ผู้เขียน หัวข้อ: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP  (อ่าน 7993 ครั้ง)

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« เมื่อ: กันยายน 08, 2016, 22:39:21 »
รบกวนด้วยครับพอดีหารถไว้ใช้งานวิ่งเฉลี่ยปีละแถวๆ 4 หมื่นกิโลมีรถสำรองใช้พอดีเสียดายรถคันอื่นครับเลยจะเอาไว้ขนของคนลูกน้องบ้างไม่เอาดราม่านะครับอยากได้ข้อมูลจากผู้ใช้จริงพอใจไม่พอใจตรงไหนบ้าง ขอบคุณครับตัดสินใจไม่ได้สักที

ถ้ามีตัวเลือกแค่สองรุ่นนี้เลือกรุ่นไหนกันครับ ขอบคุณมากๆ

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 10:00:46 »
ถ้าเอา spec + option + การขับขี่ ไม่มีอะไรที่ พี่โตสู้ได้
ถ้าหน้าตา แล้วแต่คนชอบ
ถ้าเอาศูนย์บริการ อะไหล่ และราคาขายต่อในอนาคต ก็ต้องไปพี่โต

นั่ง Everest มา 2 รอบ กรุงเทพ ราชบุรี
นั่ง For มา 1 รอบ กรุงเทพ ระยอง

ชอบ Everest กว่าครับ ดูแน่นๆ เบาะหลัง เด้งไปนิสสสส ส่วน For มัน โยนๆ
Interior Everest ดู แพงกว่าครับ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,769
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 10:15:26 »
ทั้งสองคันนี้ต้องลุ้นไม่ให้เจอปัญหากวนใจ

ผมไปเสพในคลับ มาทั้งสองคลับ มีคนโชคร้ายเจอจุกจิกทั้งสองรุ่น

ออฟไลน์ reyeshenry

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,114
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 10:37:34 »
Fortuner TRD TOP สีขาว หลังคาดำ  ผมว่าสวยมากครับ
แต่เสียดาย ราคาแรงไปหน่อย  อ๊อฟชั่นน้อยไปถ้าเทียบกับเอฟเวอเรต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 09, 2016, 13:48:30 โดย reyeshenry »

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,635
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 10:56:41 »
ถ้าพูดถึงคนใช้งานจริงดูในคลับก็จะพอเห็นคร่าวๆได้ครับ หลายๆคนวิ่งผ่าน 5หมื่นไปแล้ว ใน 1 ปีสำหรับ Everest หรืออย่างน้อง 2หมื่น5พัน สำหรับผมใน 1 ปี
มีทั้งคนต้องเครมและไม่ต้องเครมอะไรครับ MY2015 จะจุกจิกที่สุดเพราะเป็นตัวแรกสุด มีอุปกรณ์บางตัวที่มีดีเฟค
ยกตัวอย่าง CPK (เซ็นเซอร์ข้อเหวี่ยง) จะทำให้รถดับกลางอากาศได้ หรือสตาร์ทไม่ติด แต่จะเกิดตอนความเร็วต่ำๆ ,
EGR อันนี้ปัญหาแรกเลยที่ทำให้มีไฟโชว์ แต่ไม่มีปัญหาต่อการใช้งานครับ ,
กล่อง PCM อันนั้ขอแก้ไขนะครับ แต่เปลี่ยนไปแล้วจบด้วยดี สาเหตุอ่านจาก Reply ล่างนะครับ
 น้ำเข้าจากรางซันรูฟตัน มีน้อยคันแต่แก้จบเร็ว

แต่ถ้าให้พูดอีกคือรุ่น MY2016-2017 ยังไม่มีใครใช้ถึง 1 ปีกันเลย แต่เห็นบางคันมีวิ่งถึง 2หมื่นกันบ้างแล้ว   แยกคือ MY2016 รุ่นที่ผลิตหลัง เมษาฯ จะได้ CPK ใหม่จากฝรั่งเศสแทนของจากจีน แต่กลับมีปัญหาไฟหน้าแทน คือมอเตอร์ปรับไฟหน้าเฟืองรูด ของ MY2016 ไม่ชัวร์ว่ายี่ห้ออะไร แต่ก่อนหน้า MY2015 จะได้ OSLAM ซึ่งจะไม่มีปัญหานี้ เครมไปเดี๋ยวก็กลับมาตก โคมที่มีปัญหาจะมาจากจีน

MY2017 รู้สึกจะแก้ไขไฟหน้ากลับมาเป็น OSLAM แล้ว ตัวโคมเปลี่ยนเป็นฝรั่งเศสด้วย น่าจะแก้เรื่องไฟตกได้แล้ว (มั้ง) และ MY2017 มาใช้ SYNC3 มีระบบนำทางต่อกับมือถือได้เลย มีการปรับช่อง USB ให้ใช้งานง่ายขึ้น ,จอ แสดงการขับขี่ว่า ส่งกำลังไปที่ล้อเท่าไหร่ก็เพิ่มมา

คร่าวๆแค่นี้นะครับ  รถผม MY2015 3.2+ เดือนหน้าจะครบ 1 ปีแล้ว แต่เริ่มใช้งานจริงๆคือ ปลาย พย. ปีที่แล้วเพราะเรื่องฤกษ์ยามของที่บ้าน ทำให้รับมาจอดไปนานเลย ตอนนี้วิ่งไป 2 หมื่นกว่า KM ยังไม่เคยเครมอะไรครับ เพิ่มอัตราสิ้นเปลืองเผื่อทำใจด้วย  วิ่งรถติดใน กทม อย่าหวังว่าจะมี 9 KM/L ขึ้นมานะครับ วิ่งทางไกล ใครได้ 12 ขึ้นนี่เก่งมากๆ แต่ก็เข้าใจแหละ ขับ 4 ตลอด

ประมาณนี้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 09, 2016, 15:36:26 โดย Fly to dream »
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Coat145

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 596
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 11:00:48 »
ผมใช้ฟอร์จูนทั้ง2คัน ตัว2.8 4WD ก่อนตัวTRD เปิดตัว เเล้วก็ซื้อเพิ่มอีกคันให้พ่อ เป็นตัวTRD ตัวท็อป สลับเอามาใช้บ้าง ออฟชั่นอาจน้อยไปนิด เเต่ก็เพียงพอครับ เทียบกับฟอร์ดยังไงออฟชั่นเเละช่วงล่างก็ดีกว่าครับ ใช้มา8-9เดือนสำหรับตัวปกติเเละ3เดือนสำหรับตัวTRD ยังไม่เจอปัญหาใดๆครับหรือผมโชคดีก็ไม่รู้ เกียร์กระตุกก็ไม่เจอ สรุปคือ ถ้ารอเอฟเวอร์เรดได้ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่านานเหมือนเดิมรึป่าว ชอบออฟชั่นล้นๆ ช่วงล่างดี ก็ไปเอฟเวอร์เรดครับ เเต่ซื้อมาอยากเเต่งเพิ่ม ทำช่วงล่างเพิ่มได้อีก จูนเเรงได้อีกพอควร. ฟอร์จูนตัวTRD ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
YARIS1.2 G 2013 ขาว
L33 2.0XL 2014 ดำ
Mercedes-Benz E350e Exclusive ดำ 2018
Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé ขาว 2018
FORD RAPTOR 2.0 BI-TURBO 2019

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,400
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 12:00:03 »
ผมขับ ev 3.2 บ่อยครับ รถนิ่งดีเลยครับ อัตราเร่งพอได้ กินน้ำมันก้ธรรมดาๆไม่ได้เยอะมากมาย จุดแข็งก้อยู่ที่ การเข้าโค้ง ความนิ่งและออปชั่นsafety ครับ แต่ผมได้ยินมาว่าfortuner trd ก้ทำช่วงล่างมาได้พอๆกันเลยแค่ว่าระบบsafetyน้อยกว่า เรื่องทรงก้คงแล้วแต่คนชอบครับ ถ้าเป็นผมๆเอา Everest คับแต่fortuner รุ่นนี้ก้ดีอยุ่คับ

ออฟไลน์ Harem

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,818
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 12:14:16 »
ผมใช้ฟอร์จูนทั้ง2คัน ตัว2.8 4WD ก่อนตัวTRD เปิดตัว เเล้วก็ซื้อเพิ่มอีกคันให้พ่อ เป็นตัวTRD ตัวท็อป สลับเอามาใช้บ้าง ออฟชั่นอาจน้อยไปนิด เเต่ก็เพียงพอครับ เทียบกับฟอร์ดยังไงออฟชั่นเเละช่วงล่างก็ดีกว่าครับ ใช้มา8-9เดือนสำหรับตัวปกติเเละ3เดือนสำหรับตัวTRD ยังไม่เจอปัญหาใดๆครับหรือผมโชคดีก็ไม่รู้ เกียร์กระตุกก็ไม่เจอ สรุปคือ ถ้ารอเอฟเวอร์เรดได้ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่านานเหมือนเดิมรึป่าว ชอบออฟชั่นล้นๆ ช่วงล่างดี ก็ไปเอฟเวอร์เรดครับ เเต่ซื้อมาอยากเเต่งเพิ่ม ทำช่วงล่างเพิ่มได้อีก จูนเเรงได้อีกพอควร. ฟอร์จูนตัวTRD ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ

ช่วงล่าง 2.8 4WD ธรรมดา กับ TRD ต่างกันไหมครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,230
    • อีเมล์
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 12:59:10 »
คหสต.
ตามโจทย์ = ใช้รถปีล่ะ 4 หมื่นโล
คำตอบ = มันบอกในตัวคือ ต้อง For น่าจะเหมาะสุด

ปล.จากที่เคยสัมผัส For หน้า champ มา ยิ่งถ้าใช้เกิน 5 ปีหรือยาวกว่านั้นด้วยล่ะก็ พอถึงฤดูเปลี่ยนอะไหร่ ซ่อมแซม หรือขายต่อ เพราะช่วงรถใหม่ๆ 2-3 ปีแรก มันไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับ ยกเว้น เรื่องความชอบส่วนตัวและต้องการอะไรจากรถคันนั้นแบบไหน นุ่ม หนึบ เงียบ แรง ประหยัด ไม่จุกจิ๊ก บลาๆๆๆ เพราะหลายๆ คน ตัดสินใจด้วยเหตุผลต่างกัน

ออฟไลน์ zgmx9900

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 239
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 13:11:07 »
***ขับ 40,000 กม./ปี***  ผมเลือก Fortuner แบบไม่ลังเล

ออฟไลน์ oatekung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,000
    • อีเมล์
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 13:24:07 »
4หมื่นโลต่อปี เลือก ฟอจูนเถอะครับ
แต่ถ้างบซ่อมไม่จำกัด xc60 มือสอง ก้อดีนะครับ
ขับเยอะ ต้องยิ่งต้องการความปลอดภัย

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,961
    • อีเมล์
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 14:35:22 »
ถ้าพูดถึงคนใช้งานจริงดูในคลับก็จะพอเห็นคร่าวๆได้ครับ หลายๆคนวิ่งผ่าน 5หมื่นไปแล้ว ใน 1 ปีสำหรับ Everest หรืออย่างน้อง 2หมื่น5พัน สำหรับผมใน 1 ปี
มีทั้งคนต้องเครมและไม่ต้องเครมอะไรครับ MY2015 จะจุกจิกที่สุดเพราะเป็นตัวแรกสุด มีอุปกรณ์บางตัวที่มีดีเฟค
ยกตัวอย่าง CPK (เซ็นเซอร์ข้อเหวี่ยง) จะทำให้รถดับกลางอากาศได้ หรือสตาร์ทไม่ติด แต่จะเกิดตอนความเร็วต่ำๆ ,
EGR อันนี้ปัญหาแรกเลยที่ทำให้มีไฟโชว์ แต่ไม่มีปัญหาต่อการใช้งานครับ ,
กล่อง PCM (กล่องควบคุมระบบไฟฟ้าของรถ) อันนี้เห็นเป็นหลังจากรถแบตหมด แล้วไปพ่วงแบต หลังจากนั้นเกือบวันไปใช้รถแล้วกล่องช็อต คาดว่าศูนย์ทำพัง แต่เปลี่ยนไปแล้วจบด้วยดี
 น้ำเข้าจากรางซันรูฟตัน มีน้อยคันแต่แก้จบเร็ว

แต่ถ้าให้พูดอีกคือรุ่น MY2016-2017 ยังไม่มีใครใช้ถึง 1 ปีกันเลย แต่เห็นบางคันมีวิ่งถึง 2หมื่นกันบ้างแล้ว   แยกคือ MY2016 รุ่นที่ผลิตหลัง เมษาฯ จะได้ CPK ใหม่จากฝรั่งเศสแทนของจากจีน แต่กลับมีปัญหาไฟหน้าแทน คือมอเตอร์ปรับไฟหน้าเฟืองรูด ของ MY2016 ไม่ชัวร์ว่ายี่ห้ออะไร แต่ก่อนหน้า MY2015 จะได้ OSLAM ซึ่งจะไม่มีปัญหานี้ เครมไปเดี๋ยวก็กลับมาตก โคมที่มีปัญหาจะมาจากจีน

MY2017 รู้สึกจะแก้ไขไฟหน้ากลับมาเป็น OSLAM แล้ว ตัวโคมเปลี่ยนเป็นฝรั่งเศสด้วย น่าจะแก้เรื่องไฟตกได้แล้ว (มั้ง) และ MY2017 มาใช้ SYNC3 มีระบบนำทางต่อกับมือถือได้เลย มีการปรับช่อง USB ให้ใช้งานง่ายขึ้น ,จอ แสดงการขับขี่ว่า ส่งกำลังไปที่ล้อเท่าไหร่ก็เพิ่มมา

คร่าวๆแค่นี้นะครับ  รถผม MY2015 3.2+ เดือนหน้าจะครบ 1 ปีแล้ว แต่เริ่มใช้งานจริงๆคือ ปลาย พย. ปีที่แล้วเพราะเรื่องฤกษ์ยามของที่บ้าน ทำให้รับมาจอดไปนานเลย ตอนนี้วิ่งไป 2 หมื่นกว่า KM ยังไม่เคยเครมอะไรครับ เพิ่มอัตราสิ้นเปลืองเผื่อทำใจด้วย  วิ่งรถติดใน กทม อย่าหวังว่าจะมี 9 KM/L ขึ้นมานะครับ วิ่งทางไกล ใครได้ 12 ขึ้นนี่เก่งมากๆ แต่ก็เข้าใจแหละ ขับ 4 ตลอด

ประมาณนี้นะครับ
ติดใจ ประเด็นนี้อ่ะครับ
กล่อง PCM (กล่องควบคุมระบบไฟฟ้าของรถ) อันนี้เห็นเป็นหลังจากรถแบตหมด แล้วไปพ่วงแบต หลังจากนั้นเกือบวันไปใช้รถแล้วกล่องช็อต คาดว่าศูนย์ทำพัง แต่เปลี่ยนไปแล้วจบด้วยดี

ไม่ทราบว่า ต้องมีเทคนิคในการพ่วงแบตรึป่าว เพราะเหมือนฟอร์ดจะอ่อนแอมากลเยนะ กล่องPCM เนี่ย
เฟียสต้าก็มีข่าวว่ากล่องPCM เสียเช่นกัน (ซึ่งมันคนละตัวกับTCM ที่เคลมได้ แต่PCMเนี่ยประกันสามปีขาดก็ต้องจ่ายเอง)

ถ้าพ่วงแบตแล้ว หรือไปยุ่งอะไรกับระบบไฟ แล้วทำให้เกิดปัญหาได้ ผมว่า ไม่โอเคเลยนะครับ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,066
    • อีเมล์
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 14:44:23 »
ใช้ปีละ 4หมื่นโล+ขนของกับลูกน้อง ไปโตโยต้าเถอะครับตอบโจทย์ชัดๆเลย

ออฟไลน์ unseen

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 260
    • อีเมล์
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 15:12:41 »
ถ้าใช้ส่วนตัวคงจัด EV เเหละ

เเต่เอามาใช้งาน คงfor เเหละ ไม่เสียดายรถ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,635
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 15:17:40 »
ถ้าพูดถึงคนใช้งานจริงดูในคลับก็จะพอเห็นคร่าวๆได้ครับ หลายๆคนวิ่งผ่าน 5หมื่นไปแล้ว ใน 1 ปีสำหรับ Everest หรืออย่างน้อง 2หมื่น5พัน สำหรับผมใน 1 ปี
มีทั้งคนต้องเครมและไม่ต้องเครมอะไรครับ MY2015 จะจุกจิกที่สุดเพราะเป็นตัวแรกสุด มีอุปกรณ์บางตัวที่มีดีเฟค
ยกตัวอย่าง CPK (เซ็นเซอร์ข้อเหวี่ยง) จะทำให้รถดับกลางอากาศได้ หรือสตาร์ทไม่ติด แต่จะเกิดตอนความเร็วต่ำๆ ,
EGR อันนี้ปัญหาแรกเลยที่ทำให้มีไฟโชว์ แต่ไม่มีปัญหาต่อการใช้งานครับ ,
กล่อง PCM (กล่องควบคุมระบบไฟฟ้าของรถ) อันนี้เห็นเป็นหลังจากรถแบตหมด แล้วไปพ่วงแบต หลังจากนั้นเกือบวันไปใช้รถแล้วกล่องช็อต คาดว่าศูนย์ทำพัง แต่เปลี่ยนไปแล้วจบด้วยดี
 น้ำเข้าจากรางซันรูฟตัน มีน้อยคันแต่แก้จบเร็ว

แต่ถ้าให้พูดอีกคือรุ่น MY2016-2017 ยังไม่มีใครใช้ถึง 1 ปีกันเลย แต่เห็นบางคันมีวิ่งถึง 2หมื่นกันบ้างแล้ว   แยกคือ MY2016 รุ่นที่ผลิตหลัง เมษาฯ จะได้ CPK ใหม่จากฝรั่งเศสแทนของจากจีน แต่กลับมีปัญหาไฟหน้าแทน คือมอเตอร์ปรับไฟหน้าเฟืองรูด ของ MY2016 ไม่ชัวร์ว่ายี่ห้ออะไร แต่ก่อนหน้า MY2015 จะได้ OSLAM ซึ่งจะไม่มีปัญหานี้ เครมไปเดี๋ยวก็กลับมาตก โคมที่มีปัญหาจะมาจากจีน

MY2017 รู้สึกจะแก้ไขไฟหน้ากลับมาเป็น OSLAM แล้ว ตัวโคมเปลี่ยนเป็นฝรั่งเศสด้วย น่าจะแก้เรื่องไฟตกได้แล้ว (มั้ง) และ MY2017 มาใช้ SYNC3 มีระบบนำทางต่อกับมือถือได้เลย มีการปรับช่อง USB ให้ใช้งานง่ายขึ้น ,จอ แสดงการขับขี่ว่า ส่งกำลังไปที่ล้อเท่าไหร่ก็เพิ่มมา

คร่าวๆแค่นี้นะครับ  รถผม MY2015 3.2+ เดือนหน้าจะครบ 1 ปีแล้ว แต่เริ่มใช้งานจริงๆคือ ปลาย พย. ปีที่แล้วเพราะเรื่องฤกษ์ยามของที่บ้าน ทำให้รับมาจอดไปนานเลย ตอนนี้วิ่งไป 2 หมื่นกว่า KM ยังไม่เคยเครมอะไรครับ เพิ่มอัตราสิ้นเปลืองเผื่อทำใจด้วย  วิ่งรถติดใน กทม อย่าหวังว่าจะมี 9 KM/L ขึ้นมานะครับ วิ่งทางไกล ใครได้ 12 ขึ้นนี่เก่งมากๆ แต่ก็เข้าใจแหละ ขับ 4 ตลอด

ประมาณนี้นะครับ
ติดใจ ประเด็นนี้อ่ะครับ
กล่อง PCM (กล่องควบคุมระบบไฟฟ้าของรถ) อันนี้เห็นเป็นหลังจากรถแบตหมด แล้วไปพ่วงแบต หลังจากนั้นเกือบวันไปใช้รถแล้วกล่องช็อต คาดว่าศูนย์ทำพัง แต่เปลี่ยนไปแล้วจบด้วยดี

ไม่ทราบว่า ต้องมีเทคนิคในการพ่วงแบตรึป่าว เพราะเหมือนฟอร์ดจะอ่อนแอมากลเยนะ กล่องPCM เนี่ย
เฟียสต้าก็มีข่าวว่ากล่องPCM เสียเช่นกัน (ซึ่งมันคนละตัวกับTCM ที่เคลมได้ แต่PCMเนี่ยประกันสามปีขาดก็ต้องจ่ายเอง)

ถ้าพ่วงแบตแล้ว หรือไปยุ่งอะไรกับระบบไฟ แล้วทำให้เกิดปัญหาได้ ผมว่า ไม่โอเคเลยนะครับ

ตามนี้ครับ ผมจำผิดหรือเอาเคสอื่นมาปนกันน่ะครับ ขออภัย
เจอละครับ นี่คือจากเจ้าของรถนะครับ

บทสรุปสุดท้ายจริงๆแล้วครับ
จากโพสนี้ https://www.facebook.com/groups/EverestClubThailand/permalink/1769962869945300/ ผ่านไปสามวันก็ได้ข้อสรุป ต้นเหตุของปัญหาคือกล่องโมดูลควบคุมเครื่องยนต์ (PCM) ทำงานบกพร่อง ทางศูนย์ฟอร์ดเอก สีลม ได้ทำการเปลี่ยนให้ใหม่และลงโปรแกรมใหม่ เคสของผมอาจจะมีเพื่อนสมาชิกตำหนิการทำงานของศูนย์ที่ล่าช้า หาสาเหตุไม่ตรงจุด ซึ่งตรงนี้ผมอยากทำความเข้าใจกันนิดนึงครับ การที่จะตรวจเช็ค หรือซ่อมอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จะมีขั้นตอนการปฏิบัติงานตามลำดับขั้น คือเริ่มจากตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆที่เชื่อมโยงกับ PCM ซึ่งต้องใช้เวลาในการไล่หาจุดที่น่าจะเกิดปัญหา เพราะคงไม่มีใครซ่อมคอมที่มีปัญหาด้วยการถอดตัวประมวลผลกลางหรือ CPU เปลี่ยนทันทีโดยไม่ตรวจอุปกรณ์ตัวอื่นก่อน
สำหรับศูนย์ฟอร์ดเอก สีลม ที่หลายๆท่านมีความเห็นไปในทางลบ แต่สำหรับผม ผมโอเคนะกับการพยายามแก้ไขปัญหาให้ผมแบบมีขั้นตอนตามที่ฟอร์ด ประเทศไทยได้อบรมมา และงานนี้อาจารย์ช่างที่เป็นวิทยากรอบรมก็ลงมาดูแลด้วย และอีกศูนย์หนึ่งที่ต้องกล่าวถึงคือ ฟอร์ด ยโสธร ที่ช่วยประสานงานให้ รวมทั้งดูแลบริการหลังการขายด้วยดีมาตลอด
ผมคิดว่า ใครก็อยากได้อะไรๆที่ perfect แต่ในสภาพความเป็นจริงไม่มีอะไรที่ perfect ไปทุกอย่าง จากเคสของผม ผมได้ข้อสรุปว่าจะใช้บริการ ฟอร์ดเอก สีลม และฟอร์ด ยโสธร ต่อไปเรื่อยๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 09, 2016, 15:34:52 โดย Fly to dream »
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Coat145

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 596
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 15:31:27 »
ผมใช้ฟอร์จูนทั้ง2คัน ตัว2.8 4WD ก่อนตัวTRD เปิดตัว เเล้วก็ซื้อเพิ่มอีกคันให้พ่อ เป็นตัวTRD ตัวท็อป สลับเอามาใช้บ้าง ออฟชั่นอาจน้อยไปนิด เเต่ก็เพียงพอครับ เทียบกับฟอร์ดยังไงออฟชั่นเเละช่วงล่างก็ดีกว่าครับ ใช้มา8-9เดือนสำหรับตัวปกติเเละ3เดือนสำหรับตัวTRD ยังไม่เจอปัญหาใดๆครับหรือผมโชคดีก็ไม่รู้ เกียร์กระตุกก็ไม่เจอ สรุปคือ ถ้ารอเอฟเวอร์เรดได้ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่านานเหมือนเดิมรึป่าว ชอบออฟชั่นล้นๆ ช่วงล่างดี ก็ไปเอฟเวอร์เรดครับ เเต่ซื้อมาอยากเเต่งเพิ่ม ทำช่วงล่างเพิ่มได้อีก จูนเเรงได้อีกพอควร. ฟอร์จูนตัวTRD ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ

ช่วงล่าง 2.8 4WD ธรรมดา กับ TRD ต่างกันไหมครับ
ถ้าเดิมๆทั้งคู่ ไม่ต่างมากครับ เเต่จะต่างตรงที่น้ำหนักพวงมาลัยเหมือนจะหนักขึ้นไปอีก อาจเป็นเพราะล้อที่ใหญ่ขึ้น วิ่งทางตรงๆ โคลงน้อยลงเเต่ไม่มาก ยัดโค้งที่ความเร็วเท่ากัน ตัวTRD มั่นใจกว่านิดหน่อย เเต่ที่รู้สึกได้คือ เบรคครับ เบรคหนักหัวไม่ทิ่มเท่าตัวปกติ ตัวปกติจะทิ่มมากกว่าซึงเป็นที่ดริสเบรคหลังเเน่นอน  เเต่ตอนนี้ผมทำช่วงล่างของตัวปกติไปเเล้วพอสมควรจึงดีกว่าตัวTRD ไปเป็นที่เรียบร้อย ฟอร์จูนเนอร์เป็นรถที่ถ้าทำเเล้วจะดีขึ้นมากๆเหมือนรถคนละคัน
YARIS1.2 G 2013 ขาว
L33 2.0XL 2014 ดำ
Mercedes-Benz E350e Exclusive ดำ 2018
Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé ขาว 2018
FORD RAPTOR 2.0 BI-TURBO 2019

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,814
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 18:12:22 »
ผมใช้ eve3.2+ ผมไม่เชียให้ซื้อ

จากโจทย์ที่คุณพุดมานั้น. เลือกโตโยต้าฟอจุนเนอะเลยครับ

ผมเองยังเสียดาย เปลี่ยนจากwt. มาEve รุ้สึกไม่ได้ใช้ประโยชให้คุ้มเลย

ขับน้อยๆ ไว้ขายต่อไปโตต้าเลย
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ a14

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 347
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 18:22:35 »
สำหรับผมถ้าต้องเลือก คงให้นิยามกับตัวเองว่า ถ้าเลือก Fortuner 2.8 TRD ก็เน้นมีไว้ใช้ ถ้าเลืก Everest 3.2 ก็เน้นมีไว้โชว์
Toyota Hilux Mighty-X 2.5 GL
Toyota Collora 1.5 GLX
Honda Civic 1.7 Vti
Isuzu D-Max 3.0 DDi 5MT
Proton Persona 1.6 CNG
Toyota Hilux Revo 2.4 E 6MT
Toyota Collora Altis 1.8 ESport
Isuzu Mu-X 3.0 Iconic

ออฟไลน์ SUBzero

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 110
    • อีเมล์
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 18:46:52 »
แบบตรงๆเลยนะครับ ผมใช้อยู่ทั้งคู่
1.ฟิลลิ่งการขับ eve ดีกว่ามาก
2.อัตราบริโภค  for ดีกว่า
3.สวยเลือกเอาเอง
4.defect
4.1 eve 9เดือน2หมื่นโล+ ยังไม่เจออะไร
4.2 for 8เดือน 9000โล+ ไปตีกอล์ฟเปิดท้ายไม่ได้ครั้งเดียว เข้าศูนย์ tbn หาย

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,305
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 21:19:42 »
ไม่ใช่พวกใช้รถเพื่อการพานิช ปีละ 4 หมื่นโลผมว่าก็ใช้เยอะน่ะ

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
Re: Everest 3.2 TOP VS Fortuner TRD TOP
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กันยายน 09, 2016, 22:11:01 »
ขอบคุณทุกท่านมากครับไปนั่งลูบๆคลำๆมาหลายรอบแล้ว Everest ยังไม่เคยลองขับครับ
ส่วน Fortuner TRD ลองขับแล้ว

เรื่องตัวเลขระยะทางบอกผิดไปนิดครับปีนึงเฉลี่ย 35,000 ไม่เกินนี้ครับ
ถึงตรงนี้ยิ่งฟังยิ่งลังเล 555+ ใครฟันธงเน้นๆให้ทีได้ไม๊ครับ

หรือผมต้องหาโอกาสเทส EV ให้ได้ก่อนคำตอบจะมาเองคือข้องใจเหมือนกันที่ว่าขับดีกว่าฟอจูนนี่สักกี่ % ครับรถเดิมๆนะครับ
ขอบคุณครับใครเคยลองรบกวนเทียบให้ฟังหน่อยครับ