ผู้เขียน หัวข้อ: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.  (อ่าน 3642 ครั้ง)

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 527
    • อีเมล์
ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 06:40:03 »
เป็นการตอบสองกระทู้ก่อนหน้านี้ว่า ทำไมผู้ผลิตรถญี่ปุ่น เขาไม่กังวลเท่าสื่อญี่ปุ่นว่าตลาดรถเมืองไทยจะถูกจีนรุกกินส่วนแบ่ง และตอบคำถามที่ว่าทำไมผู้ผลิตรถญี่ปุ่นไม่รีบผลิต BEV ขายเมืองไทย


ออฟไลน์ sk-non

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 502
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 07:54:02 »
เดือน กค ดอลฟินพึ่งรับรถกันไปเพียบเลย
น่าจะทยอยจดเดือนนี้


ออฟไลน์ rojsak2021

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
    • อีเมล์
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 08:05:39 »
ไม่ได้ดูคลิป แต่คิดว่ายอดน่าจะเด้งขึ้นในเดือนถัดๆไป จากความรู้สึกคนจะใช้ EV มากขึ้นเรื่อยๆ ปีหน้า cherry ก็จะมาอีก

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,002
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 08:53:40 »
ตลาดกำลังค่อยๆเปลี่ยนครับ
รอดูระยะยาวกันต่อไป
บ้านผมอยู่ ตจว. รถไฟฟ้าป้ายแดงประมาน 20-25% คนใช้เยอะมากๆ

ออฟไลน์ Mr.Boogie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 08:58:51 »
ไปลองดูยอดขายครึ่งปีแรกตอนนี้พวกญี่ปุ่นแบรนด์รองๆทั้ง Nissan Mazda Susuki ยอดรวมทั้งค่ายยังน้อยกว่า BYD ขายแค่รุ่นเดียว ก็เห็นภาพละอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น

ออนไลน์ Chicken Wings

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 270
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 09:43:15 »
ถ้าเดือนหน้ายอดพุ่ง ช่วยมาตั้งกระทู้อธิบายแบบนี้ด้วยนะครับ


ออฟไลน์ Altima

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,149
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 09:46:25 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

ออฟไลน์ Fragile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 484
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 09:51:19 »
จะให้เพิ่มขึ้นทุกเดือนเลยเหรอครับ

คนซื้อรถเค้าไม่ได้ซื้อกันทุกเดือนนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 09, 2023, 09:54:17 โดย Fragile »

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 09:59:44 »
ผมว่าผ่านไปซักพัก  EV จะเริ่มอิ่มตัว   ตอนนี้มันยังแทนที่ รถน้ำมันไม่ได้

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,201
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 10:04:47 »
ไปลองดูยอดขายครึ่งปีแรกตอนนี้พวกญี่ปุ่นแบรนด์รองๆทั้ง Nissan Mazda Susuki ยอดรวมทั้งค่ายยังน้อยกว่า BYD ขายแค่รุ่นเดียว ก็เห็นภาพละอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น

ยอดของแบรนด์พวกนี้หลักๆมาจากเก๋ง Eco/B-Segment ซึ่งยอดกลุ่มนี้มันไปกองรวมที่ Ativ หมดครับ มันก็ไม่แปลกที่ยอดสามแบรนด์ที่ว่าจะลดลง มันต้องดูยอดรวมทั้งกลุ่มครับว่าลดลงมั้ย

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,017
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 10:04:57 »
ผมว่าก็ถือเป็นข้อมูลนะ จะขึ้น จะลงก็เป็นไปตามสภาพตลาดและความสามารถในการส่งมอบ ไม่น่าจะมาแขวะกันนะครับ งง  8) 8) 8)

ที่น่าสนใจอีกอย่าง เห็นว่ามาตรการการคลังในการลดภาษีน้ำมันดีเซลหมดลงแล้ว ตอนนี้ส่วนต่างไปลงที่กองทุนเต็มๆ

ไม่ว่าเราจะคิดเห็นอย่างไร ถ้ายังตั้งรัฐบาลไม่ได้ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าดีเซลก็อาจจะเริ่มปรับขึ้น (เดาว่าทยอยขึ้น รวมๆ อาจจะมี 5 บาทในขั้นต่ำ)

ถ้าดีเซลดีดกลับไปราคาตลาดยาวๆ เดาว่ากระบะไฟฟ้าอาจจะมาเร็วขึ้น หรือกระบะเบนซิลติดแก๊สอาจจะกลับมาบางส่วน

Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,367
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 10:28:43 »
ยอดขาย มันก็ขึ้นๆลงๆแบบนี้แหละครับ
รอดูว่า โลมา เริ่มส่งมอบได้ เดือนนี้ยอดขายจะเป็นยังไง + Model3 ตัวใหม่เปิดตัวเมื่อไหร่ คงกระเตื้องกันขึ้นอีกระดับ

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 437
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 11:54:11 »
ไม่แปลกนะครับ รถไฟฟ้าเรท 1 ล้าน+- ถ้าไม่นับดอลฟินที่เพิ่งเปิดตัว ที่เหลือคือเปิดตัวมาร่วมปีแล้ว

ยอดขายก็ต้องลดลงเป็นธรรมดา

ออฟไลน์ Mine

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 14:08:26 »

เบรกขายรถ EV สิ้นไตรมาส 3 หวั่นลูกค้าชวดเงินอุดหนุน

https://www.prachachat.net/motoring/news-1363512

ออฟไลน์ romeokk

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 14:29:37 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

เรื่องแบบนี้มันมองด้านเดียวไม่ได้ครับ

ทำ FTA แปลว่านอกจากเค้ามาขายเราได้ เราก็เอาไปขายเค้าได้เช่นกัน เป็นการปลดล็อคสินค้าอีกหลายๆรายการ ที่จากเดิมมีภาษี ก็ให้ลดลง หรือตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจจีนโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะเปิดเสรีนำเข้ารถให้จีน แต่ไม่เปิดให้ญี่ปุ่น เพื่อแลกกับของอีกจำนวนมากของเรา ไปขายให้กับจีนได้

ถามว่าขาดดุลมั้ย ก็ขาดแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มาจากเรื่องรถไฟฟ้าจีน คือภาครัฐของไทยก็พยายามจะดันเรื่องรถไฟฟ้า แต่ดันเองก็ไม่ไหว ดังนั้นการที่ให้จีนเข้ามา เมื่อทำราคารถได้ คนก็ซื้อเยอะ ซื้อไปเยอะ ทางเอกชนก็เริ่มลงทุนเรื่อง Infrastructure ของรถไฟฟ้าได้เร็ว

รถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่เน้นขาย เน้นโชว์ เน้นกำไรต่อคันสูงๆเข้าว่า ก็ไม่น่าจะ drive อะไรเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศได้เลย

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,230
    • อีเมล์
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 16:21:46 »
ช่วงเห่อตอนแรกด้วย

ช่วงได้เงินอุดหนุน

ช่องปรับตัว

พอผ่านไปสักพัก คนเริ่มเข้าที่เข้าทาง ทั้งความรู้ ข้อมูล การใช้งาน ข้อจำกัด

ออฟไลน์ EVA01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 532
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 16:22:54 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

เรื่องแบบนี้มันมองด้านเดียวไม่ได้ครับ

ทำ FTA แปลว่านอกจากเค้ามาขายเราได้ เราก็เอาไปขายเค้าได้เช่นกัน เป็นการปลดล็อคสินค้าอีกหลายๆรายการ ที่จากเดิมมีภาษี ก็ให้ลดลง หรือตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจจีนโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะเปิดเสรีนำเข้ารถให้จีน แต่ไม่เปิดให้ญี่ปุ่น เพื่อแลกกับของอีกจำนวนมากของเรา ไปขายให้กับจีนได้

ถามว่าขาดดุลมั้ย ก็ขาดแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มาจากเรื่องรถไฟฟ้าจีน คือภาครัฐของไทยก็พยายามจะดันเรื่องรถไฟฟ้า แต่ดันเองก็ไม่ไหว ดังนั้นการที่ให้จีนเข้ามา เมื่อทำราคารถได้ คนก็ซื้อเยอะ ซื้อไปเยอะ ทางเอกชนก็เริ่มลงทุนเรื่อง Infrastructure ของรถไฟฟ้าได้เร็ว

รถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่เน้นขาย เน้นโชว์ เน้นกำไรต่อคันสูงๆเข้าว่า ก็ไม่น่าจะ drive อะไรเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศได้เลย

เห็นด้วยครับ ผมว่าการที่มองแค่เรื่องรถไฟฟ้าแล้วไปแซะเรื่อง FTA นี่ คงไม่ถูกต้องเท่าไหร่

ออฟไลน์ Mp4_007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 786
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 18:03:18 »
เดี๋ยวพอเงินอุดหนุนหมด ราคารถดีดเพิ่มอีก2แสน ยอดจะยอดลงแบบชัดเจนและเยอะกว่านี้อีก

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,201
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 21:37:08 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

เรื่องแบบนี้มันมองด้านเดียวไม่ได้ครับ

ทำ FTA แปลว่านอกจากเค้ามาขายเราได้ เราก็เอาไปขายเค้าได้เช่นกัน เป็นการปลดล็อคสินค้าอีกหลายๆรายการ ที่จากเดิมมีภาษี ก็ให้ลดลง หรือตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจจีนโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะเปิดเสรีนำเข้ารถให้จีน แต่ไม่เปิดให้ญี่ปุ่น เพื่อแลกกับของอีกจำนวนมากของเรา ไปขายให้กับจีนได้

ถามว่าขาดดุลมั้ย ก็ขาดแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มาจากเรื่องรถไฟฟ้าจีน คือภาครัฐของไทยก็พยายามจะดันเรื่องรถไฟฟ้า แต่ดันเองก็ไม่ไหว ดังนั้นการที่ให้จีนเข้ามา เมื่อทำราคารถได้ คนก็ซื้อเยอะ ซื้อไปเยอะ ทางเอกชนก็เริ่มลงทุนเรื่อง Infrastructure ของรถไฟฟ้าได้เร็ว

รถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่เน้นขาย เน้นโชว์ เน้นกำไรต่อคันสูงๆเข้าว่า ก็ไม่น่าจะ drive อะไรเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศได้เลย

ประเด็นคือขาดดุล 1.3 ล้านล้านบาทมันคุ้มมั้ยล่ะครับ เราแทบไม่ได้อะไรเลยแถมเสียเยอะกว่ามาก

ส่วนประเด็นที่ภาครัฐพยายามดันรถไฟฟ้าด้วยการทำ FTA นี่ผมยังมองไม่ออกว่าเราจะได้ประโยชน์ยังไงในเมื่อก็มี BOI ให้มาประกอบอยู่แล้ว

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,752
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 22:21:38 »
คนไทยนี่ประหลาดนะครับต่อต้านทุกอย่างที่เป็นของใหม่ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้ผลิตรถขายอะไร มีแต่ซื้อเค้าใช้แต่พยายามรังเกียจรถไฟฟ้าจังงงงงเลย มีใครบังคับให้ซื้อรถไฟฟ้าไหมก็ไม่ รถน้ำมันจะหายไปในปีหน้าไหนก็ไม่ มีกลุ่มคนที่กล้าทดลองใช้บุกเบิกเป็นกลุ่มแรกๆก็ไม่เอาอีก ราวกับอยากให้รถไฟฟ้าขายไม่ดีอยากให้มันล้มหายตายจากไปจากประเทศไทย ไม่เข้าใจจริงๆว่าการมีอยู่ของรถไฟฟ้าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมันเดือดร้อนหรือยังไงต้องต่อต้านจัง
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 22:21:48 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

เรื่องแบบนี้มันมองด้านเดียวไม่ได้ครับ

ทำ FTA แปลว่านอกจากเค้ามาขายเราได้ เราก็เอาไปขายเค้าได้เช่นกัน เป็นการปลดล็อคสินค้าอีกหลายๆรายการ ที่จากเดิมมีภาษี ก็ให้ลดลง หรือตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจจีนโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะเปิดเสรีนำเข้ารถให้จีน แต่ไม่เปิดให้ญี่ปุ่น เพื่อแลกกับของอีกจำนวนมากของเรา ไปขายให้กับจีนได้

ถามว่าขาดดุลมั้ย ก็ขาดแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มาจากเรื่องรถไฟฟ้าจีน คือภาครัฐของไทยก็พยายามจะดันเรื่องรถไฟฟ้า แต่ดันเองก็ไม่ไหว ดังนั้นการที่ให้จีนเข้ามา เมื่อทำราคารถได้ คนก็ซื้อเยอะ ซื้อไปเยอะ ทางเอกชนก็เริ่มลงทุนเรื่อง Infrastructure ของรถไฟฟ้าได้เร็ว

รถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่เน้นขาย เน้นโชว์ เน้นกำไรต่อคันสูงๆเข้าว่า ก็ไม่น่าจะ drive อะไรเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศได้เลย

ประเด็นคือขาดดุล 1.3 ล้านล้านบาทมันคุ้มมั้ยล่ะครับ เราแทบไม่ได้อะไรเลยแถมเสียเยอะกว่ามาก

ส่วนประเด็นที่ภาครัฐพยายามดันรถไฟฟ้าด้วยการทำ FTA นี่ผมยังมองไม่ออกว่าเราจะได้ประโยชน์ยังไงในเมื่อก็มี BOI ให้มาประกอบอยู่แล้ว

คนไทยโคตรโชคดีที่มี FTA 0% ที่มา FTA 0% มันมาจากกลุ่มเอกชนอุตสาหกรรมนึงที่ฉลาดได้ถ้วย ช่วงปี 2003-04ไปบอกให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเจรจากับจีนเปิดเสรีไม่มีภาษีนำเข้า BEV จากจีนเลย บอก BEV มันแค่รถกอล์ฟ  ::) ::) ::)  กลุ่มเอกชนนี้่ก็กลุ่มเดียวกับที่บอกภาษีนำเข้า BEV จากญี่ปุ่น 20%  BEV จากเกาหลี 40%  อยากชี้หน้าด่าโทษใครคงรู้นะครับว่าต้องไปด่าใครดี ก็เรียกร้องกันเองจะเอา FTA 0%   ผู้บริโภคคนไทยก็ตักตวง ซื้อ ซื้อ ซื้อ เงินประหยัดเป็นล้านเอาไปขึ้นเรือฟินๆ   :P

เรียกร้องโวยวายจะไม่เอา FTA 0% ใจกล้าๆแลกกับสิทธิ์สินค้าเกษตรอย่างผลไม้เข้าจีนไม่มีภาษีนำเข้าไหมละ  กล้าๆไปทะเลาะกับกลุ่มเอกชนสินค้าเกษตรหน่อย power การต่อรองมันคนละระดับกัน ก็รู้ๆกลุ่มสินค้าเกษตรมีบริษัทอะไรบ้างนะ  ::)

แปะให้อีกนิด สิทธิการนำเข้าไทยจากจีนตามพิกัดศุล โวยวายไทยขาดดุล กล้าๆเอาโทรสับมือถือตัวเองไปโยนทิ้งก่อนเลย อย่าลืมแกะ SSD ไปทิ้งด้วยไม่ต้องใช้มันแล้ว ไปซื้อ HDD เต่าๆผลิตไทยมาใส่คอมใช้แทนนั่นละดี ไม่ขาดดุล  ::)


จะเอาภาษีนำเข้า 0% สินค้า BEV นำเข้าจากจีนไปแลกภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเข้าจีน ใช้อะไรคิด



MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 22:27:43 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี?
กลุ่มเอกชนอุตสาหกรรมนึงที่เป็นสุดที่รักของหลายๆคนในนี้เรียกร้องเอง บอกกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศช่วงปี 2003/04 ให้เปิดเสรี BEV นำเข้าจากจีนไปเลย พวกนั้นมันแค่รนภกอล์ฟไม่ต้องกลัว ::) ::) ::)

ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 
ก็กลุ่มเอกชนอุตสาหกรรมเดียวกับข้างบนเรียกร้องเองให้ภาษีนำเข้า BEV จากญี่ปุ่น 20% จริงๆเรียกร้อง 0% ก็ได้นะ มันแค่รถกอล์ฟ  :P

"ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ"
น่าสงสัยว่ากลุ่มเอกชนอุตสาหกรรมนั้นขาวสะอาดไม่เคยยัดตัง เป้นคนดีย์ ไม่เกี่ยวกับ corruption รึป่าวหว่า :-X

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2023, 22:29:35 »
คนไทยนี่ประหลาดนะครับต่อต้านทุกอย่างที่เป็นของใหม่ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้ผลิตรถขายอะไร มีแต่ซื้อเค้าใช้แต่พยายามรังเกียจรถไฟฟ้าจังงงงงเลย มีใครบังคับให้ซื้อรถไฟฟ้าไหมก็ไม่ รถน้ำมันจะหายไปในปีหน้าไหนก็ไม่ มีกลุ่มคนที่กล้าทดลองใช้บุกเบิกเป็นกลุ่มแรกๆก็ไม่เอาอีก ราวกับอยากให้รถไฟฟ้าขายไม่ดีอยากให้มันล้มหายตายจากไปจากประเทศไทย ไม่เข้าใจจริงๆว่าการมีอยู่ของรถไฟฟ้าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมันเดือดร้อนหรือยังไงต้องต่อต้านจัง

กลุ่มคนหัวรั้น โบราณ กลัวการเปลี่ยนแปลง คาดดว่ากลุ่มนี้ก็ยังนั่งเสียบแผ่นซีดีในรถอยู่  ;D

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 705
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2023, 02:14:25 »
อืม.... ถ้าดูตัวเลขยอดจดทะเบียนของแต่ละเดือนดีๆแล้ว
(อ้างอิงจากตัวเลขที่คุณ Moo ทำไว้ในอีกเว็ปนึงนะครับ)

ม.ค. 3,017
ก.พ. 5,497
มี.ค. 6212
เม.ย. 3,822
พ.ค. 5,559
มิ.ย. 7,637
ก.ค. 5,116

รวมทั้งหมด 36,860 คัน
เท่ากับว่าเฉลี่ยเดือนละ 5,265 คัน

ยอดของเดือน ก.ค. มันก็ถือว่าอยู่ในระดับปกติของค่าเฉลี่ยนะครับ
แค่ยอดขายเดือน มิ.ย. มันพุ่งสูงเฉยๆ
ผมมองนี้ว่าข่าวตั้งหัวข้อ clickbait ไปงั้นแหละ

ปล. ที่จริงจะเข้ามาตอบแบบนี่ตั้งแต่กระทู้พึ่งตั้งใหม่ๆแล้ว แต่ไม่มีเวลา

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,201
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2023, 08:58:51 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

เรื่องแบบนี้มันมองด้านเดียวไม่ได้ครับ

ทำ FTA แปลว่านอกจากเค้ามาขายเราได้ เราก็เอาไปขายเค้าได้เช่นกัน เป็นการปลดล็อคสินค้าอีกหลายๆรายการ ที่จากเดิมมีภาษี ก็ให้ลดลง หรือตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจจีนโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะเปิดเสรีนำเข้ารถให้จีน แต่ไม่เปิดให้ญี่ปุ่น เพื่อแลกกับของอีกจำนวนมากของเรา ไปขายให้กับจีนได้

ถามว่าขาดดุลมั้ย ก็ขาดแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มาจากเรื่องรถไฟฟ้าจีน คือภาครัฐของไทยก็พยายามจะดันเรื่องรถไฟฟ้า แต่ดันเองก็ไม่ไหว ดังนั้นการที่ให้จีนเข้ามา เมื่อทำราคารถได้ คนก็ซื้อเยอะ ซื้อไปเยอะ ทางเอกชนก็เริ่มลงทุนเรื่อง Infrastructure ของรถไฟฟ้าได้เร็ว

รถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่เน้นขาย เน้นโชว์ เน้นกำไรต่อคันสูงๆเข้าว่า ก็ไม่น่าจะ drive อะไรเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศได้เลย

ประเด็นคือขาดดุล 1.3 ล้านล้านบาทมันคุ้มมั้ยล่ะครับ เราแทบไม่ได้อะไรเลยแถมเสียเยอะกว่ามาก

ส่วนประเด็นที่ภาครัฐพยายามดันรถไฟฟ้าด้วยการทำ FTA นี่ผมยังมองไม่ออกว่าเราจะได้ประโยชน์ยังไงในเมื่อก็มี BOI ให้มาประกอบอยู่แล้ว

คนไทยโคตรโชคดีที่มี FTA 0% ที่มา FTA 0% มันมาจากกลุ่มเอกชนอุตสาหกรรมนึงที่ฉลาดได้ถ้วย ช่วงปี 2003-04ไปบอกให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเจรจากับจีนเปิดเสรีไม่มีภาษีนำเข้า BEV จากจีนเลย บอก BEV มันแค่รถกอล์ฟ  ::) ::) ::)  กลุ่มเอกชนนี้่ก็กลุ่มเดียวกับที่บอกภาษีนำเข้า BEV จากญี่ปุ่น 20%  BEV จากเกาหลี 40%  อยากชี้หน้าด่าโทษใครคงรู้นะครับว่าต้องไปด่าใครดี ก็เรียกร้องกันเองจะเอา FTA 0%   ผู้บริโภคคนไทยก็ตักตวง ซื้อ ซื้อ ซื้อ เงินประหยัดเป็นล้านเอาไปขึ้นเรือฟินๆ   :P

เรียกร้องโวยวายจะไม่เอา FTA 0% ใจกล้าๆแลกกับสิทธิ์สินค้าเกษตรอย่างผลไม้เข้าจีนไม่มีภาษีนำเข้าไหมละ  กล้าๆไปทะเลาะกับกลุ่มเอกชนสินค้าเกษตรหน่อย power การต่อรองมันคนละระดับกัน ก็รู้ๆกลุ่มสินค้าเกษตรมีบริษัทอะไรบ้างนะ  ::)

แปะให้อีกนิด สิทธิการนำเข้าไทยจากจีนตามพิกัดศุล โวยวายไทยขาดดุล กล้าๆเอาโทรสับมือถือตัวเองไปโยนทิ้งก่อนเลย อย่าลืมแกะ SSD ไปทิ้งด้วยไม่ต้องใช้มันแล้ว ไปซื้อ HDD เต่าๆผลิตไทยมาใส่คอมใช้แทนนั่นละดี ไม่ขาดดุล  ::)


จะเอาภาษีนำเข้า 0% สินค้า BEV นำเข้าจากจีนไปแลกภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเข้าจีน ใช้อะไรคิด


ถ้าเราได้ประโยชน์จาก FTA จริงๆเราไม่ขาดดุลเละเทะแบบนั้นหรอกครับ

โดยเฉพาะ FTA รถไฟฟ้าที่ไม่รู้จะมีไปทำไมในเมื่อเราก็มี BOI ให้มาตั้งโรงงานแล้ว

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2023, 10:46:44 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

เรื่องแบบนี้มันมองด้านเดียวไม่ได้ครับ

ทำ FTA แปลว่านอกจากเค้ามาขายเราได้ เราก็เอาไปขายเค้าได้เช่นกัน เป็นการปลดล็อคสินค้าอีกหลายๆรายการ ที่จากเดิมมีภาษี ก็ให้ลดลง หรือตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจจีนโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะเปิดเสรีนำเข้ารถให้จีน แต่ไม่เปิดให้ญี่ปุ่น เพื่อแลกกับของอีกจำนวนมากของเรา ไปขายให้กับจีนได้

ถามว่าขาดดุลมั้ย ก็ขาดแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มาจากเรื่องรถไฟฟ้าจีน คือภาครัฐของไทยก็พยายามจะดันเรื่องรถไฟฟ้า แต่ดันเองก็ไม่ไหว ดังนั้นการที่ให้จีนเข้ามา เมื่อทำราคารถได้ คนก็ซื้อเยอะ ซื้อไปเยอะ ทางเอกชนก็เริ่มลงทุนเรื่อง Infrastructure ของรถไฟฟ้าได้เร็ว

รถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่เน้นขาย เน้นโชว์ เน้นกำไรต่อคันสูงๆเข้าว่า ก็ไม่น่าจะ drive อะไรเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศได้เลย

ประเด็นคือขาดดุล 1.3 ล้านล้านบาทมันคุ้มมั้ยล่ะครับ เราแทบไม่ได้อะไรเลยแถมเสียเยอะกว่ามาก

ส่วนประเด็นที่ภาครัฐพยายามดันรถไฟฟ้าด้วยการทำ FTA นี่ผมยังมองไม่ออกว่าเราจะได้ประโยชน์ยังไงในเมื่อก็มี BOI ให้มาประกอบอยู่แล้ว

คนไทยโคตรโชคดีที่มี FTA 0% ที่มา FTA 0% มันมาจากกลุ่มเอกชนอุตสาหกรรมนึงที่ฉลาดได้ถ้วย ช่วงปี 2003-04ไปบอกให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเจรจากับจีนเปิดเสรีไม่มีภาษีนำเข้า BEV จากจีนเลย บอก BEV มันแค่รถกอล์ฟ  ::) ::) ::)  กลุ่มเอกชนนี้่ก็กลุ่มเดียวกับที่บอกภาษีนำเข้า BEV จากญี่ปุ่น 20%  BEV จากเกาหลี 40%  อยากชี้หน้าด่าโทษใครคงรู้นะครับว่าต้องไปด่าใครดี ก็เรียกร้องกันเองจะเอา FTA 0%   ผู้บริโภคคนไทยก็ตักตวง ซื้อ ซื้อ ซื้อ เงินประหยัดเป็นล้านเอาไปขึ้นเรือฟินๆ   :P

เรียกร้องโวยวายจะไม่เอา FTA 0% ใจกล้าๆแลกกับสิทธิ์สินค้าเกษตรอย่างผลไม้เข้าจีนไม่มีภาษีนำเข้าไหมละ  กล้าๆไปทะเลาะกับกลุ่มเอกชนสินค้าเกษตรหน่อย power การต่อรองมันคนละระดับกัน ก็รู้ๆกลุ่มสินค้าเกษตรมีบริษัทอะไรบ้างนะ  ::)

แปะให้อีกนิด สิทธิการนำเข้าไทยจากจีนตามพิกัดศุล โวยวายไทยขาดดุล กล้าๆเอาโทรสับมือถือตัวเองไปโยนทิ้งก่อนเลย อย่าลืมแกะ SSD ไปทิ้งด้วยไม่ต้องใช้มันแล้ว ไปซื้อ HDD เต่าๆผลิตไทยมาใส่คอมใช้แทนนั่นละดี ไม่ขาดดุล  ::)


จะเอาภาษีนำเข้า 0% สินค้า BEV นำเข้าจากจีนไปแลกภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเข้าจีน ใช้อะไรคิด


ถ้าเราได้ประโยชน์จาก FTA จริงๆเราไม่ขาดดุลเละเทะแบบนั้นหรอกครับ

โดยเฉพาะ FTA รถไฟฟ้าที่ไม่รู้จะมีไปทำไมในเมื่อเราก็มี BOI ให้มาตั้งโรงงานแล้ว

แล้วยังไงหว่า เราเป็นเหมือนประเทศชนกลุ่มมากในโลก (รวมทั้งประเทศโลกที่ 1 ส่วนมาก) ที่ขาดดุลกับจีน แล้วทะลึ่งรับไม่ได้อยากเป็นชนกลุ่มน้อยเกินดุลจีนแบบ ไต้หวัน สวิส เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย (มี FTA กับจีน ไม่มีภาษีนำเข้าอีวีจากจีน)?   

ไม่มี FTA รถไฟฟ้านี่ ผู้บริโภคคนไทยลำบากกว่านี้เยอะ มีรึไอ้ BOI มันจะพยายามดิ้นรนทำแผนส่งเสริมให้สิทธิประโยชน์ใจกว้างขึ้นพยายามดึงการลงทุนอีวี?

โวยวายไม่อยากได้ FTA รถไฟฟ้า นี่ใจกล้าๆบอกจีนเลย ตรูไม่ยอม FTA 0% อีวีของยู แลกกับยูไม่ยอม FTA 0% สินค้าเกษตรของไอ  ดูว่ากลุ่มเอกชนสินค้าเกษตรเค้าจะว่ายังไง  ;D

จงภูมิใจตักตวงผลประโยชน์จาก FTA ซื้อ ซื้อ ซื้อ ส่งออก ส่งออก ส่อออกไป คิดอะไรเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 10, 2023, 10:56:00 โดย เรือบินนะมีอยู่จริง »

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 749
    • อีเมล์
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2023, 10:56:02 »
คนไทยนี่ประหลาดนะครับต่อต้านทุกอย่างที่เป็นของใหม่ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้ผลิตรถขายอะไร มีแต่ซื้อเค้าใช้แต่พยายามรังเกียจรถไฟฟ้าจังงงงงเลย มีใครบังคับให้ซื้อรถไฟฟ้าไหมก็ไม่ รถน้ำมันจะหายไปในปีหน้าไหนก็ไม่ มีกลุ่มคนที่กล้าทดลองใช้บุกเบิกเป็นกลุ่มแรกๆก็ไม่เอาอีก ราวกับอยากให้รถไฟฟ้าขายไม่ดีอยากให้มันล้มหายตายจากไปจากประเทศไทย ไม่เข้าใจจริงๆว่าการมีอยู่ของรถไฟฟ้าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมันเดือดร้อนหรือยังไงต้องต่อต้านจัง

จริงครับไม่เข้าใจคนกลุ่มนี้จริงๆ แอนตี้ทุกอย่างที่เป็นจีน

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,456
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2023, 11:30:13 »
ยอดจดทะเบียน กับยอดส่งมอบ ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

ออฟไลน์ j@ckie

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2023, 13:34:24 »
ผมอยู่ต่างจังหวัดอย่างเชียงราย ยังเจอรถไฟฟ้าเยอะมากครับ BYD, MG, Tesla, Volvo

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,201
Re: ยอดEVจดทะเบียนลด 33%ในเดือน กค.
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2023, 17:21:11 »
เพราะคลาดไทยมันเล็ก แค่นั้นครับ

บริษัทญี่ปุ่นกังวลแค่ค่าแรงจะขึ้นครับ จุดเด่นการผลิตรถในไทยไม่ใช่เพราะคนไทยซื้อรถเยอะ แต่ค่าแรงถูกและดี ต่างจากบางประเทศที่ค่าแรงถูกแต่งานไม่ดี หรือค่าแรงแพงแต่ดีเท่าไทย

คุณเอายอดขายรถในเมกามาเทียบกับไทยดูก็ได้ เอารถรุ่นนึงไปขายในเมกาถ้ายอดขายอยู่ที่ 10,000 - 20,000 คันต่อปีแสดงว่าขายได้น้อย แต่ในไทยถ้าไม่ใช่ D-max หรือ Hilux แล้วขายได้ 10,000 ต่อปีนี้เฮทั้งบริษัทแล้วแจกโบนัสยันรปฎ

เพราะฉะนั้นถ้าตลาดไทยยอดขายเป็น 0 เค้าก็ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่สามารถขายรถได้เยอะกว่า

อีกปัญหานึงคือ corruption จะขอพูดอีกทีว่า ทำไมมีแต่จีนที่ได้สิธนำเข้ารถไฟฟ้าแบบไม่เสียภาษี? ทำไมญี่ปุ่นทำไม่ได้? 

ถ้าไม่ใช่การยัดตังผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละ

เรื่องแบบนี้มันมองด้านเดียวไม่ได้ครับ

ทำ FTA แปลว่านอกจากเค้ามาขายเราได้ เราก็เอาไปขายเค้าได้เช่นกัน เป็นการปลดล็อคสินค้าอีกหลายๆรายการ ที่จากเดิมมีภาษี ก็ให้ลดลง หรือตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจจีนโตเร็วกว่าญี่ปุ่นมาก ดังนั้นก็ไม่แปลกถ้าจะเปิดเสรีนำเข้ารถให้จีน แต่ไม่เปิดให้ญี่ปุ่น เพื่อแลกกับของอีกจำนวนมากของเรา ไปขายให้กับจีนได้

ถามว่าขาดดุลมั้ย ก็ขาดแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มาจากเรื่องรถไฟฟ้าจีน คือภาครัฐของไทยก็พยายามจะดันเรื่องรถไฟฟ้า แต่ดันเองก็ไม่ไหว ดังนั้นการที่ให้จีนเข้ามา เมื่อทำราคารถได้ คนก็ซื้อเยอะ ซื้อไปเยอะ ทางเอกชนก็เริ่มลงทุนเรื่อง Infrastructure ของรถไฟฟ้าได้เร็ว

รถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นตอนนี้ก็ลูกผีลูกคน ไม่เน้นขาย เน้นโชว์ เน้นกำไรต่อคันสูงๆเข้าว่า ก็ไม่น่าจะ drive อะไรเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศได้เลย

ประเด็นคือขาดดุล 1.3 ล้านล้านบาทมันคุ้มมั้ยล่ะครับ เราแทบไม่ได้อะไรเลยแถมเสียเยอะกว่ามาก

ส่วนประเด็นที่ภาครัฐพยายามดันรถไฟฟ้าด้วยการทำ FTA นี่ผมยังมองไม่ออกว่าเราจะได้ประโยชน์ยังไงในเมื่อก็มี BOI ให้มาประกอบอยู่แล้ว

คนไทยโคตรโชคดีที่มี FTA 0% ที่มา FTA 0% มันมาจากกลุ่มเอกชนอุตสาหกรรมนึงที่ฉลาดได้ถ้วย ช่วงปี 2003-04ไปบอกให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเจรจากับจีนเปิดเสรีไม่มีภาษีนำเข้า BEV จากจีนเลย บอก BEV มันแค่รถกอล์ฟ  ::) ::) ::)  กลุ่มเอกชนนี้่ก็กลุ่มเดียวกับที่บอกภาษีนำเข้า BEV จากญี่ปุ่น 20%  BEV จากเกาหลี 40%  อยากชี้หน้าด่าโทษใครคงรู้นะครับว่าต้องไปด่าใครดี ก็เรียกร้องกันเองจะเอา FTA 0%   ผู้บริโภคคนไทยก็ตักตวง ซื้อ ซื้อ ซื้อ เงินประหยัดเป็นล้านเอาไปขึ้นเรือฟินๆ   :P

เรียกร้องโวยวายจะไม่เอา FTA 0% ใจกล้าๆแลกกับสิทธิ์สินค้าเกษตรอย่างผลไม้เข้าจีนไม่มีภาษีนำเข้าไหมละ  กล้าๆไปทะเลาะกับกลุ่มเอกชนสินค้าเกษตรหน่อย power การต่อรองมันคนละระดับกัน ก็รู้ๆกลุ่มสินค้าเกษตรมีบริษัทอะไรบ้างนะ  ::)

แปะให้อีกนิด สิทธิการนำเข้าไทยจากจีนตามพิกัดศุล โวยวายไทยขาดดุล กล้าๆเอาโทรสับมือถือตัวเองไปโยนทิ้งก่อนเลย อย่าลืมแกะ SSD ไปทิ้งด้วยไม่ต้องใช้มันแล้ว ไปซื้อ HDD เต่าๆผลิตไทยมาใส่คอมใช้แทนนั่นละดี ไม่ขาดดุล  ::)


จะเอาภาษีนำเข้า 0% สินค้า BEV นำเข้าจากจีนไปแลกภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรไทยเข้าจีน ใช้อะไรคิด


ถ้าเราได้ประโยชน์จาก FTA จริงๆเราไม่ขาดดุลเละเทะแบบนั้นหรอกครับ

โดยเฉพาะ FTA รถไฟฟ้าที่ไม่รู้จะมีไปทำไมในเมื่อเราก็มี BOI ให้มาตั้งโรงงานแล้ว

แล้วยังไงหว่า เราเป็นเหมือนประเทศชนกลุ่มมากในโลก (รวมทั้งประเทศโลกที่ 1 ส่วนมาก) ที่ขาดดุลกับจีน แล้วทะลึ่งรับไม่ได้อยากเป็นชนกลุ่มน้อยเกินดุลจีนแบบ ไต้หวัน สวิส เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย (มี FTA กับจีน ไม่มีภาษีนำเข้าอีวีจากจีน)?   

ไม่มี FTA รถไฟฟ้านี่ ผู้บริโภคคนไทยลำบากกว่านี้เยอะ มีรึไอ้ BOI มันจะพยายามดิ้นรนทำแผนส่งเสริมให้สิทธิประโยชน์ใจกว้างขึ้นพยายามดึงการลงทุนอีวี?

โวยวายไม่อยากได้ FTA รถไฟฟ้า นี่ใจกล้าๆบอกจีนเลย ตรูไม่ยอม FTA 0% อีวีของยู แลกกับยูไม่ยอม FTA 0% สินค้าเกษตรของไอ  ดูว่ากลุ่มเอกชนสินค้าเกษตรเค้าจะว่ายังไง  ;D

จงภูมิใจตักตวงผลประโยชน์จาก FTA ซื้อ ซื้อ ซื้อ ส่งออก ส่งออก ส่อออกไป คิดอะไรเยอะ

ขาดดุลถ้ามันขาดแค่ 1-2 แสนล้านยังพอว่า แต่นี่ขาดไป 1 ล้านล้านบาท มันไม่แปลกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ

ส่วนรถไฟฟ้าพวกค่ายที่มาตั้งโรงงานในไทยแล้วได้รับสิทธิ์ FTA อันนี้ไม่แปลกเพราะไทยก็ได้ประโยชน์จากการตั้งโรงงานในอนาคต แต่ถามว่าไทยได้ประโยชน์อะไรจากแบรนด์ที่ได้สิทธิ์นำเข้ามาขายฟรีๆโดยไม่ต้องมาตั้งโรงงานอย่าง Tesla หรือ Volvo ล่ะครับ ไม่ได้อะไรเลย เหมือนให้อภิสิทธิ์เข้ามาขายพร้อมถีบรถผลิตในประเทศไปในตัว ไทยเสียสองต่อทั้งไม่ได้ภาษีนำเข้าและเสียยอดขายรถผลิตในประเทศ

ส่วนประเด็นถ้าไม่มี FTA รถไฟฟ้าแล้วไทยจะส่งผลไม้ไปจีนแล้วต้องเสียภาษีนี่ก็คิดแปลกๆ เพราะ FTA ผลไม้มันควรปลอดภาษีทั้งไทยส่งออกไปจีน กับจีนส่งออกมาไทย ทุกวันนี้ก็มีทั้งไทยนำเข้าสินค้าเกษตรจากจีนและส่งออกไปจีนสลับกัน แล้วรถไฟฟ้ามันมาเกี่ยวอะไรด้วย? เรานำเข้ารถไฟฟ้ามาขายแบบไม่เสียภาษีแล้วเราส่งออกรถไฟฟ้าไปขายที่จีนแบบไม่เสียภาษีมั้ยก็ไม่ แล้วมันจะมีไปทำไม FTA รถไฟฟ้าถ้าเราจะเสียผลประโยชน์จากการนำเข้าขาเดียว คนซื้อได้ประโยชน์แต่ประเทศเสียหายหนัก ระยะยาวผลเสียมีมากกว่าผลดีเยอะ