ใช้ smart key (push start + keyless entry) แล้วติดใจมาก เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกมาก
ทั้งที่แต่ก่อนมองว่าไม่จำเป็นเท่าไร
เช้าขึ้นมาก็หยิบกุญแจรถใส่กระเป่ากางเกงข้างซ้าย จนกลับเข้าบ้านตอนเย็นโน่น..
จึงล้วงกุญแจจากกระเป๋ากางเกงเก็บ ตลอดทั้งวันไมว่าไปไหน เปิดประตูหน้า/หลัง กระโปรงท้าย
ไม่ต้องล้วงกุญแจออกมาเลย
(แต่อย่าเผลอลืมเอากุญแจออกจากกระเป๋ากางเกง ก่อนใส่ลงเครื่องซักผ้านะครับ)
ผมคิดว่าแนวโน้มต่อไปคงไปทาง smart key เป็นส่วนใหญ่ เพื่ออำนวยความสะดวก
ที่จขกท.ถามมา ทั้งสองระบบทำงานคล้ายๆกัน แบบรถส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
ที่มีระบบกันขโมย Immobilizer ซึ่งภายในตัวดอกกุญแจจะมี chipอิเลคโทรนิคส์
ไว้สร้างรหัสกันขโมย ให้ยอมให้เครื่องยนต์สตาร์ทได้
แบบที่ต้องใช้กุญแจเสียบในเบ้า ก็จะมีคอยล์อิเลคโทรนิกส์อยู่รอบเบ้านั้นเพื่อ
ขยายสัญญาณจากตัวกุญแจส่งไปย้งระบบกันขโมยต่อไป (โดยกุญแจไม่จำเป็น
ต้องมีไฟแบตเตอรี่เลี้ยง chip)
ส่วนแบบที่ไม่ต้องเสียบนั้น พัฒนามาอีกขั้นโดยกุญแจปล่อยรหัสกันขโมยออกมาส่งผ่านทาง
คลื่นวิทยุ ดังนั้นตัวส่งที่อยู่ในดอกกุญแจต้องอาศัยไฟจากแบตเตอรี่เล็กๆด้วย แล้วตัวรับที่อยู่ในรถ
จะรับสัญญาณส่งไปยังระบบกันขโมย (แต่แน่นอน เป็นการเพิ่มต้นทุน)
ผมใช้ Focus ซึ่งถ้าแบตกุญแจหมดก็จะมีเบ้า ให้ช่องกุญแจเสียบให้สตาร์ทรถได้เหมือนแบบแรกด้วย
เรื่องความปลอดภัยทั้งสองแบบคงเหมือนๆกัน
แต่ถ้ากำลังหนีใครมา แบบไม่ต้องล้วงกุญแจมาเสียบก่อน คงไปได้ไวกว่า
keyless entry นั่น ผมว่าทำให้ปลอดภัยขึ้น เข้ารถได้เร็วกว่าล้วงกุญแจไขประตู
นอกจากนี้เซ็ตเลือกได้ว่าจะให้เปิดเฉพาะคนขับบานเดียว หรือ เปิดทั้งสี่บาน
และไม่ต้องกลัวว่าเรามาถึงประตูด้านคนขับ ผู้ประสงค์ร้ายที่อยู่อีกฝั่งของรถ
จะชิงเปิดประตูอีกฝั่งเข้ามาด้วยนั้น ประตูด้านนั้นไม่เปิดครับ