Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: city552 ที่ มกราคม 22, 2021, 17:15:17
-
สำหรับอนาคตของ D-Seg ญี่ปุ่นในไทย คือ Accord กับ Camry มีใครคิดว่า Gen นี้จะเป็น Gen สุดท้ายที่มีขายในไทยบ้างมั้ยครับ
เพราะอย่าง Honda ถ้าทำ Civic ใหญ่ขึ้นกว่า FC อีกมันก็เหมือนจะกลืนตลาด Accord ไปอีกจำนวนนึง ส่วน Toyota ถ้าไม่ทำ Corolla ให้ใหญ่ใกล้เคียง CIVIC ผมว่าก็ขายยากนะครับ ซึ่งถ้าทั้ง Civic และ Corolla มีขนาดรถที่ใหญ่ขึ้นกว่า Gen ที่ขายอยู่ มันจะทำให้ทั้ง 2 ค่ายเลือกไม่ทำตลาด D-Seg ต่อหรือไม่ครับ
เพิ่มเติมอีกข้อ คือ มีใครอยากได้ รถที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง C-Seg และ D-Seg เหมือนผมบ้างครับ คือ ไม่เกิน 1.5 ล้าน ประกอบดี เครื่องแรง ความยาวรถประมาณ 4.6-4.7เมตร Sensing ครบ
-
แนวๆ mid-sized sedan นี้ผมรอเล่นรถ BEV นำเข้าจากเมืองจีนไปเลย อย่าง Xpeng P7, BYD Han EV หรือเพิ่มงบไปเล่น Nio ET-7 ยาวห้าเมตรเลยคับ
-
ในบ้านผมมีรถ d seg jpn อยู่2 คันผมรู้สึกคันมันกำลังดีมาตั้งแต่สมัยก่อนละนะครับ ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็ก
ข้อด้านล่างของ จขกท. ก้มี civic ใหม่ครับ 4.6ปลายๆ-4.7ต้นๆ เมตรแน่นอน เครื่องแรงๆก้ 1.5t ทำต่อได้
ยาวไกล option ก้น่าจะโอเคแต่การประกอบก้แนว honda ได้ประมาณนี้ให้ความสำคัญเท่านี้ครับ
ส่วนจะมีรุ่นอื่นอีกมั้ย น่าจะยากครับเพราะ c seg jpn ในไทยก้จะมี civic altis 3 แค่3 ตัวนี้ไปยาวๆ
ส่วนเรื่องอนาคตรถ d seg ในไทย มีต่อไปครับแต่จะมีแค่ camry & accord เท่านั้นเป็นไปได้สูง
Toyota & Honda มีแขนขา supplier อยู่ในไทยมากมายครับ รถ d seg ทุกวันนี้ขายรถ fleet ตาม
บริษัททั้งชาติไทยและญี่ปุ่น 30-35% หรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วครับ ส่วนที่เหลือลูกค้าทั่วไปก้เน้นเอาไปแต่ง
กันเยอะ ตอนแรก Accord เยอะอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ camry ก้ไม่น้อย ทั้ง2 บริษัทยังไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับ
ยอดขายประมาณนี้ของรถทั้ง2 รุ่นมากมายครับ
กรณี Camry ตัวบริษัทtoyota เองก้มีต้นทุนที่หนามากๆอยู่แล้ว ไทยมี supplier toyota เยอะมากๆ
รถพวกนี้ขายรถเช่า รถfleet ต่างๆก้ได้ไม่น้อย และอีกอย่าง Acv70 มีประกอบอยู่แค่ ญี่ปุ่น,อเมริกา,จีน,รัสเซีย และไทย เราก้เป็นคนผลิตส่งประเทศแถบเราทั้งนั้น ยังไงเค้าก้จะใช้ไทยผลิตcamry ส่งในแถบนี้อีกนาน เพราะโรงงานแถบเราของ toyota อีกอันที่ใหญ่ๆก้ อินโดนีเซีย คุณภาพอะไรหลายๆอย่าง ยังตามหลังไทยครับ
กรณี Accord เช่นเดียวกันกับ Camry เกือบหมด เรื่องประกอบ G10 ก้มีแค่ อเมริกา,จีน,ไทย และมาเลเซีย
ที่ประกอบรถรุ่นนี้ ซึ่งตัวที่ขายในญี่ปุ่น ก้ประกอบจากโรงงานโรจนะ อยุธยาครับ ประเทศที่ไทยส่งAccord
ไปภูมิภาคนี้เยอะเช่นกัน ปี 2019-2020 ส่ง singapore & australia ด้วยแต่ไม่แน่ใจว่ามีเปลี่ยนไปให้มาเลเซียประกอบรึป่าว อันนี้ไม่ชัวร์ คุณภาพการประกอบรถของคนไทยยังดีกว่าประเทศแถบนี้ครับ รถระดับบนของแบรนด์แบบ toyota honda ไม่หายไปง่ายๆ
ประมาณนี้ครับ ถึงตอนนี้ที่ civic จะยาว 4.6-4.7 เมตร แต่ camry & accord ก้ยาว 4.85-4.9 กว่าๆเมตร
ขนาดมันยังต่างกันไม่น้อยครับ แค่มันน้อยกว่าเดิม ผมไม่ค่อยห่วงรถกลุ่มนี้จะหายจากไทย ได้ยินมีคนพูดกันมานานแล้ว แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นง่ายๆหรอกครับ ถ้าจะห่วงไปห่วงรถ suv หลายๆรุ่นที่จะไม่ได้รถ global model มาขายดีกว่า ต่อไปจะมีประเภท Car for Asean&south asia market only เยอะขึ้นครับ
ช่วยไม่ได้ครับ รสนิยมคนแถวนี้ทำให้บริษัทรถเห็นช่องที่จะทำแบบนี้เอง
-
D seq ก็ยังขายได้เรื่อยๆ ถึงจะไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน
กลุ่มสนามบิน หัวหน้าหน่วยงาน ยังต้องใช้เพื่อความสบาย ภาพลักษณ์อยู่ครับ
หรือคนธรรมดาก็ยังอยากได้รถกว้างๆนั่งสบายอยู่
ไม่หายไปง่ายๆแน่ แค่ยอดตกนิดหน่อยไม่ดีเหมือนเดิม
-
D segmentบางทีมันก็ไม่ได้มีองค์ประกอบแค่ขนาดอะครับ
คุณภาพวัสดุภายใน
ความสบายของเบาะนั่ง
ความสบายของช่วงล่างเวลาขับทางไกล
การเก็บเสียง
ยังไงc segmentก็ให้แบบd segmentไม่ได้
แล้วอีกอย่างก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าnew civicจะใหญ่ขึ้นทุกgen fbก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าfdด้วยซ้ำ มี fcนี่แหละโตกว่าเพื่อน
-
ตลาด fleet พวกรถประจำตำแหน่งตามองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ยังนิยม D-segment ตลอดจน รถ Taxi สนามบินครับ ดังนั้น มันไปต่อได้เรื่อยๆแหละ
เรื่องขนาด ถ้า Civic ใหญ่ขึ้น / Accord มันก็ใหญ่ขึ้นแหละ ไม่มีทางที่เค้าจะทำ Civic กับ Accord ในรุ่นปีเดียวกัน ขนาดเท่ากัน แน่นอน
อีกอย่าง Civic / Accord มันไม่ได้ต่างแค่ขนาดนะครับ อารมณ์ในการขับขี่ (การเซ็ท การปรับจูน) ตลอดจนวัสดุภายใน มันก็ต่างกันตาม class ของรถ ดังนั้น มันเลือกกลุ่มลูกค้าอยู่แล้วล่ะ
-
ผมกลับมองว่าพวก crossover ก็ดึงยอด D seg ไปเหมือนกัน
ผมเคยขับ D seg ยังย้ายมา SUV เลยครับ
-
นอกจากขนาดแล้ว ความสบาย ความหรูหรา การขับขี่มันก็ต่างกัน
ถ้าจะเน้นขับสบาย d segment ก็ยังสบายกว่าพอควรครับ
-
ความสบายมันต่างกันอยู่ดีล่ะครับ
-
อย่างยอดเดือนล่าสุด 2 ค่ายทั้งโตและฮอน ก็ขายได้เจ้าละสี่ร้อยกว่าคันทั้งๆที่รถกำลังจะมีตัวไมเนอร์เชนจ์มาแล้ว
มันก็ยังไปได้เรื่อยๆ ไม่มีเหตุผลอะไรจะยุติการทำตลาดครับ
-
ACCORD ขับดีกวา CIVIC ครับ ช่วงล่างต่างกัน ภายในห้องโดยสาร แตกต่างกัน การเก็บเสียงก็ต่างกันครับ เมืองไทย ยังขายได้ครับ
-
ส่วนหนึ่งหนีไป SUV อีกส่วนหนึ่งน่าจะขยับไปเล่นยุโรปตัว C segment ซึ่งเดี๋ยวนี้บอดี้ก็ใหญ่ขึ้นๆ
แต่น่าจะไม่หาย แต่ยอดน่าจะน้อยลงเรื่อยๆ
-
ถ้า C sedan ยังขายได้ D sedan น่าก็ยังไปได้
-
ถ้าว่ากันตั้งแต่ Gen เริ่มแรก Accord จะแข่งกับ Toyota Corona ซึ่งจัดว่าเป็น C-D Seg แต่ Accord เริ่มวิวัฒนาการเพิ่มขนาดรถ ขนาดเครื่องจนกลายเป็น D Seg ตั้งแต่ G5 ครับ ซึ่งตอนนี้ Civic FC หรือแม้แต่ Altis เองก็มีมิติใหญ่กว่า G5 ไปแล้ว ปัจจุบันแนวทางที่ Honda ทำน่าจะเพื่อลดต้นทุนมากกว่านะ ยอด D Seg ไม่ได้ดีมาก ก็ทำบนพื้นฐานช่วงล่างเดียวกันไปเลย แต่ส่วนตัวผมก็มองว่ารถกว้างสัก 1.8 ม. ยาว 4.6-4.7 ม. น่าจะยังขับได้คล่องตัวในเมือง และมีพื้นที่ห้องโดยสารที่สบายแบบลงตัวได้ครับ และถ้าลองสังเกต กลุ่มลูกค้า D Seg ส่วนใหญ่จะย้าย ไป SUV/PPV รวมทั้ง Crossover กันเยอะมาก อาจจะเพราะด้วยช่วงราคา กับไลฟ์สไตล์แบบในยุคนี้ก็ได้ครับ
-
ไม่คิดว่าจะเป็น Gen สุดท้าย คิดว่ายังขายได้เรื่อยๆ
C segment ให้ใหญ่ยังไง เรื่องความ Premium และการขับขี่ก็สู้ D segment ไม่ได้ อีกอย่างภาพจำของหลายๆคนคือรถที่มีระดับอยู่แล้ว
คนหนีจากรถยุโรป Hybrid มา D segment ญป ก็เยอะ เพราะปัญหาที่น่าปวดหัว (ของบางค่าย)
-
D-Seg ยอด ขายน่าจะน้อยลง เพราะโดน C-SUV มาแย่ง กับขยับ ขึ้นไป Compact/suv ยุโรป หรือ รถตู้ อย่าง H-1 Majesty Carnival Alphard Velfire
แต่ก็มีหลายคนที่ขยับจาก ยุโรป มาเป็น D-Seg เยอะอยู่ด้วยเหมือนกัน
คิดว่ายังไงก็ยังมีอยู่ แต่คงมีให้เหนแค่สองยี่ห้อ นี่แหละ...
-
ผมว่ามันยังน่าจะมีต่อไปครับ ยังมีตลาดและกลุ่มคนที่ชอบความสะดวกสบายใน segment นี้อยู่ ผมเองก็เป็น1ในนั้น คนที่ใช้รถในกลุ่มนี้ผมว่าน่าจะติดใจพอสมควร ถ้าไม่ข้ามไปฝั่งยุโรปหรือพวกsuv ยังไงd-segก็ถือเป็นรถที่ยังมีคุณงามความดีของมันพอสมควร ไม่หายไปง่ายๆแน่นอนครับ
-
คือถ้าตลาดอเมริกายังขายได้ D-Car บ้านเราก็คงยังมีอยู่ครับ
แต่จะโดน C-Car และ C/D-SUV เจนต่อๆไปบีบยอดไปเรื่อยๆครับ
ปล. Ford Fusion ที่เคยเป็น Top3 D-Car เจนต่อไปจะกลายเป็น Crossover แล้วนะเออ
-
ในมุมมองจากคนอายุไม่เกิน 30 ยืนยันอีกเสียงว่าขายได้ครับ เพื่อนผมก็ยังมีคนซื้อ Accord/Camry ใช้กันอยู่
เหตุผลหลักๆที่ซื้อกัน คือเรื่องของความสะดวกสบายเป็นหลัก ซึ่งไม่นับแค่ตัวเอง แต่รวมถึงให้พ่อแม่ ผู้สูงอายุโดยสารไปด้วย
พวก SUV/PPV นี่ตัดออกไปได้เลยครับ นึกภาพคนแก่อายุ 60-70 ค่อยๆปีนขึ้นก็ต้องพยุงแล้ว จังหวะลงนี่ก็ต้องคอยจับมือไว้อีก พรวดลื่นล้มทีนี่น่ากลัวมากๆ
ถ้าถามว่าทำไมไม่ซื้อพวก Compact ของยุโรป ก็ต้องกลับมาถามว่าพวก C-Class/Series 3 นี่ยุคใหม่ด้านหลัง (เอาเฉพาะด้านหลังนะครับ) มันนั่งสบายกว่า D-Seg ญี่ปุ่นรึยัง โอ่โถงกว่ารึยัง
ค่าบำรุงรักษาก็เป็นเรื่องที่น่าห่วง ถ้าไม่ใช่พวกหาเงินได้ระดับแสนกว่าบาทหรือบ้านมีเงินอยู่แล้วก็ไม่มีใครอยากซื้อรถยุโรปมาดูแลหรอกครับ ค่าใช้จ่ายในปัจจุบันมันมีเยอะด้วย
ถ้ายกแค่ดูยอด D-Seg แล้วบอกว่ามันจะอวสาน ผมก็ต้องถามว่ามันมีปัจจัยอะไรบ้างที่กระทบ?
ยอด Crossover ไปแย่ง? ก็ไม่แปลก คนเริ่มขยับออกนอกกรุงเทพฯมาขึ้นเรื่อยๆ แถมใช้รถกันสมบุกสมบันจะตายชัก นึกภาพถนนเส้นที่ยังไมเ่รียบร้อยดูสิครับ แม้แต่ C-Seg ญี่ปุ่นผมก็กลัวจะได้ช่วงล่างใหม่ไวเกิน
C-Segment ไปแย่ง? เช่นกันก็ไม่แปลก C-Seg ตอนนี้ก็แทบจะเท่าพวก CD-Seg สมัยก่อนแล้ว หรือแม้แต่ระดับพวก Compact ยุโรปสัก 20-30 ปีก่อนด้วยซ้ำ
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ตอบโจทย์อยู่ดีในแง่ความสะดวกสบาย คนในรุ่นผมถ้าจะเปลี่ยนจากที่เขาใช้ในปัจจุบัน (3 กลุ่ม B-C-Compact SUV) เขาก็มีแผนเปลี่ยนเป็น D-Seg กันโดยมาก
เหตุผลคือ เขาต้องการให้รถมันเป็นเรื่องที่จะมา Concern เขาลดลง เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น โดยที่กระเป๋าตังเขายังมีเงินเหลือไปทำอย่างอื่นบ้าง ก็แค่นั้นเอง
-
เป็นเหมือนกันทั่วโลกครับ D segment ความนิยมเริ่มลดลงเรื่อยๆ รุ่นปัจจุบันอาจลากยาวนานขึ้นอีก 2 ปี ยิ่งเจอโรคระบาดแบบนี้ด้วยอาจได้เห็นรุ่นใหม่ช้ากว่าเดิม
-
ตระกูล D-segment ต่อไปคงทำเป็นรถระดับ Luxury มากขึ้น
-
ผมว่ามันจะนิยมน้อยลง
คนซื้อ D รุ่นท๊อป มีลังเลว่าจะซื้อยุโรปรุ่นล่างดีไหม ?
-
D Seg มันก้อมีฐานลูกค้าตามอายุเหมือนกันครับ
อย่างที่บ้านผม ใช้ D Seg มาตลอด แต่ตอนนี้ลูกโตขึ้นมาก + ต้องพาอากงอาม่าไปด้วย ทีนี้เวลาไปทั้งครอบครัว D Seg ไม่พอนั่งแล้ว
แต่ก้อจะมีกลุ่มคนอื่นที่ต้องใช้รถที่ใหญ่กว่า Civic Corolla เช่นพวกที่ลูกเพิ่งคลอด ต้องการรถกว้างๆใส่คาร์ซีทได้สบายๆ
สรุป น่าจะยังขายได้ แต่น้อยลงเรื่อยๆครับ
-
Honda ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้วครับ แบบ strategy เพื่อ move brand up market
Honda จะแตกต่างกว่าคนอื่นนิดๆที่ว่ารถที่ติดโลโก้ Honda จะไม่มีอะไรใหญ่กว่า Accord (นอกจาก Legend ซึ่งเป็นแค่ Acura ติดโลโก้ Honda เพื่อขายในบางตลาด)
ค่ายอื่นอย่าง Toyota จะมาขยายตัว Camry สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เพราะเค้ามี Avalon อยู่แล้ว คนในบริษัทและตลาดจะมองว่าขยายตัว Camry ไปทำไมในเมื่อก็มี Avalon แล้ว ในทางเดียวกันกับการมองว่าไม่จำเป็นต้องขยาย Corolla เพราะมี Camry อยู่แล้ว
Honda เอาเปรียบตรงนี้ได้ด้วยการขยายทั้ง Line-up ไปแม่งเลยจนถึงทุกวันนี้ขนาดห้องโดยสาร Accord ก็ใหญ่พอพอกับ E-segment เกือบทุกค่าย
อันนี้ผมเล่าเพื่อบอกจขกท.ว่ามันไม่มีทางที่ Civic จะขยายแล้ว Accord ไม่ขยาย Genใหม่มาอีกไม่นาน Accord ก็ต้องขยายตามไปด้วยและไม่มีอะไรหยุดมันได้เพราะ Accord คือ flag-ship sedan ของ Honda (ไม่นับ RLX)
-
ถ้า benz และ bmw ยังทำ entry level ได้ต่ำกว่า 2m อยู่บ่อยๆ ผมว่า d seg อาจจะกระเทือนในระยะยาวนะครับ
จริงอยู่ที่มันคนละกลุ่มเป้าหมาย การใช้งานที่ต่างกัน
แต่มันก็ทำ d seg ขยับราคาขึ้นได้ยาก และทำให้ดีกว่า c seg ที่ต้องทำให้ดีกว่าเดิมตลอดได้ยากเช่นกัน
ก็แอบเหนื่อยแทน
-
ถ้า benz และ bmw ยังทำ entry level ได้ต่ำกว่า 2m อยู่บ่อยๆ ผมว่า d seg อาจจะกระเทือนในระยะยาวนะครับ
จริงอยู่ที่มันคนละกลุ่มเป้าหมาย การใช้งานที่ต่างกัน
แต่มันก็ทำ d seg ขยับราคาขึ้นได้ยาก และทำให้ดีกว่า c seg ที่ต้องทำให้ดีกว่าเดิมตลอดได้ยากเช่นกัน
ก็แอบเหนื่อยแทน
ผมกลับคิดอีกแบบนะ ผมเชื่อว่าปัจจุบันค่ายรถยุ่นขาย D-Seg โดยที่กำไรต่อคันค่อนข้างมาก
เค้าสามารถแข่งขันในตลาดนี้โดยการอัดอ๊อปชั่นเต็มพิกัดโดยที่ยังขายราคาเดิมได้
กำไรต่อคันอาจลดลงไปแต่ไปได้จำนวนแทน เพราะค่ายยุโรปเค้าก็ไม่ยอมขายถูกลงกว่านี้เช่นกันทั้งๆที่ตามจริงมันควรถูกกว่านี้อีก
-
ยังไงก็ไม่หายครับ มันเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น เจ้าของกิจการ รถประจำตำแหน่ง ลิมูซีน รถครอบครัว เพียงแค่ยอดไม่เยอะเหมือนสมัยก่อน
-
ไม่หายหรอกครับ แต่อาจน้อยลง หรืออยู่ทรงๆ D-seg ยุ่น มันมีความต้องการอยู่เสมอ คนเราไม่ได้รวยกันหมด ส่วนน้อยครับที่มีตังค์ไปรถยุโรปตัวล่างๆ พวกนั้นคือมองภาพลักษณ์มากกว่าการใช้งาน ซึ่งมีไม่เยอะ
คนที่เงินเดือนระดับเกือบแสน หรือแสนต้น ถ้าไม่นับเด็กเจนใหม่ที่เก่งๆ ส่วนใหญ่ก็อายุ 30 ปลาย 40 ต้น ซึ่งก็มีครอบครัว มีลูกแล้วแน่นอน ความต้องการรถที่มใหญ่ขึ้น ขับสบายขึ้น ให้ความสบายกับคนนั่ง กว้างขวาง ยังไง D-seg ยุ่นก็ตอบโจทย์ ตัวที่จะมาแย่ง ผมมองไปทาง SUV มากกว่า แต่ยังไง SUV ก็ให้ความสุนทรีในการขับ ความสนุกในการขับ สู้ D-sedan ไม่ได้ครับ
นี่ยังไม่นับยอดขายทั่วโลก ที่ D-seg ถือเป็นรถขนาดกลางในเมกา ยุโรปด้วยซ้ำ ยังไงก็ขายได้เรื่อยๆครับ
-
ผมว่าถ้ารถ ev หรือกึ่ง ev ยังไปต่อได้เรื่อยๆ รถ D Segment อาจจะไปได้เรื่อยๆ เหมือนกัน
เพราะการกินพลังงานจะไม่ใช่ปัญหา แต่อาจจะเป็นราคาขายมากกว่า การใช้งานคนถ้าเคยใช้นะ กลับไปขับรถเล็กยากครับ ยกเว้นอายุมาก ขับรถใหญ่แล้วลำบาก
ผมว่ายังไปได้อยู่ครับ เผลอๆถ้าเศรษฐกิจวนลูปกลับมาพอได้ มันก้อจะกระเตื้องขึ้นมาอีกก็เป็นได้
-
มันคงไปเรื่อยๆของมันแบบนี้แหละครับ ไม่โต หรือ ไม่ตก ไปมากกว่านี้
-
ไม่เคยคิดว่า C-Seg จะมาแทน D-Seg ได้
และ ไม่เคยคิดว่า D-Seg จะหายไปจากประเทศไทย เพราะ C-Seg
แต่คนที่มาแย่งยอดขาย หรือ มาแข่ง ไม่ใช่ C-Seg นะซิ มันเป็น C-SUV-Mid-SUV ต่างหาก (จะเรียก PPV ก็แล้วแต่นะ ผมเรียกแต่ SUV)
-
ในอนาคตถ้าผมมีครอบครัว และมีความพร้อมที่มากขึ้นจากปัจจุบัน ผมเลือก D-Segment ญี่ปุ่น แน่นอนครับ
ส่วนตัวต้องการรถที่มีขนาดกว้างกว่า C-Segment เพื่อให้ครอบครัวนั่งได้สบาย และปกติผมขับแต่ในกรุงเทพฯเป็นหลัก
-
ส่วนตัวผมก็ชอบ d segment นะ มันหรูดี แต่พอจะซื้อรู้สึกมันสิ้นเปลืองไปหน่อย นั่งได้อย่างเดียว เจอฝาท่อก็ต้องหยอด น้ำท่วมก็ต้องจอดหรือขับอ้อม ออกตจว เจอทำถนนก็ค่อยๆ ไป สุดท้ายไปจบที่ ppv รู้สึกคุ้มค่ากว่าที่ราคาเท่ากัน
-
ถ้า benz และ bmw ยังทำ entry level ได้ต่ำกว่า 2m อยู่บ่อยๆ ผมว่า d seg อาจจะกระเทือนในระยะยาวนะครับ
จริงอยู่ที่มันคนละกลุ่มเป้าหมาย การใช้งานที่ต่างกัน
แต่มันก็ทำ d seg ขยับราคาขึ้นได้ยาก และทำให้ดีกว่า c seg ที่ต้องทำให้ดีกว่าเดิมตลอดได้ยากเช่นกัน
ก็แอบเหนื่อยแทน
ถ้า Benz BMW Audi จำหน่ายรถยนต์ Entry Level ในราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทละ รถ D-Seg อย่าง Camry Accord ดับสนิท