///--- ลูปๆคลำๆ รถนอกกระแส อย่าง KIA RIO เกาหลี B-Segment ที่ราคา แพงกว่า ญี่ปุ่น B-Segment ประมาณ 4 หมื่น 5 ---///(พร้อมรูปนิดหน่อยครับ)
สวัสดีคุณผู้อ่าน Headlightmag ทุกท่านครับ กระผม pkdiamond (หรือเอก) ได้มีโอกาสไปพบเจอ รถจากค่ายเกาหลียี่ห้อหนึ่ง
ซึ่งได้นำมาจัดโชว์ ในห้างชื่อดังแห่งหนึ่ง ในระยอง ครับ นั่นก็คือ.... KIA RIO ครับ อาจจะดูนอกกระแสไปซะหน่อยนะครับ เพราะช่วงนี้
กระแส FOCUS กับ SYLPHY แร้งส์ แรง แต่ก่อนอื่นต้องขออกตัวก่อนเลยนะครับว่า บทความสั้นๆ ที่ผมเอามาแบ่งปันเนี่ย ผมไม่มีส่วนได้
ส่วนเสียกับทาง KIA Motor นะครับ เจตนารมณ์ เพียงแค่ต้องการแชร์ความรู้สึก เมื่อได้สำผัสรถ ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในตลาด ให้คุณผู้อ่าน
ได้รับทราบแค่นั้นเองครับ ไม่ได้โฆษณา แฝงนะครับ
อ่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ สำผัสแรกที่คุณผู้อ่านเห็น รู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับผมเอง บอกตามตรงเลยว่า มันสวยอ่ะ
โดยเฉพาะรูปที่เป็น Official ครับ โดยรวมรู้สึกชอบนะ แค่ขัดใจตรงกระจังหน้านิดหน่อยแค่นั้น
1
2
3
4
และเมื่อได้มาพบเจอกับรถคันจริงๆ เข้า อั้ยย่ะ.. รู้สึกเหมือนมีลำแสงออร่ามาแต่ไกล ดึงดูด ให้อยากเข้าไปสัมผัสใกล้ๆ
แล้วเมื่อเดินเข้ามาใกล้แล้ว ก็เลยเกิดคำถามในใจขึ้นว่า นี่คือรถ KIA ในปัจจุบันหรือนี่ เพราะเท่าที่จำความwได้ รถ KIA
ที่เคยเห็ในเมืองไทยยุคแรกๆ ก็ KIA SPORTAGE และก็ KIA ที่เป็นตัวถัง Sedan ซึ่งจำชื่อรุ่นไม่ได้ครับ ถ้าอยากทราบ
ประวัติความเป็นมาของเกียร์ไปหาอ่าเอาได้ที่นี่ครับ
http://interbrandkia.blogspot.com/2010/08/kia.htmlต่อนะครับ ความรู้สึกส่วนตัวผมว่า มัน สวยกว่ารถญี่ปุ่นหลายรุ่นเลยนะครับ เล้นสายค่อนไปทางยุโรปซะมากว่า
แหงล่ะ ก็เล่นจ้าง Peter Schreyer มาเป็น Chief Design Officer Schreyer ซึ่งก่อนหน้านั้น ท่านผู้มี ก็ได้ฝากผลงานไว้กับ
Audi TT และรถหลายรุ่น ของ Volkswagen อีกด้วย ซึ่งมีรางวัล Design Award เป็นเครื่องการันตีด้วยครับ โอ้ว . ไม่ธรรมดาแฮะ เจ้ารถคันนี้
5
เรามาเดินดูรอบๆรถกันดีกว่าครับ **(แต่ผมขอเซ็นเซอร์ แหล่งที่มาของรถคันนี้นะครับ)** เริ่มต้นกันที่ ด้านหน้า ที่กระจังหน้าชวนให้ผมรู้สึก
หงุดหงิดใจแบบตระหงิดๆ นิดๆ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไปนัก ก็อย่างว่าแหละครับ มุมมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบก็ได้
จริงมั้ยล่ะครับ ไฟหน้าเป็นแบบ LED และเลนส์โปรเจคเตอร์ ครับ o_o โห... LED จริงรึป่าว ผมไม่แน่ใจครับ เพราะว่าผมเอาข้อมูลทางด้านเทคนิค
มาจาก
http://autozeed.com ครับ โดยแหล่งข้อมูล ก็เป็น Spec. ของรุ่นที่จำหน่ายในประเทศนี่แหละ แต่ว่าผมเปิดฝากระโปรง แล้วก็ดูที่ขั้วไฟใกล้ๆ
แล้ว ทีแรกตั้งใจจะดูว่าเป็น หลอด HID Xenon รึป่าว ซึ่งก็ไม่มีป้าย Warning อะไร เลยคิดว่าน่าจะเป็นหลอด แบบ ฮาโลเจนมากกว่า อ่าวท่านผู้อ่านคงสงสัย
ว่าทำไมผมไม่ไปเปิดไฟหน้าให้มันรู้เรื่องไปเลยล่ะ? คำตอบก็คือ ลองเปิดแล้วจ่ะ แต่มันไม่ติดอ่ะ เค้าคงถอดฟิวส์ออกมั้งครับ กันพวกชอบเปิดไฟเล่น แบบผม
6
กระจกมองข้าง มาพร้อมกับไฟเลี้ยวในตัวครับ ดูไว้นะ Mazda ใส่มาให้ครบทุกรุ่นไปเลย จะได้ไม่ต้องมีของ ก๊อปที่ไม่มีคุณภาพออกมาขาย ใช้ได้ไม่นานก็เหลือง
7
แล้วก็มองต่ำลงมา เราก็จะเห็นล้อ แม็กซ์ ขอบ 15 และยาง Maxxis เข้าใจเลยว่า ลดต้นทุนในส่วนนี้ชัดๆ ทำไมน่ะเหรอ ลองย้อมกลับไปดูภาพ Official ข้างบนสิครับ
ตัวต่างประเทศ มันสวยกว่ามากอ่ะ ขอบ 16 ได้มั้งครับ แต่ก็เข้าใจแหละครับ ถ้าไม่ลดในส่วนนี้ ราคาก็คงอาจจะถึง 8 แสนก็เป็นได้ครับ
8
รถรุ่นนี้ ระบบเบรคเป็น หน้าดิสก์ หลังดรัม นะครับ ไม่ขอวิจารณ์มากในรถ Class นี้ มันคงมีดีในตัวมันแหละครับ รถรุ่นนี้มีบังโคลนหลังเล็กๆ มาให้ด้วยครับ
9
มาดูส่วนบั้นท้ายกันบ้างครับ อย่างที่เห็นในความรู้สึกส่วนตัว ผมว่ามันมีส่วนคล้ายกับ Volkswagen Golf พอสวมควรเลยนะครับ
9.1
เมื่อเปิดท้ายออกมา ก็จะเป็นที่เก็บสัมภาระ พื้นที่น่า จะเยอะกว่า Mazda2 Sport อยู่นิดหน่อยครับ (288 ลิตร ตามมาตรฐาน VDA) แต่ไม่ถือว่าเยอะมาก
ตามประสารถ Hatchback อยากจะเปิดดูว่ารถรุ่นนี้ให้ล้ออะไหล่เป็นแบบไหน แต่ของเยอะแบบนี้ ก็เลยเกรงใจเค้า ไม่เปิดก็ได้ฟะ
10
ลืมบอกไปครับ ว่าเจ้า KIA RIO ตัวนี้ มีไฟ Day time running light ติดตั้งมาให้เป็นอุปรณ์ มาตรฐานนะครับ โดยติดตั้งรวมกับชุดไฟหน้า จากโรงงานกันเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น ขับไป ไม่ต้องใส่ใจตำรวจครับ เพราะถือว่าไม่ผิดกฏหมาย เนื่องจากติดตั้งมาจากโรงงาน
11
ทีเด็ดอีกอยากนึงก็คือ ไฟตัดหมอกครับ ให้มาเป็นแบบโคมโปรเจคเตอร์เลย แบบว่าไม่ต้องเอามาแต่งต่อเลยว่างั้น.. แต่ถ้าคิดเอามาแต่งต่อน่ะเหรอ แค่คิดก็ผิดแระ
แบบว่าจะไปหาของแต่งตรงรุ่นที่ไหนได้ล่ะพ่อคู้น... อยากได้อะไรตรงรุ่นมาเสริมหล่อ ก็คงต้องสั่งจาก เกาหลีที่เดียวกระมัง หรือไม่ก็ E-BAY ซึ่งก็คงไม่ใช่ของที่มีราคาถูกแน่นอนครับ
12
และแล้วก็ได้เวลาเปิดประตู เข้าไปสำรวจภายในกันดีกว่าครับ อยากรู้เหมือนกันว่า รถเกาหลีคันนี้ จะได้กลิ่นอายภายในเป็นยุโรป หรือ ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีกันแน่
13
พวงมาลัยคล้ายกับ Fiesta ครับ ให้สังเกตุตรงส่วนที่บวมๆ ที่พวงมาลัยครับ รู้สึกว่าการออกแบบพวงมาลัย
ในรูปแบบนี้มักจะแพร่หลายกันมากในรถทางฝั่งยุโรปครับ ผมรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ เซียนรถก็ไม่ใช่ ง่ายๆครับ
ลองเปิด วันทูคาร์ ดูสิครับ ^o^ มีทุกรุ่นที่อยากรู้แหละครับ และเร็วดีด้วย อิอิ สำหรับ KIA RIO คันนี้ มีระบบ
ควบคุมเครื่องเสียงมาให้ทางฝั่งซ้ายครับ และปุ่ม รับ- วางสายโทรศัพท์ ด้วยครับ ส่วนด้านขวาก็เป็นปุ่มเซ็ต
Information ต่างๆครับ แต่ผมไม่รู้หรอกว่าเซ็ตอะไรได้บ้าง เพราะไม่เปิดระบบให้ลองเล่นครับ ไม่มี Cruise Control ครับ
ก้านเปิดไฟเลี้ยวและไฟหน้าอยู่ทางด้านขวา ซึ่งเป็นด้านที่ถูกต้องสำหรับรถพี่พวงมาลัยอยู่ด้านขวาครับ
ส่วนทางด้านซ้ายก็เป็นก้านที่ปัดน้ำฝน แบบหน่วงเวลาได้ ครับ ซึ่งตรงนี้ต้องขอชมเชย ที่ผู้ผลิตสัญชาติเกาหลี ใส่ใจในเรื่องแบบนี้
ทำ Part ที่ถูกต้องสำหรับรถพวงขวา ทั้งๆที่ต้นกำเนิดของ KIA ก็เป็นรถพวงมาลัยซ้ายโดยกำเนิด
14
ทัศนวิสัย ผมคงพูดอะไรมากไม่ได้ครับ เพราะว่ารถจอดโชว์อยู่ในห้าง ไม่ได้อยู่บนท้องถนน เลยเปรียบเทียบเรื่องทัศนวิสัยจริงไม่ได้
แต่ที่แน่ๆ เสา A แค่เห็นผมว่าไม่ โอเคแล้วน่ะครับ ถึงแม้จะกระจกหูช้างก็เถอะ แต่กลับจะยิ่งทำให้แย่ไปกว่าเดิมอีก
สงสัยจะไปเน้นในเรื่องของความสวยงาม จนมองข้ามความปลอดภัยไปซักหน่อยแล้วล่ะเนี่ย ตรงจุดนี้ผมว่าควรปรับปรุงครับ
ส่วนทางด้านซ้ายต้องขออภัยนะครับ แบบว่าลืมถ่าย
15
ส่วนทางด้านหลังนี้หนักกว่าอีกครับ แบบว่าบังคนขี่มอเตอไซด์ มิดครับ เวลาถอยรถอาจจะต้องระวังมากขึ้น
สำหรับคนที่ไม่ถนัดที่จะใช้กระจกมองหลังหรือมองข้างครับ นี่ก็เป็นอีกส่วนนึงที่ควรปรับปรุงครับ
16
กระจกหน้าต่างเป็นแบบ One touch ทั้ง 4 บานครับ แต่มีระบบ Protection Jam เฉพาะบานคนขับ (สเปก เค้าเขียนไว้อย่างนั้น )
นั่นก็หมายความว่า กระจกบานอื่นๆ เวลากดลงคือ One touch แต่เวลาเอาขึ้นก็คงเป็นงัดค้างมั้งครับยกเว้น บานคนขับ
เอาน่ามีมาให้แบบนี้ ก็ดีกว่ารถ C-segment หลายๆ ยี่ห้อแล้วครับ กระจกมอกข้างก็เป็นแบบปรับ และพับไฟฟ้านะครับ
แต่สำหรับเรื่องวัสดุของแผงประตูและสวิตช์ ต่างๆ นั้นน่ะเหรอ ขอโทษสาวก TOYOTA ด้วยนะครับ คือวัสดุมันค่อนไปทางนั้นอ่ะครับ
คือคล้ายกับ VIGO VIOS ALTIS อ่ะครับ ส่วนจะถือว่าดีหรือไม่ดี ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านเป็นผู้ตัดสินนะครับ
แต่แผงคอนโซลเป็นวัสดุแบบนิ่มชวนสัมผัสนะครับ
17
ต้องขออภัยอีกครั้งครับ แบบว่าลืมถ่ายหัวเกียร์ แบบว่ารีบอ่ะครับ แต่ไม่เป็นไรครับ อากู๋ช่วยท่านได้ ถ้าอยากเห็นรูป แหะๆ เกียร์ก็ตามสมัยนิยมครับ แต่มี ทริปทรอนิกส์มาให้ด้วย แต่ว่า KIA RIO เป็นเกียร์แบบ 4AT นะครับ
18
ส่วนแอร์ ไม่ได้เป็นแบบออโต้นะครับ แต่เป็นอัตโนมือที่สวยไม่ใช่เล่น ออกแบบมาได้ดูดีกว่ารถที่เป็นแอร์ออโต้บางรุ่นอีกแหนะ หุหุ
ส่วนเครื่องเสียง เป็นยี่ห้อ Arkamy สามารถเล่นแผ่น CD+MP3 1แผ่น , ช่องเสียบ USB/AUX/i-Pod/Bluetooth (ตามเสปกครับ)
ส่วนเรื่องของเสียงที่ออกจะมาเป็นยังไง อันนี้ไม่ทราบครับผม
19
แต่ไมโครโฟนติดตั้งไว้บริเวณเหนือศรีษะของผู้ขับขี่ครับ ซึ่งดูแข็งแรงดี ไม่ก้องแก้ง แบบเครื่อง แบรนด์เนมหลายๆรุ่น ที่ตัวไมค์ดูค่อนข้างก้องแก้งครับ
ขอยก 1 ตัวอย่างก็แล้วกัน HONDA JAZZ (JDM LOT2) ของน้องผมเอง
20
ช่องแอร์คู่กลาง ดูออกจะโบราณไปซะนิดนะครับ ในสายตาผมนะ สังเกตุมุมล่างขวา แป้นเหยียบเป็น อลูมิเนียมครับ เยี่ยมเลย
21
ขอเสริมเรื่องของพวงมาลัยนะครับ วัสดุเป็นแบบยูลิเทนครับ ไม่ได้หุ้มหนังนะครับ งานนี้ใครอยากได้หนังแบบตะเข็บสี คงจะต้องพึ่งร้านประดับยนต์สถานเดียว
22
การสตาร์ทเครื่องยนต์ ก็ตามสมัยนิยมครับ เหยียบเบรค แล้วก็กดปุ่ม Push Start กุญแจเป็น Keyless ครับ
แต่ไม่เห็นหน้าตาของตัวกุญแจนะครับว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ถามอากู๋โลดครับ
23
ช่องเสียบ AUX / USB ครับ พร้อมกับ 12Vdc Outlet 2 ช่องครับ แต่เข้าใจว่าถ้าเป็นตัวนอก หรือเป็นตัว KOREA ช่องนึงน่าจะเป็นที่จุดบุหรี่
และอีกช่อง ก็เป็น 12Vdc Outlet ครับ (รูปอาจจะมืดไปสักนิด)
24
เจอแล้ว รถที่มาแนวทางเดียวกับ Focus/Mazda3 แล้วแนวทางเดียวกันอย่างไรล่ะ ? ก็ช่องเก็บของบริเวณคอนโซล ที่ลึกมาก...ซ่อนชิวาว่า ได้ 2 ตัว หุหุ
25
26
ที่พักแขนตรงกลางเลื่อนเข้าออกได้ ตามสรีระของผูขับขี่ได้ครับ ว้าว....แต่ผมลืมเปิดดูข้างในว่าชองมันใหญ่แค่ไหนอ่ะครับ TT
27
ด้านหลังเบาะคนขับมีช่องใส่เอกสารมาให้ด้วยครับ
28
ส่วน Leg-room ดังภาพครับ ผมสูง 178 cm หนัก 78kg (น้ำหนักไม่ต้องบอกก็ได้ อายเค้า -..- ) เบาะลองนั่งด้านหน้า ผมจำความรู้สึกไม่ได้ อ่ะครับ
เพราะเวลาสัมผัสกับมัน น้อยมาก น้อยเพราะกลัวเซลส์ 555+ กลัวเซลส์เข้ามาถามนั่นถามนี่ แบบว่าขี้เกียจตอบคำถามอ่ะครับ ส่วนเบาะหลัง
เบาะลองก้นค่อยข้างสั้นอ่ะครับ คล้าย ยาริส
30
///ข้อมูลทางวิศวกรรม///
เครื่องยนต์ : เป็นแบบ DOCH 16 วาล์ว ขนาด 1,396 ซีซี พร้อมวาล์วแปรผัน
107แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 74.0x75.0 มิลเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1
ระบบส่งกำลัง : เป็นแบบ 4AT Torque Convertor แบบโบราณอ่ะครับ
อัตราทดกียร์มีดังนี้
เกียร์ 1 2.919
เกียร์ 2 1.551
เกียร์ 3 1.000
เกียร์ 4 0.713
เกียร์ถอยหลัง 2.480
อัตราทดเฟืองท้าย 4.375
ระบบกันสะเทือน : ด้านหน้าเป็นแบบยอดนิยมครับ McPherson strut
ด้านหลังเป็นแบบ CTBA (Coupled Torsion Beam Axle) จริงๆแล้วมันก็นเป็นแบบคานบิดแหละครับ
ระบบบังคับเลี้ยว : เป็นแบบเพาเวอร์ไฟฟ้าครับ
มิติตัวถัง : 4,045(ยาว) x 1,720(กว้าง) x 1,455(สูง) mm
ระยะฐานล้อ 2,570 mm
ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัย ผมไม่แน่ใจนะครับว่าตัวที่ขายในบ้านเรา จะจัดเต็มแบบตัวต่างประเทศหรือไม่ เท่าที่ทราบก็มี่ ถุงลมคู่หน้า ระบบเบรค ABS ครับ
31
ทีเด็ดอยู่ตรงนี้ครับ รับประกันถึง 5 ปี หรือ 150,000km ขึ้นอยู่กับว่า อะไรจะถึงก่อน ถือว่า กล้ามาก เมื่อเทียบกับค่ายอื่น ที่ประกอบและจำหน่ายในบ้านเราครับ
แต่ก็อย่างว่า เอาเข้าขอให้เงื่อนไขที่ลูกค้าได้รับ เป็นไปตามสติ๊กเกอร์ที่แปะนี่ก็แล้วกันครับ
32
ส่วนราคาก็ตามที่วงไว้ครับ เป็นราคาที่ได้ ทั้ง Jazz JDM (ถ้ายังหาได้) , Ford Fiesta (TITANUIM+) เครื่อง 1,600 ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม และศูนย์บริการที่ขึ้นชื่อ
(ตัวแดง) หรือไม่ก็ไป คบหา B-Segment ตัว TOP ได้ทุกค่ายเลยครับ พร้อมกับสิทธิ์รถยนต์คันแรกอีกด้วย (ถ้ารับรถทันนะครับ)
***สุรปเลยแล้วกันครับ ผมคงไม่สามารถที่จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถคันนี้ให้ท่านผู้อ่านรับทราบไปกว่านี้ได้ครับ เพราะไม่ได้ลองขับ และแค่ลูปๆ คลำๆ เฉยน่ะครับ
และโดยส่วนตัวผมคิดว่า กลุ่มเป้าหมายของรถคันนี้ คงเน้นไปที่คนที่มีฐานะสักนิดน่ะครับ เน้นขับขำๆ (ขับไปหัวเราะไป) หรือกลุ่มคนที่ชอบความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร
และอาจจะไม่ได้สนใจในเรื่องของ สมรรถนะมากนัก แต่ว่าเน้นที่ความสวย และอยากเป็นเป้าสายตาเป็นหลักครับ (ความเห็นส่วนตัวเด้อ)
ส่วนในต่างประเทศ KIA RIO จะมีตัวถัง Sedan 4 ประตูและ Hatch Back 3 ประตูด้วยครับ อีกทั้งยังมี เครื่อง 1.6 GDi จับคู่กับเกียร์ ธรรมดาและอัตโนมัติ 6 จังหวะ อีกด้วย
ซึ่งถ้ามาเมืองไทย ราคาอาจจะแต่ 1 ล้านบ้าทแน่ ปัญหาคือแล้วใครจะซื้อล่ะ ง่ายๆ นะครับ ลองสำรวจตลาดดูก็ได้ ว่า KIA SOUL ที่พี่จิมมี่ทำริวิวไว้ วิ่งอยู่บนถนนในเมืองไทย ถึง 100 คันมั้ย...
สุดท้ายนี้ ผมก็ขออวยพรให้รถของ KIA ทำตลาดในเมืองได้ดียิ่งขึ้นก็แล้วกันครับ คนไทยจะได้มีทางเลือกให้กับชีวิตมากขึ้น โดยไม่ต้องไปผูกขาดกับ รถยี่ห้อใดยี่ห้อเดียว..
ที่มาของข้อมูลทางเทคนิค
http://autozeed.com http://www.kia.com.au/และสำคัญที่สุดก็คือ
www.headlightmag.com และพี่จิมมี ที่เอื้อเฟื้อพื้นที่บอร์ด เพื่อให้ผมหัดทำ พรีวิว
เพื่อที่อนาคต ผมอาจจะได้ลองทำรีวิวต่อไปครับ
บทความนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อยากจะเอาไปทำอะไรก็เชิญครับ ^^
