ผู้เขียน หัวข้อ: Toyota Mirai นี่ถือว่าแป๊กไหม เมื่อกระแสส่วนใหญ่ ไปทางรถ EV หมด  (อ่าน 11550 ครั้ง)

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,665


Mirai เป็นความแป๊ก ของ Toyota ที่แจกสิทธิบัตรให้ใช้ฟรีด้วยซ้ำ สำหรับพลังงาน Hydrogen แต่ยอดปีที่แล้วทำไปได้พันคันเท่านั้น อนาคตพลังงาน Hydrogen ไม่น่าจะมีใช่ไหมครับ เทียบกับ EV

https://chobrod.com/auto-market/toyota-mirai-after-sales-fall-337

ออฟไลน์ nin122

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 611
    • อีเมล์
ผมว่าปัญหาคือราคาส่วนนึงด้วยแหละครับ

ราคาที่ญี่ปุ่น 7,236,000 เยน แต่ราคา Alphard ยังประมาณ 3,600,000 เยนเอง
สมมุติเอามาขายไทย ราคา 2 เท่าของ Alphard ก็แถวๆ 6-7 ล้าน T^T

น้ำตาจะไหล 55555

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,419
    • อีเมล์
คือ ขายเฉพาะ โซนที่ มี ปั้ม Hydrogen
ในโลกนี้ มันมี ปั้ม Hydrogen ตรงไหนมั่งเนี่ย

สมมุต ลดราคา ลงอีกๆ
จะไป เติม เชื่อเพลิง ที่ไหนครับ

ออฟไลน์ bubball

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,838
ถือว่าแป๊กถ้าเทียบกับ Tesla ที่ปลุกกระแส EV
แต่ส่วนตัวมองว่าดีแล้วที่ทำออกมา ถือว่าเป็นการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ

ออฟไลน์ Mr. RO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 183
    • อีเมล์
คือ ขายเฉพาะ โซนที่ มี ปั้ม Hydrogen
ในโลกนี้ มันมี ปั้ม Hydrogen ตรงไหนมั่งเนี่ย

สมมุต ลดราคา ลงอีกๆ
จะไป เติม เชื่อเพลิง ที่ไหนครับ

มันมีปั้มน้อยจริงๆครับแต่มีนะครับ
ข้อมูลคร่าวๆ
https://en.wikipedia.org/wiki/Hydrogen_station
อย่างใน USA ก็มีแค่ 39 แห่งเองตามนี้ครับมีแยะแถว LA,San francisco
https://www.afdc.energy.gov/fuels/hydrogen_locations.html
https://ssl.toyota.com/mirai/stations.html

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Fool cell is not future.

It is one of the biggest automotive flop since Ford Edsel.

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 591
ราคา hydrogen มันแพงกว่าน้ำมันอีกครับ 300 บาท/กิโล  ซึ่งเขาก็วาดฝันว่า อนาคตถ้าคนใช้เยอะๆ จะถูกลง

http://auto.sanook.com/11969/

ญี่ปุ่นเขายังไม่เลิกนะครับ แต่พัฒนาไปอย่างช้าๆ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
 8) 8) 8)....ขอบคุณกับข้อมูล และข้อคิดจากเพื่อนพ้องครับ :-X :-X

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,151
ผมว่าคงอีก 50 ปีขึ้นไป แล้วก็หายไปเลยครับ

คือมีแต่ฮุนไดกับฮอนด้าที่เอาด้วย

ข้อได้เปรียบของ Hydrogen fuelcell เทียบกับ EV คือระยะเวลาเติม แต่ตอนนี้เทคโนโลยีแบ็ตเริ่มที่จะทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นที่เคลมว่าจะพร้อมใช้ใน 3-5 ปีนี้ไม่ว่าจะเป็น Lithium air หรือ Solid State battery

นี่ไม่นับว่าถ้า EV กลายเป็นกระแสหลักเค้าต้องพัฒนาแบตกันอีกแค่ไหน อีก 50 ปีอาจจะชาร์จเต็มใน 5 นาทีก็ได้ แล้วเราจะมี Fuel cell ไปทำไมกันครับ

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,268
สำหรับผม ผมถือว่าแป๊กครับ  อีก15-20ปีเจอแบตแข็ง-ชาร์ตเร็วทนถึก อีก จะได้เกิดไหม

ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,181
    • อีเมล์
มันต้องมีจุดเริ่มต้นครับ

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,975
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
พลังงานทางเลือก ผมว่าเจ้านี่ดูดีกว่าไฟฟ้าอีกนะ 

พลังงานในอนาคตเชียร์ไฮโดรเจนมากกว่าไฟฟ้า  :-X :-X
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,201
นอกเรื่องนิดนึง เคยเห็นคันนึงวิ่งอยู่ที่อเมริกา คนขับเป็นคนญี่ปุ่น (คงเป็นคนใน Toyota)
วิ่งไปมีน้ำไหลออกมาเป็นสายๆ จากท่อไอเสียเลยครับ เท่มาก
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,151
พลังงานทางเลือก ผมว่าเจ้านี่ดูดีกว่าไฟฟ้าอีกนะ 

พลังงานในอนาคตเชียร์ไฮโดรเจนมากกว่าไฟฟ้า  :-X :-X

มันก็ต้องเอาพลังงานจากอย่างอื่นมาผลิตไฮโดรเจน เหมือนไฟฟ้าแค่เปลี่ยนสื่อกลางนี่ครับ เช่นเอาพลังงานถ่านหินมาทำ Hydrogen แทนที่จะเอาไปผลิตไฟฟ้าแทน

ออฟไลน์ Mike

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566
ถ้ามองในมุมรักโลก Fuel cell ชนะใสๆ
อย่าลืมน่ะว่า รถ EV, PHEV มันก็ยังแค่การย้ายที่คาย CO2
ประเทศนี้พลังงานทางเลือกยังเป็นเรื่องของอนาคตที่ริบหรี่

ปล.ผมเชียร์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
Next Gen Ford Everest 2.0 Titanium+ 4x4
Honda HRV e:HEV RS 22
SUBARU XV 2.0i-P 16
HONDA City SV 12
FORD Ranger Hi Rider 4DR XLT 2.2 TDCi 12
FORD Ranger Hi Rider OpenCab LIMITED 2.5 TDCi 08
ISUZU Dragon Eye SpaceCab SLX 2.8 00
TOYOTA Hilux Mighty X 94
MITSUBISHI Cyclone 94
TOYOTA Hilux Super Star 88

ออฟไลน์ HappyCar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 342
ถ้ามองในมุมรักโลก Fuel cell ชนะใสๆ
อย่าลืมน่ะว่า รถ EV, PHEV มันก็ยังแค่การย้ายที่คาย CO2
ประเทศนี้พลังงานทางเลือกยังเป็นเรื่องของอนาคตที่ริบหรี่

ปล.ผมเชียร์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

+1 ครับผม เห็นด้วย ถ้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มา ผมว่าอนาคตรถ EV คงจะดีขึ้นกว่านี้

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,725
  • Blue. Just BLUE.
ราคา hydrogen มันแพงกว่าน้ำมันอีกครับ 300 บาท/กิโล  ซึ่งเขาก็วาดฝันว่า อนาคตถ้าคนใช้เยอะๆ จะถูกลง

http://auto.sanook.com/11969/

ญี่ปุ่นเขายังไม่เลิกนะครับ แต่พัฒนาไปอย่างช้าๆ

+1

แพงกว่าน้ำมัน แต่ระยะทางที่ได้ต่อเงินที่จ่ายไปก็มากกว่าน้ำมัน (เคยอ่านเจอบทความนึงเขียนไว้ประมาณนี้ แต่ลืมไปแล้วว่าที่ไหน)
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,268
พลังงานทางเลือก ผมว่าเจ้านี่ดูดีกว่าไฟฟ้าอีกนะ 

พลังงานในอนาคตเชียร์ไฮโดรเจนมากกว่าไฟฟ้า  :-X :-X

มันก็ต้องเอาพลังงานจากอย่างอื่นมาผลิตไฮโดรเจน เหมือนไฟฟ้าแค่เปลี่ยนสื่อกลางนี่ครับ เช่นเอาพลังงานถ่านหินมาทำ Hydrogen แทนที่จะเอาไปผลิตไฟฟ้าแทน

+1ครับ

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,759
ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า EV ก็ไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืนหรอกครับ เพราะก็เหมือนที่มีบางท่านข้างบนบอกไปแล้ว มันก็แค่ย้ายที่คาย CO2 แค่นั้น ถ้าในวันที่รถทุกคันเป็น EV 100% ปริมาณไฟฟ้าที่ต้องใช้จะเพิ่มขึ้นอีกมหาศาลแค่ไหน แล้วไฟฟ้ามาจากไหนครับ? ถ่านหิน น้ำมัน แก๊ซ เขื่อน แสงอาทิตย์ ลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ ฯลฯ ซึ่งก็ดูไม่ยั่งยืนอีก

Fuel cell วันนี้อาจจะดูไม่เห็นอนาคต แต่ถ้าในอีกหลายสิบปีข้างหน้า วิทยาการมนุษย์ทันสมัยพอจะทำไฮโดรเจนมาเติมได้ถูกลงมากๆ ผมว่าดูน่าสนใจกว่าพอสมควรครับ และถ้าแย้งว่า ผลิตไฮโดรเจนก็ต้องใช้พลังงานอื่นมาผลิตอยู่ดีหรือเปล่า จริงๆแล้วไฮโดรเจนมีกรรมวิธีผลิตที่หลากหลายครับ บางอันก็เป็นปฏิกิริยาเคมี เช่น Electrolysis ใช้กระแสไฟฟ้าแยกน้ำเป็นต้น หรือเกิดจากกระบวนการหมักชีวมวล ประมาณนี้ครับ ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.afdc.energy.gov/fuels/hydrogen_production.html

วันนี้คือแค่ก้าวแรกของ Fuel cell ครับ และยังคงอีกไกล เผลอๆเป็น 50-60 ปีกว่าจะเริ่มกลับมาฮิตกันอีกครั้ง

EV ในวันนี้ก้าวแรกเริ่มต้นขึ้นประมาณปี 1960 และเพิ่งมาเริ่มเป็นกระแสกันใน 2-3 ปีมานี้เองครับ ยังใช้เวลาตั้ง 50 กว่าปีกว่าจะเริ่มมีคนสนใจในวงกว้าง และกว่าจะแทนที่ 100% ทั่วโลก ผมว่าคงปี 2060 นู่นแหละ ที่ทั้งโลกจะไม่มีรถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเหลือแล้ว (ยกเว้นพวกรถในพิพิธภัณฑ์ หรือพวกที่เอาไว้สะสมเป็นรถคลาสสิก)
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ bullyboy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 294
ถ้าถามวันนี้ คำตอบในวันนี้คือ แป้ก อยู่ครับ เพราะมันเป็นแค่จุดเริ่มต้น

ซึ่งผมว่าทุกนวัุตกรรมใหม่ๆ ตอนเริ่่มแรกก็ยังไม่ประสบความสำเร็จหรอกครับ เหมือนเครื่องยนต์ระบบ hybrid ตอนแรกก็ไม่ใช่ว่าจะนิยมกันในทันทีเหมือนกัน

เคยดูรายการทีวีของไทย ที่พาไปดูปั๊ม hydrogen ในญี่ปุ่น เค้าบอกต้นทุนแพงมากเลยครับตอนนี้ อันนี้คงเป็นอีกเหตุผลนึงที่จะหาคนลงทุนทำปั๊มได้ยาก

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
รูปร่างหน้าตาแย่ แต่ไม่ใช่ประเด็น
ยังไง fuel cell ก็แป้กชัวร์
เสียบชาร์ตไฟที่บ้านได้ง่ายๆ จบ จะต้องไปเติมปั้มทำไม ยิ่งต่อไปโซล่าเซลล์พัฒนา แต่ละบ้านติดแผงรับแสง ไม่ก็ติดบนตัวรถเลย คือชนะ

ปล. ส่วนเรื่องไฟฟ้าเมืองไทย ไม่พอก็ซื้อจากเพื่อนบ้านเอา จนกว่าพวก NGO ที่แปลว่าโง่ชอบประท้วงจะตายๆกันหมด ไม่ก็มีนักวิทยาศาสตร์เก่งๆพัฒนาการสร้างพลังงานใหม่ๆสำเร็จ(ยากกว่ารอ NGO ตายซะอีก) เมืองนอกเค้าใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์กัน ไฟฟ้าเหลือเฟือ ส่วนเมกาพัฒนาไปไกลกว่านิวเคลยร์แล้ว ให้พลังงานเยอะกว่า สะอาดกว่า (แต่ไม่รู้อะไร ล้วงความลับมาไม่ได้)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2017, 09:13:33 โดย Jacob »

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,253
เจ้า มิไร นี่ โตโยต้า ก็ไม่ได้หวังยอดขายอยู่แล้ว
เหมือนโชว์เทคโนโลยีมากกว่า ว่าสิ่งที่เคยอยู่แค่ในห้องวิจัย มันสามารถเอาออกมาใช้งานได้ทั่วไปแล้ว

จะว่าไปก็เหมือน พรีอุส ตัวแรก หรือรถไฟฟ้ารุ่นแรกๆ นะครับผมว่า



เคยอ่านเจอจากที่ไหนสักแห่ง (ไม่แน่ใจว่าบทความของคุณจิมมี่ หรือ หนังสือเล่มอื่น) ว่า
ค่ายรถมองกันว่า ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นระบบที่มาทดแทนน้ำมันชั่วคราว เพื่อจะเปลี่ยนไปใช้ Fuel Cell


เคยดูสารคดี BMW ก็วิจัยเชื้อเพลิง ไฮโดรเจน มานานแล้ว
เฉพาะถังเก็บไฮโดรเจนที่อยู่ในรถ ก็ต้องใช้เวลาวิจัยมากกว่า 10 ปี
เพื่อให้ถังเก็บมีน้ำหนักเบาแต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด


ผมคิดว่า ในอนาคตอันใกล้นี่ รถยนต์ระบบไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ ระบบสันดาบภายใน แน่นอน
แล้วสิ่งที่จะมาแทนระบบไฟฟ้า ก็คือ Fuel Cell นี่แหละครับ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2017, 11:24:05 โดย Ivy Modernist »

ออฟไลน์ j@ckie

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
คงจะเป็น GEN ต่อไปต่อจาก EV อ่ะครับ เพราะจริงๆ แล้ว EV ก็จะมีปัญหาเรื่องการกำจัดแบตเดอรี่เก่าเหมือนกัน

ออฟไลน์ TheZero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 594
    • อีเมล์
แป๊ก ครับ
ไฮโดรเจนใช้เงินลงทุนมากในการสร้าง รง. ผลิต  แถมใครจะอยากให้มาสร้าง ปั้มไฮโดรเจน ในเมือง ผมคนนึ่งละเสียวแทน

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ผมไม่เคยมองเจ้านี่เลยครับ ยังไม่รู้และนึกไม่ออกว่ามีอะไรดี

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
พวกรถ fuel cell ก็ใช้แบตไม่ใช่เหรอ เอาไว้ชาร์จเพิ่มระยะทางกับเพิ่มกำลัง (ถ้าไม่ใส่ก็คงได้มั้ง แต่เชื่อเหอะสุดท้ายยังไงก็ใส่) เรื่องกำจัดแบตจึงไม่น่าใช่ประเด็น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2017, 18:54:13 โดย Jacob »

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
ถ้าไม่เข้าใจระบบการทำงาน ไม่มีประโยชน์อะไร
นอกจากจงเชื่อที่คู่แข่งทำไม่ได้ แล้วยกหางตัวเอง

ระบบนี้พัฒนาเพื่อทดแทนดีเซล และเริ่มทดลองในเรือขนาดใหญ่ หัวรถจักรฯ
ส่วนรถยนต์เป็นตัวขายปลีก เพราะราคาของอย่างอื่นร้อยล้านบาทต่อหน่วย
รถบรรทุก หัวลาก ที่ต้องการแรงบิดมาก วิ่งได้ไกล ไฮโดรเจนเป็นตัวเดียวที่แทนดีเซลได้

ปัญหาเรื่องถังแก้ไขระดับที่เก๋งออกไป ไม่มีปัญหาวิ่งน้อย พอๆกับเบนซิน
เซลเชื้อเพลิงจ่ายไฟเสถียร ไม่ร้อนจัด
ส่วนถ่านสำรอง12-48v ทำงานได้ดีในรอบต่ำ เปิดแอร์ได้ตลอด

หัวจ่ายแพงมาก แต่เชพรอนทำขาย แม้หัวจ่ายจะดูบอบบางกว่าของยุ่น
แต่เจ้าของรถเติมเองได้ ขนาดยุ่นบางปั้มมีคนเติมให้ บ้านเราต้องมีเด็กเติม
ไม่งั้นมีสิทธิ์ผิดพลาดได้ เพราะไม่นิยมอ่านคู่มือ และทำรถเอง

ปัญหาจริงคือ ท่อส่งไฮโดรเจน แรงดัน 700psi ต้นทุนสูงมาก คืนทุนช้า
ส่วนเรื่องระเบิดเกิดยาก ไม่ต่างจากท่อส่งน้ำมัน หรือlpg ngv
ที่วิ่งกันเกลื่อน ที่เคยระเบิดสมัยก่อนเพราะนำรถผิดประเภทมาดัดแปลงขน

การแยกไฮโดรเจน ต้นทุนไม่แพงถ้ามีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ บางที่คงได้แต่ฝัน
เพราะหวังจะซื้อไฟชาวบ้านมาใช้ รถใส่ถ่านจึงเป็นเหยื่อค่าft ได้ง่ายๆ
ยุ่นต้องการความมั่นคงทางพลังงาน นี่คือทางออกที่สำคัญและหาง่ายที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งไฟ เชลแก็ส ล้วนอยู่กับเพื่อนบ้านที่วันนี้ยังพร้อมรบกันอยู่

หากรบกันจริง จะมีสภาพไม่ต่างสมัยที่แพ้ที่มิดเวย์ ขาดแคลนพลังงาน
เหล็ก แม้แต่นาซียังแพ้ เพราะกลุ่มผูกขาดพลังงานและแร่ ไม่เข้าข้าง
มิไร จึงเป็นก้าวแรก ที่พลเรือนจะได้สัมผัส เป็นสมบัติส่วนตัว
และยังต่อยอดไปได้อีกมาก แต่ใครจะยอมฝ่ายอักษะกันง่ายๆ

แม้แต่เย เศส ยังทดลองกับของแพงๆมากกว่าจะมาตัดราคาขายถูก
เพราะยังเล่นตัวได้อีกสักพัก ในหลายอุตสาหกรรม แค่ของเก่ายังขายกินได้

รถไฟ เรือดำน้ำ ใช้ถ่านขับมอเตอร์ ตอนนี้เย ทำได้แล้ว
เรือดำน้ำ รุ่นที่สอง ประจำการแล้ว ไม่ต้องทำห้องพักไอเสียในเรือ
หัวลาก สามห่วงทดลองวิ่งที่แคลิฟอร์เนีย ดีกว่าดีเซล
เครื่องโดยสาร จะใช้ในการขับล้อ ในแท็กซี่เวย์แทนการใช้ไอพ่น
โดรนขนาดเล็ก ใส่ถัง 1 ลิตรบินได้

รถใส่ถ่าน มีตั้งแต่สมัยไปเหยียบดวงจันทร์ไม่ใช่ของใหม่อะไร
เพียงแค่วันนี้พอจะมาใกล้น้ำมันก็เท่านั้น ยังไม่ได้แทนที่ มลพิษถ่านก็เยอะมาก
เพราะถ่านก้อนเล็กยังมีปัญหาอีกมาก ส่วนที่ใส่ในมิไรก็ตัวเดียวกับที่
ใส่ไฮบริดนั้นแหล่ะ จะไม่มีก็ได้แต่จะเปิดแอร์ ฮีทเตอร์ตลอดลำบาก
ไฟไม่เสถียรต้องมีตัวเก็บที่มากพอจะคงกระแส แรงดันไว้

ไม่งั้นรถไฟสายชิงไห่ ลาซา คงไม่สามารถป้อนออกซิเจนในแต่ละโบกี้ได้ดี
เพราะต้องใช้ไฟจากถ่านที่ปั่นโดยดีเซล ไปผลิตอากาศในตู้โดยสารให้เสถียร
ถ้าเป็นไฮโดนเจน จะไม่เหม็นควัน นน.พอกันแต่เงียบ สะอาดกว่า ไปไกลกว่า
น้ำที่ออกมายังกรองกินได้ แต่ท่อส่งอีกนานกว่าไปถึงลาซา น้ำมันส่งง่ายกว่าเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2017, 22:56:22 โดย bahamu »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าไม่เข้าใจระบบการทำงาน ไม่มีประโยชน์อะไร
นอกจากจงเชื่อที่คู่แข่งทำไม่ได้ แล้วยกหางตัวเอง

ระบบนี้พัฒนาเพื่อทดแทนดีเซล และเริ่มทดลองในเรือขนาดใหญ่ หัวรถจักรฯ
ส่วนรถยนต์เป็นตัวขายปลีก เพราะราคาของอย่างอื่นร้อยล้านบาทต่อหน่วย
รถบรรทุก หัวลาก ที่ต้องการแรงบิดมาก วิ่งได้ไกล ไฮโดรเจนเป็นตัวเดียวที่แทนดีเซลได้

ปัญหาเรื่องถังแก้ไขระดับที่เก๋งออกไป ไม่มีปัญหาวิ่งน้อย พอๆกับเบนซิน
เซลเชื้อเพลิงจ่ายไฟเสถียร ไม่ร้อนจัด
ส่วนถ่านสำรอง12-48v ทำงานได้ดีในรอบต่ำ เปิดแอร์ได้ตลอด

หัวจ่ายแพงมาก แต่เชพรอนทำขาย แม้หัวจ่ายจะดูบอบบางกว่าของยุ่น
แต่เจ้าของรถเติมเองได้ ขนาดยุ่นบางปั้มมีคนเติมให้ บ้านเราต้องมีเด็กเติม
ไม่งั้นมีสิทธิ์ผิดพลาดได้ เพราะไม่นิยมอ่านคู่มือ และทำรถเอง

ปัญหาจริงคือ ท่อส่งไฮโดรเจน แรงดัน 700psi ต้นทุนสูงมาก คืนทุนช้า
ส่วนเรื่องระเบิดเกิดยาก ไม่ต่างจากท่อส่งน้ำมัน หรือlpg ngv
ที่วิ่งกันเกลื่อน ที่เคยระเบิดสมัยก่อนเพราะนำรถผิดประเภทมาดัดแปลงขน

การแยกไฮโดรเจน ต้นทุนไม่แพงถ้ามีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ บางที่คงได้แต่ฝัน
เพราะหวังจะซื้อไฟชาวบ้านมาใช้ รถใส่ถ่านจึงเป็นเหยื่อค่าft ได้ง่ายๆ
ยุ่นต้องการความมั่นคงทางพลังงาน นี่คือทางออกที่สำคัญและหาง่ายที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งไฟ เชลแก็ส ล้วนอยู่กับเพื่อนบ้านที่วันนี้ยังพร้อมรบกันอยู่

หากรบกันจริง จะมีสภาพไม่ต่างสมัยที่แพ้ที่มิดเวย์ ขาดแคลนพลังงาน
เหล็ก แม้แต่นาซียังแพ้ เพราะกลุ่มผูกขาดพลังงานและแร่ ไม่เข้าข้าง
มิไร จึงเป็นก้าวแรก ที่พลเรือนจะได้สัมผัส เป็นสมบัติส่วนตัว
และยังต่อยอดไปได้อีกมาก แต่ใครจะยอมฝ่ายอักษะกันง่ายๆ

แม้แต่เย เศส ยังทดลองกับของแพงๆมากกว่าจะมาตัดราคาขายถูก
เพราะยังเล่นตัวได้อีกสักพัก ในหลายอุตสาหกรรม แค่ของเก่ายังขายกินได้

รถไฟ เรือดำน้ำ ใช้ถ่านขับมอเตอร์

รถใส่ถ่าน มีตั้งแต่สมัยไปเหยียบดวงจันทร์ไม่ใช่ของใหม่อะไร
เพียงแค่วันนี้พอจะมาใกล้น้ำมันก็เท่านั้น ยังไม่ได้แทนที่ มลพิษถ่านก็เยอะมาก
เพราะถ่านก้อนเล็กยังมีปัญหาอีกมาก ส่วนที่ใส่ในมิไรก็ตัวเดียวกับที่
ใส่ไฮบริดนั้นแหล่ะ จะไม่มีก็ได้แต่จะเปิดแอร์ ฮีทเตอร์ตลอดลำบาก
ไฟไม่เสถียรต้องมีตัวเก็บที่มากพอจะคงกระแส แรงดันไว้

ไม่งั้นรถไฟสายชิงไห่ ลาซา คงไม่สามารถป้อนออกซิเจนในแต่ละโบกี้ได้ดี
เพราะต้องใช้ไฟจากถ่านที่ปั่นโดยดีเซล ไปผลิตอากาศในตู้โดยสารให้เสถียร
ถ้าเป็นไฮโดนเจน จะไม่เหม็นควัน นน.พอกันแต่เงียบ สะอาดกว่า ไปไกลกว่า
น้ำที่ออกมายังกรองกินได้ แต่ท่อส่งอีกนานกว่าไปถึงลาซา น้ำมันส่งง่ายกว่าเยอะ

Fool cell ประสิทธิภาพการสร้างพลังไฟฟ้าต่ำกว่า Battery EV อย่างชัดเจนนะครับ
https://www.greenoptimistic.com/hydrogen-cars-efficiency/#.WbDD3sgjE2w

ไม่มีอนาคตสำหรับวงการรถยนต์ แต่อาจมี industry application ใน sector อื่นๆเช่น defense

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
คิดง่ายๆ แค่ ไฟฟ้าผลิตขึ้นมาก็ส่งตามสาย แต่ไฮโดรเจนหรือน้ำมันต้องมีรถขนส่งไปที่ปั้ม ยังไงซะราคาค่าไฟฟ้าก็ถูกกว่าแน่นอน