ตัวหนังสือคำว่า นิสสัน ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อตอนค่ำวันพฤหัสบดี (22 พ.ย.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คณะกรรมการบริหารบริษัทนิสสันประชุมวาระฉุกเฉิน และมีมติปลด คาร์ลอส โกส์น ออกจากตำแหน่งประธานกรรมการเอเจนซีส์ - บอร์ดบริหารของนิสสัน มอเตอร์ ลงมติเป็นเอกฉันท์ปลด คาร์ลอส โกส์น ออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ในการประชุมวาระพิเศษวันพฤหัสบดี (22 พ.ย.) ด้านรัฐมนตรีอุตสาหกรรมญี่ปุ่นบินสู่ปารีสถกเครียดขุนคลังฝรั่งเศส เรื่องประคองโครงการพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ ซึ่งทำท่าจะมีปัญหาหนัก โดยที่มีรายงานว่าฝ่ายนิสสันคัดค้านหนักตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ในความพยายามของโกส์นภายใต้แรงผลักดันของรัฐบาลแดนน้ำหอม ที่จะควบรวมนิสสันกับเรโนลต์เข้าด้วยกัน ขณะเดียวกันสื่อแดนอาทิตย์อุทัยสาวลึกพบพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลอีกหลายอย่างของผู้บริหารระดับตำนานผู้นี้ เช่น การสั่งนิสสันโอนเงินให้พี่สาวปีละแสนดอลลาร์โดยหลอกว่า เป็นค่าให้คำปรึกษาธุรกิจหลังจากการทบทวนรายงานของการตรวจสอบภายในที่มีข้อมูลรายละเอียด บอร์ด (คณะกรรมการบริหารบรษัท) จึงลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์
ปลด คาร์ลอส โกส์น ออกจากการเป็นประธานของบอร์ด คำแถลงที่ออกมาภายหลังการประชุมระบุ
ขณะเดียวกัน บอร์ดนิสสันได้ย้ำว่า ความเป็นหุ้นส่วนกับเรโนลต์ที่ดำเนินมายาวนาน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และบอกว่า ภารกิจคือการลดผลกระทบและความสับสนที่อาจเกิดขึ้นแก่ความร่วมมือกันวันต่อวันระหว่างบริษัททั้งสอง ให้มีน้อยที่สุด
ในทางเทคนิคแล้ว ถึงแม้โกส์นพ้นจากตำแหน่งประธานกรรมการ แต่เขายังคงเป็นกรรมการคนหนึ่งของบอร์ดอยู่ เนื่องจากตามกฎระเบียบของบริษัท ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเท่านั้นจึงจะสามารถปลดกรรมการของบอร์ดได้
นิสสันกล่าวในคำแถลงว่า จะศึกษาเรื่องการก่อตั้ง คณะกรรมการพิเศษ ขึ้นมาเพื่อขอคำปรึกษาจากฝ่ายที่สาม ในเรื่องการปรับปรุงด้านธรรมาภิบาลภายในบริษัทและการจ่ายค่าตอบแทนให้ฝ่ายบริหาร
โกส์น วัย 64 ปี ถูกจับกุมเมื่อวันจันทร์ (19) จากข้อกล่าวหาประพฤติผิดทางการเงินหลายๆ เรื่อง
อัยการญี่ปุ่นระบุว่า โกส์น และเกร็ก เคลลี กรรมการตัวแทนที่ถูกจับกุมพร้อมกัน ได้สมรู้ร่วมคิดรายงานค่าตอบแทนโกส์นที่นิสสันในช่วง 5 ปีนับจากปีการเงิน 2010 ต่ำกว่ารายได้จริงซึ่งอยู่ที่ 10,000 ล้านเยน (88.47 ล้านดอลลาร์) ถึงครึ่งหนึ่ง
ชิน คูคิโมโตะ รองอัยการสำนักงานอัยการแขวงโตเกียว แถลงยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี (22) ว่า ศาลได้อนุมัติให้ควบคุมตัวโกส์นต่ออีก 10 วันตั้งแต่วันพุธ (21) แต่ไม่ได้ระบุว่า โกส์นยอมรับข้อกล่าวหาหรือไม่ ทั้งยังบอกว่า ความผิดของโกส์นตามข้อกล่าวหาเป็นหนึ่งในอาชญากรรมร้ายแรงที่สุด ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายเครื่องมือทางการเงินของญี่ปุ่น ซึ่งภายใต้กฎหมายนี้ บริษัทต้นสังกัดของผู้กระทำผิดอาจต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารด้วย
อัยการยังเผยว่า โกส์นถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ควบคุมตัวในโตเกียวที่มีกฎเคร่งครัดและบรรยากาศแตกต่างจากไลฟ์สไตล์หรูหราของเขาราวฟ้ากับดิน เช่น ห้ามนอนกลางวัน และต้องสวมหน้ากากเมื่อมีผู้เข้าเยี่ยมเพื่อป้องกันแพร่เชื้อโรคติดต่อ
จอโทรทัศน์ขนาดยักษ์บนท้องถนนสายหนึ่งในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กำลังเผยแพร่รายงานข่าวบอร์ดบริหารของนิสสัน มอเตอร์ ลงมติเป็นเอกฉันท์ปลด คาร์ลอส โกส์น ออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท เมื่อตอนค่ำวันพฤหัสบดี (22 พ.ย.)ด้าน เจา เดอ เมนดอนกา กงสุลบราซิล เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีหลังเข้าเยี่ยมว่าโกส์นดูแข็งแรงดี
นอกจากมีตำแหน่งในนิสสันแล้ว โกส์นยังเป็นประธานกรรมการและซีอีโอของเรโนลต์ ซึ่งในการประชุมบอร์ดบริหารของบริษัทรถยนต์ฝรั่งเศสแห่งนี้เมื่อวันอังคาร (20) มีมติเพียงแค่แต่งตั้งผู้ที่จะเข้ารับผิดชอบแทนเขาเท่านั้น ทว่าไม่ได้แตะต้องตำแหน่งของโกส์น ขณะที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แจ้งว่าเตรียมปลดผู้บริหารสัญชาติบราซิลผู้นี้จากเก้าอี้ประธานกรรมการของบริษัท ระหว่างการประชุมบอร์ดบริษัทสัปดาห์หน้า
โกส์นเป็นหัวเรือใหญ่ในการฟอร์มทีมพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วยเรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ ที่ว่าจ้างพนักงานทั่วโลกราว 450,00 คน และปีที่แล้วมียอดขาย 10.6 ล้านคัน มากกว่าบริษัทรถยนต์ค่ายอื่นๆ ทั้งหมด
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์และสื่ออื่นๆ การตกลงจากอำนาจอย่างเสื่อมเสียเกียรติยศของโกส์นคราวนี้ บังเกิดขึ้นในขณะที่เขาพยายามผลักดันอย่างเต็มกำลังให้นิสสันผนวกกิจการอย่างสมบูรณ์กับเรโนลต์ ตามการผลักดันของรัฐบาลฝรั่งเศส แต่เรื่องนี้ถูกคัดค้านจากพวกผู้บริหารค่ายรถแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเวลานี้กลายเป็นเพลเยอร์ซึ่งทำกำไรได้สูงที่สุดในบรรดาหุ้นส่วนทั้ง 3 และไฟแนนเชียลไทมส์ชี้ว่า การจากไปของโกส์น อาจถูกใช้เป็นเหตุผลข้ออ้างสำหรับการปรับสมดุลภายในกลุ่มพันธมิตรนี้ใหม่ ในทางที่เป็นผลดีแก่นิสสันมากขึ้น
เรโนลต์นั้นยังคงรั้งโกส์นเอาไว้ โดยชี้อย่างชัดเจนว่า นิสสันไม่ได้ส่งหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมไว้จากการตรวจสอบภายในไปให้
นักวิเคราะห์ยังมองว่า แม้เรโนลต์และนิสสันไม่ลงรอยกันอย่างชัดเจน แต่ไม่มีฝ่ายใดที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่งเพียงพอที่จะลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์แต่เพียงลำพัง
อย่างไรก็ดี การที่โกส์นที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้บริหารที่มีคนนับหน้าถือตามากที่สุดในวงการยานยนต์คนหนึ่ง หมดสิ้นวาสนา ได้ส่งผลต่ออนาคตของกลุ่มพันธมิตรสามเส้านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อวันพฤหัสบดี รัฐมนตรีอุตสาหกรรมญี่ปุ่นบินไปปารีสเพื่อหารือกับรัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส เกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพพันธมิตรกลุ่มนี้
ภายหลังจากเมื่อวันจันทร์ นิสสันแถลงว่า ผลการตรวจสอบภายในหลังจากได้เบาะแสจากแหล่งข่าวในบริษัทพบว่า โกส์นมีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง อาทิ นำเงินของบริษัทมาใช้ส่วนตัว รายงานรายได้ต่ำเกินจริงนานหลายปี ก็มีสื่อมวลชนของญี่ปุ่นขุดคุ้ยรายงานเพิ่มเติมไม่ขาดสาย
ในวันพฤหัสบดี หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุง รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า โกส์นเคยส่งอีเมลสั่งให้เคลลีแจ้งค่าตอบแทนของตนต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งมีแนวโน้มว่า อัยการโตเกียวยึดอีเมลที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ไว้แล้วและอาจใช้เป็นหลักฐานเอาผิดผู้บริหารคู่นี้
ด้านหนังสือพิมพ์โยมิอุริที่มียอดตีพิมพ์สูงสุดในญี่ปุ่น อ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อเช่นเดียวกันว่า การสอบสวนภายในของนิสสันพบว่า นับจากปี 2002 โกส์นสั่งให้บริษัทจ่ายเงินให้พี่สาวตัวเองปีละประมาณ 100,000 ดอลลาร์เป็นค่าให้คำปรึกษา ทั้งที่จริงแล้วพี่สาวของโกส์นอาศัยอยู่และบริหารอพาร์ตเมนต์หรูในเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ที่นิสสันซื้อผ่านบริษัทในเครือในต่างประเทศ ไม่ได้ทำงานให้คำปรึกษาบริษัทแต่อย่างใด
https://mgronline.com/around/detail/9610000116814https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20181123_02/