ผู้เขียน หัวข้อ: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ  (อ่าน 9921 ครั้ง)

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
มาแชร์วิธีการล้างรถและเคลือบสีรถกันครับ เพื่อน ๆ มีวิธีดูแลกันอย่างไรบ้าง
ผมเองลองถูกลองผิดกับรถมือสองมาสามคันรวมทั้งรถป้ายแดงที่เคยใช้มาคันนึง
เคยทำรถเป็นรถขนแมว รอย swirl  สีซีด
จนปัจจุบันนี้ก็ได้สูตรดูแลรถเป็นของตัวเองแบบง่าย ๆ
ไม่ต้องลงทุนเยอะ แต่สภาพรถสวยเป็นที่พอใจครับ รอยขนแมวน้อยมาก แทบจะไม่มีเลย รถก็เงางาม สวยทั้งภายนอกภายในครับ

รอยขนแมวเกิดจากอะไร มันก็เกิดจากการล้างรถ แล้วก็การเคลือบสีรถ นั่นล่ะครับเป็นหลักเลย นอกจากนี้ก็อาจจะเกิดจากการปัดฝุ่น การใช้ผ้าคลุมรถได้ด้วย

   หลักการของผมที่ได้ประสบการณ์มาจากผู้อาวุโสท่านนึงคือ
ไปยุ่งกับรถให้น้อยที่สุด ยุ่งกับมันตามความจำเป็นก็พอ หลักการข้อนี้ผมยอมรับเลยครับ เพราะรถป้ายแดงคันแรกของผม ด้วยความเห่อรถใหม่
อยากจะสวยอยากจะเงางาม เลยไปยุ่งกับมันเยอะ โดยเฉพาะลงเคลือบสีนี่ทำบ่อยเกิน ลงสารพัดน้ำยา สารพัดยี่ห้อ แต่ทำโดยไม่ได้ศึกษาเรื่องน้ำยาเคลือบสีให้ดีเสียก่อน
เลือกใช้น้ำยาไม่เหมาะสมครับ รถเป็นรอยด้วย สีก็ซีดเมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกันสีเดียวกันของเพื่อนที่ซื้อมาเดือนเดียวกัน มาจอดเทียบกันรถผมสีอ่อนกว่าแล้วมันก็ไม่เงาคมเหมือนรถเพื่อน  จากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เลย หาวิธีใหม่ในการดูแลรถครับ ตั้งแต่การล้างรถเลย

  -  การล้างรถนี่ผมล้างตามสภาพรถและสภาพอากาศครับ คือจะล้างเมื่อรถสกปรกโดยเฉพาะเวลาฝนตกนี่ถ้า กลับถึงบ้านก็จะล้างเลยครับ
หรือไม่ถ้ามันค่ำเกินก็จะล้างตอนเช้า จะไม่ปล่อยให้สกปรกหรือเปียกฝนนานเกินไป เพราะผิวรถจะเป็นคราบน้ำ
แต่ถ้าอากาศดี รถไม่สกปรกอะไร ผมก็ไม่ล้างครับ แค่ปัดฝุ่นออกเวลาเก็บรถเข้าบ้าน แต่ไม่ใช้ไม้ขนไก่นะ
     วิธีล้างคือจะฉีดน้ำ และทำความสะอาดส่วนที่สกปรกที่สุดก่อน คือซุ้มล้อและล้อ แล้วค่อยทำความสะอาดตัวถังทีหลังครับ
     แชมพู ผมทำเอง 555 สูตรผมคือยาสระผมผสมกับน้ำยาล้างจาน เมื่อก่อนชอบใช้น้ำยาล้างรถชนิดผสมสารเคลือบนะ
แต่มันไม่ work เพราะมันจะเป็นคราบ เวลาเช็ดทำความสะอาดต้องออกแรงเยอะ แล้วรถอาจจะเป็นรอยได้
สูตรแชมพู + น้ำยาล้างจานนี้เนื่องจากน้ำยาล้างจานมีสารลดแรงตึงผิวอยู่เยอะ และมีสารขจัดคราบไขมันเยอะ ก็เลยเอาไปผสมกับแชมพูสระผมซึ่งมันหอมและมีฟองเยอะดี
เวลาฉีดน้ำล้างออก น้ำจะเป็นเม็ดกลม ๆ ไม่เกาะผิวรถเยอะ เวลาซับน้ำก็ง่าย ไม่เป็นคราบครับ  กระจกใสปิ้ง
การเช็ดรถของผม เรียกว่าเป็นการซับน้ำมากกว่าเช็ดนะ เอาผ้าชามัวร์ซับ ๆ เอา ไม่ได้ไปถูให้มันแห้งครับ พอซับน้ำแล้ว ค่อยเอาผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดแห้งเบา ๆ ตามอีกที  วิธีนี้ผมใช้มาเป็นสิบปีแล้วครับ รถ city ของภรรยา ผมล้างแบบนี้มา อายุสิบกว่าปีแล้วก็ยังเงาแจ่มอยู่ ไม่ซีด ไม่เป็นรอยขนแมว
   น้ำยาล้างจานนี่บางท่านก็อาจจะไม่กล้าใช้นะ อาจจะกลัวว่ามันจะกัดสี เพราะบางชนิดเค้าบอกว่าผสมมะนาว
แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นแค่กลิ่นมะนาวที่ผสมลงไป  ส่วนกรดเค้าจะผสมกรดซิตริกเพื่อให้เป็นกลาง
ซึ่งผมว่ามันปลอดภัยกว่าน้ำยาล้างรถบางอย่างซะอีกนะ  น้ำยาล้างรถบางชนิดนี่ผมใช้แล้วคัน แต่น้ำยาล้างจานนี่ปกติ ไม่เคยแพ้ ไม่เคยคันเลย แล้วผมใช้มานานเป็นสิบปีแระ 
    ข้อสำคัญของการล้างรถคือ แยกผ้าครับ อย่าใช้ผ้าปนกัน ล้างซุ้มล้อ ล้างล้อก็ผืนนึง เสร็จงานแล้วก็หมดหน้าที่มันไป ล้างตัวถังเปลี่ยนผืนใหม่ ซับน้ำก็ใช้ผ้าชามัวร์ เช็ดแห้งก็ใช้ผ้าอีกผืนนึง แห้ง ๆ สะอาด ๆ เลือกผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อดี ๆ หน่อยครับ

 เทคนิคอีกอย่างคือ ก่อนที่จะใช้แชมพูถูรถ ผมจะใช้น้ำเปล่ากับมือเปล่าลูบเบา ๆ เอาคราบสกปรกออกจากรถก่อนรอบนึงนะครับ แต่ถ้ารถไม่สกปรกอะไรมาก ก็จะไม่ใช้แชมพู ใช้น้ำเปล่ากับมือเปล่า เสร็จแล้วก็ซับน้ำ
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อากาศจะดี ไม่มีฝน รถไม่สกปรกอะไรมาก อย่างน้อยเดือนนึงผมก็จะต้องล้างรถครับ
จะได้เอาคราบน้ำมัน คราบสกปรกออกจากผิวไปบ้าง  ถ้ากลับจากเดินทางไกลนี่ล้างเลย ขี้นกนี่รีบล้างรีบเช็ดออกทันทีที่เห็น ไม่งั้นมันกัดสีด่างหมด   ถ้าเราดูแลรถให้สะอาดอยู่เสมอ เวลาล้างมันก็ง่ายครับ ไม่ต้องออกแรงมาก
รถก็ไม่ช้ำมาก

  ส่วนภายในรถ ผมไม่ใช้แว็คอะไรเลยครับ เคยใช้แล้วฝุ่นมันเกาะ ไม่ชอบครับ อีกอย่างผมแพ้กลิ่นมันด้วย เวียนหัวครับ
ผมใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มผสมน้ำ อัตรา 1 ต่อ 10 ครับ ทำความสะอาดภายในทั้งหมด ไม่ว่าเบาะผ้า เบาะหนัง คอนโซล ความทั้งชิ้นส่วนที่เป็นยางทั้งหมดด้วยครับ เคยดูรายการเมคกะเคลฟเวอร์ครับ เลยทดลองทำดู มันได้ผลจริง ๆ เบาะสะอาด ภายในสะอาด ฝุ่นก็ไม่ค่อยเกาะ เพราะมันมีสารต้านไฟฟ้าสถิต กลิ่นอับก็ไม่มีครับ รถหอม อ่อน ๆ ภายในนี่ผมทำอาทิตย์ละครั้งสองครั้งครับ

-  การเคลือบสี  อันนี้บทเรียนที่ผ่านมาทำเจ็บมาเยอะมากครับ  แต่การเคลือบสีรถก็สำคัญ ถ้าไม่เคลือบเลย บ้านเราอากาศร้อนฝุ่นเยอะ สีรถก็เสียเร็ว   การเคลือบสีก็จะช่วยได้มากทีเดียวครับ
ถ้าจะเคลือบสีรถ เวลาหาน้ำยามาใช้ ขอให้ดูให้ดีก่อนนะครับว่าเป็นน้ำยาประเภทไหน    มันมีทั้งแบบน้ำยาเคลือบเพียว ๆ ไม่ผสมผงขัด  มีแบบผสมผงขัดมาด้วยมากน้อยก็แล้วแต่ยี่ห้อ  มีแบบสารเคลือบธรรมชาติหรือคาร์นัวบ้า
กับแบบสารสังเคราะห์พวก ซิลิคอน  มีแบบที่ใช้มือขัด หรือแบบที่ต้องขัดด้วยเครื่อง มีแบบที่เคลือบหมาดน้ำ กับแบบเคลือบแห้ง  มีแบบเคลือบทีละส่วนกับเคลือบทั้งคันแล้วขัด  มีแบบที่ใช้กับรถสีเก่า และรถสีใหม่ ฯลฯ  เยอะมากครับ  บางชนิดราคาไม่แพง บางชนิดก็แพงเวอร์ไปเลยก็มี   
   ถ้าจะลงเคลือบก็ต้องมาดูสภาพผิวรถของเราก่อนว่าเหมาะกับน้ำยาประเภทไหน   เรามีเวลาเคลือบสีมากน้อยแค่ไหน น้ำยาแต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียของมันอยู่นะครับ
   ถ้าเราเราสภาพสีไม่ค่อยดี มีรอยขนแมว ก็ควรใช้น้ำนาผสมผงขัด แล้วควรขัดด้วยเครื่อง แต่แนะนำว่าถ้าเราไม่ชำนาญจริง ๆ ไปเข้าร้านคาร์แคมืออาชีพให้เค้าทำให้ดีกว่านะครับ หาร้านที่มีประวัติดี ๆ มีฝีมือจริง ๆ ด้วยนะ
การขัดด้วยเครื่องต้องชำนาญครับ และต้องใช้น้ำยา ใช้แผ่นปัดให้ถูกชนิดด้วย ผมเคยขัดป้ายแดงคันแรกเอง รถเป็นรอย swirl หมดเลยครับ เซ็งมาก หลังจากนั้นไม่กล้าทำอีกเลย 
   ถ้าเพื่อน ๆ จะเคลือบสี ขอให้ดูฉลากและวิธีใช้ให้ดีก่อนนะครับ จะได้ไม่ใช้ผิด   แล้วหากกลิ่นน้ำยาที่จะใช้มันมีกลิ่นคล้าย ๆ น้ำมันก้าดนี่อย่าไปลงชิ้นส่วนพลาสติคเช่นไฟหน้าหรือไฟท้ายนะครับ ถ้าน้ำยาไปโดนให้รีบเช็ดออก อย่าทิ้งไว้เพราะมันจะกัดพลาสติคด่างเลย อันนี้รถ city ผมโดนไปครั้งนึง   น้ำยาหกลงไฟหน้า ผมลืมเช็ดออก
ทิ้งไว้วันนึงกะคืนนึงเต็ม ๆ ตอนเช้ามาขัด มันทิ้งรอยคราบเป็นดวงเลยครับ  ต้องไปให้ร้านขัดไฟหน้าใหม่
ก็ไม่รู้หรอกนะครับว่ามันด่างเพราะอะไร แต่เดาเอาว่าสารประเภทน้ำมันก้าดมั้ง หรือไม่ก็อาจจะเป็นผงขัด

   สำหรับผม สีรถยังสภาพดีมากอยู่ ก็จะใช้น้ำยาเคลือบสองชนิดครับ เป็นแบบสารธรรมชาติหรือคาร์นัวบ้าทั้งสองชนิดแล้วราคาไม่แพงด้วย  คาร์นัวบ้ามีข้อดีคือมันเงาแบบฉ่ำลึกและคม  ขัดง่ายไม่ต้องใช้เครื่องก็ได้ แต่ข้อเสียคือมันอยู่กับผิวไม่ทนเท่าแบบสารสังเคราะห์  ชนิดสังเคราะห์มันจะเงาแบบประกายแต่ไม่ค่อยฉ่ำ  แต่ข้อดีคือมันติดทน
    ชนิดที่ไม่ผสมผงขัด ผมจะใช้เคลือบเป็นประจำครับ เดือนหรือสองเดือนครั้ง  ส่วนชนิดที่ผสมผงขัดผมใช้ปีละสองครั้ง เอาไว้เก็บรอยขีดข่วนหรือรอยขนแมวบาง ๆ ครับ  หรือใช้ลบรอยเฉพาะที่ ก็จะใช้ตัวนี้ครับ  รอยสะเก็ดยางมะตอยก็ใช้ตัวนี้เช็ดออกเหมือนกัน  เวลาก่อนเดินทางไกลผมก็จะลงชนิดไม่ผสมผงขัดทุกครั้งก่อนเดินทาง
    แต่มีอีกอย่างที่ผมใช้เคลือบสีบ่อย ๆ เหมือนกันนะ มันคือจอห์นสันเบบี้ออยครับ  555  เอของภรรยามาใช้
เคยอ่านเจอว่ามันทำจากกลีเซอรีน แล้วเค้าใช้ทำความสะอาดพวกเฟอร์นิเจอร์ ก้อกน้ำ เครื่องเสียง เครื่องไม้ เครื่องพลาสติค โครเมี่ยมได้ดี  เลยลองครับ  ลองเฟอร์นิเจอร์แล้วก็มาลองกับรถมอไซด์  โอ...เงางาม  ฉ่ำ คม  ลองหลาย ๆ ครั้ง ไม่มีปัญหาอะไรก็เลยลองลงกับรถ city ภรรยาดูบ้าง  ครั้งแรกลงเยอะไปหน่อย ลงเสร็จเอาออกไปชับฝุ่นเกาะตรึม  5555  ต้องล้างออกแล้วเลยลงใหม่ ลงบาง ๆ ลงทีละส่วน ลงเสร็จแล้วเอาไมโครไฟเบอร์ขัดอีกที ทีนี้แจ่มครับ
มาสองคันล่าสุดที่ใช้ก็เลยใช้เบบี้ออย ลงเป็นระยะ ๆ แล้วแต่อารมณ์ครับ  มันทำความสะอาดผิวได้ดีแล้วเงาดีด้วย

เพื่อน ๆ มีเทคนิคอะไรบ้างมาแชร์กันนะครับ ... เผื่อผมจะได้ทดลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง แต่จะลองกับรถมอไซด์ก่อนครับ

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2016, 12:43:11 »
นี่ city อายุ 10 ปีครับ ใช้สูตรนี้ล้างและเคลือบสีรถตลอดครับ  แต่เบบี้ออยมาเริ่มใช้ตอนอายุรถได้ ห้า ปี  ขายให้หลานสาวไปแล้วครับ



ส่วน freed อายุ เข้า ปีที่ 5 และ vitara เข้าปีที่ 7 สูตรนี้ล้วน ๆ ไม่เคยใช้อย่างอื่นเลยครับ



ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2016, 12:52:42 »
รถผมสีดำ ทำใจ ครับ

ออฟไลน์ Starkunz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 28
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2016, 12:53:00 »
ตอนแรกผมก็ล้างเองนะครับ

ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย เลยส่งคาร์แคร์ล้าง ผมพยายามเลือกร้านที่ดีที่สุดแล้ว แต่ขนแมวก็ยังมาบ้าง

ล้างเคลือบเดือนละ 2 หน

ล้างเคลือบ + ลง cleaner 2 เดือนครั้ง

ตอนแรกพยายามหาร้านที่ใช้ blackfire wet Dimomd แต่สุดท้ายจบที่ร้านๆนึง ใช้ wax ของ Surf city garage + เจ้าของร้านคุยกีให้ความรู้เราได้ครบถ้วน

เพราะเอาจริงๆผมเป็นคนแยกความฉ่ำของรถไม่ค่อยออก เลยคิดว่ายี่ห้อไหนมันก็เงาเหมือนกันหมด

ใจจริงก็อยากลงทุนซื้อเครื่องขัดเองนะครับ แต่กลัวซื้อมาแล้วจะไม่ได้ใช้ 555

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2016, 16:45:56 »
เมื่อก่อนได้รถมาใหม่ๆก็หาข้อมูลเยอะ ล้างเอง 2คัน พักหลังหนื่อยเลี้ยงลูกไม่ค่อยได้นอน ไม่ค่อยมีแรงและไม่มีเวลาด้วยงานเยอะใช้แรงด้วย พึ่งพาแมกกวายร์แถวบ้านครับหลังจากลองมาหลายที่ ไม่ค่อยพอใจทั้งนั้นไม่ค่อยเก็บหยดน้ำร่องรอยต่างๆยังหลงเหลือ ราคาก็แพงกว่า มาที่นี่ถูกใจถูกเงินด้วย ล้างเสร็จถ้าเจอฝนภายใน3วันกลับมาล้างฟรี ก็เลยส่งล้างตลอดแล้วกำชับน้องเค้าว่าดูแลเหมือนรถตัวเองนะ ยื่นติ๊บให้นิดหน่อย (ไม่ค่อยได้แชร์ประสบการณ์กับ จขกท เล้ย โทษครับ)

ออฟไลน์ iamnobody

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 477
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2016, 17:44:08 »
ทั่วๆ ไปก็ประมาณนี้ครับ
ทุกครั้งเวลาล้างรถฉีดคราบโคลนออกก่อน ล้างจากบนลงล่าง เช็ดด้วยผ้าชามัวร์ (ไม่ชอบใช้ไมโครไฟเบอร์เช็ดแห้งครับ)
ทุกสัปดาห์ ลง wax ครั้งนึงครับ (ตอนนี้ผมใช้น้ำยาที่เอาไว้ maintenence เคลือบแก้วมาลงแทนครับ มันง่ายดี ใช้ได้กับรถที่ไม่ได้ลงเคลือบแก้วด้วย)
จากนั้นหลัง wax set ตัวแล้วก็เอาไฟฉายตรวจสอบหารอย swirl ถ้าเจอก็เก็บๆ ไว้เดี๋ยวทำทีเดียวครับ

ทุกเดือนตรวจสอบคราบยางมะตอย ถ้าเจอจะใช้น้ำยาละลาย หรือลูบดินน้ำมันก็ตามสะดวกครับ และลง wax ตามปกติ

ทุก 3 เดือนขัดละเอียดทีนึง (อันนี้จะล้าง wax เก่าหรือไม่ก็ตามสะดวกเลยครับ) โดยใช้น้ำยาขัดละเอียด+ฟองน้ำขาว หรือดำ+เครื่องโรตารี่ จากนั้นก็ลง wax ตามปกติครับ

ทุก 1 ปี ขัดหยาบ (หรือจะขัดเฉพาะจุดที่เป็นรอยก็ได้ครับ) ใช้น้ำยาขัดหยาบ+ขนแกะ ตามด้วยขัดหยาบ+ฟองน้ำส้ม  และขัดละเอียด+ฟองน้ำขาวหรือดำ และก็ถ้าขยันจะลง glaze แล้วตามด้วย wax ครับ
ถ้าขี้เกียจก็ข้ามขั้นตอน glaze ไปครับ

สุดท้ายคือหลังล้างรถและ wax แล้วหมั่นใช้ไฟฉายตรวจสอบรอยบ่อยๆ ครับ จะได้รู้หากครั้งนี้ล้างพลาดทำให้รถเป็นรอยครับ
และปกติขัดเฉพาะชิ้นมันเหนื่อยน้องกว่าทำทั้งคันมากครับ
ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆก็ดีครับ

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2016, 21:43:52 »
ล้างขี้นกนี่ทำเหมือนผมเลย ถ้าเจอรีบเช็ดออกเลย

ผมง่ายๆเลย ไม่จอดตากแดดตากฝน ส่วนใหญ่ใช้น้ำเปล่าล้างๆ ละใช้ผ้าเช็ดเอา ถ้าคราบเยอะจริงๆค่อยใช้น้ำยาล้างรถ

ถ้าจอดในบ้านละฝุ่นมาเกาะ ใช้ไม้ขนไก่ปัดได้ แต่ถ้าไปขับผ่านตรงที่ฝุ่นเยอะๆอย่าใช้ไม้ขนไก่ปัดไม่งั้นรอยขนแมวมา

 

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2016, 08:26:33 »
ทั่วๆ ไปก็ประมาณนี้ครับ
ทุกครั้งเวลาล้างรถฉีดคราบโคลนออกก่อน ล้างจากบนลงล่าง เช็ดด้วยผ้าชามัวร์ (ไม่ชอบใช้ไมโครไฟเบอร์เช็ดแห้งครับ)
ทุกสัปดาห์ ลง wax ครั้งนึงครับ (ตอนนี้ผมใช้น้ำยาที่เอาไว้ maintenence เคลือบแก้วมาลงแทนครับ มันง่ายดี ใช้ได้กับรถที่ไม่ได้ลงเคลือบแก้วด้วย)
จากนั้นหลัง wax set ตัวแล้วก็เอาไฟฉายตรวจสอบหารอย swirl ถ้าเจอก็เก็บๆ ไว้เดี๋ยวทำทีเดียวครับ

ทุกเดือนตรวจสอบคราบยางมะตอย ถ้าเจอจะใช้น้ำยาละลาย หรือลูบดินน้ำมันก็ตามสะดวกครับ และลง wax ตามปกติ

ทุก 3 เดือนขัดละเอียดทีนึง (อันนี้จะล้าง wax เก่าหรือไม่ก็ตามสะดวกเลยครับ) โดยใช้น้ำยาขัดละเอียด+ฟองน้ำขาว หรือดำ+เครื่องโรตารี่ จากนั้นก็ลง wax ตามปกติครับ

ทุก 1 ปี ขัดหยาบ (หรือจะขัดเฉพาะจุดที่เป็นรอยก็ได้ครับ) ใช้น้ำยาขัดหยาบ+ขนแกะ ตามด้วยขัดหยาบ+ฟองน้ำส้ม  และขัดละเอียด+ฟองน้ำขาวหรือดำ และก็ถ้าขยันจะลง glaze แล้วตามด้วย wax ครับ
ถ้าขี้เกียจก็ข้ามขั้นตอน glaze ไปครับ

สุดท้ายคือหลังล้างรถและ wax แล้วหมั่นใช้ไฟฉายตรวจสอบรอยบ่อยๆ ครับ จะได้รู้หากครั้งนี้ล้างพลาดทำให้รถเป็นรอยครับ
และปกติขัดเฉพาะชิ้นมันเหนื่อยน้องกว่าทำทั้งคันมากครับ
ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆก็ดีครับ
สุดยอดครับ ได้เทคนิคไฟฉายมาอีกอย่างแระ ต้องลองดูมั่ง

ออฟไลน์ Amaranthe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 708
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2016, 09:14:41 »
สูตรน้ำยาล้างรถ กับ เช็ดภายในรถ สูตรเบบี้ออย ของ จขกท แปลกดีครับ น่าลองมั่ง

สำหรับผม ผ้าที่ใช้เช็กรถก็สำคัญนะครับ ซื้อผ้าแบบ 70/30 ถ้าขนสั้นเช็ดรด เช็ด AIO ขนยาวเช็ดเสปร์ย
ถ้าผ้าไม่สะอาดพอจะทำให้เป็นรอยได้ ผมซักผ้าไมโครไฟเบอร์ด้วย สบู่ และยึด 3 หลักนี้
ห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ห้ามโดนแดด ห้ามบิดแรง

เวลาที่โดนขี้นก ขี้จิ้งจก รอยสกปรกต่าง ๆ ผมไม่อยากใช้ผ้าไมโครไฟเบอรืเช็ดเลย ขี้เกียจซัก
เมื่อก่อนผมใช้ทิชชู่ราคาต่ำเช็ด แล้วมันรุ่ยติดรถและเป็นรอยคราบ ตอนนี้ซื้อทิชชู่ที่เนื้อดี ๆ มาเช็ดแทน
ส่วนใหญ่จะใช้น้ำเปล่า หรืออาจจะใช้น้ำยา detailer มาเช็ดก็ได้

แวก ลงเองด้วยมือ ไม่มีเครื่อง ไม่เข้าร้าน
ผมลง AIO 1 ชั้น sealant 1 ชั้น เสปรื์ยแวกอีก 2 ชนิด อย่างละ 1 ชั้น
ถ้าผิวรถไม่ดีจะลูปดินน้ำมันกอนลงแวก

ออฟไลน์ DolbyNR

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2016, 21:00:15 »

ขอบคุณคับ

ออฟไลน์ banch

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
Re: ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นรอยขนแมวมาแชร์กันครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2016, 11:13:05 »
ทำใจครับ

สำหรับผม รถซื้อมาใช้งาน