ผู้เขียน หัวข้อ: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม  (อ่าน 22614 ครั้ง)

ออฟไลน์ shipcake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
ผมว่ามันต้องใช่แน่ๆในความคิดผม ไฮเทคเยอะ ปัญหาเยอะ ค่าซ่อมบาน

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
ถ้าคิดแบบนั้นก็ได้ครับ เหมือนซื้อโซฟาดีๆแพงๆก็ซ่อมแพง งั้นก็ปูเสื่อดูทีวีต่อไป
ความสะดวกสบายมันก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นเป็นธรรมดา ขึ้นกับว่าคุ้มที่จะแลกมั้ย แต่ละคนก็มีความจำเป็นและให้ความสำคัญกับบางเรื่องต่างกันไป รถเองก็มีหลายรุ่นให้เลือกนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 31, 2019, 18:31:23 โดย Jacob »

ออฟไลน์ The Mechanics of Emotions

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,683
จริงครับ ยิ่งเยอะ ยิ่งล้ำ ยิ่งแพง แต่ตามความคิดเห็นบนครับ ถ้าไม่อยากซ่อมบำรุงแพง ก็ต้องใช้รถโล้นๆ ต่อไป  :)
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,728
  • Nine & Knight
ก็คิดว่าใช่ครับ บ้านเราร้อน+ชื้นก็ยิ่งทำให้มันเสียหรือจุกจิกมากขึ้น
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,871
ไฮเทคเยอะ = ปัญหาเยอะ
งั้นเครื่องบินคงต้องตกกันเป็นรายวันเลยนะครับ

แต่ถ้าไฮเทคเยอะ = ซ่อมกันบาน
อันนี้ใกล้เคัยงเลยครับ

เอาว่าจอทัชสกรีน ถ้าเสีย ก็เปลี่ยนจอ ราคา 1/4 ของอุปกรณ์ หรือเปลี่ยนทั้งอุปกรณ์

หรือถ้า ecu เสีย ก็คงจ่ายค่าเปลี่ยนอย่างเดียว ก็ถือว่าบาน

แต่ทั้งหมดก็อยู่ทีาผู้ผลิตจะกำหนดแหละครับ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,400
มันมีโอกาสจะเสียเยอะขึ้นครับแต่เดี๋ยวนี้สเปคก้ดีขึ้นการทดสอบก้หนักขึ้น ทำให้ดีขึ้นมากละครับ

ถ้าถามผมๆเอาครับ ดีกว่าจมอยู่กับของเดิมๆน่าเบื่อครับ เทคโนโลยีมันต้องพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ YClub

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • อีเมล์
ปัญหาเยอะเน๊อะ
แต่คงไม่เจอหม้อน้ำรั่วนะ

ออฟไลน์ onbit40

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 215
ก็ไม่จริงเสมอไป บางตัว modular ถอดเปลียน ไม่เสียเวลาซ่อม แล้วแต่ค่ายจะ charge แพงถูกก็แล้วแต่

ออฟไลน์ ferero000

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 202
ก็คิดว่าจริงครับ เมื่อก่อนที่บ้านผมจะเชียร์ให้มีของเล่นเยอะๆ ระบบเยอะๆ หลังๆเห็นรถไฮบริดมีปัญหาบ่อยขึ้นมาก คันล่าสุดนี่ผมเอาเท้านอนยันว่ายังไงก็ไม่เอารถไฟฟ้า ไม่อยากปวดหัว พังไม่ว่า ที่ศูนย์บริการจะรับผิดชอบที่เราเสียเวลา ความรู้สึก ความคุ้มค่า นั้นอีกเรื่องเลยครับ

ออฟไลน์ CNX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,300
    • อีเมล์
กรณีตัวอย่าง มีให้พิจารณาเรื่อยๆครับ
คันก่อนนี้เคยเป็นติ่งFORD ซ่อมเหนื่อย
ตอนนี้ใช้HONDA รถเก่า8ปี วิ่งงานหนัก วันละ100-400กม. ไม่งอแงเลยครับ แค่เปลี่ยนของเหลว เกียร์ เครื่อง เฟืองท้าย เบรก สบายใจครับ
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,456
ผมว่าจริงนะ ยิ่งชิ้นส่วนมาก ก็มีโอกาสเสียมากเช่นเดียวกัน

ออฟไลน์ Nerdys

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 701
อาจจะไม่ใช่ รถเบ็นซ์ที่ปัญหาเยอะ เพราะคนใช้เยอะ โอกาสที่จะเจอก็เยอะ + social media
น่าสนใจว่าถ้า BMW กับ Lexus ขายได้เท่าเบ็นซ์ จะมี % จำนวนคันที่เสียขึ้นยานแม่/จำนวนคันที่ขายได้ เท่าเบ็นซ์หรือเปล่า

แต่หลังๆ มา Camry Accord อัดออฟชั้นระบบ electronic เยอะมาก ระบบ sensing ต่างๆ
แต่ไม่ยักมีข่าวขึ้นยานแม่บ่อยเท่าเบ็นซ์ คงต้องดูระยะยาวต่อไป
อาจเป็นเพราะ Accord กับ Camry เองก็ยังขายได้จำนวนน้อยกว่าเบ็นซ์

ออฟไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
อาจจะไม่ใช่ รถเบ็นซ์ที่ปัญหาเยอะ เพราะคนใช้เยอะ โอกาสที่จะเจอก็เยอะ + social media
น่าสนใจว่าถ้า BMW กับ Lexus ขายได้เท่าเบ็นซ์ จะมี % จำนวนคันที่เสียขึ้นยานแม่/จำนวนคันที่ขายได้ เท่าเบ็นซ์หรือเปล่า

แต่หลังๆ มา Camry Accord อัดออฟชั้นระบบ electronic เยอะมาก ระบบ sensing ต่างๆ
แต่ไม่ยักมีข่าวขึ้นยานแม่บ่อยเท่าเบ็นซ์ คงต้องดูระยะยาวต่อไป
อาจเป็นเพราะ Accord กับ Camry เองก็ยังขายได้จำนวนน้อยกว่าเบ็นซ์

ที่เห็นขึ้นยานแม่ ไม่ได้แปลว่ามีระบบไฟรวนหรืออะไรเสียเสมอไปน่ะครับ บางทียางรั่วเค้าก็เรียกขึ้นยานแม่กันแล้วครับ
ผมเห็นบ่อย (เพราะถ้าจำไม่ผิด เค้าเรียกใช้บริการยานแม่ได้ฟรีมั้งครับ) แต่ก้อาจจะเสียจริงๆก็ได้ครับ

________________________________________________


เรื่องระบบไฟฟ้ายิ่งเยอะก็ยิ่งจุกจิกมากขึ้นในอนาคต เป็นธรรมดาครับ

ออฟไลน์ CaN_Paktarathon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 19
     ส่วนตัวขอยืนยันว่าจริงครับ เคยมีโอกาสเป็นเจ้าของ BMW Z4 E89 มา 3 ปี (ปัจจุบันขายทิ้งไปเล่น RX-8)
ระบบไฟฟ้าถ้าแบตอ่อนเมื่อไร ระบบรวนเมื่อนั้นครับ ที่เจอหลักๆ แต่ไม่บ่อยมีประมาณนี้ครับ

1.เวลาเปิดประตูกระจกไม่ลดเอง ผลคือเปิดประตูไม่ได้ ต้องฝืนเปิดประตูแล้วสตาร์ทรถเพื่อให้ระบบไฟทำงาน
  (กลัวงัดกระจกแตกมาก)
2.ระบบไฟฟ้าดูดไฟจากแบตตลอดเวลา เช้ามาแบตเดี้ยงครับ อันนี้นรกจริงๆ รีโมตเปิดได้แค่ครั้งเดียว สตาร์ทไม่ได้
ต้องหาสายชาร์จแบบ Slow Charge รอไป 8 ชม. กว่าไฟแบตจะเต็ม เอาเข้าศูนย์ไม่เจออาการ เป็นได้สัปดาห์กว่า
ทนไม่ไหว ทำ Hard Reset แบตเองเลย (ถอดขั้วแบตโดยตรง) ผลคืออาการหายสนิท...
3.Module คุมระบบไฟส่องสว่างรวน เปิดไฟหน้าและไฟเลี้ยวไม่ได้ ศูนย์บอกกล่องพังเสนอราคามาลมแทบจับ
เลยต้องไปปรึกษาอู่ สรุป Code กล่องใหม่ เสียไป 6,000.- แบบงงๆ

**ปัจจุบันขายไปแล้วแต่ยังแอบคิดถึงอยู่... เป็นรถที่สวย... แต่พอได้ใช้ชีวิตด้วยกันสักพัก รู้สึกว่ามันเป็นรถที่ไม่น่าคบด้วย...

ออฟไลน์ ferero000

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 202
     ส่วนตัวขอยืนยันว่าจริงครับ เคยมีโอกาสเป็นเจ้าของ BMW Z4 E89 มา 3 ปี (ปัจจุบันขายทิ้งไปเล่น RX-8)
ระบบไฟฟ้าถ้าแบตอ่อนเมื่อไร ระบบรวนเมื่อนั้นครับ ที่เจอหลักๆ แต่ไม่บ่อยมีประมาณนี้ครับ

1.เวลาเปิดประตูกระจกไม่ลดเอง ผลคือเปิดประตูไม่ได้ ต้องฝืนเปิดประตูแล้วสตาร์ทรถเพื่อให้ระบบไฟทำงาน
  (กลัวงัดกระจกแตกมาก)
2.ระบบไฟฟ้าดูดไฟจากแบตตลอดเวลา เช้ามาแบตเดี้ยงครับ อันนี้นรกจริงๆ รีโมตเปิดได้แค่ครั้งเดียว สตาร์ทไม่ได้
ต้องหาสายชาร์จแบบ Slow Charge รอไป 8 ชม. กว่าไฟแบตจะเต็ม เอาเข้าศูนย์ไม่เจออาการ เป็นได้สัปดาห์กว่า
ทนไม่ไหว ทำ Hard Reset แบตเองเลย (ถอดขั้วแบตโดยตรง) ผลคืออาการหายสนิท...
3.Module คุมระบบไฟส่องสว่างรวน เปิดไฟหน้าและไฟเลี้ยวไม่ได้ ศูนย์บอกกล่องพังเสนอราคามาลมแทบจับ
เลยต้องไปปรึกษาอู่ สรุป Code กล่องใหม่ เสียไป 6,000.- แบบงงๆ

**ปัจจุบันขายไปแล้วแต่ยังแอบคิดถึงอยู่... เป็นรถที่สวย... แต่พอได้ใช้ชีวิตด้วยกันสักพัก รู้สึกว่ามันเป็นรถที่ไม่น่าคบด้วย...


กุญแจในมือผมสั่นเลยครับ 55555 รถผมตอนนี้ 4 ปีกว่าๆ 27,000 km ตอนนี้มีปัญหาแค่ตอตรงกลางเวลาพับลงเสียงจะดังแกร้กๆ เหมือนมีชิ้นส่วนอะไรหลุดสักอย่าง เอาเข้าไปแก้ที่ศูนย์ออกมาเป็นเหมือนเดิม 555555555

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,599
  • may the force lead your way ...
จริงหลายระดับครับ  :o

ระดับพื้นฐาน  :-\
ของทุกอย่างมีความเสื่อม มีระบบเพิ่มก็ยิ่งเพิ่มอุปกรณ์จุดต้องซ่อม
ปัญหาเยอะตามมา

ตัวแปรเเสี่ยงยอะขึ้น ทั้งตำแหน่งติดตั้ง การโปรแกรม การบาลานซ์โหลด
หลายๆอย่างมันทำให้เสี่ยงเพิ่มทีละน้อย มีผลต่ออายุการใช้งาน

ระดับ.. อะไรไม่รู้  ;D
ยกตัวอย่างเทียบเคียง คนที่รู้จักในนั้นเล่าให้ฟัง
โรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชื่อดังก่อนถูกบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโอเวอร์
ทำชิ้นส่วนอ่อนไหวออกมา บ.ยักษ์คู่ค้า อัด qc ห้ามต่ำกว่า 90% up ถึงจะยอมจ่าย

แต่พอเทคโอเวอร์เสร็จ เอาหมด ใช้ได้ทุกอย่างทันที %ไม่มีผลอีกต่อไป 20-30%ก็เอา
เพื่อเพิ่มจำนวนการผลิตให้ทันต่อตลาด

ซึ่งหลายๆธุรกิจ ถ้าทำเองตั้งแต่ต้นน้ำ มักไม่พ้นรูปแบบนี้เพื่อลดต้นทุน
จะเห็นว่าความเสี่ยงไปตกผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ประมาณนี้ครับ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Altima

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,149
ไม่ครับ

Land Cruiser 2019 vs. Alfa Romeo 156 2003

อันไหนจะพังง่ายและมีปันหาเยอะกว่ากันครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,635
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 02:47:30 »
ต้นทุน​กับ​ชิ้นส่วน​ถ้าลดราคา​มากไป​ชิ้นส่วน​อาจไม่ดีตามราคา
ถ้าแพงไปก็ไปลดต้นทุน​อื่น​ เช่นออฟชั่น​โดนหั่นแต่ราคา​ยังสูง
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,017
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 05:12:13 »
ขอเรียกว่ามีโอกาสเจอปัญหามากกว่า ได้ไหมครับ

และเสียที ก็ซ่อมแพงกว่าด้วย

แต่ถ้าไม่เสียนี่ โดยรวมจะสะดวก สบาย ปลอดภัยมากครับ

ระบบไฟฟ้าต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องยนต์ก็ใช่ย่อยครับ
ช่วยเรื่องประสิทธิภาพได้มาก แต่เสียมาทีนี่น้ำตาตกใน
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,530
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 07:04:24 »
ก็คิดว่าจริงครับ เมื่อก่อนที่บ้านผมจะเชียร์ให้มีของเล่นเยอะๆ ระบบเยอะๆ หลังๆเห็นรถไฮบริดมีปัญหาบ่อยขึ้นมาก คันล่าสุดนี่ผมเอาเท้านอนยันว่ายังไงก็ไม่เอารถไฟฟ้า ไม่อยากปวดหัว พังไม่ว่า ที่ศูนย์บริการจะรับผิดชอบที่เราเสียเวลา ความรู้สึก ความคุ้มค่า นั้นอีกเรื่องเลยครับ

แยกกันก่อนไหมครับ รถไฟฟ้า กับรถไฮบริท
รถไฮบริทคือรถที่มีระบบสันดาบและถ่านลูกเล็กอยู่ในคันเดียวกัน
แต่รถไฟฟ้า ผมว่าค่าบำรุงต่ำกว่าเยอะ บำรุงด้านไฟฟ้าอย่างเดียว

ดูสารคดีที่เอา tesla มาทำแท็กซี่ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าเยอะมาก (ที่ตปท)
ทีีไทยก็คงต้องใช้เวลาให้ช่างรู้ระบบไฟฟ้าอย่างถ่องแท้ก่อน

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,056
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 07:35:14 »
     ส่วนตัวขอยืนยันว่าจริงครับ เคยมีโอกาสเป็นเจ้าของ BMW Z4 E89 มา 3 ปี (ปัจจุบันขายทิ้งไปเล่น RX-8)
ระบบไฟฟ้าถ้าแบตอ่อนเมื่อไร ระบบรวนเมื่อนั้นครับ ที่เจอหลักๆ แต่ไม่บ่อยมีประมาณนี้ครับ

1.เวลาเปิดประตูกระจกไม่ลดเอง ผลคือเปิดประตูไม่ได้ ต้องฝืนเปิดประตูแล้วสตาร์ทรถเพื่อให้ระบบไฟทำงาน
  (กลัวงัดกระจกแตกมาก)
2.ระบบไฟฟ้าดูดไฟจากแบตตลอดเวลา เช้ามาแบตเดี้ยงครับ อันนี้นรกจริงๆ รีโมตเปิดได้แค่ครั้งเดียว สตาร์ทไม่ได้
ต้องหาสายชาร์จแบบ Slow Charge รอไป 8 ชม. กว่าไฟแบตจะเต็ม เอาเข้าศูนย์ไม่เจออาการ เป็นได้สัปดาห์กว่า
ทนไม่ไหว ทำ Hard Reset แบตเองเลย (ถอดขั้วแบตโดยตรง) ผลคืออาการหายสนิท...
3.Module คุมระบบไฟส่องสว่างรวน เปิดไฟหน้าและไฟเลี้ยวไม่ได้ ศูนย์บอกกล่องพังเสนอราคามาลมแทบจับ
เลยต้องไปปรึกษาอู่ สรุป Code กล่องใหม่ เสียไป 6,000.- แบบงงๆ

**ปัจจุบันขายไปแล้วแต่ยังแอบคิดถึงอยู่... เป็นรถที่สวย... แต่พอได้ใช้ชีวิตด้วยกันสักพัก รู้สึกว่ามันเป็นรถที่ไม่น่าคบด้วย...
ขอนอกเรื่องไปหา RX8 หน่อยครับ ว่าใช้ชีวิตด้วยกันแล้วเป็นไงบ้างครับ .. เท่าที่เคยถามอู่มาเหมือนมีจุดที่ต้องระวังจุดเดียวคือ apex seal ตอนแถวๆ 100,000 นอกนั้นไม่มีอะไรน่าห่วง ... หุ่นมันสวยบาดตาจริงๆ

ออฟไลน์ 20TRF

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 535
    • อีเมล์
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 08:19:49 »
จริงครับ
ออกจากศูนย์มาเอาไปติดฟิล์มที่ร้าน กลับมาฝาท้ายไฟฟ้าใช้งานไม่ได้
เซ็งเป็ด ออกมาวันเดียวต้องกลับเข้าศูนย์

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 08:22:28 »
อาจจะไม่ใช่ รถเบ็นซ์ที่ปัญหาเยอะ เพราะคนใช้เยอะ โอกาสที่จะเจอก็เยอะ + social media
น่าสนใจว่าถ้า BMW กับ Lexus ขายได้เท่าเบ็นซ์ จะมี % จำนวนคันที่เสียขึ้นยานแม่/จำนวนคันที่ขายได้ เท่าเบ็นซ์หรือเปล่า

แต่หลังๆ มา Camry Accord อัดออฟชั้นระบบ electronic เยอะมาก ระบบ sensing ต่างๆ
แต่ไม่ยักมีข่าวขึ้นยานแม่บ่อยเท่าเบ็นซ์ คงต้องดูระยะยาวต่อไป
อาจเป็นเพราะ Accord กับ Camry เองก็ยังขายได้จำนวนน้อยกว่าเบ็นซ์
เบนซ์มันบ่อยจริงๆครับ บ่อยพอๆกับฟอร์ดแหละครับ ส่วน lexus มีการวิจัยออกมาแล้วครับว่าเป็นรถที่ทนทานมากครับ ไม่ค่อยเสียด้วย.......แต่เวลาเสียก็หลายตังค์อยู่ครับ

ออฟไลน์ paulmoderndog

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,781
    • อีเมล์
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 08:39:45 »
อนาคต เครื่องก็จะมาเป็นไฟฟ้าด้วยซ้ำไป

ตอนนี้เริ่มจะพยายามทำใจว่ารถก็คล้ายกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ใช้แล้วเสื่อม อนาคต รถทุกคันในไทยอาจจะห้ามขับเมื่ออายุเกิน10ปี

https://electrek.co/2019/01/31/mercedes-be-all-electric-concept-mpv-family-van-in-geneva-slated-for-2022-debut/

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,562
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 08:44:16 »
ก็ปกติของรุ่นใหม่ๆๆครับ ยิ่งใหม่ ยิ่งใส่เทคโนโลยี เข้าไป

ต้องปรับตัวและพฤติกรรมการขับด้วย


ช่วงเปลี่ยนจากระบบเครื่องยนต์ล้วนไปไฟฟ้าล้วนหรือแบบอื่น (ไม่รู้กินเวลากี่สิบปี)


ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 09:12:17 »
จริง 1,000,000%

อะไรที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ปัญหาย่อมมากขึ้นตาม

แต่ถ้ามันโล้นๆ ไม่มีอะไรเลย คุณจะซื้อไหม
บางคนอาจจะสวนขึ้นมาทันทีว่าซื้อ อันนั้นมันอาจจะเป็นตัวคุณคนเดียว
ครอบครัว คุณเอาด้วยไหม???

จากขับ Raptor 1.7ล
กลับไปขับ มังกรทองรุ่นแรก 2.68แสน ไม่รวมแอร์ ไม่มีแม้กระจกไฟฟ้า และอำนวยความสะดวกอื่นๆจะเอาไหม??

"...อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน
เติมความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน
และทำสิ่งนั้นให้ดี ที่สุด..."
Cr - Live and Learn กมลา สุโกศล
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,418
    • อีเมล์
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 09:18:58 »

ไม่จริงครับ
ผมว่ารถค่ายดีๆ ทำดีๆก็มี

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,230
    • อีเมล์
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 09:26:43 »
ผมว่ามันต้องใช่แน่ๆในความคิดผม ไฮเทคเยอะ ปัญหาเยอะ ค่าซ่อมบาน

จำเป็นด้วยเหรอครับที่ "รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ" ผมว่าไม่ใช่มั้ง

มันอยู่ที่
- ยี่ห้อ เพราะบางยี่ห้อใช้ supplier เดิมๆ พอมีปัญหาหรือความทนทายของชิ้นส่วน ก็บานเหมือนดอกเห็ด ลามไปรุ่นอื่นๆ ด้วย
- รุ่นนั้น เพราะ ยี่ห้อเดี่ยวกัน ออฟชั่นพอๆ กัน แต่คนละรุ่น ปัญหาก็ต่างกันละ
- คันนั้น เพราะ รุ่นเดียวกัน บางคันมีปัญหาแบบนึง อีกคันมีปัญหาแบบนึง บางทีมาจากการใช้งานด้วย

สำหรับผม ระบบที่บอกว่าไฮเทค หรือ ไฟฟ้าเยอะๆ ในบางยี่ห้อ ปัญหาแทบไม่มีเลย

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,982
    • อีเมล์
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 09:50:54 »
ผมว่ามันต้องใช่แน่ๆในความคิดผม ไฮเทคเยอะ ปัญหาเยอะ ค่าซ่อมบาน

จำเป็นด้วยเหรอครับที่ "รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ" ผมว่าไม่ใช่มั้ง

มันอยู่ที่
- ยี่ห้อ เพราะบางยี่ห้อใช้ supplier เดิมๆ พอมีปัญหาหรือความทนทายของชิ้นส่วน ก็บานเหมือนดอกเห็ด ลามไปรุ่นอื่นๆ ด้วย
- รุ่นนั้น เพราะ ยี่ห้อเดี่ยวกัน ออฟชั่นพอๆ กัน แต่คนละรุ่น ปัญหาก็ต่างกันละ
- คันนั้น เพราะ รุ่นเดียวกัน บางคันมีปัญหาแบบนึง อีกคันมีปัญหาแบบนึง บางทีมาจากการใช้งานด้วย

สำหรับผม ระบบที่บอกว่าไฮเทค หรือ ไฟฟ้าเยอะๆ ในบางยี่ห้อ ปัญหาแทบไม่มีเลย

เห็นด้วยครับ ผมว่าอยู่ที่ยี่ห้อรถ และคุณภาพอุปกรณืที่ใส่มาให้มากกว่า

ประสบการตรงของผมคือ  D-Max คันเก่าผม ปี 2004 (ปัจจุบันขายไปนานแล้ว) มีปัญหากระจกไฟฟ้าคนขับติดขัดตั้งแต่ 2 ปีแรก เนื่องจากมอเตอร์เสีย ใช้ๆซ่อมๆมาจน 8 ปีจนกระทั่งขายรถ (ทั้งๆที่ระบบไฟฟ้าของรุ่นนี่มีแค่กระจกไฟฟ้าและ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าเท่านั้น เครื่องยนต์ยังเป็น DI ไม่ใช่คอมม่อนเรล)

แต่มาสด้า 3 ปัจจุบันปี 2010 ตอนซื้อมีแต่คนทัก ระวังซันรูฟเสียบ้าง น้ำรั่วบ้าง(ไม่รู้ไปฟังมาจากไหน) ตอนนี้ระบบไฟฟ้าของรถใช้ได้ทุกอย่าง 100% ไม่เคยเสียไม่เคยติดขัดอะไรเลย ระบบกุญแจ Keyless Entry  ที่ตอนนั้นเป็นเจ้าแรกๆเลยมั้งที่เข้ารถและสต๊าทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจไข ก็มีแต่คนทักว่า ถ้าเสียมาจะทำไง .. ตอนนี้ก็ยังใช้งานได้ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ตลอด 8 ปีเต็ม

บอกทีระบบไฟฟ้าเสียไม่เสีย มันอยู่ที่คุณภาพของอุปกรณ์ที่เค้าใส่มาให้มากกว่าครับ รถเพื่อนผม โตโยต้าคราว รถ20 กว่าปี ฝาท้ายไฟฟ้ายังใช้งานได้ดีอยู่เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 09:54:11 โดย apinui »

ออฟไลน์ ไทบ้าน

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,665
Re: รถระบบไฮเทคไฟฟ้าเยอะ = ปัญหาเยอะ พี่ๆว่าจริงไหม
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 09:56:04 »
จริงแท้แน่นอนครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการออกแบบและผลิตของแต่ละแบรนด์ด้วยซึ่มผมก็เชื่อว่าเทคโนโลยีที่ผลิตมาจากแต่ละยี่ห้อมีความทนทานต่างกัน  การแข่งขันด้านอ็อปชั่นทำให้รถยนต์ทุกวันนี้มักจะยัดเยียดเทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นมาให้จนคนขับแทบจะเป็นง่อยแล้ว

ส่วนการจะซื้อที่นั่งมาดูทีวีถ้าผมมีตังค์ก็คงไม่ปูเสื่อนั่งเหมือนสมัยที่ยังยากจนหรอกครับ แต่ผมจะเลือกที่นั่งที่มั่นคงแข็งแรงใช้ได้คุ้มค่านานปี  ถ้าโซฟาอันไหนราคาแพงเกินไปด้วยใส่เทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นและการใช้งานสั้นผมก็คงไม่ซื้อครับ มีเงินแล้วคงไม่โง่ไปปูเสื่อนั่งแน่นอนครับ
1990 Yamaha Mate-100
1992 Yamaha Bell-100
2000 Yamaha Tiara-R
2017 Yamaha MT-03