แต่ด้วยความที่ยังเป็นนักศึกษา และพ่อให้ทุนในการวาง ผมเลยไม่เอาเทอร์โบ
วางเป็น SR20DE ธรรมดา ตอนแรกพ่อก็บ่นว่าจะไปวางมันทำไมให้เสีย 4-5 หมื่นบาท ผมก็ตัดพ้อพ่อไปว่า
ที่พี่สาวผมอยู่เฉยๆได้รถป้ายแดง 2 คัน (Vento และ Civic) แล้วทำไมแค่วางเครื่องรถผม 4-5 หมื่นถึงมีปัญหาจัง

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่พูดแบบนั้น แต่พ่อกลับคิดว่าผมพูดถูก และปล่อยเงินมาให้วาง ผมรู้สึกผิด
แต่เพิ่งมาได้โอกาสขอโทษพ่อตอนปี 2008 ..รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่พอวางเครื่องเสร็จ ผมเอามาให้พ่อขับ
ปรากฎว่าพ่อชอบมาก เบิ้ลๆเครื่องเล่น เอาไปขับเล่นในบางที พ่อบอกว่าเวลาตบคันเร่งแล้วมันทันใจดี NX เลยได้
อยู่ และอยู่จนกระทั่งเบนซ์ถูกขายไป ผมก็ใช้มันขับไปทำงานอยู่พักใหญ่ๆจนได้ Tiida มา

์NX นี่เป็นตัวอย่างของรถที่ผมผูกพันธ์ แต่ไม่มีเหตุผลดีๆในการผูกพันธ์มากไปกว่าความรู้สึก..ช่วงล่างเหรอ
ผมขับ EG 3 Door มาแล้ว ยังไง Honda ก็เกาะกว่าครับ ฟีลลิ่งพวงมาลัย Honda ก็ไวถนัดมือกว่า
ถ้ารุ่นน้องยุคใหม่ๆมา เวลาจะเล่น NX ผมจะถามก่อนว่าแน่ใจนะ ของแต่งน้อยมาก หายากชิบหาย แพงด้วย
มันถูกแค่ราคารถกับค่าช่วงล่าง ถ้างบมีพอเล่น Honda ดีกว่า ผมก็ยังยืนยันแบบนั้นอยู่ แต่ที่เล่น NX นี่
เพราะขายมันไม่ลงครับ ยิ่งพอประเคนเงินแต่งมัน ทำเครื่องมัน ลงไปน่าจะแสนกว่าๆแล้วตอนนี้แล้วพอมารู้ว่า
รถตัวเองขายได้แค่ 7-8หมื่นบาท มันช้ำใจครับ ผมเลยเก็บไว้ ไม่ขายต่อ เก็บจนกว่ามันจะวิ่งไม่ได้
ผมค่อยผ่าตัวถัง เอาอะไหล่แจกจ่ายให้กับคนอื่นที่ยังต้องขับ NX ต่อไป

ทุกวันนี้ ประเก็นมันแล่บอยู่ ผมรอช่างประจำตัวว่างตั้งแต่เดือนเมษาแล้วตอนนี้ยังไม่ได้ทำ ไม่ใช่ว่าช่างเขาลีลา
แต่ผมบอกว่าไม่รีบ ผมให้คิวคนอื่นที่ต้องทำรถไปแข่งจริงๆจังเขาได้ไปก่อน เดี๋ยวก็คงได้ทำ
คลัตช์ตอนนี้เป็นทองแดง ขับยากๆ โดดๆ ช่วงล่างแข็งๆดีดๆ พวงมาลัยมีระยะฟรี และไม่ไวนัก
เวลาวิ่ง 210 น่ากลัวเยี่ยวแตกยิ่งกว่าขับ AMG GT ที่ 270 แต่ผมตั้งใจทำให้ทุกอย่างมันดูยากๆ
เข้าใจยากๆแบบนั้น ผมมีรถสักคันไว้คอยเตือนให้รู้จักความยากของการขับรถด้วยฝีมือมากกว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์

เวลาผมอยากขับรถเล่นกลางคืน ผมไม่ขับคันอื่นนอกจาก NX นี่ล่ะ ผมตั้งใจทำให้เสียงท่อตอนกดเงียบ
และเสียงเครื่องดังกว่าท่อ ขับชิดกำแพงทางด่วนแล้วกดคันเร่งฟังเสียงเครื่องเล่นๆ แต่พอยุคนี้รถซิ่งถูกมอง
ว่าเป็นศัตรูสังคม ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจอดมันไว้บ้าน เครื่องก็พังอยู่แล้ว แกก็พักไปละกันวะไอ่เบื๊อก



สำหรับคำถามว่ารถคันไหนที่ซื้อมาแล้วที่บ้านบ่นมากที่สุด ก็คงเป็น Legacy Turbo คันนี้

ที่บ่น ไม่ใช่ว่ารถแย่ ผมพาทั้งพ่อทั้งแม่นั่ง ทุกคนชอบมันมากกว่า NX ทั้งนั้นเพราะภายในนั่งสบายน้อยกว่าเบนซ์ไม่มาก
ช่วงล่าง STi กระบอกแดงจาก GC พอมาใส่ BC5 คันนี้มันก็ไม่แข็งมากนัก แต่ที่พ่อกับแม่บ่นกันเพราะวันที่ซื้อมา
เดือนมิ.ย. 2010 นั้น ผมมี Tiida กับ NX อยู่แล้ว เลยโดนด่าว่าจะมีรถไปทำไมตั้ง 3 คัน และโดนบังคับให้ขาย
1 คันออกไป ผมก็ดื้อตาใสใช้มันอยู่ 19 เดือนจนขายออกไปให้คุณโจ้สุรชัย เพื่อนของเพื่อนในกลุ่ม Old Legacy

รถคันนี้สอนให้ผมรู้ว่า อย่าเหมารวมว่ารถญี่ปุ่นจะใช้สบายใช้ง่ายซ่อมถูกไปหมดเพราะถ้านับเวลาในการอยู่อู่ในระยะ 1 ปี
มันเข้าอู่บ่อยกว่าเบนซ์สมัยผมเรียนอีก และกินเงินค่าซ่อมไม่แพ้กันเลย รถคันนี้เป็นรถมือสอง สายไฟหลายจุดเสื่อม
ทำให้รถมีอาการผีเข้าผีออก บางทีกดคันเร่งแล้วถอนรถก็ดับเอง ไปเจอว่าสายไฟแถวหม้อน้ำมันเปื่อยและไปแตะกับตัวถัง
ทำให้ฟิวส์ขาด หรือบางทีวิ่งๆอยู่ ท่อน้ำใต้อินเตอร์รั่ว หรือบางทีรั่วจากท่อเหล็กที่เป็นสนิมกับตามด ผมอยู่กับมัน 19 เดือน
แต่เจอกับปัญหาน้ำรั่วแล้วโอเวอร์ฮีท 2 ครั้ง ซึ่งนับว่าบ่อยกว่าทุกคันที่เคยใช้มา สายไฟ Subaru ยังไม่ได้เป็นมิตร
แบบพวกสายไฟ Toyota/Nissan นะครับ รื้อออกมาทียังกับ moy+ผีเสื้อสมุทร จนป่านนี้เจ้าของคนใหม่ทำยังไม่จบเลยครับ

แต่ถ้าไม่นับเรื่องที่มันเสียบ่อยๆ ก็โอเค ผมรู้สึกชอบรถคันนี้เวลาซัดหนักๆแล้วมั่นใจดี ขนาดใส่ยาง Dunlop LM703
ยังขับได้มั่นใจระดับหนึ่ง พอเปลี่ยนเป็น Advan AD07 นี่ยิ่งทำอะไรห่ามๆได้สบายมาก วิ่งทางไกลความเร็วสูงๆ
บอกได้เลยว่านิ่งกว่าเบนซ์ เข้าโค้งออกโค้งก็คมและไว้ใจได้กว่า NX พวงมาลัยก็ไวในระดับที่เกือบดี วิ่งไฮเวย์เจ๋ง
วิ่งทางโค้งก็เจ๋ง ยิ่งพอใส่บุชประกบแร็คยูรีเธน ยิ่งถ่ายความรู้สึกมาถึงมือได้ดีมาก การเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็ถือว่าถูกจริตผมมาก
มันเป็นรถที่ทำให้ผมรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วเป็นคนชอบรถขับสี่เกียร์ธรรมดามีโบแบบนี้แหละ

เสียดายส่วนหนึ่งที่รถคันนี้มันมาตอนที่ผมคิดว่าตัวเองรวยแล้ว แต่ยังดันไม่รวยจริง กล่าวคือมีเงินเดือน 24,000-28,000 บาท
แต่อยากได้รถซิ่งขับสี่ ไปเห็น Legacy คันนี้ขายอยู่ 230,000 เลยไปต่อเหลือ 210,000 กู้สินเชื่อของธนาคารมา 190,000
แล้วที่เหลือก็เอาเงินเก็บโปะเอา พอได้รถมาก็ซื้อล้อก้าน V ทำท่อ ติดมิเตอร์ เปลี่ยนจากเกียร์ 3.9 เป็น 4.44 แค่นี้เงินเก็บก็หมดลง
ประกอบกับช่วงที่ได้มานั้นเป็นช่วงที่ NX ทำฝาสูบกับแคมใหม่ใส่กล่องเสร็จพอดี ผมแก้ปัญหาสภาพคล่องด้วยการใช้บัตร
กดเงินสดกับสินเชื่อต่างๆเข้าสู้

ท้ายสุด แม่ผมประกาศจะสร้างบ้านอีกหลังบนที่ดินข้างหลังบ้านเดิม ผมขัดขืนไม่ได้ จึงต้องเอารถมาจอดนอกบ้าน
แล้วก็มาเจอกับช่วงน้ำท่วม 2011 ที่ทำความเสียหายไว้กับบ้านผมมาก (Legacy รอดเพราะน้องเขยเอาไปจอดให้ที่ Lotus พระราม4)
พอผ่านน้ำท่วมเสร็จ ผมไม่มีอะไรเลยนอกจากหนี้สิน บ้านใหม่ที่สร้างก็มีแต่ห้องเปล่าๆ ไม่มีอย่างอื่นเลย ผมจึงตัดใจขายมันไป
ซื้อรถมา 210,000 และลงเงินทั้งซ่อมทั้งทำไปจนน่าจะมีราว 260,000 แต่ตอนขาย ผมขายได้แค่ 185,000 บาท
และถ้าไม่ขายชีวิตผมก็เดี้ยงแน่ๆ ก็เลยขายไป และภาระหนี้นับจากวันนั้นยังเป็นลูกโซ่มาถึงตอนนี้ ผมนั่งผ่อนกรรมเก่าอยู่
เดือนละ 15,000 บาททุกเดือนซึ่งน่าจะใช้หมดภายในปีหน้า

ถือว่าซวยด้วยตัวเองล้วนๆ แต่มันก็ทำให้ผมมีข้อคิดในใจ เวลาเจอพวกน้องๆปรึกษาเรื่องแต่งรถ ทำรถ ผมจะให้ความสำคัญ
กับการไม่เป็นหนี้เอามากๆ เพราะเจ็บด้วยตัวเองมาแล้ว


วันนี้เล่ายาว ต้องขอบคุณที่ตั้งกระทู้มาก

ผมเครียดหลายเรื่อง ไม่รู้จะระบายยังไง ก็เลยร่ายเพลินไปหน่อย ถ้ากินที่คนอื่นก็ขอโทษแล้วกันครับ แต่นั่งตอบคำถาม
ในเพจทุกวันมา 8 เดือนเจอแต่คำถามเดิมๆเรื่องเดิมๆเลยรู้สึกเก็บกด อยากพูดถึงสิ่งอื่นอย่างอื่นบ้าง













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2015, 14:58:24 โดย Commander Cheng »
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
525D F10 ครับ
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
อ่านหัวข้อแล้ว นึกถึง E46 318i M43TU ขึ้นมาเลยครับ

สวย
ดูแลง่าย ซ่อมเองได้
อะไหล่ไม่แพง
ติดแก๊ซทน
ช่วงล่างกำลังดี
ขับหลัง
แอร์เย็น
แอร์แบคครบ ๆ
ระบบไฟไม่โหดมาก
อัตราเร่งรับได้
อัตราสิ้นเปลืองดี
ตัวถังแข็งแรง

ถ้าไม่ติดเรื่องขับหน้ากับอัตราทดเกียร์อืดๆของ New Beetle 2.0 ผมจะยกให้มันเป็นที่หนึ่งในใจเลย

ออฟไลน์ time traveler

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
s280 w140,e class, acv 30, acv 40 hybrid, alphard 2th gen,ฺ BMW f25 ถ้าตอบแบบว่า เอาที่พี่(ผม)สะบายใจระกันอิอิ ตอบ acv 40 hybrid คร้าบ กลางๆหมดไปได้ทุกที ลุยน้ำพี่ยังไปได้เลย  อะไหล่ซ่อมยังไงก็สบายใจ  แต่ไม่เห็นจะซ่อมเลย อิอิ

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
มันคงอยู่ที่โจทนย์ของแต่ละคนด้วยครับว่ามันตอบได้ชัดมั้ย


โดยส่วนตัวขับรถมาเกือบยี่สิบปี ผ่านมายี่สิบคันพอดีที่ใช้ครอบครอง

ชอบที่สุดคือ Space wagon ตอบโจทย์ผมได้ดี

กว้าง ขนของได้ เยอะ สะดวก ขึ้นลงสบาย โล่ง
เครื่องไม่แรงขนาดไปแข่งกับใครแต่ก็ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยเวลาต้องการพลัง ช่วงล่างขับได้ถึงสองร้อยได้ไม่แย่
สามารถใช้ขับในเมืองได้ไปห้างไปโรงแรม รับแขกสนามบิน ขับไปเที่ยวได้ ทำกิจกรรมได้ ขี่จักรยาน พาหมาหาหมอ ซื้อเฟอนิเจอ ซื้อต้นไม้ ซื้ออ่าง ท่อร้อยสายไฟ ส่งของบริษัท
คือทำได้ทุกโจทย์ของชีวิตผมแบบครบถ้วยไม่เคยทำให้ผิดหวัง

ซ่อมง่าย ซ่อมบำรุงกลางๆถือว่าถูกเมื่อเทียบกับรถยุโรปในบ้าน ไม่จุกจิก มีแค่อุปกรณ์ภายใน เสื่อมเร็วก๊อกแก๊ก กินน้ำมันมากแต่รับได้ ทุกจุดของปัญหาแก้ได้เองง่ายๆไม่กลัวเสียพังที่ไหนและไม่เคยพังเลย

ขาดนิดเดียวถ้าจะดีกว่านี้คือถ้ามันยกสูงขึ้นอีกนิดเป็น ครอสโอเว่อ มันจะเฟอเฟคมาก
ตลอดเวลาที่ใช้รู้สึกมีความสุขในการใช้มันมาก จนขายไปยังได้ราคาดีขาดทุนน้อยที่สุดในบรรดารถที่ขายออกไปในบ้าน
ซื้อมาราคาถูกที่สุดแต่ขายไปได้ราคาสูงกว่ารถยุโรป คันอื่นๆอีกทั้งๆที่ใช้เยอะมากสุดๆ

เคยตั้งคำถามตัวเองว่าถ้าเลือกได้ให้มีรถคันนึงใช้ได้แค่คันเดียวตลอดชีวิตจะใช้รถอะไร

เท่าที่เป็นคำตอบในใจมาตลอดสิบปี ก็เป็นสเปซวากอนคันนี้
หรือถ้าจะให้ซื้อใหม่ในวันนี้ แล้วต้องใช้ไปอีกยี่สิบปี คงซื้อ ซูบารุเอาทแบค ครบทุกโจทย์ของชีวิต ทนซ่อมไหวในระยะยาวๆ ไม่กระเป๋าฉีกเหมือนรถยุโรป

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
Accord VTI-S (CBU) 1995 ครับ
ส่วนตัวเคยใช้ VTI-L (CKD) 1996 เกียร์ธรรมดา
รถทนมากเรียกได้ว่า 15++ ที่ผมใช้มา มีแอร์เสีย กับ พัดลมหม้อน้ำเสีย 2 อย่างเท่านั้น  ***(ปั้มABSเสียแน่นอนทุกคัน)***
ที่เหลือแค่เติมน้ำมัน แล้วขับอย่างเดียว
1.ใหญ่ นั้งสบายทั้งด้านหน้า ด้านหลัง
2.แข็ง เพราะชนไป 1 ครั้ง ตอนลงมาดู นึกว่าจะยุบมากกว่านี้(ดีกว่าคาด)
3.แรง คงเพราะเป็น 2.2 VTEC SOHC MT ช่วง 4000-6000 RPM ขับสนุกมาก ปลาย 215 ทุกอย่าง STD
4.ประหยัด 10 โลลิตร+แม้ขับในเมือง และวิ่งมากว่า  150,000 Km (ไมลขาด ไม่รู้จริงๆว่าวิ่งไปเท่าไหร่)

ผมขายไป เพราะราคามันหลักหมื่นแล้ว ถ้าเกิดมีอะไรเสียขึ้นมา คงไม่คุ้มค่าซ่อม

ปัจจุบันใช้ FD 2.0 แต่ยังคิดว่าสู้ไม่ได้ครับ ไม่มั่นใจเท่า Accord 1995 ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน  :-\

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,847
  • Let the SKYFALL
Accord Tech ตัวธรรมดาไม่ไฮบริด
สวยเรียบๆ ออพชั่นเยอะมาก เติมe85ได้ ขับง่ายคล่องตัว นั่งสบาย ซ่อมไม่แพงเมื่อเทียบกับรถยุโรป
สำหรับผมข้อเสียมีแค่ ปรับปรุงอัตราเร่งให้พอๆกับ Camry 2.5G
เก็บเสียงให้ดีขึ้นอีกนิด พวงมาลัยหนืดขึ้นที่ความเร็วสูงอีกหน่อย แค่นั้น
อันที่จริงเอาข้อดีของ D-Segment 3ยี่ห้อหลักในไทยมายำรวมกัน จะได้รถที่สมบูรณ์แบบเลย
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
ผมไม่มีรถที่ Perfect ในทุกด้าน มีแต่รถที่เราใช้แล้วรู้สึกว่ามันมีจุดที่ผมชอบ และถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผล
มันก็จะเป็นในเรื่องของความผูกพันธ์ ซึ่งไม่สามารถใช้เหตุผลในการสนับสนุนได้ ..คำว่า Perfect
แปลว่าไร้ที่ติ และนิสัยของผมมันทำให้ผมต้องหาจุดติรถให้เจอให้ได้เสมอ ดังนั้นจึงไม่มีคำว่า Perfect
มีแต่ Perfectly-fit คือลงตัวกับเรา..แต่ไม่ใช่ว่าไร้ที่ติ



อย่างคันนี้ เป็นรถคันแรกที่อยู่ใต้ความดูแลของผมโดยพ่อผมมอบต่อมาให้ รถเป็นรถฑูตสวมป้ายฟ้า อ02-0151
พ่อเอามาในปี 1989 รถมาถึงเมืองไทยเดือนธันวาคมปี 89 วันขึ้นทะเบียนป้ายคือ 19 ธันวาคม 1989
รถคันนี้กลายเป็นแม่พิมพ์ในการสร้างประสบการณ์ด้านรถยนต์ให้กับผมหลายอย่าง เช่นเรื่องช่วงล่างซึ่ง
รถหนัก 1.37 ตันคันนี้สามารถทรงตัวได้ดีแม้ใช้ความเร็วสูงๆ W124 ที่ใช้ 6 สูบแค็มเดี่ยวให้เสียงที่เพราะ
พอประมาณ แรงพอประมาณ และน้ำหนักตกหน้าก็จะเบากว่าพวก 6 เรียงทวินแค็มใหม่ๆอยู่ 60 ก.ก.

ดูในรูป กระจกมุมขวาบน จะเห็นสติกเกอร์พันทิพโต๊ะรัชดา ใช่เลย ผมเล่นเว็บรถครั้งแรกก็ตอนใช้คันนี้อยู่
สิงสู่อยู่รัชดาในชื่อ V.Putin ตั้งแต่ยุคที่ยังมีมีตติ้งพวกชาวรัชดา มีสมาชิกอย่างคุณ Azzy อัศวิน อานามนารถ
ที่ตอนนี้เล่นกับงานออกแบบรถจนประสบความสำเร็จไปแล้ว, มีคุณ Junky Celica, คุณ noklek ขับ NV
คุณ n_nupy สุดสวย, คุณ pk126 ที่ตอบเรื่องเบนซ์สั้นๆห้วนๆแต่ก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน, คุณเสือย้อย
, คุณ hiter, คุณ Pom_Gambino, พี่เอ้อ และอื่นๆอีกหลายคนในยุคที่พันทิพยังทะเลาะกันน้อยกว่า
บอร์ดเว็บเราตอนนี้เสียอีก

นอกเรื่องแล้ววุ้ย

พ่อให้ผมใช้คันนี้เพราะสมัยนักศึกษาผมเรียนที่ MUIC แล้วพ่อมองว่าที่นั่นมีแต่ลูกคนรวย เขาก็อยากให้ใช้
รถที่ขับไปเรียนแล้วไม่ฟู่ฟ่าเกินแต่ก็ไม่น้อยหน้าใคร ดังนั้นถ้าความผูกพันธ์มันวัดตามกิโล W124 คันนี้คือ
รถที่ผมผูกพันธ์มากที่สุด เพราะขับไปกว่า 200,000 กิโลเมตรในรถคันนี้ คันอื่นๆที่ตามมายังไม่มีใครเทียบ

รถช่วงล่างดี ขับทางไกลไม่เหนื่อย แต่ขับบนเขาจะไม่สนุกเลยเพราะเกียร์มันโง่ตามเทคโนโลยี ต้องเล่น
เกียร์ช่วยประจำ จีบสาวมหาลัยคนแรกก็พานั่งรถคันนี้ อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งแรกก็รถคันนี้ แถมยังไปทำ
อะไรเกรียนๆไว้ที่มหาลัยเยอะมาก เอาไปซิ่ง ไปดริฟท์เล่นจนเกือบมิดหน้าหอพยาบาล เดือดร้อนจน
ทางมหาลัยต้องทำลูกระนาดเพิ่ม 3-4 เท่าตัว (ดังนั้นเวลาพวกคุณรุมด่าพวกนักซิ่งเกรียนๆ บางทีผมก็ไม่อยาก
ไปผสมวงด่าด้วย เพราะด่าแล้วก็เข้าตัว) เมาแล้วขับครั้งแรกก็รถคันนี้ ตั้งแต่วันก่อนเข้าเรียน ผมไปเมากับเพื่อน
ที่ RCA แล้วขับรถกลับมานอนคอนโดธูป 3 ดอกที่ท้ายมหาลัย ไม่มีใครท้วงเลยแต่ผมอัด 220-230 ตลอดทาง
และเกือบหลุดโค้งด้วย นั่นคือจุดที่ทำให้ผมเลิกขับเวลาเมาอย่างเด็ดขาด

รถคันนี้หลายอย่างรื้อง่ายมาก (ยกเว้นตู้แอร์ที่ผมไม่ขอยุ่ง) สายไมล์เสื่อม เข็มความเร็วกระตุก ก็เปลี่ยนเองที่บ้านได้
หลอดไฟดวงไหนขาด เปิดเปลี่ยนได้เองเกือบทุกหลอด ไม่ต้องมานั่งถอดแง้มกันชนเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟแบบ
รถสมัยนี้ ตั้งไฟหน้าเอง เปลี่ยนนู่นนี่เอง ..คือวันที่รถมาอยู่กับผมมันก็อายุ 11 ปีแล้ว สิ่งต่างๆก็จะพัง บางทีวิ่งๆไป
ก็ดับเองเฉยเลย บางช่วงเจอบ่อยมากจนไม่กลัวรถดับ (ผมถึงกล้าเขียนในบทความเรื่องคันเร่งว่า คันเร่งค้างอย่าดับเครื่อง)
บางทีจู่ๆสตาร์ท ก็ไม่ติด ปรากฏว่าเป็นรูกุญแจเสื่อม บางทีแอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง ..แต่บางปัญหาก็ทำให้รู้ข้อดีของมัน
คือเคยเป็นรถขับนำขบวนรับน้องตอนปี 3 แล้วระหว่างทางพัดลมไฟฟ้าเกิดเสีย ทำให้ผมรู้ว่าเครื่องขับหลังมีพัดลมเครื่อง
แบบโบราณมันมีดียังไง ต่อให้พัดลมไฟฟ้าสองตัวเสียไป แต่พัดลมเครื่องยังอยู่ มันก็พอให้ผมสามารถวิ่งไปถึงปากช่อง
และกลับมากรุงเทพได้ เปิดแอร์วิ่งได้ ความร้อนไม่ขึ้น มีแค่ตอนรถติดอยู่กับที่เท่านั้นแหละที่ต้องปิดแอร์หรือดับเครื่อง



นอกจากนี้โรคชอบภายในสีครีมของผม มันก็มาจากรถคันนี้ด้วยส่วนหนึ่ง พอผมเกิดมาบนโลก รถคันแรกที่นั่งกลับบ้าน
ก็คือ 300D W123 ภายในสีครีม คันต่อมาก็ 190E ที่เป็นรถฑูตพวงมาลัยขวาล็อตแรกๆ ภายในสีครีม คัน W124
นี่ก็สีครีมอีก ผมเลยชอบรถที่ภายในโทนแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนแก่ สีภายในที่ผมชอบที่สุดคือ แดชบอร์ดดำ พวงมาลัยดำ
แดชบอร์ดล่างกับเบาะสีครีม ลายไม้Zebranoหรือ Walnut ที่เป็นสีน้ำตาลออกเข้ม ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ทุกวันนี้
เห็นรถใหม่ๆภายในดำๆแซมสีเงินหรือคาร์บอนปลอมแล้วผมจะออกอาการเบื่อ

ท้ายสุด ..ตอนนั้นผมทำงานแบงก์ เงินเดือนหมื่นห้าครับ
ไม่พอยาไส้ นับประสาอะไรกับการดูแลรถสองคัน ปัญหาในรถเบนซ์มันเริ่มพอกพูนตามอายุรถ
ค่าน้ำมันก็ไม่พอ เพราะ 6 สูบ KE-Jet นี่มันเจ๊ดสมชื่อ วิ่งในเมืองเจอ 6 โลลิตรได้เป็นปกติ
ทางไกลวิ่ง 120-130 เห็นแต่เลข 8 กับ 9 ผมเลยต้องเลือกว่าจะขายคันไหนไปสักคัน
ระหว่างเบนซ์กับรถสองประตูตาเหล่ขึ้นสนิมอีกคัน



กลายเป็นว่าไอ่เบื๊อกข้างบนนี่แหละครับได้อยู่ต่อ ผมขายเบนซ์ไปเดือน พ.ค. 2008
ได้เงินมา 250,000 บาท ก็เก็บเอาไว้ก่อน ช่วงนั้นผมก็หารถมาแทนที่เบนซ์ไป แต่ก็ใช้ NX สีน้ำเงินนั้น
ไปพลาง

ไอ้คันน้ำเงินนี่ ผมไม่มีอะไรจะชมมันจริงๆนอกจากแค่ว่ามันเป็นเกียร์ธรรมดา ทำให้ขับสนุก รถคันนี้พ่อซื้อให้คุณแม่
เป็นของขวัญวาเลนไทน์และของขวัญวันเกิด เพราะแม่เกิดหลังวาเลนไทน์ 2 วัน ซื้อมาก็ปี 1992 จดทะเบียนได้ป้ายขาว
วันที่ 4 มีนาคม 1992 ตอนแรกมาเป็นสีน้ำเงินไมก้าม่วงๆ สีเหมือนกับ Civic EG ที่ขายปีนั้นมาก ตอนแรกได้รถมา
ผมเห่อมาก ขึ้นไปนอนเล่นในรถจนลมแดดจับเป็นไข้ เปิดนู่นเปิดนี่เล่น ชอบดูหน้าปัดดิจิตอลของมัน ชีวิตในวัยเด็ก
ของผมจะอยู่กับมันมากกว่าเบนซ์ เพราะเบนซ์นั้นพ่อใช้ ส่วนแม่จะขับ NX ผมเรียนประถมที่สวนสุนันทา แม่ก็เป็นอาจารย์
อยู่ที่นั่นก็เลยไปและกลับกับแม่ประจำ แต่ตอนหลังๆแม่ชอบพาเพื่อนกลับบ้าน ทำให้ผมต้องไปนั่งหลัง..ซึ่งนรกมาก
ผมเลยยื่นคำขาดว่าถ้าจะใช้รถคันนี้ต่อ ห้ามพาเพื่อนกลับบ้าน พ่อเลยซื้อ Vento ให้แม่ไป ส่วน NX นั้นก็ส่งไปให้พี่สาวผม
ซึ่งเป็นแพทย์จุฬาจบปี 2539 ไปใช้ ไอ้หมอถูกส่งไปเป็นรอง ผอ. ที่โรงพยาบาลในอยุธยาบ้าง ที่อ.สามโก้ บ้าง
พ่อก็ให้ NX เกียร์ธรรมดานี่แหละไปใช้  จนยนตรกิจออกแคมเปญผ่อน 5 ปีดอก 0% ให้กับ Vento ในปี 97
พ่อเลยออก Vento อีกคันให้พี่สาว ส่วน NX จอดตากแดดกับกองซากต้นไม้ที่สนามหน้าบ้านเลยครับ ไม่มีใครอยากขับมัน
พ่อก็มีทั้งเบนซ์กับ Land Cruiser VX80 แล้ว ส่วนแม่เขาก็มี Vento อยู่แล้ว ไอ้เจ้านี่จอดเหมือนคนรอวันตาย หลังคาปูด
ฝาท้ายสนิมกิน บางครั้งจอดจนยางฟีบเลยก็มี

พอผมได้ใบขับขี่ แม่ยอมให้ขับรถได้ ผมขับเบนซ์อยู่สักพัก ก็มองๆไอ้เจ้านี่แล้วสงสาร เลยลองสตาร์ทแล้วหัดขับ
ช่วงแรกดับเกือบตลอด แต่ไม่กี่วันก็ชิน พอผมลากรอบได้ กะจังหวะคลัตช์และสับเกียร์เป็น ผมงี้แทบทิ้งเบนซ์เลยครับ
เพราะเบนซ์มันหนักแน่น นิ่ง แต่มันไม่สนุก ไอ้นี่ตีนต้นออกไวกว่า ช่วงล่างมันลอยๆ ต้องฝึกคุมมัน ผมเริ่มออมเงิน
สมัยเรียนนี่ยังไม่รับจ๊อบอะไรนะ พ่อให้ค่าน้ำมันเดือนละ 3,500 แม่ให้ค่าอาหารเดือนละ 3,000 มันก็จะออมอะไรไม่ได้มาก
ของแต่งชิ้นแรกที่ซื้อคือกรอง K&N จากนั้นก็เริ่มไปทำเฮดเดอร์ ทำท่อกับพี่ยงวัดด่าน พอเอาไปวิ่ง 188 แล้วหน้าทิ่ม
ก็มาคุยกับเพื่อน ซึ่งก็คือไอ้จอร์จที่ทำอู่ Gettuned อยู่ทุกวันนี้ ว่าจะทำยังไงบ้าง ไอ้จอร์จไปศึกษาเรื่อง Wiring มา
แล้วก็ถอด Apexi RSM รุ่นปุ่มกลมจากรถพี่ชายมัน แอบเอามาใส่ NX ผม แล้วเราก็วิ่งไปบนโทลล์เวย์ ทำความเร็วได้
204 ก.ม./ช.ม. แล้วก็นั่งวี๊ดว๊ายดีใจกันสองคนอยู่บนรถ รู้สึกเหมือนปีนเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ นี่คือความเกรียนของผม
เมื่อ 13 ปีก่อน

ปี 2004 เดือนกันยาผมวางเครื่องใหม่ แต่ด้วยความที่ยังเป็นนักศึกษา และพ่อให้ทุนในการวาง ผมเลยไม่เอาเทอร์โบ
วางเป็น SR20DE ธรรมดา ตอนแรกพ่อก็บ่นว่าจะไปวางมันทำไมให้เสีย 4-5 หมื่นบาท ผมก็ตัดพ้อพ่อไปว่า
ที่พี่สาวผมอยู่เฉยๆได้รถป้ายแดง 2 คัน (Vento และ Civic) แล้วทำไมแค่วางเครื่องรถผม 4-5 หมื่นถึงมีปัญหาจัง

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่พูดแบบนั้น แต่พ่อกลับคิดว่าผมพูดถูก และปล่อยเงินมาให้วาง ผมรู้สึกผิด
แต่เพิ่งมาได้โอกาสขอโทษพ่อตอนปี 2008 ..รู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่พอวางเครื่องเสร็จ ผมเอามาให้พ่อขับ
ปรากฎว่าพ่อชอบมาก เบิ้ลๆเครื่องเล่น เอาไปขับเล่นในบางที พ่อบอกว่าเวลาตบคันเร่งแล้วมันทันใจดี NX เลยได้
อยู่ และอยู่จนกระทั่งเบนซ์ถูกขายไป ผมก็ใช้มันขับไปทำงานอยู่พักใหญ่ๆจนได้ Tiida มา

์NX นี่เป็นตัวอย่างของรถที่ผมผูกพันธ์ แต่ไม่มีเหตุผลดีๆในการผูกพันธ์มากไปกว่าความรู้สึก..ช่วงล่างเหรอ
ผมขับ EG 3 Door มาแล้ว ยังไง Honda ก็เกาะกว่าครับ ฟีลลิ่งพวงมาลัย Honda ก็ไวถนัดมือกว่า
ถ้ารุ่นน้องยุคใหม่ๆมา เวลาจะเล่น NX ผมจะถามก่อนว่าแน่ใจนะ ของแต่งน้อยมาก หายากชิบหาย แพงด้วย
มันถูกแค่ราคารถกับค่าช่วงล่าง ถ้างบมีพอเล่น Honda ดีกว่า ผมก็ยังยืนยันแบบนั้นอยู่ แต่ที่เล่น NX นี่
เพราะขายมันไม่ลงครับ ยิ่งพอประเคนเงินแต่งมัน ทำเครื่องมัน ลงไปน่าจะแสนกว่าๆแล้วตอนนี้แล้วพอมารู้ว่า
รถตัวเองขายได้แค่ 7-8หมื่นบาท มันช้ำใจครับ ผมเลยเก็บไว้ ไม่ขายต่อ เก็บจนกว่ามันจะวิ่งไม่ได้
ผมค่อยผ่าตัวถัง เอาอะไหล่แจกจ่ายให้กับคนอื่นที่ยังต้องขับ NX ต่อไป

ทุกวันนี้ ประเก็นมันแล่บอยู่ ผมรอช่างประจำตัวว่างตั้งแต่เดือนเมษาแล้วตอนนี้ยังไม่ได้ทำ ไม่ใช่ว่าช่างเขาลีลา
แต่ผมบอกว่าไม่รีบ ผมให้คิวคนอื่นที่ต้องทำรถไปแข่งจริงๆจังเขาได้ไปก่อน เดี๋ยวก็คงได้ทำ
คลัตช์ตอนนี้เป็นทองแดง ขับยากๆ โดดๆ ช่วงล่างแข็งๆดีดๆ พวงมาลัยมีระยะฟรี และไม่ไวนัก
เวลาวิ่ง 210 น่ากลัวเยี่ยวแตกยิ่งกว่าขับ AMG GT ที่ 270 แต่ผมตั้งใจทำให้ทุกอย่างมันดูยากๆ
เข้าใจยากๆแบบนั้น ผมมีรถสักคันไว้คอยเตือนให้รู้จักความยากของการขับรถด้วยฝีมือมากกว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์

เวลาผมอยากขับรถเล่นกลางคืน ผมไม่ขับคันอื่นนอกจาก NX นี่ล่ะ ผมตั้งใจทำให้เสียงท่อตอนกดเงียบ
และเสียงเครื่องดังกว่าท่อ ขับชิดกำแพงทางด่วนแล้วกดคันเร่งฟังเสียงเครื่องเล่นๆ แต่พอยุคนี้รถซิ่งถูกมอง
ว่าเป็นศัตรูสังคม ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจอดมันไว้บ้าน เครื่องก็พังอยู่แล้ว แกก็พักไปละกันวะไอ่เบื๊อก



สำหรับคำถามว่ารถคันไหนที่ซื้อมาแล้วที่บ้านบ่นมากที่สุด ก็คงเป็น Legacy Turbo คันนี้

ที่บ่น ไม่ใช่ว่ารถแย่ ผมพาทั้งพ่อทั้งแม่นั่ง ทุกคนชอบมันมากกว่า NX ทั้งนั้นเพราะภายในนั่งสบายน้อยกว่าเบนซ์ไม่มาก
ช่วงล่าง STi กระบอกแดงจาก GC พอมาใส่ BC5 คันนี้มันก็ไม่แข็งมากนัก แต่ที่พ่อกับแม่บ่นกันเพราะวันที่ซื้อมา
เดือนมิ.ย. 2010 นั้น ผมมี Tiida กับ NX อยู่แล้ว เลยโดนด่าว่าจะมีรถไปทำไมตั้ง 3 คัน และโดนบังคับให้ขาย
1 คันออกไป ผมก็ดื้อตาใสใช้มันอยู่ 19 เดือนจนขายออกไปให้คุณโจ้สุรชัย เพื่อนของเพื่อนในกลุ่ม Old Legacy

รถคันนี้สอนให้ผมรู้ว่า อย่าเหมารวมว่ารถญี่ปุ่นจะใช้สบายใช้ง่ายซ่อมถูกไปหมดเพราะถ้านับเวลาในการอยู่อู่ในระยะ 1 ปี
มันเข้าอู่บ่อยกว่าเบนซ์สมัยผมเรียนอีก และกินเงินค่าซ่อมไม่แพ้กันเลย รถคันนี้เป็นรถมือสอง สายไฟหลายจุดเสื่อม
ทำให้รถมีอาการผีเข้าผีออก บางทีกดคันเร่งแล้วถอนรถก็ดับเอง ไปเจอว่าสายไฟแถวหม้อน้ำมันเปื่อยและไปแตะกับตัวถัง
ทำให้ฟิวส์ขาด หรือบางทีวิ่งๆอยู่ ท่อน้ำใต้อินเตอร์รั่ว หรือบางทีรั่วจากท่อเหล็กที่เป็นสนิมกับตามด ผมอยู่กับมัน 19 เดือน
แต่เจอกับปัญหาน้ำรั่วแล้วโอเวอร์ฮีท 2 ครั้ง ซึ่งนับว่าบ่อยกว่าทุกคันที่เคยใช้มา สายไฟ Subaru ยังไม่ได้เป็นมิตร
แบบพวกสายไฟ Toyota/Nissan นะครับ รื้อออกมาทียังกับ moy+ผีเสื้อสมุทร จนป่านนี้เจ้าของคนใหม่ทำยังไม่จบเลยครับ

แต่ถ้าไม่นับเรื่องที่มันเสียบ่อยๆ ก็โอเค ผมรู้สึกชอบรถคันนี้เวลาซัดหนักๆแล้วมั่นใจดี ขนาดใส่ยาง Dunlop LM703
ยังขับได้มั่นใจระดับหนึ่ง พอเปลี่ยนเป็น Advan AD07 นี่ยิ่งทำอะไรห่ามๆได้สบายมาก วิ่งทางไกลความเร็วสูงๆ
บอกได้เลยว่านิ่งกว่าเบนซ์ เข้าโค้งออกโค้งก็คมและไว้ใจได้กว่า NX พวงมาลัยก็ไวในระดับที่เกือบดี วิ่งไฮเวย์เจ๋ง
วิ่งทางโค้งก็เจ๋ง ยิ่งพอใส่บุชประกบแร็คยูรีเธน ยิ่งถ่ายความรู้สึกมาถึงมือได้ดีมาก การเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็ถือว่าถูกจริตผมมาก
มันเป็นรถที่ทำให้ผมรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วเป็นคนชอบรถขับสี่เกียร์ธรรมดามีโบแบบนี้แหละ

เสียดายส่วนหนึ่งที่รถคันนี้มันมาตอนที่ผมคิดว่าตัวเองรวยแล้ว แต่ยังดันไม่รวยจริง กล่าวคือมีเงินเดือน 24,000-28,000 บาท
แต่อยากได้รถซิ่งขับสี่ ไปเห็น Legacy คันนี้ขายอยู่ 230,000 เลยไปต่อเหลือ 210,000 กู้สินเชื่อของธนาคารมา 190,000
แล้วที่เหลือก็เอาเงินเก็บโปะเอา พอได้รถมาก็ซื้อล้อก้าน V ทำท่อ ติดมิเตอร์ เปลี่ยนจากเกียร์ 3.9 เป็น 4.44 แค่นี้เงินเก็บก็หมดลง
ประกอบกับช่วงที่ได้มานั้นเป็นช่วงที่ NX ทำฝาสูบกับแคมใหม่ใส่กล่องเสร็จพอดี ผมแก้ปัญหาสภาพคล่องด้วยการใช้บัตร
กดเงินสดกับสินเชื่อต่างๆเข้าสู้

ท้ายสุด แม่ผมประกาศจะสร้างบ้านอีกหลังบนที่ดินข้างหลังบ้านเดิม ผมขัดขืนไม่ได้ จึงต้องเอารถมาจอดนอกบ้าน
แล้วก็มาเจอกับช่วงน้ำท่วม 2011 ที่ทำความเสียหายไว้กับบ้านผมมาก (Legacy รอดเพราะน้องเขยเอาไปจอดให้ที่ Lotus พระราม4)
พอผ่านน้ำท่วมเสร็จ ผมไม่มีอะไรเลยนอกจากหนี้สิน บ้านใหม่ที่สร้างก็มีแต่ห้องเปล่าๆ ไม่มีอย่างอื่นเลย ผมจึงตัดใจขายมันไป
ซื้อรถมา 210,000 และลงเงินทั้งซ่อมทั้งทำไปจนน่าจะมีราว 260,000 แต่ตอนขาย ผมขายได้แค่ 185,000 บาท
และถ้าไม่ขายชีวิตผมก็เดี้ยงแน่ๆ ก็เลยขายไป และภาระหนี้นับจากวันนั้นยังเป็นลูกโซ่มาถึงตอนนี้ ผมนั่งผ่อนกรรมเก่าอยู่
เดือนละ 15,000 บาททุกเดือนซึ่งน่าจะใช้หมดภายในปีหน้า

ถือว่าซวยด้วยตัวเองล้วนๆ แต่มันก็ทำให้ผมมีข้อคิดในใจ เวลาเจอพวกน้องๆปรึกษาเรื่องแต่งรถ ทำรถ ผมจะให้ความสำคัญ
กับการไม่เป็นหนี้เอามากๆ เพราะเจ็บด้วยตัวเองมาแล้ว


วันนี้เล่ายาว ต้องขอบคุณที่ตั้งกระทู้มาก

ผมเครียดหลายเรื่อง ไม่รู้จะระบายยังไง ก็เลยร่ายเพลินไปหน่อย ถ้ากินที่คนอื่นก็ขอโทษแล้วกันครับ แต่นั่งตอบคำถาม
ในเพจทุกวันมา 8 เดือนเจอแต่คำถามเดิมๆเรื่องเดิมๆเลยรู้สึกเก็บกด อยากพูดถึงสิ่งอื่นอย่างอื่นบ้าง


ผมนั่งอ่านเพลินมากเลยอะ เป็นความบันเทิงสำหรับว้นทำงานที่น่าเบื่อวันนี้เลย


ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 437
ผมชอบ Accord 96 VTi-S วาง H22A ที่สุดแล้ว

บอดี้ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก จนเกินไป

เครื่องมันไม่ได้แรง เพราะวาง H22A เกียร์ออโต้ แต่ถ้า Kickdown จังหวะดี ๆ ไปลงจังหวะเทคเปิดนี่ รถใหม่ ๆ พวก 2.0 ไม่มีใครตามทัน

ภายใน ผมเป็นคนชอบรถภายในสีครีมมาก ตอนเด็ก ๆ นั่งรถญาติ VTi-S ปี 94 ภายในสีครีมมีซันรูฟ ชอบมาก

จนเมื่อห้าปีที่แล้ว ได้ทำตามความฝัน ไปใส่ซันรูฟมา เพราะตัวนอกปี 96 ไม่มีซันรูฟ

ผมว่ารุ่นนี้ช่วงล่างใช้ได้เลย ยิ่งไปใส่โช๊ค New SR กับสปริงเดิม เวลามุด จั๊มป์คอสะพาน นิ่งมาก

ทุกวันนี้ขับรถรุ่นใหม่ ๆ มาหลาย ๆ คัน พบว่าบางจังหวะยังสู้แอคคอร์ดผมไม่ได้

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,400
ถ้านาทีนี้ G9 HV ครับ แรงประหยัด พวงมาลัยเบาสบายขับแล้วมันตอบการใช้งานได้ครบ ราคาโอเคถ้าเทียบกับสมรรถนะครับ สำหรับผมรถยุโรปจะโดนหักคะแนนไปเยอะเพราะราคาครับ คือโดยรวมดีกว่าอยู่แล้วแต่หลายๆครั้งมันไม่มากพอที่จะต้องเพิ่มเงิน 3-5 เท่าในการซื้อมาใช้ครับ อย่าง 525d ขับมันช่วงล่างใช่พวงมาลัยดีแต่การเก็บเสียงล้อ+ลมยังต้องดีกว่านี้ครับ รถที่แพงกว่ารถไซส์ๆเดียวกันหลายเท่าแล้วดีกว่าประมาณนี้ผมว่ายังน้อยไปครับ อีกอย่างคันนี้ผม failกับ diesel ด้วยตอนนั้นอยากแรง+ประหยัดแต่พอใช้จริงๆน่าเบื่อครับรถเหยียบได้แต่ครึ่งคันเร่ง ถ้าตอนนั้นเป็น 528i คงดีถ้าเอารถที่ขับแล้วชอบที่สุดเอาแบบอารมณ์ล้วน panamera ครับแต่ไม่ได้ขับบ่อยๆ จริงๆ cayenne ก้โอเคไม่แพ้แต่ผมไม่ชอบรถสูง ทั้ง 2 ผมตัดออกถ้านับโดยรวมเพราะราคาที่แพงเกินจำเป็นไปครับ ส่วนรถที่ไม่โอเคที่สุดถ้านับเฉพาะรถที่ๆบ้านมีอยู่หรือขายไปแล้วเท่าที่ผมขับทันคือ G8 2.4 ครับพ่อผมชอบแต่ผมไม่ชอบเลย มีงอแงมากกว่า G6 G7 G9 ด้วย แถมช่วงล่างก้ไม่นิ่งย้วยและ feature สุดท้ายเด็ดสุดคือกินน้ำมันไปครับ ผมไม่โอเคกับรุ่นนี้เท่าไหร่ มันไม่ได้แย่มากหรอกแต่ผมว่ามันไม่โอเคที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้แบบประจำ แต่ถ้าเป็นรถคนอื่นที่ขับมาแต่ได้ขับบ่อยๆประมาณเดือนละ 8-10 วันง่ายๆคือมันเป็นรถบริษัทอะครับ คือ PJS 2.5VG คันนี้สภาพดีคนขับดูแลได้โอเคเลยแต่ผมขับแล้วแบบเอ่อ เนี่ยนะรถที่ขายได้เดือนละ 500-700 คันขนาดตอนจะตกรุ่นยังยอดดีขับไปไหนก้เจอผมมีเรื่องหลักๆคือแบบ พวงมาลัยผมนึกว่าเล่นฟิตเนส ขับคันนี้นานๆสงสัยไม่ต้องออกกำลังกายละ แล้วจะทดเยอะไปไหนหมุนกันลืมอะครับคือหนักอยู่แล้วไม่ต้องทดเยอะก้ได้ขับในเมืองนี่ไม่ต้องพูดถึงผมเคยเอาคันนี้ไปใช้แล้วดันต้องไป All season place โอ้โหครั้งแรกและสุดท้ายละกัน ช่วงล่างไม่นิ่มไม่แข็งใช้ได้แต่ไม่ได้นิ่งกับเกาะอย่างที่คนซื้อเค้าหวังไว้ว่าจะดีกว่า fortuner ตัวเก่าเท่าไหร่เลย การเก็บเสียงลมกับล้อพอๆกับคู่แข่งแต่เสียงจากเครื่องยนต์เนี่ยสิครับผมไม่อยากเชื่อว่ารถหลังปี 2000 ยังมีรถที่เสียงเครื่องเข้าห้องโดยสารดังสนั่นขนาดนี้ 110+ นี่ต้องเริ่มตะโกนคุยละคับผมลองเทสแบบขับยาวๆหมดนะครับ ขับแล้วไม่น่าเชื่อว่ารถราคาล้านกว่า ขับ ranger wt นิ่งกว่าเงียบกว่าเป็น 10 เท่า คันเร่งช้ามาก กดไปแล้วเหมือนรออะไรซักอย่างเครื่องแรงแต่เจอคันเร่งแบบนี้หมดกัน ข้อติสุดท้ายก่อนจะมีข้อดีบ้างคือ กินน้ำมันมากครับจะในเมืองก้กินนอกเมืองทางไกล 110-130 ก้ยังไม่ได้ประหยัดเลยถ้าเหยียบ 140-160 ไม่ต้องพูดถึงครับเหมือนถังรั่ว ข้อดีคืออัตราเร่งในรอบปลายไหลกว่าคู่แข่ง วงเลี้ยวไม่กว้างแต่หมุนเยอะจนจำไม่ได้ว่า center อยู่ตรงไหน 555 มี paddle shift มาให้และเบาะไฟฟ้า 8 ทิศคู่หน้าแล้วก้ไม่จุกจิกมากพอได้อยู่ครับ แต่มันเป็นรถคันเดียวที่ผมเคยพูดกะเพื่อนถ้าเอาคันนี้ไปผมไม่ขับนะ ทั้งหมดตามประสบการณ์ที่ผมลองจริงๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2015, 17:01:44 โดย AkE »

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
Civic EK ครับ อยูกันตั้งแต่ป้ายแดง จนเอาไปวาง B16A
Impreza GC 5 ปีที่อยู่ด้วย มันสุดยอดจริงๆ

ตอนนี้ V40. ถ้ามันออกตัว กะโค้งเหมือน Im คงดี

ออฟไลน์ Gopz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 581
เอาตรง ๆ ครับ ชื้อรถมา 7 คันแล้วไม่ถูกใจซักคัน แต่ก็พอจับทางตัวเองได้ว่าชอบแนวรถไหนครับ  :D
Toyota Yaris 1.5 E Limited / Toyota Altis 1.8 G
Toyota Camry 2.4 Hybrid CD / Ford Fiesta 1.6S
Toyota Prius TRD / Toyota Prius Top Option
Isuzu MU-X 3.0 4x4

ปัจจุบัน
Toyota Yaris 1.2 G/ Mazda 2 Diesel 1.5 XDL HB

ออฟไลน์ -nu-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168
โจทย์คือ "รถของท่าน" ผมตีความว่าหมายถึงเฉพาะที่เป็นเจ้าของเอง
ผมเองเพิ่งมีรถเป็นของตัวเองได้ไม่นาน
ออกคันแรก  Jazz GE ตอนปี 54 หลังซินามีที่ญี่ปุ่น
     คันที่ 2  Golf GTI ออกตอนปี 56
     คันที่ 3  Lexus NX300h  เพิ่งใช้มาได้เดือนกว่า

ณ วันทีออก ในสถานะรถใหม่ป้ายแดง Golf GTI ชนะขาดเลยครับ



ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,993
    • อีเมล์
ทีแรกว่า จะเล่าบ้าง ... แต่เจอของคุณแพน มาเป็น สตอรี่เลย .. ของผมนี่เล็กๆไปเลย ... ขออ่านอย่างเดียวละกันครับ ...

ป.ล.บ้านคุณแพนโดนน้ำท่วมด้วยหรอ อยู่โซนไหนครับ .... ผมอยู่ปทุม ยับเหมือนกัน ..... (คิดถึงเรื่องน้ำท่วมแล้วขึ้น) ...

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,580
ผมว่า perfect สุดคือ เหมาะกับการใช้งานของเราที่สุด

แรกๆขับ vigo ก็ว่ามันดี เพราะ ถึกทน ไม่กลัวหลุมบ่อ ขับไกลๆ สุงๆ มองทางเห็นดีมาก ด้วยความที่รถใหญ่ เบาะใหญ่ ก็นั่งสบาย ขับไปไหนบนถนน คนก็เกรงใจเวลาหันหัวออก

มาขับ jazz ge เล็กกระทัดรัด เหมาะกับในเมืองมาก แต่ ช่วงล่างเดิมๆนี่น่าเอาไปโยนทิ้งมาก

yaris ตัวแรก ใสแมก ช่วงล่างใหม่ ขับแบบ บู้ๆ ในเมือง ช่วงต้องวิ่งทำเวลา ได้อย่างไม่อึดอัด

หลังๆมานี้ขับ crv ขับสบายทั้งใน และ นอกเมือง ไม่ต้องกลัวหลุ่มบ่อ แต่คิดว่ามันอืดไปนิด ขนาดเครื่อง 2.4 แล้วนะ แถมยัง เสียงดังเข้ามาในห้องโดยการอีกต่างหาก และ เริ่มรุ้สึกว่า มันคันใหญ่ไปนิดสำหรับขับในเมือง

ตอนนี้เริ่มแก่เลยให้ความสำคัญกับ ความเงียบ ภายในห้องโดยสาร และ ช่วงล่าง ค่อนข้างมากกว่าตอนแรกๆ แต่ ความแรง ยังต้องมีอยู่เหมือนเดิม อิอิ

ออฟไลน์ bubball

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,838
คำตอบของคนในนี้ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นรถที่ตนเองขับอยู่นั่นแระครับ เพราะว่าทุกๆคนล้วนติดตามข่าวสารและชื่นชอบในเรื่องรถยนต์
เพราะงั้นเวลาเลือกซื้อรถคงจะจุจิกและคิดนานกว่าคนที่ไม่ได้คิดตามข่าวสารรถยนต์แน่นอน

Perfect สำหรับผม(ผมคนเดียวนะ)คือ HR-V EL (ต้อง EL เท่านั้นนะ)
ทุกๆอย่างที่ให้มาสำหรับผมคือมันจบ ยกเว้นช่วงล่างที่กากมาก แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะผมขับรถไม่เร็วและค่อนไปทางช้า
ผมจบด้านออกแบบมา เพราะงั้นการออกแบบของรถที่ผมจะซื้อต้องสวยงามทั้งภายนอกและภายใน
ทุกอย่างคือมันจบจริงๆสำหรับผม ทุกวันนี้ออกมาเกือบจะครบ 1 ปีแล้วยังสามารถยืนมองได้นานๆโดยไม่มีเบื่อเลย

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ทีแรกว่า จะเล่าบ้าง ... แต่เจอของคุณแพน มาเป็น สตอรี่เลย .. ของผมนี่เล็กๆไปเลย ... ขออ่านอย่างเดียวละกันครับ ...

ป.ล.บ้านคุณแพนโดนน้ำท่วมด้วยหรอ อยู่โซนไหนครับ .... ผมอยู่ปทุม ยับเหมือนกัน ..... (คิดถึงเรื่องน้ำท่วมแล้วขึ้น) ...
[/quote

อันนี้เวอร์ชั่นย่อแล้วครับ ถ้าเอาของเต็มๆมีมากกว่านี้ แต่พวกที่หารูปได้จะมีไม่มากครับ รถสมัยก่อนที่บ้านมี
300D, 190E, 520 E12, Subaru Leone, Corolla KE70, Corolla Liftback, Sunny Coupe FF, 525i E34, Vento 2 คัน, Civic ES 2 คัน, Swift และ CR-V เกือบครบทุก Gen ผมยกเฉพาะคันที่รับใช้ผมเป็นหลักจริงๆส่วนคันอื่นคือรถพ่อ รถแม่ รถพี่

ผมอยู่โซนพงษ์เพชร ฝั่งกทม.ครับ ยิ่งไปทางม.ธุรกิจฯ ท่วมพุงครับ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,977
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
เท่าที่ขับมาแล้วชอบมาก

คงเป็น Ford Focus Mk2  TDCi  Remap   ของพี่เท่าเคารพ ได้ลองสั้นๆกดไป 160  แต่พอแล้วไม่ใช่รถตัวเองกลัวพัง 

เป็นดีเซลที่บ้ามาก ลากไปได้ถึง 270 (เป็นคนนั่ง)     ช่วงล่างตึงตังกำลังดีไม่นิ่มเกินไป มันเหมาะกับการที่ใช้ในเมืองได้  ออกนอกเมืองยิ่งสนุก เก็บเสียงได้ดี

ถ้าเทียบกับ Mk3  มันเกาะถนนกว่า ขับสนุกกว่า   พวงมาลัยส่วนตัวชอบมากกว่า     

ด้วยอัตราเร่งด้วย ความปลอดภัย  ความประหยัด  Option ที่กำลังดี   

ป.ล.  ไม่เคยลองดีเซล ค่ายยุโรป พวก BMW   AUDI  เลย 



THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day