Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yord ที่ สิงหาคม 29, 2015, 13:03:04

หัวข้อ: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yord ที่ สิงหาคม 29, 2015, 13:03:04
คือผมไม่เคยขับนะครับ แต่จากการอ่านรีวิวต่างๆ ส่วนมากเสียงเดียวกันคือ EV จะดีกว่าทุกค่ายหมดนุ่มหนึบ มั่นคง ผมเลยสงสัยว่าเป้นไปได้มั้ยครับ

ที่เพราะตัวรถของ EV อาจมีน้ำหนักมากกว่าค่ายอื่นถึง300-400โล จึงทำให้มันมีความนุ่มหนึบ และมั่นคงมากว่า ppv ของค่ายอื่น

ซึ่งอาจมีน้ำหนักที่เบากว่า การถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นจึงทำให้มันมีแรงกดที่มากกว่าค่ายอื่นๆน่ะครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ สิงหาคม 29, 2015, 13:11:39
คือผมไม่เคยขับนะครับ แต่จากการอ่านรีวิวต่างๆ ส่วนมากเสียงเดียวกันคือ EV จะดีกว่าทุกค่ายหมดนุ่มหนึบ มั่นคง ผมเลยสงสัยว่าเป้นไปได้มั้ยครับ

ที่เพราะตัวรถของ EV อาจมีน้ำหนักมากกว่าค่ายอื่นถึง300-400โล จึงทำให้มันมีความนุ่มหนึบ และมั่นคงมากว่า ppv ของค่ายอื่น

ซึ่งอาจมีน้ำหนักที่เบากว่า การถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นจึงทำให้มันมีแรงกดที่มากกว่าค่ายอื่นๆน่ะครับ

เป็นปัจจัยด้วยส่วนหนึ่งครับ รวมถึงการเช็ตโช็คอัพและสปริงด้วย
มันก็มีอีกหลายๆอย่างรวมกันเป็นส่วนประกอบ ที่มันเหนือกว่า
คงเป็นเพราะรุ่นนี้เป็น Flagship ของ Ford ที่จะมาทำตลาดแทนที่
Territory ด้วยครับเลยทำให้มัน Above Segment ไปอีกนิด
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tierak ที่ สิงหาคม 29, 2015, 14:40:29
จากข้อมูลที่ลงใน HLM ฟอร์ด เทียบข้ามรุ่นไปชกกับปราโด้ ของโตฯเลยนะครับ 
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kris-lack ที่ สิงหาคม 29, 2015, 14:46:30
คือผมไม่เคยขับนะครับ แต่จากการอ่านรีวิวต่างๆ ส่วนมากเสียงเดียวกันคือ EV จะดีกว่าทุกค่ายหมดนุ่มหนึบ มั่นคง ผมเลยสงสัยว่าเป้นไปได้มั้ยครับ

ที่เพราะตัวรถของ EV อาจมีน้ำหนักมากกว่าค่ายอื่นถึง300-400โล จึงทำให้มันมีความนุ่มหนึบ และมั่นคงมากว่า ppv ของค่ายอื่น

ซึ่งอาจมีน้ำหนักที่เบากว่า การถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นจึงทำให้มันมีแรงกดที่มากกว่าค่ายอื่นๆน่ะครับ
โอ้ .......หนักกว่าค่ายอื่น 400 โลเลยหราา
งั้นเรื่องกินน้ำมันต้องหนักกว่าค่ายอื่นพอควรนะ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yord ที่ สิงหาคม 29, 2015, 14:55:23
คือผมไม่เคยขับนะครับ แต่จากการอ่านรีวิวต่างๆ ส่วนมากเสียงเดียวกันคือ EV จะดีกว่าทุกค่ายหมดนุ่มหนึบ มั่นคง ผมเลยสงสัยว่าเป้นไปได้มั้ยครับ

ที่เพราะตัวรถของ EV อาจมีน้ำหนักมากกว่าค่ายอื่นถึง300-400โล จึงทำให้มันมีความนุ่มหนึบ และมั่นคงมากว่า ppv ของค่ายอื่น

ซึ่งอาจมีน้ำหนักที่เบากว่า การถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นจึงทำให้มันมีแรงกดที่มากกว่าค่ายอื่นๆน่ะครับ

เป็นปัจจัยด้วยส่วนหนึ่งครับ รวมถึงการเช็ตโช็คอัพและสปริงด้วย
มันก็มีอีกหลายๆอย่างรวมกันเป็นส่วนประกอบ ที่มันเหนือกว่า
คงเป็นเพราะรุ่นนี้เป็น Flagship ของ Ford ที่จะมาทำตลาดแทนที่
Territory ด้วยครับเลยทำให้มัน Above Segment ไปอีกนิด

ถ้ามันเป็น เรือธง จริงอย่างที่พี่ว่าก็ไม่แปลกครับที่มันควรจะต้องเหนือกว่าในทุกๆด้าน

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ สิงหาคม 29, 2015, 15:09:33
ลองหาบทความจากสื่อออสเตรเลียอ่านดูแล้วจะเข้าใจว่า Ford ทำตัวนี้ออกมาแข่งกับ Prado จริง
เพราะระหว่างการทดสอบในทะเลทรายและถนนในออสเตรเลีย ทีมวิศวกรจะไปพร้อมกับ Prado อีกคันเสมอ
Prado เองก็เป็นรถที่ชาวออสเตรเลียให้ความไว้วางใจมาตลอดนับตั้งแต่ปี 96-97 เป็นต้นมา
ดังนั้นถ้าจะเอาชนะใจลูกค้าออสเตรเลียให้ได้ ก็ต้องทำทุกอย่างให้ได้ใกล้เคียงกับ Prado

อย่าไปยึดติดว่าบ้านเรามี Fortuner เลยต้องแข่งกับ Fortuner สถานเดียว และอย่าคิดว่า
Prado คือรถหรูได้อย่างเดียว บ้านเรา Prado จากญี่ปุ่นมามักจะเป็นออพชั่นเต็ม แต่ Prado ออสเตรเลีย
มีทุกแบบตั้งแต่โล้นออพชั่นไปจนถึงล้นออพชั่น ยิ่งพอ Territory ขายได้แต่ในบ้านตัวเอง Ford
ภายใต้นโยบาย One Ford เขาก็ต้องเขี่ยทิ้ง รถอะไรก็ตามที่ "สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ ให้ประเทศใด
ประเทศหนึ่ง ประเทศเดียว โดยขาดศักยภาพที่จะโกยยอดขายในระดับภูมิภาคได้" ก็ทยอยถูกกำจัดทิ้ง
Ford Falcon เป็นเหมือนเอกลักษณ์ประจำประเทศ ก็ยังโดนกำจัดทิ้ง

ถ้าใครคิดว่าการเทียบกับ Prado เป็นเรื่องโม้ ต้องลองไปขับดู ขนาดผมไม่ใช่คนที่กรี๊ดกร๊าด
อะไรกับค่ายนี้ ผมยังยอมรับเลยว่าช่วงล่างเหนือความคาดหมายมาก ผมเคยขับ VX80 และ VX100
สองคันนี้สู้ Everest ไม่ได้เลยถ้ามองรวมทั้งเรื่องความนุ่มนวล ความมั่นคง ความไวเวลาหักเลี้ยว

แต่มันไม่ใช่ปาฏิหารย์อะไร ทุกอย่างเกิดจากการที่ตัวรถนั้นหนักมาก ทำให้มันไม่ดีดดิ้น
เมื่อตัวถังหนักมาก บวกกับโช้คอัพที่เซ็ตมาติดหนึบนิดๆ บวกกับช่วงล่างหลังที่มีการจำกัดระยะให้ตัว
ในการแกว่งแนวระนาบ ทำให้มันทำได้ดีขนาดนี้

เรื่องน้ำหนัก ผมมั่นใจว่ามีส่วน เพราะตอนขับ 3.2 ตัวท้อป กับ 2.2 ตัวล่างสุด รุ่น 2.2 ขับหลัง
ที่เบากว่ากัน 300 โลนั้น มีช่วงล่างที่ดีดกว่า และดูเหมือนจะเด้นไปตามสภาพถนนมากกว่า 3.2 จนสัมผัสได้
ดังนั้นเมื่อมองว่ารถอย่าง Fortuner รุ่นเก่า PJS ตัวเก่าหนัก 1.9 ตันแล้ว Everest ตัวท้อปหนัก 2.5 ตัน
มันก็ไม่แปลกใจที่การดีดการดิ้นทุกอย่างจะถูกน้ำหนักทานทับเอาไว้หมด

เช่นเดียวกับ Chevrolet Sonic เก๋งเล็กที่ตัวหนักเหมือน Civic FD น้ำหนักคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิด
ความรู้สึกมั่นคงไม่ดีดดิ้น และทำให้รู้สึกว่าวิ่งตรงๆเร็วๆแล้วแน่นมั่นคง
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ สิงหาคม 29, 2015, 15:28:33
รถที่น้ำหนักมากเวลาเข้าโค้งแรงๆจะด้อยกว่าหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ สิงหาคม 29, 2015, 15:37:57
 มีโอกาสทดลองขับรถเพื่อน 3.2+

 พูดตามความจริง การรักษาอาการโคลงเวลาหักเลี้ยวซ้ายขวา เริ่มจากเบาๆไปหาหนัก ด้วยกว่า VX200 นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ซึ่งน่าจะมาจากระบบ KDSS ช่วยไว้ คิดเล่นๆ ถ้า VX ไม่มีระบบนี้ อาจจะทำได้พอๆกับ Everest ก็ได้

 จุดที่ผมมองว่าช่วงล่าง Everest ออกมาดี
 1. ตำแหน่งจุดยึดต่างๆของช่วงล่าง ซึ่งมีผลต่ออาการที่แสดงออกมามากที่สุด
 2. ขนาดของแขนต่างๆ เพลา ดุมล้อ ล้วนแล้วมีขนาดใหญ่แบบสังเหตุได้ง่ายๆ มีผลต่ออาการช่วงล่างอีก
 3. เซ็ตติ้งของโช๊คอัพ การออกแบบสปริง อย่างไรก็ตามถ้าได้ชุดโช๊คสปริงจากแบรนด์ดังมาช่วย คิดว่าจะดีเยี่ยมขึ้นอีกพอสมควร
 4. เลือกใช้รูปแบบ watt link มาช่วยรักษาอาการแนวระนาบ

 ความตั้งใจของ Ford ที่ต้องการทำ Everest ให้ตีตลาด Segment นี้ ที่มี Prado แชร์ส่วนแบ่งมากที่สุด ดูเหมือนว่าผลที่ออกมา สามารถแสดงให้เห็นว่า Ford ทำได้ครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ สิงหาคม 29, 2015, 15:50:12
เพิ่งได้มีโอกาส สัมผัส3.2+ ต้องยอมรับจริงๆ ช่วงล่างซับเเรงสะเทือนได้ดีมากๆ ดีจนคุณจะลืมไปเลยว่ามันคือ รถพื้นฐานจากกระบะ ยางแก้มบาง และด้วยการที่มันออกมาหลังจากขายเเรงเจอร์มาแล้ว 4ปี ev ถูกแก้ไข ปรับปรุงมาให้ดีกว่า wt พอสมควร เช่นเวลาที่ผมขับ wt ผมจะรำคาญเสียงพัดลมแอร์มาก็พอเป็น ev พัดลมเบาลงอย่างมาก การตอบสนองของคันเร่งก็ดีขึ้นอย่างรู้สึกได้

เปิดใจ แล้วไปลองหา3.2+ ขับดูครับ

ผมมี3.2wt อยู่คัน ถ้าบรรทุกสัก500กก ช่วงล่างจะนุ่นขับสบาย

ในราคาปีนี้ มันคือรถที่คุ้มค่า
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pon76 ที่ สิงหาคม 29, 2015, 15:51:51
รถที่น้ำหนักมากเวลาเข้าโค้งแรงๆจะด้อยกว่าหรือเปล่าครับ

ผมเข้าใจว่าแก้การโยนด้วยช่วงล่างหลังแบบ watt link ใช่หรือเปล่าครับ ขอผู้รุ้อธิบายต่อด้วยครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: reyeshenry ที่ สิงหาคม 29, 2015, 16:01:10
จากข้อมูลที่ลงใน HLM ฟอร์ด เทียบข้ามรุ่นไปชกกับปราโด้ ของโตฯเลยนะครับ

เขาแคคิดเทียบป่าวครับ แต่ความจริง มันคงทำได้ยากครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ สิงหาคม 29, 2015, 16:11:24
ใครเคยลอง เทียบกับ CX-5 ให้ฟังหน่อยครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ สิงหาคม 29, 2015, 16:21:49
คือผมไม่เคยขับนะครับ แต่จากการอ่านรีวิวต่างๆ ส่วนมากเสียงเดียวกันคือ EV จะดีกว่าทุกค่ายหมดนุ่มหนึบ มั่นคง ผมเลยสงสัยว่าเป้นไปได้มั้ยครับ

ที่เพราะตัวรถของ EV อาจมีน้ำหนักมากกว่าค่ายอื่นถึง300-400โล จึงทำให้มันมีความนุ่มหนึบ และมั่นคงมากว่า ppv ของค่ายอื่น

ซึ่งอาจมีน้ำหนักที่เบากว่า การถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นจึงทำให้มันมีแรงกดที่มากกว่าค่ายอื่นๆน่ะครับ
โอ้ .......หนักกว่าค่ายอื่น 400 โลเลยหราา
งั้นเรื่องกินน้ำมันต้องหนักกว่าค่ายอื่นพอควรนะ

ผมขับ 3.2+ มาพันกว่ากิโล อัตราสิ้นเปลืองใช้งานปกติ 9.2 km/l การเดินทางไกล 11.95 km/l ซึ่งผมพอใจมากกับอัตราการบริโภคนี้ เพราะ Camry 2.0G ก็กินประมาณนี้ แถมเป็นดีเซลด้วย ราคาถูกกว่าอีก

อีกประเด็นนะครับ ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อ Everest 3.2 ส่วนมากเป็นกลุ่มคนที่เขาไม่มานั่งกังวลค่าน้ำมัน ค่าต่อทะเบียน และค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพราะถ้าใครเอาเรื่องเหล่านี้เป็นที่ตั้งก็ต้องหันไปมอง PJRS 2.4 หรือ FTN 2.4 ซึ่งจะตอบโจทย์มากกว่า

เรื่องช่วงล่าง และพวงมาลัยนั้นผมอยากให้ไปลองเองครับ ตัว 2.2 ก็รู้เรื่องแล้ว อย่าฟังคำอวยในเน็ทจนกว่าจะได้ลองดู ส่วนตัวผมชอบมากทั้งช่วงล่างและพวงมาลัย คุ้มค่าที่สุดกับ 1.6 ล้านที่จ่ายไปครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ สิงหาคม 29, 2015, 16:26:43
จากข้อมูลที่ลงใน HLM ฟอร์ด เทียบข้ามรุ่นไปชกกับปราโด้ ของโตฯเลยนะครับ

เขาแคคิดเทียบป่าวครับ แต่ความจริง มันคงทำได้ยากครับ
ช่วงราคาขายของทั้งคู่ใน Australia ไม่ได้ต่างกันสามเท่าแบบในไทยครับ
เดาจากการตั้งราคา คุณสมบัติและระดับตัวรถของทั้งสอง ไม่หนีกันมาก
Everest : 1,410,000-1,970,000 บาท
Prado : 1,430,000-2,370,000 บาท (โดยประมาณ)
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tedjung84 ที่ สิงหาคม 29, 2015, 19:33:30
ใช่ครับเป็นรถที่คุ้มค่าแน่นอน
น่าใช้จริงๆ ผมก็อยากได้เช่นกันแต่ใช้ t6 wt ไปก่อนหุหุหุ :-*
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ สิงหาคม 29, 2015, 20:31:29
คือผมไม่เคยขับนะครับ แต่จากการอ่านรีวิวต่างๆ ส่วนมากเสียงเดียวกันคือ EV จะดีกว่าทุกค่ายหมดนุ่มหนึบ มั่นคง ผมเลยสงสัยว่าเป้นไปได้มั้ยครับ

ที่เพราะตัวรถของ EV อาจมีน้ำหนักมากกว่าค่ายอื่นถึง300-400โล จึงทำให้มันมีความนุ่มหนึบ และมั่นคงมากว่า ppv ของค่ายอื่น

ซึ่งอาจมีน้ำหนักที่เบากว่า การถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นจึงทำให้มันมีแรงกดที่มากกว่าค่ายอื่นๆน่ะครับ
โอ้ .......หนักกว่าค่ายอื่น 400 โลเลยหราา
งั้นเรื่องกินน้ำมันต้องหนักกว่าค่ายอื่นพอควรนะ

ผมขับ 3.2+ มาพันกว่ากิโล อัตราสิ้นเปลืองใช้งานปกติ 9.2 km/l การเดินทางไกล 11.95 km/l ซึ่งผมพอใจมากกับอัตราการบริโภคนี้ เพราะ Camry 2.0G ก็กินประมาณนี้ แถมเป็นดีเซลด้วย ราคาถูกกว่าอีก

อีกประเด็นนะครับ ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อ Everest 3.2 ส่วนมากเป็นกลุ่มคนที่เขาไม่มานั่งกังวลค่าน้ำมัน ค่าต่อทะเบียน และค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพราะถ้าใครเอาเรื่องเหล่านี้เป็นที่ตั้งก็ต้องหันไปมอง PJRS 2.4 หรือ FTN 2.4 ซึ่งจะตอบโจทย์มากกว่า

เรื่องช่วงล่าง และพวงมาลัยนั้นผมอยากให้ไปลองเองครับ ตัว 2.2 ก็รู้เรื่องแล้ว อย่าฟังคำอวยในเน็ทจนกว่าจะได้ลองดู ส่วนตัวผมชอบมากทั้งช่วงล่างและพวงมาลัย คุ้มค่าที่สุดกับ 1.6 ล้านที่จ่ายไปครับ

ชอบที่ท่านว่า ถ้าจะซื้อ 3.2 แล้วกังวลเรื่องกินหนักให้ไปซบกับเครื่องเล็กจริงเลยครับ ผมว่า 3.2 หนักขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว คงไม่มีใครรอ ppv ที่วิ่งเร็วเกิน 150แล้วมั่นใจ เข้าโค้งเยี่ยมๆ ประหยัดน้ำมันนอก/ในเมืองได้ 14/12 โลลิตร ภายในดีไซน์และวัสดุดี ในราคา 1.2 ล แล้วมังครับ ผมเห็นราคามันดีดขึ้นไปเรื่อยๆแล้วยังแอบคิดว่าปี 2020 คงแตะ 2ล้านกันบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tierak ที่ สิงหาคม 29, 2015, 20:37:32
จากข้อมูลที่ลงใน HLM ฟอร์ด เทียบข้ามรุ่นไปชกกับปราโด้ ของโตฯเลยนะครับ

เขาแคคิดเทียบป่าวครับ แต่ความจริง มันคงทำได้ยากครับ
ช่วงราคาขายของทั้งคู่ใน Australia ไม่ได้ต่างกันสามเท่าแบบในไทยครับ
เดาจากการตั้งราคา คุณสมบัติและระดับตัวรถของทั้งสอง ไม่หนีกันมาก
Everest : 1,410,000-1,970,000 บาท
Prado : 1,430,000-2,370,000 บาท (โดยประมาณ)

เรื่องราคานี่ทำผมสงสัยมากเลยครับ ระหว้างบ้านเรากับออสเตเรีย ราคาในบ้านเรา ตกลงโตฯ ฟันกำไรต่อคันเยอะมากหรือฟอร์ดยอมขายในราคาที่เอากำไรน้อยๆ  หรือกลับกันฟร์อดไปฟันกำไรที่ออสเตเรียแต่โตฯ เอากำไรต่ำๆ
หรือมันเป็นเรื่องของภาษีล้วนๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ สิงหาคม 29, 2015, 21:48:56
ใครเคยลอง เทียบกับ CX-5 ให้ฟังหน่อยครับ

เทียบกับ cx5 2.2D เอาเเบบสั้นๆนะครับ ขอใช้เวลากับev สักพักก่อนนะครับ

เรื่องการตอบสนอง cx5 ยังตอบสนองช่วงความเร็วต่ำการออกตัวได้ ดีกว่าแบบรู้สึกได้ครับ

ช่วงล่าง cx5 มีความกระฉับ กระด้างกว่า แต่ ev จะนุ่ม หนึบซับเเรงสะเทือนได้ดีกว่ามากๆครับ

เบาะแถว 2 พอมีตัวเล็ก ผบ ต้องนั่งหลังประจำต้องบอกเลยว่า cx5 ด้อยกว่ามาก พ.ท. เก็บสัมภาระcx5ก็ น้อยเกินสำหรับบ้านที่มี เด็กทารก ev น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

แถว3 นี้ไม่มีให้เทียบ แต่สำหรับผมแถว3 มีไว้เเค่แก้ขัด

การเก็บเสียง ev เงียบสงัด วิ่ง120กม/ชม. ก็ยังเงียบทั้งที่ใส่ยาง LTZ ลายหยาบๆ เบอร์ 275 55 แต่cx5 ติดไฟแดง คนขี่มอไซค์ จอดข้างๆคุยกันยังได้ยิน ตอนวิ่งเสียงล้อบดถนนก็ได้ยินชัด

อัตราการสิ้นเปลือง cx5 1ถัง วันได้700กม. กว่า(เติมราวๆ1000บาทเต็มถัง) แต่ ev เดิม1600บาท เต็มถัง กินกว่าเเน่นอนครับ แต่อย่างที่เพื่อนสมาชิกบอกละครับ ถ้าใครอยากได้ประหยัด คงต้องมองตัวอื่น เครื่องเล็กๆ สำหรับผม ผมใช้j32 250xvอีกคัน มันกินกว่านี้

ความคุ้มค่าcx5 2.2d ราคา1.67m แถมประกัน ดอก 2.5 ส่วน ev 3.2+ 1.59m ลด 20,000บาท ไม่แถมประกัน ถ้ารถคันเดียว ev คุ้มค่ากว่าทุกมุม แต่ถ้าใช้ในเมือง ส่วนใหญ่ cx5 2.2D ดูจะเหมาะกว่า ขับออก ตจว ก็มันส์ ใบสั่งตามตูดเพียบ

สุดท้ายรถบางยี่ห้อ ดูเหมือนจะประหยัด เเต่ไมล์อ่อน 8% ก็ว่ากันไป
ป.ล. ผมขอเวลาอยู่กับมัน(ev)สักพัก แล้วจะเทียบกับcx5 ที่ผมใช้วิ่งปีเดียวเข้า50,000กม ให้ฟังอีกครั้งนะครับ ถ้าคุณชอบขับรถ มาสด้าเป็นซ้อยที่ดีคันหนึ่ง

หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ipong ที่ สิงหาคม 29, 2015, 22:27:54
วันนี้ไปลองตัว 2.2 มา ส่วนตัวผมว่ามันโยนน้อยมากกว่าที่คิดครับ จัมพ์สะพานก็ไม่ดีดเท่าไหร่

เสียดายอย่างเดียว เซลแจ้งว่า ด้วยยอดส่งรถของฟอร์ดตอนนี้ คิวผมคงไม่ได้รับรถปีนี้

ตอนนี้เหลือรอเทส PJS. ถ้าถูกใจก็คงซื้อ ถ้าไม่ถูกใจก็คงกำเงินไว้ รอโปรลดราคา หลังเพิ่มภาษีละกัน

เศร้ามากครับ เป็นข่าวร้ายของวันสำหรับผมเลย
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AuNaraKa ที่ สิงหาคม 29, 2015, 23:40:51
จากข้อมูลที่ลงใน HLM ฟอร์ด เทียบข้ามรุ่นไปชกกับปราโด้ ของโตฯเลยนะครับ

เขาแคคิดเทียบป่าวครับ แต่ความจริง มันคงทำได้ยากครับ

ผู้การก็พูดอยู่ด้านบนได้อ่านรึเปล่าครับ แล้วสื่อ Aus ก็บอกอยู่ว่ารุ่นมันเทียบกัน ลองเปิดโลกหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ สิงหาคม 30, 2015, 01:14:25
เอาข้อมูลมาบอกนะครับ  ฟอร์จูเนอร์ตัว 3.0 V 4wd  ตัวเดิมรุ่นแรก ๆ กินน้ำมัน 10-11 km/l  รุ่นต่อมาโฉมแชมป์จะกินประมาณ 11-12 ไม่เกินนี้ทั้งรุ่น 2wd 4wd    ถ้าอยากประหยัดไปรุ่น 2.5 ประหยัดหน่อยได้ 13-15 km/l   ถ้าปัจจุบันนี้  ตัว 2.4 ในคลับเห็นได้กัน 14-16 km/l 
ส่วน PJS  ตัวเดิมได้ 11-11.5 km/l 

ถ้าข้อมูลที่คุณ Eddy ให้มาคือวิ่งทางยาวกินประมาณ 11.95 km/l  แสดงว่าเรทการกินน้ำมันไม่หนีจากคู่แข่งเลย  คงอยุ่ประมาณนี้กันหมด
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ สิงหาคม 30, 2015, 11:20:24
รถที่น้ำหนักมากเวลาเข้าโค้งแรงๆจะด้อยกว่าหรือเปล่าครับ

ไม่ครับ จิกโค้งดีมาก สงสัยมาก รถสูงๆใหญ่ๆ ทำไมมันเข้าโค้งดีขนาดนี้ เก๋งเตี้ยๆแบบแคมรี่เปลี่ยนโช็คเปลี่ยนสปริงแพงๆดีๆที่ผมมีอีกคัน ยังสู้ everest เดิมๆไม่ได้เลย

ผมวิ่งเส้นเขาปักธงชัยแตะเบรกนิดเดียว เวลาเดินทางรวมเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับแคมรี่ร่วม 2 ชั่วโมง
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oak7070 ที่ สิงหาคม 30, 2015, 12:19:03
รถที่น้ำหนักมากเวลาเข้าโค้งแรงๆจะด้อยกว่าหรือเปล่าครับ

ไม่ครับ จิกโค้งดีมาก สงสัยมาก รถสูงๆใหญ่ๆ ทำไมมันเข้าโค้งดีขนาดนี้ เก๋งเตี้ยๆแบบแคมรี่เปลี่ยนโช็คเปลี่ยนสปริงแพงๆดีๆที่ผมมีอีกคัน ยังสู้ everest เดิมๆไม่ได้เลย

ผมวิ่งเส้นเขาปักธงชัยแตะเบรกนิดเดียว เวลาเดินทางรวมเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับแคมรี่ร่วม 2 ชั่วโมง

EV เป็นขับ4  ตลอดเวลา  เลยใด้เปรียบเวลาเข้าโค้งครับ  ไปลองเเล้วขับดีกว่า X3 จนรู้สึกใด้ยิ่งเข้าโค้งความเร็วสูงความนิ่งเเละมั่งคงเยอะกว่า X3  แต่ความนุ่มอาจจะสู้ไม่ใด้    ความเเรงก็ไม่แพ้กันแต่ราคาต่างกันเท่าตัว 
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ สิงหาคม 30, 2015, 12:39:37
ขับสี่ตลอดเวลา ได้ 11-12 เครื่อง 3.2 ด้วย ผมว่าดีมากครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ สิงหาคม 30, 2015, 14:33:20
ใครเคยลอง เทียบกับ CX-5 ให้ฟังหน่อยครับ
.
ขอบคุณมากครับพี่ ผมเห็นในคลับบางคนใส่ 285/50/20 เลยมั้ง โหดมาก
ได้ OME+dobinson คงแจ่มขึ้นอีกเยอะเลย
ปล.ปีเดียวห้าหมื่นเลย  ??? ??? ???
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tierak ที่ สิงหาคม 30, 2015, 17:44:43
รถที่น้ำหนักมากเวลาเข้าโค้งแรงๆจะด้อยกว่าหรือเปล่าครับ

ไม่ครับ จิกโค้งดีมาก สงสัยมาก รถสูงๆใหญ่ๆ ทำไมมันเข้าโค้งดีขนาดนี้ เก๋งเตี้ยๆแบบแคมรี่เปลี่ยนโช็คเปลี่ยนสปริงแพงๆดีๆที่ผมมีอีกคัน ยังสู้ everest เดิมๆไม่ได้เลย

ผมวิ่งเส้นเขาปักธงชัยแตะเบรกนิดเดียว เวลาเดินทางรวมเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับแคมรี่ร่วม 2 ชั่วโมง

ถ้าเป็นตามนี้ถือว่าทำได้ดีมากเลยครับ  ผมก็ชอบเล่นโค้งรู้สึกอิจฉามาก
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ สิงหาคม 30, 2015, 18:20:11
เรียนถามครับ ถ้ายี่ห้ออื่นเพิ่มน้ำกนักมาให้เท่ากันจะหนึบเหมือนกันไหมครับ หรือว่ามันมีปัจจัยอะไรบ้างที่เเิมๆ แล้วทำให้รถหนึบต่างกันแบบชัดเจนครับ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: romeo2011 ที่ สิงหาคม 30, 2015, 21:34:45
จากข้อมูลที่ลงใน HLM ฟอร์ด เทียบข้ามรุ่นไปชกกับปราโด้ ของโตฯเลยนะครับ

เขาแคคิดเทียบป่าวครับ แต่ความจริง มันคงทำได้ยากครับ

ผู้การก็พูดอยู่ด้านบนได้อ่านรึเปล่าครับ แล้วสื่อ Aus ก็บอกอยู่ว่ารุ่นมันเทียบกัน ลองเปิดโลกหน่อยนะครับ

เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ สิงหาคม 30, 2015, 21:37:58
เรียนถามครับ ถ้ายี่ห้ออื่นเพิ่มน้ำกนักมาให้เท่ากันจะหนึบเหมือนกันไหมครับ หรือว่ามันมีปัจจัยอะไรบ้างที่เเิมๆ แล้วทำให้รถหนึบต่างกันแบบชัดเจนครับ
ขอบคุณครับ

มันไม่ใช่เเค่น้ำหนักนะครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: shikimaru ที่ สิงหาคม 30, 2015, 23:05:41
ถ้าคุณหมูบอกว่าดีกว่า vx100 นี่ก็สุดๆแล้วครับ ผมเคยนั่งตอน 7-8 ปีก่อนเบาะแถว 2 มันนุ่มมาก + ช่วงล่างเข้าโค้ง ทางไม่เรียบนี่ถืบว่าหนึบมากในรถสูง +หนัก ได้ลองขับสั้นๆ มีข้อเสียอยู่ตรงช่วง 40-80 รอรอบไปหน่อยในเครื่องดีเซล 3.5 แต่วิ่งทางไกลนี่สบายมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ สิงหาคม 30, 2015, 23:59:17

ก้มดู ช่วงล่าง ระบบกันสะเทือนหลังของ EV แล้ว
อา มันคุ้มค่าจริงๆ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ สิงหาคม 31, 2015, 09:00:59
EV เป็นรถที่น่าใช้จริงๆครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ สิงหาคม 31, 2015, 09:57:33
ไม่รู้เลยว่ามันหนักกว่าตั้ง300กิโล นี่มันแบกควายวิ่งแล้ว  :'( น้ำหนักรถที่มากกว่าเสียเปรียบรถที่เบากว่าเวลาเข้าโค้งครับ แต่รถที่ตัวหนักมาแต่แรกเริ่มนั้นมักจะมีการออกแบบให้ระบบช่วงล่างทำงานเข้าขากับตัวถังที่หนักอึ้งเพื่อให้ช่วงล่างเอาอยู่ในทุกๆสถาณการณ์ไม่ให้ตัวถังที่หนักอึ้งเป็นตัวถัวถ่วงประสิทธิภาพโดยรวมของรถ ยกตัวอย่างเช่นมาสด้า/ฟอร์ดรุ่นก่อนๆน้ำหนักรถมากกว่าคู่แข่งในรุ่นเดียวกันเกือบๆร้อยกิโลเลยแต่ถึงกระนั้นก็สามารถทำให้ช่วงล่างดีกว่าได้ทั้งทางตรงและในโค้งผ่านชิ้นส่วนตามตัวถังจุดต่างๆ รวมถึงซับเฟรมกับชิ้นส่วนช่วงล่างที่มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับแรงกระทำของตัวถังยามที่ช่วงล่างทำงาน  :)

ส่วนยี่ห้ออื่นเอาน้ำหนักมาถ่วงแล้วจะทำให้การทำงานของช่วงล่างดีขึ้นเทียบเท่าได้ไหม อันนี้ก็ต้องดูแล้วว่าประสิทธิภาพของช่วงล่างนั้นเอาน้ำหนักที่เพิ่มเข้าไปอยู่หรือเปล่า รวทถึงสมดุลย์ของน้ำหนักที่จะเอามาถ่วงด้วยเพราะว่าเรื่องของการตอบสนองช่วงล่างมันไม่ใช่แค่การเพิ่มน้ำหนักหรือทำให้โช๊คแข็งขึ้นมาเท่านั้น ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันหมด ถ่วงน้ำหนักเพิ่มอาจจะช่วยในเรื่องความนิ่งเวลาแล่นทางตรงแต่พอเข้าโค้งหรือเบรตคอาจจะแย่กว่าของเดิมไปมากก็ได้ จินตนาการง่ายๆเวลาไปซุปเปอร์มาเก็ตเข็นรถเข็น คันนึงใส่ข้าวสารถุงเดียวกับอีกคันที่ใส่ข้าวสารสิบถุง คันที่ใส่ข้าวสารสิบถุงเวลาจะเลี้ยวเปลี่ยนไปช่องแผนกอื่นมันจะมีแรงเหวี่ยงจากโมเมนตั้มที่มากกว่า การบังคับเล้ยวควบคุมก็ยากกว่า  ;D
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ สิงหาคม 31, 2015, 11:15:40
อยากรู้ถังนึงวิ่งกันได้กี่กิโล
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ สิงหาคม 31, 2015, 11:48:27
ไม่รู้เลยว่ามันหนักกว่าตั้ง300กิโล นี่มันแบกควายวิ่งแล้ว  :'( น้ำหนักรถที่มากกว่าเสียเปรียบรถที่เบากว่าเวลาเข้าโค้งครับ แต่รถที่ตัวหนักมาแต่แรกเริ่มนั้นมักจะมีการออกแบบให้ระบบช่วงล่างทำงานเข้าขากับตัวถังที่หนักอึ้งเพื่อให้ช่วงล่างเอาอยู่ในทุกๆสถาณการณ์ไม่ให้ตัวถังที่หนักอึ้งเป็นตัวถัวถ่วงประสิทธิภาพโดยรวมของรถ ยกตัวอย่างเช่นมาสด้า/ฟอร์ดรุ่นก่อนๆน้ำหนักรถมากกว่าคู่แข่งในรุ่นเดียวกันเกือบๆร้อยกิโลเลยแต่ถึงกระนั้นก็สามารถทำให้ช่วงล่างดีกว่าได้ทั้งทางตรงและในโค้งผ่านชิ้นส่วนตามตัวถังจุดต่างๆ รวมถึงซับเฟรมกับชิ้นส่วนช่วงล่างที่มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับแรงกระทำของตัวถังยามที่ช่วงล่างทำงาน  :)

ส่วนยี่ห้ออื่นเอาน้ำหนักมาถ่วงแล้วจะทำให้การทำงานของช่วงล่างดีขึ้นเทียบเท่าได้ไหม อันนี้ก็ต้องดูแล้วว่าประสิทธิภาพของช่วงล่างนั้นเอาน้ำหนักที่เพิ่มเข้าไปอยู่หรือเปล่า รวทถึงสมดุลย์ของน้ำหนักที่จะเอามาถ่วงด้วยเพราะว่าเรื่องของการตอบสนองช่วงล่างมันไม่ใช่แค่การเพิ่มน้ำหนักหรือทำให้โช๊คแข็งขึ้นมาเท่านั้น ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันหมด ถ่วงน้ำหนักเพิ่มอาจจะช่วยในเรื่องความนิ่งเวลาแล่นทางตรงแต่พอเข้าโค้งหรือเบรตคอาจจะแย่กว่าของเดิมไปมากก็ได้ จินตนาการง่ายๆเวลาไปซุปเปอร์มาเก็ตเข็นรถเข็น คันนึงใส่ข้าวสารถุงเดียวกับอีกคันที่ใส่ข้าวสารสิบถุง คันที่ใส่ข้าวสารสิบถุงเวลาจะเลี้ยวเปลี่ยนไปช่องแผนกอื่นมันจะมีแรงเหวี่ยงจากโมเมนตั้มที่มากกว่า การบังคับเล้ยวควบคุมก็ยากกว่า  ;D

ถูกต้องครับ

ถ้าเรามองว่ารถเบาเข้าโค้งดีกว่า มันจะเป็นไอเดียที่ General มาก เหมือนกับเวลาเราพูดว่ารถยุโรปเกาะถนนกว่ารถญี่ปุ่น
General มาก แต่เมื่อพูดไปก็ห่างไกลจากคำว่าถูกต้อง 100%

รถน้ำหนักเบา ทำให้มีสมรรถณะการเข้าโค้งที่ดี คล่องแคล่ว ว่องไว แต่ต้องมาควบคู่กับยางที่
สามารถเกาะถนนได้ดี ช่วงล่างที่มีการยุบยืดในลักษณะความหนืดที่เข้ากับสถานการณ์ที่รถคันนั้นต้องเจอ
การขยับตัวของช่วงล่างรักษามุมล้อได้ตามความต้องการที่เหมาะสมกับงานที่รถกำลังทำอยู่

สำหรับบางค่าย เลือกทำรถหนักเพราะต้องการเอาน้ำหนักรถมาสร้างความรู้สึกหนักแน่นมั่นคงในยามขับขี่
แล้วก็ไปชดเชยความหนักตรงนั้นด้วยช่วงล่าง ความหนักมีข้อดีตรงที่จะวิ่งช้าหรือเร็ว มันก็ช่วยกดรถให้ไม่สะเทือน
แต่ความมั่นคงประเภทที่เกิดจากแอโร่ไดนามิกส์ เช่นลิ้นหน้า หางหลัง ฝากระโปรง พวกนี้จะต้องรอความเร็ว
ให้สูงระดับหนึ่งถึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ



หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yord ที่ สิงหาคม 31, 2015, 12:38:20
จากการได้รับข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ น่าจะพอแสดงให้ทราบได้ว่า EV ตัวท็อปสุดน่าจะคือตัวที่คิดว่าสมรรถนะดีที่สุดสำหรับรถ ppv 4x4 ในไทย

แต่ต้องแลกกับน้ำหนักตัวที่อาจมากกว่าค่ายอื่น 300-400กิโลกรัม เรื่องน้ำมันคิดว่ารถระดับนี้จะกินกี่กิโลต่อลิตรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้งานมัน

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงของ EV ที่มีน้ำหนักมากกว่าคู่แข่งก็คือเรื่องของความทนทาน ถ้าในกรณีสำหรับการใช้งานรถระยะยาวๆ แต่ถ้าอย่างที่หลายๆท่าน

ให้ข้อมูลมาก็คือช่วงล่างก็จะมีขนาดที่ใหญ่ตามเพื่อรองรับกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ก็แสดงว่าช่วงล่างก็น่าจะมีความเหมาะสมและทนทาน

เช่นเดียวกัน ก็คงเหลืออีกเรื่องหลักๆที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ก็คือเรื่องเครื่องยนต์ที่จะมีความทนทานแค่ไหนสำหรับรถที่มีขนาดถึง 2.5ตัน

ถ้าระยะเวลาพิสูจน์แล้วเป็นประจักษ์ว่ามีความทนทาน+กับสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ผมว่าอีก 10ปี EV เจนต่อไปมีโอกาสได้เป็นรถที่อยู่ในลำดับที่ 1

ก็เป็นไปได้ครับ



หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กันยายน 01, 2015, 06:32:18
จากการได้รับข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ น่าจะพอแสดงให้ทราบได้ว่า EV ตัวท็อปสุดน่าจะคือตัวที่คิดว่าสมรรถนะดีที่สุดสำหรับรถ ppv 4x4 ในไทย

แต่ต้องแลกกับน้ำหนักตัวที่อาจมากกว่าค่ายอื่น 300-400กิโลกรัม เรื่องน้ำมันคิดว่ารถระดับนี้จะกินกี่กิโลต่อลิตรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้งานมัน

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงของ EV ที่มีน้ำหนักมากกว่าคู่แข่งก็คือเรื่องของความทนทาน ถ้าในกรณีสำหรับการใช้งานรถระยะยาวๆ แต่ถ้าอย่างที่หลายๆท่าน

ให้ข้อมูลมาก็คือช่วงล่างก็จะมีขนาดที่ใหญ่ตามเพื่อรองรับกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ก็แสดงว่าช่วงล่างก็น่าจะมีความเหมาะสมและทนทาน

เช่นเดียวกัน ก็คงเหลืออีกเรื่องหลักๆที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ก็คือเรื่องเครื่องยนต์ที่จะมีความทนทานแค่ไหนสำหรับรถที่มีขนาดถึง 2.5ตัน

ถ้าระยะเวลาพิสูจน์แล้วเป็นประจักษ์ว่ามีความทนทาน+กับสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ผมว่าอีก 10ปี EV เจนต่อไปมีโอกาสได้เป็นรถที่อยู่ในลำดับที่ 1

ก็เป็นไปได้ครับ

Everest. 3.2 titanium ตัว 1.45 ล้านบาทก็ไม่ได้ด้อยกว่าตัวท๊อปหรอกครับ
เครื่อง 3.2l ขับ 4 แบบเดียวกัน
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ กันยายน 01, 2015, 06:57:41
ถ้า ford ไล่ปี้ศูนย์บริการให้ปรับปรุงคุณภาพให้พอๆกับ izusu รับรองอันดับ 1 ในไทยไม่หนีไปไหนแน่นอน แต่จะทำได้ไหมก็อีกเรื่องนะ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กันยายน 01, 2015, 08:59:36
วันก่อนเพื่อนพ่อผมมาขอคำแนะนำเรื่องซื้อรถผมก็แนะนำบอกข้อดีข้อด้อยไปคร่าวๆทั้ง 3 ตัว

Fortuner, Everest, Pajero sport แกไม่ค่อยชอบฟอร์เท่าไหร่นัก ส่วน Everest นี่ชอบมากๆแกไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีตัวนี้ขายอยู่ในตลาดด้วยส่วนปายังไม่มีมาลงจะจัดบูทเปิดตัววันแรกน่าจะเมื่อวานนี้ เลยให้แกรอดูปาก่อนซึ่งผมเชียร์ปานี่แหละ หล่อน้อยกว่าแต่ถูกกว่าเรื่องการซ่อมการเคลมก็ไว้ใจได้มากกว่า (ถ้าแกเลือกนะแต่ดูท่าแล้วคงได้ไป Ev)
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ กันยายน 01, 2015, 11:33:08
ขออีกนิดครับผม เรื่องปัจจัยนี้ของ EV
สมมติว่า เราเอา พวกโช็ค อะไรของ ford ไปใส่เจ้าอื่นสมมุติว่าใส่ได้ จะนุ่มหนึบเหมือนกันไหมครับผม
คือ คำว่า "น้ำหนักมากกว่า ฟอร์ดจงใจเพิ่มน้ำหนัก" หรือว่า เพราะการออกแบบช่วงล่างนั้น มีขนาดใหญ่หรือว่ามีอุปกรณ์มากกว่า จึงทำให้น้ำหนักมากกว่าครับ แล้วที่คนบอกว่า มาเปลี่ยน โช็ค เปลี่ยนสปริง ก็วิ่งดีเท่าแล้ว ถ้าดี จริงๆ ทำไมบริษัทไม่ทำมาให้ดีไปเลยถึงแม้ว่าจะเพิ่มราคาขึ้นไปอีกนิดเพราะผมเชื่อว่า ถ้ายี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ฟอร์ด ทำช่วงล่างได้เหมือนฟอร์ดหรือดีกว่า แต่น้ำหนักรถน้อยกว่า 200-300 และทำให้รถประหยัดน้ำมันได้อีกนิด หรือทนเพิ่มขึ้นได้อีกนิดเพราะแบกรถน้ำหนักน้อยกว่า  ผมว่า ฟอร์ดอาจจะขายได้น้อยลง ยอดจองอาจจะไม่เป็นแบบนี้ หรือว่า ปัจจัยจริงๆ มันคืออะไรครับ
ขอบคุณครับ :)
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yord ที่ กันยายน 01, 2015, 12:25:28
จากการได้รับข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ น่าจะพอแสดงให้ทราบได้ว่า EV ตัวท็อปสุดน่าจะคือตัวที่คิดว่าสมรรถนะดีที่สุดสำหรับรถ ppv 4x4 ในไทย

แต่ต้องแลกกับน้ำหนักตัวที่อาจมากกว่าค่ายอื่น 300-400กิโลกรัม เรื่องน้ำมันคิดว่ารถระดับนี้จะกินกี่กิโลต่อลิตรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้งานมัน

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงของ EV ที่มีน้ำหนักมากกว่าคู่แข่งก็คือเรื่องของความทนทาน ถ้าในกรณีสำหรับการใช้งานรถระยะยาวๆ แต่ถ้าอย่างที่หลายๆท่าน

ให้ข้อมูลมาก็คือช่วงล่างก็จะมีขนาดที่ใหญ่ตามเพื่อรองรับกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ก็แสดงว่าช่วงล่างก็น่าจะมีความเหมาะสมและทนทาน

เช่นเดียวกัน ก็คงเหลืออีกเรื่องหลักๆที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ก็คือเรื่องเครื่องยนต์ที่จะมีความทนทานแค่ไหนสำหรับรถที่มีขนาดถึง 2.5ตัน

ถ้าระยะเวลาพิสูจน์แล้วเป็นประจักษ์ว่ามีความทนทาน+กับสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ผมว่าอีก 10ปี EV เจนต่อไปมีโอกาสได้เป็นรถที่อยู่ในลำดับที่ 1

ก็เป็นไปได้ครับ

Everest. 3.2 titanium ตัว 1.45 ล้านบาทก็ไม่ได้ด้อยกว่าตัวท๊อปหรอกครับ
เครื่อง 3.2l ขับ 4 แบบเดียวกัน

ผมมองว่าตัวนี้ขาดอย่างนึงที่สำคัญมากๆไปครับ คือกล้องมองหลังครับดูจากเสปคแล้วรุ่นนี้ไม่มีกล้องมองหลังให้ใช่มั้ยครับ

ผมว่ารถใหญ่ขนาดนี้ควรต้องมีกล้องมองหลังครับเพราะมันทั้งสะดวก และทั้งเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ บางครั้งอะไรอยู่ต่ำกว่ากระจก

บานท้ายถ้าถอยไม่ดูผมว่ามีพลาดได้ง่ายๆเลยครับ แต่ถ้าพูดถึงสมรรถนะก็โอเคครับคิดว่าดีครับ
หัวข้อ: Re: EV หนุ่มหนึบกว่าค่ายอื่นคิดว่าเพราะปัจจัยใดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กันยายน 01, 2015, 13:08:30
จากการได้รับข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ น่าจะพอแสดงให้ทราบได้ว่า EV ตัวท็อปสุดน่าจะคือตัวที่คิดว่าสมรรถนะดีที่สุดสำหรับรถ ppv 4x4 ในไทย

แต่ต้องแลกกับน้ำหนักตัวที่อาจมากกว่าค่ายอื่น 300-400กิโลกรัม เรื่องน้ำมันคิดว่ารถระดับนี้จะกินกี่กิโลต่อลิตรก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้งานมัน

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงของ EV ที่มีน้ำหนักมากกว่าคู่แข่งก็คือเรื่องของความทนทาน ถ้าในกรณีสำหรับการใช้งานรถระยะยาวๆ แต่ถ้าอย่างที่หลายๆท่าน

ให้ข้อมูลมาก็คือช่วงล่างก็จะมีขนาดที่ใหญ่ตามเพื่อรองรับกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ก็แสดงว่าช่วงล่างก็น่าจะมีความเหมาะสมและทนทาน

เช่นเดียวกัน ก็คงเหลืออีกเรื่องหลักๆที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ก็คือเรื่องเครื่องยนต์ที่จะมีความทนทานแค่ไหนสำหรับรถที่มีขนาดถึง 2.5ตัน

ถ้าระยะเวลาพิสูจน์แล้วเป็นประจักษ์ว่ามีความทนทาน+กับสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ผมว่าอีก 10ปี EV เจนต่อไปมีโอกาสได้เป็นรถที่อยู่ในลำดับที่ 1

ก็เป็นไปได้ครับ

Everest. 3.2 titanium ตัว 1.45 ล้านบาทก็ไม่ได้ด้อยกว่าตัวท๊อปหรอกครับ
เครื่อง 3.2l ขับ 4 แบบเดียวกัน

ผมมองว่าตัวนี้ขาดอย่างนึงที่สำคัญมากๆไปครับ คือกล้องมองหลังครับดูจากเสปคแล้วรุ่นนี้ไม่มีกล้องมองหลังให้ใช่มั้ยครับ

ผมว่ารถใหญ่ขนาดนี้ควรต้องมีกล้องมองหลังครับเพราะมันทั้งสะดวก และทั้งเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ บางครั้งอะไรอยู่ต่ำกว่ากระจก

บานท้ายถ้าถอยไม่ดูผมว่ามีพลาดได้ง่ายๆเลยครับ แต่ถ้าพูดถึงสมรรถนะก็โอเคครับคิดว่าดีครับ

กล้อง ผมว่าเพิ่มได้นะครับ ศูนย์คงทำให้ได้ เพราะยังไงมันต้องมีโปรแกรมอยู่แล้วเพียงแค่ไป on มันให้ใช้ได้ เหมือนกับที่ Ranger ในคลับตัว XLT เบิกมาทำเอง ตอนนี้เล่นได้หมดเลย